สายธารรักซาตาน
อสมา อิศรานุกูล

หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้น ๆ ผู้ร่ำรวยจากฐานพ่อแม่เล็กน้อย แล้วต่อยอดมาเองจนกลายเป็นเศรษฐีหนุ่มโสดผู้ถูกคนในวงสัมคมจับตามอง โดยเฉพาะผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่หมายจะจับเขามาแนบครอง แต่เขากลับทำตัวไม่เป็นที่โดดเด่น และหนีสังคมอันน่าเบื่อไปใช้ชีวิตอยู่ในสวนเพียงลำพังอย่างเงียบสงบ เพราะได้รับบาดแผลจากครอบครัวในอดีต โดยมีผู้พ่อเป็นคนหยิบยื่นให้







ปาลิตา พฤกษาชาติ

นักศึกษาสาวที่อีกหกเดือนจะจบปริญญาแล้ว จำเป็นจะต้องก้าวเข้ามาในชีวิตอสมาอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน เมื่อด้วงผู้เป็นแม่เลี้ยง กับนิรมลแม่แท้ ๆ ของตัวเองเอาที่สวนมาจำนองกับอสมาไว้ด้วยวงเงินสูงถึงห้าล้าน แต่ไม่มีปัญญามาไถ่ถอนเมื่อเลยเวลามามากแล้ว ด้วงที่ขี้เหล้าขี้บ่อนและเห็นแก่ตัว จึงรีบเสนอเอาลูกเลี้ยงอย่างปาลิตามาแลกกับหนี้ห้าล้านทันที นิรมลไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง อสมาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้เช่นกัน





นันทิตา

น้องเล็กของบ้านที่อสมารักและห่วงใยเสมอมา แต่หารู้ไม่ว่าน้องเขาเองคือคนที่นำความทุกข์ใจมาให้โดยไม่รู้ตัว





เจนนิเฟอร์

ภรรยาคนแรกและคนเดียวที่อสมารักมาตลอด และรู้สึกผิดไม่มีวันจืดจางกับความผิดพลาดจากชีวิตการแต่งงานในอดีต พลาดจนเขาไม่คิดจะย้อนกลับไปมีชีวิตแบบนั้นอีก ถ้าหากคนที่จะก้าวมาเป็นภรรยาอีกไม่ใช่เจนนิเฟอร์คนนี้



แต่เมื่อเขาเห็นปาลิตาแล้วก็เกิดสงสารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และกลัวว่าสักวันเด็กสาวจะต้องถูกด้วงทำมิดีมิร้ายด้วยแน่ ๆ เขาจึงตกลงใจรับข้อเสนอ โดยมีเงื่อนไขเพียงแค่ให้ปาลิตาอยู่รับใช้เขาสองปี จากนั้นเขาก็จะคืนที่สวนให้ทันที ปาลิตาที่มีสิงหาเป็นคนรักอยู่แล้วเสียใจร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเมื่อสงสารแม่จับใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้น ปาลิตาเกลียดเข้าไส้จนไม่เคยมองหน้าและไม่พูดด้วยเลย และความเกลียดชังนี้ก็ถูกเหมารวมไปถึงอสมาด้วย เพราะปาลิตา สิงหา และอริสา เพื่อนสนิทของปาลิตาและเป็นลูกของคนในสวนอสมาเอง

ต่างได้ยินกิติศัพท์ของอสมาดีว่าเพลบอยแค่ไหน เขาใช้เงินฟาดหัวผู้หญิงทุกคนที่เอาเรือนร่างมาบนเปรอเขาโดยไม่คิดจะจริงจังด้วยแม้แต่คนเดียว และถ้าใครคิดจะจับเขาด้วยวิธีปล่อยให้ท้อง เขาก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดนั่นคือให้ไปทำแท้ง และไม่เรียกใช้งาน ไม่ให้เงินอีก ผู้หญิงของเขาทุกคนจึงเกรงกลัวในเรื่องนี้มาก

