จะเก็บไว้ในใจจนนิรันดร์
ถ้าไม่มีงานสัมมนานั้นอังศุมาลินคงไม่นึกถึงเขาคนนั้นอีก ทั้ง ๆ ที่หลายปีที่ผ่านมาเธอลืมเขาไปแล้วแท้ ๆ เขาที่เธอแอบรักมาตั้งแต่เรียนมัธยม เขาที่ไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง และเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
Tags: รักสามเศร้า / สับสน / วุ่นวาย

ตอน: ตอนที่ 7 ต่อกลอน

7 ต่อกลอน

พัฒนากรนอนอยู่โรงพยาบาลประมาณสองอาทิตย์ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของอังศุมาลินจะมาหาเขาอีกเลย หรือแค่โทรศัพท์ก็ไม่มี จนเขาออกจากโรงพยาบาลมารักษาตัวที่บ้านอีกสองอาทิตย์แล้ว หญิงสาวก็ไม่แม้จะโทรหาเขา

“แม่ไม่เห็นหนูคนนั้นมาอีกเลยลูก ตกลงลูกไม่ได้สนิทกับหนูคนนั้นเหรอ”

ในขณะที่ทุกคนในครอบครัวอยู่รับประทานอาหารกันพร้อมหน้า ประกอบไปด้วยกรุงไทย พรรณณี พัฒนากร พฤตินัย และญาดา ที่เป็นพี่ชายและหลานสาวของพัฒนากร ผู้เป็นแม่เลยถือโอกาสถามหาอังศุมาลิน

“ครับ เราไม่ค่อยสนิทกัน เคยเรียนมัธยมด้วยกันมาหกปีแล้วเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย”

“หนูคนนั้นเคยเรียนห้องเดียวกับแกเหรอ ถึงว่าเรียนพ่อว่าอาจารย์ แต่พ่อไม่คุ้นหน้าเลยนะ”

“สมัยเรียนเราก็ไม่ได้สนิทกันหรอกครับ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยพูดกันรึเปล่า”

“แต่แม่เห็นนะว่าลูกชอบเขา แอบชอบเขามาตั้งแต่สมัยเรียนรึเปล่า”

พรรณณีมองจับผิดลูกชาย พัฒนากรยิ้มแห้ง

“อาพีมมีแฟนใหม่อีกแล้วเหรอคะ”

ญาดาหลานสาววันสิบสองที่ฟังอยู่นานถามขึ้น

“เออ...นั้นสิ แกเพิ่งเลิกกับเบบี้ไปสองเดือนเองไม่ใช่เหรอ ไหนบอกว่ารักมากแล้วทำไมถึงได้แฟนไวจังวะ”

พฤตินัยหมายถึงแฟนคนเก่าของพัฒนากรที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมอหกหลังจากที่พัฒนากรเลิกกับแฟนคนแรก

“ยังพี่ดรีม คนที่แม่หมายถึงเธอมีแฟนแล้ว”

“เซ็งว่ะกินข้าวดีกว่า ใยไหมลูกรีบทานนะพ่อจะไปส่งที่โรงเรียน”

“ค่ะคุณพ่อ”

พัฒนากรมองพี่ชายและหลานสาวก็อดอมยิ้มไม่ได้ เพราะญาดานี่แหละที่ทำให้พี่ชายตัวดีกลับตัวกลับใจเลิกเที่ยว เลิกเกเร กลับมาเป็นคนดี จะว่าไปเขาก็อยากมีลูกแล้วเหมือนกัน

จริง ๆ แล้วเขาเองก็กำลังจะของแฟนเก่าแต่งงานอยู่ แต่มันก็สายเกินไปเมื่อเธอรอเขาไม่ไหว

หลังจากทานอาหารเสร็จพัฒนากรก็เดินเรื่อยเปื่อยมานั่งเล่นในสวน

“เดียงแบบนี้ลำบากจริง ๆ”

