ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: แก้วบางแตกเป็นเสี่ยงๆ

“อือออออออออ”
เล็บคมจิกไปกับต้นแขนเขาอย่างแรง รู้สึกเจ็บไปแทบทั้งร่าง เมื่อสิ่งที่เขาพยายามหยิบยื่นให้เป็นครั้งแรกในชีวิตสาว ร่างบางแข็งเกร็งเพราะความเจ็บอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จนอีกฝ่ายต้องหยุดการกระทำไว้ชั่วคราว ด้วยรับรู้ว่าหญิงสาวกำลังรู้สึกยังไง จากสองแขนเรียวรัดร่างเขาแน่น เมื่อเขาทาบทับลงไปหา ประหนึ่งจะต้องหาที่ยึดเหนี่ยวยามบาดเจ็บก็ไม่ปาน
“คุณนี่ช่างเป็นลูกไม้ที่หล่นไกลต้นจังเลยนะ อุตส่าห์ถนอมตัวมาได้จนป่านนี้ ผมคิดว่าแม่คุณจะเที่ยวเอาลูกสาวสวยไปประเคนใครต่อใครเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าซะอีก ...เฮ้อ...ไม่น่าเชื่อว่าจะต้องมาเสียให้ผมฟรี ๆ เลย แต่ก็อย่าเสียใจไปนะ รับรองผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ ลีลาผมนี่เด็ดอย่าบอกใครเชียว ไม่ว่าสาวไทยหรือเทศแทบจะเรียงแถวมาให้ผมด้วยซ้ำ”
แม้ในใจจะปลื้มสักแค่ไหนที่ได้เป็นคนแรกของเธอ แต่ความเกลียดชังในเลือดศัตรูมีมากมายจนต้องหาคำพูดเจ็บแสบเอามาเย้ยหยันให้อีกคนเจ็บใจเล่น เพราะเขาช่างสะใจจนเกินจะบรรยายเป็นคำพูดออกมา
“หยาบ ปล่อยฉันนะ โอ๊ย! ฉันเกลียดคุณ ได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียดคุณ”
น้ำตาไหลนองหน้าอย่างยากจะหักห้ามใจได้ ด้วยเจ็บทางกายเมื่อถูกเขาย่ำยี ไหนจะเจ็บใจกับน้ำคำด่าทอ เหยียบหยามจากปากเขาอีก มีคำพูดหมื่นล้านคำด่าผุดขึ้นในหัว แต่ป่วยการจะเปล่งออกมาให้เขาได้ยิน จึงเลือกที่จะนอนนิ่งปล่อยเนื้อตัวให้เขาเชยชม และปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นเครื่องปลอบประโลมจิตใจเพียงแค่นั้น
หัวใจอันแข็งกระด้างของเขาทรุดวู๊บลงแทบจะทันที ที่เห็นหยดใส ๆ ไหลอาบสองแก้ม จูบนุ่มนวลแผ่วเบามอบให้เป็นการปลอบขวัญ และดึงความสนใจให้ลืมจากความเจ็บ ขณะที่เขาค่อย ๆ เคลื่อนกายดำดิ่งลงไปช้า ๆ จนสมใจปรารถนา แม้อีกคนจะยังคงเจ็บปวด แต่ความเป็นชายช่างเรียกร้องให้เขาเดินหน้าต่ออย่างยากจะห้ามใจได้ ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกสุขและอิ่มเอมใจจากเรือนกายสาวได้ขนาดนี้ แต่เดาว่าคงจะเป็นเพราะความสาสมใจเมื่อได้ย่ำยีลูกศัตรูนั่นเอง
และเมื่อคิดถึงศัตรูความเจ็บแค้น เกลียดชัง มีให้สองคนมากเท่าไหร่ ก็ถูกถ่ายทอดไปหาอีกคนมากเท่านั้น โดยไม่ได้สนใจว่าเจ้าของร่างจะเจ็บปวดจากการกระทำของเขาสักแค่ไหน กายกำยำแข็งเกร็งไปทั่วร่าง เมื่อเรี่ยวแรงที่มีทุ่มให้กับอีกคนอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนไปข้าง ๆ เมื่อสิ่งที่ต้องการผ่านพ้นไปด้วยความสุขและได้รับการปลดปล่อย ต่างจากอีกคนทันทีที่เขาผละออกไป น้ำตาเจ้ากรรมที่ขาดช่วงไป กลับไหลรินออกมาอีกครั้ง เมื่อตระหนักได้แล้วว่า ตัวเองสูญสิ้น ไร้ค่า ไร้ราคาจากน้ำมือเขาไปแล้ว
