ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: นางฟ้าในมือซาตาน

และหากคนที่กำลังหลับอยู่ด้วยความอ่อนเพลียได้รับรู้ถึงความเกลียดชังจากแม่เลี้ยงเมื่อครู่นี้ก็คงจะผิดหวังอย่างที่สุด ด้วยเมื่อคืนคาดหวังเอาไว้ว่าเลขาฯ จะต้องให้เบาะแสการหายมาของตัวเองแล้วนั่นเอง ร่างที่ยังอยู่ในชุดเดิมเมื่อวานสะดุ้งตื่นขึ้น เมื่อเสียงประตูเปิดและปิดลงในเวลาไล่เลี่ยกัน หันไปหาต้นเสียงพบว่าคนเดินเข้ามาในห้องนั้น คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เอี้ยงส่งยิ้มให้หญิงสาวที่จ้องมองมายังหาด้วยสายตาระแวดระวังภัยเต็มที แต่ก็มีรอยยิ้มแห่งความหวังตามมาติด ๆ

“ป้า! ป้านั่นเอง ป้าคนที่อยู่บ้านกับเจ้านายที่ชื่อคุณภาพใช่มั้ยคะป้า” เอี้ยงยิ้มให้อีกและเดินเข้าไปหาใกล้ ๆ เตียง วางเสื้อผ้าที่ถือมาด้วยไว้ข้างกายเธอ

“คุณรู้จักป้าด้วยเหรอคะ แล้วตื่นนานหรือยังคะ อาบน้ำเถอะค่ะ จะได้กินข้าว คุณไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะคะ ป้าทำของอร่อย ๆ มาให้หลายอย่างค่ะ”

“ป้าคะนี่ที่ไหน แล้วป้ารู้มั้ยว่าใครพาหนูมา ทำไมป้าถึงมาอยู่นี่ หรือว่าป้าเป็นคนที่...”

“ไปอาบน้ำเถอะค่ะคุณ ป้าตอบอะไรไม่ได้ทั้งนั้นค่ะ อีกหน่อยคุณก็จะรู้และเข้าใจเอง”

เอี้ยงชิงบอกอีกครั้ง เพราะได้รับคำสั่งจากสหภาพให้มาดูแลเรื่องความเป็นอยู่ของที่นี่ตั้งแต่วันที่เก็บเสื้อผ้าจากบ้านเช่าแล้ว แถมยังถูกกำชับอีกด้วยว่าไม่ให้พูดอะไรเกี่ยวกับเขา และห้ามบอกเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้นโดยเฉพาะแม่กับพ่อที่อังกฤษ ถึงจะสงสัยแค่ไหน แต่เมื่อได้รับคำสั่งแกมขอร้องจากเจ้านาย เอี้ยงก็พร้อมจะทำตามอย่างไม่ยากเย็นนัก ด้วยเชื่อว่าเขาจะต้องมีเหตุผลที่ดีในการกระทำของตัวเอง

“เข้าใจอะไรคะ แล้วใครจับตัวหนูมา จับมาทำไม ป้าเกี่ยวข้องอะไรกับนายสุภาพหรือเปล่าคะ หรือว่าเขาเกี่ยวข้องอะไรกับคุณภาพเจ้านายของป้า สองคนนี้ใช่มั้ยที่จับหนูมา แล้วเพื่ออะไรคะ หรือว่าจะจับมาเรียกค่าไถ่”

อาการร้อนรนของหญิงสาวทำให้เอี้ยงอดสงสารไม่ได้ แต่ป่วยการหากจะตอบ เพราะแกเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กสาวคนนี้เป็นใคร และเจ้านายจับมาขังไว้ทำไม

“อย่าถามป้าเลยค่ะ ป้าไม่รู้จริง ๆ คุณไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้วออกมากินข้าวดีกว่านะคะ ป้าจะไปยกมาให้ค่ะ”

