Delusion เหลี่ยมรัก เล่ห์ลวง
(เรื่องต่อจาก Asylum หรือ ในกรงเพลิง สนพ.อินเลิฟ)
วุฒิสมาชิกแคเทรียน เนลีคาห์น แห่ง ดาวเคราะห์บาโรว์ ถูกลักพาตัวระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่่าตนเองกลายเป็นหนึ่งในหญิงสาวที่กลายเป็นสินค้าของ เอธาน เฌอราส หนึ่งในผู้มีอิทธิพลของกลุ่มเครส และได้ทราบว่าเขาจะขายเธอให้แก่ผู้ที่ให้ราคาดีที่สุด!
วุฒิสมาชิกแคเทรียน เนลีคาห์น แห่ง ดาวเคราะห์บาโรว์ ถูกลักพาตัวระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่่าตนเองกลายเป็นหนึ่งในหญิงสาวที่กลายเป็นสินค้าของ เอธาน เฌอราส หนึ่งในผู้มีอิทธิพลของกลุ่มเครส และได้ทราบว่าเขาจะขายเธอให้แก่ผู้ที่ให้ราคาดีที่สุด!
Tags: ต่างดาว, เซเฟรัส, คีเรี่ยน, ยูรัส, แคเทรียน
ตอน: ตอนที่ 4
มือใหญ่เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วยามปลดล็อคหม้อความร้อนไปพร้อมกับวางชามก้นตื้นสีขาวสองใบเรียงกันด้านข้าง ไอน้ำและกลิ่นอันเข้มข้นของสิ่งที่อยู่ภายในลอยกรุ่นขึ้นจากหม้อทันทีที่ฝาหม้อถูกเปิดออก รอจนควันสีขาวจางหายจึงตักสตูที่เคี่ยวทิ้งไว้ตลอดวันจนรสชาติของเนื้อ ผัก และเครื่องเทศเข้ากันเป็นเนื้อเดียวขึ้นมาชิม แล้วริมฝีปากบางก็คลี่ยิ้มด้วยความพึงใจเมื่อพบว่าอาหารที่ปรุงเตรียมไว้ตั้งแต่เช้าสำเร็จดังตั้งใจ
วุฒิสมาชิกดาวรีเอสหันไปเรียงขนมปังอบใหม่ใส่ลงในตะกร้าขนาดเล็กก่อนตักบูซท์ใส่ชามแล้วตกแต่งด้วยก้านผักสีแดงด้วยความชำนาญที่มี จัดอาหารทั้งหมดใส่ถาดส่งให้หุ่นยนต์รับใช้ยกไปวางบนโต๊ะที่ระเบียงริมสวนสวยซึ่งถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดีสำหรับอาหารค่ำที่กำลังจะมาถึงในไม่กี่นาทีต่อจากนี้
ยูรัสส่งสัญญาณให้แม่บ้านรุ่นเก่าแก่ไปเชิญหญิงสาวชาวบาโรวิทลงมาร่วมโต๊ะอาหารแล้วออกจากครัวมาจุดเทียนเกลียวสีขาวประดับคู่กับดอกไม้สีสันสดใสในแจกันขนาดเล็กกลางโต๊ะ รินไวน์ผลไม้สีเขียวอ่อนใสที่แช่จนเย็นจัดใส่แก้วก้านยาวรอการมาถึงของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
แสงจากดวงตะวันยามพลบค่ำอาบไล้ทุ่งหญ้าซึ่งกลายเป็นสีแดงอมส้มตามการผันแปรของถดูกาลริมทะเลสาบแซนกิลลีที่ไหวระริกตามสายลมดูงดงามลี้ลับน่าพิศวงสมใจชายหนุ่มเจ้าของสถานที่เช่นเดียวกับอากาศที่ยังไม่หนาวเย็นเกินไปนัก
คืนนี้เหมาะจริงๆ…
ดวงตาสีเขียวมรกตตรวจดูความเรียบร้อยของโต๊ะอาหารเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงของเป้าหมายกระทบพื้นดังเป็นจังหวะ ไม่นานร่างโปร่งบางในชุดกระโปรงยาวสีขาวก็ปรากฏตัวขึ้น ชายหนุ่มรอจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินมาหยุดยืนข้างโต๊ะจึงเลื่อนเก้าอี้ให้หล่อนตามมารยาทที่สุภาพบุรุษพึงกระทำแล้วทรุดตัวลงนั่งในเก้าอี้ตรงข้าม
“สี่วันที่ผมไม่อยู่นี่คุณเป็นยังไงบ้าง” เจ้าของบ้านเปิดบทสนทนาก่อนเมื่ออีกฝ่ายยังคงนั่งเงียบไม่ทักทายหรือไต่ถามถึงการจัดโต๊ะเป็นพิเศษนี้ “คงไม่โกรธผมหรอกนะ ปอร์เชีย เมื่อเช้าผมมีธุระด่วนต้องไปจัดการก็เลยไม่ได้รอทานอาหารกับคุณ กรุณาอย่าหงุดหงิดไปเลย”
แคเทรียนพิจารณาคำพูดของชายหนุ่มอย่างระมัดระวังและเยือกเย็นดังที่เคยกระทำมาตลอดหลายปี นอกจากเอ่ยวาจาและแสดงท่าทางเอาใจใส่ดูแลผู้อื่นตามมารยาทอันปกติของเขาแต่ไม่ธรรมดาสำหรับเธอแล้ว โต๊ะอาหารขนาดเล็กที่บังคับให้นั่งใกล้จนเข่าแทบชนกันประดับด้วยเทียนไขส่งกลิ่นหอมละมุน ดอกไม้แรกแย้มงดงาม อาหารหน้าตาน่ารับประทาน แถมรายล้อมด้วยทิวทัศน์สวยงามน่าประทับใจนั้นสร้างความประหลาดใจให้ไม่น้อย
“ขอบคุณที่ถามค่ะ แต่ฉันเกรงว่าจะให้คำตอบน่าตื่นเต้นกับคุณไม่ได้ เพราะชีวิตประจำวันที่นี่ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากทุกวัน และคุณเองก็คงจะทราบดีอยู่แล้ว” หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบขณะนึกดูแคลนวิธีการหลอกล่อเพศตรงข้ามระดับพื้นฐานของคู่สนทนาอยู่ในใจ
สมบูรณ์แบบจนน่าขยะแขยง…
วาจาแดกดันกลับอย่างสุภาพของผู้หญิงในปกครองเรียกรอยยิ้มขึ้นมาประดับใบหน้าคมคายทันที วุฒิสมาชิกหนุ่มมองสีหน้าสงบนิ่งของอีกฝ่ายด้วยแววตาที่ทำให้คนถูกมองรู้สึกไม่ไว้วางใจ หากยูรัสก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าเชื้อเชิญให้หล่อนลงมือรับประทานอาหารตรงหน้า
“กินเถอะครับ คุณคงหิวแล้ว” มือใหญ่เลื่อนไปยังชามก้นตื้นที่มีหน้าตาเหมือนสตูแทนคำบอกให้ทราบว่าควรจะเริ่มจากอาหารจานไหน “ผมรับรองได้เลยว่ามื้อนี้คุณต้องติดใจแน่ นี่คือบูซท์ อาหารพื้นเมืองของเรา คุณต้องกินคู่กับขนมปัง แล้วแกล้มด้วยสลัด”
ใบหน้าขาวจัดก้มลงสำรวจอาหารตรงหน้าด้วยความสนใจเกินปกติขณะคลี่ผ้าเช็ดปากคลุมตัก แน่ใจว่าสตูตรงหน้าคือสิ่งที่ส่งกลิ่นหอมอวลจนตนเองสงสัยว่ามีสิ่งใดอยู่ภายในขณะรับประทานอาหารจืดชืดเป็นมื้อเที่ยงด้วยไม่อาจเปิดหม้อความร้อนที่ถูกตั้งเวลาไว้ได้ การไปเยือนคฤหาสน์ของตระกูลแอสทราอุสแต่ละครั้งในช่วงหลังมักจะเป็นทางการมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกรายละเอียดของการต้อนรับจะประกอบไปด้วยสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เจ้าบ้านจะสามารถสรรหามารับรอง อาหารหน้าตาเรียบง่ายและวิธีการปรุงแบบพื้นๆจึงไม่มีโอกาสขึ้นโต๊ะให้เธอได้ลิ้มลองรสชาติและแยกแยะส่วนประกอบเลยสักครั้ง
แต่ถึงจะมีใครจัดขึ้นมาเธอก็คงไม่ได้สนใจเท่าไรนัก…
เพราะหากมีผู้ชายตรงหน้าร่วมโต๊ะด้วย เธอมักจะต้องใช้ความอดทนอดกลั้นในตัวมากเป็นพิเศษ…
แล้วครั้งนี้จะต่างจากครั้งอื่นๆตรงไหนกัน?
คิ้วสีทองคำขาวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยให้กับความเคยชินที่กลายเป็นนิสัยไม่น่าชื่นชมของตนเองโดยไม่รู้ตัวอย่างไม่ชอบใจนัก แล้วดวงตาสีฟ้าอ่อนจางกะพริบไล่ความทรงจำเก่าๆเมื่อข้อมูลบางประการลอยผ่านเข้ามาในสมอง
ในเมื่อเวลานี้เธอคือหญิงสาวที่ถูกซื้อมานาม ‘ปอร์เชีย’ มิใช่วุฒิสมาชิกแคเทรียน เนลีคาห์น ในสายตาอีกฝ่าย…
เหตุใดจึงต้องประพฤติตัวให้ยูรัสหัวเราะเยาะเหมือนเดิมด้วย?
