สายธารรักซาตาน
อสมา อิศรานุกูล

หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้น ๆ ผู้ร่ำรวยจากฐานพ่อแม่เล็กน้อย แล้วต่อยอดมาเองจนกลายเป็นเศรษฐีหนุ่มโสดผู้ถูกคนในวงสัมคมจับตามอง โดยเฉพาะผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่หมายจะจับเขามาแนบครอง แต่เขากลับทำตัวไม่เป็นที่โดดเด่น และหนีสังคมอันน่าเบื่อไปใช้ชีวิตอยู่ในสวนเพียงลำพังอย่างเงียบสงบ เพราะได้รับบาดแผลจากครอบครัวในอดีต โดยมีผู้พ่อเป็นคนหยิบยื่นให้







ปาลิตา พฤกษาชาติ

นักศึกษาสาวที่อีกหกเดือนจะจบปริญญาแล้ว จำเป็นจะต้องก้าวเข้ามาในชีวิตอสมาอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน เมื่อด้วงผู้เป็นแม่เลี้ยง กับนิรมลแม่แท้ ๆ ของตัวเองเอาที่สวนมาจำนองกับอสมาไว้ด้วยวงเงินสูงถึงห้าล้าน แต่ไม่มีปัญญามาไถ่ถอนเมื่อเลยเวลามามากแล้ว ด้วงที่ขี้เหล้าขี้บ่อนและเห็นแก่ตัว จึงรีบเสนอเอาลูกเลี้ยงอย่างปาลิตามาแลกกับหนี้ห้าล้านทันที นิรมลไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง อสมาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้เช่นกัน





นันทิตา

น้องเล็กของบ้านที่อสมารักและห่วงใยเสมอมา แต่หารู้ไม่ว่าน้องเขาเองคือคนที่นำความทุกข์ใจมาให้โดยไม่รู้ตัว





เจนนิเฟอร์

ภรรยาคนแรกและคนเดียวที่อสมารักมาตลอด และรู้สึกผิดไม่มีวันจืดจางกับความผิดพลาดจากชีวิตการแต่งงานในอดีต พลาดจนเขาไม่คิดจะย้อนกลับไปมีชีวิตแบบนั้นอีก ถ้าหากคนที่จะก้าวมาเป็นภรรยาอีกไม่ใช่เจนนิเฟอร์คนนี้



แต่เมื่อเขาเห็นปาลิตาแล้วก็เกิดสงสารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และกลัวว่าสักวันเด็กสาวจะต้องถูกด้วงทำมิดีมิร้ายด้วยแน่ ๆ เขาจึงตกลงใจรับข้อเสนอ โดยมีเงื่อนไขเพียงแค่ให้ปาลิตาอยู่รับใช้เขาสองปี จากนั้นเขาก็จะคืนที่สวนให้ทันที ปาลิตาที่มีสิงหาเป็นคนรักอยู่แล้วเสียใจร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเมื่อสงสารแม่จับใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้น ปาลิตาเกลียดเข้าไส้จนไม่เคยมองหน้าและไม่พูดด้วยเลย และความเกลียดชังนี้ก็ถูกเหมารวมไปถึงอสมาด้วย เพราะปาลิตา สิงหา และอริสา เพื่อนสนิทของปาลิตาและเป็นลูกของคนในสวนอสมาเอง

ต่างได้ยินกิติศัพท์ของอสมาดีว่าเพลบอยแค่ไหน เขาใช้เงินฟาดหัวผู้หญิงทุกคนที่เอาเรือนร่างมาบนเปรอเขาโดยไม่คิดจะจริงจังด้วยแม้แต่คนเดียว และถ้าใครคิดจะจับเขาด้วยวิธีปล่อยให้ท้อง เขาก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดนั่นคือให้ไปทำแท้ง และไม่เรียกใช้งาน ไม่ให้เงินอีก ผู้หญิงของเขาทุกคนจึงเกรงกลัวในเรื่องนี้มาก

