ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: บาดแผลที่ไม่เคยลืม

“คุณพ่อ!”

คนนอนเหยียดไปกับเตียงถึงกับสะดุ้งสุดตัว ไฟหัวเตียงสว่างขึ้นทันใดพร้อมกับร่างใหญ่ที่มีเหงื่อท่วมตัวผุดลุกขึ้นนั่งทันที แม้จะรู้ว่านั่นคือฝัน แต่ก็เป็นฝันที่เหมือนจริงเหลือเกิน เหมือนพ่อเพิ่งจะมานั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วกระซิบบอกว่ารักเขาใกล้ ๆ หู เพราะมันชัดเจนในความรู้สึกว่าเสียงพ่อดังก้องอยู่ในหูและเพิ่งจะลุกเดินจากไปก่อนเขาจะสะดุ้งตื่นนี่เอง

น้ำแก้วใหญ่ ๆ ถูกดื่มลงไปเพื่อดับกระหายเมื่อเขาเดินออกไปนั่งอยู่กับระเบียงริมน้ำ อดคิดถึงฝันเมื่อครู่ไม่ได้ นับว่าเขาคิดถูกจริง ๆ ที่ตัดสินใจกลับมาเอาคืนกับคนที่ทำให้พ่อต้องตายจากไปก่อนเวลาอันควร แต่อีกใจก็ยังจำคำของแม่พร่ำบอกเขามาตลอดสิบแปดปี

‘แพท! แม่ว่าเราปล่อยให้เป็นเรื่องของกรรมเวรดีกว่ามั้ยลูก แม่เชื่อว่า บาป บุญ คุณ โทษ ยังมีจริง ใครทำอะไรไม่ดีไว้ อีกไม่นานกรรมก็จะตามสนองเอง โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ’

จำได้ว่าเขานั่งฟังแม่เงียบ ๆ เท่านั้น เพราะป่วยการจะบอกความต้องการที่อยู่ในใจเรื่อยมา เขาจึงไม่ปริปากอะไรออกไปเพื่อให้แม่กับพ่อเลี้ยงนอนใจ ว่าเขาลืมทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองไทยไปจนหมดสิ้นแล้ว

‘บาป บุญ คุณ โทษ กับบางคนมันไม่มีจริงหรอกครับแม่ และกรรมก็ตามพวกมันไม่ทันสักที แต่ผมนี่ล่ะครับ จะเป็นคนหยิบยื่นกรรมที่พวกมันก่อไว้เอง พ่อได้รับอะไรจากการกระทำของมัน ผมก็จะทำให้มันได้รับผลตอบแทนมากกว่าร้อยเท่า และผมได้รับผลยังไง ผมก็จะทำให้ลูกสุดที่รักของมันต้องรับกรรมจากผมเป็นร้อยเท่าเหมือนกัน’ เขาเคยแย้งอยู่ในใจเท่านั้น

“ไอ้จักรภพ ไอ้คนทรยศ อีนังสไบแพร นางนกต่อ นางมารยา ฉันจะส่งแกสองผัวเมียลงนรกในเร็ว ๆ นี้ รวมทั้งลูกของแกด้วย จำไว้ อีกไม่นาน ๆ”

แก้วน้ำในมือถูกขว้างลงในแม่น้ำด้วยความเร็วและแรง พอ ๆ กับอารมณ์ของเจ้าของแก้วที่รุนแรงไม่แพ้กัน ร่างสูงใหญ่ค่อย ๆ เอนตัวนอนไปกับเปลหวาย เมื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลงได้แล้ว หันไปมองนาฬิกาพบว่าตีสี่ อยากจะกลับไปนอนพักอีกสักหน่อย แต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะหนังตาแข็งเกินจะหลับลงแล้ว เขาจึงปล่อยให้ตัวเองนอนขบคิดเรื่องต่าง ๆ ไปเรื่อยเปื่อย



พิมมาดาแทบจะวิ่งวุ่นทั้งอาทิตย์เพื่อเตรียมงานแสดงเครื่องเสียงรถยนต์ ที่จะมีขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า ซึ่งเป็นโปรแกรมแรกของแผนการตลาดที่วางไว้ทั้งเดือน การประชาสัมพันธ์คือหัวใจหลักของงาน ดังนั้นเธอจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องเจียดเวลามาดูแลงานในส่วนของผู้พ่อเท่าที่ตัดสินใจได้ เพราะจักรภพค่อนข้างจะละเลยงานไปมาก ส่วนสไบแพรก็มักจะเข้ามาเบ่งอำนาจในออฟฟิศเท่านั้น เนื้องานไม่ค่อยจะได้ใส่ใจทำสักเท่าไหร่ เอาแต่โยนมาให้เธอรับผิดชอบคนเดียว แล้วพอมีอะไรผิดพลาดก็รอซ้ำเติมไม่ว่างเว้น