“ป้า ๆ ๆ รอก่อนสิคะ ป้าจะไปไหน รอด้วย ให้หนูไปด้วย” รีบวิ่งตามเอี้ยงที่เดินไปหาประตูในทันที แต่ก็ไม่สามารถก้าวพ้นธรณีประตูได้ เพราะมีชายร่างใหญ่ที่เธอจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่บังคับให้เธอขึ้นรถมาเมื่อวานนี้

“ถอยออกไปนะ นายเป็นใครมาขวางทางฉันไว้ทำไม ออกไปให้พ้นนะ” สองมือผลักอกคนที่กางแขนสองข้างออกจับกับขอบประตูเพื่อกันไม่ให้เธอออกนอกห้องได้

“ออกไปนะ นายมาขวางฉันไว้ทำไม” แทนคำตอบชายร่างใหญ่กลับเดินเข้าห้องมาด้วยท่าทางน่าเกรงขาม พิมมาดาอดห่วงในสวัสดิภาพของตัวเองไม่ได้ จนต้องถอยร่นออกห่างประตู แต่เขาก็ยังตามเธอไปติด ๆ ไม่นานเอี้ยงก็กลับมาพร้อมถาดอาหาร แล้ววางไว้กับโต๊ะใกล้ ๆ ประตู

“อาหารมาแล้วค่ะ คุณไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้วกินข้าวนะคะ หรือถ้าหิวก็กินก่อนได้”

“ป้า ๆ ช่วยหนูด้วย ปล่อยหนูออกไปนะ ป้าจับตัวหนูมาไว้นี่ทำไม ออกไปนะไอ้บ้า ออกไป้”

ขอร้องด้วยความหวังและชี้หน้าด่าชายร่างใหญ่ด้วยความโกรธ แล้วอาการโล่งอกก็บังเกิดขึ้น เมื่อเอี้ยงพยักหน้าให้ชายร่างใหญ่เดินออกไปพร้อม ๆ กัน ประตูปิดลงและล็อคจากด้านนอกเช่นเคย พิมมาดารีบวิ่งไปใช้มือบิดลูกบิดแรง ๆ แต่ก็เปล่าประโยชน์

“ปล่อยฉันออกไปนะ! บอกให้ปล่อยได้ยินมั้ย! ปล่อยฉัน! จับฉันมาไว้นี่ทำไม ปล่อย ๆ ๆ ๆ บอกให้ปล่อยฉัน!”

ร้องจนสุดเสียงด้วยความโกรธเมื่อไม่มีใครตอบอะไรได้สักอย่าง น้ำตาแห่งความกลัวเริ่มเอ่อเต็มเบ้าและไหลรินออกมาในที่สุด

“ไอ้พวกบ้า! ปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉันออกไป! เอาของพวกนี้ไปด้วย ฉันไม่อยากกิน เอาไปให้พ้น เอาไป! เอาไปให้หมด ไอ้พวกบ้า!” อาหารในถาดตกเกลื่อนพื้น ถ้วยชามแตกกระจายทั่วสารทิศ ร่างบางนั่งกองอยู่กับพื้นร้องไห้สะอึกสะอื้น เพราะไม่รู้จะทำยังไงถึงจะพาตัวเองออกไปจากที่นี่ได้

“คุณแม่ช่วยเนยด้วย เนยอยากกลับบ้าน ช่วยเนยด้วยค่ะ เนยกลัว พวกเขาจับเนยมาทำไมคะ”

ยามมีทุกข์ใจเธอมักจะคิดถึงหน้าแม่ผู้จากไปตั้งแต่ยังเด็ก เพราะแม่คือคนที่รักเธออย่างจริงใจ รองลงไปก็คือป้าค้อเท่านั้น นานนับชั่วโมงที่เธอปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมา แต่เมื่อพบว่าหาประโยชน์อะไรไม่ได้จากการนั่งร้องไห้อยู่แบบนี้ บวกกับความเหนียวเหนอะหน่ะตามร่างกาย ไหนจะเสื้อผ้ายับยู่ยี่อีก จึงค่อย ๆ ลุกหอบเอาข้าวของที่กองอยู่เตียงเดินเข้าห้องน้ำ แต่พอจะคว้าเสื้อผ้ามาใส่ก็ต้องเสียอารมณ์ขึ้นทันที

