Delusion เหลี่ยมรัก เล่ห์ลวง
(เรื่องต่อจาก Asylum หรือ ในกรงเพลิง สนพ.อินเลิฟ)


วุฒิสมาชิกแคเทรียน เนลีคาห์น แห่ง ดาวเคราะห์บาโรว์ ถูกลักพาตัวระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่่าตนเองกลายเป็นหนึ่งในหญิงสาวที่กลายเป็นสินค้าของ เอธาน เฌอราส หนึ่งในผู้มีอิทธิพลของกลุ่มเครส และได้ทราบว่าเขาจะขายเธอให้แก่ผู้ที่ให้ราคาดีที่สุด!

Tags: ต่างดาว, เซเฟรัส, คีเรี่ยน, ยูรัส, แคเทรียน

ตอน: ตอนที่ 5

‘เยเลนบอกฉันเมื่อครู่ว่าเธอพบแคเทรียนแล้ว’

ภาพจำลองสามมิติของใบหน้าขาวจัดอ่อนกว่าวัยของสตรีอายุ 58 ปีปรากฏขึ้นแทนที่ภาพเลขาณุการสาวร่างท้วมอย่างรวดเร็ว ประกายวาววามในดวงตาสีฟ้าซีดและริมฝีปากบางเฉียบที่เหยียดออกเป็นรอยยิ้มทักทายดูไม่เยือกเย็นเหมือนเคยจนคนมองอดแปลกใจมิได้ หากน้ำเสียงแฝงแววโล่งใจนิดๆที่หลุดรอดออกจากการควบคุมตัวเองอย่างเข้มงวดของผู้นำตระกูลเนลีคาห์นเมื่อเปิดบทสนทนาถึงหัวข้อสำคัญที่ยังคงวิตกกังวลไม่หายเร่งให้วุฒิสมาชิกหนุ่มรีบตอบคำถามโดยเร็ว

‘ครับ ตอนนี้เธอพักอยู่ที่บ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งของเรา’

‘ทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน หรือว่าแคเทรียนบาดเจ็บหนัก’ คิ้วสีทองคำขาวของคนฟังที่ถ่ายทอดความงดงามเยือกเย็นแบบเดียวกันนี้ให้บุตรสาวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อไม่มีการเอ่ยถึงการกลับมาของหญิงสาวผู้หายตัวไปจากปากของอีกฝ่าย

กระนั้นก็ไม่คาดคั้นตีโพยตีพายเอาคำตอบ…

‘ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ แคเทรียนไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนเลย คุณน้าไม่ต้องกังวล เพียงแต่ผมคิดว่าเราน่าจะให้เวลาเธอสักพักน่ะครับ’

ยูรัสไขข้อข้องใจพลางคลี่ยิ้มบางเบาอย่างชื่นชมวิธีเก็บงำท่าทีของสตรีสูงวัยผู้งามสง่าเปี่ยมอำนาจที่นั่งหลังตรงอยู่หลังโต๊ะตัวใหญ่ในห้องทำงานอันเคร่งขรึม และเพื่อป้องกันมิให้เพื่อนสนิทของมารดาคาดเดาเหตุการณ์ไปในทางที่เลวร้ายเกินกว่าเหตุเมื่อคำนึงถึงการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของบุตรสาวคนโต หากเขาก็ไม่คิดจะบอกสาเหตุที่แท้จริงของการกลับบ้านไม่ได้ของบุคคลผู้ตกเป็นเป้าสนทนาให้อีกฝ่ายทราบ

นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจางหม่นมัวไปตามวัยเริ่มฉายแววแจ่มใสขึ้นเมื่อได้รับคำตอบอันวางใจได้จากชายหนุ่มผู้ถือว่าเป็นเพื่อนที่เชื่อถือพึ่งพาได้คนหนึ่งของตระกูล

‘ได้ฟังเธอพูดแบบนี้ฉันก็สบายใจขึ้น อย่างน้อยก็ไม่มีอะไรน่าหวาดหวั่นเหมือนครั้งก่อน’

‘ครั้งก่อน’ วุฒิสมาชิกหนุ่มทวนคำพูดสะดุดหูเมื่อจับความรู้สึกโล่งอกจากอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ‘แคเทรียนเคยมีปัญหาอะไรก่อนหน้านี้หรือครับ’

‘ขอโทษที ฉันลืมไปว่าเธอไม่ทราบ เรื่องนี้รู้กันเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้นเอง เมื่อหลายเดือนก่อนมีการข่มขู่คุกคามแคเทรียน ไม่ได้มากมายอะไรหรอก รูปแบบการข่มขู่ก็เป็นวิธีพื้นๆอย่างพวกข้อความไปจนถึงส่งซากสัตว์เป็นพัสดุมาที่บ้าน ถึงอย่างนั้นเราก็ยังจัดการกับตัวการไม่ได้ ฉันจึงค่อนข้างวิตกว่าการหายตัวไปของแคเทรียนคราวนี้อาจจะต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์นั้น แต่ในเมื่อแคเทรียนไม่ได้บาดเจ็บ เรื่องคราวนี้ก็อาจจะเป็นฝีมือคนอื่นๆที่ไม่พอใจในการทำงานของลูกสาวฉันก็ได้’

คำบอกเล่านี้ก่อกวนความรู้สึกลึกๆของคนฟังให้ขุ่นมัวจนต้องรีบเบี่ยงเบนความสนใจของตนเองกลับไปสู่สาเหตุแห่งการติดต่ออีกฝ่ายนอกจากต้องการแจ้งให้ผู้สูงวัยทราบว่าพบบุตรสาวของหล่อนแล้ว

ทว่าความคิดค้างคาก็ยังวนเวียนอยู่ไม่ไปไหน…

แคเทรียนไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ให้ฟังเลยสักครั้งเดียว!

ร่างสูงเพรียวลอบผ่อนลมหายใจขับไล่ความไม่พอใจก่อนผงกศีรษะสีน้ำตาลอ่อนเล็กน้อยแทนการเอ่ยปากรับรู้แล้วเอ่ยถึงจุดประสงค์หลักที่รอคอยอยู่

‘มีคนนอกทราบเรื่องแคเทรียนหายตัวไปบ้างหรือเปล่าครับ’

‘ไม่มีแน่นอน เราปิดข่าวนี้ตั้งแต่แรกที่รู้ว่าแคเทรียนหายตัวไป เยเลนคงลืมบอกเธอว่าเราส่งข้อความขอลาป่วยไม่มีกำหนดไปที่สภาเซเนสทันทีที่แน่ใจว่าหาตัวไม่พบ ป้องกันไว้ก่อนจะได้ไม่มีปัญหาวุ่นวายตามมาทีหลัง ถึงอย่างไรเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้และอาจไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าการข่มขู่เล็กๆน้อยๆให้ตกใจกลัว แล้วงานของแคเทรียนในช่วงนี้ก็มีแค่การตรวจสอบข้อมูลสำหรับอัพเดทสารานุกรมทางช้างเผือกกับงานบริหารมูลนิธิไม่กี่แห่งเท่านั้น’

‘ครับ ปล่อยให้เป็นแบบนั้นต่อไปอีกสักพักจะดีกว่า ตอนนี้แคเทรียนต้องการการพักผ่อนมากทีเดียว’

