ซาตานจำแลง
‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ
‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก
ตอน: แผนเริ่มถูกระแคะระคายแล้ว
“ข้าวผัดปูกับกระดูกหมูตุ๋นยาจีนร้อน ๆ ตามต้องการ อีกหน่อยจะมีผลไม้อร่อย ๆ สมนาคุณให้ แต่ตอนนี้กินไปก่อน” เจ้าของร้านยกมาให้ด้วยตัวเอง เพราะกำลังว่างอยู่พอดี พิมมาดามองกวาดไปรอบ ๆ ร้านของเพื่อนแล้วจึงหันมายิ้มให้
“ยอดขายเป็นไงบ้างขวัญ” อาหารคำแรกยังไม่เข้าปากด้วยซ้ำ
“ก็พอได้อยู่นะ ร้านเราไม่น่าห่วงเท่าไหร่หรอก มีลูกค้าประจำเยอะ แต่ร้านที่เพิ่งจะมาเปิดนี่สิ เอ้อ! เราสงสัยจังเลยว่าแผนการตลาดของเนยจะรั่วไปหาทางโน้นได้ยังไงกัน ไม่แน่นะยายแม่ใจยักษ์ของเนยอาจจะพูดถูกเรื่องไส้ศึกก็ได้ สงสัยใครเป็นพิเศษหรือเปล่า ตอนนี้ต้องระวัง ๆ หน่อยแล้วล่ะ” เพื่อนเท่านั้นที่พิมมาดาสามารถนำทุกข์ทั้งหมดเอามาถ่ายเทออกได้
“เฮ้อ! ไม่รู้เหมือนกัน ตอนแรกก็ไม่ได้คิดนะ แต่พอขวัญเห็นด้วยกับคุณแม่ เราชักจะคิดแล้วล่ะ แต่ยังมองไม่ออกว่าจะมีใครที่มาคอยล้วงความลับ ลูกน้องเนยก็ทำงานกันมาด้วยกันนานแล้วนะ ไม่น่าจะมีใครคิดไม่ซื่อ แต่ละคนก็ต่างช่วยกันสุดกำลังเพื่อจะให้ยอดขายกลับมาเหมือนเมื่อก่อน”
“อืม! อันนี้ก็จริงอยู่นะ มอง ๆ แล้วขวัญก็ไม่เห็นจะมีใครน่าสงสัยเลย แต่ของอย่างนี้เราก็วางใจหมดไม่ได้นะเนย ลองสังเกตดูดี ๆ ก็แล้วกัน คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ดูอย่างคนก่อนสิที่โกงเงินไปน่ะ ทำตัวดีมาตลอดไม่ใช่เหรอ ยังทำกับเราได้ แถมเนยก็ดันเอาเงินไปให้มันลงทุนอีก แม่นักบุญ” อดประชดไม่ได้ เพราะขวัญข้าวไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับวิธีเพื่อนนัก
“ก็สงสารเขานะขวัญต้องเลี้ยงคนเยอะ อีกอย่างหนึ่ง การที่เราช่วยเขาแบบนี้ก็เป็นเรื่องดีกับห้างนะ ลองคิดดูสิ ถ้าเกิดเราไม่ดูดำดูดีเขา เกิดวันหนึ่งเขาไปสมัครงานที่ห้างคู่แข่งขึ้นมา แล้วเอาความลับเราไปบอกทางโน้นหมด มันจะแย่ไปยิ่งกว่านี้นะ”
“อืม! ก็ถูกของเนยนะ เอ้า! ผลไม้มาแล้ว นี่พิเศษสำหรับเจ้าของห้างเลยนะ ส้มแมนดาริน แม่หอบมาฝากจากจีนเลยล่ะ”
แม้จะดีใจกับการที่เพื่อนคอยเอาใจใส่อยู่บ้าง แต่ว่า ‘เจ้าของห้าง’ก็สะกิดใจพิมมาดาอย่างบอกไม่ถูก ด้วยไม่เคยคิดว่าตำแหน่งนี้จะตกมาถึงตัวเอง เพราะน้องสาวกับน้องชายซึ่งเป็นลูกแท้ ๆ ของสไบแพรยังอยู่กันครบ มีหรือผู้เป็นแม่เลี้ยงจะยอมปล่อยให้หลุดมาถึงได้
ไม่ต้องถึงขั้นตำแหน่งเจ้าของห้างแต่อย่างใดเลย เพียงแค่หุ้นบางส่วนก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้ ทุกวันนี้ก็ทำงานเหมือนลูกจ้างแค่นั้น คือได้แต่เงินเดือนกับฉากลูกเจ้าของห้างเอาไว้บังหน้า ซึ่งใครหลายต่อหลายคนคงจะพากันอิจฉาอยู่บ้าง แต่ไม่มีใครได้ล่วงรู้ความจริงเลยว่าแท้จริงแล้ว เธอไม่ได้มีสุขสักนิดนับตั้งแต่พ่อแต่งงานกับสไบแพรและย้ายมาอยู่บ้านหลังจากแม่ตายได้ไม่ถึงสองเดือนด้วยซ้ำ
และหนึ่งในอีกหลาย ๆ คนที่คิดว่าเธอสุขสบายนั่นก็คือ คนที่เพิ่งจะเดินออกจากห้องสุนทรีย์หลังคุยธุระเสร็จได้สักพัก หกโมงเย็นแล้ว เมื่อเขามองไปยังห้องทำงานของแม่สาวเย่อหยิ่ง พบว่ายังอยู่กันครบทั้งทีม ไม่ต้องเดาก็พอรู้ว่ากำลังประชุมเครียดเรื่องรับมือกับเขาเป็นแน่ อดสมเพชลูกศัตรูไม่ได้ ที่ไม่รู้ตัวว่าเล่นกับของสูงอย่างเขา ต่อให้งัดไม้ไหนมาสู้ก็แพ้เห็น ๆ ที่ยังอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะเขายังสนุกกับการไล่ต้อนให้จนมุมต่างหาก