ผ้าห่มถูกคว้าขึ้นมาห่อกายเปลือยเอาไว้ก่อนจะพลิกไปอีกด้าน ด้วยไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายที่ไร้ความเป็นคนเช่นเขา แล้วปล่อยให้น้ำตาเป็นเครื่องปลอบใจ จนเจ้าของร่างหมดเรี่ยวแรงและหลับไปพร้อมน้ำตา ไม่รู้เวลายาวนานไปสักแค่ไหน ลืมตาขึ้นอีกที พบว่าแสงสว่างจากภายนอกสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาแล้ว แต่ก็ไม่อยากสนใจอะไรอีกต่อไป เพราะใจมัวแต่เฝ้าพร่ำบอกตัวเอง ว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้ เป็นเพียงความฝัน และเป็นฝันร้ายที่เธอไม่ปรารถนาจะได้พานพบอีกเลย
แต่ก็หลอกตัวเองไม่ได้อยู่ดี เมื่ออีกร่างที่นอนหลับสบายอยู่ข้าง ๆ ขยับกายไปมาก่อนจะลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้อง ซึ่งย้ำเตือนให้รู้ว่าทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นความจริง เพียงเท่านั้นน้ำตาที่เหือดแห้งไปก็ไหลรินออกมาอีก พร้อมเสียงสะอื้นไห้ดัง ๆ ตามติดออกมา ด้วยเธอไม่อาจจะยับยั้งความเสียใจจากการสูญเสียใจครั้งนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

ร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่กับเตียงถึงกับยกมือปิดหน้าเอาไว้ เมื่อรับรู้ถึงความเสียใจของอีกคนมีมากมายแค่ไหน เขาวัดได้จากอาการคร่ำครวญดังผ่านประตูมาถึงห้องเขา รู้สึกเกลียดการกระทำอันรุนแรงของตัวเองขึ้นมาในวินาทีนั้น เพราะทุกครั้งที่คิดถึงการกระทำของผู้ให้กำเนิดหญิงสาวแล้ว เขาแทบจะควบคุมตัวเองไปอยู่ จนเผลอทำลงไป แต่เสียงมือถือที่ดังขึ้น ได้ตัดความสำนึกผิดชั่วครู่ของเขาให้หมดสิ้นในฉับพลัน
“ว่าไงสามารถ เหรอ ที่ไหน เมื่อไหร่ ได้ แล้วเจอกัน”
บทสนทนาสั้น ๆ ก่อนจะรีบพาตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำและกลับออกมาในอีกไม่นาน ชุดสูทราคาแพงลิบที่เขาหอบหิ้วมาเมื่อคืนนี้ถูกเลือกขึ้นมาสวมใส่ ตั้งใจจะไปดูคนอยู่อีกห้อง แต่ก็เปลี่ยนใจเป็นล็อคประตูเอาไว้แทน แล้วรีบเดินออกจากเรือนเล็กที่มีเพียงสองห้องคือหนึ่งสำหรับลูกศัตรูและอีกหนึ่งสำหรับเขาเท่านั้น ขาก้าวยาว ๆ ตามสะพานไม้ที่ทอดตัวไปหาระเบียงเรือนหลังใหญ่ที่เขาไม่เคยนอนพักเพราะมันใหญ่เกินความจำเป็น เขาจึงเก็บไว้แค่รับแขกคนสำคัญเท่านั้น ช่วงขายาวสาวไม่กี่ก้าวก็ไปนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว
บัวผันกับกำชัยเมื่อช่วยเอี้ยงจัดโต๊ะเสร็จต่างรีบพาตัวเองออกห่างเจ้านายหนุ่ม เพราะเดาจากสีหน้าอันเคร่งเครียดแบบนี้แล้ว คงไม่เป็นเรื่องดีหากอยู่ให้เกะกะ จึงมีเพียงเอี้ยงเท่านั้นยกถาดอาหารมาวางลงบนโต๊ะให้เหมือนทุกครั้งที่เคยทำมา สหภาพรีบยกหนังสือพิมพ์ขึ้นอ่านเพื่อหนีการจับจ้องจากผู้อาวุโส เพราะรู้ดีว่าขืนเผลอยิ้มให้เพียงนิดเดียว จะมีคำถามร้อยแปดตามมาหาเป็นแน่
“คุณภาพจะกลับมากินข้าวเที่ยงหรือเปล่าคะ” แม้จะมีคำถามมากมาย แต่เอี้ยงก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวเจ้านายหนุ่มมากเกินไป ด้วยกลัวจะเสียความอาวุโสเปล่า ๆ จึงเลือกถามแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น อีกคนวางหนังสือพิมพ์ลง คนกาแฟไปมาสองสามครั้งก่อนจะยกขึ้นจิบ
