หนึ่งรักเหนือรุ้ง
เหนือฟ้า.... เออีสาวแสนสวยแห่งบริษัทโฆษณาปั้นคิด พยายามหาเงินทุกวิถีทางเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่ หลังโดนคุณป้ามหาประลัยตามราวีทุกวัน ร้อยเล่ห์มารยาถูกนำมาใช้เพื่อดึงดูดใจลูกค้า แต่ทว่า... เิงินก้อนโตที่เธอควรจะได้รับ กลับถูกใครบางคนขัดขวาง แถมจองล้างจองผลาญไม่ยอมให้เธอไปจากบ้านของเขา
แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อเขาเป็นทั้งเจ้านาย และอดีตพี่ชายที่เคยทำให้เธออกหัก การแข่งขันเพื่อชิงชัยแบบไม่มีใครยอมใครจึงเริ่มต้นขึ้น
งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะแพ้ใจตัวเองก่อน มาร่วมลุ้นกัน ^^
แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อเขาเป็นทั้งเจ้านาย และอดีตพี่ชายที่เคยทำให้เธออกหัก การแข่งขันเพื่อชิงชัยแบบไม่มีใครยอมใครจึงเริ่มต้นขึ้น
งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะแพ้ใจตัวเองก่อน มาร่วมลุ้นกัน ^^
Tags: เหนือฟ้า , เพลงรัก , ชินชนะ , รัก , กุ๊กกิ๊ก
ตอน: บทที่ ยี่สิบเจ็ด : ความแตก
“คุณหนึ่งมีอะไรหรือคะ”
เลขาฯ สาวร่างอวบในเดรสสีฟ้าเอ่ยถามทันทีที่เดินตามเจ้านายมาถึงห้องเรียนบนชั้นสองของอาคาร ระหว่างที่คนอื่นง่วนอยู่กับการถ่ายทำโฆษณาที่ด้านล่าง
“นั่งสิครับ” เขาผายมือไปยังโต๊ะนักเรียนที่วางเรียงราย เธอทรุดตัวลงนั่งอย่างว่าง่าย และเมื่อเขาเลื่อนเก้าอี้อีกตัวมาประกบใกล้ ไม่เพียงแค่ความประหลาดใจ แต่ความหวั่นไหวก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
“ผมมีเรื่องจะปรึกษาคุณ... คุณเก็บความลับได้ใช่ไหม”
สีหน้าจริงจังใต้แว่นหนาทำให้มุกมาลายิ่งแปลกใจ ก่อนจะถามอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ “มีเรื่องอะไรเหรอคะ”
“เมื่อคืนนี้ที่โรงแรม... ตอนที่ผมไปส่งคุณกับท็อป” เขาเริ่มต้นก่อนเล่าภาพที่เห็นให้ฟังอย่างละเอียด สองคนที่ประคองกอดกันอยู่ในห้อง หนึ่งหน้าเหมือนชินชนะ...นายชัย ส่วนอีกหนึ่ง ชั่วเวลาไม่กี่วินาทีที่เดินผ่าน เขาเห็นหน้าเธอไม่ชัด แต่เพราะความสงสัยทำให้เขาลงมาดักรอที่ล็อบบี้ด้านล่าง ไม่นานสองคนที่ก้าวออกมาจากลิฟต์ก็ทำให้เขาเริ่มกระจ่าง แต่เพื่อความแน่ใจเขาจึงสะกดรอยตาม จากโรงแรม...เส้นทางคุ้นเคยนำไปสู่โรงเรียน เป็นไปตามที่เขาสันนิษฐาน
“ความจริงผมสงสัยเรื่องนี้มานานแล้ว ระหว่างคุณชินกับนายชัย พี่น้องฝาแฝดที่ไหนอายุห่างกันเกือบสิบปี ผมเลยไปตรวจสอบดู คุณชินชนะ ชัยเตชินเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวเฮง ไม่มีฝาแฝด เขาปลอมตัวมาที่นี่เพื่อบางอย่าง เหมือนที่คุณเหนือปลอมตัวมาเป็นพี่เลี้ยงของอิง ผมเพิ่งมาแน่ใจก็เมื่อคืนนี้”
“ปลอมตัว!?! พวกเขาจะปลอมตัวมาทำไมคะ ไม่มีเหตุผลเลย”
