โอเอซิส...พิชิตรัก
นิยายกึ่งทะเลทรายเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของเจนกับอัสซิมเหมือนแมวไล่จับหนู ชิงไหวชิงพริบ ปฏิเสธความรู้สึก ปิดบังบางอย่างต่อกันเสมอ พระนางไม่ค่อยเผยความรู้สึก ออกแนวพูดต่างภาษา แต่ต้านแรงดึงดูดระหว่างกันไม่ได้ ทำให้เกิดความผูกพัน เป็นคนเก่งทั้งคู่ แล้วพยายามอ่านกันและกันตลอดเรื่อง อิอิ สู้กันจนหยดสุดท้ายกันเลยทีเดียวค่ะ แล้วก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งตามสูตรของผู้เขียนค่ะ
Tags: ทะเลทราย โจร แก้แค้น

ตอน: 06 (ครึ่งแรก)

โอเอซิส...พิชิตรัก ตอนที่ 6 (ครึ่งแรก)

เมื่อถึงห้องของริชาร์ด อัสซิมถึงได้รู้ว่า ริชาร์ด...ญาติเธอคือเด็กหนุ่มที่ร่างกายอ่อนแอเท่านั้น

“นายน้อยแห่งวอริค” เจนเข้าไปทักทายแล้วสวมกอดน้องชายไว้อย่างสนิทสนม

“ได้โปรดอย่างเรียกผมอย่างนั้นเลยพี่เจน” ริชาร์ดยิ้มให้ ก่อนจะไอเบาๆ

“ออกไปถูกฝนอีกล่ะสิ น้องรัก รู้อยู่ว่าทำให้อาทั้งสองเป็นห่วง ก็ไม่น่าจะทำ” เจนดุน้องชายเล็กน้อยอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนถาม “น้องได้รับของฝากจากพี่แล้วหรือยัง”

“ได้แล้วครับ มันเป็นเกมที่สนุกมาก” ริชาร์ดเล่าถึงความสนุกของเกมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสังเกตได้ว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องด้วย “นั่นใครเหรอครับ ปกตินอกจากพี่เจมส์แล้ว ท่านพี่ไม่ค่อยพาใครมาด้วยนี่ครับ”

“ขอโทษที่แนะนำช้าไป นี่คือเพื่อนพี่ คุณมาห์นาซ” เจนแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน

“พี่เจนไปเที่ยวตะวันออกกลางอีกแล้วเหรอครับ ผมอยากไปเที่ยวบ้าง” ริชาร์ดพูดอย่างแสนเสียดาย

“ถ้าน้องรักษาร่างกายให้แข็งแรงกว่านี้ น้องก็สามารถออกเดินทางได้” เจนพูดตามความจริง แต่เพราะวัยหนุ่มที่ซุกซน ทำให้ริชาร์ดต้องไม่สบายอยู่บ่อยครั้ง

“ถ้าผมแข็งแรง ผมจะไปที่ญี่ปุ่นเป็นที่แรกเลยครับ” ริชาร์ดเป็นฝ่ายพูดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเที่ยง เขาก็ตบท้ายด้วยการอ้อนวอนพี่สาว “ถ้าพี่เจนไปญี่ปุ่นอีก อย่าลืมซื้อเกมมาให้ผมอีกนะครับ”

“ได้สิ แต่ถึงพี่ไม่ได้ไป ถ้ามีเกมใหม่ๆ พี่ก็จะซื้อมาให้อยู่แล้วล่ะ” เจนบอกลาน้องชายแล้วออกไปจากห้อง เมื่อมาถึงห้องอาหารเห็นแม่รี่อยู่ด้วย ก็ถูกน้องสวมกอด

“คิดถึงพี่เจนเหลือเกินค่ะ” แมรี่เป็นเด็กสาววัยรุ่นที่สดใสไม่ต่างจากน้องชาย ผิดกันที่ร่างกายแข็งแรงกว่า แม้ตอนนี้จะไม่สบายก็ตาม แต่เพราะไวท์เคาน์แห่งวอริคเป็นกังวลเรื่อสุขภาพของลูกๆ เมื่อไรที่แมรี่ป่วยก็จะให้กลับมาอยู่บ้านเสมอ

