Uluru ด้วยรักนิรันดร์
ตอนที่ความรักนั้นจบลง
ชีวิตของผมก็เหมือนไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป ...
นานเท่านาน ...
หัวใจจมดิ่งลงไปสู่เบื้องลึกของความทรงจำอันเจ็บปวด
ตอนที่คุณหายไป ...
ชีวิตผมบาดเจ็บจนลืมไปว่ามันสามารถรักษาได้

นานเท่านาน ...
หัวใจได้เยียวยาด้วยหัวใจ ...
แล้วเราคงข้ามผ่านมันไปด้้วยกัน ...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: คนใหม่กับข่าวใหม่

“คุณได้รับอีเมล์ใหม่”

หากจะหาเหตุผลที่เขาหงุดหงิดตลอดทั้งวัน นั้นก็คงเป็นเพราะเรื่องนี้

ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มันจะมีสัญญาณเตือนแสดงขึ้นเมื่อมีจดหมายอีเล็คทรอนิคส์ใหม่ๆ เข้ามาในยามที่ชายหนุ่มลงชื่อเข้าเว็บเช็คเมล์ เขาไล่เรียงดูที่ละชื่อแล้วคลิ๊กกำจัดบรรดาอีเมล์ที่เป็นอีเมล์ขยะสำหรับอีเมล์โฆษณาและอีเมล์ลูกโซ่ทั้งหลาย จากนั้นก็เปิดเฉพาะอันที่สำคัญ

พีรพงษ์ไม่รู้สึกประหลาดใจที่นุ่นส่งข่าวเรื่องการตายของเพื่อนสนิทมาให้ในตอนนี้ การไปเรียนต่อและใช้ชีวิตที่อเมริกาก็ใช่ว่าจะทำให้ข่าวนั้นไปไม่ถึง แต่ก็คงคล้ายๆ กันกับเขาคือในเวลาที่เกิดเรื่องปัจจุบันทันด่วนเราก็หลงลืมเรื่องที่ควรทำไป เพราะเขาก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ลืมส่งข่าวไปบอก ก็อย่างที่ว่าตอนนั้นอะไรๆ ก็ดูสับสนไปหมด

มีจดหมายเกริ่นล่วงหน้าเรื่องงานแต่งของเพื่อนสมัยเรียนคนหนึ่ง เพื่อนคนนั้นกับเจ้าสาวที่เป็นเพื่อนรุ่นน้องในที่ทำงานตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เขารู้จักเจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่นี้แค่เผินๆ อย่างที่รู้กันว่าเขาเป็นคนไม่ค่อยได้สุงสิงกับใครเท่าไหร่ บางทีเพื่อนคนที่แต่งก็ไม่ได้นึกถึงเขาหรอก แต่รายชื่อมันคงพ่วงกันเป็นกลุ่ม

มันก็คงเป็นแค่ข่าวแจ้งธรรมดา หากเพียงแต่ว่าในใจชายหนุ่มจะไม่มีปมเรื่องความรักที่เดินทางไม่ถึงปลายทางเกาะกินอยู่

จากนั้นพีรพงษ์เริ่มเช็คจดหมายตอบกลับของฝ่ายการตลาดประจำศูนย์กระจายสินค้าแต่ละภาค เขาส่งเมล์แจ้งรายละเอียดสำหรับการใช้จัดกิจกรรมการตลาดประจำไตรมาสสุดท้ายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางบริษัทต้องการให้แต่ละศูนย์แจ้งสิ่งที่ขาดเหลือและคอนเฟิร์มจุดจัดงานของตัวเองกลับมา เมื่อพิมพ์ออกมาตรวจสอบว่าเรียบร้อยดีก็เย็บเป็นปึกส่งฝ่ายแผนงาน