ปาลิตาก็เป็นหนึ่งในนั้นที่กลัว แต่จะมีความเกลียดในตัวเขามากกว่า แม้จะต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขาตามลำพังแต่ก็จำใจมาเท่านั้น และจะหลับหูหลับตาทำหน้าที่ลูกหนี้จำนองให้เขาจนครบสองปี แล้วจะรีบหนีไปให้ไกลสุดไกลทีเดียว แต่อสมาไม่คิดจะเข้าใกล้ปาลิตาแต่อย่างใด นอกจากมอบหน้าที่ทำงานบ้านและทำอาหารให้เขาเท่านั้น ยังความงุนงงให้เธอไม่น้อย แต่นั่นเธอก็เห็นเป็นเรื่องดีที่สุด จึงทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องควบคู่กับการไปเรียนต่อให้จบ เพราะอสมามองเห็นความสำคัญในจุดนี้ จึงอนุญาตให้เธอไปเรียนต่อและรับเป็นคนส่งเสียเอง

นั่นทำให้ปาลิตาค่อยมองเขาในแง่ดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็ถูกลบล้างลงเรื่อย ๆ เมื่อเขาหอบผู้หญิงสวยเสด็จเข้ามาปรนเปรอในบ้านอย่างไม่เกรงใจเธอเลย แต่นั่นก็เป็นเรื่องดีอีกที่เธอจะได้ไม่ต้องมอบความสาวให้เขาเชยชม จะได้เก็บไว้ให้สิงหาคนรัก ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับการย้ายเข้ามาอยู่บ้านของอสมาเลย แม้จะระแคะระคายบ้างจากคนรอบข้าง และด้วงที่จงใจจะพูดให้สิงหารู้

ปาลิตาเห็นความดีของอสมาในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะความมีน้ำใจที่เขามีให้ต่อเธอ และน้อง ๆ ต่างพ่อที่จนกรอบแทบไม่มีข้าวจะกิน เขาก็แบ่งปันเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ไม่ขาด แต่ความปลื้มปีตินี้ ก็โลดแล่นไปพร้อม ๆ กับความเกลียดชังในตัวเขา ที่โหดร้ายทารุนกับผู้หญิงของเขาหลายคนที่มาบอกข่าวเรื่องการตั้งท้อง แล้วถูกเขาไล่ออกจากบ้านอย่างไม่ไยดี แต่ท้ายที่สุดความดีของเขาก็เอาชนะความเกลียดของเธอได้ เมื่อเธอเรียนจบแล้วเขาประสงค์จะเรียกใช้งานเธอเป็นครั้งแรก เธอก็ยินยอมพร้อมใจไม่ได้ขัดขืนเหมือนที่เคยคิดไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่กับเขาเลย

และความรักของปาลิตาก็พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดอสมา และได้ไปไหนต่อไหนหรือได้ข้าวของเงินทองอย่างที่ไม่เคยได้มาก่อน อสมาเองก็ปลื้มเธอไม่น้อย เพราะเป็นคนไม่ยุ่ง ไม่พูดมาก ไม่จู้จี้ขี้บ่น อยู่ใกล้ ๆ แล้วทำให้เขาสบายใจ ไม่อยากจะไปหาใครอีก ทั้งคู่ต่างแสดงความรักออกมาให้กันและกันผ่านแววตาอันหวานซึ้ง การกระทำอันอ่อนนุ่มที่หยิบยื่นให้กันไม่ว่างเว้น





ตามคำ ดุ ด่า ว่า กล่าว ตัก เตือน ของผองเพื่อนที่แสนดีจร้า

ช่วงนี้กันเกราเลยต้องออกจากป่าชั่วคราว เพื่อมามองตาดูชาวโลกบ้าง เลยถือโอกาสเอานิยายไปแปะไว้ที่เวปประจำ (แต่ไม่ค่อยได้เอานิยายไปลง) ให้อ่านกัน