‘พ่อหล่อนนี่ไม่ได้เรื่องเลยนะแม่เนย วัน ๆ เอาแต่ไปตีกอล์ฟแล้วก็เที่ยวดึก ๆ ดื่น ๆ ใช้เงินเป็นว่าเล่น ไม่เคยจะมาสนใจงานสักนิด แล้วนี่หล่อนแน่ใจเหรอยะว่าจัดงานครั้งนี้จะเรียกคนเข้าห้างได้’

‘ฉันล่ะไม่อยากจะเชื่อมือหล่อนเลยจริง ๆ พวกอ่อนหัด ถ้าหล่อนมีปัญหาอะไรให้มาปรึกษาฉันทุกอย่างนะ จำเอาไว้ว่าถ้าเกิดงานนี้พังขึ้นมาหล่อนต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว เพราะฉันไม่เคยเห็นด้วยกับการทำแบบนี้เลย’

และอีกหลายต่อหลายคำที่ผู้เป็นแม่เลี้ยงสรรหามาถากถางเมื่อเธอกลับถึงบ้าน ใจจริงสไบแพรอยากจะว่าในที่ทำงานด้วยซ้ำ ติดตรงที่จะต้องสร้างเครดิตให้หญิงสาว เพื่อให้ลูกน้องเกรงใจจะได้ทำอะไรแทนตัวเองและผู้เป็นสามีในระหว่างรอให้ลูกชายคนเดียวเรียนจบมาเท่านั้น แต่อันที่จริงสไบแพรก็ไม่ได้วางมือซะเดียว ยังมีงานด้านบัญชีที่เจ้าหล่อนคอยตรวจตราอย่างไม่ขาดตกบกพร่องก็ว่าได้

ร่างบอบบางค่อย ๆ เดินสำรวจแผงวางสินค้าไปช้า ๆ ซึ่งเธอมักจะถือปฏิบัติอยู่บ่อยครั้ง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของพนักงาน และยิ่งในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ยิ่งละเลยไม่ได้ และหญิงสาวก็พบกับจดบกพร่องหลายต่อหลายอย่างตามมาในการเดินตรวจงานของตัวเอง

“ตาเรียกหัวหน้างานมาดูแผงสินค้าเดี๋ยวนี้เลย ของหลายอย่างมีวางแค่ไม่กี่อัน บางยีห้อก็หมดแล้ว ทำไมไม่เห็นพนักงานเอามาเติมอีก นี่ ๆ ล็อคนี้ด้วย ของขาดตั้งหลายอย่างตามมาด่วนเลย” ลลิตารีบวอเรียกหัวหน้างานตามคำสั่งเจ้านายสาวทันที ไม่นานคนถูกเรียกก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพบเธอ หญิงสาวจ้องมองป้ายชื่อก่อนเอ่ยปาก

“คุณบรรจงเป็นหัวหน้างานส่วนจัดวางสินค้าใช่มั้ย”

“ครับ” ผู้เป็นลูกจ้างรับคำด้วยอาการหวาด ๆ

“ของบนแผงขาดไปหลายรายการ เดี๋ยวช่วยให้พนักงานเอามาเติมให้เต็มนะคะ และพยายามให้ลูกน้องเดินตรวจดูแผงบ่อย ๆ อย่าให้ของขาด ลูกค้ามาซื้อจะต้องมีไว้ให้เลือก”

“ครับ” รอยยิ้มจาง ๆ มีให้ผู้เป็นลูกจ้างก่อนจะเดินผ่านไป แต่หญิงสาวก็หมุนตัวกลับมาหาเขาอีก

“อ้อ! เดี๋ยวเลิกงานแล้วช่วยไปพบเนยที่ห้องด้วยนะคะ ตา! เรียกประชุมฝ่ายนี้พร้อมกันเลย” แม้คนบอกจะยิ้ม แต่คนถูกสั่งกลับยืนไม่เป็นสุข เพราะเดาได้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไรบ้าง



“เนยคงต้องฝากให้ทุกคนละเอียดรอบคอบมากกว่านี้นะคะ อย่าลืมว่าลูกค้ามาซื้อของจากห้างเรา ถ้ามีให้ไม่ครบหรือของหมด ก็ย่อมเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้าเบื่อไม่อยากเข้ามาอีกก็ได้ ตอนนี้ทุกคนก็ทราบดีว่าเรากำลังเจอคู่แข่งที่คอยจับตาดูเราทุกฝีก้าว ไม่ว่าเราจะทำอะไร เมื่อไหร่ ก็จะถูกตีกลับทันที ดังนั้นเนยจึงอยากจะฝากให้ทุกคนเอาใจใส่กับงานให้มากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว อย่าให้พลาดนับตั้งแต่ประตูทางเข้าเลย ห้างเราเปิดมานานมาก เนยยังไม่อยากให้มันต้องมาล่มในรุ่นของเนย และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คนงานนับร้อยต้องตกงาน เนยไม่อยากให้มีวันนั้นเลยค่ะ แต่ถ้าทุกคนยังละเลยต่อหน้าที่ตัวเองแบบนี้ โอกาสมีวันนั้นก็คงอยู่อีกไม่ไกลแน่”