ปาลิตาก็เป็นหนึ่งในนั้นที่กลัว แต่จะมีความเกลียดในตัวเขามากกว่า แม้จะต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขาตามลำพังแต่ก็จำใจมาเท่านั้น และจะหลับหูหลับตาทำหน้าที่ลูกหนี้จำนองให้เขาจนครบสองปี แล้วจะรีบหนีไปให้ไกลสุดไกลทีเดียว แต่อสมาไม่คิดจะเข้าใกล้ปาลิตาแต่อย่างใด นอกจากมอบหน้าที่ทำงานบ้านและทำอาหารให้เขาเท่านั้น ยังความงุนงงให้เธอไม่น้อย แต่นั่นเธอก็เห็นเป็นเรื่องดีที่สุด จึงทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องควบคู่กับการไปเรียนต่อให้จบ เพราะอสมามองเห็นความสำคัญในจุดนี้ จึงอนุญาตให้เธอไปเรียนต่อและรับเป็นคนส่งเสียเอง

นั่นทำให้ปาลิตาค่อยมองเขาในแง่ดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็ถูกลบล้างลงเรื่อย ๆ เมื่อเขาหอบผู้หญิงสวยเสด็จเข้ามาปรนเปรอในบ้านอย่างไม่เกรงใจเธอเลย แต่นั่นก็เป็นเรื่องดีอีกที่เธอจะได้ไม่ต้องมอบความสาวให้เขาเชยชม จะได้เก็บไว้ให้สิงหาคนรัก ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับการย้ายเข้ามาอยู่บ้านของอสมาเลย แม้จะระแคะระคายบ้างจากคนรอบข้าง และด้วงที่จงใจจะพูดให้สิงหารู้

ปาลิตาเห็นความดีของอสมาในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะความมีน้ำใจที่เขามีให้ต่อเธอ และน้อง ๆ ต่างพ่อที่จนกรอบแทบไม่มีข้าวจะกิน เขาก็แบ่งปันเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ไม่ขาด แต่ความปลื้มปีตินี้ ก็โลดแล่นไปพร้อม ๆ กับความเกลียดชังในตัวเขา ที่โหดร้ายทารุนกับผู้หญิงของเขาหลายคนที่มาบอกข่าวเรื่องการตั้งท้อง แล้วถูกเขาไล่ออกจากบ้านอย่างไม่ไยดี แต่ท้ายที่สุดความดีของเขาก็เอาชนะความเกลียดของเธอได้ เมื่อเธอเรียนจบแล้วเขาประสงค์จะเรียกใช้งานเธอเป็นครั้งแรก เธอก็ยินยอมพร้อมใจไม่ได้ขัดขืนเหมือนที่เคยคิดไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่กับเขาเลย

และความรักของปาลิตาก็พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดอสมา และได้ไปไหนต่อไหนหรือได้ข้าวของเงินทองอย่างที่ไม่เคยได้มาก่อน อสมาเองก็ปลื้มเธอไม่น้อย เพราะเป็นคนไม่ยุ่ง ไม่พูดมาก ไม่จู้จี้ขี้บ่น อยู่ใกล้ ๆ แล้วทำให้เขาสบายใจ ไม่อยากจะไปหาใครอีก ทั้งคู่ต่างแสดงความรักออกมาให้กันและกันผ่านแววตาอันหวานซึ้ง การกระทำอันอ่อนนุ่มที่หยิบยื่นให้กันไม่ว่างเว้น





ตามคำ ดุ ด่า ว่า กล่าว ตัก เตือน ของผองเพื่อนที่แสนดีจร้า

ช่วงนี้กันเกราเลยต้องออกจากป่าชั่วคราว เพื่อมามองตาดูชาวโลกบ้าง เลยถือโอกาสเอานิยายไปแปะไว้ที่เวปประจำ (แต่ไม่ค่อยได้เอานิยายไปลง) ให้อ่านกัน

