ไร้หัวใจ
ภคพร หญิงสาวผู้มีหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการแก้แค้น เมื่อนวพรรษน้องสาวของเธอถูกกันย์หนุ่มรูปหล่อเลือดเย็นทำให้ท้องแล้วไม่รับผิดชอบ ภคพรจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้กันย์ได้รับความทุกข์ทรมาน และหนทางเดียวที่จะทำร้ายกันย์ได้ก็คือการแต่งงานกับประพนธ์คู่หมั้นหนุ่มรูปหล่อของเกตุแก้ว น้องสาวสุดที่รักของกันย์ แม้ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะเต็มไปด้วยไฟแค้น และการดูถูกและทำร้ายต่างๆนานาจากประพนธ์ แต่เพื่อน้องสาวอันเป็นดั่งดวงใจ ภคพรยอมที่จะต้องกลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจและเลือดเย็นอย่างไร้หัวใจ บทสรุปของโศกนาฏกรรมความรักครั้งนี้จะเป็นเช่นไร ภคพรจะยอมปล่อยวางความแค้นที่มีแต่ทำร้ายให้ทุกคนต้องเจ็บปวดในครั้งนี้ได้อย่างไร....ติดตามอ่านได้ใน ไร้หัวใจ...
Tags: ตบจูบ

ตอน: ไร้หัวใจ ตอนที่ 27


ไร้หัวใจ ตอนที่ 27

..........ภคพรเดินตามหาประพนธ์ไปทั่ว ความหงุดหงิดทำให้เธอไม่มีวุฒิภาวะมากพอ
ที่จะควบคุมตัวเองไม่ให้โมโหเขาได้เลย ถ้าเจอหน้าประพนธ์ตอนนี้สิ่งเดียวที่หญิงสาวจะทำ
คือเกรี้ยวกราดใส่เขาเพื่อเป็นการสั่งสอนอย่างแน่นอน
“ไอ้บ้านี่..”
ภคพรบ่นกับตัวเองเสียงดัง เดินดิ่งเข้าไปหาประพนธ์ ทันทีที่มองเห็นเขากำลังเดินมาหาเธอเหมือนกัน
“หายไปไหนมาฮะ ปล่อยให้ฉันรอคุณนานขนาดนี้ได้ยังไง”
ภคพรโวยวาย ใช้กระเป๋าถือในมือฟาดใส่หลังเขาอย่างจงใจ ประพนธ์ไม่ตอบโต้
ได้แต่เอามือปัดป้องและไม่เกรี้ยวกราดใส่ภคพรกลับเหมือนทุกๆครั้ง
“ไปคุณ กลับบ้าน ขึ้นลิฟต์”
ประพนธ์ออกคำสั่ง หน้าตาเซ็งๆไร้อารมณ์ของเขายิ่งทำให้ภคพรโมโห
“หายหัวไปไหนมา ฮะ ฮะ”
ภคพรยังคงออกฤทธิ์ออกเดช หน้างอใส่ประพนธ์อย่างเอาแต่ใจ ก่อนที่ประพนธ์จะดันร่าง
ของหญิงสาวเดินนำขึ้นลิฟต์ไป หน้าตาบึ้งตึง ก่อนจะยืนมองสำรวจพิจารณาสรีระของภคพร
อย่างไม่ได้ตั้งใจ
“มองไรกันนักหนาวะ”
ประพนธ์หันไปมองดูผู้ชายที่ยืนอยู่ต่ำกว่าเขาโดยบังเอิญ ก่อนจะได้รู้สาเหตุว่าสิ่งที่พวกผู้ชาย
พวกนั้นมองก็คือเรียวขาสวยและเนินเนื้อแก้มก้นของภคพรที่ใส่กางเกงเอวสูงสั้นจู๋และฟิตเปี๊ยะ
จนเห็นไปถึงไหนต่อไหนนั่นเอง
“คุณ ถ้าจะใส่กางเกงสั้นขนาดนี้ วันหลังถอดกางเกงเดินมาเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งลุ้นให้เหนื่อยด้วย ไอ้เราก็นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ก็ไปซื้อไอ้กางเกงสิ้นคิดตัวนี้มาใส่นี่เอง ปัญญาอ่อน”
ประพนธ์มองดูแก้มก้นของภรรยาอย่างขัดใจ ภคพรหันมาตะวาดแว๊ดใส่เขาเสียงดัง
ขณะยืนอยู่บนลิฟต์ในขั้นที่สูงกว่า
“ก้นชั้นไม่ใช่ก้นคุณ อย่ามายุ่ง”
ภคพรหน้างอใส่ประพนธ์หนักกว่าเดิม
“ลงมานี่”
ประพนธ์คว้าแขนภรรยาและรากเธอลงมายืนอยู่เคียงข้างเขาบนขั้นเดียวกัน
“อะไรของคุณอีกเนี่ย ว้าย!!”
ภคพรสะบัดสะบิ้ง ก่อนที่ก้นของเธอจะถูกมือของประพนธ์จับสัมผัสเอาไว้อย่างแผ่วเบา
“คนลามก ทำอะไรเนี่ย”
ภคพรขัดขืนแต่ประพนธ์ไม่ยอมถอยห่างและยังคงแนบชิดสนิทสนมกับเธออยู่อย่างนั้น
“วันนี้ผมอารมณ์ไม่ดี อย่าเรื่องมาก แล้วก็ขอบอกเอาไว้เลยนะ ว่าครั้งหน้าถ้าต้องออกมาข้างนอก
ด้วยกันอีก อย่าใส่กางเกงสั้นแบบนี้อีก มันทุเรศ!!”
ประพนธ์ตะคอกกรอกหูภคพร แต่ก็ยังช่วยเดินปิดกางเกงไปให้เธอตลอดทางเดิน