หญิงสาวชาวบาโรวิทยืดแผ่นหลังก่อนคว้าแก้วไวน์สีสวยมาดื่มอึกใหญ่หลังตัดสินใจสู้กับคนตรงหน้าไม่ยอมถอย แล้วก็เผลอทำตาโตเมื่อกระแสร้อนวาบแล่นพล่านไปทั้งกายยามของเหลวเย็นเฉียบรสชาติหวานอ่อนไหลลงไปตามหลอดอาหาร อาการตัวแข็งของเธอส่งผลให้คนที่จับตาดูอยู่คลี่ยิ้มแช่มช้า
“ดื่มแบบนั้นอีกคุณได้เมาแน่”
“อะไรนะคะ” แคเทรียนถามหลังจากผลกระทบวูบวาบจากแอลกอฮอล์ผ่านพ้นไปจนสามารถรวบรวมสติที่กระจายไปในชั่วพริบตากลับมาใหม่อีกครั้งเช่นเดียวกับความหวาดระแวงเมื่อเห็นสีหน้าพอใจในตัวเองของอีกฝ่าย
“คุณเคยเมาบ้างไหม ถ้าจำไม่ผิด ผมไม่เคยเห็นคุณผ่อนคลายเลย ทุกครั้งที่เราคุยกันคุณมักมองผมด้วยสายตาระแวดระวังเหมือนคาดว่าผมจะโยนสัตว์เลื้อยคลานน่าขยะแขยงใส่หน้าคุณไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่ง” วุฒิสมาชิกหนุ่มชวนคุยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาละม้ายกำลังเปรยกับตนเอง หยุดชะงักชั่วครู่ก่อนดวงตาสีเขียวพร่างจะมองตรงมายังแก้มขาวเนียนที่เริ่มจะมีสีเลือดฝาดระเรื่อ “หรือคุณจะเป็นแบบนี้เฉพาะตอนที่ผมอยู่ด้วยล่ะ”
ประโยคสุดท้ายของคนนั่งตรงข้ามส่งผลให้ร่างโปร่งบางเลื่อนสายตามองตะกร้าขนมปังฟูนุ่มสีสวยป้องกันมิให้เขาจับได้ถึงความคิดเห็นส่วนตัวที่อาจประกาศออกไปทางนัยน์ตาสีไอซ์บลูว่าคำพูดนั้นถูกต้องมากเพียงใด เสตักบูซท์ขึ้นมาชิมแทนการตอบคำถามที่เป็นไปได้สูงว่าจะไร้มารยาทถึงขีดสุดหากหลุดปากออกไปแล้วก็ต้องชะงักเมื่อรสชาติของสตูมิได้ด้อยกว่าอาหารที่เสิร์ฟในแต่ละมื้อของตระกูลเขาเลย
“คุณทำอาหารเป็นจริงๆ”
วุฒิสมาชิกหนุ่มเลิกคิ้วให้กับอาการพึมพำของหญิงสาวก่อนจะเผยยิ้มมุมปากเมื่อเข้าใจถึงสิ่งที่หล่อนมิได้พูดออกมา มือใหญ่เลื่อนตะกร้าขนมปังส่งให้คนนั่งตรงข้ามทานคู่กับอาหารที่เขาปรุงแล้วเริ่มรับประทานบ้าง
“ถ้าผมต้องการให้คุณเชื่อในสิ่งที่ผมพูด ผมก็ควรจะแสดงให้คุณเห็นหลายๆครั้งสินะ”
แก้มที่ระเรื่อจากฤทธิ์เครื่องดื่มยิ่งแดงขึ้นยามได้ฟังความหมายแฝงเป็นนัยว่าตนเองดื้อรั้นไม่เคยไว้วางใจเขาเต็มสองหู น้ำ เมาที่ดื่มเข้าไปไม่ได้ช่วยให้เกิดความกล้าในการประพฤติตัวให้ต่างไปจากเดิม มิหนำซ้ำกลับทำให้ความเคยชินของ แคเทรียน เนลีคาห์น คนเดิมหวนคืนมาอย่างเต็มที่
แต่เป็นคนเดิมที่พร้อมจะตอบโต้ผู้ชายตรงหน้าด้วยวาจาเชือดเฉือน…
“ไม่ว่าใครจะเป็นคนพูด ฉันก็พร้อมจะเชื่อ ถ้าเขามีความจริงใจค่ะ”
“ผมเลยกลายเป็นคนไร้ความจริงใจไป” ริมฝีปากบางขยับยิ้มขันขณะจิบไวน์ช้าๆ “อยุติธรรมกับผมจริงนะ ลองคิดกลับกันบ้างสิครับว่าทุกอย่างที่ผมทำและพูดกับคุณล้วนเปี่ยมไปด้วยความจริงใจของผมทั้งนั้น เพียงแต่คุณไม่ยอมเชื่อเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความจริงพอๆกับการคงอยู่ของเซเฟรัสนี่”
“ทุเรศ” แคเทรียนพึมพำเบาๆยามพฤติกรรมการซื้อผู้หญิงมาเป็นเครื่องบำบัดความใคร่ของคนนั่งตรงข้ามที่ตนเองรู้เห็นอย่างเงียบๆมานานเด้งขึ้นมาในสมองอย่างรวดเร็วทันทีที่เขาพูดจบ
ทัศนคติน่ารังเกียจนี้ก็เป็นความจริงพอๆกับการคงอยู่ของเซเฟรัสเหมือนกัน!
ทว่าคำตอบในเชิงลบของเธอกลับทำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้างขึ้น
“คุณนี่ดื้อจริง”
คนดื้อเทความสนใจกลับไปยังอาหารตรงหน้าเมื่อไม่นึกอยากจะสนทนากับผู้ชายไร้ความจริงใจอีก ตัดสินใจหยุดก่อนจะพลาดท่าเสียทีให้กับคำพูดของยูรัสดังที่เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งหลายหนในอดีต แต่ไม่นานก็เผลอชะงักมือเมื่อรู้สึกว่าเข่าของอีกฝ่ายชนเข้ากับขาตนเอง และการขยับเพียงเล็กน้อยที่ส่งผลให้ขาข้างหนึ่งของชายหนุ่มแทรกเข้ามาวางระหว่างขาตนเองก็ทำให้คิ้วสีทอง คำขาวมุ่นเข้าหากัน ทว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดที่มีขึ้นในวินาทีต่อๆมาเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหารก็ไม่ทำให้เธอรำคาญใจแต่อย่างใด
ดวงตาสีมรกตเหลือบมองสาวงามประเมินอารมณ์ความรู้สึกของหล่อนขณะเริ่มรับประทานอาหารอย่างเงียบๆ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะไม่ตอบสนองเช่นเดียวกับผู้หญิงอื่นซึ่งมักชื่นชมการเตรียมอาหารมื้อค่ำของเขาเรื่อยไปจนถึงบทสนทนาที่ยกขึ้นมาพูดคุยกัน หากอาการสงบปากระวังคำพูดของร่างโปร่งบางก็ยังทำให้เขารู้สึกถึงการขัดขืนที่ได้รับอยู่ไม่เลิก ขนาดลองหยั่งเชิงด้วยการแกล้งขยับขาให้ชนกันแล้วแทรกเข่าเข้าไปตรงกลางอีกฝ่ายยังไม่มีอาการขัดเขินอึกอักหรือส่งสายตาเชื้อเชิญให้ลงมือกระทำมาก กว่าเดิมแบบหญิงสาวคนอื่นเลยสักนิด
อีกประการที่รบกวนจิตใจเขาอยู่ก็คือหญิงสาวมิได้แสดงอาการต่อต้านอย่างแข็งขันเหมือนในช่วงสัปดาห์แรกที่มาถึง การยืนยันอย่างหนักแน่นว่าตัวเองคือวุฒิสมาชิกหญิงที่หายตัวไปลดน้อยลงเมื่อเวลาล่วงผ่านมาเกือบเดือนจนแทบไม่มีการเอ่ยถึงอีกนั้นค่อนข้างน่าประหลาดใจเมื่อคำนึงถึงลักษณะดื้อรั้นไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆของอีกฝ่าย กิริยาสงบเสงี่ยมระมัดระวังตัวตลอดเวลาพบปะสนทนากันดำเนินไปตามปกติยกเว้นแต่ตอนที่เขาตั้งใจยั่วให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองมากกว่าเดิม
หากหล่อนยังรักษาท่าทีเช่นนี้ต่อไปก็น่าผิดหวังไม่น้อย…
น่าเบื่อจริงๆ…
การประมูลซื้อสินค้ามีชีวิตจากดาวโลกด้วยราคามหาศาลในแต่ละครั้งเขามิได้หวังเพียงแค่ร่างกายอันงดงามของสตรีเพศที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการปลดปล่อยความตึงเครียดทางกายของตนเอง หากยังต้องการไหวพริบสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดได้รับการฝึกฝนขัดเกลาศักยภาพมาแล้วไม่ว่าจะในด้านศาสตร์หรือศิลป์เพื่อการโต้ตอบสนทนาในหัวข้อต่างๆที่ยกมาด้วยความคิดสร้างสรรค์น่าสนใจควบคู่กันไปด้วย
และหญิงสาวตรงหน้าก็ควรจะอยู่ในข่ายเดียวกันนี้…
แม้เจ้าหล่อนจะมีราคาค่าตัวเพียงน้อยนิดก็ตาม!
ยูรัสเคี้ยวเนื้อสัตว์ที่เคี่ยวจนนุ่มชุ่มฉ่ำจนแทบละลายในปากอย่างเชื่องช้าละเมียดละไมราวกับกำลังดื่มด่ำซาบซึ้งในรสชาติอาหารจานโปรดพลางพิจารณาสีหน้าของคนนั่งตรงข้ามไปพร้อมกัน ใบหน้าขาวจัดเปลี่ยนเป็นสีชมพูแสนน่ารักแม้หล่อนดื่มไวน์อย่างระมัดระวังมากขึ้น เปลวเทียนไหวระริกเพิ่มประกายแพรวพราวให้กับนัยน์ตาสีฟ้าซีดจางที่เข้มขึ้นอย่างประหลาดในคืนนี้ ริมฝีปากบางที่มักจะเอ่ยวาจาน่าเคืองขัดใจก็ดูไม่ร้ายกาจเท่าไรนัก มิหนำซ้ำยังกลายเป็นสีแดงเรื่อเชิญชวนให้คนเห็นนึกอยากสัมผัสความอ่อนนุ่มด้วยมือและปากของตนเองยิ่งกว่าเดิม
หรือถ้าได้มากกว่านั้นก็ยิ่งดี…
ชายหนุ่มหยิบขวดไวน์เพนเทลัสจากถังแช่มารินเติมให้หญิงสาวชาวบาโรวิทเมื่อเครื่องดื่มในแก้วของหล่อนพร่องไปเกือบหมด ทว่าเจ้าของแก้วกลับรีบห้ามยามของเหลวสีเขียวอ่อนเย็นเฉียบเพิ่มปริมาณขึ้นแค่ครึ่งเดียว
“พอแล้วค่ะ ฉันไม่อยากดื่มมาก” แคเทรียนแตะปลายนิ้วกับปากแก้วเจียระไนเนื้อดีเป็นการป้องกันมิให้เจ้าของบ้านเติมอีก “ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวมิได้กลัวว่าอีกฝ่ายจะมอมเหล้าตนเองจนเมามายไม่ได้สติแล้วกระทำมิดีมิร้ายแบบผู้ชายสิ้นคิดซึ่งมักใช้ทางเลือกง่ายๆให้ได้ในสิ่งที่หมายมาด และการเริ่มดื่มสุรามาตั้งแต่เด็กของประชากรพื้นเมืองดาวบาโรวิทเพื่อให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับฤดูหนาวอันยาวนานได้ย่อมคอแข็งกว่าคนที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ที่พบกับความหนาวเย็นเพียงปีละไม่กี่เดือน แต่ที่สำคัญคือเธอไม่อยากร่วมรับประทานอาหารกับวุฒิสมาชิกหนุ่มนานเกินจำเป็นด้วยไม่รู้ว่าเขาจะเริ่มการยั่วเย้ากวนประสาทตนเองอีกเมื่อไร
นอกจากนี้ความทะนงในนิสัยของผู้นำตระกูลแอสทราอุสคนปัจจุบันย่อมไม่กระทำสิ่งที่เป็นการหมิ่นเกียรติตัวเองเป็นอันขาด!