ต่อมาก็เป็นอีเมล์ของกอล์ฟ

“พี่กอล์ฟ นมนต์มีหมอที่อยากแนะนำให้พี่ไนท์ไปคุยด้วยค่ะ ชื่อคุณหมอสุรพิชัย เตชาสุนทร นมนต์ได้เล่าคร่าวๆ เรื่องพี่ไนท์แล้ว คุณหมอเลยแนะนำให้พี่ไนท์โทร.ไปนัดหมายกับเลขาฯอีกรอบเพราะท่านค่อนข้างจะมีคนมาขอคำปรึกษาเยอะ หมายเลยเลขาฯ ของคุณหมอนะคะ 081-7475-xxx”

กอล์ฟส่งฟอร์เวิร์ดเมล์ของแฟนสาวมาบอกเรื่องที่เคยคุยกัน พร้อมพิมพ์ย้ำตัวใหญ่มาด้วยว่า “ห้ามไม่โทรนัดหมายเด็ดขาด ไม่งั้นกูจะมาลากมึงไปเจอหมอเอง แล้วเดี๋ยวกูโทรเช็ค” ซึ่งพีรพงษ์เชื่อว่าเพื่อนต้องโทรมาแน่ตามนิสัยที่รู้จักกัน
ชายหนุ่มจดหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ที่แนบมาด้วยใส่สมุดบันทึกงาน ตั้งใจว่าจะโทรนัดตอนเที่ยงนี้

เมื่อลบจดหมายไร้สาระทิ้งไปอีกหลายฉบับ ชายหนุ่มก็แทบตั้งสติไม่อยู่ สายตาของเขาเห็นชื่อที่จำขึ้นใจ--จดหมายของเกม

แต่พอเหลือบดูหัวเรื่องจดหมาย ความผ่อนคลายก็แทนที่ มีทั้งความเสียดายและความโล่งใจประปนกัน เพราะมันก็แค่ลิงค์อัตโนมัติของโปรแกรมบางอย่างที่มักสุ่มส่งเรื่องไร้สาระมาเป็นทอดๆ ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองดีใจหรือโล่งใจกันแน่ แต่เหมือนจะพบว่าหากเป็นจดหมายของเกมจริง บางที--เขาคงต้องใช้เวลาเตรียมใจอีกนานก่อนที่จะเปิดอ่าน

เมื่อส่งจดหมายตอบกลับไปถึงน้องชายที่อเมริกา ชายหนุ่มปิดเว็บไซต์เช็คเมล์และเริ่มทำงานอื่นๆ แต่ความระทึกใจแม้นจะเพียงแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ยังคงอยู่ และดูเหมือนว่านี่คือตัวสาเหตุของความวุ่นวายใจที่เกิดขึ้น

ยังไม่ทันจะทำตามที่คิดไว้ พีรพงษ์ก็ต้องโทรศัพท์ไปตามหมายเลขที่ได้มาเพื่อเช็คเวลานัดหมายกับหมอสุรพิชัย โดยมีเลขาฯ ของคุณหมอเป็นผู้เช็คตารางเวลาให้ ทั้งนี้ก็หลังจากที่คนส่งฟอร์เวิร์ดเมล์มานั้นโทรมาเช็คและโกรธให้เขาแล้ว

คุณเลขาฯ ขอเวลาชั่วครู่เพื่อเช็คกับคุณหมออีกที เพราะคุณหมอมีตารางเดินทางไปต่างประเทศเร็วๆ นี้

ไม่นานนักที่ถือสายรอ คุณเลขาฯ ต่อสายกลับมา ก่อนจะช่วยเลือกช่วงสายของวันพุธในสัปดาห์ที่จะถึง เพื่อให้ชายหนุ่มทันเจอคุณหมอตามที่ได้รับคำสั่งมา ก่อนคุณหมอจะไปสัมนาที่ต่างประเทศเกือบสามอาทิตย์ เพราะไม่อย่างนั้นหากรอตอนกลับมาเขาจะต้องรอเวลาที่ว่างในอีกครึ่งเดือนให้หลัง

เวลาเกือบเที่ยง แต่สายของหญิงสาวที่จะโทรเข้ามาก็ไม่โทรมาสักที
...................