“พี่ก็คิดถึงเช่นกัน ชอบของฝากของพี่ไหม” เจนนั่งลงโดยน้องสาวนั่งอยู่ข้างอาสะใภ้ และอัสซิมอยู่ข้างเธอ

“ต้องชอบอยู่แล้วล่ะค่ะ ของขวัญของพี่เจนพิเศษทุกชิ้นเลย” แมรี่บอกอย่างมีความสุข และชวนพูดคุยจนกระทั่งอาหาร

ซุปเนื้อแกะกับสันคออบ แฮมอบน้ำผึ้ง

อัสซิมเพียงเขี่ยเอาแฮมอบน้ำผึ้งออกเท่านั้น เขาถอนหายใจยาว ไม่นึกว่าทางนี้จะใส่หมูลงมาในอาหาร หากพอเจนมองแล้วก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จึงวางมือที่มืออัสซิมที่กำลังจะหั่นสันคอ

“ห้ามทานนะคะ” เจนรีบพูดทันที เงยหน้าขึ้นมองอาสะใภ้ที่มีสีหน้าสะใจอยู่ในที เธอกำมือแน่นและพยายามระงับความโกรธ

“มีอะไรเหรอ เจน” ท่านเอิร์ลแห่งวอริคถามขึ้นอย่างงุนงง

“ทุกอย่างมีเนื้อหมูเป็นส่วนผสม ฉันคิดว่าโฮเวิร์ดบอกแล้วนะคะ ว่าคุณมาห์นาซเป็นอิสลาม และตามหลักศาสนาเขาจะทานเนื้อหมูไม่ได้” เจนตักเบค่อนในซุปขึ้นมา

เนื้อสันคอก็เป็นเนื้อที่ถูกหมักจนมีสีคล้ำ แต่เจนคุ้นเคยกับอาหารดี จึงรู้ว่าเป็นเนื้อหมู

“รีแอนน์ ทำไมเธอถึงปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้ได้” ท่านเอิร์คแห่งวอริคหันไปถามภรรยา

“ฉันจะรู้ได้ยังไงคะ ในเมื่อคนที่รับเรื่องไม่ใช่ฉัน” รีแอนน์ทำไม่รู้เรื่อง

“หลานขออนุญาตพาเพื่อนไปทานอาหารเที่ยงก่อนนะคะ เดี๋ยวค่อยกลับมาคุยธุระกับท่านอาอีกที” เจนตัดสินใจในที่สุด

“ไม่ต้องพาเพื่อนของหลานไปไหนทั้งนั้น เจนกับเพื่อนไปที่ห้องหนังสือกับอา จนกว่าอาหารของเพื่อนหลานจะเสร็จแล้วกัน” ท่านเอิร์ลแห่งวอริคตัดสนิใจในทันที

“แต่มาร์คคะ” รีแอนน์พยายามค้าน

“เจนกับเพื่อนออกไปห้องหนังสือก่อน อามีเรื่องต้องคุยทำความเข้าใจกับภรรยาเสียก่อน” ท่านเอิร์ลพยักหน้ากับเอริกส์ให้พาแขกไปห้องหนังสือก่อน

เจนกับอัสซิมได้แต่เดินตามพ่อบ้านไป

ท่านเอิร์ลหันมาทางภรรยาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนบอกลูกสาว “แมรี่ ลูกยกอาหารออกไปทานบนห้องเถอะ พ่อมีเรื่องต้องคุยกับแม่ของลูก”

แมรี่ไม่เคยเห็นบิดาโกรธแบบนี้มาก่อน จึงยกอาหารออกไปจากห้องทันที

เมื่อลูกออกไปแล้ว ท่านเอิร์ลก็หันมาคุยกับภรรยาอีกครั้ง “ไม่ว่าเธอจะรู้สึกยังไงกับคนตะวันออกกลาง แต่เธอต้องไม่ทำแบบนี้กับแขกของฉันหรือญาติของฉันอีกแม้แต่ครั้งเดียว โดยเฉพาะกับเจน เธอไม่รู้หรือยังไงว่าที่เรายังคงอยู่ได้ เพราะความช่วยเหลือจากเจน ถ้าไม่มีเงินจากเจนแล้วล่ะก็ เธออย่าหวังว่าจะมีอาหารทานแม้แต่มื้อเดียว”