บ่นแล้วก็ค่อย ๆ ขยับเก้าอี้มานั่ง และบังเอิญว่าตรงนี้ตรงกับห้องเก็บขอพอดี

“จริงสินะ ของสมัยเรียนที่ขนมาจากบ้านโน้นอยู่ในนี้สิ”

ชายหนุ่มเขย่งขาไปเปิดประตูห้องเก็บของ

“แครก ๆ”

คงเป็นเพราะไม่มีใครใช้ห้องนี้นานฝุ่นเลยเกาะเต็มไปหมด ชายหนุ่มเดินเข้าไปจนถึงมุมในสุด แล้วมองไปรอบห้อง ที่นี่เก็บทุกอย่างขอเขาไว้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกีต้าร์ตัวแรก ลูกฟุตบอล ลูกบาสเกตบอล รองเท้ากีฬา มอเตอร์ไซค์

ชายหนุ่มมองไปจนถึงกล่องที่เขียนว่ามัธยม เขาเลือกที่จะเปิดกล่องนี้เป็นกล่องแรก ของที่อยู่ข้างในเป็นดอกไม้และของขวัญที่เขาได้ในวันจบการศึกษาตอนมอปลาย หนังสือของโรงเรียนเล่นสุดท้ายที่มีรูปของนักเรียนห้องเขาอยู่

เขามองหาไปที่รูปของอังศุมาลินที่นั่งอยู่แถวหน้า รูปนี้เธอไม่ได้ใส่แว่น แม้จะไม่ได้ดูอ้วนมาก แต่ก็ถือว่าอ้วนอยู่ดีในสายตาเขา หน้าตาของหญิงสาวก็ดูบ้าน ๆ ไม่ได้น่ารักเหมือนตอนนี้

“คงไม่แปลกหรอกที่เธอจะคิดว่าเราชอบเธอเพราะรูปลักษณ์ภายนอก แต่ถ้าเราจะบอกเธอว่าเราเองก็รู้สึกดีกับเธออยู่เหมือนกัน แต่เป็นเพราะเรามันโง่ที่กลัวว่าจะถูกเพื่อนหัวเราะเยาะ ที่เธอไม่ได้สวยหรือน่ารักเหมือนแฟนพวกมัน เธอยังพอจะฟังเราไหม”

เขาลื้อจนไปเจอกับรูปเก่า ๆ ชายหนุ่มแยกรูปที่มีอังศุมาลินออกมาจากรูปอื่น ๆ เขานึกเสียดายที่มีรูปเธออยู่ไม่กี่ใบ รูปทั้งมากก็ล้วนเป็นรูปในห้องที่ถ่ายร่วมกัน

“แฟ้มนี้ของมอสี่นี่”

ชายหนุ่มหยิบมันมาเปิดดู จนไปถึงกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีคำกลอน

“แสงสีทองทอฟากฟ้าส่องใจ ฝันสลายใจดับระงับแสง เพียงชั่วคู่ชั่วยามแม้ไม่แรง แต่นั้นคือแสงแห่งอังศุมาลี ได้การล่ะ”

ชายหนุ่มรีบเก็บของที่ไม่ต้องการใส่ลงไปในกล่องตามเดิมและหยิบของที่ต้องการเดินกลับเข้าไปในบ้าน เดินไปเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเข้าอินเตอร์เน็ต ไปที่เฟสบุ๊ค

“ทำไมมันเยอะจังว่ะ”

พอเขาคลิกไปที่เพื่อนที่ไม่ได้รับ ก็เจอรายชื่อเป็นร้อย เขาจำได้ว่าเคยเห็นชื่อของอังศุมาลินของเขาเป็นเพื่อน แต่เขายังไม่ได้รับ

“เจอแล้ว”