“มีสิ เราแค่ไม่รู้ต่างหากว่ามันคืออะไร บางทีอาจเกี่ยวกับคุณลุง ผมหมายถึงพ่อของอิงนะครับ ท่านอาจเป็นคนสั่ง แต่ผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าทำไปเพื่ออะไร ถ้าไปถามสองคนนั้น ทั้งคุณชินทั้งคุณเหนือคงไม่บอก ผมเป็นห่วงอิง ถ้ารู้คงเสียใจ ผมพยายามคิดเรื่องนี้ทั้งคืนแต่ก็คิดไม่ออก ผมก็เลยมาปรึกษากับคุณว่าควรทำยังไงถึงจะได้รู้ความจริง คุณมีไอเดียอะไรไหมครับคุณมุก”
มุกมาลาที่ยังไม่หายตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน นิ่งอึ้งไปหลายวินาที ก่อนที่เธอจะเรียกสติกลับคืนได้
“ขอเวลามุกคิดแปปนึงนะคะ” เธอว่า แล้วยกมือขึ้นกุมขมับ สักพักก็ดีดนิ้วเมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้ “มุกเพิ่งดูหนังเรื่องนึงมา เกี่ยวกับการสืบสวนนี่แหละค่ะ ปกติแล้วตำรวจจะจับผู้ชายปากแข็งต้องทำยังไงเหรอคะ... ต้องมีหลักฐาน หรือจับให้ได้คาหนังคาเขาใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาปลอมตัวมาจริงๆ เขาอาจจะสารภาพก็ได้นะคะ”
“จริงด้วย เรื่องหลักฐานพอมี อย่างน้อยก็ข้อมูลที่คุณชินไม่มีพี่น้อง แต่กับคุณเหนือ...ไม่มีอะไรยืนยันได้เลยว่าเธอคือพี่เลี้ยงของอิง คุณเหนือตอนเป็นพี่เลี้ยงก็พยายามหลบหน้าเราตลอด” มาวินเอ่ยอย่างเคร่งเครียด มุกมาลาเอียงคอคิด พักใหญ่...ดวงตาใต้แว่นกรอบกลมจึงเปล่งประกาย
“มุกคิดอออกแล้วค่ะว่าจะทำยังไง”
เหนือฟ้ารู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจเป็นที่สุด เมื่อมาวินและมุกมาลาเดินทางกลับไปแล้วพร้อมกับทีมงานคนอื่น เพราะตอนแรกเขาบอกว่าจะอยู่ร่วมค่ายจนถึงวันสุดท้าย แต่พอได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวว่าโรงงานผลิตยางลบมีปัญหาเขาก็เลยต้องเปลี่ยนแผน พลอยทำให้แผนของเธอต้องเปลี่ยนไปด้วย ในเมื่อไม่มีใครรู้จักเหนือฟ้า เธอก็แปลงร่างกลับมาเป็นนางสาวน้อยหน่าได้โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง แถมยังให้ขีโรชากลับบ้านได้ก่อนเวลาที่ตกลงไว้ ซึ่งเพื่อนสาวสุดห้าวของเธอทำเหมือนดีใจ แต่ก็แอบกระซิบว่ารู้สึกพลาดที่ไม่ได้ดูฉากเลิฟซีนต่อ
สาวร่างบางในเสื้อตัวโคร่งกับกางเกงผ้าลายพร้อยยืนตักข้าวกลางวันให้เด็กๆ งานนี้เธออาสามาทำเอง ตั้งแต่วันที่สองที่สามนั่นแล้ว เบื่อที่จะต้องอยู่เฉยๆ ตักไปก็ลอบมองอิงตะวันที่นั่งร่วมกลุ่มกับเด็กคนอื่นไป โดยไม่รู้ตัวว่า พอเด็กสาวยิ้ม เธอก็เผลอยิ้มตามไปด้วย
ลูกสาวของอิสระไม่ได้เปลี่ยนเป็นสาวน้อยแสนหวานในชั่วพริบตา แต่รูปที่เธอวาด ไม่ใช่เส้นหนักๆ ที่ฝนจนกระดาษแทบทะลุอีกต่อไปแล้ว อิงตะวันเลือกใช้สีสันระบายลงรูปภาพ แม้จะดูจัดจ้านฉูดฉาดไปบ้าง แต่ขนาดเหนือฟ้าไม่ใช่นักวิจารณ์งานศิลป์ ยังรู้สึกได้เลยว่านั่นคือความร้อนแรงที่ประณีตขึ้น ภาพปิศาจที่ดูดุดันโหดร้ายในตอนแรก ก็มีเส้นสายที่อ่อนบางลง ส่วนผู้หญิงที่เคยสวมหน้ากาก ก็ปรากฏดวงหน้าที่แท้จริงให้เห็น
