ใต้ปีกรักสีเพลิง {นวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ.อรุณ}
สร้อยผีเสื้อสีเพลิงจากคนแปลกหน้า
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๒ (๑๐๐%)

เพียงหาทางบอกปัดคนที่ปลายสาย สุภัทรชาก็กดตัดการติดต่อ แทบจะขว้างโทรศัพท์มือถือทิ้งตามอารมณ์ “เมื่อไหร่จะรู้ตัวสักทีว่าฉันรำคาญนายเต็มทีแล้วน่ะ นายเอสี่!” ดวงตางามตวัดค้อนลมแล้งปะหลับปะเหลือก แม้เธอจะคบหากับพัทธ์ธนัยจนอีกฝ่ายถึงกับออกปากขอแต่งงานแล้ว แต่สุภัทรชาก็ตัดสินใจปฏิเสธไป เพราะยังไม่ชอบเขามากขนาดนั้น ทั้งยังรู้สึกว่าเธอน่าจะเจอคนที่ดีกว่านี้!

มิคาด...การคบหาแบบหลบๆซ่อนๆปิดบังมารดา จะทำให้ท่านกังวลกลัวลูกสาวขึ้นคาน และพยายามจับคู่เธอกับลูกชายของเพื่อนสนิทแทน โดยบังคับให้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆจนเธอต้องลากพรนางฟ้าไปเป็นกันชนตลอด สุภัทรชาปฏิเสธรังสฤษฏ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่เขาก็ไม่ละความพยายาม ยังคงขยันโทร.มาชวนเธอไปโน่นมานี่โดยไม่ย่อท้อ ทั้งยังส่งดอกไม้มาที่สำนักงานไม่ขาดสายดังเดิม น่าเบื่อที่สุด!

และใบหน้าบูดบึ้งนั้นก็ไม่เร้นลอดสายตาของผู้ซึ่งคอยอยู่ก่อน “เร็วหน่อยเถอะเกรซ อีกไม่ถึงสิบนาทีจะหมดเวลารับซองแล้ว” พัทธ์ธนัยก้าวปราดลงบันไดมาหาหญิงสาวทันที

สุภัทรชานำซองเอกสารไปที่โต๊ะลงทะเบียน เซ็นชื่อส่งมอบซองและลงเวลาเป็นหลักฐาน จัดการจนธุระที่ตั้งใจมากระทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงกลับมาสมทบกับพัทธ์ธนัยอีกครั้ง

“เป็นอะไรน่ะ หน้าตาไม่พอใจ เหมือนอารมณ์เสียอะไรมาอย่างนั้นแหละ” ชายหนุ่มทัก

“คนพูดไม่รู้เรื่องน่ะค่ะ ตื๊ออยู่ได้น่ารำคาญ” สุภัทรชาเบ้ปาก

“หงุดหงิดหนุ่มๆที่มาจีบอีกแล้วหรือ เป็นสาวสวยเสน่ห์แรงมาตั้งนาน ยังไม่ชินอีกเหรอ” พัทธ์ธนัยเย้าด้วยความภาคภูมิใจ ใครบ้างไม่พึงใจเมื่อรู้ว่าสตรีที่คบหากันอยู่ สวยสง่าเป็นที่หมายตาของผู้ชายอีกมากมาย แต่เธอก็ยังภักดีอยู่กับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

“ปกติก็พอจะรับได้อยู่หรอกค่ะ แต่รายนี้ไม่ไหว เขาตามตื๊อติดเลย น่าเบื่อ”

“งั้นก็บอกเขาไปสิจ๊ะว่าเกรซมีแฟนแล้ว”

หญิงสาวตวัดตามองเขากะบึงกะบอน “เกรซกำลังเซ็งนะคะพี่พัทธ์ ยังจะมาแหย่กันอีก”

“ไม่เอาน่าคนดี อย่าอารมณ์เสียเลย เอาอย่างนี้ดีกว่า ระหว่างคอยเปิดซองตอนบ่าย เราไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่านะ” ชายหนุ่มทอดเสียงนุ่มนวล มั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องโอนอ่อนตาม แต่ทว่า...ไม่ได้ผล!