ชายหนุ่มจัดการยืนยันรับอังศุมาลินเป็นเพื่อน แล้วก็ถึงขั้นตอนต่อไป



ที่บ้านของอังศุมาลิน หญิงสาวนั่งสมองตันอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ จะเป็นเดือนแล้วที่เธอกลับมาอยู่บ้าน มานั่งเขียนงานนิยาย แต่จนแล้วจนรอดก็เขียนไม่ออกสักตัว

เธอจึงเลือกที่จะเข้ามาดูความเคลื่อนไหวในเฟสบุ๊คที่มีตัวขึ้นเตือนมาสิบกว่ารายการ

“ชวนเล่นเกมตลอด นี่มัน”

รายการหนึ่งเขียนว่า พัฒนากรเขายืนยับรับคุณเป็นเพื่อนแล้ว พร้อมกับส่งรูปมาให้

“แสงสีทองทอฟากฟ้าส่งใจ ฝันสลายใจดับระงับแสง เพียงชั่วคู่ชั่วยามแม้ไม่แรง แต่นั้นคือแสงแห่งอังศุมาลี กลอนในตอนนั้นนี่”

อังศุมาลินจำได้ในทันทีว่ากลอนที่อาจารย์สอนภาษาไทยสมัยมอสี่สั่งให้แต่งกลอนไปส่ง และกลอนนี้ก็คือกลอนที่พัฒนากรแต่งแถมยังเป็นกระดาษแผ่นเดิมอีก

‘ครูจะเอากลอนที่เพื่อน ๆ ส่งมาอ่านให้ฟังนะครับ’

อาจารย์หนุ่มเอากระดาษที่นักเรียนขึ้นวางบนแท่นขยายภาพ จนมาถึงแผ่นงานของพัฒนากร

แสงสีทองทอฟากฟ้าส่องใจ ฝันสลายใจดับระงับแสง
เพียงชั่วคู่ชั่วยามแม้ไม่แรง แต่นั้นคือแสงแห่งอังศุมาลี

‘พีมเอาชื่อเจ้าหญิงกบมาแต่งด้วย’

ดอลลาร์เพื่อนตัวแสบคนเดิมตะโกนออกมา อาจารย์หันมามองอย่างสนใจ อังศุมาลินใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ก็นั้นมันชื่อเธอจริง ๆ ด้วย
‘ใครชื่ออังศุมาลี’

อังศุมาลินไม่มีทางเลือกเมื่ออาจารย์เรียกชื่อเธอ เธอเลยต้องลุกขึ้นยืน

‘หนูค่ะ’

‘พีมนี่แฟนเธอเหรอ’

ไม่มีคำตอบใด ๆ มีแต่เสียงโห่ร้องของเพื่อน ๆ ในห้อง พัฒนากรเองก็ได้แต่ยิ้ม อังศุมาลินอายจนทำตัวไม่ถูก

‘เอ่อ...ไม่ใช่ค่ะ แฟนพีมไม่ใช่หนูแต่เป็นคนอื่น...เอาเป็นว่าไม่ใช่หนูค่ะ’

ในตอนนั้นเธอคงไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่กำลังยิ้มต้องหุบยิ้มลงทันที ตรงลงว่าเธอรักเราจริงไหม เด็กหนุ่มแอบถามตัวเองอยู่ในใจ


“เขาต้องการอะไร”

หญิงสาวพูดกับตัวเองก่อนจะเลื่อนสายตามาอ่านความคิดเห็นแรกที่เป็นของพัฒนากรเอง

หนึ่งดวงใจมอบให้แค่นวลน้อง แม้พี่ต้องข่มใจไม่ไปหา
สุริยาเลือนลับพาดับแสง น้องอย่าแกล้งให้พี่ต้องเสียใจ

และก็มีความคิดเห็นอีกมากมายลงมา แต่งต่อกันไปหลายแบบ อังศุมาลินตัดสินใจพิมพ์อักษรลงไป

