สายธารรักซาตาน
อสมา อิศรานุกูล

หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้น ๆ ผู้ร่ำรวยจากฐานพ่อแม่เล็กน้อย แล้วต่อยอดมาเองจนกลายเป็นเศรษฐีหนุ่มโสดผู้ถูกคนในวงสัมคมจับตามอง โดยเฉพาะผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่หมายจะจับเขามาแนบครอง แต่เขากลับทำตัวไม่เป็นที่โดดเด่น และหนีสังคมอันน่าเบื่อไปใช้ชีวิตอยู่ในสวนเพียงลำพังอย่างเงียบสงบ เพราะได้รับบาดแผลจากครอบครัวในอดีต โดยมีผู้พ่อเป็นคนหยิบยื่นให้







ปาลิตา พฤกษาชาติ

นักศึกษาสาวที่อีกหกเดือนจะจบปริญญาแล้ว จำเป็นจะต้องก้าวเข้ามาในชีวิตอสมาอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน เมื่อด้วงผู้เป็นแม่เลี้ยง กับนิรมลแม่แท้ ๆ ของตัวเองเอาที่สวนมาจำนองกับอสมาไว้ด้วยวงเงินสูงถึงห้าล้าน แต่ไม่มีปัญญามาไถ่ถอนเมื่อเลยเวลามามากแล้ว ด้วงที่ขี้เหล้าขี้บ่อนและเห็นแก่ตัว จึงรีบเสนอเอาลูกเลี้ยงอย่างปาลิตามาแลกกับหนี้ห้าล้านทันที นิรมลไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง อสมาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้เช่นกัน





นันทิตา

น้องเล็กของบ้านที่อสมารักและห่วงใยเสมอมา แต่หารู้ไม่ว่าน้องเขาเองคือคนที่นำความทุกข์ใจมาให้โดยไม่รู้ตัว





เจนนิเฟอร์

ภรรยาคนแรกและคนเดียวที่อสมารักมาตลอด และรู้สึกผิดไม่มีวันจืดจางกับความผิดพลาดจากชีวิตการแต่งงานในอดีต พลาดจนเขาไม่คิดจะย้อนกลับไปมีชีวิตแบบนั้นอีก ถ้าหากคนที่จะก้าวมาเป็นภรรยาอีกไม่ใช่เจนนิเฟอร์คนนี้



แต่เมื่อเขาเห็นปาลิตาแล้วก็เกิดสงสารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และกลัวว่าสักวันเด็กสาวจะต้องถูกด้วงทำมิดีมิร้ายด้วยแน่ ๆ เขาจึงตกลงใจรับข้อเสนอ โดยมีเงื่อนไขเพียงแค่ให้ปาลิตาอยู่รับใช้เขาสองปี จากนั้นเขาก็จะคืนที่สวนให้ทันที ปาลิตาที่มีสิงหาเป็นคนรักอยู่แล้วเสียใจร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเมื่อสงสารแม่จับใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้น ปาลิตาเกลียดเข้าไส้จนไม่เคยมองหน้าและไม่พูดด้วยเลย และความเกลียดชังนี้ก็ถูกเหมารวมไปถึงอสมาด้วย เพราะปาลิตา สิงหา และอริสา เพื่อนสนิทของปาลิตาและเป็นลูกของคนในสวนอสมาเอง

ต่างได้ยินกิติศัพท์ของอสมาดีว่าเพลบอยแค่ไหน เขาใช้เงินฟาดหัวผู้หญิงทุกคนที่เอาเรือนร่างมาบนเปรอเขาโดยไม่คิดจะจริงจังด้วยแม้แต่คนเดียว และถ้าใครคิดจะจับเขาด้วยวิธีปล่อยให้ท้อง เขาก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดนั่นคือให้ไปทำแท้ง และไม่เรียกใช้งาน ไม่ให้เงินอีก ผู้หญิงของเขาทุกคนจึงเกรงกลัวในเรื่องนี้มาก

ปาลิตาก็เป็นหนึ่งในนั้นที่กลัว แต่จะมีความเกลียดในตัวเขามากกว่า แม้จะต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขาตามลำพังแต่ก็จำใจมาเท่านั้น และจะหลับหูหลับตาทำหน้าที่ลูกหนี้จำนองให้เขาจนครบสองปี แล้วจะรีบหนีไปให้ไกลสุดไกลทีเดียว แต่อสมาไม่คิดจะเข้าใกล้ปาลิตาแต่อย่างใด นอกจากมอบหน้าที่ทำงานบ้านและทำอาหารให้เขาเท่านั้น ยังความงุนงงให้เธอไม่น้อย แต่นั่นเธอก็เห็นเป็นเรื่องดีที่สุด จึงทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องควบคู่กับการไปเรียนต่อให้จบ เพราะอสมามองเห็นความสำคัญในจุดนี้ จึงอนุญาตให้เธอไปเรียนต่อและรับเป็นคนส่งเสียเอง

