ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: ศัตรูถูกบุกถึงถิ่น

บ่ายสามโมงคือเวลาที่สองสาวคลำทางมาถึงซอยบ้านที่สหภาพเช่าอยู่ เขาไม่ได้ลงเบอร์โทรบ้านไว้ ทั้งคู่จึงวนรถหาจนเหนื่อยไปตาม ๆ กัน สุดท้ายก็ต้องพึ่งบริการบุรุษไปรษณีย์ให้ช่วยบอกให้ว่าบ้านอยู่ตรงไหนกันแน่ เพราะระบุบางบ้านเลขที่ไม่ได้เรียงตามลำดับเลย รถของขวัญข้าวขับเลยบ้านไปพอสมควรแล้วก็ถอยกลับมา และขับออกไปจอดที่เดิมอีก เมื่อแน่ใจว่ามาถูกที่แล้ว จึงลงไปด้อม ๆ มอง ๆ อยู่แถวรั้วไม้แผ่นทึบมีช่องเล็ก ๆ เท่านั้น แต่ก็มองไม่ถนัดนัก
สองสาวจึงต้องเดินไปแทบจะติดรั้วบ้านเพื่อมองลอดช่องบางจุดที่ไม้เชื่อมไม่สนิทกันนัก พบว่าด้านในมีบริเวณกว้างพอใช้ มีบ้านหลังเล็กกระทัดรัด เหมาะสำหรับชายโสดอย่างนายสุภาพ แต่ทั้งบ้านดูจะเงียบกริบ ประหนึ่งไม่มีคนอยู่ สายตาทั้งสองคู่ต่างเมียงมองหาเพื่อนบ้านแถวนั้น เผื่อจะสอบถามอะไรได้บ้าง แต่ก็มีสภาพไม่ต่างกันนัก
“บ้านปิดเงียบเลยขวัญ เพื่อนบ้านก็ไม่มีให้ถามด้วย เอายังไงดี หวังว่าเราคงไม่มาเสียเวลาเปล่า ๆ นะ” พิมมาดาหันไปหาเพื่อนด้วยอาการกังวล เพราะยังไม่ได้อะไรจากการดั้นด้นมาเลย
“นั่นสิ! หรือว่าเนยจะคิดผิด หรือคิดมากไปเกี่ยวกับนายนี่”
“ไม่รู้เหมือนกัน เนยว่าลองโทรไปหาบุคคลอ้างอิงดีมั้ย เผื่อจะอยู่บ้านใกล้ ๆ กันนี้ ไปโทรที่ตู้ก็ได้ ถ้ากลัวเขาจะจับได้ว่าเป็นเรา ตอนเข้ามาเราเห็นตู้โทรศัพท์อยู่หน้าปากซอยพอดี หรือขวัญว่าไง” เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นอีกคนจึงพยักหน้ารับ
“สวัสดีค่ะ คุณอำนาจหรือเปล่าคะ ดิฉันโทรจากบริษัท เจเค จำกัดนะคะ อยากจะรบกวนสอบถามข้อมูลนิดหน่อยเกี่ยวกับลูกน้องเก่าที่ชื่อว่าคุณสุภาพ รักดี น่ะค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะจำได้มั้ยคะ”
ขวัญข้าวพยายามใช้น้ำเสียงให้ปกติที่สุด ในการพูดคุยกับอีกคน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้อะไรมากมายนัก นอกจากจะมีคำว่า ‘ไม่รู้’ ‘ไม่แน่ใจ’ ‘ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว’ เท่านั้น อาการเดินหน้าละห้อยออกจากตู้โทรศัพท์มาไม่บอกคนยืนรอก็พอจะเข้าใจว่าคงจะคว้าน้ำเหลวตามเคย
“ร้อนว่ะเนย ไปนั่งหาไรเย็น ๆ กระแทกปากก่อนดีกว่ามั้ย ค่อยว่ากันอีกที”
ทั้งคู่จึงใช้ร้านกาแฟสดเป็นที่นั่งดับร้อน และพยายามอ่านประวัติจากแฟ้มหลายรอบ เผื่อจะมีอะไรให้ผิดสังเกตได้บ้าง แต่ก็เปล่าประโยชน์ จึงตัดสินใจขับรถกลับไปยังบ้านหลังน้อยอีกครั้ง