แต่ถ้าหมดสนุกเมื่อไหร่ เพียงไม่กี่วันเขาก็สามารถเดินเข้ามาเป็นเจ้าของห้างนี้ได้อย่างสบาย ๆ แล้ว เพราะเงินมันมีอำนาจเหนือทุกอย่างจริง ๆ เขาลงไปซื้อข้าวของด้านล่างโดยใช้เวลาไม่นานนัก จัดการเขียนข้อความหวาน ๆ ไว้บนกล่องแล้วนำไปวางบนโต๊ะทำงานลลิตา ก่อนจะรีบออกจากออฟฟิศ เพราะนัดกับสามารถเอาไว้ ไม่นานนักเขาก็กลับถึงบ้าน การอาบน้ำไล่ความเมื่อยล้าคือสิ่งแรกที่เขาทำ ออกมาก็พบว่าลูกน้องหอบหิ้วเอกสารมากองรอที่โต๊ะทำงานเรียบร้อยแล้ว เอี้ยงก็จัดอาหารไว้รอแล้ว สองหนุ่มจึงไม่รีรอแต่อย่างใด เพราะมีความหินเรียกร้องเรื่องงานจึงถูกถามไถ่ไปพร้อมมื้ออาหาร
“คนเต็มซุปเปอร์เลยครับคุณแพท ว่าแต่เราจะทำแบบนี้ไปอีกนานมั้ยครับ ได้กำไรน้อยผมกลัวมันจะไม่คุ้ม” สามารถตอบคำถามและถามกลับด้วยความกังวลไม่น้อยที่เห็นเจ้านายใช้แผนนี้ตีกลับอีกฝ่าย
“นายก็ไปบล็อคกับพวกซัพพลายเออร์เราสิ ได้กำไรมาจากคนกินเยอะแล้ว ก็ต้องถึงเวลาคืนบ้าง กำลังซื้อเราเยอะรับรองว่าพวกนั้นต้องยอมไปตาม ๆ กัน หรือถ้าไม่ยอมก็หาเจ้าอื่นสิ” ตอบเหมือนได้ไตร่ตรองมานานแล้ว ว่าตัวเองไม่ได้กระทบอะไรมากมายนัก นอกจากกำไรจะลดน้อยลงหรืออย่างมากก็เสมอตัว คนเป็นลูกน้องได้แต่นิ่งฟัง แต่คนเป็นหัวหน้ารู้ดีว่าว่าลูกน้องกังวล
“อย่ากลัวเรื่องนี้หน่อยเลยน่า ฉันเอาอยู่ ว่าแต่แผนที่ให้คิดไว้เป็นยังไงบ้างว่ามาให้หมด” เรื่องการกินจบสิ้นลงไปแล้ว แต่เรื่องงานเหมือนเพิ่งจะเริ่มต้น สองคนจึงใช้เวลาคุยกันจนดึกดื่นกว่าจะจบ แล้วมือถือเบอร์ที่ใช้กับที่ทำงานศัตรูดังขึ้น
“คุณแพทเหรอคะ ตาเอง ขอบคุณค่ะสำหรับมื้อเย็น รู้ใจตาอีกแล้วนะคะ” เพราะเขาจัดหาสลัดราคาแพง ๆ ไปวางไว้บนโต๊ะให้ พร้อมกับเขียนข้อความที่ว่า
‘อย่าทำงานหนักมากนะครับคนสวย กลับถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วยนะครับผมเป็นห่วง’
“เข้าบ้านหรือยังครับคุณตา ผมกำลังรอว่าอีกห้านาทีถ้าคุณตาไม่โทรมา ผมจะโทรไปหาเองเลย” ยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าเขาคนปลายสายไม่มีทางรู้ ว่ากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือเท่านั้น หาได้มีความสำคัญถึงเขาเลยสักนิด
“ค่ะ อาบน้ำเสร็จแล้วด้วย พอดีจะกินสลัดเลยโทรมาหาคุณแพทก่อน ประชุมเครียดจนเหนื่อยเลยค่ะ พักนี้มีแต่เรื่องกลุ้ม ๆ คุณเนยก็เครียดเลยพลอยทำให้เราคนเป็นลูกน้องเครียดไปตาม ๆ กันอีกค่ะ”
“คุณตากินข้าวแล้วนอนพักผ่อนดีกว่านะครับ พรุ่งนี้เราค่อยคุยกันแต่เช้า ผมจะเตรียมอาหารไปให้นะครับ ไม่ต้องกินอะไรมาจากบ้าน รับรองว่าถูกใจแน่นอน ฝันดีนะครับคนสวย”
เขาแทบไม่จำเป็นจะต้องถามไถ่อะไรจากปากแม่เลขาฯ ด้วยซ้ำ เพราะทุกคำจะค่อย ๆ หลั่งไหลออกมาเอง เพียงแค่เขาคอยเอาใจใส่หาโน่นหานี่ให้แม่คุณเท่านั้น เพราะธรรมชาติของผู้หญิงย่อมต้องการระบายความอัดอั้นตันใจเกี่ยวกับงานให้คนรอบตัวฟังเสมอ ๆ สามารถยิ้มอย่างรู้ทันเมื่อเจ้านายหันไปหา
“ไม่นานแผนการตลาดใหม่จะมาถึงมือเรา แล้วจะส่งข่าวให้รู้ทันทีนะ กลับบ้านเถอะดึกมากแล้ว”
“ครับคุณแพท” สามารถรับคำแล้วรีบกลับออกไป เพราะตัวเองก็เหนื่อยเอาการ เอี้ยงได้ยินเสียงรถแล่นออกไป จึงเดินมาดูเจ้านายหนุ่มหลังจากหลับไปได้ตื่นหนึ่งแล้ว
“คุณภาพยังไม่นอนอีกเหรอคะ ป้าบอกว่าอย่าทำงานหนักมากไป”
“กำลังง่วงพอดี งั้นผมไปนอนเลยแล้วกันครับป้าเอี้ยง” เขาจำต้องเลี่ยงเพราะไม่อยากได้ยินคนแก่บ่น แม้จะหวังดีกับเขาก็ตามที แต่ในบางครั้งก็อดรำคาญไม่ได้จนต้องหนีด้วยวิธีแบบนี้
“อ้อ! เกือบลืม พรุ่งนี้ช่วยจัดอาหารเช้าใส่กล่องให้ผมสองกล่องนะครับป้า ขอแต่เช้าเลยผมจะรีบไปทำงาน” ไม่ได้สนใจว่าอีกคนจะถามอะไรต่อมิอะไร จึงรีบเดินเข้าห้องนอนตัวเองทันที อาบน้ำอีกรอบได้เขาฟุบหลับกับเตียงด้วยความอ่อนเพลีย
บ้างหลังใหญ่บ่งบอกฐานะเจ้าของได้เป็นอย่างดีว่ามีการเงินมั่นคงแค่ไหน แต่ในยามดึกสงัดแบบนี้มันกลับสร้างความอ้างว้างให้ผู้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านที่กำลังยืนกอดอกอยู่ริมสระน้ำเหลือจะทน เสื้อคลุมเนื้อบางถูกผูกเชือกให้กระชับเข้าอีก เพราะลมพัดผ่านมาสร้างความเหน็บหนาวให้ไม่น้อย อาการเดินวกไปวนมาเกิดขึ้นนับตั้งแต่พาลูกชายคนเดียวเข้านอนไปแล้ว