***************************************************************


.............ประพนธ์เดินหอบหิ้วข้าวของของภคพรเดินตามหลังเธออย่างขัดอกขัดใจ กางเกงขาสั้น
ที่เธอใส่อยู่มันยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสีย แต่ก็ยอมเดินตามหลังเธอมาที่ลานจอดรถกว้าง
ด้านหน้าห่างอย่างไม่มีปากเสียงใดๆ
“คุณ ฝนมันเริ่มลงเม็ดแล้วนะ เร็วๆหน่อย”
ภคพรหันมาเสียงดังใส่ประพนธ์ขณะเดินอยู่กลางลานจอดรถ ท้องฟ้าที่มืดครึ้มไปด้วยเมฆฝน
ทำให้ภคพรกลัว
“มันจะไม่ทันก็เพราะคุณหันมาด่าผมนี่แหละ รีบเดินไปสิคุณ”
ประพนธ์เสียงดังใส่ภพครบ้าง เร่งก้าวเท้าเดินอย่างรีบร้อน แต่ก็สายเกินไปซะแล้วสำหรับพวกเขา
“ซู่ๆๆ”
สายฝนเทลงมาอย่างหนัก มองไปทางไหนมีแต่ความมืดมัว ผู้คนวิ่งกันวุ่นวายเพื่อเอาตัวรอด
“เสื้อผ้าชั้น”
ภคพรยืนอึ้ง กระวนกระวาย ประพนธ์ตะโกนใส่เธอแข่งกับสายฝนเสียงดัง
“คุณ วิ่งขึ้นรถสิ ยังจะมัวยืนหน้าเอ๋ออยู่อีก”
“วิ่งคุณ วิ่ง”
ประพนธ์ฉุดแขนหญิงสาว วิ่งหอบหิ้วข้าวของให้เธอจนมาถึงที่ตรงลานจอดรถบริเวณที่รถของเขา
จอดอยู่ประพนธ์เปิดประตูรถและเหวี่ยงของทุกอย่างเข้าไปทางเบาะด้านหลังอย่างไม่ลังเล
ก่อนจะตามภคพรเข้าไปนั่งในรถอย่างรวดเร็ว ทั้งเขาและเธอตัวเปียกมะลอกมะแลกอย่างหมดสภาพ
“กลับบ้านสิคุณ มัวรออะไร”
ภคพรเร่งประพนธ์ที่เอาแต่นั่งเฉย
“คุณไม่เห็นหรอว่าฝนมันตกหนักขนาดไหน มองทางแทบจะไม่เห็นอยู่แล้ว อยากรถคว่ำตายหรอคุณ”
ประพนธ์ดุหญิงสาวเสียงดัง
“ก็ฉันหนาวนี่ ฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว”
ภคพรโวยวายใส่ประพนธ์เหมือนเด็กๆที่กำลังเอาแต่ใจตัวเอง
“หนาวแค่นี้ไม่ตายหรอกคุณ ทนไปก่อน รอให้ฝนมันเบาเม็ดกว่านี้หน่อย”
ประพนธ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง มองร่างของภคพรที่เปียกโชกไปทั้งตัวด้วยความเห็นใจ
“ผมบอกแล้วว่าไม่ให้ซื้อเสื้อผ้าพวกนี้ใส่ เป็นไงล่ะคุณ”
ประพนธ์มองดูกางเกงของภคพรอย่างขัดอกขัดใจอีกครั้ง
“เลิกบ่นเรื่องเสื้อผ้าฉันซักทีแค่นี้ฉันก็หนาวจะตายอยู่แล้วนะ”