“อย่าดีกว่าค่ะ เกรซยังอิ่มอยู่เลย พี่พัทธ์จะกลับเลยก็ได้นะคะ เดี๋ยวเกรซอยู่ฟังผลกับเซ็นชื่อรับทราบผลการเปิดซองคนเดียวก็ได้” เพราะงานนี้สองบริษัทตกลงกันแล้วว่าจะยกงานให้ทีเอ็นเอส สุภัทรชาจึงต้องอยู่รอลงนามรับทราบว่าเป็นผู้ชนะในการประกวดราคา

“แต่ว่า...” เขาเอ่ยได้แค่นั้นก็ชะงักเมื่อเห็นสุภัทรชาชักสีหน้า

“เกรซอยากอยู่คนเดียวค่ะ ชัดเจนนะคะ” พูดจบผู้จัดการสาวสวยก็หมุนตัวแยกไปอีกทาง ปล่อยให้เขามองตามไปด้วยอาการหงุดหงิด

ในฐานะผู้ชายที่ ‘พร้อม’ ด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติ มีผู้หญิงเสนอตัวมาให้เลือกมากมาย แต่เขากลับเลือกคบหาสุภัทรชา นาริยะสกุล สิ่งแรกที่สะดุดตาเขาที่สุดก็คือความสวยสง่าชนิดที่ไม่ว่าจะควงเธอไปไหน ผู้ชายทุกคนต้องมองตามเพราะความริษยาเสมอ ฐานะก็ทัดหน้าเทียมตา หากลงเอยกันจริงก็เหมาะสมกันที่สุดเข้าข่ายกิ่งทองใบหยก เรื่องเดียวที่ค่อนข้างน่ารำคาญใจ เห็นจะเป็นนิสัยเอาแต่ใจของเธอ แต่เขาก็พยายามเข้าใจว่าผู้หญิงที่มีคนมารุมล้อมมากๆก็คงเป็นแบบนี้ทั้งนั้น

แวบหนึ่งที่เขาเผลอนึกไปถึงใครอีกคนโดยไม่ตั้งใจ ด้วยความสวยงามอ่อนหวานที่ไม่แพ้สุภัทรชาสักกระเบียด ทว่าความรักที่มีให้เขากลับมากมายกว่าจนคาดไม่ถึง

เหตุผลเดียวที่ทำให้เรื่องราวระหว่างกันเป็นไปไม่ได้ ก็คือมารดาเขาไม่มีวันยอมให้บุตรชายโทนเลือกผู้หญิงที่ด้อยกว่าทุกประการมาเชิดชูเป็นคู่ครองเด็ดขาด!

น่าเสียดาย เขารักเธออย่างที่ไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนมาก่อน รัก...มากกว่าที่รู้สึกกับสุภัทรชาด้วยซ้ำ!

หลังจากพรนางฟ้าโทร.หาอู่เจ้าประจำเรียกช่างไปเปลี่ยนยางรถที่บ้านเรียบร้อย เธอก็สะสางงานที่คั่งค้างบนโต๊ะต่อ ทว่าเพียงหยิบแฟ้มมาเริ่มอ่านได้แป๊บเดียว โทรศัพท์ประจำโต๊ะก็ดังขึ้น

“แพนจ๋า...เข้าไปใช้คอม.ในห้องเกรซส่งเมลถึงแฟรงค์ ทำสำเนาบอกทุกคนในแผนกให้ทีสิ บอกว่าผลการเปิดซองเมื่อกี้ เกรซชนะงานละ” เจ้านายสั่งการให้เธอจดข้อความตามคำบอกอย่างละเอียด “อย่าพิมพ์ผิดแม้แต่คำเดียวนะ แพนก็รู้ว่ามันเป็นอีเมลที่ถูกส่งในนามของเกรซ[1]”

“คุณเกรซกลับมาส่งเองดีกว่า แพนไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายในห้องทำงานส่วนตัวใคร” พรนางฟ้าเสนอ

“ขอร้องละ ทำให้หน่อยนะแพน” ปลายประโยคเสียงอ่อนชัดเจน “ข่าวดีอย่างนี้เกรซอยากประกาศให้ทุกคนรู้เร็วๆนี่นา นี่ถ้าไม่ใช่เพราะบริษัทล็อกว่าต้องส่งอีเมลทางวีพีเอ็น[2] เกรซก็ส่งเมลจากมือถือเองแล้ว”