“บ้าจริง! กางเกงสั้นจู๋กับเสื้อตัวแค่นี้เหรอจะให้ฉันใส่”

ให้แค้นใจนัก แต่ก็จำต้องยอม เพราะชุดที่ใส่มาเป็นกระโปรงทั้งเปื้อนและมีกลิ่นอับเกินกว่าจะหยิบมาใส่อีกได้ ดีที่มีชุดชั้นในมาให้เปลี่ยนด้วย ถึงแม้จะไม่พอดิบพอดีกับขนาดของตัวเอง ก็ยังพอถู ๆ ไถ ๆ ไปได้ ออกมาจากห้องน้ำ ค่อยรู้สึกสบายตัวขึ้นมาก เดินไปเปิดหน้าต่างทั้งสองบานออก เห็นท้องฟ้าสีครามค่อยดีขึ้นหน่อย ด้านข้างเป็นป่ากับภูเขามองเห็นแต่ไกล ๆ พยายามใช้ความคิดว่าตัวเองอยู่ไหน

แต่จังหวัดที่มีทะเลและภูเขาในประเทศไทยก็เยอะเกินกว่าจะคาดเดา ด้วยไม่รู้ว่าตอนถูกพาตัวมานั้นใช้เวลาเดินทางนานแค่ไหน ยืนดูสภาพภายนอกจนรู้สึกเมื่อยขาจึงเดินไปนั่งกอดเข่าอยู่กับเตียง ใจเฝ้าครุ่นคิดว่าป่านนี้พ่อกับแม่คงจะกำลังหาทางมาช่วยเป็นแน่ พร้อมปลอบใจตัวเองว่าคงอีกไม่นานจะได้หลุดพ้นจากสภาพแบบนี้

บ่ายโมงแล้วเมื่อหันไปมองนาฬิกาบนผนัง ท้องเริ่มร้องโครกครากเพราะความหิว สามมื้อแล้วที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง กลิ่นอาหารตกเกลื่อนอยู่กับพื้นเรียกน้ำย่อยได้ไม่น้อย หันไปมองก็ให้นึกโกรธตัวเองอยู่ครามครัน กับความหุนหันทำแบบนั้น เพราะมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย นอกจากจะทรมานตัวเองเปล่า ๆ การหลับจะช่วยให้หายหิว นั่นคือความคิดของเธอ จึงล้มตัวลงนอนพยายามข่มตาให้หลับจะได้ลืมเรื่องปากท้อง

เสียงเปิดประตูเรียกให้เธอสะดุ้งตื่นอีกครั้ง รีบลุกขึ้นหันไปมองว่าใครจะโผล่เข้ามา คาดหวังว่าจะเป็นป้าคนเดิม แต่ครั้งนี้เดาผิด เพราะเป็นชายร่างใหญ่แทน แต่ก็หยุดยืนอยู่แค่ประตูเท่านั้น สักพักป้าจึงเดินเข้ามาพร้อมถาดอาหาร และเด็กสาวอีกคนเดินตามมา พิมมาดาจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับคนที่นั่งรถมารับป้าไปเมื่อวันก่อน

“ป้าบอกหนูทีใครจับหนูมา ปล่อยหนูไปเถอะค่ะป้า สงสารหนูเถอะค่ะ ถ้าป้าอยากได้เงินหนูสัญญานะคะว่าถ้าปล่อยหนูไปแล้วหนูจะเอาเงินมาให้ ป้าอยากได้เท่าไหร่หนูก็ให้ได้ค่ะ ขออย่างเดียว ปล่อยหนูนะคะ”