‘ขอบใจมากนะยูรัส ทั้งสำหรับการหาตัวแคเทรียนจนพบและการดูแลตลอดมา’

นั่นเป็นการจบบทสนทนาเกี่ยวกับหญิงสาวผู้หายตัวไปอย่างง่ายดายที่สุดเมื่อคำนึงถึงความสัมพันธ์ยาวนานของสองสตรีที่เป็นเพื่อนสนิทกันซึ่งเอื้อให้ผู้นำตระกูลเนลีคาห์นสามารถซักไซ้ไล่เลียงถึงเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดที่ส่งผลให้แคเทรียนต้องพักอยู่ในบ้านของเขาได้โดยไม่จำเป็นต้องเกรงใจมากนัก

ง่ายอย่างที่เขาคิดไม่ถึง…

และมันก็พิสูจน์ให้เห็นว่าอีกฝ่ายมอบความไว้วางใจให้เขามากจนไม่ต่างอะไรกับคนในครอบครัวแม้แต่น้อย…

ดวงตาสีเขียวมรกตหลุบต่ำพลางนึกสงสัยว่าศีลธรรมจรรยาที่คนทั่วไปยึดถือและให้ความสำคัญยังมีหลงเหลืออยู่ในตนเองหรือไม่ เพราะเขามิได้รู้สึกผิดที่ไม่บอกความจริงทั้งหมดให้ผู้ที่ถือเสมือนญาติผู้ใหญ่อีกคนได้ทราบเมื่อถือเอาเหตุผลของตนเป็นหลัก แถมยังยอมรับความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีให้แล้วนำมาใช้ประโยชน์โดยปราศจากความละอายใดๆตกค้างในใจ

ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มเมื่อรอยแผลบนหลังมือดึงคำตอบให้ผุดขึ้นจากความทรงจำในคืนที่เขาต้องเจ็บตัวจากการลงมือด้วยความกลัวที่เข้าครอบงำสติวุฒิสมาชิกสาวเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งหลายครายามหล่อนเยาว์วัย

‘ไม่ว่าใครจะเป็นคนพูด ฉันก็พร้อมจะเชื่อ ถ้าเขามีความจริงใจค่ะ’

ทัศนะในการมองและตัดสินความจริงใจของแม่ลูกเนลีคาห์นแตกต่างกันมาก…

ต่างกันจนแคเทรียนมองข้ามและไม่เฉลียวใจถึงใจความแท้จริงท่ามกลางคำพูดไร้สาระมากมายที่เขากล่าวไว้ในวันแรกที่หล่อนยืนยันว่าตนเองคือวุฒิสมาชิกเนลีคาห์นแม้แต่น้อย!

‘ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องยืนกรานเพื่อความปลอดภัยขนาดนั้นเลย ปอร์เชีย ถึงยังไงผมก็ซื้อคุณมาแล้ว’

แต่ก็อย่างว่า…

เสาน้ำแข็งเคยเผชิญกับการกลั่นแกล้งเล็กๆน้อยๆของเขามามากเกินกว่าจะยอมวางใจง่ายๆ

วุฒิสมาชิกหนุ่มเอนร่างพิงพนักเก้าอี้หนังตัวโตพลางผ่อนลมหายใจยามขับไล่การติดต่อระหว่างตนเองกับมารดาของแคเทรียนตั้งแต่เย็นวันที่หญิงสาวถูกส่งมาถึงบ้านพักตากอากาศริมทะเลสาบแสนสวยด้วยการวาร์ปออกไปจากสมองเมื่อยังมีปัญหาสำคัญอีกประการรอให้ไขอยู่

เพราะเหตุใดเอธานจึงจับตัวหล่อนมา?

ข้อข้องใจนี้วนเวียนอยู่ในสมองตั้งแต่วินาทีแรกที่ตระหนักว่าหญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีขาวผู้นั้นคือแคเทรียน และมันก็ทำให้เขาต้องลองหยั่งเชิงเจ้าพ่อหนุ่มด้วยคำถามกึ่งเสียดสีประชดประชัน ทว่าคำพูดเรียบๆของอีกฝ่ายกลับแฝงความนัยรู้ทันนั้นทำให้เขาต้องละข้อสงสัยชั่วคราวและยังไม่มีโอกาสเอ่ยถึงมันอีก

เป็นไปได้ว่าชายคนนั้นต้องการสั่งสอนหญิงสาวให้รู้สำนึกและเจียมตัวจนเลิกสอดมือเข้าไปวุ่นวายกับกิจการผิดกฎหมายที่หล่อนจ้องจะจัดการให้หมดสิ้นดังที่กระทำอยู่เสมอในช่วงหลัง หากเอธานที่เขารู้จักไม่นิยมใช้วิธีพื้นๆอย่างการจับผู้หญิงที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญใจให้มาประมูลขายเพื่อตัดรำคาญโดยไม่คิดวางแผนอะไรให้เสียเวลา

กระนั้นชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจว่าจุดประสงค์ของอีกฝ่ายคืออะไรกันแน่ ในเมื่อสามารถขายวุฒิสมาชิกสาวหน้าตาดีให้แก่เหล่าอภิมหาเศรษฐีตัณหาจัดกามวิปริตซึ่งโปรดปรานการแสดงอำนาจเหนือผู้มีอำนาจทางการเมืองอย่างหล่อนได้มากกว่าราคาที่ยอมขายให้เขาหลายร้อยเท่า แถมวิธีนั้นจะทำให้เขาได้ลิ้มรสความสาแก่ใจที่สามารถทำให้หล่อนต้องเจ็บแสบทรมานจากการเสียศักดิ์ศรีและถูกเหยียบย่ำเกียรติยศอย่างเต็มที่

นอกจากนี้เอธานย่อมรู้แน่แก่ใจดีอยู่แล้วว่าการอาศัยอยู่กับเขาจะช่วยรับประกันความปลอดภัยในชีวิตของหญิงสาวชาวบาโรวิทได้ดียิ่งกว่าการปล่อยให้หล่อนพักอยู่ตามลำพังในห้องชุดส่วนตัวบนดาวโคริกินาสหลายเท่า

ทั้งหมดนี้ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย…

และปัญหาที่ยังไร้คำตอบก็ทำให้เขาไม่อาจพูดถึงเรื่องที่รู้ว่าหล่อนคือวุฒิสมาชิกเนลีคาห์นตัวจริงกับเจ้าตัวแม้แต่คำเดียว!