สามทุ่ม

สายน้ำเจ้าพระยายามค่ำสะท้อนแสงไฟเรือโยง โต๊ะริมน้ำจับสัมผัสลมริมน้ำได้ถนัดถนี่เสียงคลื่นกระแทกฝั่งสะท้อนก้องอยู่ในโพรงใต้พื้นไม้ อากาศเย็นสบายส่งอารมณ์ในใจให้รู้สึกผ่อนคลาย

หญิงสาวยิ้มหวานตอนที่เธอเดินเข้ามาถึงตัวร้าน และยิ้มยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อได้นั่งลงในตำแหน่งที่ชายหนุ่มจองไว้

อาหารในรายการดินเนอร์ที่สั่งจองไว้ถูกทยอยนำเสิร์ฟ กับข้าวรสชาติกำลังดีเมื่อคลอเคล้าบทเพลงจากนักดนตรีบนเวทีมันก็อร่อยขึ้น นานๆ ทีจากการนั่งอยู่ตรงนั้นจึงจะมีเรือล่องเจ้าพระยาแล่นเชื่องช้าผ่านมาสักครั้ง หญิงสาวมองตามทั้งรอยยิ้ม ก่อนขอสัญญาจากเขาว่าครั้งหลังจากนี้ขึ้นไปดินเนอร์บนเรือพวกนั้นกันบ้างน่าจะมีความสุขดี

พีรพงษ์ยิ้มให้เธอแทนคำตอบว่าได้หรือไม่ได้ มันเป็นการแบ่งรับแบ่งสู้แบบกลายๆ

สรัญญาเอ่ยปากขอบคุณสำหรับมื้อค่ำที่แสนหวาน เธอจับมือเขาไว้ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ข้างกัน

หลังอาหารค่ำในบรรยากาศพิเศษ สองหนุ่มสาวขับรถชมแสงไฟของถนนยามราตรี ก่อนไปจบที่คอนโดของหญิงสาว

ร่างเปลือยเปล่าของแต่ละคนต่างขยับรั้งอีกฝ่ายเข้าหาร่างกายของตัวเอง หญิงสาวร้องครางในยามที่ชายหนุ่มโหมกระหน่ำแรงลงบนเรือนร่างของเธอ อารมณ์ความสุขนั้นหลั่งไหลออกมาจากผิวกายบาง ผุดพรายเม็ดเหงื่อ ชายหนุ่มเองก็ไม่ต่างกัน เขาตักตวงความสุขในสัมผัสสิเน่หาจากร่างเนียนนุ่มตรงหน้าราวกับไม่เคยพบเจอ

กว่าการเริงความสุขร่วมกันจะจบลง ทั้งพีรพงษ์และสรัญญาก็เหนื่อยจนผล่อยหลับไปทั้งกอดกันอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มพาดแขนไปบนหมอนกอดจับหญิงสาวไว้ หญิงสาวเองก็ซบศีรษะแนบกับแผ่นอกของร่างกำยำที่โอบกอดเธอ เสียงลมหายใจแผ่วๆ ประสานสอดรับกัน
สร้อยคอเงินเส้นเล็กๆ ที่คล้องคอหญิงสาวห้อยตกบนแผงอกของพีรพงษ์ มันขยับตามจังหวะหายใจเนิบช้า เขาให้หญิงสาวเป็นของขวัญแทนการจะคบหากันอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าบางอย่างจะยังผิดที่ผิดทางอยู่ก็ตาม
...................