ผู้เข้าร่วมประชุมต่างร้อน ๆ หนาว ๆ ไปตาม ๆ กัน แม้เจ้านายสาวจะใช้น้ำเสียงราบเรียบและพูดเนิบ ๆ หากแต่ล้วนแล้วคือความจริงทั้งหมด และพนักงานทุกคนก็เข้าใจเป็นอย่างดี

“คุณบรรจงรับได้ใช่ไหมคะ สำหรับวอนนิ่งในการละเลยหน้าที่วันนี้ และถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก คงไม่ต้องบอกนะคะว่าขั้นตอนต่อไปฝ่ายบุคคลจะทำยังไง เราไม่ได้ขออะไรมากนอกจากให้คุณทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้น และหวังว่าคุณจะปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นนะคะ” อันที่จริงหญิงสาวอยากจะสั่งพักงานด้วยซ้ำ กับการบกพร่องต่อหน้าที่ในครั้งนี้ แต่ด้วยความที่กลัวว่าพนักงานจะโกรธจนพาลลาออกและไปทำงานที่ห้างคู่แข่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลยในตอนนี้ จึงจำจะต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบไว้ก่อน

“ครับ ผมจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาดครับ” เขารับคำหนักแน่น



“เกือบหัวขาดแล้วมั้ยล่ะแก ทีหน้าทีหลังก็ทำงานให้มันรอบคอบกว่านี้หน่อย อย่าลืมว่างานมันหายากยิ่งกว่าลูกกะตาของแ กซะอีก นี่ดีเท่าไหร่แล้วที่คุณเนยไม่พักงานแก และดียิ่งกว่าเป็นไหน ๆ ที่เรื่องนี้ไม่ถึงหูท่านรองประธาน ไม่งั้นแกเอ้ย ได้ออกไปเตะฝุ่นทันทีเลยล่ะ” เพื่อนร่วมงานของบรรจงสวดด้วยความหวังดี ขณะเข้าไปล้างมือในห้องน้ำหลังจากประชุมได้ไม่นาน

“กลัวอะไรวะ ไล่กูออก กูก็ไปสมัครงานห้างคู่แข่งซะเลย ได้ข่าวว่ารับคนงานเยอะไม่ใช่เหรอ และยิ่งเป็นคนงานจากที่นี่เขาให้เงินเดือนดีกว่าอีก แน่จริงก็เอาออกสิวะ ไม่เก่งจริงนี่หว่า” ผู้กระทำผิดอดหมั่นไส้เจ้านายสาวไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะดีหรือแย่แค่ไหน ในสายตาผู้เป็นลูกจ้างก็ไม่เคยมองเจ้านายในแง่ดีเลยสักนิด

“ไอ้ห่า! ปากดีนะมึงเขาเมตตาแล้วยังจะมาพูดมากอีก ยังไง ๆ ที่นี่ก็มีบุญคุณกับเรานะ ทำมาตั้งหลายปีแล้ว มีอะไรก็ช่วย ๆ กันสิ แกจะมาคิดตีจากไปทำไมวะ”

“มีบุญคุณกะเตี่ยเอ็งน่ะสิ เราเอาแรงงานมาแลกเงินนะ ไม่ได้มาขอกินฟรี ๆ คอยดูเถอะถ้าแจกวอนนิ่งกูอีกนะ กูออกแน่ หนอย! เห็นหน้าตาสวย ๆ พูดเพราะ ๆ นึกว่าจะจิตใจดี ที่แท้มันก็ไอ้พวกผู้ดีแต่เปลือกล่ะวะ ถือว่ามีเงินจะทำยังไงกับคนจน ๆ ก็ได้ ชาตินี้กูไม่รวยบ้างให้มันรู้ไป”

“เอ้อ! แล้วแต่มึงละกัน เตือนไม่ฟังไอ้นี่ ไปทำงานได้แล้วอย่าอู้”

สิ้นเสียงของสองหนุ่ม เจ้าของหน้าคมที่ได้ยินบทสนทนาจนหมดสิ้น จึงเดินออกจากห้องน้ำ ตรงไปล้างมืออย่างช้า ๆ ด้วยความอารมณ์เย็นกว่าเมื่อเช้า ยิ้มจนริมฝีปากเหยียดตรงอย่างสะใจ ที่ข้าวของศัตรูหาได้มียางไม่

‘หึ! เงิน ไม่ว่าจะสมัยไหน ๆ ก็ยังใช้เป็นเครื่องล่อตาล่อใจได้เสมอ ๆ’

เขาไม่อยากวาดภาพเลยว่าพรุ่งนี้แม่สาวผู้เย่อหยิ่งกับยายแม่มารยา รวมทั้งไอ้พ่อทรยศจะทำหน้ายังไง ถ้ารู้ว่าโดนเขาดิสเครดิตด้วยการจัดงานแสดงเครื่องเสียงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่และอลังการกว่าในวันและเวลาเดียวกัน



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:40:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:40:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 1248





<< แผนเริ่มถูกระแคะระคายแล้ว   ความชอกช้ำของลูกที่ไม่เคยถูกรัก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account