“นั่นไง ๆ ขวัญมีคนออกมาจากบ้านนั้นแล้ว ขวัญลองเข้าไปถามหน่อยได้มั้ย แกกำลังปิดประตูบ้านสงสัยจะไปข้างนอก” พิมมาดาสะกิดเพื่อนเร็ว ๆ ขวัญข้าวจึงรีบออกจากรถและตรงไปหาเอี้ยงทันที
“หวัดดีค่ะป้า ขอโทษนะคะหนูรบกวนถามอะไรหน่อยจะได้มั้ยคะ” อาการนอบน้อมของเด็กสาวทำให้เอี้ยงยิ้มรับโดยไม่ต้องคิดอะไร
“มีอะไรจ้ะหนู” “พอดีหนูมาหาบ้านคุณสุภาพ รักดีค่ะ เห็นว่าอยู่บ้านนี้ ป้ารู้จักหรือเปล่าคะ”
เอี้ยงนิ่งคิดอยู่สักครู่ เพราะไม่แน่ใจว่าคนที่เด็กสาวเอ่ยนั้นจะเป็นคนเช่าคนก่อนหรือไม่
“บ้านนี้ไม่มีคนชื่อนี้หรอกค่ะ อาจจะเป็นคนเช่าคนก่อนก็ได้นะจ้ะหนู ป้าเพิ่งมาเช่าได้ไม่กี่เดือนเองค่ะ”
“อ้าว! เหรอคะ ว้าแย่จัง ไม่รู้จะไปหาที่ไหนด้วยสิคะ เขาทิ้งที่อยู่ไว้ตรงนี้ที่เดียวเท่านั้นค่ะ แล้วไม่ทราบว่าป้าเช่าอยู่คนเดียวเหรอคะ เห็นปิดบ้านเงียบเชียบเลยค่ะ”
“อ้อ! ป้าไม่ได้เช่าหรอกค่ะ ป้าแค่มาคอยดูแลเจ้านายเท่านั้นเอง หนูลองไปถามเจ้าของบ้านดูดีมั้ยคะ เผื่อจะรู้ว่าคนที่หนูตามหาย้ายไปอยู่ไหน บ้านแกอยู่ตึกหน้าปากซอยนั่นล่ะค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วป้าขอตัวไปตลาดก่อนนะคะ เดี๋ยวจะทำอาหารเย็นให้คุณภาพไม่ทัน”
ความซื่อทำให้ป้าเอี้ยงเอ่ยชื่อเจ้านายหนุ่มออกไป เพราะสหภาพไม่เคยบอกเหตุผลว่าทำไมจะต้องมาเช่าบ้านหลังนี้อยู่แทนที่จะไปอยู่บ้านของพ่อที่เขาซื้อเก็บเอาไว้ ส่วนขวัญข้าวรู้สึกว่าชื่อเจ้านายเอี้ยงกับคนที่กำลังมาสืบประวัติมีคำว่า ‘ภาพ’ เหมือนกันจึงเอ่ยถามเพื่อให้แน่ใจ
“คุณภาพนี่คือเจ้านายของป้าเหรอคะ” “อ้อ! ใช่ค่ะ”
“ว่าแต่คุณภาพนี่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ แล้วชื่อเต็ม ๆ อะไรคะป้า เผื่อหนูไปถามเจ้าของบ้านจะได้บอกถูกว่าใครบอกให้ไปหา หนูมาตั้งนานแล้วเดินตากแดดร้อนหมดเลยค่ะ” เอี้ยงเห็นว่าเด็กสาวมีเหงื่อไหลแทบจะท่วมตัว
“ตายจริง! ป้าก็ไม่ได้เรียกให้เข้าร่มด้วย ขอโทษนะคะพอดีป้ารีบจะไปตลาดค่ะ”
“ไม่เป็นไรคะ ว่าแต่คุณภาพตกลงชื่อเต็ม ๆ ว่าอะไรคะป้า ไม่รู้พอจะบอกหนูได้มั้ย”
“ได้สิจ้ะแค่ชื่อเอง คุณภาพเป็นผู้ชายค่ะ ชื่อเต็ม ๆ ของแกก็คือ”