ภคพรหน้างอใส่ประพนธ์ ก่อนจะหันหลังหนีเขาและนอนอยู่บนเบาะรถอยู่เงียบๆอย่างไม่มีทางเลือก
“รู้ไหมว่าเราเจอกันครั้งแรกตอนไหน ความทรงจำเกิดขึ้น………”
เสียงเพลงแค่คุณของมัสคีเทียร์ดังขึ้น ภคพรหันไปมองหนาประพนธ์อย่างมีความหมาย
ชายหนุ่มเองก็มองจ้องหน้าเธอไม่วางสายตาเช่นกัน
“อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้เปิดเพลงนี้ให้คุณหรอกนะ”
ประพนธ์รีบร้อนแก้ตัว
“รู้แล้วย่ะ”
ภคพรมองหน้าประพนธ์ด้วยรอยยิ้มที่ไม่ว่าจะพยายามปิดบังยังไงก็ซ่อนเอาไว้ไม่อยู่ ก่อนจะ
ต่างคนต่างหันหน้าไปคนละทิศคนละทางเพื่อซ่อนความรู้สึกของตัวเองเอาไว้

***************************************************************


.............ครึ่งชั่วโมงผ่านไปฝนยังคงเทลงมาอย่างหนักโดยไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง
ภคพรเริ่มนั่งหน้าซีดตัวสั่นเทาเพราะความหนาวเย็นของแอร์ในรถเธอบวกกับอากาศด้านนอก
ที่ค่อยๆเย็นลงๆเรื่อยๆ
“คุณ คุณ”
ประพนธ์เรียกชื่อภคพรเบาๆ มองดูเธอนอนหน้าซีดด้วยความเป็นห่วง
“คุณ ฉันไม่ไหวแล้วนะ ฉันหนาว กลับบ้านกันเถอะ”
ภคพรขอร้องอ้อนวอน
“มันอันตรายจริงๆคุณ รถก็เยอะ เอางี้ เอาเสื้อผมไปใส่ก่อน อาจจะเหม็นหน่อยนะ
เพราะว่ามันยังไม่ได้ซัก”
ประพนธ์เอื้อมมือไปหยิบเสื้อใส่เล่นกีฬาของเขาที่เบาะด้านหลัง
“เปลี่ยนเลยคุณ”
ประพนธ์ส่งเสื้อให้ภคพร หญิงสาวมอหน้าเขาตาเขียว
“จะบ้าหรอคุณ จะเปลี่ยนเข้าไปยังไง”
ภคพรโวยวาย
“ทุกส่วนในร่างกายคุณผมได้เห็นได้สัมผัสมาหมดและ ไม่มีอะไรต้องอายแล้วคุณ เต็มที่เลย”
ประพนธ์เสียงดังใส่ภคพร หญิงสาวเอื้อมมือมาตีไหล่เข้าเสียงดังเพี๊ยะหลายที
“ถึงฉันจะร้ายยังไงฉันก็อายเป็นนะคุณ”
ภคพรหน้าแดงขึ้นมาด้วยความอาย ยิ่งนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ประพนธ์เคยทำกับร่างกายเธอ
เธอยิ่งอาย
“ผมหันไปทางอื่นก็ได้ เปลี่ยนเถอะคุณ ร่างกายคุณมันไม่ไหวแล้ว สั่นเหมือนเจ้าเข้าเลยตัวคุณอ่ะ”
ประพนธ์พูดพร้อมกับหันหนีไปอีกทาง