และจะพยายามตามอัพให้ด่วนจี๋ ทันกับเวปอื่น ขอกำลังใจให้คนป่าด้วยนะคร้าาาาา

เหงาๆๆๆๆ ต้องการเพื่อนๆๆๆๆๆ มากดไล้ท์ มาแชร์ มาติชม ด่วนที่สุดจร้าาาาาา












Tags: พระเอกหนุ่มใหญ่ นางเอกสวยใส

ตอน: ตำแหน่งใหม่

ตีห้าครึ่งคือเวลาที่ลูกหนี้สาวต้องตื่นขึ้น สิ่งแรกที่ทำคือสำรวจตัวเองก่อน เมื่อไม่พบใครหรือสิ่งใดผิดปกติค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย ไม่นานก็ตั้งสติได้จึงรีบพาตัวเองออกจากห้องเพื่อทำความสะอาดก่อนที่เจ้าหนี้จะตื่น ซึ่งเหลืออีกหลายชั่วโมง งานเก็บกวาดด้านนอกจึงค่อย ๆ ถูกขจัดออกไปอย่างไม่รีบร้อน เมนูในตอนเช้าวันนี้เป็นเพียงข้าวต้มปลากับสลัดผักรวมและกาแฟนเท่านั้น อีกทั้งมีเรียนคาบบ่ายทุกอย่างสำหรับจึงไม่ยุ่งวุ่นวายเหมือนเมื่อวาน ใกล้เวลาต้องเตรียมอาหาร จึงกลับเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัวให้รัดกุมกว่าเดิมแทนที่จะเป็นชุดนอนที่เป็นกางเกงขายาวและเสื้อแขนยาว แม้จะไม่บางและไม่น่าเกลียด แต่รู้ดีว่าไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใส่ทำกับข้าว

อสมาออกมาจากห้องแล้วตรงไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ระเบียงเช่นทุกวัน หันไปมองครัวกลับไม่พบใครเลย อยากจะคิดว่าอีกคนยังไม่ตื่น แต่ดูจากสิ่งรอบตัวแล้วเห็นว่าถูกปัดกวาดไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว จึงเดาได้ว่าคงกำลังหลบไปทำอะไรสักอย่างโดยไม่อยากให้เป็นที่รบกวนเขานั่นเอง ยิ้มอย่างพึงพอใจปรากฏออกมาเล็กน้อย เมื่อคนที่มาอยู่ด้วยเข้าใจอะไรง่าย ๆ โดยไม่ต้องพูดซ้ำซากมากมาย

ความเพลิดเพลินกับข่าวตามคอลัมน์ต่าง ๆ ทั้งไทยและเทศ ทำให้เขาไม่เห็นแม่ครัวตั้งหม้อปรุงอาหารแต่อย่างใด รู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อมีกลิ่นข้าวต้มหอมกรุ่นโชยมาเตะจมูกแล้ว เขาพับหนังสือพิมพ์ในมือแล้วเดินไปนั่งประจำที่เพราะรู้ว่าตัวเองลืมเวลาไปหลายนาทีแล้ว กาแฟร้อน ๆ และสลัดจัดไว้พร้อมสรรพทันที คนทำก็ปลีกตัวจากไปทันทีไม่แพ้กัน จนเขาไม่ทันได้หันไปมองด้วยซ้ำ

โต๊ะสำหรับไว้เตรียมหุงหาอาหารที่ระเบียงหลังบ้านคือทำเลของปาลิตาในการนั่งกินมื้อเช้าเงียบ ๆ อดสงสารในโชคชะตาตัวเองไม่ได้ที่ต้องกลายมาเป็นคนรับใช้อย่างไม่คาดมาก่อน แต่คิดไปก็ป่วยการในเมื่อเรื่องเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไม่ควรมานั่งเสียใจอยู่อีก นอกจากเดินหน้าและอดทนให้เวลาแห่งความทุกข์ผ่านพ้นไป แล้วค่อยเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่ที่ยังกังขาอยู่มากนั่นคือ จะมีคนที่ได้หัวใจเธอไปครองพร้อมที่จะเดินร่วมทางด้วยหรือไม่ หากชีวิตนี้ต้องมีมลทินติดตัวไปด้วย

แม้จะคาดเดาไม่ได้ แต่เธอก็ตั้งมั่นเอาไว้แล้วว่าจะก้าวเดินต่อไป ไม่ว่าจะมีคนที่รักหรือไม่ก็ตาม เมื่อสรุปให้ตัวเองได้ดังนั้นแล้วจึงรีบตักข้าวเข้าปากพอเสร็จก็ไม่วายหันไปมองอีกคนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมหนังสือพิมพ์ จึงเลี่ยงเข้าไปเก็บกวาดห้องนอนตัวเองก่อน กลับออกมาอีกทีพบว่าเขามานั่งที่โต๊ะทำงานแล้ว จึงตรงไปเก็บโต๊ะจนแล้วร้อย ล้างเก็บทุกอย่างก่อนจะยืนละล้าละลังอยู่ระเบียงหลังบ้าน นานเกือบสิบนาทีจึงเดินเข้าไปหาเขา