งานศิลปะสะท้อนอารมณ์ของศิลปินได้ไม่ใช่หรือ นี่ไง... หลักฐานที่เธอจะเอาไปยืนยันกับอิสระ ว่าลูกสาวของเขา ‘ไม่แข็ง’ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ถ้าอยากให้อิงตะวันอ่อนลงกว่านี้ คนเป็นพ่อก็คงต้องร่วมมือด้วย เธอจะไปคุยให้เขายอมเข้าหาลูกสาวบ้าง พบกันตรงกลางทุกอย่างคงจบลงด้วยดี ทีนี้...พอบรรลุเป้าหมาย เธอก็จะได้กลับไปเป็นเออีสาวแสนสวยคนเดิม ลาออกจากการเป็นพี่เลี้ยง ตั้งใจทำงานที่แท้จริง วางแผนอนาคตกับชินชนะ สร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ มีชีวิตที่ปลอดภัยจากป้ามหาประลัย อะไรๆ ก็คงสวยงามเหมือนตอนจบในนิยาย หากถ้าโทรศัพท์ที่ห้อยคอไว้จะไม่ส่งเสียงดัง
คนที่กำลังทอดความคิดไปไกลถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าใครโทรมา เบอร์คุณมาวิน!!! เธอหันซ้ายหันขวาโดยไม่รู้ตัวว่าเธอกลายเป็นวัวสันหลังหวะไปเสียแล้ว หญิงสาวลังเลว่าจะตัดสายทิ้งดีไหม แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจเดินออกมายังที่ลับตาคนแล้วกดรับ
“คุณเหนือครับ คุณเหนืออกมาจากโรงเรียนหรือยังครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังเธอส่งเสียงทักทายออกไป น้ำเสียงของเขาร้อนรนทีเดียว
“ออกมาแล้วค่ะ คุณมาวินมีอะไรหรือคะ”
“ผมลืมของไว้ในห้องพยาบาลที่น้องชายคุณชินชนะพักน่ะครับ คิดว่าคุณเหนืออยู่แถวนั้น อยากรบกวนให้ช่วยหยิบมาให้ผมด้วย ผมไม่อยากไหว้วานคนอื่น เกรงใจนายชัย ตอนนี้ห้องพยาบาลก็เหมือนห้องนอนของเขาไปแล้ว เผื่อมีข้าวของส่วนตัวไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่ง จะโทรหานายชัยก็ไม่มีเบอร์”
“อ๋อ...” เหนือฟ้าลากเสียงยาว พลางคิดในใจว่าคนอย่างพี่หนึ่งไม่น่าจะทิ้งข้าวของส่วนตัวเกลื่อนกลาด แต่เมื่อคิดว่า ถ้ามาวินโทรศัพท์ไปหาคนอื่น แล้วคนอื่นที่เข้าไปเกิดเห็นอะไรเข้า... เรื่องอาจยุ่งจริงดังว่า
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเหนือจัดการให้นะคะ” จะไปยากอะไร ไม่ต้องยืมมือใครทั้งนั้น ก็แค่เดินไปที่ห้องพยาบาลแล้วเอาของที่เขาลืมไว้ออกมา
โดยไม่เฉลียวใจเลยว่านั่นคือกับดัก
มาวินมองคนที่ผลักประตูห้องพยาบาลเข้ามา บอกไม่ถูกว่าดีใจหรือผิดหวังที่คนๆ นั้นไม่ใช่คนที่เขาสงสัย
ทีมงานหน้าคุ้นคนหนึ่งสะดุ้งโหยงทันทีที่เห็นว่ามีคนอยู่ในห้อง ขณะที่มาวินและมุกมาลามองหน้ากันด้วยความแปลกใจ และพอฝ่ายนั้นกลับออกไป เลขาฯ สาวก็เอ่ย “ทำไมแผนล่อเสือเข้าถ้ำใช้ไม่ได้ผล หรือว่าคุณเหนือจะกลับไปแล้วจริงๆ”
“เธอยังไม่กลับหรอกครับ แต่เธอรู้ตัวแล้ว”
“จริงเหรอ!!! คุณมาวินกับคุณมุกรู้เรื่องเราแล้วเหรอ!!!”