เดินไปใกล้ ๆ ป้าปากก็ร้องขอความเห็นใจ แต่ต้องถอยร่นกลับที่เดิม เมื่อชายร่างใหญ่ย่างสามขุมเข้ามาขวางเพื่อไม่ให้เข้าถึงตัวป้า จากนั้นเด็กสาวก็จัดการเก็บกวาดเศษถ้วยชามและเศษอาหารด้วยความรีบเร่ง ไม่นานก็ออกจากห้อง

“คุณกินข้าวนะคะ มื้อเที่ยงก็ไม่ได้กิน”

เอี้ยงบอกแค่นั้นแล้วเดินออกจากห้องไปตามด้วยชายร่างใหญ่และปิดประตูล็อคไว้ดังเดิม ร่างบางก็วิ่งไปบิดลูกบิดประตูแรง ๆ และได้พบกับความผิดหวังดังเดิมอีก เดินมานั่งที่โต๊ะอาหารเปิดฝาดูแต่ละถ้วยพบว่ามีแกงเขียวหวาน ทอดมันปลา ข้าวและผลไม้รวมหั่นเป็นชิ้น ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ช้อนที่ปกติน่าจะเป็นช้อนยาวและส้อม กลับมีแต่ช้อนตักแกงแทน เข้าใจว่าคนจับตัวมาคงกลัวจะใช้ข้าวของพวกนี้เป็นอาวุธในการหลบหนีเป็นแน่ ป่วยการจะคิดอะไรในตอนนี้ จึงรีบตักอาหารเข้าปากด้วยความหิว

กลืนลงท้องไม่เท่าไหร่ เมื่อคิดได้ว่าอาจมียาพิษหรือยาสารพัดที่คนจับตัวมาจะแอบใส่ไว้ในอาหาร เพียงเท่านั้นลำคอก็ตีบตันจนไม่กล้าจะกินต่อได้ เหยือกน้ำอยู่ใกล้ ๆ ก็พลอยทำให้เธอหวาดกลัวไปด้วย แต่ความกระหายเรียกร้องให้ต้องรินใส่แก้วและยกขึ้นดื่ม แล้วนั่งขดตัวรอดูว่าจะมีอะไรผิดปกติกับร่างกายหรือไม่ ผ่านไปสองชั่วโมงกว่า ๆ ทุกอย่างยังคงปกติจึงรู้สึกเบาใจ



สหภาพมองหน้าหญิงสาวตรงหน้ารวบช้อนไว้ข้างจาน ทั้ง ๆ ที่อาหารยังไม่พร่องเลย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงจะห่วงเจ้านายสาวเป็นแน่ อดดีใจแทนไม่ได้เมื่อเจ้าหล่อนมีคนห่วงใยจนไม่เป็นอันจะกินจะนอนขนาดนี้ แต่คนที่ดูจะเป็นกังวลมากที่สุดเขาเห็นว่าเป็นนายจักรภพกับสไบแพร เพราะเฝ้าสังเกตดูพบว่าเห็นสองคนเดินหน้าเครียดเข้าออฟฟิศตั้งแต่เมื่อเช้า และนั่งหมกตัวอยู่ห้องทำงานทั้งคู่ เที่ยงก็ไม่ยอมออกไปกินข้าวที่ไหน ได้แต่สั่งเข้าไปกินในห้อง

“ท่านประธานบอกว่าถ้าคุณเนยไม่กลับบ้านคืนนี้จะไปแจ้งความแล้วค่ะคุณแพท” ลลิตาเอ่ยในที่สุด

“แจ้งว่ายังไงครับ แล้วไม่กลัวนักข่าวจะรู้เหรอว่าลูกสาวเจ้าของห้างดังหายตัวไปกับผู้ชาย เผลอ ๆ อาจจะไม่ลงข่าวว่าหายไปด้วยซ้ำ แต่จะลงเป็นหอบผ้าตีตามผู้ชายไปมากกว่า” เขาอดห่วงไม่ได้ว่าตำรวจจะสาวเรื่องถึงตัว แม้ค่อนข้างจะมันใจว่าไม่มีวันที่ตำรวจจะตามหาเจ้าหล่อนเจอเป็นแน่