“ก็ได้ๆ” พรนางฟ้ารับคำ ฟังคำสั่งยาวเหยียดอีกครู่ จึงวางสายไป

หลังจากหญิงสาวส่งอีเมลจากคอมพิวเตอร์ของเจ้านายเรียบร้อย เพียงออกจากห้องสุภัทรชา เพื่อนในแผนกก็หันมาชูนิ้วโป้งให้ บ้างก็ตะโกนแสดงความยินดี

“เมื่อเช้าคุณเกรซส่งเมลบอกว่างานนี้แพนมีเอี่ยวด้วย ชนะงานนี้ ฟันคอมมิชชั่นอื้อเลยสิ ดีใจด้วยนะ”

“ขอบใจจ้ะ” พรนางฟ้ายิ้มแก้มปริ ลืมความน้อยเนื้อต่ำใจราวกับปลิดทิ้ง จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เธอรู้สึกถึง ‘ชัยชนะ’ เฉกนี้น่ะมันเมื่อไรกัน รู้แต่ว่าการร้างราห่างหายจากความรู้สึกนี้ไปนาน ทำให้รสชาติของมันหอมหวานจนแทบสำลักความสุขที่รายล้อมอยู่รอบกาย

“อย่างนี้ต้องเลี้ยงใหญ่แล้วนะแพน อุตส่าห์มีผลงานเป็นโครงการแรกในรอบสองปีกับเขาซะทีเนี่ย”

หญิงสาวขมวดคิ้ว “ใครว่างานแรก ทุกงานที่ผ่านมา เราก็เป็นคนทำทั้งหมดนั่นแหละ เพียงแต่ไม่ได้ใส่ชื่อเท่านั้นเอง”

ทั่วทั้งบริเวณเงียบกริบอัตโนมัติ

กระทั่งพรนางฟ้ายังตกใจกับคำพูดของตัวเองเช่นกัน “นี่เราพูดอะไรออกไปเนี่ย!”

เพียงเสี้ยววินาที ใครคนหนึ่งก็อุบอิบ “งานเพียบเลย ทำงานต่อดีกว่า”

ตามด้วยเสียงสนับสนุนก็ดังต่อกันเป็นทอดๆ แล้วทุกคนก็หันเก้าอี้คืนที่ กลับไปก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พรนางฟ้ากะพริบตาปริบ ขนลุกเกรียวเมื่อรู้สึกถึงเรื่องไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

“คุณคิรินทร์ ช่วยฉันด้วย!” ประโยคที่ดังผ่านมาทางโทรศัพท์ทำให้คนฟังทั้งตกใจระคนคาดไม่ถึง

“มีอะไรหรือคุณพรนางฟ้า”

“เกิดเรื่องแล้วน่ะสิ อยู่ดีๆฉันก็พูดทุกอย่างที่คิดหมดเลย” น้ำเสียงร้อนรนบอกความตระหนก

“อ้าว ก็เรื่องปกตินี่”

“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” พรนางฟ้าเอ่ยต่ออย่างหงุดหงิดชัดเจน “ปัดโธ่เอ๊ย! ทำไมอีตานี่ถึงเข้าใจอะไรยากอย่างนี้เนี้ย”

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว นี่เขาไปสนิทสนมกับผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เมื่อไร ไฉนสรรพนามที่เธอเรียกจึงได้ฟังดูเป็นกันเองขนาดนี้ “งั้นคุณก็อธิบายให้เข้าใจง่ายๆสิ”

“ฉันหมายความว่าไม่ว่าฉันจะคิดอะไร มันดังออกมาเป็นคำพูดหมดเลย ฉันห้ามปากตัวเองไม่ได้”

“พูดเป็นเล่นไปได้ ปากก็ของคุณ เสียงก็ของคุณ ถ้าคุณไม่พูดซะอย่าง ใครจะบังคับให้คุณพูดได้”

“นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะตาบ้า! โอ๊ย! ฉันพูดมันอีกแล้ว เห็นไหม เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจพูดอย่างนั้นนะ แค่คิดแล้วมันก็โพล่งออกไปเองหมดเลยน่ะคุณ ทำยังไงดี”