รีแอนน์ฟังคำพูดของสามีอย่างงุนงง “หมายความว่ายังไงคะ”

“ฉันรู้ว่าพี่ชายเธอเสียชีวิตที่ตะวันออกกลาง แต่เธอก็ไม่ควรเอาทุกอย่างไปลงที่หลานสาวของฉัน เจนเป็นหญิงสาวที่ดี ถึงแม้ว่าแม่ของเธอจะเป็นผู้หญิงเปอร์เซียก็ตาม เธอไม่เห็นหรือยังไงว่าท่านพี่ของฉันต้องสูญเสียภรรยาไป และเจนต้องเสียคู่หมั้นของเธอที่ตะวันออกกลางเช่นเดียวกับพี่ชายเธอ แทนที่เธอจะเห็นใจเขา เธอกลับทำเหมือนเขาเป็นคนยิงพี่ชายเธอ” ท่านเอิร์ลพูดอย่างสะกลั้นอารมณ์

“มาร์ค!!!” รีแอนน์ตกใจ

“หลานสาวฉันคนนี้ยื่นมือมาช่วยฉันในยามที่เราลำบาก เธอไม่รู้อะไรก็อย่าไปตั้งข้อรังเกียจเจนอีก ทานมื้อเที่ยงของเธอให้เสร็จก็แล้วกัน” ท่านเอิร์ลแห่งวอริคเดินออกไปจากห้องแล้วข่มใจอย่างมากที่จะไม่ทำให้ทุกอย่างมันเลวร้ากว่านี้

เมื่อเขามาถึงห้องหนังสือ เขาก็รีบขอโทษเพื่อนของหลานสาว “ขอโทษแทนภรรยาฉันด้วย บางครั้งเขาก็เลินเล่อเสียเหลือเกิน คงลืมกำชับอีกครั้ง ฉันเสียใจจริงๆ”

“ไม่เป็นไรมิได้ครับ ท่านเอิร์ล บางคนไม่ทราบ ผมก็ไม่ถือสาอะไร” อัสซิมรับรู้ได้ว่าท่านเอิร์ลแห่งวอริคเสียหน้าเพราะภรรยาเขาแค่ไหน

“ฉันกลัวว่าคุณจะเข้าใจผิดคิดว่านี่เป็นมารยาทของปราสาทวอริค แต่มันไม่ใช่เลย ฉันจึงต้องอธิบายให้เข้าใจ คิดว่าคงไม่นานอาหารก็คงพร้อม” ท่านเอิร์ลแห่งวอริคค่อยเบาใจที่แขกของหลานสาวไม่ถือสา

“หลานก็ผิดเองค่ะ ที่พาเพื่อนมาด้วย ตอนแรกตั้งใจจะไปดาฟรานช์คนเดียว แต่เพื่อนเขาตั้งใจมาเยี่ยม หลานก็เลยไม่อยากขัด แล้วก็ไม่อยากเปลี่ยนแผนที่วางไว้” เจนอธิบายความจริงเพียงครึ่งเดียว หากไม่ใช่เพราะต้องหนีหน้าจอร์จ เธอก็คงไม่มาดาฟรานช์ในวันนี้

“อาว่าเรามาจัดการธุระให้เสร็จระหว่างรออาหารดีไหม” ท่านเอิร์ลแห่งวอริคให้คนพาอัสซิมไปอีกห้อง “เชิญคุณมาห์นาซไปที่ห้องนั่งเล่นก่อน ที่ห้องนั้นก็มีหนังสือให้คุณได้อ่านรอเวลา

เจนเรียกเอมม่าเข้ามาจัดการงานที่คลั่งค้าง แม้เรื่องแบบนี้จะเป็นเรื่องระหว่างอาหลาน แต่เพราะครั้งนี้เธอหยิบยื่นเงินจำนวนมาก จึงต้องมีการทำสัญญาเอาไว้