***************************************************************


.............ทันทีที่ลมฝนสงบลง ประพนธ์ก็รีบพาภคพรขับรถกลับบ้านด้วยความเหนื่อยล้าและเหน็บหนาว
ที่ไม่ต่างกัน ทั้งเขาและเธอต่างฝ่ายต่างมีไข้ขึ้นสูงเพราะสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาหลายนาที
ภคพรและประพนธ์นอนซมอยู่บนเตียงนอนใกล้ๆกันโดยมีประไพรและนมมาลัยเป็น
ผู้คอยดูแล เพราะไข้ที่ขึ้นสูงทำให้พวกเขาต้องคอยเช็ดตัวกันอยู่ตลอดเวลา
“แม่ เนย์เป็นไงมั่งครับ”
ประพนธ์ถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง รู้สึกเจ็บระบมคอไปหมด
“เมียลูกกินยานอนหลับไปแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ แม่ว่าลูกเป็นห่วงตัวเองก่อนดีไหม
นอนหลับให้สบายเถอะ”
ภคพรนั่งอยู่ใกล้ๆลูกชาย ยกมือเสยผมที่ปกหน้าผากเขาอยู่อย่างเอ็นดู
“เขาไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
ประพนธ์รู้สึกเบาใจ ก่อนจะหลับตาลงนอนอีกครั้งเพราะฤทธิ์ยาแก้ไข้