นั่นทำให้ปาลิตาค่อยมองเขาในแง่ดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็ถูกลบล้างลงเรื่อย ๆ เมื่อเขาหอบผู้หญิงสวยเสด็จเข้ามาปรนเปรอในบ้านอย่างไม่เกรงใจเธอเลย แต่นั่นก็เป็นเรื่องดีอีกที่เธอจะได้ไม่ต้องมอบความสาวให้เขาเชยชม จะได้เก็บไว้ให้สิงหาคนรัก ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับการย้ายเข้ามาอยู่บ้านของอสมาเลย แม้จะระแคะระคายบ้างจากคนรอบข้าง และด้วงที่จงใจจะพูดให้สิงหารู้

ปาลิตาเห็นความดีของอสมาในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะความมีน้ำใจที่เขามีให้ต่อเธอ และน้อง ๆ ต่างพ่อที่จนกรอบแทบไม่มีข้าวจะกิน เขาก็แบ่งปันเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ไม่ขาด แต่ความปลื้มปีตินี้ ก็โลดแล่นไปพร้อม ๆ กับความเกลียดชังในตัวเขา ที่โหดร้ายทารุนกับผู้หญิงของเขาหลายคนที่มาบอกข่าวเรื่องการตั้งท้อง แล้วถูกเขาไล่ออกจากบ้านอย่างไม่ไยดี แต่ท้ายที่สุดความดีของเขาก็เอาชนะความเกลียดของเธอได้ เมื่อเธอเรียนจบแล้วเขาประสงค์จะเรียกใช้งานเธอเป็นครั้งแรก เธอก็ยินยอมพร้อมใจไม่ได้ขัดขืนเหมือนที่เคยคิดไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่กับเขาเลย

และความรักของปาลิตาก็พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดอสมา และได้ไปไหนต่อไหนหรือได้ข้าวของเงินทองอย่างที่ไม่เคยได้มาก่อน อสมาเองก็ปลื้มเธอไม่น้อย เพราะเป็นคนไม่ยุ่ง ไม่พูดมาก ไม่จู้จี้ขี้บ่น อยู่ใกล้ ๆ แล้วทำให้เขาสบายใจ ไม่อยากจะไปหาใครอีก ทั้งคู่ต่างแสดงความรักออกมาให้กันและกันผ่านแววตาอันหวานซึ้ง การกระทำอันอ่อนนุ่มที่หยิบยื่นให้กันไม่ว่างเว้น





ตามคำ ดุ ด่า ว่า กล่าว ตัก เตือน ของผองเพื่อนที่แสนดีจร้า

ช่วงนี้กันเกราเลยต้องออกจากป่าชั่วคราว เพื่อมามองตาดูชาวโลกบ้าง เลยถือโอกาสเอานิยายไปแปะไว้ที่เวปประจำ (แต่ไม่ค่อยได้เอานิยายไปลง) ให้อ่านกัน

และจะพยายามตามอัพให้ด่วนจี๋ ทันกับเวปอื่น ขอกำลังใจให้คนป่าด้วยนะคร้าาาาา

เหงาๆๆๆๆ ต้องการเพื่อนๆๆๆๆๆ มากดไล้ท์ มาแชร์ มาติชม ด่วนที่สุดจร้าาาาาา












Tags: พระเอกหนุ่มใหญ่ นางเอกสวยใส

ตอน: ก้าวพลาดหรืออย่างไร

แสงสุรีย์กำลังจะลาลับยอดหมู่ไม้ริมบึงแล้ว แต่เจ้าของประโยคที่ยุติปัญหาทุกอย่างในวันนี้ได้ กลับยังคงนั่งกอดเข่าอยู่ข้างเตียงนอนในห้องที่ความมืดเริ่มโรยตัวลงทุกที ๆ หญิงสาวจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเดินเข้ามาอยู่ในนี้ได้ยังไง และเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าตอนนี้เสียใจเหลือเกินกับการตัดสินใจโดยไม่ได้ยั้งคิด ด้วยเพราะทุกอย่าง ทุกคนรอบตัวต่างรุมรบเร้าเพื่อได้คำตอบ แต่ตอนนี้ผู้คนเหล่านั้นกลับหายหน้าไปไหนกันแล้ว แม้แต่ผู้เป็นเจ้าของบ้าน เจ้าของชีวิตของเธอ ถึงแม้จะเพียงแค่สองปีก็ตามที แต่มันก็คงเป็นเวลานานชั่วกัปชั่วกัลย์สำหรับเจ้าของหัวใจดวงน้อย ๆ ที่กำลังบอบช้ำอยู่ในขณะนี้