“นี่คุณจะบอกว่ามีเวทย์มนต์ประหลาดบังคับให้คุณพูดเหรอ” คิรินทร์หัวเราะร่วนด้วยความขบขัน “อ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์[3]ก่อนนอนหรือไง ถึงได้เพ้อฝันขนาดนี้”

“ไม่ขำย่ะ! ตายแล้ว! ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจ คือฉันหมายความว่าฉันไม่ขำนะคุณ คุณต้องมาช่วยฉัน ฉันจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น อ้อ...ฉันเจอสร้อยห้อยจี้ผีเสื้อติดตัวอยู่ด้วย เมื่อวานตอนเลิกงานฉันไปกับคุณนี่ คุณรู้ไหมว่าฉันซื้อสร้อยเส้นนี้มาจากไหน”

“นี่คุณจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” คิรินทร์อยากให้พรนางฟ้าเป็นน้องนุ่งซะจริง จะได้จับมาตีให้เข็ด ขนาดเมาจนจำอะไรไม่ได้สักอย่าง แต่เมื่อคืนเจ้าหล่อนยังอาละวาดออกฤทธิ์ ดื้อดึงจะดื่มต่อให้ได้ เขาทั้งฉุดทั้งลากจนคนทั้งร้านมองตาม กว่าจะเอาตัวคนเมากลับไปที่รถสำเร็จ แถมพอให้บอกทางเพื่อพาไปส่งบ้าน ยายตัวยุ่งก็หลับเป็นตาย โชคดีที่เขาเอาโทรศัพท์เธอมาค้นหาเบอร์โทร.ที่เขียนว่า ‘บ้าน’ แล้วเสี่ยงโทร.ไปได้พูดสายกับบิดาเธอ ไม่งั้นคงต้องเป็นภาระเอายายเมรีขี้เมานี่ไปหมกท้องร่องแน่ๆ!

ผู้หญิงอาไร้! ไม่รู้จักระวังตัวเลย ดีแค่ไหนที่เขาไม่ใช่มิจฉาชีพ ไม่งั้นมีหวังเจ้าหล่อนถูกปลดทรัพย์หมดตัว ดีไม่ดีอาจลากไปลงพงหญ้าให้เจ็บช้ำ เสียทั้งเงินเสียทั้งเกียรติ ฝันร้ายไปตลอดชีวิตแน่ๆ!

“พ่อบอกว่าฉันเมามาก แล้วคุณก็ขับรถไปส่งฉัน” เสียงอ่อยๆนั้นบอกชัดว่าสำนึกผิดแล้ว

“แล้วคุณจะให้ผมช่วยอะไรล่ะ”

“อะไรก็ได้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่างน้อยถ้าคุณเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน ฉันอาจจะพอรื้อฟื้นความจำ แล้วก็ทบทวนว่าสร้อยเส้นนี้มาจากไหน”

“ผมก็ไม่รู้ชัดเจนนะ มีช่วงหนึ่งผมไปห้องน้ำ แล้วคุณก็ไปหาหมอดูมาจากไหนไม่รู้ เขาบอกว่าคุณจะสมหวังในสิ่งที่ต้องการ แล้วก็สวมสร้อยนั่นให้คุณ”

“แค่นี้เหรอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่ฉันพูดทุกอย่างที่คิดหมดเลยล่ะ”

“แล้วผมจะรู้ไหมเนี่ย อ้อ...เขาเสกโทรศัพท์ให้คุณด้วย รู้สึกคุณจะพูดแบบนั้นนะ”

“เสกโทรศัพท์เหรอ รอเดี๋ยวนะ” เขาฟังเสียงกุกกักครู่ใหญ่ แล้วเธอก็บอกมาตามสาย “คุณพูดจริงด้วย ฉันนึกออกละ เมื่อเช้าเกรซบอกว่าโทร.หาฉันทั้งคืน แต่ฉันไม่ยอมรับสาย นี่ฉันดูในมือถือ ไม่มีมิสคอลล์จากเกรซเลยสักครั้ง”

คิรินทร์หัวเราะร่วน “คุณเป็นเยอะเหมือนกันนะเนี่ย โทรศัพท์คุณไม่มีปุ่มลบหรือไง ไม่เห็นต้องเสกหรือใช้เวทย์มนต์ ผมก็ลบบันทึกประวัติที่คนโทร.มามิสคอลล์ได้ อีตาหมอดูโฉเกนั่นคงเล่นกลกับคุณมากกว่าละมั้ง!”