“ทานเยอะๆสิครับ ฝีมือผมไม่ได้เลวร้ายไม่ใช่หรือ”
การคะยั้นคะยอด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลและสายตาแสดงความใส่ใจของชายหนุ่มวัยต้นสามสิบผู้เพียบพร้อมไปเสียทุกด้านอาจจะได้รับคะแนนนิยมมากขึ้นอีกในความเห็นวุฒิสมาชิกสาวหากมิได้มีคำถามลวงล่อให้คู่สนทนาเอ่ยปากชมตัวเองเจือปนอยู่ด้วย และเมื่อจับได้ถึงจุดประสงค์ชัดเจนน่าหมั่นไส้ของอีกฝ่ายคำพูดต่อมาของแคเทรียนจึงไม่แผ้วพานเป้าหมายแอบแฝงแม้แต่น้อย
“ฉันจะต้องอยู่ที่นี่ไปถึงเมื่อไรคะ”
“ถึงจะเลิกพูดว่าคุณคือเนลีคาห์น แต่คุณก็ยังพยายามสร้างความลำบากใจให้ผมไม่ยอมเลิกนะ” มือใหญ่วางขนมปังลงขณะดวงตาสีเขียวมรกตสบตาคนถามที่เลิกคิ้วเมื่อได้ยินประโยคหลังสุด “คำถามนี้ตอบยาก เพราะจริงๆแล้วมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม มันขึ้นอยู่กับคุณต่างหาก”
“ถ้าฉันอยากจะไปหลังจบอาหารมื้อนี้เลยล่ะ” เจ้าของร่างโปร่งระหงเหยียดตรงยิ่งกว่าเดิมยามใช้อากัปกิริยาทดสอบอีกฝ่ายเช่นเดียวกับคำพูดเมื่อครู่ แน่ใจว่าถ้าเขาจะปล่อยเธอไปตามใจปรารถนาก็คงไม่ต้องมานั่งจ้องหน้าที่ไม่นึกอยากเห็นนานนักตั้งแต่สัปดาห์แรกแล้ว
“ลืมไปแล้วหรือว่าผมเคยพูดอะไรกับคุณบ้าง” ศีรษะสีน้ำตาลอ่อนโคลงไปมาขณะรอยยิ้มอ่อนใจแตะแต้มริมฝีปากได้รูป ก่อนจะย้ำคำพูดที่เคยกล่าวเมื่อไม่นานมานี้กับคนฟังคนเดิมด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยมิได้เน้นหนักที่คำใดเป็นพิเศษ “ผมไม่ปล่อยให้สิ่งที่เป็นของผมหลุดมือไปง่ายๆ และผมไม่ชอบการลงทุนที่ไร้ผลประโยชน์ตอบแทน”
คิ้วสีทองคำขาวมุ่นเข้าหากันยามเจ้าตัวก่นด่านิสัยเห็นแก่ตัวและความมักมากของอีกฝ่ายอย่างหงุดหงิดในใจ แม้ยูรัสจะรู้ดีว่าเธอไม่มีทรัพย์สินมีค่าที่สามารถแลกเปลี่ยนกับอิสระของตนเองติดตัวมาด้วยแต่แรกเขาก็ยังกล้าทวงถามขอการตอบแทน และเมื่อคำนึงถึงเหล่าสตรีจากดาราจักรอันล้าหลังกว่าซึ่งเคยตกอยู่ในสภาพเดียวกันที่ไม่น่ามีทางเลือกใดนอกจากสนองตอบความปรารถนาของเขาทุกประการจนสาสมใจเธอก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น
แถมนี่ยังไม่ได้พูดถึงสถานะการเป็นเจ้าของกึ่งนายทาสของสินค้าที่ประมูลมาด้วยซ้ำ!
“ถ้าคุณเริ่มตอบแทนเสียตั้งแต่ตอนนี้ คุณอาจจะได้ไปจากผมเร็วขึ้นนะ”
แนะจบชายหนุ่มก็หยัดกายชะโงกข้ามโต๊ะมาพลางเอื้อมมือมาโอบท้ายทอยดึงหญิงสาวที่กำลังเข้าภวังค์เมื่อนึกถึงเรื่องงานมาประทับจุมพิตบนกลีบปากนุ่มละมุนอย่างรวดเร็ว!
นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจางเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อริมฝีปากบางได้รูปของอีกฝ่ายฉวยโอกาสขณะเธอไม่ทันตั้งตัวแนบสนิทลงมา จังหวะการเต้นของก้อนเนื้อในอกกระตุกวาบก่อนเสียสมดุลจนเร่งถี่ระรัวยามไอร้อนผะผ่าวราวกับแผ่นเหล็กเผาไฟนาบลงมาแล้วแล่นวาบจากจุดสัมผัสลงสู่ปลายเท้าในเสี้ยววินาที
และปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อถูกชายหนุ่มบังคับจุมพิตของแคเทรียนก็คือการใช้ส้อมในมือซ้ายจิ้มลงไปยังมือขวาที่เป็นหลักยันกายเหนือโต๊ะอาหารของเขาเต็มแรง!
“โอ๊ย!”
ร่างสูงเพรียวอุทานพร้อมผงะถอยหลังทันควันจนเก้าอี้ถูกชนกระเด็นล้มไปเบื้องหลังด้วยความเร็วสมใจคนลงมือ ตั้งหลักได้วุฒิสมาชิกหนุ่มก็กุมหลังมือที่ถูกประทุษร้ายอย่างเจ็บปวดระคนประหลาดใจ ดวงหน้าคมคายเหยเกเล็กน้อยขณะจ้องมองหญิงสาวในชุดสีขาวเจ้าของใบหน้าที่ดูเผือดซีดยิ่งกว่าเดิมซึ่งยืนกำมือแน่นและกำลังสูดลมหายใจลึกๆเข้าปอด แล้วนัยน์ตาสีเขียวมรกตก็เลื่อนไปยังอาวุธที่หล่อนใช้ด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าไม่อยากเชื่อก่อนจะหลุดหัวเราะเสียงปร่า
“ผมยังโชคดีสินะที่คุณไม่ใช้มีด”
ส้อมในมือขาวจัดถูกทิ้งลงพื้นเมื่อหญิงสาวพยายามควบคุมจังหวะหายใจให้เป็นปกติหลังลงมือทำร้ายผู้อื่นด้วยความไม่ตั้ง ใจเป็นครั้งแรกในชีวิต ครั้นรู้สึกว่าความสามารถในการควบคุมโทสะของตนเองกลับคืนมากว่าครึ่งก็เลื่อนสายตากลับไปยังผู้ชายจอมฉวยโอกาสที่ยกมือขึ้นดูบาดแผลเลือดซึมว่าร้ายแรงเพียงใด ดวงตาสีฟ้าอ่อนจางวาววับด้วยอารมณ์รุนแรงที่ยังตกค้างและมีทีท่าจะดำเนินต่อไปหากยังยืนมองอีกฝ่ายไม่เลิกจึงตัดสินใจผละกลับห้องพักพร้อมทิ้งคำตวาดไว้เบื้องหลัง
“คุณโชคดีเกินไปด้วยซ้ำ!”
น่าโมโหอะไรอย่างนี้!
คิ้วเรียวของหญิงสาวชาวบาโรวิทขมวดเข้าหากันบอกอารมณ์กึ่งฉุนเฉียวกึ่งหงุดหงิดเช่นเดียวกับริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อที่เม้มแน่นขณะหยิบบรรดายาสามัญประจำบ้านในบรรจุภัณฑ์ล้าสมัยเกินกว่าจะเป็นอุปกรณ์ปฐมพยาบาลของวุฒิสมาชิกจากตระกูลใหญ่โตขึ้นจากกล่องมาพิจารณาวิธีการใช้ ทว่าอย่างน้อยข้อความเรืองแสงภาษาเซเฟร่าปรากฏขึ้นกลางอากาศเมื่อนิ้วยาวเรียวสวยกดใต้ขวดก็บอกให้เธอทราบว่ายาแต่ละชนิดควรใช้อย่างไร
แคเทรียนกวาดสายตาอ่านคำแนะนำอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ยาใส่บาดแผลสด และอุปกรณ์ทำแผลอีกไม่กี่อย่างมาใช้กับต้นเหตุของความไม่พอใจที่นั่งอยู่ข้างกาย นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจางตวัดมองร่างสูงเพรียวที่กำลังทุ่มเทความสนใจให้ข่าวสารต่างๆในช่วงเช้าตรู่อย่างสบายใจราวกับไม่เคยไปเคาะประตูห้องปลุกเธอขึ้นมารับผิดชอบ ‘การใช้กำลังรุนแรงเกินกว่าเหตุ’ เมื่อไม่กี่นาทีก่อนจนต้องรีบออกมาทำตามคำเรียกร้องชวนโมโหนั้น
“ส่งมือมาสิคะ”
วุฒิสมาชิกสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างกว่าปกติแม้จะพยายามเตือนตนเองว่าอีกฝ่ายมีนิสัยแย่เช่นนี้มานานเกินกว่าจะแก้ไขได้ แต่แล้วเธอก็ต้องเม้มปากแน่นกว่าเดิมเมื่อความทรงจำจากการบันดาลโทสะจนเผลอตัวใช้ความรุนแรงโดยไม่ตั้งใจคอยวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึงจนไม่อาจนอนหลับสนิทตลอดคืนตามปกติวิสัยดูจะไม่ส่งผลใดกับชายหนุ่มแม้แต่น้อย
ความสดชื่นผ่องใสบนดวงหน้าคมคายชวนมองอย่างคนได้พักผ่อนเต็มที่และชำระร่างกายจนสะอาดหมดจดก่อความหมั่น ไส้ขึ้นในใจได้อย่างน่าประหลาด…
มือขาวจัดรับมือใหญ่ที่แทบไม่เคยแตะต้องงานหนักมาพิจารณาดูบาดแผลจากการใช้ส้อมแทงด้วยฝีมือตนเองโดยไม่อยากมองหน้าอีกฝ่ายให้อารมณ์เสียหนักกว่าเดิม ก่นด่าในใจพลางนึกสงสัยว่าอีกฝ่ายสามารถรักษาสีหน้าให้ดูดีถึงเพียงนี้ได้อย่างไรในเมื่อเธอไม่สามารถข่มตาหลับได้ลงจนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่าค่อนคืน
แถมสภาพการแต่งกายอันสุภาพเรียบร้อยพร้อมออกสู่สายตาสาธารณชนด้วยสูทสีครีมนวลอันโอ่อ่าหรูหราของชายหนุ่มก็ทำให้คนที่สวมเพียงเสื้อคลุมเนื้อลื่นเนียนสีแดงก่ำตัวยาวทับชุดนอนและปล่อยผมยาวยุ่งเหยิงจากการนอนกระจายเต็มหลังปราศจากความเหมาะสมใดๆนอกห้องนอนมีสีหน้าบึ้งตึงเย็นชามากกว่าเดิม…
ไม่เคยเป็นเดือดเป็นร้อนกับเขาเลยล่ะสิ!