***************************************************************


.............เมื่อหมดฤทธิ์ยาและไข้ตัวร้อนที่ค่อยๆดีขึ้น ภคพรก็เริ่มขยับตัวและลืมตาตื่นขึ้น
ด้วยความหิวโหย ก่อนจะหันไปมองประพนธ์ที่นอนอยู่ข้างๆเธอด้วยความรู้สึกรักที่เอ่อล้น
ในดวงใจ เพราะเธอกำลังมีความรัก มันทำให้ความคิดที่จะแก้แค้นไม่ได้อยู่ในหัวสมองของเธอ
เลยในตอนนี้
“หล่อ...”
ภคพรอมยิ้มกับตัวเองเบาๆ นอนมองประพนธ์อยู่อย่างนั้นด้วยความสุข
“หึหึ”
หญิงสาวรู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อนึกถึงสัมผัสอันอ่อนโยนของประพนธ์ ก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้
และซบหน้าลงบนไหล่กว้างของเขาด้วยความรู้สึกที่แสนอบอุ่น
“ว่าไงคุณ แอบมองผมอยู่ได้ ผมเขินนะ”
ประพนธ์หัวเราะร่วน หันมาหาภคพรและรวบร่างบางของเธอเข้ามากอดเอาไว้ในอกอุ่น แนบแน่น
“คุณจะมากอดฉันทำไม ปล่อยนะ”
ภคพรหน้าแดงกร่ำ พยายามดันให้ประพนธ์ออกห่าง แต่ก็ไม่เป็นผล
“คนโกหก อยากให้ผมกอดก็ไม่บอก”
ประพนธ์ยิ้มหวาน จู่โจมจูบหน้าผากของภคพร รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆเธอ
“คุณ อย่านะ...”
ภคพรพยายามขัดขืน แต่ประพนธ์ไม่ยอมปล่อยเธอ
“อย่าช้าใช่มั้ยคุณ”
ประพนธ์หัวเราะหน้าทะเล้น พลิกตัวเองขึ้นค่อมร่างบางของภคพรไว้อย่างดื้อดึง
มือทั้งสองข้างของหญิงสาวถูกประพนธ์ตรึงเอาไว้กับที่นอนอย่างแสนง่ายดาย
“คุณ ฉันเป็นไข้อยู่นะ”
ภคพรรีบร้อนหาข้อแก้ตัวหน้าตาเลิ่กลั่ก
“ไม่เป็นไรคุณ ผมก็ไม่สบายเหมือนกัน ผมไม่กลัวติดหวัดหรอก”
ประพนธ์ยังคงอมยิ้มหน้าทะเล้น
“ฉันหมายถึง ฉันเหนื่อยน่ะคุณ ถอยไปเลยนะ”
ภคพรมองประพนธ์หน้าบึ้งอย่างแสนงอน
“กี่ทีๆ คนที่เหนื่อยก็ผมทุกที นอนเฉยๆยังเหนื่อยอีกหรอคุณ”
ประพนธ์อมยิ้ม กวนประสาท
“คุณ!!!”
ภคพรเสียงดังใส่ประพนธ์เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย
“ผมไม่ได้ทำแบบนี้กับคุณเพราะผมเกลียดหรือไม่ชอบคุณ แต่ที่ผมทำก็เพราะว่าผมอยากทำ
เพราะผู้หญิงที่นอนอยู่ตรงหน้าผมตรงนี้คือคุณ...”
ประพนธ์มองจ้องหน้าหญิงสาวไม่วางสายตา ภคพรนอนนิ่งงันไม่ขยับเขยื้อน รู้สึกอบอุ่นหัวใจ
เพราะคำพูดไพเราะหน้าฟังของประพนธ์
“รู้แล้ว”
ภคพรยิ้มหวาน หลับตาพริ้มลงอย่างยินยอมพร้อมใจ ประพนธ์เขยิบหน้าเข้ามาใกล้หญิงสาว
และบรรจงจูบอย่างแผ่วเบาลงบนฝีปากอวบอิ่มของภคพร ก่อนจะทำทุกสิ่งทุกอย่าง
ตามแรงปรารถนาในหัวใจที่พลุ่งพล่านอย่างไม่อาจควบคุม เขาปฏิเสธไม่ได้อีกแล้วว่าเขาเอง
ก็เริ่มที่จะมีใจให้ภคพร ผู้หญิงแสนร้ายกาจที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขามาเนิ่นนาน