“ท่านอาแน่ใจเหรอคะ ว่าจะเอาปราสาทวอริคมาจำนอง มันมีมูลค่ามากกว่าที่ท่านอาต้องการ” เจนถามให้แน่ใจอีกครั้ง เขาให้ยืมเงินแบบไม่ต้องกู้หรือค้ำประกันได้อยู่แล้ว

“เงินหนึ่งล้านปอนด์เป็นเงินที่มาก เกินกว่าจะขอหยิบยืม โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันนะ หลาน” ท่านเอิร์ลแห่งวอริคชี้แจงอย่างใจเย็น

“แต่ปราสาทแห่งนี้ก็เป็นสมบัติที่ควรเก็บรักษาไว้นะคะ” เจนไม่อยากให้อานำสมบัติชิ้นนี้มาจำนองกับเธอเท่าไรนัก

“อาเชื่อใจหลาน และปราสาทหลังนี้ก็เป็นอสังหาริมทรัพย์ชิ้นเดียวที่มีมูลค่ามากเพียงนั้น” ท่านเอิร์ลแทบไม่เหลืออะไรนอกจากปราสาทแห่งนี้ และไม่กล้าไปนำเอาเครื่องเพชรมาให้ เพราะเกรงว่าภรรยาจะรู้เข้า

“อย่างนี้ดีกว่าไหมคะ ท่านอาขายแบ่งขายหุ้นในบริษัทชาให้หลานแทนดีไหมคะ” เจนพยายามหาทางออกให้กับอา

“หลานรัก ขณะนี้สถานการณ์บริษัทวอริคไม่สู้ดีนัก เกรงว่าหุ้นคงไม่มีมูลค่ามากพอ” ท่านเอิร์ลย่อมรู้ว่าตอนนี้บริษัทตกต่ำแค่ไหน ไร่ชาก็ติดจำนองกับญาติอีกคน ตอนนี้เขาแทบขยับตัวไม่ได้แล้ว

“อย่างนี้เถอะค่ะ ท่านอาบอกเล่าความจริงกับหลาน แล้วหลานจะช่วยคิดอีกที” เจนพอรู้ว่าตอนนี้ไร่ชาติดจำนองกับบารอนเนสแห่งแอ๊กเซล ซึ่งก็คือป้าอีกคนของเธอ และอีกฝ่ายไม่ให้เงินแก่อาเธอแล้ว เธอจึงยื่นมือเข้ามาช่วย

ท่านเอิร์ลถอนหายใจแล้วเล่าความจริงให้ฟัง ความที่เขาไว้ใจเพื่อน เพื่อนจึงเอาเงินออกจากบริษัทจนทำให้บริษัทเข้าสู่ภาวะขาดดุล ทั้งไร่ชาก็มีปัญหาไม่สามารถผลิตชาที่มีคุณภาพได้

“หลานคงไม่ลืมนะว่าอาติดเงินหลานอีกห้าแสนปอนด์จากสองครั้งก่อน” ท่านเอิร์ลย้ำเตือนหลานสาว

เจนส่ายหน้าช้าๆ “ท่านอาติดหนี้ท่านป้าเท่าไรคะ”

“เจ็ดแสนปอนด์” ท่านเอิร์ลบอกอย่างไม่อาย เพราะตอนนี้เขาไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว “ที่อายืมเงินหลานเพราะหุ้นส่วนจะถอนหุ้นและอาต้องซื้อไว้เพื่อรักษาบริษัท”

เจนถอนหายใจยาว อาเธอซื่อเกินไปและบริหารงานบริษัทไม่เป็น

“อย่างนี้เถอะค่ะ บริษัทติดหนี้เป็นเงินเท่าไร ท่านอาเอาที่หลานก่อน หุ้นที่เขาจะถอน หลานจะรับซื้อไว้เอง ยกเรื่องบริหารงานบริษัทไว้ให้หลาน แล้วท่านอาเดินทางไปแก้ปัญหาไร่ชาให้เรียบร้อย หลานเชื่อว่าท่านอาทำได้ เพราะเป็นสิ่งที่ท่านอาถนัด” เจนแก้ปัญหาให้อาจนเสร็จ