และจะพยายามตามอัพให้ด่วนจี๋ ทันกับเวปอื่น ขอกำลังใจให้คนป่าด้วยนะคร้าาาาา

เหงาๆๆๆๆ ต้องการเพื่อนๆๆๆๆๆ มากดไล้ท์ มาแชร์ มาติชม ด่วนที่สุดจร้าาาาาา












Tags: พระเอกหนุ่มใหญ่ นางเอกสวยใส

ตอน: ปัญหาที่ไม่เคยได้ก่อ

“ว้า! ถึงไวจัง ยังคุยไม่จบเลย” สิงหาทำหน้าเสียดายส่งไปให้แฟนสาวที่หันไปหมายจะร่ำลาเข่าบ้านพอดี

“เมื่อไหร่เราจะได้แต่งงานกันนะ สิงอยากจะ...”

คนพูดอุบเอาไว้แล้วคว้ามือเล็กเรียวนุ่มขึ้นไปกุมไว้อย่างทะนุถนอนม ปานกลัวจะบอบช้ำเมื่อถูกอีกมือที่แข็งกระด้างหลายกร้านเพราะตรำงานสวนช่วยพ่อแม่ ปาลิตายิ้มให้คนรักอย่างเอียงอาย อีกใจนั้นก็เสียดายอยู่ไม่น้อยที่จะต้องแยกกันไปเสียที เพราะยังคุยไม่จบอย่างที่เขาว่า และก็คิดว่าต่อให้ยืนอยู่ทั้งคืนก็คงมีเรื่องสารพัดมาคุยไม่รู้จบแน่

“เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่ก็ได้ แอ้ไปนะเดี๋ยวแม่ดุเอา”

ก่อนที่จะปล่อยให้พ่อเลี้ยงเดินออกมาเห็นเข้าแล้วเอะอะโดวยวายเสียงดังคับสวนเช่นหลายครั้ง ปาลิตาจึงต้องรีบตัดไฟเสียแต่ต้นลมด้วยการดึงมือกลับช้า ๆ แต่อีกคนก็ไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ มิหนำซ้ำยังยกขึ้นไปจูบเบา ๆ อีกต่างหาก อาการอายจนหน้าแดงของปาลิตาเขาเห็นบ่อยครั้ง และยิ่งพอกพูนความรักให้มากขึ้นตาม เจ้าของมือไม่พูดอะไรนอกจากดึงมือออก แล้วรีบเดินแยกเข้าบ้านไปโดยไม่หันไปมองคนที่ยืนยิ้มร่ามองหลังคนรักไปเลย

“มาแล้วเหรอแอ้ นั่งก่อนสิแม่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”

เมื่อโผล่เข้าบ้านก็พบกับแม่นั่งหน้าเครียดรออยู่ก่อนแล้ว หากให้เดาก็คงไม่พ้นเรื่องที่พ่อเลี้ยงไปทำอะไรยุ่ง ๆ ไว้เป็นแน่ แต่ป่วยการจะถามไถ่เพราะเบื่อเต็มที

“แม่มีอะไรจ้ะ”

แม้ปาลิตาจะเป็นแค่ลูกชาวสวนฐานะย่ำแย่ แต่ด้วยเลือดในตัวพ่อผู้ผันตัวเองจากเจ้าของกิจการเอสเอ็มอีที่ต้องล้มเพราะพิษเศรษฐกิจจนการเงินอยู่ในภาวะชักหน้าไม่ถึงหลังมาเป็นชาวสวนก็แรงพอตัว ส่งให้ลูกสาวเพียงคนเดียวมีหน้าตาสวยผุดผาด ผิวขาวผ่อง รูปร่างผอมบางมากกว่าหญิงหลายคนจนมองเห็นเอวเล็กนิดเดียว จึงทำให้ดูสูงทั้งที่จริงก็อยู่ในขั้นมาตฐานหญิงไทยทั่วไปคือร้อยหกสิบกว่า ๆ เท่านั้น ผิดกับน้องชายทั้งสามคนซึ่งเป็นลูกของด้วงผิวจะดำกันหมด การพูดจาก็ออกไปทางกระโชกโฮกฮาก