“เอ่อ! ฉันจะมาขอเข้าไปทำความสะอาดในห้องค่ะ” อสมายังคงจ้องอยู่กับเอกสารในแฟ้ม ขณะพยักหน้าอนุญาต ไม่นานเขาก็นึกขึ้นได้จึงหันกลับไปหาคนที่กำลังจะก้าวเข้าห้องนอนเขา

“ทีหลังไม่ต้องขอฉันก็ได้นะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้อยากทำอะไรก็ทำได้เลย ไม่ต้องมายืนคอยให้เสียเวลา” แม้จะขัดเคืองใจอยู่บ้างแต่ปาลิตาก็หันกลับมาตอบรับเบา ๆ จนเขาแทบไม่ได้ยิน

“ค่ะ”

จากนั้นก็หอบอุปกรณ์ทำความสะอาดเข้าไปในห้องนอนที่เห็นว่ากว้างขวางกว่าบ้านทั้งหลังของเธอเสียอีก ในห้องมีเครื่องใช้ไม่มากชิ้นนัก หากแต่เตียงนอนนั้นใหญ่โตหรูหรา ให้เดาก็คงจะเป็นไม้สักเนื้อดีราคาแพง และแน่นอนว่าบ้านทั้งหลังรวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ก็คงจะเป็นไม้สักเช่นกัน อีกครั้งที่ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มจนแทบจะเป็นเส้นตรง เมื่อใจให้ชิงชังผู้เป็นเจ้าของยิ่งนัก จนอดค่อนขอดในใจไม่ได้

‘ก็มีเงินนี่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยยังไงก็ได้ ใครจะว่าอะไร แม้แต่ใช้ซื้อคนยังได้เลย’

เตียงนอนคือที่สำหรับการเริ่มต้นงานเก็บกวาด ทุกคำบอกเล่าของสายหยุดหญิงสาวนำมาปฏิบัติอย่างครบถ้วน ข้าวของในห้องวางอยู่ยังไงก็ต้องเหมือนเดิมห้ามเคลื่อนย้ายไปไหน เครื่องนอนทั้งหมดต้องเปลี่ยนทุก ๆ สามวัน ยกเว้นผ้าห่มเปลี่ยนอาทิตย์ละครั้ง โต๊ะทำงานอีกตัวในห้องถูกเช็ดถูอย่างละเอียด หนังสือและเอกสารทุกอย่างถูกจัดไว้ดังเดิม ห้องน้ำก็ต้องขัดให้เอี่ยมอ่อง แห้งสนิท ผ้าเช็ดตัวและเครื่องใช้สำหรับอาบน้ำหากหมดก็ต้องหามาเปลี่ยนอย่างครบถ้วน กว่างานจะเสร็จก็กินเวลาเกือบสองชั่วโมง มือบางยกขึ้นไปปาดเหงื่อออกจากแก้มลวก ๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน

ออกจากห้องนอนเขาแล้วปาลิตาก็ไปล้างไม้ล้างมือเพื่อเตรียมทำมื้อเที่ยงไว้ให้เขาก่อนจะไปเรียน ร่างเล็กค่อย ๆ เดินตามสะพานเพื่อตรงไปทางบ้านสายหยุด หนุ่มใหญ่ละสายตาจากงานตรงหน้ามองตามหลังเด็กสาวไปครู่หนึ่ง แล้วก็กลับมาก้มลงอ่านเอกสารในแฟ้มดังเดิม มือถือดังขึ้นเมื่อรู้ว่าเป็นใครเขาก็รีบรับ จากนั้นงานต่าง ๆ ก็สั่งผ่านเลขาผู้เก่งกาจและทำงานด้วยกันมานานนับสิบปี

ปาลิตากลับเข้าบ้านในเวลาไม่นานนักก็ตรงไปที่ประจำสำหรับเตรียมมื้อเที่ยง ซึ่งวันนี้เป็นข้าวผัดปูกับซุปหัวหอม แม่ครัวคนเดิมบอกรายละเอียดมาแล้ว เธอก็แค่นำมาทำตามเท่านั้น แม้จะพยายามไม่ทำให้เสียงรบกวนเขามากแค่ไหน แต่การทุบกระเทียมก็ยังไม่วายสะเทือนถึงโสตประสาทอยู่ดี ไม่นานกลิ่นหอมจนจะกลายเป็นฉุนก็ลอยไปกระทบจมูก แต่เขาก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและทำงานดังเดิม

เที่ยงตรงคือเวลาที่เขาเดินไปนั่งโต๊ะ และข้าวผัดปูร้อน ๆ ก็ถูกยกมาวางลงตรงหน้า พร้อมน้ำซุปกับมะละกอสุกจากต้นหลังบ้านสายหยุดตัดเป็นชิ้นพอดีคำ ด้านบนเพิ่มการแกะสลักขึ้นมาเล็กน้อย ดูน่ากินกว่าที่คนเดิมทำมา เขาไม่ได้ถามไถ่อะไรเพียงแค่พยักหน้าเพื่อเป็นการขอบคุณ แล้วลงมือกินเงียบ ๆ ส่วนปาลิตาก็เลี่ยงเข้าห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปเรียน กลับออกมาพบว่าเขายังนั่งอยู่ที่เดิม ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะเดินไปเก็บถ้วยชามได้ เพราะกลัวจะเข้าเรียนไม่ทัน

“ฉันอิ่มแล้วมาเก็บไปได้”

ดูเหมือนคนนั่งอยู่จะรู้ความในใจของอีกฝ่าย จึงเอ่ยปากบอกทั้งที่ยังนั่งในท่าเดิม ปาลิตารีบตรงไปอย่างไม่เกี่ยงงอนเพราะนั่นคือสิ่งที่ปรารถนาอยู่แล้ว อสมาเพียงแค่เบี่ยงตัวเล็กน้อยให้เก็บข้าวของได้ถนัดขึ้น หากแต่สายตายังไม่ยอมละจากหนังสือเล่มโปรด และเมื่อรู้สึกเหมือนเด็กสาวกำลังจะเดินไปทางสะพานเขาจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“ช่วยไปหยิบกระเป๋าสตางค์ในห้องนอนให้ฉันที”

ปาลิตาได้ยินไม่เต็มประโยคนัก จับใจความคำว่ากระเป๋าได้เท่านั้น แต่ก็ไม่กล้าถามซ้ำ เพราะกลัวจะถูกค่อนขอดว่าหูตึงเข้าให้ จึงเดินไปหาสิ่งที่เขาบอกพร้อมนำมาวางไว้ข้าง ๆ เขาแล้วทำท่าจะเดินไป แต่ก็ต้องหยุดฟังสิ่งที่เขาบอกก่อน

“เอาเงินนี่ไปเปิดบัญชีไว้แล้วเอาเลขที่มาให้ฉัน ส่วนนี่เอาไว้ใช้ระหว่างรอให้เงินโอนเข้า เย็นนี้ไม่ต้องทำอาหารเย็น ฉันจะกินมาจากข้างนอก” น้ำเสียงสั่งการนั้นห้วนเรียบเหมือนไม่เต็มใจ จนไม่อยากรับเงินมาด้วยซ้ำ

“รับไป แล้วจำไว้ให้ดีว่าฉันไม่ชอบพูดซ้ำ”

นั่นล่ะเงินสามพันบาทที่เขาควักออกมาวางไว้บนโต๊ะจึงถูกหยิบไป พร้อมอาการยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ก่อนจะค่อย ๆ เดินห่างออกไป และรีบเก็บเงินใส่กระเป๋าไว้อย่างดี เพราะนี่อาจจะต้องใช้ไปทั้งเดือนก็เป็นได้ ด้วยไม่รู้ว่าถ้าหมดแล้วจะขอจากใครได้อีก แม้แต่แม่เธอก็ไม่กล้าจะรบกวน ส่วนกับพ่อเลี้ยงนั้นไม่เคยแม้แต่จะคิดหวังพึ่ง

“เฮ้อ! ออกมาได้ซักทีนะแอ้ เร็วเข้าเดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน”

อริสาที่ยืนรออยู่ริมบึงเหมือนทุกวันมีอาการร้อนรนเมื่อเพื่อนมาช้า แต่ก็ไม่คิดจะตำหนิเลย เพราะรู้ดีว่าจะต้องทำงานสารพัดในบ้านหลังนั้น รวมทั้งต้องกลายเป็นเครื่องบำเรอความใคร่ให้พ่อเศรษฐีใหญ่บนเตียงด้วย