เปลือกตาประดับขนตาสีทองคำขาวหลุบลงปกปิดอารมณ์ที่อาจเผยให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเช้านี้เขารบกวนจิตใจเธอเพียงไร แต่เมื่อได้เห็นรอยแผลสี่รูมีคราบเลือดซึมแถมบวมช้ำเป็นสีม่วงอมแดงบนหลังมือขาวนวลชัดเจนความไม่พอใจทั้งมวลก็หยุดชะงักลง เพราะร่องรอยจากการกระทำของตนเองบนหลังมือใหญ่ดูร้ายแรงสะดุดตาและน่าเจ็บปวดไม่น้อยเมื่อปรากฏอยู่ท่ามกลางแสงตะวันยามเช้าเช่นนี้
“เมื่อคืนคุณไม่ได้ทำแผลเลยเหรอ”
น้ำเสียงแผ่วเบาเต็มไปด้วยความประหลาดใจของหญิงสาวดึงดูดนัยน์ตาสีเขียวพร่างของยูรัสให้ละจากผู้ประกาศข่าวในจอมามองดวงหน้าขาวที่ดูซีดเกือบเท่าเมื่อคืนตอนหล่อนก่อเหตุประทุษร้ายเขาด้วยอุปกรณ์ในการรับประทานอาหารแวบหนึ่ง
“ผมทำความสะอาดมันตอนอาบน้ำแล้ว”
คำตอบไม่น่าเชื่อถือปราศจากรายละเอียดหรือข้อเท็จจริงใดๆส่งผลให้คนถามต้องลอบสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนเริ่มลงมือทำความสะอาดบาดแผลอย่างเงียบๆ ระหว่างนั้นหญิงสาวก็พยายามเฟ้นหาคำอธิบายอันน่าพอใจให้ตนเองเมื่อความรู้สึกผิดพอกพูนขึ้นในใจทุกวินาทีจนมิอาจสลัดทิ้งไปได้ง่ายนัก
อาการผงะถอยหลังของร่างสูงเพรียวและสีหน้าเจ็บปวดระคนตกใจบนใบหน้าของอีกฝ่ายที่ยังคงกระจ่างชัดในสมองถึงจะผ่านการทบทวนมาหลายคราด้วยความพอใจนิดๆกลับกลายเป็นความผิดร้ายแรงเมื่อได้ฟังคำพูดเพียงประโยคเดียวของเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่แน่ใจในกระบวนการคิดและปฏิกิริยาตอบสนองฉับพลันทันทีเมื่อถูกชายหนุ่มจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว แถมประสบการณ์ในอดีตก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ใดที่ทำให้ต้องใช้หันมาความรุนแรงแบบนี้มาก่อน
ที่สำคัญ…เธอไม่คิดว่าการป้องกันตัวเองจนพ้นจากการคุกคามอุกอาจจาบจ้วงของผู้ชายตรงหน้าจะสมควรถูกตำหนิด้วย!
“สมน้ำหน้าคุณจริงๆ” แคเทรียนเปรยเบาๆพลางใส่ยาหลังฆ่าเชื้อโรคที่น่าจะเข้าไปในบาดแผลจากการเพิกเฉยไม่เอาใจใส่ของอีกฝ่าย
คิ้วสีน้ำตาลอ่อนของวุฒิสมาชิกหนุ่มเลิกขึ้นเมื่อได้ยินวาจาบอกอารมณ์สาสมใจชัดแจ้ง เริ่มแน่ใจว่าการปลุกหล่อนให้ตื่นขึ้นมาแต่เช้าคงจะทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียไม่น้อย หากดวงตาสีสวยก็เหลือบดูฝีมือการทำแผลของคนพูดก่อนจะถามถึงสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจตั้งแต่เมื่อคืน
“ที่ผมจูบคุณเมื่อคืนนี้ทำให้คุณกลัวมากเลยหรือไง”
หญิงสาวยังคงเกลี่ยยาให้กระจายไปทั่วแผลและผิวหนังในบริเวณรอบๆอย่างเบามือแม้คำถามของยูรัสจะจุดประกายความประหลาดใจให้เธอไม่น้อย
เหตุไฉนคนฉลาดอย่างยูรัสถึงเข้าใจผิดว่าการแสดงออกของเธอเกิดจากความกลัวทั้งที่จริงแล้วมันคือความโกรธมากกว่า?
ทำไมถึงถามแบบนั้น?
“คุณไม่ควรทำแบบนั้นกับคนที่ไม่เต็มใจ” สาวสวยเพิกเฉยต่อคำถามน่าอันสงสัยพลางตำหนิอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ ลงมือเก็บของเข้ากล่องเมื่อรักษาพยาบาลอีกฝ่ายเสร็จ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อนึกถึงความเหมาะสมขึ้นมาได้ว่าหากวุฒิสมาชิกหนุ่มไปทำงานโดยมีรอยแผลหน้าตาประหลาดที่สังเกตเห็นได้ง่ายบนหลังมือคงไม่เข้าทีนัก “จะพันแผลรึเปล่าคะ”
“ต้องรบกวนคุณแล้ว” ดวงตาสีเขียวมรกตเหลือบมองหลังมือตนเองก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้อารมณ์คนฟังเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง “ผมไม่ทันคิดว่าคุณจะไม่เต็มใจ เพราะมันก็แค่จูบธรรมดา”
“ถ้าอย่างนั้นต่อแต่นี้ไปคุณก็ควรจะเริ่มประเมินความคิดของอีกฝ่ายก่อนลงมือทำอะไรไป เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะยินดีหรือเต็มใจให้คุณทำตามใจชอบทุกอย่างแน่!” วุฒิสมาชิกสาวจากดาวการศึกษาอันดับหนึ่งจบประโยคเสียงเข้มพร้อมใช้ผ้าพันแผลสีขาวสะอาดพันมือใหญ่อย่างรวดเร็วแน่นหนา นึกขัดเคืองนิสัยมั่นใจในตัวเองอย่างสูงของผู้ชายที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจนแทบทนไม่ไหว
คิดว่าผู้หญิงทุกคนจะนั่งตาลอยรอรับจูบตัวเองรึไงกัน!
ฝันไปเถอะ!
“ผมก็ว่างั้นแหละ” เสียงทุ้มนุ่มนวลกลั้วหัวเราะเรียกให้หญิงสาวผู้ไม่เต็มใจตวัดตาขุ่นเขียวมองอย่างหงุดหงิด “ดูเหมือนผมจะทำอะไรให้คุณพอใจไม่ได้เลยสักอย่างเดียว”
คราวนี้แคเทรียนต้องสูดลมหายใจข่มอารมณ์อย่างหนักเมื่อคำพูดของอีกฝ่ายสามารถตีความหมายได้ทั้งในแง่บวกและลบ เริ่มแน่ใจว่าสมญานาม ‘เสาน้ำแข็ง’ ที่ได้รับมาจะถูกกลบฝังภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยฝีปากเหลือทนของผู้ชายตรงหน้า
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่รู้จักผู้ชายเจ้าเล่ห์แสนกลคนนี้มาก่อนได้ฟังคำสารภาพเมื่อครู่อาจรู้สึกดีถึงขั้นเป็นปลื้มด้วยเข้าใจว่าเขายอมรับออกมาโดยตรงว่าไม่สามารถมอบความสุขกายสบายใจเธอผู้นั้นได้ตามที่ตั้งใจ…
แต่สำหรับคนที่เติบโตมาพร้อมกับการถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอดมันกลับหมายความว่าเธอคือคนเอาใจยากอย่างที่สุด…
ไม่มีทางจะแปลเป็นอื่นไปได้!
“ในเมื่อคุณรู้แล้วว่าไม่สามารถทำให้ฉันพอใจได้ง่ายๆก็ควรจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ไม่อย่างนั้นฉันจะใช้วิธีเดิมเพื่อป้องกันตัวเองจากความเข้าใจผิดๆของคุณ” หญิงสาวยืนกรานความตั้งใจที่สรุปได้ก่อนม่อยหลับไปตอนฟ้าสางด้วยแววตาเกรี้ยวกราดราวกับมีเปลวไฟสีฟ้ากำลังลุกไหม้อยู่ภายในลูกแก้วสวยใสกับอาการศีรษะตั้งตรงบอกความหยิ่งผยองในสายเลือด ผุดลุกจะกลับห้องหลังกระแทกฝากล่องอุปกรณ์ปฐมพยาบาลปิดด้วยความฉุนเฉียวจนไม่สามารถห้ามตนเองมิให้แสดงกิริยาหยาบคายได้
ทว่าวุฒิสมาชิกสาวก็หยุดเคลื่อนไหวทั้งมวลเมื่อได้ยินคำปรารภไม่อนาทรร้อนใจของอีกฝ่าย…
“ด้วยส้อมคันเดิมล่ะสิ”
สาวชาวบาโรวิทหมุนตัวกลับมาหาร่างสูงเพรียวด้วยโทสะที่พุ่งปราดไปทั่วร่าง ฝ่ามือขาวจัดกำแน่นเงื้อขึ้นเตรียมจะสาธิตเป็นตัวอย่างให้เขาทราบว่าเธอตั้งใจจะใช้ส้อมเป็นอาวุธแต่เพียงอย่างเดียวหรือไม่
กระนั้นคนที่เอาแต่ดูข่าวกลับไวกว่า…
มือใหญ่คว้าข้อมือบางอย่างรวดเร็วจนเธอไม่อาจเลือกทุบร่างกายเขาตามใจต้องการแล้วดึงเข้าหาตัวจนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงลมหายใจอบอุ่นรินรดผิวเนื้อ นัยน์ตาสีเขียวสงบนิ่งคู่นั้นพร่างพราวด้วยประกายแห่งความขบขันช้อนมองผ่านขนตาสีน้ำตาลราวกับตั้งใจทิ้งช่วงให้กระชากมือออกไม่ก็ปล่อยให้เธอสงบสติอารมณ์สักครู่
กิริยานั้นบอกชัดว่าเขากำลังรอให้เธอเลือกตามที่ใจต้องการ…
หญิงสาวหลับตาเม้มปากขณะพยายามระงับอารมณ์ให้สงบราบเรียบแล้วรอดูต่อไปเมื่อตระหนักว่าตนเองปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกเข้าครอบงำการกระทำต่างๆมากเกินไปในเวลาไม่ถึงสิบสองชั่วโมง นึกดีใจที่ยังมิได้ลงมือทำอะไรรุนแรงให้สถานการณ์แย่ไปกว่าที่เป็นอยู่
พริบตาถัดมาที่ลืมตาขึ้นอีกครั้งผิวแก้มนวลเนียนก็ร้อนวาบยิ่งกว่าเดิมเมื่อยูรัสพลิกข้อมือด้านในขึ้นมาประทับริมฝีปากได้รูปลงไปบนจุดชีพจรใต้ผิวเนื้อบอบบางอย่างเชื่องช้าแทนที่จะเป็นหลังมือตามมารยาทสังคมอันเหมาะสม ความร้อนผะผ่าวกระตุ้นเร้าให้เกิดอารมณ์รัญจวนใจจากสัมผัสอันนุ่มนวลละมุนละไมที่ดำเนินอยู่เนิ่นนานในความรู้สึกแล่นวาบไปตามลำแขนขาวผ่องเรียวเสลาจนแคเทรียนลืมหายใจไปชั่วขณะ
เมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นอีกครั้งเธอก็ได้เห็นรอยยิ้มพึงใจปรากฏขึ้นบนต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติในร่างกายและได้ยินสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเข้าใจในความหมายที่แท้จริงได้ง่ายๆทั้งที่เป็นเพียงคำพูดธรรมดาตามมารยาทเท่านั้น
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะครับ”
TBC.