เหนือฟ้าอุทานด้วยความตกใจ หลังรู้ว่าทำไมถึงถูกลักพาตัวมายังห้องเก็บของที่มิดชิด ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปห้องพยาบาล
“พี่ไม่รู้ว่ารู้แค่ไหน แต่ต้องสงสัยแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ย้อนกลับมาแล้วล่อให้รุ้งเข้าไปหาหรอก”
“พวกเขารู้ได้ยังไง รุ้งว่ารุ้งเนียนที่สุดแล้วนะ”
ชินชนะส่ายหน้า โชคดีที่เขาตาไว เห็นหลังไหวๆ ของคนที่ลอบเข้าไปในห้องของเขาเสียก่อนจึงมาเตือนเธอได้ทัน ไม่เช่นนั้น...
“บางครั้งความมั่นใจก็ทำให้เราประมาท เราคิดว่าอย่างคุณมาวินคงไม่มีอะไร แต่เขาก็ไม่ง่ายอย่างที่เราคิด” ชายหนุ่มเอ่ย ก่อนที่เขาจะนึกบางอย่างขึ้นได้ “ก่อนที่เขาจะกลับกรุงเทพฯ คราวก่อน เขาบอกพี่ว่าอย่าทำให้อิงเสียใจ ตอนนั้นพี่ก็เข้าใจว่าเขาคิดว่าพี่ชอบอิงเลยพูดอย่างนั้น... บางทีเขาอาจจะสงสัยเราตั้งนานแล้ว”
“แล้วเราจะทำยังไงดีคะ” เหนือฟ้าว่า พยายามใช้ความคิด แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร รอยยิ้มของอิงตะวันในวงล้อมของเด็กๆ ก็จะลอยเข้ามา “ถ้าคุณมาวินจับได้ อิงก็ต้องรู้ แล้วถ้าอิงรู้จากปากคนอื่นก็ต้องโกรธมากแน่ๆ”
“ก็มีสองทาง สร้างเรื่องโกหกต่อไปให้แนบเนียน หรือว่าจะสารภาพ”
“สารภาพ?” เหนือฟ้าทวนคำพร้อมเบิ่งตากว้าง เรื่องสารภาพไม่เคยอยู่ในหัวเธอมาก่อน
“ในเมื่อตอนนี้รุ้งไม่เห็นเรื่องเงินของคุณอิสระเป็นใหญ่ รุ้งก็ไม่จำเป็นต้องโกหกต่อไปอีก บอกความจริงกับน้องอิงตอนนี้ ดีกว่าให้น้องอิงรู้จากคนอื่นไม่ใช่เหรอ”
“แต่ถ้าภารกิจเราไม่สำเร็จ บริษัทเราอาจไม่ได้งานจากคุณอิสระนะคะ”
“พี่จะพูดกับไอ้บอสเอง มันต้องเข้าใจ ส่วนพี่น่ะไม่เป็นไรอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่แรก เป้าหมายของพี่ก็คือรุ้ง แต่รุ้งล่ะ ถ้าเกมส์โอเว่อร์ ทุกอย่างที่ทำมาก็สูญเปล่า รุ้งจะรับได้ไหม”
เหนือฟ้าทำท่าคิดอยู่ครู่ ก่อนถอนหายใจ
“รุ้งไม่อยากเสียเงิน ไม่อยากให้บริษัทเสียงาน แต่...รุ้งก็ไม่อยากให้อิงเสียความรู้สึก เธอกำลังไปได้ดี เรื่องนี้อาจทำให้เธอกลับไปเก็บตัวอีก”
“แปลว่ารุ้งจะไม่บอก”
“แต่อิงก็สงสัยตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่ารุ้งคือคนที่คุณอิสระส่งมาเพื่อดูแลเธอ ถ้ารุ้งยอมรับว่ารุ้งเป็นใคร และอธิบายเหตุผลให้เธอเข้าใจ มันก็น่าจะดีกว่าให้เธอไปรู้เอง แล้วรุ้งไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย”
“แปลว่ารุ้งจะบอก”
“หรือว่าไม่ควรบอก...” เธอถามอย่างลังเล สีหน้าสับสนอย่างเห็นได้ชัด
“รุ้งเป็นอะไรไป ทำไมคราวนี้ถึงไม่มั่นใจ”
“ไม่รู้สิพี่หนึ่ง...ใจมัน...หวิวๆ สั่นๆ....” เธอบอกเขาด้วยใบหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ “รุ้งไม่รู้สิคะพี่หนึ่ง ไม่รู้จริงๆ รุ้งรับงานนี้ ทั้งที่เพื่อนก็เตือนว่ามันจะต้องมีปัญหาแบบนี้ คุณหนูขาก็บอกว่าโกหกมันไม่ดี เล่นกับความรู้สึกของคนมันจะดีได้ยังไง แต่รุ้งก็คิดว่าตัวเองจัดการได้ แต่พอเอาเข้าจริง มันไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้เลย รุ้ง...”
