ใต้ปีกรักสีเพลิง {นวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ.อรุณ}
สร้อยผีเสื้อสีเพลิงจากคนแปลกหน้า
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๒ (๕๐%)

สุภัทรชาออกจากบริษัทเพื่อนำเอกสารไปยื่นที่กระทรวงป้องกันสาธารณภัยแล้ว พรนางฟ้าจึงค่อยหายใจโล่งขึ้นมาบ้าง ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยรู้สึกรู้สาเมื่อเพื่อนได้รับคำชมจากสิ่งที่เป็นความคิดของตัวเอง ด้วยเชื่อมั่นว่าสุภัทรชาคงต้องชมเธอให้แฟรงคลินฟังบ้าง ครั้นเวลาผ่านไป พรนางฟ้าจึงรู้ว่าเธอไว้ใจคนผิดมาตลอด!

สิบกว่าปีที่เป็นคบกันมา ใครๆเคยอิจฉาที่เธอเป็นเพื่อนสนิทของสุภัทรชา นาริยะสกุล แต่ทุกคนก็รู้เช่นกันว่าตลอดเวลาเหล่านั้น เธอมีหน้าที่ประคับประคองสุภัทรชาทุกหนทาง เพื่อให้เพื่อนร่ำเรียนจนจบด้วยคะแนนที่ดีทัดเทียมกันในเกือบทุกวิชา

ถูกละ! ‘เกือบ’ ทุกวิชา ยกเว้นความผิดพลาดในวิชาสุดท้ายของปีและภาคการศึกษา จนกลายมาเป็นผลการเรียนที่ฉีกเส้นทางของเธอและเพื่อนออกห่างไกลกันเหลือเชื่อ เธอมัวแต่ตั้งใจกับรายงานชิ้นสำคัญ จนไม่มีเวลาเทำรายงานฉบับที่สองให้สุภัทรชาเหมือนทุกครั้ง พรนางฟ้าจึงคิดโครงเรื่องให้ไฮโซสาวทำส่วนที่เหลือต่อเอง

มิคาดว่าผลงานของสุภัทรชากลับโดดเด่นเหลือเชื่อ รายงานฉบับนั้นทำให้เธอพลาดเหรียญทอง[1]ให้สุภัทรชา และมันเป็นจุดเริ่มต้นของความพ่ายแพ้ในลำดับต่อๆมาไม่จบสิ้น

ทันทีที่จบปริญญาตรีในเมืองไทย พรนางฟ้าซึ่งสอบชิงทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษได้ก็ออกเดินทางทันที สุภัทรชาไม่รอช้าขอเงินมารดาตามไปเรียนต่อในคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกันอีกครั้ง!

หลังเรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ยเท่ากันเป๊ะ ทั้งสองก็สมัครเข้าทำงานที่บริษัทโทเทิ่ลเน็ตเวิร์กโซลูชั่นหรือทีเอ็นเอสแห่งสหราชอาณาจักรอยู่ต่างประเทศอีกสองปี เมื่อพรนางฟ้าขอโอนตำแหน่งกลับมาที่สาขาประเทศไทย เพื่อนสนิทก็ถือโอกาสย้ายกลับมาด้วย โดยอ้างว่า

‘แพนกลับเมืองไทยแล้ว เราจะอยู่กับใครล่ะ ไม่รู้ละ ในเมื่อมาด้วยกัน ตอนกลับก็ต้องกลับด้วยกันสิ’

โชคดีที่เมืองไทยมีตำแหน่งว่างพอดี แต่โชคร้าย...มันเป็นสองตำแหน่ง และสองระดับความรับผิดชอบ ‘ผู้จัดการ’ และ ‘ผู้ช่วย’ ผู้จัดการ!

หนึ่งคือผู้บริหาร ขณะที่อีกหนึ่งเป็นเพียงพนักงานระดับปฏิบัติการที่ต้องคอยรับคำสั่งเท่านั้น

ด้วยเกรดที่สูงกว่า และนามสกุล ‘นาริยะสกุล’ ทำให้สุภัทรชาบินสูงตามคาด เพียงสามเดือนหลังพ้นช่วงทดลองงาน แฟรงคลินก็มอบตำแหน่งผู้จัดการให้เพื่อน พรนางฟ้าได้แต่นั่งมองความฝันที่แหลกสลายมอดไหม้เป็นผุยผงกองอยู่ตรงหน้า และนั่นเป็นอีกครั้งที่หญิงสาวก่นโทษตัวเองในความผิดอันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้อีกเลย ใครจะเชื่อว่าผลการเรียนเพียงวิชาเดียว...เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล

เธอโง่พอที่จะยื่นอาวุธให้เพื่อนด้วยมือตัวเอง ในเมื่อวันนี้เชือกเส้นนั้นตวัดกลับมาพันคอ จะโทษใคร...โทษตัวที่ชั่วเอง!