เสียงเคาะประตูห้องดังอยู่นานแล้ว แต่เจ้าของก็ยังไม่คิดจะลุกไปเปิดแต่อย่างใด แม้จะรู้ว่าคนอยู่ด้านนอกคือป้าสายหยุดก็ตามที เพราะห้วงเวลานี้สิ่งเดียวที่ปรารถนาคือระบายความคับแค้นใจผ่านหยาดหยดใส ๆ ให้ไหลรินอาบออกมามากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่ก็นั่งอยู่ไม่ได้อีกแล้ว เมื่อเสียงเรียกดังเข้ามาคืออริสาเพื่อนรักนั่นเอง และทันทีที่ประตูเปิดออก อกของเพื่อนก็ที่พักพิงสำหรับเธอในเวลานี้ อกที่เธอเห็นว่าช่างอบอุ่นเหลือคณา อริสาดูเหมือนจะเข้าใจดีว่าเพื่อนรู้สึกยังไงในเวลานี้ จึงได้แต่ลูบหลังเพื่อนไปมาเพื่อปลอบประโลม

“แก้มเราจะทำยังไงดี ทำไมชีวิตเราถึงเป็นแบบนี้ ทำไม ๆ ๆ”

คำถามปนเสียงสะอื้นไห้ไม่อาจหักห้ามน้ำตาของอริสาได้อีกต่อไปแล้ว จึงปล่อยให้ไหลรินออกมาเพื่อแบ่งเบาความทุกข์จากเพื่อน แม้จะน้อยนิดหรือช่วยอะไรไม่ได้เลย แต่สองชีวิตที่กำลังจะจมสู่ห้วงทะเลก็ไม่อาจมีหนทางอื่นที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้ว

“ทำใจดี ๆ ไว้นะแอ้ ทุกอย่างอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็ได้ สงบสติอารมณ์ก่อน แล้วเราค่อยมาหาทางแก้ไขทีหลัง แต่ตอนนี้แก้มว่าแอ้กินอะไรหน่อยเถอะนะ ป้ามนบอกว่ายังไม่ได้กินตั้งแต่เช้าแล้วไม่ใช่เหรอ”

อริสาพยายามจะเรียกสติเพื่อนให้กลับเข้าหาตัว อีกทั้งยังห่วงปากท้องเพื่อนที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย แต่สำหรับผู้กำลังว่ายวนอยู่อ่าวปัญหาอันยิ่งใหญ่หาได้คิดคำนึงถึงเรื่องนี้ไม่ นอกจากอยากจะหาทางออกที่ดีให้ตัวเอง

“เรากินอะไรไม่ลงหรอกแก้ม” อริสาไม่คิดจะเซ้าซี้อีกต่อไปด้วยรู้ว่าเป็นใครก็คงจะไม่มีกระจิตกระใจจะคิดเรื่องปากท้องแน่ จึงได้แต่นั่งปลอบใจและอยู่เป็นเพื่อนจนเกือบจะเที่ยงคืนถึงได้คิดจะกลับบ้าน

“นอนกับแอ้ที่นี่ไม่ได้เหรอแก้ม”

ปาลิตาไม่อยากอยู่ในบ้านหลังนี้เลยสักนิด แม้จะรู้ว่าเจ้าของบ้านไปข้างนอกยังไม่กลับมาก็ตามที แต่ขึ้นชื่อว่าเกลียดแล้ว แม้แต่ชายคาก็ไม่อยากอยู่ร่วมด้วยซ้ำ แล้วไหนจะต้องทำหน้าที่ลูกหนี้ไถ่ถอนอีก ซึ่งไม่รู้ว่าเขาจะให้ทำอะไรบ้าง และถึงแม้จะไม่อยากคิด แต่เธอก็รู้ว่ามีเรื่องนั้นปะปนอยู่ด้วยแน่