พีรพงษ์สะดุ้งตื่นเมื่อเกือบสว่าง เหงื่อแตกพราวบนผิวหน้าและอก เขารู้ตัวว่าตัวเองคงไม่แคล้วฝันร้าย ฝันในเรื่องเดิมๆ

สรัญญายังคงหลับอยู่ แขนบอบบางยังคล้องกอดกับร่างของเขา แม้ตอนที่ชายหนุ่มลุกจากที่นอนไปยังห้องน้ำเธอก็ยังไม่รู้สึกตัว ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดตัวที่หญิงสาวพับเตรียมไว้ในตู้ชั้นลอยมาเช็ดเหงื่อตามตัว

อากาศเย็นของเครื่องปรับอากาศลอดผ่านช่องประตูที่แง้มเข้ามา เขาบิดคันโยกก๊อกน้ำแล้ววักน้ำล้างหน้าล้างตา มองหน้าตัวเองในกระจก และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทรมานกับการยังรับรู้ว่าเรื่องราวของหญิงสาวอีกคนยังตามหลอกหลอนเขาอยู่

ค่ำคืนที่เขากับเกมเคยใช้เวลาให้และตักตวงความสุขทั้งกายและใจต่อกันยังชัดในความจำ สัมผัสต่อกันแตกต่างจากเรื่องราวในค่ำคืนนี้หรือค่ำคืนที่ผ่านๆ มา ชายหนุ่มนึกภาพร่างเล็กที่กกกอดกับเขาภายใต้ผ้าห่มอุ่น ราตรีแรกของการได้ครอบครองความเป็นเจ้าของซึ่งกันและกัน รสจูบอันแปลกประหลาดในความเคอะเขินกับบทรักที่ต่างไม่ประสีประสา ต่อเนื่องจนถึงค่ำคืนที่ความปรารถนาต่อกันสามารถตอบสนองความต้องการอีกฝ่ายได้ดั่งใจเรียกร้อง

ในขณะที่เบื้องหลังของชีวิตที่เฝ้าแต่จดจำ ที่ด้านหลังในความความเป็นจริง เพียงแค่หันหลังกลับไป ใครคนอื่นที่ไม่ใช่คนที่ตัวเองรักสุดชีวิตนอนอยู่บนเตียงนั่น

พอกลับมาแทรกตัวนอนบนเตียงอีกครั้ง สรัญญาถึงได้รู้สึกตัวตื่น เธองัวเงียกอดเขาพร้อมใช้ริมฝีปากผากแห้งจูบบนตัวเขาก่อนจะหลับต่อ ใบหน้าเรียวงามอิ่มเอิบความสุข

พีรพงษ์สงสารเธอจับใจ สงสารที่เธอต้องอยู่ในสถานะของคนที่ไม่สามารถครอบครองหัวใจส่วนลึกของเขาได้ ชายหนุ่มทำได้เพียงโอบร่างระหงนั้นแนบตัวเขาแรงๆ พร้อมกับตั้งปณิธานในใจว่าจะพยายามทำให้ความรู้สึกที่เหมือนกำลังทำร้ายหญิงสาวคนนี้ให้หมดลงโดยเร็วที่สุด
...................

จู่ๆ เพื่อนคนหนึ่งซึ่งไปดูงานที่ต่างประเทศก็แวะมาหาที่ออฟฟิศ ถึงจะไม่สนิทกันมากนัก แต่พีรพงษ์ก็จำได้ว่าชายคนนี้เป็นเพื่อนที่ทำงานเก่าของเกม

ตอนนั้นเกมยังทำงานในบริษัทเกี่ยวกับนำเข้าชุดที่นอน ในงานเปิดตัวสินค้าใหม่ เขาเคยไปรอหญิงสาวคนรักเตรียมงานและช่วยหยิบจับข้าวของ บ่อยครั้งที่เธอเอาแต่ไล่เขาไปห่างๆ เพราะแทนที่จะช่วยกลับกลายเป็นเกะกะ เขาจำได้ดีว่าตัวเองต้องไปนั่งรอแบบหงอยๆ ในร้านอาหารใกล้จุดตั้งบูธ หญิงสาวก็รู้ทันอารมณ์เขา เธอจะหันมายิ้มให้รู้ว่าเธอเห็นเขาอยู่นะ