ดวงดาวอดคิดถึงวันคืนเก่า ๆ ไม่ได้ วันคืนที่อยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูก ดูช่างมีความสุขจนผู้คนรอบข้างต่างออกปากบอกอิจฉาไปตาม ๆ กัน แต่กาลเวลาย่อมเปลี่ยนคนได้เสมอ ๆ ห้าปีหลังแต่งงานและกำเนิดทายาทให้ไพโรจน์ผู้เป็นสามี จากผู้ชายที่แสนดีรักลูกรักเมียก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งวันนี้ลูกชายอายุจะเก้าขวบแล้ว เขาแทบจะกลายเป็นคนละคนเลยทีเดียว สองอาทิตย์เต็ม ๆ เขาไม่ยอมกลับมานอนบ้าน ไม่เคยมาดูดำดูดีลูกเมียเลยนอกจากมีเงินให้ใช้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเท่านั้น
แต่หัวอกเมียย่อมต้องการความเอาใจใส่จากผู้เป็นสามีอยู่เนืองนิตย์ และดูเหมือนความต้องการนี้จะไม่มีทางได้รับการเติมเต็มอีกแล้ว ดวงดาวถอนหายใจน้อย ๆ ด้วยพยายามจะสงบสติอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นให้กลับมาเย็นลง เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่พอจะทำได้ แต่บางครั้งมันก็ไม่ใคร่จะได้ผลนัก เช่นในเวลานี้ ประตูอัลลอยของบ้านค่อย ๆ เปิดออกด้วยรีโมทจากคนภายนอก พร้อมกับรถผู้เป็นสามีแล่นเข้ามาจอด อาการเมามายเดินโซเซออกมาโดยมีเด็กสาวคอยประคองเข้าบ้านเป็นเชื้อไฟอย่างดีให้คนเป็นเมียนั่งนับนาทีรอคอย
‘คุณไพโรจน์ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเอาพวกอีต่ำ ๆ พวกนี้ตัวเข้ามานอนกกในบ้าน ให้เกียรติฉันบ้างสิ ลูกนอนอยู่ข้างบนนั่นคุณจะทำร้ายจิตใจลูกไปถึงไหนกัน อย่าให้ความอดทนของฉันต้องหมดไปก่อนเวลาอันควรนะ’
‘ทำไมล่ะ ไม่พอใจก็ไปหาผัวใหม่สิ อยากรู้นักว่าเธอจะหาใครได้ดี ๆ อย่างฉันอีกมั้ย เงินมีให้ใช้ บ้านมีให้อยู่ จะเอาอะไรอีก’ คนเมายังคงมีสติมากพอจะต่อปากต่อคำกับเมีย ดวงดาวแทบจะหมดความอดทนลงตรงนั้น เมื่อทุกครั้งผู้เป็นสามีมักจะอ้างเรื่องนี้ขึ้นมา
‘อีกหน่อยไอ้ที่มี ๆ มันก็คงจะหมดไปเพราะผู้หญิงพวกนี้ของคุณนั่นล่ะ ยิ่งวัน ๆ คุณมัวแต่หลงเรื่องพวกนี้ แทบไม่เคยโผล่หน้าไปทำงานเลย คุณคิดเหรอว่าจะมีใครหน้าไหนมานั่งทำงานให้คุณอย่างซื่อสัตย์ ถ้าฉันเป็นลูกน้องคุณนะ ป่านนี้ฉันจะโกงเงินไปจนคุณเหลือแต่ตัวแล้ว เพราะมีเจ้านายหน้าหม้อ วัน ๆ มั่วแต่เรื่องกาม’
‘ปากดีนักนะ กล้าด่าผัวได้ขนาดนี้เลยเหรอ’
‘เพี๊ยะ’
มือหนาฟาดลงไปหาแก้มเมียอย่างแรง ดวงดาวแทบตั้งสติไม่อยู่ เพราะไม่ว่าจะทะเลาะกันกี่ครั้งกี่หน แต่ผู้เป็นสามีก็ไม่เคยลงไม้ลงมือเลยสักครั้ง ส่วนอีกคนหาได้รู้สึกผิดกับการกระทำไม่ ยังชี้หน้าด่าเมียอย่างไม่ใยดี เด็กสาวที่ไพโรจน์หิ้วมาด้วยก็เกิดอาการกลัวไปด้วย รีบวิ่งไปหลบอยู่ห่าง ๆ
‘จำไว้นะ! ว่าผัวคือผู้มีพระคุณที่เมียอย่างเธอจะต้องให้ความเคารพยำเกรง ไม่ใช่มายืนด่าฉอด ๆ แบบนี้ เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงเบื่อเธอ วัน ๆ ไม่คิดจะทำอะไรนอกจากนั่งจับผิดผัว แล้วก็ผลาญเงินไปกับเครื่องสำอางค์เครื่องแต่งตัว เดือน ๆ เคยนั่งนับมั้ยว่าใช้ไปกี่แสนต่อกี่แสน ยังจะมีหน้ามายืนด่าผัวอีกเหรอ’
‘คุณกล้าทำกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ’ ดวงดาวเอามือลูบหน้าเพราะรู้สึกเจ็บและชาไปทั้งแถบ แต่ที่เจ็บมากกว่านั่นคือใจ
‘ฉันจะทำมากกว่านี้ ถ้าเธอยังไม่หยุดอวดดี ถ้าไม่พอใจที่มีผัวอย่างฉัน เธอจะไปหาที่ไหนก็ไป มีผู้ชายหน้าไหนให้เธอได้เท่าฉัน อยากอดตายก็ไปเลย ออกไปให้พ้นจากบ้านฉัน ไม่อย่างนั้นก็เปลี่ยนตัวเองใหม่อย่ามาทำตัวเหมือนเป็นแม่ฉันแบบนี้ แม่ฉันตายไปนานแล้ว และฉันไม่อยากมีแม่อีกคน จำไว้’ ชี้หน้าด่าอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น