“แอ้ไม่กล้าออกมาต้องรอเก็บโต๊ะก่อน”

ปาลิตาอธิบายไปด้วยและรีบก้าวเดินโดยเร็ว สิงหายืนรออยู่ที่เดิม เพราะทั้งหมดเรียนคณะเดียวกัน วิชาเดียวกันและจะจบออกไปพร้อม ๆ กันดังที่ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว แต่ชายหนุ่มคงไม่รู้หรอกว่าบัดนี้คนรักหาได้มีอิสระที่จะโบกโบยบินไปทำตามล่าหาความฝันที่เคยวาดหวังเอาไว้ด้วยกันแต่แรกแล้ว

“แอ้ยังไม่หายโกรธป้ามนกับลุงด้วงอีกเหรอ แล้วมานอนบ้านแก้มนาน ๆ จะถูกเจ้าของสวนว่าเอาหรือเปล่า”

จนป่านนี้เรื่องทั้งหมดก็ยังไม่ถูกบอกกล่าวให้เขาฟัง ด้วยปาลิตาไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง และเมื่อบอกไปแล้วก็เดาไม่ออกว่าเขาจะเสียอกเสียใจมากแค่ไหน เผลอ ๆ อาจจะเสียการเรียนเอาในเทอมสุดท้ายก็เป็นได้ อาการถอนหายใจน้อย ๆ ระหว่างเดินไปด้วยกันจึงเกิดขึ้น

“มีอะไรหนักใจเหรอแอ้ บอกสิงได้นะไม่ใช่เอาแต่ถอนหายใจเฮือก ๆ อย่างนี้”

สิงหาผู้เฝ้าสังเกตอาการของแฟนสาวอยู่เงียบ ๆ ถามไถ่ขึ้น เมื่อเห็นเธอถอนหายใจออกมา เขาเองก็รู้ว่าคงไม่พ้นปัญหาในครอบครัวที่มักจะเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเป็นแน่ เมื่อทำอะไรไม่ได้มากในตอนนี้ เขาก็ได้แต่หวังว่าเรียนจบมีงานทำเมื่อไหร่จะรีบสู่ขอเธอแต่งงานและออกไปอยู่กินด้วยกันตามลำพังเท่านั้น นั่นคงจะเป็นหนทางเดียวที่จะเยียวยาปัญหาได้

“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะสิง แอ้ว่าเรารีบ ๆ เดินเถอะสายมากแล้ว”

ปาลิตยิ้มให้และปฏิเสธด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลแค่นั้น แล้วก็รีบก้าวเดินเร็วขึ้น เพื่อหลีกหนีคำถามที่จะตามมาจากคนรัก แม้ไม่รู้ว่าจะหนีไปได้สักกี่มากน้อย แต่ก็ไม่อยากทำให้เขาเสียใจในตอนนี้เลย ลำพังที่ตัวเองเสียใจก็มากพออยู่แล้ว หากจะต้องเห็นน้ำตาคนรักอีกเธอคงอกแตกตายเป็นแน่ อริสาเองก็อึดอัดไม่น้อย ด้วยไม่กล้าบอกเช่นกัน แม้จะคันปากยิบ ๆ แต่คำนวนดูแล้วเห็นว่าได้ไม่คุ้มเสียจึงปิดปากเงียบเอาไว้

หลังเลิกเรียนปาลิตาแวะไปเปิดบัญชีที่ห้างสรรพสินค้าก่อน จากนั้นทั้งสามต้องรีบกลับบ้านก่อนค่ำ เพราะทางเข้าลึกและเปลี่ยว สิงหาต้องมาส่งสองสาวก่อนแล้วจึงออกจะไปอีกที เพราะวันนี้เขามีคิวเล่นดนตรีกับเพื่อนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งนี่เป็นการหารายได้พิเศษสำหรับเขาเพื่อใช้เอาไว้จ่ายในแต่ละ วันโดยไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ แถมได้เผื่อแผ่มาถึงคนรักด้วย



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:59:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:59:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 1004





<< แม่ครัวใหม่   สาวในสต๊อก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account