“ท่านรองประธานก็ห่วงตรงนั้นล่ะค่ะ ถึงได้รั้งท่านประธานเอาไว้ก่อน เพราะคิดว่าคุณเนยแค่ไปกับเพื่อนหรือว่าแฟนเท่านั้น แต่ที่ไม่รู้ก็คือว่าไปไหนและทำไมไม่บอกใครไว้เลย” ลลิตาถอดคำพูดของเจ้านายเมื่อบ่ายนี้มาเล่าให้เขาฟัง เพราะเธอถูกเรียกตัวเข้าไปสอบถามเรื่องราวอย่างละเอียดอีกครั้ง

“ผมก็คิดอย่างนั้นล่ะครับ เพราะถ้ามีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้นกับคุณเนย ป่านนี้คงจะมีข่าวอะไรให้เราเห็นแล้วล่ะ หรือถ้าจะเป็นการเรียกค่าไถ่ก็คงจะมีใครติดต่อมาหาแล้ว ไม่น่าจะปล่อยไว้นานขนาดนี้ ไม่แน่นะครับ พวกเรานั่งกลุ้ม ๆ อยู่แบบนี้ คุณเนยของคุณตาอาจจะกำลังเที่ยวกับแฟนสนุกจนลืมพวกเราแล้วก็ได้” ลลิตาพยายามคิดตาม แม้จะไม่เห็นด้วยทั้งหมดแต่ก็คิดว่าที่เขาพูดมามีความเป็นไปได้สูงเช่นกัน

“ทำไมคุณเนยไม่ยอมโทรมาบอกใครเลยล่ะคะ หรือว่าจะกลัวท่านประธานโกรธ” แต่ก็ยังมีข้อกังขาอยู่

“คุณตาอย่าเดาวกไปวนมาสิครับ ผมคิดตามจนปวดหัวไปหมดแล้ว ไม่เอาครับกินข้าวต่อดีกว่า มื้อเที่ยงคุณตาก็กินหน่อยเดียว มื้อเย็นยังจะไม่ยอมกินอีก เดี๋ยวไม่สบายจนทำงานไม่ไหวขึ้นมานี่ เป็นเรื่องแน่ ๆ เลยครับ”

ยิ้มรับด้วยความอบอุ่นใจเมื่อมีเขาคอยห่วงใยอยู่แบบนี้ สหภาพยิ้มออกมาได้เมื่อเห็นหญิงสาวจับช้อนกับส้อมตักข้าวเข้าปากอีกครั้ง จะได้ไม่เสียแรงเปล่า เพราะตัวเองยอมลงทุนชวนลลิตาออกมากินมื้อเย็นด้วยถึงสองคืนติด ๆ กันแล้ว ด้วยเหตุผลเดิม ๆ คือใช้เป็นเกราะคุ้มกันการตกเป็นผู้ต้องสงสัยนั่นเอง

แต่อันที่จริงเขาก็อยากขับรถไปดูแม่สาวเย่อหยิ่งอยู่บ้าง เพราะรู้จากป้าเอี้ยงว่าแม่คุณแทบจะไม่กินอาหารเอาเสียเลย หรือถ้ากินก็เหมือนแมวดมเท่านั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกักขังเจ้าหล่อนไว้ทำไมและนานเท่าไหน รู้แต่ว่าตอนนี้ไม่สามารถปล่อยตัวให้ออกมาทำความเดือนร้อนให้ได้เป็นแน่ และอันที่จริงให้เรื่องเป็นไปแบบนี้ก็ดีไม่น้อย เขารู้สึกสนุกไม่เบากับการได้เห็นศัตรูเป็นทุกข์ใจที่ลูกสาวสุดรักหายตัวไป



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ส.ค. 2556, 09:16:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ส.ค. 2556, 09:16:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 1447





<< พลาดท่่าให้ซาตาน   อิสระที่ต้องไขว่คว้าให้ตัวเอง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account