ปริ้น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ไม่ทันจะได้ตอบอะไรทั้งนั้นก็มีเสียงแตรรถที่แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านดังติด ๆ กันขึ้น และคนที่ลดกระจกไฟฟ้าลงก็คือหลานสาวกับหลานเขยของเอี้ยงนั่นเอง ขวัญข้าวได้แต่มองเข้าไปในรถด้วยความสงสัยและเคืองนิด ๆ ว่าทำไมจะต้องมากวนในเวลานี้ แถมบีบแตรซะดั่งลั่นเชียว
“ป้า ๆ มีเรื่องด่วนขึ้นรถเร็ว ๆ เข้า มา ๆ หนูช่วยถือ เร็ว ๆ ต้องรีบไป”
บัวผันลงจากรถและลากผู้เป็นป้าขึ้นไปนั่งด้านหลังด้วยความเร็ว โดยไม่ได้สนใจจะมองไปยังขวัญข้าวที่ยืนเก้อมองรถขับจากไป ซึ่งนายใหญ่หรือคุณอำนาจที่ขวัญข้าวเพิ่งจะโทรศัพท์ไปหาเมื่อไม่นานมานี้เป็นคนขับนั่นเอง พิมมาดานั่งสังเกตอยู่ในรถ รีบเดินมาหาเมื่อรถลับหายไปจากซอยแล้ว
“เป็นไงบ้างขวัญ คุยตั้งนานแล้วสองคนที่นั่งรถมาเป็นใครเหรอ” ขวัญข้าวก็ไม่รู้จะตอบยังไงจึงเดินนำเพื่อนเข้าไปในรถก่อนเพราะอากาศร้อนจัดจนจะเป็นลมให้ได้
“เฮ้อ! ได้แอร์เย็น ๆ ค่อยดีขึ้นหน่อย” อีกคนนั่งใจจดใจจ่ออยู่กับคำตอบเพื่อน
“ป้าบอกว่านายนี่อาจจะเป็นคนเช่าคนก่อนก็ได้ ส่วนเจ้านายแกที่ชื่อภาพน่ะเพิ่งมาเช่าไม่กี่เดือน กำลังจะถามชื่อเต็ม ๆ ว่าอะไรก็พอดีมีสองคนนั้นขับรถเข้ามารับแกไปก่อน เลยไม่ทันได้รู้อะไรกัน แต่แกบอกว่าให้ไปถามเจ้าของบ้านก็ได้ อยู่ตึกหน้าปากซอยนี่เอง หรือจะเป็นร้านกาแฟสดที่เราเพิ่งไปนั่งกินก็ไม่รู้ จะไปถามมั้ย หรือจะเอายังไง”
“ไปสิ ไหน ๆ ก็มาแล้วนี่” ไม่นานสองสาวก็มาถึงร้านกาแฟและรีบตรงไปถามทันที เป็นจริงอย่างคาดเดาเอาไว้
“เอ..ไม่มีคนชื่อนี้เคยมาเช่าบ้านพี่เลยนะคะน้อง คนก่อนเป็นฝรั่ง อยู่กับเมียคนไทยเพิ่งย้ายไปได้สึกครึ่งปีนี่ล่ะมั้ง” เจ้าของตึกให้ความร่วมมือแต่โดยดี เพราะเห็นว่าเป็นลูกค้าที่เพิ่งอุดหนุนกาแฟไปหยก ๆ
“เหรอคะ เอ แล้วคนเช่าตอนนี้ที่มีป้าแก่ ๆ อยู่ด้วย ที่ชื่อว่าคุณภาพนี่ ไม่ทราบชื่อจริงว่าอะไรคะ พอดีคุยกับป้าแล้วยังไม่ทันได้เรื่องแกก็รีบไปตลาดค่ะ” เจ้าของตึกยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อน
“คุณภาพเหรอ เอ ไม่คุ้นชื่อนี้นะคะ คนเช่าตอนนี้แกชื่อ เอ่อ ชื่ออะไรนะ ต้องไปดูที่สัญญาค่ะ พี่จำไม่ได้ ว่าแต่น้องจะถามไปทำไมคะ” ให้สงสัยจนต้องถามกลับ
“อ้อ! ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ เผื่อจะถามว่าแกรู้จักคนที่เรากำลังตามหาบ้างมั้ยเท่านั้นค่ะพี่ ถ้าไม่รบกวนพี่มากเกิน พี่พอจะดูได้มั้ยคะว่าชื่อคนเช่าคนนี้ชื่อว่าอะไรค่ะ”