คิ้วสีน้ำตาลขมวดเข้าหากันขณะพยายามเรียบเรียงความคิดและเหตุผลต่างๆให้ลงตัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากข้อเท็จ จริงที่มีอยู่ในมือยังไม่เพียงพอที่ช่วยจะให้เขาบรรลุถึงแสงสว่างใดๆจนได้แต่คิดทบทวนซ้ำไปซ้ำมาไม่เลิก

“ตรวจสอบความถูกต้องเสร็จหรือยังคะคุณยูรัส เดี๋ยวดิฉันจะต้องส่งให้แผนกออกแบบแล้วนะคะ”

เสียงทวงถามของเลขาณุการิณีสาวดังขึ้นเมื่อร่างบางในสูทกระโปรงสีน้ำเงินเคร่งขรึมก้าวเข้ามาในห้องทำงานกระตุ้นให้ผู้เป็นนายหันไปใส่ใจกับเอกสารที่วางแผ่อยู่ตรงหน้าหลังใช้ความคิดเรื่อยเปื่อยมาพักใหญ่

“ขอเวลาผมสักครู่นะ”

มือใหญ่ไล่แตะไอคอนรายงานที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทีละไฟล์แล้วรีบตรวจทานเอกสารตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนส่งไฟล์ให้หญิงสาวผู้ยืนรอด้วยความอดทนอยู่หน้าโต๊ะทำงานไปจัดการต่ออย่างมีประสิทธิภาพ นัยน์ตาสีเขียวมรกตมองตามหลังลูก น้องสาวที่หมุนตัวเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วจนกระทั่งอีกฝ่ายปิดประตูเรียบร้อยจึงเลื่อนความสนใจกลับมายังปัญหาที่ค้างคาใจดังเดิม

เอธานทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน?




วุฒิสมาชิกสาวก้าวออกจากห้องอาบน้ำเมื่อเสร็จสิ้นการชำระล้างร่างกายก่อนเข้านอน เรือนผมสีทองคำขาวยาวระบั้นเอวแกว่งไกวพลิ้วไหวตามจังหวะก้าวเดินเช่นเดียวกับชุดนอนผ้าฝ้ายเนื้อนุ่มตัวยาวที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี มือขาวจัดลูบชุดกระโปรงที่สวมก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังเสื้อคลุมตัวงามสีฟ้าครามที่พาดอยู่บนม้านั่งปลายเตียง เนื้อผ้าไหมนิ่มลื่นสะท้อนแสงไฟเป็นมันละเลื่อมชนิดที่กระตุ้นความปรารถนาอยากครอบครองสตรีเพศทุกคนให้ลุกโชนได้อย่างง่ายดาย

ภาพที่เห็นส่งผลให้หญิงสาวถอนใจแผ่วอย่างรู้สึกไม่ถูกต้องกับการเริ่มคุ้นเคยกับเหล่าลูกไม้และริบบิ้นงดงามราคาแพงซึ่งประดับตกแต่งอยู่บนเสื้อผ้าประเภทที่ไม่เคยใส่มาก่อนในชีวิต

ยูรัสลงทุนมากเกินไปแล้ว…

ความหรูหราฟุ่มเฟือยของเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับที่มิได้สังเกตเห็นหรือใส่ใจในตอนแรกสำแดงตัวออกมาเรื่อยๆจนแคเทรียนรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่น้อย แต่แล้วความรู้สึกไม่ถูกต้องก็คลายลงเมื่อคำนึงถึงวิธีการปฏิบัติตัวของเจ้าของบ้านต่อหญิงสาวที่เขาประมูลซื้อตัวมา

การประมวลหาคำตอบจากสิ่งที่เธอได้สัมผัสตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็พบว่าอีกฝ่ายให้ความเมตตาปรานีต่อเพศตรงข้ามที่อยู่ในสถานะต่ำกว่าพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากที่เขาไม่มีพฤติกรรมใช้กำลังบังคับข่มเหงหรือทรมานทั้งร่างกายและจิตใจแม้บางขณะจะแกล้งยั่วยุเธอให้โกรธจนแสดงอารมณ์ร้ายๆออกมา หากวุฒิสมาชิกสาวก็รู้สึกดีขึ้นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มดูแลให้คนในปกครองได้รับสิ่งจำเป็นต่อการมีชีวิตอยู่อย่างสมบูรณ์กว่าที่เธอเคยทราบจากหญิงสาวชาวโลกที่มูลนิธิให้ความช่วยเหลือมาก

อย่างน้อยเขาก็ไม่เลวร้ายเกินไปนัก…

ถึงจะทำแบบนี้เพื่อความพึงพอใจของตัวเองก็เถอะ!

“เปิดโคมไฟข้างเตียงแล้วปิดไฟอื่นให้หมด”

แคเทรียนสั่งพลางทรุดตัวลงนั่งพิงหัวเตียงแล้วหยิบหนังสือเล่มหนาน่าสนใจที่หยิบติดมือมาจากห้องสมุดขึ้นมาถือ ปลายนิ้วเรียวยาวไล้ปกแข็งหุ้มหนังสีอาทิตย์อัศดงจารไว้ด้วยตัวอักษรตวัดหางงดงามสีเงินซึ่งสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแผ่วเบาขณะจิตประหวัดถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างตนเองกับเจ้าของบ้านเมื่อสองวันก่อน

‘ทำไมคุณถึงมีหนังสือเกี่ยวกับดาวคีรานและคีเรี่ยนครบทั้งชุดได้ล่ะคะ เป็นกระดาษแบบนี้มีจำกัดด้วยนี่คะ’

ความแปลกใจที่วุฒิสมาชิกหนุ่มมีหนังสือของศาสตราจารย์ชาวคีเรี่ยนที่เธอให้ความเคารพนับถือมานานครบทั้งชุดทำให้อดใจถามมิได้ ด้วยรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่เคยสนใจในประวัติศาสตร์โบราณหรือชาติพันธุ์วิทยานอกเหนือไปจากการทำความเข้าใจชนเผ่านั้นๆเพื่อการเจรจาต่อรองให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ และไม่น่าจะมีความกระตือรือร้นหามาอ่านแม้จะชอบเก็บสะสมหนังสือที่ผลิตจากเยื่อไม้มากแค่ไหนก็ตาม
ก็ขนาดคนชอบสะสมหนังสือหายากอย่างเธอยังหาได้ไม่ครบด้วยซ้ำ!

‘พ่อผมส่งทั้งชุดนั่นมาให้’ นัยน์ตาสีเขียวเหลือบมองข้ามห้องมาแวบหนึ่งก่อนจะป้อนโปรแกรมหุ่นยนต์แม่บ้านต่อไปหลังได้เห็นอาการชะงักเล็กน้อยของเธอ ‘คุณคงยังไม่รู้สินะ ผมเป็นลูกครึ่งคีเรี่ยน พ่อก็เลยอยากให้ผมได้รับรู้มรดกทางวัฒนธรรมของเขาไว้บ้าง แต่ผมยังไม่มีเวลาอ่านมันสักเท่าไรเลย’

‘คุณรู้จักพ่อของคุณด้วยหรือคะ’ คิ้วเรียวขมวดด้วยความประหลาดใจที่ทวีมากกว่าเดิมหลังได้ฟังคำอธิบายที่ไม่ให้ความกระจ่างมากนัก
ในกระบวนการคัดเลือกและซื้ออสุจิจากธนาคารเชื้อพันธุ์นั้น จะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดส่วนบุคคลของผู้บริจาคให้ลูกค้าทราบ มีเพียงข้อมูลเกี่ยวกับพันธุกรรม ระดับสติปัญญา และรูปลักษณ์ภายนอกโดยรวม เป็นตัวบ่งชี้ว่าจะเหมาะสมกับความต้องการหรือไม่