นั่นคือภาพดีภาพของเกมที่ยังค้างคาในใจ

ด้วยความประหลาดใจที่ได้เจอกัน แต่นั่นยังไม่ประหลาดใจเท่ากับที่อีกฝ่ายบอกว่า เขาบังเอิญไปเจอเกมที่ออสเตรเลียมา ทีแรกคนมาหาก็ไม่แน่ใจนักว่าใช้หญิงสาวคนเดียวกันหรือไม่ เพราะไม่เคยคิดว่าเธอจะมาอยู่ต่างประเทศและเจอกันโดยบังเอิญเช่นนี้

แต่พอเข้าไปทักก็ใช่เกมจริงๆ ด้วยความรัดตัวในธุระที่ต้องทำ ทำให้เขาได้แต่ขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ ก่อนที่จะนัดเจอและรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันมื้อหนึ่งก่อนเดินทางกลับมา

วันก่อนตอนที่เดินลงจากตึกนี้เพื่อไปกินข้าว ก็พอดีนึกขึ้นได้ว่าเกมเคยเป็นแฟนเขา และเขาก็ทำงานอยู่ออฟฟิศบนตึกในซอยฝั่งตรงข้ามเลยแวะมาบอก

พีรพงษ์อยากเอ่ยปากถามว่าเกมเป็นอย่างไร? สบายดีหรือเปล่า? แต่คำพูดนั้นถูกห้ามไว้ด้วยความรู้สึกสับสน โดยเฉพาะคำถามที่อยากรู้ว่าเกมพูดถึงเขาบ้างหรือไม่

การได้รับคำยืนยันว่าใครคนหนึ่งที่หายไปจากชีวิตยังมีชีวิตอยู่ในที่ที่สามารถไปถึงได้นั้นเป็นอะไรที่วิเศษมาก ทว่าความลังเลใจว่าเขาควรจะรู้ดีหรือไม่กำลังบ่าโถมลงมาเหมือนลำธารได้น้ำจากพายุฝน

พีรพงษ์รู้ตัวดีว่าเขาเพิ่งตัดสินใจคบกับจูน หลังจากทนอยู่ในโลกอันเจ็บปวดมานาน โลกที่ไม่มีเกม แม้เกมจะเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเขา แต่ใครคนที่ต้องการมาตลอดชีวิตนั้น ไม่เคยมีคืนวันที่จะสามารถย้อนกลับไปเจอและอยู่ด้วยกัน วันดีคืนดีกลับมีข่าวผ่านเข้ามาให้รับรู้

ชายหนุ่มขอบใจคนเอาข่าวมาบอก แต่ก็บอกตัวเองตรงๆ ไม่ได้ว่ายินดีหรือยินร้ายที่ได้รู้

คืนนั้นหลังจากที่เขาโทรไปบอกราตรีสวัสดิ์จูนเสร็จ กว่าที่เขาจะข่มตาหลับก็ยากเสียยิ่งกว่าทุกวัน วันเวลาของค่ำคืนที่ความรู้สึกไม่อยากหลับไม่อยากนอนยังคงดำเนินต่อเนื่อง แต่แค่คืนนี้เท่านั้นที่มันหนักหน่วงยิ่งกว่าคืนไหนๆ

คืนที่ภาพทรงจำของเกมเวียนวนวุ่นวายยิ่งกว่าทุกค่ำคืน
....................

(หายจากการอัพไปช่วงหนึ่ง... ปั่นโปรเจคส่วนตัวไปเกือบสองอาทิตย์เลยเพิ่งจะมีเวลาเขียนตอนต่อของนิยายที่ค้างไว้... ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะครับ)



นรมันร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2556, 16:33:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ส.ค. 2556, 16:33:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 899





<< ความผิดกับดินเนอร์   การตัดสินใจกับการรักษา >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account