ทั้งที่เคยโกรธตัวเองเรื่อยมา ทว่าชัยชนะเล็กๆน้อยๆที่เพิ่งได้รับเมื่อครู่ กลับทำให้หญิงสาวครึ้มอกครึ้มใจอย่างประหลาด พรนางฟ้าหยิบซองจดหมายสีม่วงอ่อนมากรีดเปิด ดึงกระดาษข้างในออกอ่านอีกครั้ง



ศิลปะทุกชิ้นจะมีค่ามากที่สุดยามอยู่กับผู้ที่เห็นค่าของมัน และผมมั่นใจว่าภาพเขียนนี้คงอยากอยู่กับคุณมากกว่าคนอื่น ฝากดูแลสาวเฟมินิสต์ของผมด้วยครับ

คิรินทร์



“ยิ่งคิดอีตาจิตรกรคนนั้นก็ยิ่งใจดีชะมัด” พรนางฟ้านั่งเท้าคางมองภาพสีน้ำมันที่เพิ่งได้รับมาด้วยความพึงใจ

มันเป็นภาพวาดผู้หญิงนุ่งโจงกระเบนสีม่วงเม็ดมะปราง ห่มสไบเนื้อเรียบสีโศกตามแบบชาววัง ขณะผมสีน้ำตาลทองม้วนเป็นเกลียวตามสมัยนิยมเหมือนเด็กสาวย่านสยามสแควร์ไปล่ปลิวเริงลม ท่าที่ ‘แม่สาวชาววัง’ นั่งไขว่ห้างขัดแย้งกับเครื่องแต่งกายอย่างจงใจ ดวงหน้าเชิดนิดๆจิกตามองออกมาจากในภาพ เจ้าหล่อนชูนิ้วชี้ขึ้นข้างกายระดับเดียวกับใบหน้า และที่สะดุดตาที่สุดก็คือตรงปลายนิ้วเป็นรูปลูกโลกกำลังหมุน เลียนแบบท่านักบาสเกตบอลเลี้ยงลูกบอลบนปลายนิ้วกระนั้น!

‘โลกของคุณก็ควรต้องหมุนด้วยมือของคุณ อย่าปล่อยให้ใครมาบอกว่าคุณทำอะไรได้หรือเปล่า อย่าปล่อยให้ใครมามีอิทธิพลเหนือกว่าตัวคุณเองอีกล่ะ’

เจ้าของรูปย้ำกับเธอหลังปลดรูปออกมาจากห้องทำงานของสุภัทรชา และหญิงสาวก็ชักเห็นด้วยขึ้นมานิดๆ เสียงพึมพำดังเบาๆโดยไม่รู้ตัว “นี่ถ้าแฟรงค์รู้ว่าเกรซทำงานไม่เป็น แต่ใช้เราทำงานมาตลอด แฟรงค์ต้องยกตำแหน่งผู้อำนวยการให้เราแทนแน่ๆ เฮ้อ...เราอยากหมุนโลกด้วยตัวเองอย่างที่เขาบอกแทบแย่แล้ว!”

พรนางฟ้าปล่อยให้ตัวเองอมยิ้มกับจินตนาการที่ชวนให้ปลาบปลื้มใจอยู่พักใหญ่ กระทั่งโทรศัพท์ประจำโต๊ะดังขึ้นปลุกเธอจากภวังค์

“ออฟฟิศคุณสุภัทรชาค่ะ” เธอทักทายโดยอัตโนมัติ

“แพนหรือ พี่พัทธ์ครับ” เสียงนุ่มจากปลายสายเปลี่ยนสีหน้าหญิงสาวให้แปรเป็นสดชื่นในพริบตา

พี่พัทธ์หรือพัทธ์ธนัยเป็นผู้ชายที่เธอปลื้มตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว พรนางฟ้าแอบชื่นชมเขาอยู่เงียบๆ เห็นเขาควงกับแฟนสาวสวีตไปทั่วจนทั้งคู่เรียนจบ เธอไม่ได้ยินข่าวคราวจากรุ่นพี่สุดหล่ออีกเลย จวบกระทั่งที่งานเลี้ยงบริษัทคู่ค้าเมื่อสองปีก่อน เจ้าของงานแนะนำให้เธอรู้จักพัทธ์ธนัย เขาโสดแล้ว หล่อ รวย เก่ง ทั้งยังน่ามองมาดดีไร้ที่ติ ที่สำคัญก็คือใจดีกับเธออย่างไม่เคยมีใครกระทำมาก่อน!