“ไม่ได้หรอกแอ้ เจ้าของบ้านดุยังกับอะไรดี เขาไม่ให้ใครเข้าก่อนได้รับอนุญาตด้วยซ้ำ นี่ถ้ารู้ว่าแก้มแอบมาหาแอ้นะ พ่อกับแม่จะต้องถูกดุแน่เลย แก้มจะรีบกลับก่อนที่เขาจะมาดีกว่า ไว้พรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะ”

อันที่จริงแล้วอริสาไม่อยากห่างเพื่อนสักนิด แต่เพราะกลัวพ่อแม่จะลำบากจึงจำต้องจากไป ปาลิตาก็จนด้วยเหตุผลจึงไม่รบเร้าต่อ เมื่อเพื่อนคล้อยหลังไปแล้ว ร่างอันอ่อนแรงก็แทบจะคลานขึ้นไปนอนขดอยู่กับเตียงก็ว่าได้ แต่ก็ไม่อาจหลับตาลง เพราะใจกำลังหวาดกลัวในสิ่งที่ใกล้จะเกิดขึ้นกับตัว โดยมีเจ้าของบ้านเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สองปีกับการพลีเรือนร่างบำเรอความใคร่บนเตียงให้เขามันช่างเป็นช่วงเวลาอันโหดร้ายเกินบรรยายเหลือเกิน แล้วก็อดคิดไปถึงคนรักไม่ได้ ยิ่งคิดอกยิ่งเจ็บหนักขึ้น ๆ จนต้องยกมือขึ้นลูบไปมาเพื่อระบายความเจ็บให้ทุเลาลุง

ความรัก ความฝัน ความหวัง ทั้งหมดทั้งมวลที่มีกำลังจะพังลงแล้วด้วยประโยคสั้น ๆ เมื่อเช้านี้ ประโยคที่แม่บังเกิดเกล้า พ่อเลี้ยงเจ้าปัญหา และเจ้าหนี้หน้าเลือดต้องการจะได้ยิน เพื่อจะได้ยุติทุกอย่างลง ร่างเล็กนอนคิดสารพัดเรื่อง พลิกไปพลิกสารพัดท่านับร้อยตลบกว่าจะหลับตาลงได้เมื่อใกล้รุ่ง สะดุ้งตื่นอีกทีตอนเก้าโมงเช้า เพราะเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ตามด้วยเสียงอริสา จึงรีบเปิดประตูให้ทันที

“ตื่นนานหรือยังแอ้ แม่เป็นห่วงเลยให้มาดู รีบไปอาบน้ำเถอะแล้วออกมากินข้าว คุณอสมาไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืน แต่แม่บอกว่าอีกไม่นานคงมา แก้มไปก่อนนะถ้าอยากคุยกันยังไงก็เดินไปหาที่บ้านแล้วกัน แก้มไม่อยากมายุ่งย่ามที่นี่มาก”

สิ้นคำอริสาก็วิ่งหายไปทันที ด้วยเพราะไม่ชอบหน้าเจ้าของบ้านหนึ่ง กลัวพ่อแม่จะเดือดร้อนหนึ่ง จึงเป็นเหตุให้ไม่ค่อยจะมาแถวนี้หากไม่จำเป็น หรือจะพูดให้ถูกคืออริสาเองก็แทบจะไม่ได้เห็นหน้าอสมาเลยในแต่ละวัน ด้วยเขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัว แม้กระทั่งคนงานในสวนเขาก็จ้างไว้ไม่กี่คนและให้สร้างบ้านพักอยู่ไกลหูไกลตามาก จะเรียกใช้งานทีเขาจะกดมือถือไปหาเอง

ปาลิตารีบทำตามคำแนะนำเพื่อนแต่โดยดี ข้าวต้มตรงหน้าเรียกให้เดินไปหาแล้วตักเข้าปากช้า ๆ แต่ก็กลืนลงท้องได้ไม่กี่คำเพราะตื้อจนไม่อยากกินต่อ เมื่อเจ้าของบ้านหรือเจ้าหนี้ไม่อยู่ การสำรวจสิ่งรอบตัวจึงเกิดขึ้นในทันที เมื่อวานมาบ้านนี้โดยไม่ได้สนใจอะไร วันนี้เธอจึงเห็นว่าข้าวของเครื่องใช้ในล้วนแต่ทันสมัยแทบทั้งสิ้น ซึ่งขัดกับเรือนไทยนักหนา ทุกซอกทุกมุมถูกออกแบบมาอย่างลงตัว เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดสะอ้านจนหาฝุ่นไม่เจอ