‘ได้! คุณกล้าทำกับฉันขนาดนี้ อย่าคิดว่าฉันจะไม่มีทางไป จำไว้นะ ถ้าคุณยังทำตัวอยู่แบบนี้ ฉันรับรองว่าอีกไม่นานเงินที่คุณมีมันก็จะหมดไป อีกหน่อยคุณก็จะเหลือแต่ตัวเท่านั้นจำคำฉันไว้’
‘เพี๊ยะ’
แก้มขาวถูกฟาดรอบสอง น้ำตาของลูกผู้หญิงไหลพรั่งพรูออกมาอย่างไม่คิดจะอายใครเลย เด็กชายสหภาพที่เดินลงมานั่งขดตัวอยู่บันได โดยมีเอี้ยงนั่งปลอบใจอยู่ใกล้ ๆ มองพ่อกับแม่ทะเลาะกันด้วยความสับสน
‘ฉันบอกแล้วว่าอย่ามาด่าฉัน หุบปากแล้วก็ไสหัวไปให้พ้น ๆ หน้าฉัน’
‘คุณจำสิ่งที่คุณทำกันฉันไว้ให้ดี สักวันผลกรรมมันจะตามสนองคุณ เชิญคุณอยู่กับกองเงินกองทองของคุณไปตามสบายเถอะ ไม่มีผัวเฮงซวยอย่างคุณสักคน ฉันก็คงไม่อดตายหรอก’ จบคำดวงดาวก็วิ่งขึ้นด้านบน โดยไม่ได้สนใจจะก้มมองลูกแต่อย่างใด ไม่กี่นาทีต่อมา กระเป๋าใบเขื่องตามติดลงมาด้วย
‘แม่จะไปไหนครับ แม่จะทิ้งพ่อกับภาพเหรอครับ’ เด็กชายร้องเรียกแม่ที่เดินผ่านลงไปแล้ว ดวงดาวคิดขึ้นได้ว่าลืมลูกจึงรีบหันมาหาทันที
‘ภาพลูกแม่มาหาแม่สิลูก เราไปตายเอาดาบหน้ากันดีกว่านะลูกนะ’ หัวอกแม่ย่อมไม่ยอมจะทิ้งลูก แต่คนเป็นพ่อก็ไม่ยอมเช่นกัน เพราะมีลูกชายเพียงคนเดียวที่หวังจะให้สืบสกุลต่อไป
‘ถ้าเธอจะไปก็ไปคนเดียว อย่าเอาลูกของฉันไปลำบากด้วย เธอจะไปกินแกลบที่ไหนกับชายชู้หรือผัวใหม่คนไหนก็ได้ ภาพมาหาพ่อ อย่าไปใส่ใจกับแม่ชั่ว ๆ อย่างนั้น มาอยู่กับพ่อนี่เร็ว’ ไม่พูดเปล่าเขายังตรงไปดึงแขนลูกที่ตอนนี้กำลังสับสนว่าจะไปทางไหน
‘ถ้าเธอรักลูกและอยากให้ลูกมีอนาคตอย่าเอาลูกไปตกระกำลำบาก เธอจะไปทำชั่วที่ไหนก็ไปคนเดียว เอี้ยง ๆ ๆ พาคุณภาพไปนอนได้แล้ว เอี้ยง ๆ ๆ’ ไพโรจน์ร้องเรียกจนเอี้ยงซึ่งไม่อยากโผล่หน้ามาใกล้จำต้องตรงไปหาคุณภาพที่เอาแต่ร้องไห้
‘แม่อย่าไปเลยนะครับ อยู่กับภาพกับพ่อนะครับ’
‘เอี้ยงเอาคุณภาพไปนอนได้แล้ว อย่ามัวชักช้า ไป ๆ ๆ’
‘คุณภาพของป้า เราขึ้นด้านบนเถอะค่ะ คุณแม่ท่านไม่ไปไหนหรอกค่ะ อีกหน่อยท่านก็กลับมา นะคะคนดีมากับป้าค่ะ’
หัวอกแม่ที่รักลูกปานดวงใจจำต้องยอมให้เอี้ยงพาลูกไปจากอก ด้วยไม่รู้ว่าชีวิตของตัวเองที่ตัดสินใจจะก้าวออกจากรั้วบ้านผู้เป็นสามีแล้วจะเป็นไปทางไหน จะดีหรือร้ายก็ไม่อาจคาดเดาได้ จึงมองเห็นความสะดวกสบายของลูกเป็นที่ตั้ง แล้วเดินจากไปเพียงแต่ตัวกับกระเป๋าใบเดียว
‘ใครก็ได้ไปปิดบ้านแล้วล็อคประตูให้แน่นหนานะ ใครมันเดินออกไปแล้วอย่าได้ริกลับเข้ามาอีก บ้านนี้ไม่ต้อนรับคนอวดดี จะไปตายห่าที่ไหนก็เชิญ ชีวิตกูจะได้สบายซักที น้องขึ้นไปด้านบนกับพี่ได้แล้ว คืนนี้เอาใจพี่ดี ๆ นะ พี่จะมีรางวัลให้อย่างงาม’ จบคำไพโรจน์ก็หันไปดึงแขนเด็กสาวที่ยืนทื่ออยู่เป็นนาน
‘ป้าเอี้ยงครับ แม่จะไปไหนครับ ทำไมแม่กับพ่อทะเลาะกันแบบนั้น’ ไม่ทันที่เอี้ยงจะได้ปลอบขวัญเด็กน้อย ประตูห้องก็เปิดพรวดเข้ามา ไพโรจน์ตรงไปหาลูกชายคนเดียวเพราะห่วงความรู้สึกลูกขึ้นมาทันใด
‘พ่อครับ ทำไมแม่ทิ้งเราไปครับ ทำไมแม่ไม่อยู่กับเราครับ’ สหภาพลุกขึ้นไปกอดพ่อซึ่งนั่งลงบนเตียงใกล้ ๆ เอี้ยงแล้วร้องไห้ออกมาดัง ๆ
‘ภาพรักพ่อหรือเปล่าลูก’ ‘รักครับ’
‘ถ้าภาพรักพ่อก็อย่าไปคิดถึงแม่ ภาพอยู่กับพ่อรับรองชีวิตภาพจะไม่ลำบาก พ่อจะให้ทุกอย่างที่ภาพอยากได้ จำไว้นะลูกพ่อรักลูก’ เพราะเด็กน้อยรักและศรัทธาในตัวพ่อมาก ด้วยเป็นผู้ชายเหมือน ๆ กัน และไพโรจน์มักจะสอนให้ลูกเป็นคนเข้มแข็ง จึงมีความผูกพันธ์กับพ่อมากกว่าแม่นัก
‘ภาพก็รักพ่อครับ’
‘งั้นเราจะอยู่กันสองคน ไม่มีแม่อีกต่อไปตกลงมั้ยลูก พ่อจะรักและให้ทุกอย่างกับลูกพ่อเอง พ่อรักลูกนะ ภาพจำคำพ่อไว้ให้ดี ๆ ว่าพ่อรักลูก’
‘จำคำพ่อไว้นะลูก ว่าพ่อรักลูก พ่อรักลูก ๆ ๆ ๆ ๆ’
‘ภาพต้องแก้แค้นแทนพ่อด้วยลูก เอาทุกอย่างที่พ่อทำไว้กลับมาให้ได้ ภาพต้องทำแทนพ่อแล้ว ต้องแก้แค้นแทนพ่อแล้ว ภาพอย่ายอมให้ไอ้คนชั่ว ที่มันรวมหัวกันทำให้พ่อตายได้มีความสุขนะลูก จำคำพ่อไว้ พ่อรักภาพ ภาพต้องแก้แค้นแทนพ่อนะลูก จำไว้ ต้องจำไว้ แก้แค้นแทนพ่อนะภาพ ต้องแก้แค้น’