มาแล้วค่ะ วันนี้มาตอนกลางวันเพราะไม่สบาย ไข้ขึ้น ทำงานไม่ไหว เลยเข้ามาโพสต์ยูรัสกับแคเทรียนให้ผู้มีอุปการะคุณทุกท่านอ่านกันดีกว่า ^^
ชอบไม่ชอบ ก็บอกกันบ้างนะคะ
วุฒิสมาชิกดาวรีเอสหันไปเรียงขนมปังอบใหม่ใส่ลงในตะกร้าขนาดเล็กก่อนตักบูซท์ใส่ชามแล้วตกแต่งด้วยก้านผักสีแดงด้วยความชำนาญที่มี จัดอาหารทั้งหมดใส่ถาดส่งให้หุ่นยนต์รับใช้ยกไปวางบนโต๊ะที่ระเบียงริมสวนสวยซึ่งถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดีสำหรับอาหารค่ำที่กำลังจะมาถึงในไม่กี่นาทีต่อจากนี้
ยูรัสส่งสัญญาณให้แม่บ้านรุ่นเก่าแก่ไปเชิญหญิงสาวชาวบาโรวิทลงมาร่วมโต๊ะอาหารแล้วออกจากครัวมาจุดเทียนเกลียวสีขาวประดับคู่กับดอกไม้สีสันสดใสในแจกันขนาดเล็กกลางโต๊ะ รินไวน์ผลไม้สีเขียวอ่อนใสที่แช่จนเย็นจัดใส่แก้วก้านยาวรอการมาถึงของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
แสงจากดวงตะวันยามพลบค่ำอาบไล้ทุ่งหญ้าซึ่งกลายเป็นสีแดงอมส้มตามการผันแปรของถดูกาลริมทะเลสาบแซนกิลลีที่ไหวระริกตามสายลมดูงดงามลี้ลับน่าพิศวงสมใจชายหนุ่มเจ้าของสถานที่เช่นเดียวกับอากาศที่ยังไม่หนาวเย็นเกินไปนัก
คืนนี้เหมาะจริงๆ…
ดวงตาสีเขียวมรกตตรวจดูความเรียบร้อยของโต๊ะอาหารเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงของเป้าหมายกระทบพื้นดังเป็นจังหวะ ไม่นานร่างโปร่งบางในชุดกระโปรงยาวสีขาวก็ปรากฏตัวขึ้น ชายหนุ่มรอจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินมาหยุดยืนข้างโต๊ะจึงเลื่อนเก้าอี้ให้หล่อนตามมารยาทที่สุภาพบุรุษพึงกระทำแล้วทรุดตัวลงนั่งในเก้าอี้ตรงข้าม
“สี่วันที่ผมไม่อยู่นี่คุณเป็นยังไงบ้าง” เจ้าของบ้านเปิดบทสนทนาก่อนเมื่ออีกฝ่ายยังคงนั่งเงียบไม่ทักทายหรือไต่ถามถึงการจัดโต๊ะเป็นพิเศษนี้ “คงไม่โกรธผมหรอกนะ ปอร์เชีย เมื่อเช้าผมมีธุระด่วนต้องไปจัดการก็เลยไม่ได้รอทานอาหารกับคุณ กรุณาอย่าหงุดหงิดไปเลย”
แคเทรียนพิจารณาคำพูดของชายหนุ่มอย่างระมัดระวังและเยือกเย็นดังที่เคยกระทำมาตลอดหลายปี นอกจากเอ่ยวาจาและแสดงท่าทางเอาใจใส่ดูแลผู้อื่นตามมารยาทอันปกติของเขาแต่ไม่ธรรมดาสำหรับเธอแล้ว โต๊ะอาหารขนาดเล็กที่บังคับให้นั่งใกล้จนเข่าแทบชนกันประดับด้วยเทียนไขส่งกลิ่นหอมละมุน ดอกไม้แรกแย้มงดงาม อาหารหน้าตาน่ารับประทาน แถมรายล้อมด้วยทิวทัศน์สวยงามน่าประทับใจนั้นสร้างความประหลาดใจให้ไม่น้อย
“ขอบคุณที่ถามค่ะ แต่ฉันเกรงว่าจะให้คำตอบน่าตื่นเต้นกับคุณไม่ได้ เพราะชีวิตประจำวันที่นี่ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากทุกวัน และคุณเองก็คงจะทราบดีอยู่แล้ว” หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบขณะนึกดูแคลนวิธีการหลอกล่อเพศตรงข้ามระดับพื้นฐานของคู่สนทนาอยู่ในใจ
สมบูรณ์แบบจนน่าขยะแขยง…
วาจาแดกดันกลับอย่างสุภาพของผู้หญิงในปกครองเรียกรอยยิ้มขึ้นมาประดับใบหน้าคมคายทันที วุฒิสมาชิกหนุ่มมองสีหน้าสงบนิ่งของอีกฝ่ายด้วยแววตาที่ทำให้คนถูกมองรู้สึกไม่ไว้วางใจ หากยูรัสก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าเชื้อเชิญให้หล่อนลงมือรับประทานอาหารตรงหน้า
“กินเถอะครับ คุณคงหิวแล้ว” มือใหญ่เลื่อนไปยังชามก้นตื้นที่มีหน้าตาเหมือนสตูแทนคำบอกให้ทราบว่าควรจะเริ่มจากอาหารจานไหน “ผมรับรองได้เลยว่ามื้อนี้คุณต้องติดใจแน่ นี่คือบูซท์ อาหารพื้นเมืองของเรา คุณต้องกินคู่กับขนมปัง แล้วแกล้มด้วยสลัด”
ใบหน้าขาวจัดก้มลงสำรวจอาหารตรงหน้าด้วยความสนใจเกินปกติขณะคลี่ผ้าเช็ดปากคลุมตัก แน่ใจว่าสตูตรงหน้าคือสิ่งที่ส่งกลิ่นหอมอวลจนตนเองสงสัยว่ามีสิ่งใดอยู่ภายในขณะรับประทานอาหารจืดชืดเป็นมื้อเที่ยงด้วยไม่อาจเปิดหม้อความร้อนที่ถูกตั้งเวลาไว้ได้ การไปเยือนคฤหาสน์ของตระกูลแอสทราอุสแต่ละครั้งในช่วงหลังมักจะเป็นทางการมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกรายละเอียดของการต้อนรับจะประกอบไปด้วยสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เจ้าบ้านจะสามารถสรรหามารับรอง อาหารหน้าตาเรียบง่ายและวิธีการปรุงแบบพื้นๆจึงไม่มีโอกาสขึ้นโต๊ะให้เธอได้ลิ้มลองรสชาติและแยกแยะส่วนประกอบเลยสักครั้ง
แต่ถึงจะมีใครจัดขึ้นมาเธอก็คงไม่ได้สนใจเท่าไรนัก…
เพราะหากมีผู้ชายตรงหน้าร่วมโต๊ะด้วย เธอมักจะต้องใช้ความอดทนอดกลั้นในตัวมากเป็นพิเศษ…
แล้วครั้งนี้จะต่างจากครั้งอื่นๆตรงไหนกัน?
คิ้วสีทองคำขาวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยให้กับความเคยชินที่กลายเป็นนิสัยไม่น่าชื่นชมของตนเองโดยไม่รู้ตัวอย่างไม่ชอบใจนัก แล้วดวงตาสีฟ้าอ่อนจางกะพริบไล่ความทรงจำเก่าๆเมื่อข้อมูลบางประการลอยผ่านเข้ามาในสมอง
ในเมื่อเวลานี้เธอคือหญิงสาวที่ถูกซื้อมานาม ‘ปอร์เชีย’ มิใช่วุฒิสมาชิกแคเทรียน เนลีคาห์น ในสายตาอีกฝ่าย…
เหตุใดจึงต้องประพฤติตัวให้ยูรัสหัวเราะเยาะเหมือนเดิมด้วย?
หญิงสาวชาวบาโรวิทยืดแผ่นหลังก่อนคว้าแก้วไวน์สีสวยมาดื่มอึกใหญ่หลังตัดสินใจสู้กับคนตรงหน้าไม่ยอมถอย แล้วก็เผลอทำตาโตเมื่อกระแสร้อนวาบแล่นพล่านไปทั้งกายยามของเหลวเย็นเฉียบรสชาติหวานอ่อนไหลลงไปตามหลอดอาหาร อาการตัวแข็งของเธอส่งผลให้คนที่จับตาดูอยู่คลี่ยิ้มแช่มช้า
“ดื่มแบบนั้นอีกคุณได้เมาแน่”
“อะไรนะคะ” แคเทรียนถามหลังจากผลกระทบวูบวาบจากแอลกอฮอล์ผ่านพ้นไปจนสามารถรวบรวมสติที่กระจายไปในชั่วพริบตากลับมาใหม่อีกครั้งเช่นเดียวกับความหวาดระแวงเมื่อเห็นสีหน้าพอใจในตัวเองของอีกฝ่าย
“คุณเคยเมาบ้างไหม ถ้าจำไม่ผิด ผมไม่เคยเห็นคุณผ่อนคลายเลย ทุกครั้งที่เราคุยกันคุณมักมองผมด้วยสายตาระแวดระวังเหมือนคาดว่าผมจะโยนสัตว์เลื้อยคลานน่าขยะแขยงใส่หน้าคุณไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่ง” วุฒิสมาชิกหนุ่มชวนคุยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาละม้ายกำลังเปรยกับตนเอง หยุดชะงักชั่วครู่ก่อนดวงตาสีเขียวพร่างจะมองตรงมายังแก้มขาวเนียนที่เริ่มจะมีสีเลือดฝาดระเรื่อ “หรือคุณจะเป็นแบบนี้เฉพาะตอนที่ผมอยู่ด้วยล่ะ”
ประโยคสุดท้ายของคนนั่งตรงข้ามส่งผลให้ร่างโปร่งบางเลื่อนสายตามองตะกร้าขนมปังฟูนุ่มสีสวยป้องกันมิให้เขาจับได้ถึงความคิดเห็นส่วนตัวที่อาจประกาศออกไปทางนัยน์ตาสีไอซ์บลูว่าคำพูดนั้นถูกต้องมากเพียงใด เสตักบูซท์ขึ้นมาชิมแทนการตอบคำถามที่เป็นไปได้สูงว่าจะไร้มารยาทถึงขีดสุดหากหลุดปากออกไปแล้วก็ต้องชะงักเมื่อรสชาติของสตูมิได้ด้อยกว่าอาหารที่เสิร์ฟในแต่ละมื้อของตระกูลเขาเลย
“คุณทำอาหารเป็นจริงๆ”
วุฒิสมาชิกหนุ่มเลิกคิ้วให้กับอาการพึมพำของหญิงสาวก่อนจะเผยยิ้มมุมปากเมื่อเข้าใจถึงสิ่งที่หล่อนมิได้พูดออกมา มือใหญ่เลื่อนตะกร้าขนมปังส่งให้คนนั่งตรงข้ามทานคู่กับอาหารที่เขาปรุงแล้วเริ่มรับประทานบ้าง
“ถ้าผมต้องการให้คุณเชื่อในสิ่งที่ผมพูด ผมก็ควรจะแสดงให้คุณเห็นหลายๆครั้งสินะ”
แก้มที่ระเรื่อจากฤทธิ์เครื่องดื่มยิ่งแดงขึ้นยามได้ฟังความหมายแฝงเป็นนัยว่าตนเองดื้อรั้นไม่เคยไว้วางใจเขาเต็มสองหู น้ำ เมาที่ดื่มเข้าไปไม่ได้ช่วยให้เกิดความกล้าในการประพฤติตัวให้ต่างไปจากเดิม มิหนำซ้ำกลับทำให้ความเคยชินของ แคเทรียน เนลีคาห์น คนเดิมหวนคืนมาอย่างเต็มที่
แต่เป็นคนเดิมที่พร้อมจะตอบโต้ผู้ชายตรงหน้าด้วยวาจาเชือดเฉือน…
“ไม่ว่าใครจะเป็นคนพูด ฉันก็พร้อมจะเชื่อ ถ้าเขามีความจริงใจค่ะ”
“ผมเลยกลายเป็นคนไร้ความจริงใจไป” ริมฝีปากบางขยับยิ้มขันขณะจิบไวน์ช้าๆ “อยุติธรรมกับผมจริงนะ ลองคิดกลับกันบ้างสิครับว่าทุกอย่างที่ผมทำและพูดกับคุณล้วนเปี่ยมไปด้วยความจริงใจของผมทั้งนั้น เพียงแต่คุณไม่ยอมเชื่อเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความจริงพอๆกับการคงอยู่ของเซเฟรัสนี่”
“ทุเรศ” แคเทรียนพึมพำเบาๆยามพฤติกรรมการซื้อผู้หญิงมาเป็นเครื่องบำบัดความใคร่ของคนนั่งตรงข้ามที่ตนเองรู้เห็นอย่างเงียบๆมานานเด้งขึ้นมาในสมองอย่างรวดเร็วทันทีที่เขาพูดจบ
ทัศนคติน่ารังเกียจนี้ก็เป็นความจริงพอๆกับการคงอยู่ของเซเฟรัสเหมือนกัน!