***************************************************************


.............ภคพรนอนสลบไสลอยู่ในอ้อมกอดของประพนธ์จนฟ้าสาง ความรู้สึกดีๆ
ที่ต่างคนต่างมอบให้กันมันทำให้หัวใจของพวกเขารู้สึกอบอุ่น
“ว๊าย!! ตายแล้ว”
ประไพรร้องลั่นด้วยความตกใจ ยืนเอามือปิดหน้า เพราะลูกชายตัวแสบนอนไม่ใส่เสื้อผ้า
อยู่ใต้ผ้าห่ม ลูกสะใภ้ของเธอก็เช่นกัน
“เสียงดังอะไรแต่เช้าครับแม่ ผมง่วงนอน”
ประพนธ์ลืมตาขึ้นมาหน้าบึ้ง
“นี่ลูกสองคนไม่สบายอยู่ไม่ใช่หรอ ไม่สบายแล้ว...แล้ว...”
ประไพรลำบากใจที่จะพูดออกมา
“ตายห่าแล้ว!!”
ประพนธ์ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดแผ่นอกกว้างของเขาและแผ่นหลังขาวเนียนของภรรยาเขาด้วยความตกใจ
“เบาๆครับแม่ เธอยังไม่ตื่น เธอคงเพลียน่ะครับ ตัวยังอุ่นๆอยู่เลย”
ประพนธ์กระซิบกระซาบ ยังคงกอดภคพรเอาไว้ในอ้อมแขน
“แม่ทนดูแกไม่ได้แล้ว ปล่อยให้หนูภคพรเค้าพักผ่อน ทำอะไรก็ไม่รู้ ทะลึ่ง”
ประไพรดุลูกชายเสียงแผ่วเบา รีบร้อนเดินออกจากห้องไปหน้าตาบึ้งตึง ประพนธ์หันมา
มองหน้าภคพรที่ซบอยู่บนอกอุ่นของเขาด้วยรอยยิ้มหวานเยิ้ม
“แม่คุณไปแล้วหรอ”
ภคพรเงยหน้าขึ้นถามประพนธ์
“อ้าว! นี่คุณตื่นแล้วหรอ”
ประพนธ์ยิ้มหวานให้ภคพร แต่ก็รู้สึกประหลาดใจ
“ฉันอายนะ ที่แม่คุณเข้ามาแบบนั้น ป่านนี้ท่านคงคิดว่าฉันโรคจิตตามคุณไปแล้วมั้ง”
ภคพรหน้างอ
“ช่างแม่เถอะคุณ เมื่อคืนคุณก็ดูมีความสุขแล้วก็ให้ความร่วมมือดีนี่”
ประพนธ์ล้อเลียนหญิงสาว
“คุณ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
ภคพรรีบร้อนแก้ตัว อายแสนอาย
“โอเคๆ ผมทำเองคนเดียว คุณไม่ได้ทำอะไรเลย ผมเอง ผมคนเดียว”
ประพนธ์ยังคงล้อเลียน
“ไอ้โรคจิต ฉันอายนะ”
ภคพรซบหน้าลงบนแผ่นอกกว้างของประพนธ์เพื่อหลบสายตาเขาเพราะความอาย
ในขณะที่ประพนธ์หัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจ

***************************************************************


.............ประพนธ์ยืนมองภคพรยืนสั่งการเด็กรับใช้ในบ้านจัดตกแต่งข้าวของอยู่ที่ริมสระน้ำ
สถานที่จัดงานคืนวันพรุ่งนี้อย่างขะมักเขม้นด้วยรอยยิ้ม เขายืนมองเธออยู่อย่างนั้นอย่างไม่รู้ตัว
“สายตาที่ลูกมองหนูภคพรมันเป็นสายตาแบบเดียวกันกลับที่พ่อมองแม่เลยนะ”
พิภพเดินเข้ามาหาลูกชายหลังจากที่ยืนมองดูเขายิ้มอยู่สักพัก
“ผมเปล่านะ”
ประพนธ์รีบหันหน้าหนี ปฏิเสธอย่างขันแข็ง
“ลูกโกหกพ่อได้ หรือจะโกหกใครๆก็ได้ แต่ลูกโกหกใจตัวเองไม่ได้หรอก ยอมรับซะเถอะ
ว่าลูกหลงเสน่ห์เมียตัวเองเข้าให้แล้ว”
พิภพยืนยิ้มหวาน หัวเราะชอบใจกับท่าทีของลูกชาย
“ผมไม่ได้คิดอะไร จริงๆครับพ่อ เกตุแก้ว ผู้หญิงคนนั้นหน้าสงสาร ผมทำร้ายเธอไม่ลงหรอกครับ”
ประพนธ์ตอกย้ำใจตัวเองด้วยความเศร้าสร้อย เขาต้องดึงตัวเองออกมาจากวังวันแห่งความรัก
แบบผิดๆในครั้งนี้ให้ได้