“ยอดขายเป็นไงบ้างขวัญ” อาหารคำแรกยังไม่เข้าปากด้วยซ้ำ
“ก็พอได้อยู่นะ ร้านเราไม่น่าห่วงเท่าไหร่หรอก มีลูกค้าประจำเยอะ แต่ร้านที่เพิ่งจะมาเปิดนี่สิ เอ้อ! เราสงสัยจังเลยว่าแผนการตลาดของเนยจะรั่วไปหาทางโน้นได้ยังไงกัน ไม่แน่นะยายแม่ใจยักษ์ของเนยอาจจะพูดถูกเรื่องไส้ศึกก็ได้ สงสัยใครเป็นพิเศษหรือเปล่า ตอนนี้ต้องระวัง ๆ หน่อยแล้วล่ะ” เพื่อนเท่านั้นที่พิมมาดาสามารถนำทุกข์ทั้งหมดเอามาถ่ายเทออกได้
“เฮ้อ! ไม่รู้เหมือนกัน ตอนแรกก็ไม่ได้คิดนะ แต่พอขวัญเห็นด้วยกับคุณแม่ เราชักจะคิดแล้วล่ะ แต่ยังมองไม่ออกว่าจะมีใครที่มาคอยล้วงความลับ ลูกน้องเนยก็ทำงานกันมาด้วยกันนานแล้วนะ ไม่น่าจะมีใครคิดไม่ซื่อ แต่ละคนก็ต่างช่วยกันสุดกำลังเพื่อจะให้ยอดขายกลับมาเหมือนเมื่อก่อน”
“อืม! อันนี้ก็จริงอยู่นะ มอง ๆ แล้วขวัญก็ไม่เห็นจะมีใครน่าสงสัยเลย แต่ของอย่างนี้เราก็วางใจหมดไม่ได้นะเนย ลองสังเกตดูดี ๆ ก็แล้วกัน คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ดูอย่างคนก่อนสิที่โกงเงินไปน่ะ ทำตัวดีมาตลอดไม่ใช่เหรอ ยังทำกับเราได้ แถมเนยก็ดันเอาเงินไปให้มันลงทุนอีก แม่นักบุญ” อดประชดไม่ได้ เพราะขวัญข้าวไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับวิธีเพื่อนนัก
“ก็สงสารเขานะขวัญต้องเลี้ยงคนเยอะ อีกอย่างหนึ่ง การที่เราช่วยเขาแบบนี้ก็เป็นเรื่องดีกับห้างนะ ลองคิดดูสิ ถ้าเกิดเราไม่ดูดำดูดีเขา เกิดวันหนึ่งเขาไปสมัครงานที่ห้างคู่แข่งขึ้นมา แล้วเอาความลับเราไปบอกทางโน้นหมด มันจะแย่ไปยิ่งกว่านี้นะ”
“อืม! ก็ถูกของเนยนะ เอ้า! ผลไม้มาแล้ว นี่พิเศษสำหรับเจ้าของห้างเลยนะ ส้มแมนดาริน แม่หอบมาฝากจากจีนเลยล่ะ”
แม้จะดีใจกับการที่เพื่อนคอยเอาใจใส่อยู่บ้าง แต่ว่า ‘เจ้าของห้าง’ก็สะกิดใจพิมมาดาอย่างบอกไม่ถูก ด้วยไม่เคยคิดว่าตำแหน่งนี้จะตกมาถึงตัวเอง เพราะน้องสาวกับน้องชายซึ่งเป็นลูกแท้ ๆ ของสไบแพรยังอยู่กันครบ มีหรือผู้เป็นแม่เลี้ยงจะยอมปล่อยให้หลุดมาถึงได้
ไม่ต้องถึงขั้นตำแหน่งเจ้าของห้างแต่อย่างใดเลย เพียงแค่หุ้นบางส่วนก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้ ทุกวันนี้ก็ทำงานเหมือนลูกจ้างแค่นั้น คือได้แต่เงินเดือนกับฉากลูกเจ้าของห้างเอาไว้บังหน้า ซึ่งใครหลายต่อหลายคนคงจะพากันอิจฉาอยู่บ้าง แต่ไม่มีใครได้ล่วงรู้ความจริงเลยว่าแท้จริงแล้ว เธอไม่ได้มีสุขสักนิดนับตั้งแต่พ่อแต่งงานกับสไบแพรและย้ายมาอยู่บ้านหลังจากแม่ตายได้ไม่ถึงสองเดือนด้วยซ้ำ
และหนึ่งในอีกหลาย ๆ คนที่คิดว่าเธอสุขสบายนั่นก็คือ คนที่เพิ่งจะเดินออกจากห้องสุนทรีย์หลังคุยธุระเสร็จได้สักพัก หกโมงเย็นแล้ว เมื่อเขามองไปยังห้องทำงานของแม่สาวเย่อหยิ่ง พบว่ายังอยู่กันครบทั้งทีม ไม่ต้องเดาก็พอรู้ว่ากำลังประชุมเครียดเรื่องรับมือกับเขาเป็นแน่ อดสมเพชลูกศัตรูไม่ได้ ที่ไม่รู้ตัวว่าเล่นกับของสูงอย่างเขา ต่อให้งัดไม้ไหนมาสู้ก็แพ้เห็น ๆ ที่ยังอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะเขายังสนุกกับการไล่ต้อนให้จนมุมต่างหาก
แต่ถ้าหมดสนุกเมื่อไหร่ เพียงไม่กี่วันเขาก็สามารถเดินเข้ามาเป็นเจ้าของห้างนี้ได้อย่างสบาย ๆ แล้ว เพราะเงินมันมีอำนาจเหนือทุกอย่างจริง ๆ เขาลงไปซื้อข้าวของด้านล่างโดยใช้เวลาไม่นานนัก จัดการเขียนข้อความหวาน ๆ ไว้บนกล่องแล้วนำไปวางบนโต๊ะทำงานลลิตา ก่อนจะรีบออกจากออฟฟิศ เพราะนัดกับสามารถเอาไว้ ไม่นานนักเขาก็กลับถึงบ้าน การอาบน้ำไล่ความเมื่อยล้าคือสิ่งแรกที่เขาทำ ออกมาก็พบว่าลูกน้องหอบหิ้วเอกสารมากองรอที่โต๊ะทำงานเรียบร้อยแล้ว เอี้ยงก็จัดอาหารไว้รอแล้ว สองหนุ่มจึงไม่รีรอแต่อย่างใด เพราะมีความหินเรียกร้องเรื่องงานจึงถูกถามไถ่ไปพร้อมมื้ออาหาร
