ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: ความชอกช้ำของลูกที่ไม่เคยถูกรัก

“ต๊าย ๆ ตายแล้ว นี่มันอะไรกัน แม่เนย ๆ แม่เนยอยู่ไหน มาหาฉันหน่อยซิ นี่มันอะไรกัน ๆ” เสียงสไบแพรกรีดร้องจนบ้านแทบแตกตั้งแต่เช้า เมื่อคลี่หนังสือพิมพ์ออกอ่านแล้วพบว่ามีใบปลิวการจัดงานของห้างคู่แข่งสอดมาด้วย

“แม่เนยลงมาหรือยัง หายหัวไปไหน สายจนป่านนี้แล้วยังไม่คิดจะไปทำงานหรือไงกัน จะนอนกินบ้านกินเมืองเหรอ เพราะมัวแต่อืดอาดอยู่แบบนี้ไงล่ะ ถึงได้ไม่ทันพวกคู่แข่งสักที”

“คุณเนยยังไม่ลงมาค่ะคุณผู้หญิง” เด็กรับใช้ตอบด้วยอาการกลัว

“ไม่ลงมาก็ไปตามสิ ยืนหาสวรรค์วิมานอะไร ออกไปให้พ้น โอ้ย! อีพวกนี้ทำไมถึงได้โง่อย่างนักนะ”

“อะไรกันคุณ แหกปากตั้งแต่เช้า คนในบ้านแตกตื่นหมดแล้ว” จักรภพเดินลงมาในชุดเตรียมพร้อมไปทำงาน เพราะไม่ได้เข้าไปเซ็นเอกสารเป็นอาทิตย์แล้ว วันนี้จำต้องเข้าไปเสียที

“จะอะไรซะอีกล่ะ เอ้า! ดูให้เต็มตา แล้วตอบฉันหน่อยซิ ว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง ไหนคุณบอกว่าแม่ลูกสาวคุณเก่งนักเก่งหนาไงล่ะ ทำอีท่าไหนถึงได้เป็นแบบนี้อีกไม่ทราบ ดูซิจนป่านนี้ยังไม่โผ่หัวลงมาเลย”

ใบปลิวโยนไปใส่หน้าสามีอย่างไม่อีนังขังขอบอะไร เพราะสไบแพรอยู่ในอารมณ์โกรธจัด บวกกับความเกลียดชังลูกเลี้ยงเป็นทุนอยู่แล้ว เมื่อมีอะไรที่พลาดพลั้งมาผู้เป็นแม่เลี้ยงจึงพร้อมจะเล่นงานเต็มที

“มีอะไรกันคะคุณพ่อ” พิมมาดารีบเดินแกมวิ่งลงบันไดมา

“นี่มันอะไรกันยายเนย แกทำงานประสาอะไรถึงได้เป็นแบบนี้ ห๊า! นี่แกแกฉลาดหรือโง่กันแน่ เรื่องถึงได้รั่วไหลไปหาไอ้พวกนั้นได้ แล้วทีนี้จะทำยังไง พรุ่งนี้ก็จะจัดงานแล้ว ยกเลิกก็ไม่ได้ด้วย นี่ตกลงว่าฉันจะวางมือให้แกทำเองไม่ได้เลยใช่มั้ย ฉันจะต้องเป็นขี้ข้าหาเงินเลี้ยงแกไปจนตายเลยหรือไง จะไม่ให้ฉันเบาใจและพักผ่อนได้อย่างสบาย ๆ บ้างเลยเหรอ ฉันผิดหวังในตัวแกจริงๆ” แม้น้ำคำของผู้เป็นแม่เลี้ยงจะด่าทอให้เจ็บปวดสักแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้เทียบเท่ากับคำพ่อผู้ให้กำเนิดแม้แต่น้อย น้ำตาหญิงสาวไหลรินออกมาอย่างยากจะห้ามใจได้อีกต่อไปแล้ว

“เนยไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ได้ยังไงค่ะคุณพ่อ เนยก็พยายามทำดีที่สุดแล้ว”

“แต่มันยังดีไม่พอ ฉันผิดหวังในตัวแกจริง ๆ เลยนะ แกนี่ไม่มีสมองเหมือนกับแม่แกไม่มีผิด ทำไมไม่ได้เลือดเก่ง ๆ จากฉันไปบ้างห๊า! ฉันจะทำยังไงกับแกดี ฉันว่าแกอย่าทำเลยไอ้ตำแหน่งนี้ ไปล้างส้วมจะดีกว่า ถ้าไม่มีสมองขนาดนี้”

“คุณพ่อ!” เสียใจเป็นที่สุดกับคำพ่อที่พูดไม่คำนึงถึงความรู้สึกของลูก

“อย่ามามองหน้าฉันแบบนี้นะ จะไปไหนก็ไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าลูกโง่ ๆ อย่างแก”