ส่วนกิริยามารยาทและความรักดีนั้น เด็กทั้งสี่ได้มาจากนิรมลเกือบทั้งหมด ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ปาลิตาเฝ้าขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าเสมอ ๆ ที่ประธานสิ่งเหล่านี้มาให้ ดังนั้นเธอกับน้องจึงไม่เคยมีปัญหากันด้วยมีสายเลือดดีกับแย่เลย ตรงกันข้ามเธอกลับรักน้อง ๆ ประหนึ่งเป็นสายเลือดเดียวกันก็ไม่ปาน น้องก็รักเธอไม่แพ้กันด้วย

“ถ้าแอ้ไม่ช่วยแม่คราวนี้ แม่เห็นทีจะอยู่เป็นคนไม่ได้แน่ ช่วยแม่ด้วยนะลูก แม่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใครแล้วนอกจากแอ้ลูกสาวแม่คนเดียวเท่านั้น ยกโทษให้แม่ด้วยนะแอ้นะ แม่มันไม่ดีแม่มันชั่ว”

นิรมลร้องไห้คร่ำครวญออกมาด้วยความเสียใจ ในเรื่องที่จะต้องบอกกล่าวให้ลูกรู้ แม้จะรักผัวใหม่มากจนตัดใจเลิกลาจากกันไม่ได้ ทั้งที่ผัวนำแต่เรื่องร้ายมาให้นับตั้งแต่ตกร่องปล่องชิ้นเป็นผัวเมียกันมา แต่ความรักลูกก็มีเต็มอกจนล้นเปี่ยมยากนักจะแยกแยะออกมาได้ จึงกลายเป็นปัญหาคาราคาซังไม่จบสิ้นมาจนบัดนี้

“แม่จ้ะ ใจเย็น ๆ สิ มีเรื่องอะไรบอกแอ้มาก่อน เราจะได้หาทางแก้ด้วยกันไงจ้ะ”

ปาลิตาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะช่วยอะไรแม่ได้ เพราะทุกวันนี้ก็ต้องแบมือขอเงินไปเรียนอยู่เลย แต่เมื่อเห็นน้ำตาแม่พรั่งพรูออกมา ลูกผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความกตัญญูก็อดสงสารไม่ได้ นิรมลพยายามหยุดร้องไห้แล้วรวบรวมความกล้าเข้าตัว ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ลูกฟัง

“อะไรนะแม่! นี่แม่พูดอย่างนี้กับแอ้ได้ยังไง ความคิดใครกันแม่ พ่อใช่มั้ยแม่”

ผู้เป็นลูกแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองในเรื่องที่ได้ยินเช่นกัน จึงอุทานออกมาดัง ๆ ด้วยไม่คาดคิดมาก่อนเลยในชีวิต และแน่นอนว่าเธอจะไม่ยอมทำตามที่แม่ขอร้องเด็ดขาด

“ใจเย็นก่อนนะแอ้ เรายังไม่รู้ว่าคุณท่านจะตกลงหรือเปล่า พรุ่งนี้นัดให้เราไปหาอีกที ถ้าคุณท่านไม่รับข้อเสนอนี้เราก็ค่อยขอผ่อนผันไปเป็นทางอื่นก็ได้ คุณท่านมีเงินเยอะแยะอาจจะมีทางช่วยเราที่ดีกว่านี้ก็ได้นะแอ้ ไปหาพรุ่งนี้ก่อนแล้วค่อยว่ากันนะแอ้นะ อย่าเพิ่งใจร้อน”