“ได้สิ ๆ รอสักครู่นะ พี่ขอรับสายก่อน” เพราะมือถือที่วางอยู่เคาน์เตอร์ดังขึ้น เจ้าของบ้านจึงเดินไปหลังร้านเพื่อรับสาย พักใหญ่ ๆ ก็กลับออกมาด้วยสีหน้าแตกต่างจากตอนเดินเข้าไปแทบจะคนละคน
“ได้หรือยังคะพี่” ขวัญข้าวรออย่างใจจดใจจ่อ
“อ้อ! พี่ไม่ได้เอามาด้วยค่ะ เก็บไว้อีกที่หนึ่ง ถ้าน้องมีอะไรฝากเบอร์ไว้สิคะ พี่จะให้เจ้าของบ้านโทรไปหา ขอโทษนะคะพอดียุ่ง ๆ อยู่ด้านในขอตัวก่อนค่ะ” จบคำเจ้าของบ้านก็เดินกลับเข้าหลังร้านทิ้งให้ขวัญข้าวยืนเหลออยู่คนเดียว เมื่อไม่รู้จะทำยังไงต่อจึงได้แต่กลับออกไปหารถที่จอดอยู่ พิมมาดาไม่อยากอ้าปากถามเมื่อเห็นหน้าเพื่อน เพราะรู้ดีว่าคำตอบคืออะไร จึงได้แต่ขับรถออกไปเท่านั้น และทันทีที่รถขับไป เบนซ์คันหรูจอดอยู่อีกฟากของถนนก็ลดกระจกลง

“เรียบร้อยครับคุณแพท”
สามารถรายงานเจ้านายสั้น ๆ แล้วตัดสายไป จากนั้นก็หันไปหาเอี้ยงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และงุนงงกับการกระทำของเจ้านายหนุ่มไม่น้อย ที่จู่ ๆ ให้อำนาจกับบัวผันขับรถมาลากตัวออกไปโดยไม่บอกกล่าว พ้นปากซอยก็ให้ลงมานั่งในรถสามารถโดยไม่มีใครอธิบายอะไรเลย
“มีอะไรกันล่ะพ่อสามารถ”
“ไม่มีอะไรครับ ว่าแต่ป้าจะไปตลาดใช่มั้ยครับ ผมจะขับรถไปส่งและช่วยหิ้วข้าวของให้ แถมผมจะช่วยเป็นลูกมือทำมื้อเย็นรอคุณแพทด้วยครับ บอกทางมาเลยครับป้า” สามารถไม่ได้ตอบแต่กลับชวนคุยเรื่องอื่นแทน เอี้ยงชี้ได้แต่บอกทางอย่างงวยงงอีกคำรบ เมื่อไม่ได้คำชี้แจง แต่ในใจนั้นก็คิดเอาไว้ว่าจะเก็บไปถามเจ้านายหนุ่มให้รู้เรื่อง เพราะสงสัยหลายต่อหลายอย่างแล้ว
ส่วนผู้เป็นเจ้านายหนุ่มยืนกอดอกอยู่ชั้นบนเพื่อรอดูการกลับมาของพิมมาดาด้วยความอารมณ์เย็น แต่ในใจหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะตั้งแต่รู้ข่าวว่ามีคนโทรไปถามหานายสุภาพที่เขาเคยสั่งอำนาจไว้ว่าไม่ได้บอกอะไร และให้โทรมาบอกสามารถทันที ซึ่งอำนาจทำตามได้อย่างเคร่งคัด จึงทำให้เขารีบสั่งให้ไปดึงตัวเอี้ยงออกมาและให้สามารถโทรไปบอกเจ้าของบ้านว่าให้ปิดทุกอย่างเป็นความลับห้ามบอกใครโดยเด็ดขาด



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ส.ค. 2556, 10:10:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ส.ค. 2556, 10:10:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 1183





<< ศัตรูข้างกายถูกหมายหัว   คลำใกล้จะเจอตอแล้ว >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account