คนลูกไม่อาจจะทนฟังคำด่าทอได้อีกต่อไปแล้ว รีบวิ่งออกไปนอกบ้านแล้วขับรถออกไปด้วยความเร็ว น้ำตาที่ไหลรินพร้อมกับเสียงร้องไห้โฮออกมาหากไม่อยู่ในรถ ผู้คนที่ต่างติดไฟแดงอยู่ตรงแยกคงจะได้ยินกันถ้วนหน้า เสียงแตรจากรถคันหลังบีบดังลั่น เมื่อสัญญาณไฟเขียวขึ้นแล้วแต่เธอไม่ยอมออกรถ ตั้งสติได้จึงรีบขับไปด้วยความเร็ว โดยไม่รู้ว่าจะขับไปไหน แต่สุดท้ายก็เลี้ยวเข้าที่ทำงานด้วยความเคยชิน เพราะในชีวิตของเธอ นับตั้งแต่เรียนจบก็ดูเหมือนจะเห็นแต่บ้านกับที่ทำงานเพียงเท่านั้น

เพราะรู้ดีว่าพ่อไม่ได้ปลื้มนัก ด้วยเกิดมาเป็นผู้หญิง แถมน้องต่างแม่ยังเป็นผู้ชาย และพ่อก็แสดงออกให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งว่ารักน้องมากกว่า จึงไม่แปลกเลยสักนิดหากหญิงสาวจะเปรียบตัวเองเป็นเหมือนส่วนเกินของครอบครัว ไม่ว่าจะพยายามทำตัวดีแค่ไหน จะพยายามพิสูจน์ตัวเองยังไง ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ทำให้พ่อปลื้มขึ้นมาเลย

ดวงหน้าน้อย ๆ ฟุบลงกับพวงมาลัยแล้วร้องไห้ออกมาดัง ๆ อยู่อย่างนั้น เมื่อนำรถเข้ามาจอดเทียบช่องจอดรถ เสียงดังของเครื่องยนต์เรียกให้สหภาพที่นำรถเข้ามาจอดในเวลาไล่เลี่ยกันถึงกับชะเง้อไปมองคนในรถ แม้กระจกจะติดฟิล์มมืด แต่เขาก็พอจะมองเห็นว่าคนอยู่ข้างในกำลังทำอะไรอยู่ แว้ปแรกที่ภาพนั้นปรากฏกับสายตา เขารู้สึกสงสารแม่สาวเย่อหยิ่งขึ้นมาทันใด แต่เรื่องราวในอดีตที่เขาประสบกับตัวเองก็ผุดขึ้นมาแทบจะพร้อม ๆ กัน



‘โอ๋ ๆ ๆ ลูกสาวแม่ อย่าร้องสิ แม่รักลูกนะคะ อย่างอแงนะ เดี๋ยวเย็น ๆ แม่จะไปหานะลูกรัก แล้วแม่จะซื้อขนมไปฝากนะคะ แม่มาทำงานนะลูก อีกไม่นานเราสองคนก็จะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า มีแม่ มีคุณพ่อ แล้วก็มีลูกสาวแม่ไง อย่าร้องนะคะคนเก่งของแม่ หยุดร้องไห้แล้วก็ให้พี่เขาแต่งตัวไปโรงเรียนได้แล้วลูก บ่าย ๆ แม่จะไปรับนะคะคนเก่ง แม่รักลูกจ้า’

เสียงสไบแพรพูดคุยโทรศัพท์อยู่มุมห้องรับแขก แม้จะพยายามพูดเบาแค่ไหน แต่เด็กชายสหภาพผู้ยืนอยู่ไม่ห่างก็ได้ยินทุกคำพูดของผู้หญิงที่เขาเกลียดเข้าไส้ เพราะหลังจากแม่ไปได้ไม่นาน พ่อก็เอาผู้หญิงคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะแม่เลี้ยงของเขา

‘นั่นใครอยู่ตรงนั้น ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้ออกมาไง’ สไบแพรตกใจจนสะดุ้ง เมื่อรู้ตัวว่ามีใครมาแอบฟังอยู่ไม่ห่าง จึงรีบวิ่งไปดู แล้วก็พบว่าเป็นไอ้เด็กเหลือขอที่ตัวเองเกลียดหน้านัก

‘อ้อ! ไอ้เด็กมีปัญหานี่เอง แกมาแอบฟังฉันทำไม แม่แกไม่บอกไม่สอนหรือไง ว่าการแอบฟังผู้ใหญ่มันเสียมารยาท คุณสมบัติผู้ดีนี่แกมีบ้างมั้ย หรือแกจะมีเลือดไพร่อย่างแม่แก’ มือรีบลากแขนเด็กชายออกมาจากที่หลบซ่อนให้เดินไปห้องนั่งเล่น ก่อนจะผลักแรง ๆ จนเด็กน้อยเซไปกองกับโซฟา

‘แกอย่ามาว่าแม่ฉันจะ แกนั่นล่ะไพร่ ผู้หญิงเลว แกมีลูกมีผัวแล้วแกยังจะมาหลอกพ่อฉันอีก ออกไปจากบ้านฉันนะ อีบ้า ฉันเกลียดแก ๆ’ เด็กน้อยร้องด่าด้วยความเกลียดชังในตัวหญิงตรงหน้าจนไม่อยากจะมองด้วยซ้ำ