เช้าวันใหม่เห็นแสงทองอยู่เบื้องหน้า โธ่พี่จ๋าช่างน่าเห็นใจยิ่ง
น้องเคยรักด้วยใจภัคสลักจริง แสนเจ็บยิ่งมิได้รักมาตอบแทน

เสียงเตือนบอกถึงมีคนถูกใจข้อความของเธอซึ่งของเป็นพัฒนากร เพียงแค่นี้เธอก็รู้แล้วว่าชายหนุ่มคงต้องการส่งสารถึงเธอจริง ๆ เพราะความคิดเห็นอื่นไม่ได้มีชายหนุ่มกดถูกใจเลย

ทิ้งไว้ชั่วอึดใจก็มีกลอนอีกหลายบทเขียนลงมา อังศุมาลินไม่สนใจข้อความของคนอื่นรอแค่เพียงความคิดเห็นของพัฒนากร และเขาก็เขียนจริง ๆ

โอ้น้องจ๋าพี่ว่าเข้าใจผิด ใยน้องคิดเช่นนั้นให้พี่เศร้า
หนึ่งดวงใจที่มอบให้ใช่ไม่เอา ทุกข์ของเราคือรักยิ่งนักเอย

“รักยิ่งนัก เธอเคยรักเราเหรอ ไม่เป็นไปไม่ได้ หนึ่งดวงใจที่มอบให้ใช่ไม่เอา แน่เหรอ แต่เธอก็เปลี่ยนอดีตไม่ได้หรอก”

หญิงสาวพูดทั้งน้ำตาพิมพ์บทกลอนที่เธอคิดว่าจะเป็นบทสุดท้ายลงไป

น้องรู้แล้วว่าใจพี่มีต่อน้อง แต่น้องต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า
ขอบคุณดวงใจรักด้วยเมตตา กรุณาอย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย

อังศุมาลินกดส่งไปแล้วเปิดหน้าจอไปที่หน้าของพัฒนากร เธอตัดสินใจกดเลิกเป็นเพื่อนในทันที

“แล้วเราคงจะไม่ต้องพบเจอกันอีกนะ”




พัฒนากรมองกลอนที่อังศุมาลินส่งมาให้แล้วก็ไปไม่ถูก ไม่คิดว่าจะถูกหญิงสาวตัดสัมพันธ์เร็วแบบนี้

“พีมทำอะไรอยู่พี่ซื้อก๋วยเตี๋ยวมาฝาก เจ้าหน้าปากซอยที่แกชอบไง”

พฤตินัยเดินเอาถุงก๋วยเตี๋ยวมาวางไว้ที่ข้างน้องชาย แล้วก็หันไปเห็นรูปที่น้อยชายเพิ่งค้นมา

“คิดยังไงเอารูปเก่า ๆ มาดูว่ะ จะว่าไปก็คิดถึงบ้านที่เมืองกาจน์วะ”

พอฟังพี่ชายพูดจบพัฒนากรก็ยิ้มออกมา

“กลับไปเที่ยวไหมพี่ดรีม”

“แกเพิ่งไปมาไม่ใช่เหรอ”

“ไม่เหมือนกันไง ผมไปพี่ไม่ได้ไป ไปด้วยกันนะวันนี้เลย”

“ฉันก็ไม่ได้จะคิดถึงขนาดนั้น”

“ไปเถอะนะ”

“มีอะไรกันแน่”

พอโดนคะยั้นคะยอมากเข้าพฤตินัยก็เริ่มแปลกใจ ไม่บ่อยนักที่จะเห็นน้องชายเป็นแบบนี้

“เอาเถอะพี่ดรีม พี่รีบไปเก็บของเลย เก็บเสื้อผ้าให้ผมด้วย”

สั่งเสร็จก็ทำท่าจะลุกขึ้น พฤตินัยรีบช่วยพยุง

“จะเดินไปไหนอีก”

“ไปหาของ พี่รีบไปเก็บของเถอะ”