***************************************************************


.............ภคพรเดินมาจัดการข้าวของในครัวต่ออย่างขะมักเขม้น เพราะความรักและเคารพ
ที่เธอมีให้ประไพรทำให้เธออยากให้งานในคืนวันพรุ่งนี้ออกมาดูดีที่สุด
“อยู่ไหนนะ”
หญิงสาวมองหาถ้วยใบใหม่ที่เธอซื้อมา แต่เพราะตู้อยู่สูงเกินไปทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นจาน
และต้องเขย่งเท้า พร้อมกับเอื้อมมือสุดแขนเพื่อหยิบจานอย่างทุลักทุเล
“หึหึ”
ประพนธ์อมยิ้มกับตัวเอง ยืนมองดูภคพรพยายามด้วยตัวเองอยู่ซักพัก ก่อนจะเดินไปยืนซ้อน
อยู่ข้างหลังเธออย่างตั้งใจ
“แขนขาสั้นแบบคุณ หยิบไม่ถึงหรอก ผมเอง”
ประพนธ์พูดด้วยน้ำเสียงฟังสบายๆ ภคพรหันขวับมามองหน้าเขาตกใจ ก่อนจะต้องถอยหลังผงะ
เพราะความใกล้ชิดของเขาและเธอ หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มตาใส รู้สึกอึดอัด
กับความใกล้ชิดกันขนาดนี้
“ฉันหายใจไม่ออกถอยออกไปหน่อย”
ภคพรเอ่ยปากก่อน เมื่อประพนธ์ก็เอาแต่ยืนนิ่งและมองจ้องหน้าเธอในระยะประชิด
“โทษที”
ประพนธ์ถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว ยืนสงบสติอารมณ์และควบคุมความรู้สึกร้อนลุ่มภายในใจ
ของตัวเอง ตั้งแต่ภคพรตกเป็นของเขา ทุกๆครั้งที่เขาเข้าใกล้เธอมันเหมือนกับมีมนต์สะกด
บางอย่างที่ทำให้เขาต้องมีความรู้สึกปรารถนาในตัวเธอทุกครั้งไป กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกลาย
ของหญิงสาวยังคงติดอยู่ในใจของเขาอย่างไม่อาจลบลืม
“เอาจานคืนมาเลย”
ภคพรแย่งจานในมือประพนธ์ที่ยังยืนใจลอย
“ก็เอาไปสิ”
ประพนธ์ยิ้มบางๆ รู้สึกทรมานกับการเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเอง
“มองกันตาหวานเยิ้มขนาดนี้ ท่าทางเราจะได้ยินข่าวดีเร็วๆนี้แน่เลยค่ะคุณแม่”
นวพรรษเดินเข้ามาในครัวกับแม่เธอด้วยรอยยิ้มหวาน มองดูภคพรและประพนธ์ยืนมองหน้ากัน
ด้วยความสุข
“ผมออกไปข้างนอกก่อนนะครับ”
ประพนธ์อายจนหน้าแดง รีบร้อนเดินออกจากห้องครัวไป
“เพ้อเจ้อ พี่จะไปมีลูกกับนายคนนั้นได้ยังไง”
ภคพรหลบสายตา
“คุณประไพรเล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ฟังหมดแล้ว คนสองคนเป็นคนคนเดียวกันแล้ว
ทำไมจะมีลูกไม่ได้ล่ะจ๊ะ”
เพียงพรจับแขนลูกสาวเบาๆ
“คุณแม่นะคุณแม่”
ภคพรอายหน้าแดงแจ๋ รีบร้อนเดินออกจากครัวไปอีกคน
“ถ้าเขาสองคนรักกันได้จริงๆก็ดีสิคะ เรื่องวุ่นๆนี่จะได้จบลงซะที”
นวพรรษพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแห่งความหวัง เธอจะขอสวดมนต์ภาวนาให้ความรักของประพนธ์
ทำให้เธอและครอบครัวได้พี่สาวคนเดิมกลับคืนมา

***************************************************************


.....................................จบตอน.......................................


**** ทิ้งคอมมเม้นหรือไลค์ ไว้ให้กันบ้างนะคะ หรือจะช่วยวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็น
ให้ยิ่งดีเลยค่ะคนเขียนอยากรู้ อิอิ ^____^



ชะนีน้อยนานา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ส.ค. 2556, 12:46:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ส.ค. 2556, 12:46:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1314





<< ไร้หัวใจ ตอนที่ 26   ไร้หัวใจ ตอนที่ 28 >>
namzuza 14 ส.ค. 2556, 14:05:52 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account