‘ว๊าย! ไอ้เด็กบ้า ปากดีนักนะแก เดี๋ยวแม่ตบให้ฟันร่วงเลย’

‘แกนั่นล่ะปากดี นังผู้หญิงเลว แกออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว ฉันเกลียดแกได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียดแก’

‘อะไรกันน่ะตาภาพ ทำไมด่าน้าแพรอย่างนี้ ใครสั่งใครสอนให้เอาคำพูดต่ำ ๆ มาใช้’ ไพโรจน์เดินลงมาจากห้องนอนและทันได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูดออกไป สไบแพรเห็นเข้าทางจึงรีบวิ่งไปออดอ้อนพร้อมบีบน้ำตาให้เขาเห็น

‘คุณโรจน์ดูสิคะ คุณภาพด่าแพร ไม่รู้เอาคำพวกนี้มาจากไหนกันค่ะ แพรแค่เตือนว่าสายแล้วให้รีบไปโรงเรียนได้แล้ว คุณภาพก็มาด่ามาว่าแพรค่ะ นี่ดีนะคะที่คุณโรจน์มาได้ยินเอง ไม่งั้นแพรคงไม่กล้าบอกหรอกค่ะ กลัวจะไม่เชื่อว่าเด็กท่าทางเรียบร้อยอย่างคุณภาพจะมีกิริยาแบบนี้แอบแฝงอยู่’

‘นั่นสิตาภาพ ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้ หรือจะเป็นพวกที่โรงเรียน’

‘หรือไม่ก็คนเลี้ยงล่ะมั้งคะที่เสี้ยมสอนคุณภาพแบบนี้ แพรไม่โกรธคุณภาพหรอกค่ะ เด็กก็คือเด็ก เราอย่าเอามาเป็นอารมณ์เลยนะคะ เช้า ๆ แบบนี้อย่าอารมณ์เสียดีกว่าค่ะ’ มือลูบไล้ไปตามแผ่นออกที่มีไรขนขึ้นเต็มอย่างไม่คิดจะเกรงว่าเด็กจะเอาอย่าง

‘สงสัยฉันจะต้องว่าแม่เอี้ยงแล้วมั้ง อะไรสอนเด็กให้กระด้างกระเดื่อง’

‘พ่ออย่ามาว่าป้าเอี้ยงนะ อีนังคนนี้ต่างหากที่มารยา พ่อรู้มั้ยว่าเมื่อกี้นังนี่มันคุยกับลูกสาวมัน พอภาพมาได้ยินมันก็ว่าภาพ เห็นมั้ยภาพบอกแล้วว่ามันมีลูกมีผัวแล้ว พ่อก็ไม่ฟังยังจะเอามันมาในบ้านอีก ภาพเกลียดมัน พ่อได้ยินมั้ยว่าภาพเกลียดมัน’

‘เพี้ยะ’ มือพ่อที่ไม่เคยแม้สักครั้งจะใช้ความรุนแรงกับลูก แต่ครั้งนี้เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกพูดจาหยาบคายแบบนี้ออกมา และทันทีที่เห็นน้ำตาลูกเอ่อเต็มเบ้าและไหลออกมา หัวอกพ่อก็แทบจะสลาย

‘พ่อตบภาพทำไม ภาพไม่ได้ทำอะไรผิด พ่อไม่รักภาพแล้ว พ่อรักแต่นังนี่ ภาพเกลียดพ่อ ได้ยินมั้ยครับว่าภาพเกลียดพ่อ’ เด็กน้อยวิ่งร้องไห้ขึ้นบันไดไปด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เพราะไม่เคยมีสักครั้งที่พ่อจะลงไม้ลงมือให้ลูกต้องเจ็บช้ำใจ

‘ภาพ! ลูกพ่อ...’ มือบางรีบดึงแขนไพโรจน์ไม่ให้ตามขึ้นไปโอ๋ลูกได้

‘คุณโรจน์คะ แพรว่าอย่าเพิ่งกวนคุณภาพตอนนี้เลยนะคะ ต่างคนก็ต่างอารมณ์ร้อนด้วยกันทั้งคู่ มาเถอะค่ะ แพรจะทำให้คุณโรจน์อารมณ์ดีขึ้นเองนะคะ เชื่อแพรสิคะคนดี มาค่ะ’ เนื้อเนียนกระแซะเข้าไปใกล้ ๆ อกหนา มือก็โอบกอดไปที่เอว ลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง ทำเอาอารมณ์ขุ่นมัวของไพโรจน์กลับแปรเปลี่ยนไปเป็นอื่นอย่างไม่ยากเย็นนัก สักพักเขาก็ยอมตามสไบแพรขึ้นไปด้านบน โดยไม่ได้สนใจจะมองไปยังประตูห้องนอนของลูกเลยสักนิด



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:41:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:41:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1243





<< บาดแผลที่ไม่เคยลืม   ศัตรูอยู่แค่ปลายจมูก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account