พูดจบก็รีบเขย่งเดินออกไปนอกบ้าน

“เป็นบ้าอะไรของมันวะ แล้วเปิดอะไรทิ้งไวเนี่ย นี่มันกลอนที่ไอ้พีมขอให้ช่วยแต่งนี่หว่า”

พฤตินัยเห็นกลอนแล้วพอจะนึกเรื่องเก่า ๆ ออก วันนั้นเป็นวันที่พี่น้องนั่งแข่งเกมกันอยู่ หลังจากที่เจ้าเพื่อน ๆ ของน้องชายระเห็จกลับไปหมดแล้ว

‘พี่ดรีมอังศุมาลินนี่แปลว่าอะไร’

‘แปลว่าฮิเดะโก๊ะไง’

‘หา!’

พัฒนากรวางจอยเกมในมือแล้วหันไปมองหน้าพี่ชาย

‘ไม่เคยดูคู่กรรมเหรอ แม่ชอบดูจะตาย โกโบริ กับ อังศุมาลิน ไอ้โกโบริมันเรียกนางเอกว่าฮิเดะโก๊ะ แล้วไอ้โกโบริก็ถูกระเบิดตายตอนจบ เพราะไปเห็นมีรักกำลังสวีทวีดวิ้วกับแฟนเก่า ที่ชื่อวนัสน่ะ’

‘อะไรของพี่วะ ไปดูพจนานุกรมเองก็ได้’

‘เดี๋ยวสิ’พอเห็นน้องชายไม่เล่นด้วยพี่ชายก็เลิกเล่น ‘อังศุมาลิน แปลว่า ดวงอาทิตย์ แต่จริง ๆ มันต้องเขียนว่าอังศุมาลีนะ’
‘อังศุมาลีเหรอ’

น้อยชายยิ้มแล้วเอามาจดใส่สมุด

‘แกถามไปทำไมวะ’

‘อาจารย์เขาให้แต่งกลอนไง ก็ผมดูคู่กรรมของแม่นั้นแหละแต่จำไม่ได้ว่ามันแปลว่าอะไร’

พี่ชายพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะหันไปเปลี่ยนเกมใหม่เล่นหลังจากที่เจ้าน้องชายเดินขึ้นห้องไป

‘เฮ้ย ไอ้พีมมันบ้าดูแต่การ์ตูนไม่ใช่เหรอวะ?’



พฤตินัยเลิกคิดแล้วจะเอาถุงก๋วยเตี๋ยวไปไว้ในครัวแต่ถุงก็ไปชนเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่ง มันบังเอิญว่าเป็นหนังสือของโรงเรียนเก่าแล้วก็เปิดไปหน้าที่พ่อน้องชายถ่ายรูปหมู่พอดี

พฤตินัยหยิบขึ้นมาดู อ่านชื่อของนักเรียนที่เขียนไว้ใต้ภาพ

“อังศุมาลิน คนไหนวะ ยัยอ้วนนี่เหรอ”

เขาก็ค่อย ๆ เลื่อนสายตามาที่จอคอมพิวเตอร์ อ่านกลอนใหม่จนบังเอิญได้มาเห็นความคิดเห็นของอังศุมาลินเข้า

“กรุณาอย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย คนเดียวกันเหรอ หน้าไม่คล้ายเลย”

พฤตินัยดูรูปของอังศุมาลินเปรียบเทียบกันแล้วรู้สึกงง

ติ้งต๋อง




เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ส.ค. 2556, 09:51:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ส.ค. 2556, 09:51:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 1205





<< บทที่6 ถ้าเราจำเป็นต้องอยู่ใกล้ ๆ เขา   ตอนที่ 8 ฝากดูแล >>
เพียงใจกล้า 22 ส.ค. 2556, 10:04:43 น.
เสียงกรี้งบ้านนี้ฟังทะแม่ง ๆ จัง เนอะ {เขียนแล้วเขียนเลย}


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account