“คนเต็มซุปเปอร์เลยครับคุณแพท ว่าแต่เราจะทำแบบนี้ไปอีกนานมั้ยครับ ได้กำไรน้อยผมกลัวมันจะไม่คุ้ม” สามารถตอบคำถามและถามกลับด้วยความกังวลไม่น้อยที่เห็นเจ้านายใช้แผนนี้ตีกลับอีกฝ่าย
“นายก็ไปบล็อคกับพวกซัพพลายเออร์เราสิ ได้กำไรมาจากคนกินเยอะแล้ว ก็ต้องถึงเวลาคืนบ้าง กำลังซื้อเราเยอะรับรองว่าพวกนั้นต้องยอมไปตาม ๆ กัน หรือถ้าไม่ยอมก็หาเจ้าอื่นสิ” ตอบเหมือนได้ไตร่ตรองมานานแล้ว ว่าตัวเองไม่ได้กระทบอะไรมากมายนัก นอกจากกำไรจะลดน้อยลงหรืออย่างมากก็เสมอตัว คนเป็นลูกน้องได้แต่นิ่งฟัง แต่คนเป็นหัวหน้ารู้ดีว่าว่าลูกน้องกังวล
“อย่ากลัวเรื่องนี้หน่อยเลยน่า ฉันเอาอยู่ ว่าแต่แผนที่ให้คิดไว้เป็นยังไงบ้างว่ามาให้หมด” เรื่องการกินจบสิ้นลงไปแล้ว แต่เรื่องงานเหมือนเพิ่งจะเริ่มต้น สองคนจึงใช้เวลาคุยกันจนดึกดื่นกว่าจะจบ แล้วมือถือเบอร์ที่ใช้กับที่ทำงานศัตรูดังขึ้น
“คุณแพทเหรอคะ ตาเอง ขอบคุณค่ะสำหรับมื้อเย็น รู้ใจตาอีกแล้วนะคะ” เพราะเขาจัดหาสลัดราคาแพง ๆ ไปวางไว้บนโต๊ะให้ พร้อมกับเขียนข้อความที่ว่า
‘อย่าทำงานหนักมากนะครับคนสวย กลับถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วยนะครับผมเป็นห่วง’
“เข้าบ้านหรือยังครับคุณตา ผมกำลังรอว่าอีกห้านาทีถ้าคุณตาไม่โทรมา ผมจะโทรไปหาเองเลย” ยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าเขาคนปลายสายไม่มีทางรู้ ว่ากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือเท่านั้น หาได้มีความสำคัญถึงเขาเลยสักนิด
“ค่ะ อาบน้ำเสร็จแล้วด้วย พอดีจะกินสลัดเลยโทรมาหาคุณแพทก่อน ประชุมเครียดจนเหนื่อยเลยค่ะ พักนี้มีแต่เรื่องกลุ้ม ๆ คุณเนยก็เครียดเลยพลอยทำให้เราคนเป็นลูกน้องเครียดไปตาม ๆ กันอีกค่ะ”
“คุณตากินข้าวแล้วนอนพักผ่อนดีกว่านะครับ พรุ่งนี้เราค่อยคุยกันแต่เช้า ผมจะเตรียมอาหารไปให้นะครับ ไม่ต้องกินอะไรมาจากบ้าน รับรองว่าถูกใจแน่นอน ฝันดีนะครับคนสวย”
เขาแทบไม่จำเป็นจะต้องถามไถ่อะไรจากปากแม่เลขาฯ ด้วยซ้ำ เพราะทุกคำจะค่อย ๆ หลั่งไหลออกมาเอง เพียงแค่เขาคอยเอาใจใส่หาโน่นหานี่ให้แม่คุณเท่านั้น เพราะธรรมชาติของผู้หญิงย่อมต้องการระบายความอัดอั้นตันใจเกี่ยวกับงานให้คนรอบตัวฟังเสมอ ๆ สามารถยิ้มอย่างรู้ทันเมื่อเจ้านายหันไปหา
“ไม่นานแผนการตลาดใหม่จะมาถึงมือเรา แล้วจะส่งข่าวให้รู้ทันทีนะ กลับบ้านเถอะดึกมากแล้ว”
“ครับคุณแพท” สามารถรับคำแล้วรีบกลับออกไป เพราะตัวเองก็เหนื่อยเอาการ เอี้ยงได้ยินเสียงรถแล่นออกไป จึงเดินมาดูเจ้านายหนุ่มหลังจากหลับไปได้ตื่นหนึ่งแล้ว
“คุณภาพยังไม่นอนอีกเหรอคะ ป้าบอกว่าอย่าทำงานหนักมากไป”
“กำลังง่วงพอดี งั้นผมไปนอนเลยแล้วกันครับป้าเอี้ยง” เขาจำต้องเลี่ยงเพราะไม่อยากได้ยินคนแก่บ่น แม้จะหวังดีกับเขาก็ตามที แต่ในบางครั้งก็อดรำคาญไม่ได้จนต้องหนีด้วยวิธีแบบนี้
“อ้อ! เกือบลืม พรุ่งนี้ช่วยจัดอาหารเช้าใส่กล่องให้ผมสองกล่องนะครับป้า ขอแต่เช้าเลยผมจะรีบไปทำงาน” ไม่ได้สนใจว่าอีกคนจะถามอะไรต่อมิอะไร จึงรีบเดินเข้าห้องนอนตัวเองทันที อาบน้ำอีกรอบได้เขาฟุบหลับกับเตียงด้วยความอ่อนเพลีย
บ้างหลังใหญ่บ่งบอกฐานะเจ้าของได้เป็นอย่างดีว่ามีการเงินมั่นคงแค่ไหน แต่ในยามดึกสงัดแบบนี้มันกลับสร้างความอ้างว้างให้ผู้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านที่กำลังยืนกอดอกอยู่ริมสระน้ำเหลือจะทน เสื้อคลุมเนื้อบางถูกผูกเชือกให้กระชับเข้าอีก เพราะลมพัดผ่านมาสร้างความเหน็บหนาวให้ไม่น้อย อาการเดินวกไปวนมาเกิดขึ้นนับตั้งแต่พาลูกชายคนเดียวเข้านอนไปแล้ว