“แต่อาอยากให้หลานรับปราสาทนี้ไว้จำนองนะ” ท่านเอิร์ลแห่งวอริคบอกหลานสาว

“คงเป็นเช่นนั้นค่ะ นอกจากปราสาทนี้แล้ว ท่านอาต้องนำโฉนดของไร่ชามาให้หลานด้วย ส่วนเงินที่ท่านอายืมหลานครั้งนี้ ท่านอาเก็บไว้เป็นทุนหมุนเวียนแทนก็แล้วกันค่ะ หลานจะรับซื้อหุ้นที่เขาจะถอนออกไปเอง ส่วนในอนาคตถ้าท่านอาหาเงินมาคืนหลานได้ จะรับบริษัทกลับไปบริหารงานเอง หลานก็ยินดี” เจนมองดูแล้วคิดว่าอาตนคงไม่สามารถบริหารงานได้แน่นอน จึงรับมาเพื่อแก้ไขวางระบบให้ดีแล้วปล่อยให้ระบบนั้นเดินเองได้

ท่านเอิร์ลแห่งวอริคกุมมือหลานสาวอย่างซาบซึ้งใจ “อาไม่รู้จะขอบใจหลานยังไงดี”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ก็เราเป็นญาติกันนี่คะ” เจนหันไปเรียกสัญญาและบันทึกข้อความข้อตกลงจากเอมม่า ซึ่งเขียนขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร ก่อนพิมพ์ออกจากเครื่องพิมพ์พกพาที่เอมม่าเตรียมมาแล้ว

เจนเซ็นเช็คเพิ่มอีกใบให้อานำโฉนดของไร่ชามาให้เธอ “นี่ค่ะ เงินเจ็ดแสนปอนด์พร้อมดอกเบี้ย”

ดูเหมือนทั้งสองจะทำงานกันอย่างรวดเร็ว เซ็นชื่อบนเอกสารเรียบร้อยเพื่อป้องกันความผิดพลาด ปัญหาที่ไร่ชาเกิดขึ้นเพราะท่านเอิร์ลไม่มีเวลาไปดูแล จากที่ต้องดูแลงานบริหารบริษัท

พ่อบ้านเข้ามาเซ็นเป็นพยานการทำสัญญาครั้งนี้ แล้วก็เชิญทุกคนไปทานอาหารเที่ยงเมื่อพร้อม

“ขอโทษคุณมาห์นาซด้วยที่คุยธุระกันนานไปหน่อย” ท่านเอิร์ลแห่งวอริคมีสีหน้าโล่งใจมากขึ้น เมื่อทุกอย่างสามารถแก้ปัญหาได้ดี

อัสซิมสังเกตท่าทีที่ดีขึ้นของท่านเอิร์ลเจ้าของบ้านก็รู้สึกประหลาดใจ เมื่อทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว ทั้งสองก็ลาท่านเอิร์ลเพื่อเดินทางต่อ

“คุณคงไม่ถือสาเรื่องมื้อเที่ยงนะคะ” เจนพูดขึ้นในรถขณะเดินทางต่อ

“ไม่หรอก เป็นเรื่องที่เข้าใจได้” อัสซิมไม่ใส่ใจนัก ตั้งแต่เกิดเหตุเครื่องบินถล่มตึกเวิร์ลเทรด ไม่ว่าคนชาติเขาไปที่ไหน ก็ดูเหมือนจะกลายเป็นผู้ก่อการร้ายไปแล้ว “แค่แปลกที่ดูเหมือนอาสะใภ้ของคุณจะไม่ชอบคุณด้วย”

“คงเพราะฉันหน้าตาไปทางเปอร์เซีย ท่านก็เลยเหมารวมด้วย คืออย่างนี้ค่ะ พี่ชายท่านเป็นทหาร และถูกยิงเสียชีวิตที่อิรักค่ะ” เจนอธิบายความ