ไม่น่าจะมีใครหาข้อมูลเบื้องลึกของผู้บริจาคได้…

นอกเสียจากว่าคนๆนั้นจะใช้อิทธิพลหรือทรัพย์สินที่มีเพื่อการได้มาซึ่งข้อมูลสำคัญนั้น…

‘ครับ แต่ผมไม่ได้สนิทสนมกับเขาหรอก การเป็นผู้บริจาคก็บอกชัดอยู่แล้วว่าเขาไม่ต้องการจะเกี่ยวข้องกับลูกที่เกิดมาจากผู้หญิงแปลกหน้า ถึงรู้จักเขามากกว่าเดิม เส้นทางชีวิตผมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง’

แม้ยูรัสจะพูดจาเย็นชาไม่ใส่ใจ แต่หญิงสาวก็แน่ใจว่าผู้เป็นบิดาของเขาคงอยากให้ลูกชายได้ศึกษาเกี่ยวกับบรรพบุรุษของตัวเองไว้บ้าง ไม่เช่นนั้นคงไม่ส่งหนังสือหายากราคาแพงมากำนัลให้ครบทั้งชุดแบบนี้…

ในเมื่อเขาไม่มีเวลาอ่าน…

คนมีเวลาเหลือเฟืออย่างเธอก็จะอ่านเองแล้วกัน!

หน้ากระดาษถูกพลิกอย่างเบามือเมื่อหญิงสาวชาวบาโรวิทเปิดไปยังหน้าที่คั่นค้างไว้ โคมไฟข้างเตียงที่ส่องแสงสีส้มอ่อนสบายตาส่งให้ตัวอักษรสีดำบนแผ่นกระดาษสีเหลืองนวลเด่นชัดขึ้นกว่าเดิม ดวงตาสีฟ้าอ่อนจางจึงกวาดไล่ไปตามตัวอักษรแต่ละบรรทัดอย่างรวดเร็วจนหมดประโยคสุดท้าย แต่ก่อนที่ความเพลิดเพลินจะสั่งให้รีบพลิกหน้าต่อไปมือขาวก็หยุดนิ่งเมื่อสภาพการณ์ปัจจุบันของตนเองแวบผ่านเข้ามาในสมอง

นี่เหมือนกับการหยุดพักผ่อนไม่มีผิดเลย!

แคเทรียนกะพริบตาปริบยามตระหนักได้ถึงสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในความคิดมาก่อน ความรู้สึกประหลาดชวนตะครั่นตะครอทำให้คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันโดยอัตโนมัติ

การพักที่บ้านหลังนี้ในฐานะสินค้าจากการประมูลส่งผลให้เธอมีเวลาว่างได้ทำกิจกรรมอื่นๆมากมายที่แทบไม่มีเวลาได้ทำก่อนหน้านี้ ทั้งจัดเรียงชั้นหนังสือ ทำความสะอาดและจัดเครื่องเรือน ประกอบอาหาร อ่านหนังสือฆ่าเวลา ไปจนถึงควบคุมดูแลและแก้ไขการทำงานของหุ่นยนต์รับใช้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เธอเคยคิดจะทำแต่ไม่มีโอกาสและไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้ทำทั้งสิ้น

ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนว่าหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งวุฒิสมาชิกเธอก็ไม่เคยขอลาหยุดพักร้อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว…

บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการหยุดพักผ่อนก็เป็นได้…

สาวสวยเริ่มทบทวนความเป็นไปได้ทั้งหมดของสถานการณ์ที่ผ่านมาอย่างรอบคอบเมื่อมองเห็นข้อดีของการเป็นผู้อาศัยไร้ความรับผิดชอบใดๆในใจ เวลาว่างที่มีอยู่ขณะนี้เกิดขึ้นเพราะยูรัสยังไม่เชื่อว่าเธอคือวุฒิสมาชิกเนลีคาห์นตัวจริง แถมตำแหน่งหน้าที่ของเขาก็ทำให้ชายหนุ่มต้องเดินทางไปยังดาวเคราะห์ต่างๆจนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาพักอยู่ที่นี่เพียงสามวัน นอกจากนี้มันยังเอื้อให้เธอสามารถติดตามอ่านผลของวาระการประชุมต่างๆของสมาพันธ์ได้จากเอกสารที่เขาวางทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานได้สบายๆอีกด้วย

ที่สำคัญ…หลังจากที่เธอประกาศความต้องการออกไปอย่างอาจหาญชัดแจ้งแล้ว ชายหนุ่มก็ยังไม่เคยถือโอกาสจากสถานะอันเหนือกว่าเอาเปรียบอีกเลย…

มีโอกาสดีขนาดนี้ผ่านมาแล้วทำไมเธอจะไม่ฉวยไว้?




ร่างโปร่งบางในชุดกระโปรงคล้องคอสีแดงเข้มยาวคลุมเข่าปักลวดลายสวยเก๋สีขาวเดินเข้าสู่ห้องนั่งเล่นทรงกลมสุดโปรดที่สามารถอ่านหนังสือและชื่นชมธรรมชาติภายนอกอันงดงามได้พร้อมกัน กำไลข้อมือขนาดใหญ่แกว่งกระทบกันยามมือขาวจัดวางหนังสือปกแข็งเล่มหนาลงบนโต๊ะข้างเก้าอี้ตัวยาวอย่างทะนุถนอมแล้วหันไปขยับโคมไฟตั้งโต๊ะให้อยู่ในตำแหน่งเหมาะสมตามที่เคยจัดไว้ ครั้นกวาดตาสำรวจรอบห้องก็ต้องส่ายศีรษะด้วยความระอาใจเมื่อพบว่าสิ่งของส่วนใหญ่ที่จัดวางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยถูกเคลื่อนย้ายไปไว้ตามที่ต่างๆอีกครั้ง

ถึงเวลาต้องเปลี่ยนมาใช้แอนดรอยด์แล้วจริงๆ…

แคเทรียนไล่จัดสิ่งของเครื่องประดับตกแต่งห้องใหม่พลางนึกถึงความเก่าแก่ไร้ประสิทธิภาพจนไม่สามารถตัดสินได้ว่าสิ่ง ของชิ้นใดควรจัดวางไว้ในตำแหน่งไหนของหุ่นยนต์ตกรุ่นเพียงตัวเดียวในบ้าน แต่ก็ยังสงสัยว่าเจ้าของบ้านจะยินยอมเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ตามคำแนะนำของตนเองหรือไม่ เพราะหลังจากมีโอกาสได้พิจารณาแม่บ้านสมองกลอยู่หลายคราก็พบความจริงว่าหุ่นยนต์นี่คือพี่เลี้ยงสมัยเด็กของวุฒิสมาชิกหนุ่มซึ่งได้เห็นมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับเขาเช่นเดียวกับสิ่งของหลายอย่างในบ้านหลังนี้

แม้จะเกิดความฉงนฉงายต่อการประดับตกแต่งบ้านด้วยสิ่งของเครื่องใช้อันล้าสมัยประเภทต่างๆที่ได้เห็นช่วงแรกของเวลาสามสัปดาห์ที่ผ่านมา หากตอนนี้เธอเริ่มหยั่งถึงความรู้สึกส่วนตัวของชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่ไม่อาจตัดใจจากวัตถุแห่งความทรงจำจนไม่ยอมกำจัดไปให้พ้นแต่กลับนำมาเก็บรักษาไว้ในบ้านพักส่วนตัวแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย

ยูรัสมีสายใยผูกพันและมีความรู้สึกละเอียดอ่อนต่อสิ่งต่างๆรอบกายมากกว่าที่เธอคาดเดาเอาเองมาก…

การมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมิได้มีความสำคัญต่อชายหนุ่มมากไปกว่าอาหารว่างที่จะเลือกรับประทานหรือไม่ก็ได้ แต่คุณค่าทางจิตใจที่สิ่งของเหล่านี้มีให้ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่เขาจะขาดเสียมิได้ในชีวิต

เป็นไปได้ว่าความเข้มงวดกวดขันของผู้เป็นมารดาส่งผลให้เขามีทัศนคติและความรู้สึกต่อสิ่งของรอบกายเช่นนี้…

คำบอกเล่าในอดีตของมารดาทำให้ทราบว่าตระกูลแอสทราอุสจำเป็นต้องยอมรับบุตรชายสองคนแทนการมีบุตรสาวตามที่ผู้นำรุ่นก่อนปรารถนาจากความผิดพลาดอันไม่อาจควบคุมได้ของเทคโนโลยีในสมัยนั้น และเมื่อสังเกตจากเรื่องเล่าของยูรัสซึ่งเอ่ยถึงครอบครัวก็ช่วยให้เธอแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะต้องผ่านความอึดอัดคับข้องใจจากการถูกเคี่ยวกรำฝึกฝนอย่างหนักหน่วงเพื่อรับตำแหน่งผู้นำในอนาคตร่วมกับญาติสายรองรุ่นเดียวกันที่เป็นคู่แข่งมากกว่าที่คิด

ต้องปกปิดความรู้สึกนึกคิดที่แท้จริงไว้แล้วมาระบายออกยามปราศจากผู้รู้เห็น…

อากัปกิริยาการเคลื่อนไหวของหญิงสาวชาวบาโรวิทชะงักไปทันควันเมื่อได้ทราบความจริงประการหนึ่งเกี่ยวกับตนเองในเรื่องนี้ ร่างโปร่งบางค่อยๆยืดตัวขึ้นจากการจัดแจกันดอกไม้ยามตระหนักถึงจุดบกพร่องใหญ่หลวงที่ตนเองไม่เคยมองเห็นมาก่อน

นอกจากไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เธอยังสรุปเรื่องราวเกี่ยวกับตัวอีกฝ่ายตามที่ได้เห็นพฤติกรรมของเขาแต่เพียงอย่างเดียวด้วย!
คิ้วสีทองคำขาวขมวดมุ่นอย่างไม่สบายใจนักเมื่อหวนคำนึงถึงความผิดพลาดมากมายมหาศาลที่อาจเกิดขึ้นเพราะขาดการตรวจสอบหรือค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงก่อนทำสิ่งใดลงไปด้วยฝีมือตนเอง ตั้งใจว่ากลับไปเมื่อใดจะต้องไปประเมินงานทุกชิ้นที่ผ่านมาให้แน่ใจว่าได้ลงมือกระทำอย่างเหมาะสมที่สุด

แต่ก่อนที่จะได้คิดสิ่งใดต่อก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อทรวงอกภายใต้เนื้อผ้าวาววามถูกตะปบจากเบื้องหลัง!

นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจางเบิกกว้างด้วยความตกใจมากกว่าเดิมเมื่อฝ่ามือใหญ่บีบคลึงขยำขยี้เนินเนื้อนุ่มปกคลุมด้วยผ้าเพียงชั้นเดียวอย่างไม่นึกเกรงใจ วุฒิสมาชิกสาวส่งเสียงอึกอักในลำคอแล้วรีบหมุนตัวกลับหวังจะจัดการกับคนที่พูดอย่างไรก็ไม่ยอมเลิกลงมือจู่โจมยามเธอประมาท แต่ฝ่ามือที่เงื้อขึ้นเตรียมฟาดใบหน้าอีกฝ่ายกลับพลาดเป้าหมายยามเขารวบเอวดึงเข้าหาจนแนบติดร่างสูงเพรียวอย่างว่องไว

แล้วสาวสวยก็ยืนตาโตตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งที่โอบรัดรอบเอวอย่างแปลกใจในดวงหน้าที่เห็นชั่วแวบยามร่างกายด้านหลังถูกรุกรานอย่างชำนาญคล่องแคล่ว ถึงจะพยายามดิ้นรนถอยหนีจากสัมผัสอุกอาจก็ไม่อาจทำได้เมื่อแขนทั้งสองข้างติดอยู่ระหว่างตนเองและแผ่นอกกว้าง มือใหญ่กดแผ่นหลังด้านล่างมิให้ถอยหนีขณะอีกมือเลื่อนมือลงลูบไล้เคล้นคลึงบั้นท้ายสนุกมือ แม้จะไม่พอใจหากการกอดรัดแน่นหนาก็บังคับให้จำต้องปล่อยคนที่ไม่คิดว่าจะได้พบที่นี่ให้ทำตามใจตัวเองโดยปราศจากการตอบ สนองใดๆทั้งสิ้นกว่าครู่ใหญ่

จวบจนกระทั่งพันธนาการคลายออกเธอจึงสามารถผละออกจากอ้อมแขนและมองเห็นผู้บุกรุกได้อย่างชัดเจน…

ฟีเรนท์ส์!

นัยน์ตาสีฟ้ากะพริบปริบ ขณะจ้องมองร่างสูงเพรียวในเสื้อยืดพิมพ์ลายสีครีมน้ำตาลและกางเกงขายาวเนื้อหนาสีดำเหมาะสมกับความสูงขนาด 6 ฟุต 2 นิ้ว ซึ่งแข็งแรงแบบนักกีฬาของผู้สืบทอดตระกูลแอสทราอุสอีกคนหนึ่งอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง ได้แต่มองสบดวงตาสีเขียวที่ดูเข้มและลึกไม่แพ้ยูรัสซึ่งกำลังเป็นประกายแพรวพราวไม่ต่างจากเหลี่ยมมรกตกระทบไฟของคนที่ตนเองถือเสมือนญาติผู้น้องคนหนึ่ง

ชายหนุ่มวัยยี่สิบสามปีเจ้าของท่วงท่าสง่างามคล่องแคล่วยิ้มกริ่มสบายอารมณ์ หลังฉวยโอกาสจนสมใจโดยปราศจากความละอายใดๆ นั้นดูมีเสน่ห์เร้าใจยิ่งกว่าในอดีต มือใหญ่ได้รูปปัดเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนบนหน้าผากให้ไปเกาะกลุ่มกับเส้นผมสั้นที่จัดทรงเก๋ไก๋ให้ท้าทายแรงโน้มถ่วงทั้งศีรษะ แล้วดวงหน้าขาวคมคายที่คล้ายคลึงกับผู้เป็นพี่ชายหากหล่อเหลาสะดุดตาจนอิสตรีอาจถอนใจด้วยความอาลัยเมื่อเขาจากไปก็ก้มลงมาใกล้จนหญิงสาวเห็นต่างหูสามชิ้นที่หูซ้ายและห้าชิ้นบนหูขวาโดยไม่ต้องพิจารณาซ้ำ

หากเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยคำทักทายและลมหายใจอุ่นจนร้อนเป่ารดอยู่ข้างใบหูก็ทำให้เธอได้สติกลับมาอีกครั้ง

“สายัณห์สวัสดิ์ แคเทรียน คุณสวยเป็นบ้าเลย ดูดีกว่าเดิมหลายเท่าจริงๆ”

วุฒิสมาชิกสาวจากดาวการศึกษาอันดับหนึ่งกวาดสายตามองร่างเบื้องหน้าอีกครั้งก่อนเริ่มทักทายตามมารยาท และตั้งใจจะตำหนิการกระทำอันปราศจากความเหมาะสมใดๆ เมื่อครู่จนอีกฝ่ายสำนึกและเข็ดขยาดในการแสดงพฤติกรรมเจ้าชู้มือไวกับเธอ แต่แค่คำแรกหลุดจากปากหญิงสาวก็ต้องหยุดพูด เมื่อมีการขัดจังหวะจากเจ้าบ้านที่เข้ามาในห้องพร้อมคำถามและเผลอชะงักคากรอบประตูเมื่อเห็นหน้าผู้มาเยือน

“ปอร์เชีย คุณหยิบหนั..”

คิ้วสีน้ำตาลขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อตระหนักว่าน้องชายผู้มีอายุน้อยกว่าแปดปีปรากฏตัวขึ้นในบ้านพักตากอากาศส่วนตัวโดยไม่แจ้งล่วงหน้าอีกครั้ง ยูรัสหรี่ตาจ้องหน้าแขกไม่ได้รับเชิญอย่างไม่พอใจก่อนจะผงกศีรษะเรียกฟีเรนท์ส์ให้ตามออกมาหลังเหลือบเห็นความสนใจในแววตาของหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้อง

“ไปคุยกันหน่อยสิ”

ศีรษะสีน้ำตาลทองผงกให้หญิงสาวแทนคำขอตัวแล้วเดินตามพี่ชายขึ้นไปยังห้องทำงานบนชั้นสองอย่างรู้สถานที่ ทิ้งตัวลงนั่งกึ่งเอนบนเก้าอี้นอนกลางวันไม่สนใจว่าร่างที่เพรียวกว่าเล็กน้อยจะไปหยุดตรงจุดไหน เมื่อเห็นวุฒิสมาชิกหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าบาร์บริเวณมุมห้องก็ร้องขอเครื่องดื่มโดยไม่รอให้ถาม

“ขอเพนเทลัสผมสักแก้วเถอะ อากาศแถวนี้เย็นเป็นบ้า ผมลืมสนิทไปเลยว่าที่นี่เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว”

“แกยังมีหน้ามาที่นี่อีกเหรอ”

ยูรัสถามเสียงขุ่นพลางปรายตามองอีกฝ่ายอย่างหงุดหงิดก่อนจะรินไวน์สีเขียวอ่อนใสที่เคยให้หญิงสาวได้ลิ้มรสจนตนเองต้องเจ็บตัวไม่นานมานี้ใส่แก้วเจียระไนก้านยาวเพียงใบเดียวจนเกือบเต็ม อารมณ์อยากดื่มมลายหายไปทันทีที่น้องชายผู้รักความสนุกสนานรื่นเริงเอ่ยปากร้องขอแอลกอฮอล์ไปดับหนาวอย่างไม่สนใจจะทักทายพี่ชายที่ไม่ได้พบกันเกือบสี่เดือนหลังจากการปิดเทอมครั้งหลังสุด

โดยเฉพาะเมื่อไอ้หนูนี่แวะไปหาผู้หญิงแทนที่จะมาพบเขาก่อนด้วย!

“หยาบคายจังเลยนะครับ ท่านวุฒิสมาชิก”

เสียงทุ้มต่ำแกล้งเอ่ยเป็นเชิงตำหนิแล้วเผยยิ้มกว้างไร้ความกังวลใดๆให้พี่ชาย รับแก้วเครื่องดื่มมาจิบอึกใหญ่ก่อนจะถอนใจอย่างแสนสุข

“โชคดีของผมจริงๆที่พี่มีไวน์นี่เก็บไว้เต็มห้องใต้ดิน”

“หึ!”

เจ้าของบ้านแค่นเสียงไม่ใส่ใจกระแสชื่นชมในน้ำเสียงอีกฝ่ายที่พูดราวกับไม่รู้ว่าฐานะของตระกูลเอื้อให้สะสมไวน์ผลไม้ดีกรีสูงพอๆกับราคาชนิดนี้ได้เต็มห้องใต้ดินในบ้านพักทุกหลังที่มี

“แกมาที่นี่ทำไม”

“ก็เหมือนทุกครั้งที่ผมมานั่นแหละ พักผ่อนไงครับพี่ชาย”

ดวงหน้าหล่อเหลาเปี่ยมชีวิตชีวายิ้มระรื่นยามเงยขึ้นมองพี่ชายร่วมสายเลือดด้วยนัยน์ตาเป็นประกายขบขันที่คนเป็นพี่ดูอย่างไรก็มองเห็นแต่ความไม่จริงใจบรรจุอยู่เต็ม หากคำตอบที่ได้รับก็มิใช่การโกหกเพราะเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายมา ‘พักผ่อน’ จริงๆ

ถึงจะเป็นการพักผ่อนด้วยการหาความสนุกสนานจากเพศตรงข้ามที่เขาเป็นคนประมูลมาก็เถอะ!

“ที่นี่ไม่เหมาะจะให้แกพักผ่อนในตอนนี้หรอก”

ร่างสูงเพรียวสาวเท้าไปยังโต๊ะทำงาน หยิบกล่องไม้สีน้ำตาลแดงแกะสลักงดงามออกจากลิ้นชักแล้วหยิบบุหรี่ดิโอเรสมวนสดด้วยฝีมือของหุ่นยนต์รับใช้มาคาบไว้ในปาก จ่อไลท์เตอร์เข้ากับปลายมวนจนแผ่นเยื่อไม้ไหม้กลายเป็นควันจึงหันกลับมาหาน้องชายอีกครั้ง

“นอกเสียจากว่าแกจะมาที่นี่เพื่อชดใช้ความผิดพลาดครั้งก่อน”

ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตแขนยาวและกางเกงผ้าสีอ่อนหย่อนกายลงบนขอบโต๊ะพลางอัดควันบุหรี่เข้าปอดอึกใหญ่ งานที่กำลังติดพันอยู่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไม่ถึงสิบนาทีและเขาก็เพิ่งจะเริ่มหยุดพักเมื่อหุ่นยนต์แม่บ้านมาแจ้งว่าฟีเรนท์ส์มาเยือน มือซ้ายบีบนวดต้นคอปล่อยให้ผู้เป็นน้องชายประเมินท่าทีตนเองได้ตามสบายเมื่อรู้สึกผ่อนคลายลงด้วยกลิ่นและรสชาติของพืชพื้นเมืองสุดโปรด

แต่ความไม่พอใจในเรื่องที่อีกฝ่ายก่อไว้ล่าสุดมิได้มลายหายไปด้วย!