ดวงดาวอดคิดถึงวันคืนเก่า ๆ ไม่ได้ วันคืนที่อยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูก ดูช่างมีความสุขจนผู้คนรอบข้างต่างออกปากบอกอิจฉาไปตาม ๆ กัน แต่กาลเวลาย่อมเปลี่ยนคนได้เสมอ ๆ ห้าปีหลังแต่งงานและกำเนิดทายาทให้ไพโรจน์ผู้เป็นสามี จากผู้ชายที่แสนดีรักลูกรักเมียก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งวันนี้ลูกชายอายุจะเก้าขวบแล้ว เขาแทบจะกลายเป็นคนละคนเลยทีเดียว สองอาทิตย์เต็ม ๆ เขาไม่ยอมกลับมานอนบ้าน ไม่เคยมาดูดำดูดีลูกเมียเลยนอกจากมีเงินให้ใช้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเท่านั้น
แต่หัวอกเมียย่อมต้องการความเอาใจใส่จากผู้เป็นสามีอยู่เนืองนิตย์ และดูเหมือนความต้องการนี้จะไม่มีทางได้รับการเติมเต็มอีกแล้ว ดวงดาวถอนหายใจน้อย ๆ ด้วยพยายามจะสงบสติอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นให้กลับมาเย็นลง เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่พอจะทำได้ แต่บางครั้งมันก็ไม่ใคร่จะได้ผลนัก เช่นในเวลานี้ ประตูอัลลอยของบ้านค่อย ๆ เปิดออกด้วยรีโมทจากคนภายนอก พร้อมกับรถผู้เป็นสามีแล่นเข้ามาจอด อาการเมามายเดินโซเซออกมาโดยมีเด็กสาวคอยประคองเข้าบ้านเป็นเชื้อไฟอย่างดีให้คนเป็นเมียนั่งนับนาทีรอคอย
‘คุณไพโรจน์ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเอาพวกอีต่ำ ๆ พวกนี้ตัวเข้ามานอนกกในบ้าน ให้เกียรติฉันบ้างสิ ลูกนอนอยู่ข้างบนนั่นคุณจะทำร้ายจิตใจลูกไปถึงไหนกัน อย่าให้ความอดทนของฉันต้องหมดไปก่อนเวลาอันควรนะ’
‘ทำไมล่ะ ไม่พอใจก็ไปหาผัวใหม่สิ อยากรู้นักว่าเธอจะหาใครได้ดี ๆ อย่างฉันอีกมั้ย เงินมีให้ใช้ บ้านมีให้อยู่ จะเอาอะไรอีก’ คนเมายังคงมีสติมากพอจะต่อปากต่อคำกับเมีย ดวงดาวแทบจะหมดความอดทนลงตรงนั้น เมื่อทุกครั้งผู้เป็นสามีมักจะอ้างเรื่องนี้ขึ้นมา
‘อีกหน่อยไอ้ที่มี ๆ มันก็คงจะหมดไปเพราะผู้หญิงพวกนี้ของคุณนั่นล่ะ ยิ่งวัน ๆ คุณมัวแต่หลงเรื่องพวกนี้ แทบไม่เคยโผล่หน้าไปทำงานเลย คุณคิดเหรอว่าจะมีใครหน้าไหนมานั่งทำงานให้คุณอย่างซื่อสัตย์ ถ้าฉันเป็นลูกน้องคุณนะ ป่านนี้ฉันจะโกงเงินไปจนคุณเหลือแต่ตัวแล้ว เพราะมีเจ้านายหน้าหม้อ วัน ๆ มั่วแต่เรื่องกาม’
‘ปากดีนักนะ กล้าด่าผัวได้ขนาดนี้เลยเหรอ’
‘เพี๊ยะ’
มือหนาฟาดลงไปหาแก้มเมียอย่างแรง ดวงดาวแทบตั้งสติไม่อยู่ เพราะไม่ว่าจะทะเลาะกันกี่ครั้งกี่หน แต่ผู้เป็นสามีก็ไม่เคยลงไม้ลงมือเลยสักครั้ง ส่วนอีกคนหาได้รู้สึกผิดกับการกระทำไม่ ยังชี้หน้าด่าเมียอย่างไม่ใยดี เด็กสาวที่ไพโรจน์หิ้วมาด้วยก็เกิดอาการกลัวไปด้วย รีบวิ่งไปหลบอยู่ห่าง ๆ
‘จำไว้นะ! ว่าผัวคือผู้มีพระคุณที่เมียอย่างเธอจะต้องให้ความเคารพยำเกรง ไม่ใช่มายืนด่าฉอด ๆ แบบนี้ เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงเบื่อเธอ วัน ๆ ไม่คิดจะทำอะไรนอกจากนั่งจับผิดผัว แล้วก็ผลาญเงินไปกับเครื่องสำอางค์เครื่องแต่งตัว เดือน ๆ เคยนั่งนับมั้ยว่าใช้ไปกี่แสนต่อกี่แสน ยังจะมีหน้ามายืนด่าผัวอีกเหรอ’
‘คุณกล้าทำกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ’ ดวงดาวเอามือลูบหน้าเพราะรู้สึกเจ็บและชาไปทั้งแถบ แต่ที่เจ็บมากกว่านั่นคือใจ
‘ฉันจะทำมากกว่านี้ ถ้าเธอยังไม่หยุดอวดดี ถ้าไม่พอใจที่มีผัวอย่างฉัน เธอจะไปหาที่ไหนก็ไป มีผู้ชายหน้าไหนให้เธอได้เท่าฉัน อยากอดตายก็ไปเลย ออกไปให้พ้นจากบ้านฉัน ไม่อย่างนั้นก็เปลี่ยนตัวเองใหม่อย่ามาทำตัวเหมือนเป็นแม่ฉันแบบนี้ แม่ฉันตายไปนานแล้ว และฉันไม่อยากมีแม่อีกคน จำไว้’ ชี้หน้าด่าอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น
‘ได้! คุณกล้าทำกับฉันขนาดนี้ อย่าคิดว่าฉันจะไม่มีทางไป จำไว้นะ ถ้าคุณยังทำตัวอยู่แบบนี้ ฉันรับรองว่าอีกไม่นานเงินที่คุณมีมันก็จะหมดไป อีกหน่อยคุณก็จะเหลือแต่ตัวเท่านั้นจำคำฉันไว้’
‘เพี๊ยะ’
แก้มขาวถูกฟาดรอบสอง น้ำตาของลูกผู้หญิงไหลพรั่งพรูออกมาอย่างไม่คิดจะอายใครเลย เด็กชายสหภาพที่เดินลงมานั่งขดตัวอยู่บันได โดยมีเอี้ยงนั่งปลอบใจอยู่ใกล้ ๆ มองพ่อกับแม่ทะเลาะกันด้วยความสับสน