“ทำไมเขาถึงส่งเชื้อพระวงศ์ไปในสนามรบขนาดนั้นด้วย” อัสซิมถามอย่างสงสัย

“เพราะเดิมทีอาสะใภ้ของฉันเป็นสามัญชนค่ะ พี่ชายเป็นทหารเลยรู้จักกับอาฉัน” เจนอธิบายความ

“แล้วคู่หมั้นคุณล่ะ ทำไมถึงไปอยู่ในสนามรบ” อัสซิมถามเธออย่างสงสัย

“เขาอาสาไปค่ะ ไม่มีใครอยากจะไป เขาเลยอาสาไปเอง” เจนอธิบายความ นึกรู้สึกผิดกับคู่หมั้นที่ตายไปอยู่ไม่น้อย แต่ชีวิตต้องเดินต่อไป

“คุณไม่เกลียดชาวตะวันออกกลางเหรอ” อัสซิมถามแล้วต้องแปลกใจที่เธอหัวเราะ

“มันก็เท่ากับว่าฉันเกลียดตัวเองน่ะสิคะ อีกอย่างฉันจะเกลียดเฉพาะคน ไม่เกลียดถึงชาติพันธุ์และวงศ์ตระกูลหรอกค่ะ แค้นใครก็แก้แค้นคนนั้น ถ้าหาตัวเจอ ฉันก็จะแก้แค้นให้สาสม ถ้าหาไม่เจอฉันก็ปล่อยไป คนที่ฆ่าเจมส์ก็ตายไปแล้วล่ะค่ะ ฉันเลยไม่ต้องแก้แค้นใครอีก” เจนอธิบายความด้วยน้ำเสียงราบเรียบให้ตอนท้าย

“คุณรู้ได้ยังไง” อัสซิมถามอย่างสงสัย

“เอาเป็นว่าเขาตายไปแล้วก็แล้วกันค่ะ” เจนพูดอย่างมั่นใจ แล้วอ่านเอกสารในแท็ปเลตต่อ

อัสซิมฟังน้ำเสียงเชื่อมั่นของเธอแล้วงุนงงสงสัย หากเขาคงไม่สามารถหาคำตอบได้ในเวลานี้ เพราะไม่อยากตอบและหันไปดูงานของเธอต่ออย่างไม่ไยดีนัก

เอมม่าขับรถไปเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าแปลกใจนัก คาลิมเริ่มเข้าใจดีว่า อะไรที่ดึงดูดนายเขาให้เข้าหาท่านหญิงคนนี้ เป็นเพราะบางสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ในด้านสว่างของเธอนั่นเอง บางสิ่งที่แอบซ่อนอยู่อย่างเงียบๆ

**************************
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
มาช้าไปนิดดีกว่าไม่มาค่า
พรุ่งนี้พบกับอีกครึ่งตอนนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยาย

พี่ตุ้งแช่ --- เธอแค่ปวดหัวกับความบ้าของตัวเองล่ะค่ะ ยาแก้ปวดก็เอาอยู่
คุณ jink --- ใช่ค่า มีส่วนของโรงแรมที่เป้นตึกและก็มีส่วนที่เป็นกระท่อมจัดสัดส่วนให้พักด้วยค่ะ
คุณ konhin --- ตอนนี้ใจห่างกันอยู่ค่ะ แต่เมือ่ไรตัวไกลกัน ใจจะใกล้กันค่ะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ส.ค. 2556, 19:09:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ส.ค. 2556, 19:09:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1345





<< 05 (ครึ่งหลัง)   06 (ครึ่งหลัง) >>
ตุ๊งแช่ 20 ส.ค. 2556, 19:29:00 น.
มาไว ทำไมรู้สึกอย่างนั้นหว่า


อ๋อ เพราะได้อ่าน สองครั้งในหนึ่งสัปดาห์นี่เอง



konhin 20 ส.ค. 2556, 20:45:22 น.
บอกไม่ถูก แบบว่าปัญหาทางญาติแบบนี้มีกันทุกบ้านหรือไงนะ เครียด


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account