ทว่าคำตอบในเชิงลบของเธอกลับทำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้างขึ้น
“คุณนี่ดื้อจริง”
คนดื้อเทความสนใจกลับไปยังอาหารตรงหน้าเมื่อไม่นึกอยากจะสนทนากับผู้ชายไร้ความจริงใจอีก ตัดสินใจหยุดก่อนจะพลาดท่าเสียทีให้กับคำพูดของยูรัสดังที่เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งหลายหนในอดีต แต่ไม่นานก็เผลอชะงักมือเมื่อรู้สึกว่าเข่าของอีกฝ่ายชนเข้ากับขาตนเอง และการขยับเพียงเล็กน้อยที่ส่งผลให้ขาข้างหนึ่งของชายหนุ่มแทรกเข้ามาวางระหว่างขาตนเองก็ทำให้คิ้วสีทอง คำขาวมุ่นเข้าหากัน ทว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดที่มีขึ้นในวินาทีต่อๆมาเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหารก็ไม่ทำให้เธอรำคาญใจแต่อย่างใด
ดวงตาสีมรกตเหลือบมองสาวงามประเมินอารมณ์ความรู้สึกของหล่อนขณะเริ่มรับประทานอาหารอย่างเงียบๆ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะไม่ตอบสนองเช่นเดียวกับผู้หญิงอื่นซึ่งมักชื่นชมการเตรียมอาหารมื้อค่ำของเขาเรื่อยไปจนถึงบทสนทนาที่ยกขึ้นมาพูดคุยกัน หากอาการสงบปากระวังคำพูดของร่างโปร่งบางก็ยังทำให้เขารู้สึกถึงการขัดขืนที่ได้รับอยู่ไม่เลิก ขนาดลองหยั่งเชิงด้วยการแกล้งขยับขาให้ชนกันแล้วแทรกเข่าเข้าไปตรงกลางอีกฝ่ายยังไม่มีอาการขัดเขินอึกอักหรือส่งสายตาเชื้อเชิญให้ลงมือกระทำมาก กว่าเดิมแบบหญิงสาวคนอื่นเลยสักนิด
อีกประการที่รบกวนจิตใจเขาอยู่ก็คือหญิงสาวมิได้แสดงอาการต่อต้านอย่างแข็งขันเหมือนในช่วงสัปดาห์แรกที่มาถึง การยืนยันอย่างหนักแน่นว่าตัวเองคือวุฒิสมาชิกหญิงที่หายตัวไปลดน้อยลงเมื่อเวลาล่วงผ่านมาเกือบเดือนจนแทบไม่มีการเอ่ยถึงอีกนั้นค่อนข้างน่าประหลาดใจเมื่อคำนึงถึงลักษณะดื้อรั้นไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆของอีกฝ่าย กิริยาสงบเสงี่ยมระมัดระวังตัวตลอดเวลาพบปะสนทนากันดำเนินไปตามปกติยกเว้นแต่ตอนที่เขาตั้งใจยั่วให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองมากกว่าเดิม
หากหล่อนยังรักษาท่าทีเช่นนี้ต่อไปก็น่าผิดหวังไม่น้อย…
น่าเบื่อจริงๆ…
การประมูลซื้อสินค้ามีชีวิตจากดาวโลกด้วยราคามหาศาลในแต่ละครั้งเขามิได้หวังเพียงแค่ร่างกายอันงดงามของสตรีเพศที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการปลดปล่อยความตึงเครียดทางกายของตนเอง หากยังต้องการไหวพริบสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดได้รับการฝึกฝนขัดเกลาศักยภาพมาแล้วไม่ว่าจะในด้านศาสตร์หรือศิลป์เพื่อการโต้ตอบสนทนาในหัวข้อต่างๆที่ยกมาด้วยความคิดสร้างสรรค์น่าสนใจควบคู่กันไปด้วย
และหญิงสาวตรงหน้าก็ควรจะอยู่ในข่ายเดียวกันนี้…
แม้เจ้าหล่อนจะมีราคาค่าตัวเพียงน้อยนิดก็ตาม!
ยูรัสเคี้ยวเนื้อสัตว์ที่เคี่ยวจนนุ่มชุ่มฉ่ำจนแทบละลายในปากอย่างเชื่องช้าละเมียดละไมราวกับกำลังดื่มด่ำซาบซึ้งในรสชาติอาหารจานโปรดพลางพิจารณาสีหน้าของคนนั่งตรงข้ามไปพร้อมกัน ใบหน้าขาวจัดเปลี่ยนเป็นสีชมพูแสนน่ารักแม้หล่อนดื่มไวน์อย่างระมัดระวังมากขึ้น เปลวเทียนไหวระริกเพิ่มประกายแพรวพราวให้กับนัยน์ตาสีฟ้าซีดจางที่เข้มขึ้นอย่างประหลาดในคืนนี้ ริมฝีปากบางที่มักจะเอ่ยวาจาน่าเคืองขัดใจก็ดูไม่ร้ายกาจเท่าไรนัก มิหนำซ้ำยังกลายเป็นสีแดงเรื่อเชิญชวนให้คนเห็นนึกอยากสัมผัสความอ่อนนุ่มด้วยมือและปากของตนเองยิ่งกว่าเดิม
หรือถ้าได้มากกว่านั้นก็ยิ่งดี…
ชายหนุ่มหยิบขวดไวน์เพนเทลัสจากถังแช่มารินเติมให้หญิงสาวชาวบาโรวิทเมื่อเครื่องดื่มในแก้วของหล่อนพร่องไปเกือบหมด ทว่าเจ้าของแก้วกลับรีบห้ามยามของเหลวสีเขียวอ่อนเย็นเฉียบเพิ่มปริมาณขึ้นแค่ครึ่งเดียว
“พอแล้วค่ะ ฉันไม่อยากดื่มมาก” แคเทรียนแตะปลายนิ้วกับปากแก้วเจียระไนเนื้อดีเป็นการป้องกันมิให้เจ้าของบ้านเติมอีก “ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวมิได้กลัวว่าอีกฝ่ายจะมอมเหล้าตนเองจนเมามายไม่ได้สติแล้วกระทำมิดีมิร้ายแบบผู้ชายสิ้นคิดซึ่งมักใช้ทางเลือกง่ายๆให้ได้ในสิ่งที่หมายมาด และการเริ่มดื่มสุรามาตั้งแต่เด็กของประชากรพื้นเมืองดาวบาโรวิทเพื่อให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับฤดูหนาวอันยาวนานได้ย่อมคอแข็งกว่าคนที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ที่พบกับความหนาวเย็นเพียงปีละไม่กี่เดือน แต่ที่สำคัญคือเธอไม่อยากร่วมรับประทานอาหารกับวุฒิสมาชิกหนุ่มนานเกินจำเป็นด้วยไม่รู้ว่าเขาจะเริ่มการยั่วเย้ากวนประสาทตนเองอีกเมื่อไร
นอกจากนี้ความทะนงในนิสัยของผู้นำตระกูลแอสทราอุสคนปัจจุบันย่อมไม่กระทำสิ่งที่เป็นการหมิ่นเกียรติตัวเองเป็นอันขาด!