แม้คำแม่จะฟังไม่รุนแรงนัก แต่มีหรือที่ผู้ลูกจะเย็นใจเอาไว้ได้ อริสาคือคนที่เธอโทรศัพท์ไปหาและเล่าทุกอย่างให้ฟังอย่างไม่ปิดบัง แต่ทั้งคู่ก็เหมือนคนกำลังจะจมน้ำอยู่กลางทะเล หวังพึ่งหรือรั้งรอให้ใครช่วยใครไม่ได้ เพราะต่างกำลังแหวกว่ายตะกุยตะกายพาตัวเองไปให้ถึงฝั่งก่อนที่จะหมดแรงลงไปก่อนเท่านั้น มีเพียงสิ่งเดียวที่พอจะแบ่งปันกันได้นั่นก็คือการส่งคำปลอบใจเห็นอกเห็นใจในปัญหาของกันและกันโดยไม่ทอดทิ้ง

“พรุ่งนี้แอ้ก็ลองมาดูลาดเลาก่อนก็ได้ เป็นยังไงแล้วค่อยว่ากันนะ อย่าเพิ่งคิดมาก นอนพักให้หายเหนื่อยก่อน”

อริสาปลอบใจเพื่อนด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงานกว่าทุกครั้ง ปาลิตารู้ดีว่าไม่ได้ทำให้สบายใจขึ้น แต่ก็รู้อีกว่าเพื่อนจะทำอะไรได้มากไปกว่านี้อีก จึงรับคำแล้ววางสาย แต่ก็แทบจะข่มตาให้หลับได้เลยในคืนนั้น เพราะเอาร้องไห้จนแทบสว่างหลับลงเพราะความเหนื่อยอ่อนได้เพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้น

เช้าวันพรุ่งเมื่อออกจากห้องมาก็พบกับหน้าพ่อเลี้ยงไม่เอาถ่านนั่งรออย่างใจจดใจจ่อแล้ว ปาลิตาบอกได้คำเดียวว่าเกลียดจนไม่อยากมองหน้า ไม่อยากเสวนาพาทีด้วย หรือถ้าเป็นไปได้ไม่อยากร่วมวงสาคณายาทด้วยเลยตลอดชีวิตนี้ ด้วงเองก็คงมีความรู้สึกไม่แพ้ลูกเลี้ยงนักหรอก ยกเว้นการได้เข้าหาที่พยายามมาหลายครั้งสำเร็จลงนั่นล่ะ ความรู้สึกนี้ถึงจะแปรเปลี่ยนไป สายตาเขียวปัดส่งให้เมียเป็นการสะกิดเตือนความจำ ผู้เมียจึงทำตาม

“แอ้มากินข้าวกินปลาก่อนนะลูก แล้วจะได้ไปบ้านคุณท่านกัน”

ปาลิตาให้เกลียดคำนี้ของแม่นัก กว่าสิบปีแล้วที่คำว่า ‘คุณท่าน’ ติดปากคนในละแวกนี้มา ด้วยบุญคุณทางอำนาจเงินที่นายคนนี้หยิบยื่นให้ แม้ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าภายใต้ใบหน้าอันเรียบเฉย ท่าทีสุขุมเยือกเย็น และดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาปราณีนั้น กลับเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม อำมหิต ใช้เงินฟาดหัวคนเป็นว่าเล่น

“แอ้ไม่หิว แม่เสร็จเมื่อไหร่ก็เรียกแล้วกัน”

เมื่อเกลียดคนที่กำลังจะไปพบกับเกลียดหน้าพ่อเลี้ยงมาสุมรวมกัน ทำให้เธอหันหน้ากลับเข้าห้องตามเดิมทั้งที่ตั้งใจจะไปหาคนรัก ซึ่งบ้านอยู่ลึกไปอีกจนสุดซอย เพื่อปรึกษาปัญหานี้ด้วยตัวเองดีกว่าจะโทรไป แต่ก็เปลี่ยนใจในวินาทีนั้น เพราะรู้ดีว่าบ่าย ๆ ก็จะได้เจอกันอยู่แล้ว หญิงสาวจึงพยายามทำใจเย็น แล้วตามแม่ไปพบคนที่เกลียดเข้าไส้ตอนสิบโมง



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:52:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:52:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 954





<< ผู้บุกรุกที่น่าสงสาร   ลูกหนี้ที่น่าสงสาร >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account