“จริงด้วย...” เสียงครางเบาๆ ตามมาด้วยความเงียบยาวนาน จนคิรินทร์นึกว่าปลายสายช็อกไปแล้ว

“ถ้าคุณไม่มีธุระแล้ว ผมจะวางละนะ”

“เดี๋ยวสิ ฉัน...ฉัน...เอาไงดีเนี่ย จะอ้างว่าไงดี นึกออกแล้ว! ฉันยังไม่ได้เลี้ยงขอบคุณสำหรับรูปเลย”

“ถือว่าเมื่อคืนคุณเลี้ยงแล้วก็ได้” คิรินทร์อ้างส่งๆ คิดว่าเขาควรอยู่ให้ห่างผู้หญิงคนนี้ไว้ดีกว่า เพราะจากที่เห็นฤทธิ์กันมาเมื่อวาน รวมกับจินตนาการบ๊องๆที่เธอเล่า เขาว่าเธอน่ากลัวไม่น้อย

“เลี้ยงที่ไหนล่ะ เงินในกระเป๋าฉันยังอยู่ครบ บัตรเครดิตก็ไม่ได้รูดด้วย ไม่เห็นมีสลิปสักใบเลย เมื่อคืนคุณจ่ายค่าอาหารให้ฉันเหรอคะ”

“ผมไม่ใช่โจรนี่ จะได้ถือวิสาสะหยิบเงินในกระเป๋าคุณออกมาใช้น่ะ”

“งั้นเย็นนี้ฉันขอแก้ตัวได้ไหม คุณจะได้เล่าให้ฉันฟังว่าเมื่อวานฉันสติแตกแค่ไหน ฉันให้คุณเลือกร้าน งบประมาณไม่อั้น คุณจะกินให้ท้องแตกตายเลยก็ได้”

น้ำเสียงกระตือรือร้น แสดงความใจกว้างสุดๆ ของเธอทำให้คิรินทร์อมยิ้ม “เห็นผมเป็นชูชกไปได้”

“แปลว่าคุณตกลงแล้วนะคะ” เจ้าหล่อนเก่งเรื่องการมัดมือชกไม่เบา ไม่รู้ว่าทักษะแบบนี้เคยถูกใช้กับคนอื่นบ้างไหม หรือที่ข่มเขาเพราะเขาเป็นแค่ ‘คนอย่างนาย’ ที่ดูกระจอกกว่าเธออย่างเห็นได้ชัดก็ไม่รู้

“ผมตกลงก็ได้ แต่บอกก่อนนะ ว่าวันนี้ห้ามมีแอลกอฮอล์อีกเด็ดขาด”

“ว้า...รู้ทัน เอ๊ย! สัญญาเลยค่ะ” พรนางฟ้ารีบแก้คำพูด ก่อนวางสายไปง่ายๆ

คิรินทร์ส่ายหน้า บอกไม่ถูกว่าระอาหรือขบขัน พร้อมกันนั้นก็นึกสงสัยว่าหมอดูเมื่อคืนนั่นเพี้ยน หรือผู้หญิงคนนี้กันแน่ที่สติไม่เต็มจนคิดอะไรเป็นคุ้งเป็นแควขนาดนี้ มันมีเวทย์มนตร์ที่บังคับให้คนพูดที่ไหนกันเล่า!




* - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * - * -* -* - *- *- * -* -* -* -* -* -*

[1] โปรแกรม Microsoft Outlook ที่รับส่งอีเมล จะผูกบัญชีอีเมลกับชื่อผู้ส่งและเครื่องคอมพิวเตอร์

[2] VPN คือ Virtual Private Network ระบบการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตที่มีการเข้ารหัสความปลอดภัย ป้องกันการโจรกรรมข้อมูล

[3] วรรณกรรมเยาวชนของอังกฤษ ประพันธ์โดยเจ.เค.โรว์ลิ่ง เป็นเรื่องราวในโลกของพ่อมด





สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ส.ค. 2556, 00:48:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ส.ค. 2556, 00:48:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1532





<< ตอนที่ ๒ (๕๐%)   ตอนที่ ๓ (๑๐๐%) >>
อสิตา 8 ส.ค. 2556, 00:53:50 น.
ขำตรง อีตานี่ทำไมเข้าใจยาก วันนี้ผีเสื้อสีเพลิงมาแต่ยังมืดเลย


สิริณ 8 ส.ค. 2556, 01:13:50 น.
เอาเรื่องนี้มาลง
แอบเห็นว่าเพื่อนนักอ่านที่รัก
ยังคงกดไล้ค์ให้กันอบอุ่นเช่นเคย

แต่แบบ...เอิ่ม...ไม่มีความคิดเห็นเลยเหรอคะ
เห็นแค่เพื่อนคนคุ้นหน้าสองสามคนที่คอมเม้นต์
เล่นเอาถอดใจเลยนะเนี่ย T_T

@ อสิตา : ขอบคุณผีเสื้อสีน้ำเงิน
ที่มาเป็นคอมเม้นต์แรกเลยนะค้า
ผีเสื้อสีเพลิง กำลังจะโบยบินสูงขึ้นเรื่อยๆ
นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นจ้ะ อิอิ

@ ภาวิน : คุณเกรซเธอเพิ่งเริ่มแสดงฤทธิ์เอง
และบอกได้เลยว่าชีวิตจริง มีคนอย่างคุณเกรซเยอะมาก
ร้ายกว่านี้อีกเพียบเลยด้วย
นี่เอามาจากประสบการณ์ตรงสมัยเป็นสาวออฟฟิศเลยนะ อิอิ

@ Sukumvit66 : จากการ research
มนุษย์เราคิดในใจ อยู่ตลอดเวลา
บางทีการออกปากพูดไป แบบเผลอๆ
อาจเข้าใจไปว่าเป็นการคิดค่ะ

คนเราจะใช้เวลาในการ detect ความผิดปกติของตัวเองค่อนข้างช้า
ยิ่งในสถานการณ์ที่อยู่กับคนรายรอบ
ถ้าอยู่เงียบๆคนเดียว ไม่เกินห้านาทีก็รู้ตัวค่ะ :D


ชวนกันอีกรอบ ใครยังไม่ได้ไปไล้ค์แฟนเพจของสิริณ
ตามไปที่ เฟซบุ๊คดอทคอม/SirinFC ด่วนค่ะ
เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะทำกิจกรรมแจกหนังสือกันอีกแล้วนะเออ
ไปร่วมสนุกกันเยอะๆ เพื่อความสนุกสนาน เพลิดเพลินค่า


ภาวิน 8 ส.ค. 2556, 06:16:56 น.
อ่านแล้วกลับไม่นึกถึงแฮรี่พอตเตอร์แฮะ แต่นึกถึงของวิเศษในกระเป๋าโดราเอม่อน คต้นๆเหมือนเคยมีนะ อะไรที่ทำให้พูดทุกอย่างที่คิด เสกโทรศัพท์มือถือ...พระเอกก็พูดซะ นวาระเขาแค่เจิมเองนะ


ภาวิน 8 ส.ค. 2556, 06:17:45 น.
*คุ้นๆ (ข้างบนพิมพ์ผิด ขี้เกียจแก้)


Sukhumvit66 8 ส.ค. 2556, 11:29:26 น.
มาให้กำลังใจคร้า
แต่พรนางฟ้าภาคสู้คนแบบนี้ก็ดีอยู่นะ จะได้ไม่ถูกเอาเปรียบอีก


ปลายสี 8 ส.ค. 2556, 17:01:59 น.
มาเอาใจช่วยพรนางฟ้าอีกคนค้าาาา


จิรารัตน์ 13 ส.ค. 2556, 15:02:30 น.
เป็นเจ้านายที่.....จะส่งเมลล์แจ้งผลงานยังต้องใช้คอมพ์ในห้องตัวเองอีก มันจะเอาผลงานกันไหน

สงสารคิรินทร์จัง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account