“ทานเยอะๆสิครับ ฝีมือผมไม่ได้เลวร้ายไม่ใช่หรือ”
การคะยั้นคะยอด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลและสายตาแสดงความใส่ใจของชายหนุ่มวัยต้นสามสิบผู้เพียบพร้อมไปเสียทุกด้านอาจจะได้รับคะแนนนิยมมากขึ้นอีกในความเห็นวุฒิสมาชิกสาวหากมิได้มีคำถามลวงล่อให้คู่สนทนาเอ่ยปากชมตัวเองเจือปนอยู่ด้วย และเมื่อจับได้ถึงจุดประสงค์ชัดเจนน่าหมั่นไส้ของอีกฝ่ายคำพูดต่อมาของแคเทรียนจึงไม่แผ้วพานเป้าหมายแอบแฝงแม้แต่น้อย
“ฉันจะต้องอยู่ที่นี่ไปถึงเมื่อไรคะ”
“ถึงจะเลิกพูดว่าคุณคือเนลีคาห์น แต่คุณก็ยังพยายามสร้างความลำบากใจให้ผมไม่ยอมเลิกนะ” มือใหญ่วางขนมปังลงขณะดวงตาสีเขียวมรกตสบตาคนถามที่เลิกคิ้วเมื่อได้ยินประโยคหลังสุด “คำถามนี้ตอบยาก เพราะจริงๆแล้วมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม มันขึ้นอยู่กับคุณต่างหาก”
“ถ้าฉันอยากจะไปหลังจบอาหารมื้อนี้เลยล่ะ” เจ้าของร่างโปร่งระหงเหยียดตรงยิ่งกว่าเดิมยามใช้อากัปกิริยาทดสอบอีกฝ่ายเช่นเดียวกับคำพูดเมื่อครู่ แน่ใจว่าถ้าเขาจะปล่อยเธอไปตามใจปรารถนาก็คงไม่ต้องมานั่งจ้องหน้าที่ไม่นึกอยากเห็นนานนักตั้งแต่สัปดาห์แรกแล้ว
“ลืมไปแล้วหรือว่าผมเคยพูดอะไรกับคุณบ้าง” ศีรษะสีน้ำตาลอ่อนโคลงไปมาขณะรอยยิ้มอ่อนใจแตะแต้มริมฝีปากได้รูป ก่อนจะย้ำคำพูดที่เคยกล่าวเมื่อไม่นานมานี้กับคนฟังคนเดิมด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยมิได้เน้นหนักที่คำใดเป็นพิเศษ “ผมไม่ปล่อยให้สิ่งที่เป็นของผมหลุดมือไปง่ายๆ และผมไม่ชอบการลงทุนที่ไร้ผลประโยชน์ตอบแทน”
คิ้วสีทองคำขาวมุ่นเข้าหากันยามเจ้าตัวก่นด่านิสัยเห็นแก่ตัวและความมักมากของอีกฝ่ายอย่างหงุดหงิดในใจ แม้ยูรัสจะรู้ดีว่าเธอไม่มีทรัพย์สินมีค่าที่สามารถแลกเปลี่ยนกับอิสระของตนเองติดตัวมาด้วยแต่แรกเขาก็ยังกล้าทวงถามขอการตอบแทน และเมื่อคำนึงถึงเหล่าสตรีจากดาราจักรอันล้าหลังกว่าซึ่งเคยตกอยู่ในสภาพเดียวกันที่ไม่น่ามีทางเลือกใดนอกจากสนองตอบความปรารถนาของเขาทุกประการจนสาสมใจเธอก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น
แถมนี่ยังไม่ได้พูดถึงสถานะการเป็นเจ้าของกึ่งนายทาสของสินค้าที่ประมูลมาด้วยซ้ำ!
“ถ้าคุณเริ่มตอบแทนเสียตั้งแต่ตอนนี้ คุณอาจจะได้ไปจากผมเร็วขึ้นนะ”
แนะจบชายหนุ่มก็หยัดกายชะโงกข้ามโต๊ะมาพลางเอื้อมมือมาโอบท้ายทอยดึงหญิงสาวที่กำลังเข้าภวังค์เมื่อนึกถึงเรื่องงานมาประทับจุมพิตบนกลีบปากนุ่มละมุนอย่างรวดเร็ว!
นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจางเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อริมฝีปากบางได้รูปของอีกฝ่ายฉวยโอกาสขณะเธอไม่ทันตั้งตัวแนบสนิทลงมา จังหวะการเต้นของก้อนเนื้อในอกกระตุกวาบก่อนเสียสมดุลจนเร่งถี่ระรัวยามไอร้อนผะผ่าวราวกับแผ่นเหล็กเผาไฟนาบลงมาแล้วแล่นวาบจากจุดสัมผัสลงสู่ปลายเท้าในเสี้ยววินาที
และปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อถูกชายหนุ่มบังคับจุมพิตของแคเทรียนก็คือการใช้ส้อมในมือซ้ายจิ้มลงไปยังมือขวาที่เป็นหลักยันกายเหนือโต๊ะอาหารของเขาเต็มแรง!
“โอ๊ย!”
ร่างสูงเพรียวอุทานพร้อมผงะถอยหลังทันควันจนเก้าอี้ถูกชนกระเด็นล้มไปเบื้องหลังด้วยความเร็วสมใจคนลงมือ ตั้งหลักได้วุฒิสมาชิกหนุ่มก็กุมหลังมือที่ถูกประทุษร้ายอย่างเจ็บปวดระคนประหลาดใจ ดวงหน้าคมคายเหยเกเล็กน้อยขณะจ้องมองหญิงสาวในชุดสีขาวเจ้าของใบหน้าที่ดูเผือดซีดยิ่งกว่าเดิมซึ่งยืนกำมือแน่นและกำลังสูดลมหายใจลึกๆเข้าปอด แล้วนัยน์ตาสีเขียวมรกตก็เลื่อนไปยังอาวุธที่หล่อนใช้ด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าไม่อยากเชื่อก่อนจะหลุดหัวเราะเสียงปร่า
“ผมยังโชคดีสินะที่คุณไม่ใช้มีด”
ส้อมในมือขาวจัดถูกทิ้งลงพื้นเมื่อหญิงสาวพยายามควบคุมจังหวะหายใจให้เป็นปกติหลังลงมือทำร้ายผู้อื่นด้วยความไม่ตั้ง ใจเป็นครั้งแรกในชีวิต ครั้นรู้สึกว่าความสามารถในการควบคุมโทสะของตนเองกลับคืนมากว่าครึ่งก็เลื่อนสายตากลับไปยังผู้ชายจอมฉวยโอกาสที่ยกมือขึ้นดูบาดแผลเลือดซึมว่าร้ายแรงเพียงใด ดวงตาสีฟ้าอ่อนจางวาววับด้วยอารมณ์รุนแรงที่ยังตกค้างและมีทีท่าจะดำเนินต่อไปหากยังยืนมองอีกฝ่ายไม่เลิกจึงตัดสินใจผละกลับห้องพักพร้อมทิ้งคำตวาดไว้เบื้องหลัง
“คุณโชคดีเกินไปด้วยซ้ำ!”
น่าโมโหอะไรอย่างนี้!
คิ้วเรียวของหญิงสาวชาวบาโรวิทขมวดเข้าหากันบอกอารมณ์กึ่งฉุนเฉียวกึ่งหงุดหงิดเช่นเดียวกับริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อที่เม้มแน่นขณะหยิบบรรดายาสามัญประจำบ้านในบรรจุภัณฑ์ล้าสมัยเกินกว่าจะเป็นอุปกรณ์ปฐมพยาบาลของวุฒิสมาชิกจากตระกูลใหญ่โตขึ้นจากกล่องมาพิจารณาวิธีการใช้ ทว่าอย่างน้อยข้อความเรืองแสงภาษาเซเฟร่าปรากฏขึ้นกลางอากาศเมื่อนิ้วยาวเรียวสวยกดใต้ขวดก็บอกให้เธอทราบว่ายาแต่ละชนิดควรใช้อย่างไร
แคเทรียนกวาดสายตาอ่านคำแนะนำอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ยาใส่บาดแผลสด และอุปกรณ์ทำแผลอีกไม่กี่อย่างมาใช้กับต้นเหตุของความไม่พอใจที่นั่งอยู่ข้างกาย นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจางตวัดมองร่างสูงเพรียวที่กำลังทุ่มเทความสนใจให้ข่าวสารต่างๆในช่วงเช้าตรู่อย่างสบายใจราวกับไม่เคยไปเคาะประตูห้องปลุกเธอขึ้นมารับผิดชอบ ‘การใช้กำลังรุนแรงเกินกว่าเหตุ’ เมื่อไม่กี่นาทีก่อนจนต้องรีบออกมาทำตามคำเรียกร้องชวนโมโหนั้น
“ส่งมือมาสิคะ”
วุฒิสมาชิกสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างกว่าปกติแม้จะพยายามเตือนตนเองว่าอีกฝ่ายมีนิสัยแย่เช่นนี้มานานเกินกว่าจะแก้ไขได้ แต่แล้วเธอก็ต้องเม้มปากแน่นกว่าเดิมเมื่อความทรงจำจากการบันดาลโทสะจนเผลอตัวใช้ความรุนแรงโดยไม่ตั้งใจคอยวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึงจนไม่อาจนอนหลับสนิทตลอดคืนตามปกติวิสัยดูจะไม่ส่งผลใดกับชายหนุ่มแม้แต่น้อย
ความสดชื่นผ่องใสบนดวงหน้าคมคายชวนมองอย่างคนได้พักผ่อนเต็มที่และชำระร่างกายจนสะอาดหมดจดก่อความหมั่น ไส้ขึ้นในใจได้อย่างน่าประหลาด…
มือขาวจัดรับมือใหญ่ที่แทบไม่เคยแตะต้องงานหนักมาพิจารณาดูบาดแผลจากการใช้ส้อมแทงด้วยฝีมือตนเองโดยไม่อยากมองหน้าอีกฝ่ายให้อารมณ์เสียหนักกว่าเดิม ก่นด่าในใจพลางนึกสงสัยว่าอีกฝ่ายสามารถรักษาสีหน้าให้ดูดีถึงเพียงนี้ได้อย่างไรในเมื่อเธอไม่สามารถข่มตาหลับได้ลงจนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่าค่อนคืน
แถมสภาพการแต่งกายอันสุภาพเรียบร้อยพร้อมออกสู่สายตาสาธารณชนด้วยสูทสีครีมนวลอันโอ่อ่าหรูหราของชายหนุ่มก็ทำให้คนที่สวมเพียงเสื้อคลุมเนื้อลื่นเนียนสีแดงก่ำตัวยาวทับชุดนอนและปล่อยผมยาวยุ่งเหยิงจากการนอนกระจายเต็มหลังปราศจากความเหมาะสมใดๆนอกห้องนอนมีสีหน้าบึ้งตึงเย็นชามากกว่าเดิม…
ไม่เคยเป็นเดือดเป็นร้อนกับเขาเลยล่ะสิ!