พรนางฟ้าไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ และเธอก็ไม่ต้องการคำตอบด้วย เพราะผู้ชายที่โทร.หาผู้หญิงบ่อยๆ ชวนคุยสารพัดเรื่อง บ่นเรื่องงานให้ฟังด้วยความไว้ใจ ก็น่าจะมีเหตุผลอยู่แค่ข้อเดียว...เขาชอบเธอ!

เหตุการณ์เป็นไปด้วยดี จนพัทธ์ธนัยรู้จักสุภัทรชา พรนางฟ้าจึงรู้ว่าชายหนุ่มไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากไปกว่าน้องสาว เขาวางตัวกับเธอเหมือนเดิมทุกประการ แต่ปฏิบัติกับสุภัทรชาดีกว่านั้นมากมายเหลือเชื่อ! เธอเพิ่งรู้ว่ายามรักของพัทธ์ธนัยแตกต่างกับมิตรภาพที่หยิบยื่นให้เธอ ก็ยามมีข้อเปรียบเทียบให้เห็นนั่นเอง

หญิงสาวห่อเหี่ยวเล็กน้อยเมื่อนึกได้ว่าพัทธ์ธนัยเพิ่งขอสุภัทรชาแต่งงานไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่เพื่อนสนิทของเธอ...ปฏิเสธ!

“วันนี้พี่พัทธ์ไม่เข้าไปยื่นซองที่กระทรวงฯกับคุณเกรซหรือคะ” หญิงสาวพยายามปั้นยิ้มเพื่อให้คำพูดฟังอ่อนโยนไปด้วย

“มาสิครับ พี่อยู่ที่กระทรวงฯแล้ว ยังไม่เห็นเกรซเลย”

“อ้อ...โทร.มาตามคุณเกรซหรอกหรือคะ” ใจคอเหี่ยวแฟบจนสมองตื้อๆ “คุณเกรซออกไปแล้วค่ะ อีกเดี๋ยวก็คงถึง พอดีต้องแก้ไขเอกสารเล็กน้อย ก็เลยออกจากออฟฟิศช้าไปหน่อย”

“เลขาฯพี่บอกแล้วละ แพนหัวไวดีนะ ดัดหลังคุณดนัยเด็ดขาดดีจริง”

“โชคดีมากกว่าค่ะที่แพนสนิทกับลุงตง ก็เลยโทร.ไปขอร้องท่านให้ร่วมมือง่ายหน่อย แพนเกรงใจเขาจังค่ะ ลุงตงยอมเลื่อนเวลาเซ็นสัญญา จนคุณดนัยแพ้ประมูล บางทีท่านอาจเสียผู้ใหญ่ แล้วก็เสียชื่อว่าเลือกปฏิบัติกับคู่ค้าอย่างลำเอียงด้วย”

“อย่าคิดมากเลย ตงยูเป็นเฒ่าสารพัดพิษเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวจะตาย ถ้าเขารับปากก็แปลว่าเขารู้อยู่แล้วว่าจะมีอะไรตามมาบ้าง เขาไม่โง่หรอก ถึงยังไงตงยูก็ต้องช่วยทีเอ็นเอสก่อนบริษัทดนัยอยู่แล้ว เพราะทีเอ็นเอสเป็นคู่ค้ากันมาตั้งสิบกว่าปี ดนัยน่ะ ว่ากันตามตรง ยังไม่ได้เริ่มทำงานด้วยกันเลยสักงาน จริงไหม”

“จริงค่ะ เฮ้อ...ถึงจะรู้ว่าพี่พัทธ์ปลอบใจ แต่ฟังแล้วรู้สึกดีชะมัดเลย”

“พี่ไม่ได้ปลอบใจ แต่พูดตามที่คิดต่างหาก พูดถึงตงยูแล้วนึกได้ ทำไมเมื่อวานแพนไม่ไปปาร์ตี้ล่ะจ๊ะ” พัทธ์ธนัยย้อนมาเรื่องเดิม

“แค่จับได้ว่าเกรซหักหลังเราก็จิตตกจะตายอยู่แล้ว ขืนต้องไปปั้นหน้าว่ายังไหวอยู่ เราคงตายแน่ๆ อีกอย่างเราก็ขี้เกียจไปให้ใครต่อใครหัวเราะเยาะด้วย ความจริงต่อให้ขาดเราไปสักคนก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นอยู่แล้ว เอ้อ...แพนไม่สบายนิดหน่อยค่ะ”

ปลายสายเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนที่พัทธ์ธนัยจะตะกุกตะกักปลอบ “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ พี่ไงที่สังเกตเห็น รู้ไหมแพนไม่ไปนี่พี่เหงาไปเลยนะ แล้วก็ห้ามว่าตัวเองแบบนั้นอีกนะ พี่ฟังแล้วไม่ชอบใจเลย”

พรนางฟ้าอมยิ้ม “ชื่นใจจังที่มีคนใส่ใจและมองเห็นว่าเรามีตัวตน ไม่ใช่แค่เงาของเกรซ คนอะไรหล่อแล้วยังใจดีชะมัด ได้ยินแค่นี้ก็ดีใจยิ้มแก้มจะแตกแล้ว! พี่พัทธ์อยากเจอแพน มีอะไรให้แพนช่วยหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีหรอก พี่แค่เป็นห่วงเท่านั้นเอง ไม่สบายน่ะ กินยาแล้วดูแลตัวเองด้วยนะ”

“พี่พัทธ์น่ารักที่สุด ห่วงเราซะด้วย เฮ้อ...แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”

“เอ่อ...เกรซมาถึงพอดี แพนจ๋า งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ อย่าลืมรักษาสุขภาพให้หายไวๆนะ เทคแคร์จ้ะ” พัทธ์ธนัยวางสายไปอย่างรวดเร็ว แทบไม่เปิดโอกาสให้เธอบอกลาด้วยซ้ำ

พรนางฟ้ามองโทรศัพท์ในมือแล้วถอนหายใจ “ได้เวลาตัดใจจริงๆจังๆซะทีนะพรนางฟ้า ถึงยังไงพี่พัทธ์ก็ต้องลงเอยกับเกรซอยู่ดี” ดวงหน้าเรียบหม่นหมอง แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินคำถาม

“เมื่อกี้แพนว่าอะไรนะ พูดกับเราหรือเปล่า” ญาดาซึ่งนั่งอยู่คนละฟากของคอกกั้นตะโกนข้ามมา

พรนางฟ้าหันไปทางต้นเสียงอย่างงงๆ “แพนไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย สงสัยดาจะหูฝาดแล้วละ”

[1] บัณฑิตที่รับเหรียญทอง คือผู้ที่ได้เกรดเฉลี่ยรวมสูงสุดของปีการศึกษาเท่านั้น มักมีเพียงภาควิชาละหนึ่งคน



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ส.ค. 2556, 05:43:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ส.ค. 2556, 05:43:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 1416





<< ตอนที่ ๑ (๑๐๐%)   ตอนที่ ๒ (๑๐๐%) >>
สิริณ 6 ส.ค. 2556, 05:52:23 น.
จริงๆ สิริณตั้งใจจะอัพนิยายสัปดาห์ละสองวัน คืออังคารกับพฤหัส
แต่เนื่องจากเืพื่อนผีเสื้ออีกสองนางบินไปถึงตอนที่สี่กันแ้ล้ว
ิช่วงนี้สิริณจะพยายามมาอัพนิยายให้บ่อยขึ้นอีกนิด
(อาจจะเป็นสัปดาห์ละ 3 วัน)
เพื่อนๆจะตามอ่านกันทันไหมเนี้ย
ส่งเสียงบอกหน่อยค่า... :D

ป.ล. ใครยังไม่ได้ไปกดไล้ค์เพจของสิริณในเฟซบุ๊ค
ตามไปได้ที่นี่เลยค่ะ เฟซบุ๊คดอทคอม/SirinFC
ต้องรีบหน่อยนะค้า
เดี๋ยวจะมีกิจกรรมเล่นเกม แจกของ แจกหนังสือกันอีกแล้ว

ครั้งก่อนมีผู้โชคดีรับของรางวัลกันไป 57 คนแน่ะ 55555
แจกจริงนะเออ ขอบอกกกกกก


ภาวิน 6 ส.ค. 2556, 08:43:34 น.
ยายเกรซนี่ทั้งน่ากลัวทั้งน่าหนีห่างนะ แต่นางตามพรนางฟ้าติดเหมือนเหาฉลามเลย


Sukhumvit66 6 ส.ค. 2556, 11:55:23 น.
เจ้าตัวเขายังไม่รู้หรือค่ะ ว่ามีอะไรที่เปลี่ยนไป


จิรารัตน์ 13 ส.ค. 2556, 14:59:33 น.
พูดหมดเลยทุกอย่างที่คิดในใจ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account