‘ฉันบอกแล้วว่าอย่ามาด่าฉัน หุบปากแล้วก็ไสหัวไปให้พ้น ๆ หน้าฉัน’
‘คุณจำสิ่งที่คุณทำกันฉันไว้ให้ดี สักวันผลกรรมมันจะตามสนองคุณ เชิญคุณอยู่กับกองเงินกองทองของคุณไปตามสบายเถอะ ไม่มีผัวเฮงซวยอย่างคุณสักคน ฉันก็คงไม่อดตายหรอก’ จบคำดวงดาวก็วิ่งขึ้นด้านบน โดยไม่ได้สนใจจะก้มมองลูกแต่อย่างใด ไม่กี่นาทีต่อมา กระเป๋าใบเขื่องตามติดลงมาด้วย
‘แม่จะไปไหนครับ แม่จะทิ้งพ่อกับภาพเหรอครับ’ เด็กชายร้องเรียกแม่ที่เดินผ่านลงไปแล้ว ดวงดาวคิดขึ้นได้ว่าลืมลูกจึงรีบหันมาหาทันที
‘ภาพลูกแม่มาหาแม่สิลูก เราไปตายเอาดาบหน้ากันดีกว่านะลูกนะ’ หัวอกแม่ย่อมไม่ยอมจะทิ้งลูก แต่คนเป็นพ่อก็ไม่ยอมเช่นกัน เพราะมีลูกชายเพียงคนเดียวที่หวังจะให้สืบสกุลต่อไป
‘ถ้าเธอจะไปก็ไปคนเดียว อย่าเอาลูกของฉันไปลำบากด้วย เธอจะไปกินแกลบที่ไหนกับชายชู้หรือผัวใหม่คนไหนก็ได้ ภาพมาหาพ่อ อย่าไปใส่ใจกับแม่ชั่ว ๆ อย่างนั้น มาอยู่กับพ่อนี่เร็ว’ ไม่พูดเปล่าเขายังตรงไปดึงแขนลูกที่ตอนนี้กำลังสับสนว่าจะไปทางไหน
‘ถ้าเธอรักลูกและอยากให้ลูกมีอนาคตอย่าเอาลูกไปตกระกำลำบาก เธอจะไปทำชั่วที่ไหนก็ไปคนเดียว เอี้ยง ๆ ๆ พาคุณภาพไปนอนได้แล้ว เอี้ยง ๆ ๆ’ ไพโรจน์ร้องเรียกจนเอี้ยงซึ่งไม่อยากโผล่หน้ามาใกล้จำต้องตรงไปหาคุณภาพที่เอาแต่ร้องไห้
‘แม่อย่าไปเลยนะครับ อยู่กับภาพกับพ่อนะครับ’
‘เอี้ยงเอาคุณภาพไปนอนได้แล้ว อย่ามัวชักช้า ไป ๆ ๆ’
‘คุณภาพของป้า เราขึ้นด้านบนเถอะค่ะ คุณแม่ท่านไม่ไปไหนหรอกค่ะ อีกหน่อยท่านก็กลับมา นะคะคนดีมากับป้าค่ะ’
หัวอกแม่ที่รักลูกปานดวงใจจำต้องยอมให้เอี้ยงพาลูกไปจากอก ด้วยไม่รู้ว่าชีวิตของตัวเองที่ตัดสินใจจะก้าวออกจากรั้วบ้านผู้เป็นสามีแล้วจะเป็นไปทางไหน จะดีหรือร้ายก็ไม่อาจคาดเดาได้ จึงมองเห็นความสะดวกสบายของลูกเป็นที่ตั้ง แล้วเดินจากไปเพียงแต่ตัวกับกระเป๋าใบเดียว
‘ใครก็ได้ไปปิดบ้านแล้วล็อคประตูให้แน่นหนานะ ใครมันเดินออกไปแล้วอย่าได้ริกลับเข้ามาอีก บ้านนี้ไม่ต้อนรับคนอวดดี จะไปตายห่าที่ไหนก็เชิญ ชีวิตกูจะได้สบายซักที น้องขึ้นไปด้านบนกับพี่ได้แล้ว คืนนี้เอาใจพี่ดี ๆ นะ พี่จะมีรางวัลให้อย่างงาม’ จบคำไพโรจน์ก็หันไปดึงแขนเด็กสาวที่ยืนทื่ออยู่เป็นนาน
‘ป้าเอี้ยงครับ แม่จะไปไหนครับ ทำไมแม่กับพ่อทะเลาะกันแบบนั้น’ ไม่ทันที่เอี้ยงจะได้ปลอบขวัญเด็กน้อย ประตูห้องก็เปิดพรวดเข้ามา ไพโรจน์ตรงไปหาลูกชายคนเดียวเพราะห่วงความรู้สึกลูกขึ้นมาทันใด
‘พ่อครับ ทำไมแม่ทิ้งเราไปครับ ทำไมแม่ไม่อยู่กับเราครับ’ สหภาพลุกขึ้นไปกอดพ่อซึ่งนั่งลงบนเตียงใกล้ ๆ เอี้ยงแล้วร้องไห้ออกมาดัง ๆ
‘ภาพรักพ่อหรือเปล่าลูก’ ‘รักครับ’
‘ถ้าภาพรักพ่อก็อย่าไปคิดถึงแม่ ภาพอยู่กับพ่อรับรองชีวิตภาพจะไม่ลำบาก พ่อจะให้ทุกอย่างที่ภาพอยากได้ จำไว้นะลูกพ่อรักลูก’ เพราะเด็กน้อยรักและศรัทธาในตัวพ่อมาก ด้วยเป็นผู้ชายเหมือน ๆ กัน และไพโรจน์มักจะสอนให้ลูกเป็นคนเข้มแข็ง จึงมีความผูกพันธ์กับพ่อมากกว่าแม่นัก
‘ภาพก็รักพ่อครับ’
‘งั้นเราจะอยู่กันสองคน ไม่มีแม่อีกต่อไปตกลงมั้ยลูก พ่อจะรักและให้ทุกอย่างกับลูกพ่อเอง พ่อรักลูกนะ ภาพจำคำพ่อไว้ให้ดี ๆ ว่าพ่อรักลูก’
‘จำคำพ่อไว้นะลูก ว่าพ่อรักลูก พ่อรักลูก ๆ ๆ ๆ ๆ’
‘ภาพต้องแก้แค้นแทนพ่อด้วยลูก เอาทุกอย่างที่พ่อทำไว้กลับมาให้ได้ ภาพต้องทำแทนพ่อแล้ว ต้องแก้แค้นแทนพ่อแล้ว ภาพอย่ายอมให้ไอ้คนชั่ว ที่มันรวมหัวกันทำให้พ่อตายได้มีความสุขนะลูก จำคำพ่อไว้ พ่อรักภาพ ภาพต้องแก้แค้นแทนพ่อนะลูก จำไว้ ต้องจำไว้ แก้แค้นแทนพ่อนะภาพ ต้องแก้แค้น’
กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:39:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:39:12 น.
จำนวนการเข้าชม : 1308
<< เผชิญหน้ากับซาตาน | บาดแผลที่ไม่เคยลืม >> |