เปลือกตาประดับขนตาสีทองคำขาวหลุบลงปกปิดอารมณ์ที่อาจเผยให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเช้านี้เขารบกวนจิตใจเธอเพียงไร แต่เมื่อได้เห็นรอยแผลสี่รูมีคราบเลือดซึมแถมบวมช้ำเป็นสีม่วงอมแดงบนหลังมือขาวนวลชัดเจนความไม่พอใจทั้งมวลก็หยุดชะงักลง เพราะร่องรอยจากการกระทำของตนเองบนหลังมือใหญ่ดูร้ายแรงสะดุดตาและน่าเจ็บปวดไม่น้อยเมื่อปรากฏอยู่ท่ามกลางแสงตะวันยามเช้าเช่นนี้
“เมื่อคืนคุณไม่ได้ทำแผลเลยเหรอ”
น้ำเสียงแผ่วเบาเต็มไปด้วยความประหลาดใจของหญิงสาวดึงดูดนัยน์ตาสีเขียวพร่างของยูรัสให้ละจากผู้ประกาศข่าวในจอมามองดวงหน้าขาวที่ดูซีดเกือบเท่าเมื่อคืนตอนหล่อนก่อเหตุประทุษร้ายเขาด้วยอุปกรณ์ในการรับประทานอาหารแวบหนึ่ง
“ผมทำความสะอาดมันตอนอาบน้ำแล้ว”
คำตอบไม่น่าเชื่อถือปราศจากรายละเอียดหรือข้อเท็จจริงใดๆส่งผลให้คนถามต้องลอบสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนเริ่มลงมือทำความสะอาดบาดแผลอย่างเงียบๆ ระหว่างนั้นหญิงสาวก็พยายามเฟ้นหาคำอธิบายอันน่าพอใจให้ตนเองเมื่อความรู้สึกผิดพอกพูนขึ้นในใจทุกวินาทีจนมิอาจสลัดทิ้งไปได้ง่ายนัก
อาการผงะถอยหลังของร่างสูงเพรียวและสีหน้าเจ็บปวดระคนตกใจบนใบหน้าของอีกฝ่ายที่ยังคงกระจ่างชัดในสมองถึงจะผ่านการทบทวนมาหลายคราด้วยความพอใจนิดๆกลับกลายเป็นความผิดร้ายแรงเมื่อได้ฟังคำพูดเพียงประโยคเดียวของเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่แน่ใจในกระบวนการคิดและปฏิกิริยาตอบสนองฉับพลันทันทีเมื่อถูกชายหนุ่มจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว แถมประสบการณ์ในอดีตก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ใดที่ทำให้ต้องใช้หันมาความรุนแรงแบบนี้มาก่อน
ที่สำคัญ…เธอไม่คิดว่าการป้องกันตัวเองจนพ้นจากการคุกคามอุกอาจจาบจ้วงของผู้ชายตรงหน้าจะสมควรถูกตำหนิด้วย!
“สมน้ำหน้าคุณจริงๆ” แคเทรียนเปรยเบาๆพลางใส่ยาหลังฆ่าเชื้อโรคที่น่าจะเข้าไปในบาดแผลจากการเพิกเฉยไม่เอาใจใส่ของอีกฝ่าย
คิ้วสีน้ำตาลอ่อนของวุฒิสมาชิกหนุ่มเลิกขึ้นเมื่อได้ยินวาจาบอกอารมณ์สาสมใจชัดแจ้ง เริ่มแน่ใจว่าการปลุกหล่อนให้ตื่นขึ้นมาแต่เช้าคงจะทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียไม่น้อย หากดวงตาสีสวยก็เหลือบดูฝีมือการทำแผลของคนพูดก่อนจะถามถึงสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจตั้งแต่เมื่อคืน
“ที่ผมจูบคุณเมื่อคืนนี้ทำให้คุณกลัวมากเลยหรือไง”
หญิงสาวยังคงเกลี่ยยาให้กระจายไปทั่วแผลและผิวหนังในบริเวณรอบๆอย่างเบามือแม้คำถามของยูรัสจะจุดประกายความประหลาดใจให้เธอไม่น้อย
เหตุไฉนคนฉลาดอย่างยูรัสถึงเข้าใจผิดว่าการแสดงออกของเธอเกิดจากความกลัวทั้งที่จริงแล้วมันคือความโกรธมากกว่า?
ทำไมถึงถามแบบนั้น?
“คุณไม่ควรทำแบบนั้นกับคนที่ไม่เต็มใจ” สาวสวยเพิกเฉยต่อคำถามน่าอันสงสัยพลางตำหนิอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ ลงมือเก็บของเข้ากล่องเมื่อรักษาพยาบาลอีกฝ่ายเสร็จ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อนึกถึงความเหมาะสมขึ้นมาได้ว่าหากวุฒิสมาชิกหนุ่มไปทำงานโดยมีรอยแผลหน้าตาประหลาดที่สังเกตเห็นได้ง่ายบนหลังมือคงไม่เข้าทีนัก “จะพันแผลรึเปล่าคะ”
“ต้องรบกวนคุณแล้ว” ดวงตาสีเขียวมรกตเหลือบมองหลังมือตนเองก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้อารมณ์คนฟังเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง “ผมไม่ทันคิดว่าคุณจะไม่เต็มใจ เพราะมันก็แค่จูบธรรมดา”
“ถ้าอย่างนั้นต่อแต่นี้ไปคุณก็ควรจะเริ่มประเมินความคิดของอีกฝ่ายก่อนลงมือทำอะไรไป เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะยินดีหรือเต็มใจให้คุณทำตามใจชอบทุกอย่างแน่!” วุฒิสมาชิกสาวจากดาวการศึกษาอันดับหนึ่งจบประโยคเสียงเข้มพร้อมใช้ผ้าพันแผลสีขาวสะอาดพันมือใหญ่อย่างรวดเร็วแน่นหนา นึกขัดเคืองนิสัยมั่นใจในตัวเองอย่างสูงของผู้ชายที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจนแทบทนไม่ไหว
คิดว่าผู้หญิงทุกคนจะนั่งตาลอยรอรับจูบตัวเองรึไงกัน!
ฝันไปเถอะ!
“ผมก็ว่างั้นแหละ” เสียงทุ้มนุ่มนวลกลั้วหัวเราะเรียกให้หญิงสาวผู้ไม่เต็มใจตวัดตาขุ่นเขียวมองอย่างหงุดหงิด “ดูเหมือนผมจะทำอะไรให้คุณพอใจไม่ได้เลยสักอย่างเดียว”
คราวนี้แคเทรียนต้องสูดลมหายใจข่มอารมณ์อย่างหนักเมื่อคำพูดของอีกฝ่ายสามารถตีความหมายได้ทั้งในแง่บวกและลบ เริ่มแน่ใจว่าสมญานาม ‘เสาน้ำแข็ง’ ที่ได้รับมาจะถูกกลบฝังภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยฝีปากเหลือทนของผู้ชายตรงหน้า
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่รู้จักผู้ชายเจ้าเล่ห์แสนกลคนนี้มาก่อนได้ฟังคำสารภาพเมื่อครู่อาจรู้สึกดีถึงขั้นเป็นปลื้มด้วยเข้าใจว่าเขายอมรับออกมาโดยตรงว่าไม่สามารถมอบความสุขกายสบายใจเธอผู้นั้นได้ตามที่ตั้งใจ…
แต่สำหรับคนที่เติบโตมาพร้อมกับการถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอดมันกลับหมายความว่าเธอคือคนเอาใจยากอย่างที่สุด…
ไม่มีทางจะแปลเป็นอื่นไปได้!
“ในเมื่อคุณรู้แล้วว่าไม่สามารถทำให้ฉันพอใจได้ง่ายๆก็ควรจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ไม่อย่างนั้นฉันจะใช้วิธีเดิมเพื่อป้องกันตัวเองจากความเข้าใจผิดๆของคุณ” หญิงสาวยืนกรานความตั้งใจที่สรุปได้ก่อนม่อยหลับไปตอนฟ้าสางด้วยแววตาเกรี้ยวกราดราวกับมีเปลวไฟสีฟ้ากำลังลุกไหม้อยู่ภายในลูกแก้วสวยใสกับอาการศีรษะตั้งตรงบอกความหยิ่งผยองในสายเลือด ผุดลุกจะกลับห้องหลังกระแทกฝากล่องอุปกรณ์ปฐมพยาบาลปิดด้วยความฉุนเฉียวจนไม่สามารถห้ามตนเองมิให้แสดงกิริยาหยาบคายได้
ทว่าวุฒิสมาชิกสาวก็หยุดเคลื่อนไหวทั้งมวลเมื่อได้ยินคำปรารภไม่อนาทรร้อนใจของอีกฝ่าย…
“ด้วยส้อมคันเดิมล่ะสิ”
สาวชาวบาโรวิทหมุนตัวกลับมาหาร่างสูงเพรียวด้วยโทสะที่พุ่งปราดไปทั่วร่าง ฝ่ามือขาวจัดกำแน่นเงื้อขึ้นเตรียมจะสาธิตเป็นตัวอย่างให้เขาทราบว่าเธอตั้งใจจะใช้ส้อมเป็นอาวุธแต่เพียงอย่างเดียวหรือไม่
กระนั้นคนที่เอาแต่ดูข่าวกลับไวกว่า…
มือใหญ่คว้าข้อมือบางอย่างรวดเร็วจนเธอไม่อาจเลือกทุบร่างกายเขาตามใจต้องการแล้วดึงเข้าหาตัวจนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงลมหายใจอบอุ่นรินรดผิวเนื้อ นัยน์ตาสีเขียวสงบนิ่งคู่นั้นพร่างพราวด้วยประกายแห่งความขบขันช้อนมองผ่านขนตาสีน้ำตาลราวกับตั้งใจทิ้งช่วงให้กระชากมือออกไม่ก็ปล่อยให้เธอสงบสติอารมณ์สักครู่
กิริยานั้นบอกชัดว่าเขากำลังรอให้เธอเลือกตามที่ใจต้องการ…
หญิงสาวหลับตาเม้มปากขณะพยายามระงับอารมณ์ให้สงบราบเรียบแล้วรอดูต่อไปเมื่อตระหนักว่าตนเองปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกเข้าครอบงำการกระทำต่างๆมากเกินไปในเวลาไม่ถึงสิบสองชั่วโมง นึกดีใจที่ยังมิได้ลงมือทำอะไรรุนแรงให้สถานการณ์แย่ไปกว่าที่เป็นอยู่
พริบตาถัดมาที่ลืมตาขึ้นอีกครั้งผิวแก้มนวลเนียนก็ร้อนวาบยิ่งกว่าเดิมเมื่อยูรัสพลิกข้อมือด้านในขึ้นมาประทับริมฝีปากได้รูปลงไปบนจุดชีพจรใต้ผิวเนื้อบอบบางอย่างเชื่องช้าแทนที่จะเป็นหลังมือตามมารยาทสังคมอันเหมาะสม ความร้อนผะผ่าวกระตุ้นเร้าให้เกิดอารมณ์รัญจวนใจจากสัมผัสอันนุ่มนวลละมุนละไมที่ดำเนินอยู่เนิ่นนานในความรู้สึกแล่นวาบไปตามลำแขนขาวผ่องเรียวเสลาจนแคเทรียนลืมหายใจไปชั่วขณะ
เมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นอีกครั้งเธอก็ได้เห็นรอยยิ้มพึงใจปรากฏขึ้นบนต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติในร่างกายและได้ยินสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเข้าใจในความหมายที่แท้จริงได้ง่ายๆทั้งที่เป็นเพียงคำพูดธรรมดาตามมารยาทเท่านั้น
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะครับ”
TBC.
มาแล้วค่ะ วันนี้มาตอนกลางวันเพราะไม่สบาย ไข้ขึ้น ทำงานไม่ไหว เลยเข้ามาโพสต์ยูรัสกับแคเทรียนให้ผู้มีอุปการะคุณทุกท่านอ่านกันดีกว่า ^^
ชอบไม่ชอบ ก็บอกกันบ้างนะคะ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 16:43:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 16:44:23 น.
จำนวนการเข้าชม : 1105
<< ตอนที่ 3 | ตอนที่ 5 >> |

sonakshi 5 ส.ค. 2556, 14:32:38 น.
สนุกมากค่่ะ
สนุกมากค่่ะ

saralun 6 ส.ค. 2556, 06:09:42 น.
ชอบค่าาาา
ชอบค่าาาา