“แกมาทำไมกันแน่”

คำถามย้ำประโยคเดิมด้วยน้ำเสียงเข้มงวดของพี่ชายผู้ทำทุกอย่างเพื่อรักษาภาพลักษณ์อันงดงามเหมาะสมของวุฒิสมาชิกหนุ่มแห่งตระกูลแอสทราอุสเรียกรอยยิ้มชวนหัวให้ผุดขึ้นบนริมฝีปากคนฟังเป็นอย่างดี แน่ใจว่าอีกฝ่ายยังไม่หายโกรธตนเองแม้เวลาจะผ่านมากว่าสามเดือน และหากนิสัยของยูรัสยังไม่เปลี่ยนก็ไม่มีทางที่เขาจะได้รับการอภัยให้ง่ายๆแน่

“เอาเป็นว่าผมสำนึกผิด ก็เลยอยากจะแวะมาขอโทษพี่อีกครั้งก็แล้วกัน”

ฟีเรนท์ส์เลือกเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังเป็นการเป็นงานมากขึ้นเมื่อรู้ตัวว่าทิ้งปัญหาให้ค้างคามานานเกินไป แต่เมื่อได้รับสายตารู้ทันระคนไม่เชื่อถือจากเจ้าของบ้านเขาก็ถอนใจหันกลับไปใช้เสียงเรื่อยเฉื่อยไม่อนาทรร้อนใจดังเดิม

“บอกผมมาเลยดีกว่าว่าค่าตัวผู้หญิงคนนั้นเท่าไร ผมจะได้ใช้ให้พี่ทันทีที่กลับไป”

“ถึงงานนายแบบของแกจะไปได้ดีขึ้นทุกวัน ฉันก็ไม่อยากได้เงินแกหรอกนะ”

ชายหนุ่มอายุมากกว่าปฏิเสธการชดใช้ของคู่สนทนาโดยไม่เสียเวลาหยุดคิด เพราะข้อเสนอที่น้องชายพูดมานั้นคือการยอมรับผิดเฉพาะหน้าเพื่อกำจัดสาเหตุแห่งความขุ่นเคืองที่เขากำลังรู้สึกอยู่ มิใช่การสำนึกผิดหรือเกิดความวิตกกังวลในสิ่งที่อาจเกิดตามมาในภายหลังเลยสักนิดเดียว

“ผมรู้น่า แต่บอกตามตรงนะ เรื่องนี้ผมไม่รู้จะทำยังไงให้พี่อารมณ์ดีขึ้น จริงอยู่ว่าผมผิดเองที่เห็นแก่ตัวเกินไปจนประมาท ลืมเปิดระบบป้องกันจนหล่อนหนีออกไปได้ ถึงยังไงเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว และผมเองก็ไม่สามารถไล่ตามไปจับตัวผู้หญิงคนนั้นกลับมาคืนพี่ด้วย”

หนุ่มหล่อจบคำสารภาพด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายไม่ปิดบัง แม้จะรู้ว่ายูรัสยังโกรธที่เขามัวแต่ให้ความสนใจกับความต้องการทางเพศของตนเองจนลืมเปิดระบบป้องกันรอบบ้าน เป็นเหตุให้หญิงสาวชาวโลกที่ประมูลมาได้ฉวยโอกาสเล็ดรอดออกไปโดยไม่มีใครรู้ ทว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาตลอดสามเดือนก็มิได้มีข่าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูลหรือส่งผลกระทบกระเทือนต่อหน้าที่การงานของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

นอกจากนี้เขาเองก็รู้ตัวดีว่าพลาดตรงไหน…

ในสถานการณ์เช่นนั้น ชายผู้สมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจจะห้ามตัวเองได้อย่างไร?

ดวงตาสีเขียวมรกตมองควันสีเทาจางๆลอยกรุ่นเป็นสายจากการเผาไหม้ของมวนบุหรี่สลายหายไปด้วยการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศ หากกลิ่นหอมอ่อนจางเข้มข้นในความรู้สึกยังอบอวลอยู่ในนาสิกประสาทราวกับพยายามมอมคนสูบให้มึนเมาสามารถสร้างความพึงใจได้ตลอดมา ทว่าคราวนี้ชายหนุ่มเจ้าของบ้านกลับถอนใจเฮือกใหญ่อย่างที่ไม่เคยทำต่อหน้าสาธารณชนเมื่อได้ฟังทัศนะของน้องชายเจ้าสำราญที่มักตกเป็นเหยื่อในคอลัมน์ซุบซิบของนิตยสารที่นำเสนอเกี่ยวกับคนดังอยู่เสมอ

“แกสังเกตบ้างหรือเปล่าว่าไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นเลย”

วุฒิสมาชิกหนุ่มเอ่ยลอยๆ ขณะเหลือบมองร่างบนเก้าอี้นอนกลางวันที่ยันตัวขึ้นมานั่งหลังตรง ทันทีที่รู้สึกความไม่ปกติที่แฝงมาในประโยค รู้ดีว่าข้อมูลส่วนตัวบางอย่างของตนเองมักจะได้รับความสนใจจากผู้เป็นน้อง และเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงเช่นนี้มีหรือที่อีกฝ่ายจะไม่รับรู้มาก่อน

“ถึงบอดี้การ์ดฉันจะตามหาไม่เจอ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่น่าจะหายตัวไปเงียบๆทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นวุฒิสมาชิก ไม่ใช่ที่นี่ ไม่ใช่บนกลุ่มดาวเคราะห์ที่ให้สิทธิความเป็นผู้นำแก่เพศหญิงแน่”

ในวินาทีที่ทราบว่าหญิงสาวอ่อนวัยที่สุดในจำนวนสามคนหลบหนีออกจากบ้านพักแห่งนี้เขาก็ส่งคนคุ้มกันออกไปตามหาเพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาใดๆขึ้นตามมา ถึงสภาพแวดล้อมในบริเวณนี้มิใช่สถานที่พลุกพล่านเต็มไปด้วยผู้คนเหมือนเขตพักอาศัยในเมือง หากเขาไม่เคยวางใจปล่อยให้ผู้หญิงคนใดเป็นอิสระโดยที่ยังไม่เคยได้พูดคุยหรือตกลงกันถึงความเป็นไปได้ในอนาคตหลัง จากก้าวเข้ามาในฐานะสินค้าจากการประมูล และรายงานที่ได้รับก็สร้างความฉงนสงสัยที่ไม่ยอมปลีกตัวออกไปจากสมองจนถึงบัดนี้

ทำไมเรื่องถึงได้เงียบสนิทแบบนี้…

เงียบจนเกินไป…

“มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า”

ฟีเรนท์ส์เสนอเหตุผลที่คาดว่าน่าจะเป็นไปได้เมื่อคำนึงถึงฝีมืออันยอดเยี่ยมของอดีตทหารรับจ้างที่ผันตัวมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวให้พี่ชายโดยละความเป็นไปได้อันย่ำแย่ที่สุดไว้ไม่กล่าวถึง แน่ใจว่าคู่สนทนาคิดถึงเรื่องเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับสตรีสาวผู้มีใบหน้าและเรือนร่างงดงามน่ารักละม้ายตุ๊กตาเจ้าหญิงราคาแพงระยับมาก่อนแล้ว