หญิงสาวเปิดประตูเข้าอีกห้องพบว่าเป็นที่ของเขาจึงรีบปิดทันที จากนั้นก็เดินไปมุมเล็ก ๆ ซึ่งทำไว้สำหรับปรุงอาหารง่าย ๆ แต่ก็มีเครื่องครัวครบครัน ส่วนโต๊ะกินข้าวมีเพียงตัวเดียวที่ตั้งอยู่ระเบียงกว้างขวางทั้งในส่วนที่อยู่ใต้หลังคาและยื่นออกไปพ้นหลังคา โต๊ะใหญ่อีกตัวตั้งอยู่ริมหน้าต่างห้องนั่งเล่น มีหนังสือหลายต่อหลายเล่มวางเรียงกันไว้อย่างเป็นระเบียบ ให้เดาก็คงจะเป็นที่นั่งทำงานสำหรับเศรษฐีอย่างเขาแน่ ริมฝีปากบางเบะยิ้มอย่างเหยียดหยันในความมีมากจนล้นของเขา

‘แม่งไม่รู้มันจะรวยไปถึงไหนกัน ที่ดินแถวนี้ก็กว้านซื้อไปเป็นร้อย ๆ ไร่ จะอยู่อะไรนักหนาตัวก็ไม่มีครอบครัวไม่มีลูกมีเมีย วัน ๆ อยู่ซะที่ไหน ขับรถราคาหลายสิบล้านวันละคันร่อนหน้าร่อนหลังไปทั่ว ขากลับก็หอบผู้หญิงมาเอา พอเบื่อแล้วแม่งก็โยนเงินฟาดหัว’

‘นี่จะบอกให้นะ ผู้หญิงที่มันหอบมาอยู่ด้วย ถ้าใครคิดจะจับมันด้วยการปล่อยให้ท้องนะ รู้หรือเปล่าว่ามันทำยังไง มันเอาเงินฟาดหัวนังนั่นแล้วให้ไปรีดเด็กออก มันบอกว่ามันไม่อยากมีลูก มันไม่พร้อมจะเป็นพ่อคน กูได้ยินแล้วก็อยากจะหัวเราะ ไอ้นี่ท่าจะบ้า รวยจนล้นฟ้าแม่งบอกไม่พร้อม ทีกูหาเช้าแดกดึกมีลูกหัวปีท้ายปีก็ยังพร้อมจะเลี้ยงมันเลย’

‘ตอนเราจะไปยืมเงินมันนะ แม่งพูดดีสารพัดให้ไม่อั้น พอมันจะเอาคืนมันก็มาเร่งวันสองวัน พอหาไม่ทันแม่งก็ยึดที่เลย ดูสิไอ้ที่มันมีมาก ๆ น่ะมันก็ยึดเขามาทั้งนั้นล่ะ ไอ้ห่านี่แม่งรวยแล้วรังแกคนจนว่ะ’

และอีกหลายต่อหลายเสียงที่เคยวิ่งมาเข้าหูเธอในหลายต่อหลายปีมาแล้ว นี่ก็เป็นเหตุให้ความเกลียดชังในตัวเขาสะสมขึ้นเรื่อย ๆ ๆ จนกลายเป็นกองใหญ่เท่าภูเขาเหล่ากอขึ้นมากระทั่งวันนี้ วันที่ตัวเธอเองต้องตกมาเป็นเหยื่ออำนาจเงินของเขา ด้วยน้ำมือพ่อเลี้ยงขี้เหล้า ขี้พนัน ยิ่งคิดถึงข้อนี้ขึ้นมาน้ำตาที่เพิ่งจะเหือดแห้งก็กลับเอ่อล้นออกมาอีก จนต้องรีบเข้าไปเก็บตัวในห้องมืด ๆ คนเดียว อีกทั้งยังไม่อยากเจอหน้าเจ้าของบ้านที่เพื่อนรักบอกว่าอีกไม่นานคงกลับ

แต่จวบจนเย็นย่ำสายันห์ลาลับทิวไม้ไปแล้ว ก็ยังไม่เห็นจะมีวี่แววของเขาแต่อย่างใด จึงรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก อาหารเย็นจึงพอมีรสชาติขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะได้กินกับเพื่อนรัก ได้พูดคุยกันบ้างเพื่อขจัดความทุกข์ให้จางหายไป แม้เพียงชั่วเสี้ยวนาทีก็ตามmu

“พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า แก้มจะมารอรับอยู่หน้าสะพานนะแอ้ สิงหาจะรออยู่หน้าสวนเหมือนเดิม แก้มโทรบอกให้มารับที่นี่เลยไม่ต้องไปบ้านแอ้ก่อน สิงถามใหญ่เลยว่าทำไมติดต่อแอ้ไม่ได้ นัดจะไปกินก๋วยเตี๋ยวท้ายซอยวันก่อนก็ไม่ไปตามนัด แก้มไม่รู้จะตอบว่าอะไรดีเลยบอกว่าแม่ไม่สบายแอ้เลยมานอนเป็นเพื่อน”

ชื่อนี้ทำให้อาหารอยู่ในปากแทบจะกลืนลงคอไปไม่ได้ จากนั้นหัวใจดวงน้อย ๆ ก็เต้นแรงขึ้น ๆ ประหนึ่งจะหลุดออกมานอกอกเพราะอาการเจ็บหนึบกำลังเล่นงานจนกระตุ้นต่อมน้ำตาให้เอ่อไหลอาบสองแก้มอย่างง่ายดาย อริสาดูเหมือนจะรู้และเข้าใจดี แต่ก็จำจะต้องเอ่ยถึงคนรักของเพื่อน เพื่อถามไถ่ว่าจะเอายังไงต่อไป

“แอ้ยังไม่รู้จะเอายังไงดีเลยแก้ม ในสัญญาเขาห้ามไม่ให้คบใครในระหว่างนี้ด้วย”

เพราะตอนที่ลงนามในสัญญาที่เจ้าหนี้เตรียมไว้ด้วยนั้น ปาลิตาไม่สนใจจะอ่านโดยละเอียดแต่อย่างใด เพิ่งจะได้หยิบมาอ่านเมื่อบ่ายนี้ จึงรู้ว่าเจ้าหนี้นั้นรอบคอบสมเป็นนักธุระกิจผู้ร่ำรวย เพราะข้อผูกมัดสารพัดที่มีจนลูกหนี้ผู้จนตรอกอย่างเธอไม่อาจหาทางดิ้นให้หลุดได้

“อะไรนะ นายนี่ท่าจะบ้า อย่างนี้มันเข้าข่ายริดรอนสิทธิมนุษยชนนี่ แล้วอย่างนี้จะไปพบหน้าผู้ชายคนไหนได้ เกิดวันดีคืนดีอยากได้สวนขึ้นมาไม่หาเรื่องเอาหรอกเหรอ” ความปากไวของอริสาเกิดขึ้นทันที เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องนี้ ปาลิตาพยายามสกัดกลั้นความขุ่นเคืองให้ได้ก่อนจะเอ่ยตักเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี

“จะทำยังไงได้ล่ะแก้ม ก็เราต้องง้อเขานี่ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็คงไม่มีวันได้สวนของพ่อกลับคืนแน่ มีกฏเราก็ต้องระวังไม่ให้ผิดกฏ ไม่งั้นทุกอย่างจะจบ แก้มก็เหมือนกันนะ จะคิดจะพูดอะไรก็ต้องระวังปากไว้บ้าง กำแพงมีหูประตูมีช่อง เกิดเรื่องถึงเขาเมื่อไหร่ลุงกับป้าจะลำบาก”

“รู้แล้ว ๆ แต่มันอดไม่ได้นี่แอ้ ห้ามขนาดนี้ก็แล้วทำไมไม่ห้ามไปเสียทุกอย่างเลยล่ะ ตั้งแต่ห้ามญาติมาเยี่ยม ห้ามเพื่อนมาเยี่ยม ห้ามไปโน่นไปนี่ ห้ามกินโน่นกินนี่ จะได้อดตายไปข้างหนึ่งเลย หรือก็เป็นเหมือนนักโทษไปเลย” อริสาไม่วายบ่นขณะตักข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย

“ข้อนั้นเขาก็ห้ามด้วย ยกเว้นเรื่องกินที่ไม่ได้ห้าม” ข้าวในปากอริสาแทบจะกระเด็นออกมาใส่จานเสียด้วยซ้ำ เมื่อเพื่อนพูดจบ ความอร่อยในมื้อเย็นแทบจะหมดสิ้นไปพอ ๆ กับอารมณ์จะคุยที่กำลังจะหมดไปด้วย

“งั้นแก้มกลับบ้านดีกว่า ท่านเจ้าคุณของพ่อกับแม่มาเจอเข้ารับรองได้ระเห็ดออกไปอยู่ที่อื่นแน่”



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:54:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:54:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 988





<< ลูกหนี้ที่น่าสงสาร   เขตแดนของลูกหนี้ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account