“ไม่ครับ ป้าเตรียมข้าวเย็นไว้ก็แล้วกัน อย่าให้บัวผันไปยุ่งกับโต๊ะทำงานผมนะครับ คืนนี้จะกลับมาทำ”
สั่งด้วยสีหน้าเข้มแล้วตักข้ามต้มเข้าปากสลับกับจิบกาแฟจนหมด ตามด้วยน้ำดื่มรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะรีบเดินลงบันไดและขับรถออกไปด้วยความเร็ว คนมองตามได้แต่ส่ายหน้าน้อย ๆ ให้ ตามติดด้วยอาการถอนหายใจหนัก ๆ
“เฮ้อ! ไปละ ค่อยหายใจทั่วท้องหน่อย ให้ตายสิป้า หนูนะโครตกลัวคุณแพทเลยเวลาแกทำหน้าดุ ๆ แบบนี้ ป้าทนอยู่กับแกมาได้ยังไงตั้งแต่เด็ก ๆ นี่” บัวผันคอยลอบมองรถเจ้านายแล่นออกไปได้สักพักจึงเดินมาที่โต๊ะ เอี้ยงชำเลืองสายตามองหลานสาวอย่างสงสัย
“ทำไมนังบัวผัน คุณภาพของฉันไม่ใช่ยักษ์มารที่ไหนแกจะได้มากลัวขนาดนี้”
“โธ่! ป้า ไม่ใช่ยักษ์ก็คงจะน้อง ๆ ยักษ์ละมั้ง อย่าทำมาเป็นปกป้องคุณแพทหน่อยเลย ยังกับว่าเมื่อคืนไม่ได้ยินเสียงอะไรต่อมิอะไรอย่างนั้นล่ะ หนูนี่นะ กลัวจนหัวหดแทนคุณคนโน้นเลยล่ะ ช่วยด้วย ๆ ๆ ปล่อยฉันนะ อย่า ๆ ช่วยด้วย ๆ ๆ” บัวผันดัดเสียงจนแหลมเล็ก ยกมือทั้งสองข้างขึ้นทาบอกด้วยอาการล้อเลียนเมื่อในจินตนาการว่าต้องออกมารูปนั้น
“พูดมาก เก็บถ้วยชามได้แล้ว และไปเตรียมอาหารเช้าให้คุณบ้านโน้นเร็ว ๆ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง” หันไปมองหลานสาวแล้วทำหน้าดุใส่ แต่หลานสาวหาได้เกรงกลัวไม่
“โธ่! ป้า แกจะเป็นยังไงได้ล่ะจนป่านนี้ ก็เรียบร้อยโรงเรียนคุณแพทไปแล้วน่ะสิ แต่หนูว่าฟังจากเสียงโครมคราม ๆ แถมร้องจนลั่นบ้านอย่างเมื่อคืนนี้นะ รับรอง แกต้องเพิ่งถูกเปิดบริสุทธิ์แน่ ๆ เลยป้าว่ามั้ย”
“แกจะมาถามฉันทำไม ฉันไม่ได้คอยเหงี่ยหูฟัง หรือคอยสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านายอย่างแกนี่”
“ป้าน่ะ! นี่ป้ารู้มั้ย ตอนแรกที่เห็นคุณแพทกลับจากเมืองนอกใหม่ ๆ นะ หนูแอบมองแกบ่อย ๆ เลย คนอะไรไม่รู้ โครตหล่อเลยล่ะป้า ถ้าหนูยังไม่มีผัวนะ จะนอนแก้ผ้ารอแกเลยล่ะ แต่ทำไมคุณคนโน้นถึงได้ขัดขืนแกจังนะ หรือจะโกรธที่ถูกจับมาขังไว้ เอ...หรือแกจะชอบความรุนแรง จนคุณแพทต้องออกกำลังซะขนาดนั้น เอ...หรือว่า”
“นังบัวผัน! หุบปากเดี๋ยวนี้นะแก ขืนพูดมากจนเข้าหูคุณภาพ ระวังจะไม่มีที่ซุกหัวนอน แกจำใส่สมองอันน้อยนิดของแกไว้ให้ดี ๆ ว่าคุณภาพไม่ชอบให้ใครเอาเรื่องส่วนตัวมาพูดเล่นแบบนี้ ไปเตรียมอาหารได้แล้วเร็ว ๆ เข้า ไม่งั้นแม่จะเอาทัพพีแพ่นกระบาลให้ยุบเลยนี่ สอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านายดีนัก” ต้องให้ด่าถึงขนาดนี้บัวผันถึงได้เงียบปากแล้วยอมหันหน้าไปหางาน



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ส.ค. 2556, 11:34:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ส.ค. 2556, 11:34:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 3124





<< สูญสิ้นแล้วความภาคภูมิใจ   แผนขย่ำศัตรูใหม่ของซาตาน >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account