“ผู้หญิงคนนั้นไม่มีบัตรประจำตัวหรือใบอนุญาตอะไรทั้งนั้น ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้”

“เป็นไปได้ แต่ตราบใดที่ไม่มีข่าวอะไรเลยฉันก็ไม่สบายใจอยู่ดี”

ชายหนุ่มพึมพำตั้งใจให้น้องชายรับรู้ถึงผลอันเนื่องมาจากการกระทำอันขาดความรอบคอบของตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้นกับผู้หญิงสิ้นไร้ไม้ตอกคนนั้นถือได้ว่าเป็นความผิดของอีกฝ่ายเต็มประตู ถึงแม้จะเติบโตมาอย่างเข้มงวดกวดขันแต่ก็น้อยกว่าเขาที่ต้องรับตำแหน่งเป็นผู้นำตระกูลและมีโอกาสมากมายในการสนองตอบความต้องการของตัวเองโดยปราศจากสายตาจับผิดจ้องมองตลอดเวลา
ฟีเรนท์ส์เป็นคนฉลาด…

แต่เขาไม่เคยประสบปัญหาใหญ่โตไปกว่าการถูกคู่แข่งทางธุรกิจเล่นสกปรกลับหลัง…

ไม่ต้องพูดถึงกรณีที่มีความเป็นความตายของคนๆหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย!

ยูรัสกดความหงุดหงิดกระวนกระวายไว้ในส่วนลึกของจิตใจไม่คิดจะพูดอะไรเพิ่มเติม ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้วไม่มีประโยชน์ที่จะรื้อฟื้นขึ้นมาจนวิตกกังวลเกินเหตุ แถมเป้าหมายของบทสนทนานี้ก็บรรลุสมประสงค์เมื่อเขาสามารถกระตุ้นให้ตัวต้นเหตุได้คิดทบทวนถึงผลกระทบที่มีความเป็นไปได้ไม่ว่าจะมากหรือน้อย

กระนั้นชายหนุ่มก็รู้ตัวดี…

หากผู้เป็นน้องต้องเผชิญกับการลงโทษจากจิตสำนึกของตัวเองเพราะความผิดพลาดเกี่ยวกับผู้หญิงต่างดาราจักรเพียงคนเดียว พี่ชายที่แม้จะไม่เคยสนับสนุนให้ทำตัวไร้สาระแต่ก็ยังกล่าวได้ว่ามีส่วนร่วมให้เขามีพฤติกรรมแบบนี้คงไม่มีทางสบายใจได้…

“พูดถึงผู้หญิง ทำไมหล่อนถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”

อาการพยักพเยิดไปยังทิศทางของห้องนั่งเล่นชั้นล่างด้วยรอยยิ้มยียวนซึ่งบอกชัดว่าเจ้าตัวมิได้ต้องการคำตอบจริงจัง หากกิริยานั้นช่วยให้คนฟังเดาได้เลาๆว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าใครกำลังพักอยู่ในบ้านพักตากอากาศแห่งนี้

อีกหนึ่งข้อเสียของการที่น้องชายของเขาและน้องสาวของเอธานเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน…

“ซื้อมา”

วุฒิสมาชิกหนุ่มตอบสั้นด้วยไม่เห็นประโยชน์ใดที่จะอธิบายความเพิ่มเติมให้ยืดยาวเมื่อกระจ่างชัดแก่ใจว่าอีกฝ่ายมาวันนี้เพื่อพิสูจน์ความจริงด้วยตัวเอง

นัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่สวยละจากทิวทัศน์ภายนอกหน้าต่างกลับมายังผู้เป็นน้องชายเพื่อประเมินความคิดเห็นและอารมณ์ที่อาจจะผ่านเข้ามาในสีหน้าและแววตา แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นความไม่แน่ใจระคนเหลือเชื่อบนดวงหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย

ฟีเรนท์ส์หลุดเสียงหัวเราะที่ปะปนกันทั้งอารมณ์ขันและความหลากใจออกมาให้ได้ยิน ยกมือซ้ายขึ้นมาแตะขมับราวกับกำลังพยายามเรียงลำดับความคิดที่สับสนทั้งหมดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเปรยกลั้วหัวเราะ

“เฌอราสนี่ขายได้ทุกอย่างจริงๆนะ”

แม้ยูรัสจะไม่แน่ใจว่ากิริยาและประกายแพรวพราวในดวงตาที่ส่งตามหลังคำพูดของน้องชายมาหมายถึงสิ่งเดียวกับที่เขามีอยู่ในใจ แถมบุคคลสำคัญที่ถูกกล่าวถึงในบทสนทนาก็ไม่ต่างอะไรจากเสี้ยนที่ตำมือแล้วไม่อาจหาพบจนสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้ในขณะนี้ หากเขาก็อดเห็นพ้องในถ้อยคำที่สามารถอธิบายข้อเท็จจริงอันน่าจะเป็นคติประจำตระกูลของหนึ่งในกลุ่มเครสแห่งอาณาจักรใต้ดินด้วยมิได้

เอธาน เฌอราส ขายทุกสิ่งที่มีคนต้องการเสมอ…




TBC.




มาต่อแล้วค่ะ ^^

ตอนนี้เรื่องค่อยๆเข้มข้นขึ้นแล้ว ถึงจะมาโพสต์บ้าง หายบ้าง ก็หวังว่าจะมีคนตามอ่านกันต่อไปนะคะ

ปุณเปิดแฟนเพจแล้วนะคะ ขอเชิญทุกท่ายแวะเข้าไปทักทายเยี่ยมเยียน และติดตามความคืบหน้าต่างๆได้ตามลิงค์ข้างล่างเลยค่ะ ^^

https://www.facebook.com/punnarom




ปุณณารมย์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ส.ค. 2556, 22:42:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ส.ค. 2556, 22:44:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1071





<< ตอนที่ 4   ตอนที่ 6 >>
ปุณณารมย์ 13 ส.ค. 2556, 22:45:28 น.

ตอบคห.จากตอนที่แล้วค่ะ ^^

sonakshi
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^^b

saralun
ชอบก็อย่าลืมทักทายกันบ่อยๆนะคะ


คิมหันตุ์ 14 ส.ค. 2556, 15:45:25 น.
โอ่โห....ทักทายกันได้ถึงใจ จริง ๆ เลยนะพ่อฟีเรนท์ส์ เนี่ย ว่าแต่ ทำไมไม่มีส้อมหรือมีดใกล้ ๆ มือของ เปอเซีย บ้างน้อ!! หึหึ


pimsaowaluck 14 ส.ค. 2556, 20:51:44 น.
อ่านอยู่นะค่ะ ติดตามตั้งแต่เรื่องที่แล้ว จริงๆไม่ค่อยชอบเม้นนิยาย ชอบเป็นนักอ่านเงา แต่เห็นกระทู้เงียบๆ เลยเข้ามาบอกว่าติดตามอยู่ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account