“รุ้ง... ใจเย็นๆ” ชินชนะเอ่ย พลางลูบหลังหญิงสาวอย่างปลอบโยน “พี่รู้ว่ารุ้งคิดอะไร แต่ไม่ต้องกลัวนะ พี่อยู่ตรงนี้ อยู่กับรุ้ง เราจะช่วยกันอธิบาย จะทำให้น้องอิงเข้าใจ เราต้องจัดการเรื่องนี้ได้ เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่เราจัดการได้ ไม่มีอะไรต้องกลัว” ชายหนุ่มบอกเธอด้วยเสียงมั่นคง แต่เธอก็คงไม่รู้ว่าใจเขาก็สั่นเหมือนกัน
อิงตะวันมองคนที่ประสานมืออยู่ตรงหน้าด้วยความแปลกใจ คนรับใช้ที่โทรศัพท์เรียกเจ้านายให้มาหาที่ห้องมีที่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะไร้มารยาทมาก ก็ต้องมีเรื่องไม่ธรรมดาแน่
“ฉันมีเรื่องจะบอกค่ะ” อีกฝ่ายเอ่ยอย่างนั้น สายตาหวาดหวั่นอย่างที่เธอไม่เคยเห็น ประเมินดูแล้ว...ท่าทางจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เหลือบไปทางผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ ใบหน้ายิ้มแย้มของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดเหมือนกัน
หรือว่า...
“ถ้าไม่ใช่เรื่องของฉันก็ไม่ต้องมาบอกฉัน” เด็กสาวว่าเสียงห้วน แต่อีกฝ่ายกลับเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“คะ?”
“เธอจะคบกับใครก็คบไป ฉันไม่ยุ่งอยู่แล้ว”
“คะ?” คราวนี้เสียงอุทานดังกว่าเก่า อิงตะวันจึงผ่อนลมหายใจ แล้วอธิบายเหมือนเสียไม่ได้
“เธอกับเขาชอบกันใช่ไหม ฉันรู้อยู่แล้ว ถ้าไม่เดือดร้อนใครก็ทำไป ฉันไม่ห้าม ไม่ยุ่ง... หมดเรื่องแล้วใช่ไหม ฉันจะลงไปข้างล่างแล้วนะ”
“เดี๋ยวค่ะน้องอิง” ชายหนุ่มที่ยืนเงียบมานานเป็นคนรั้งไว้ เมื่อเขาเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากเหนือฟ้า “พี่ยอมรับว่าพี่กับพี่เลี้ยงของน้องอิงรักกันจริงๆ แต่ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญกว่า ที่เราอยากจะบอกน้องอิง”
“เรื่องอะไร”
ชินชนะหันมองหญิงสาวที่อยู่ใกล้ พยักหน้าให้กันเพื่อเสริมความมั่นใจ แต่ทันใดที่พวกเขาจะเอื้อนเอ่ย เสียงประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
คนที่กำลังลุ้นระทึกถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ก่อนที่จะหันมองไปทางบานไม้ที่ปิดอยู่อย่างหวาดผวา อิงตะวันตะโกนบอกว่าไม่ได้ล็อค คนข้างนอกจึงผลักประตูเข้ามา และนั่นก็ทำให้ชินชนะและเหนือฟ้า ยืนนิ่งเหมือนโดนสาป
-----------
แบบว่าตอนนี้เริ่มเอื่อย มาลงอาทิตย์ละครั้งนะคะ
คุณพันธุ์แตงกวา : เปิดเผยคนแอบฟังแล้วค่ะ ไม่รู้ว่างานนี้จะหมู่หรือจ่า ต่อจากนี้พี่หนึ่งกับรุ้งคงไม่ได้สวีทกันแล้ว ><
คุณ Sukhumvitt66 : เฉลยว่าใครแอบฟัง แต่มาลุ้นกันว่าเขาจะทำอย่างไรกับความลับนี้
คุณ เดิมเดิม : รู้ตัวการแอบฟังแล้วนะคะ ^^
คุณ ดังปัณณ์ : ยังดีที่เป็นแบงค์นะคะ ถ้าเป็นเหรียญคงเซ็งกว่านี้ 5555
คุณ ภาวิน : แบบว่าตกตะลึงเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเลยนะ ><
คุณ lovereason : ที่บล็อคจะช้ากว่านิดหน่อยค่ะ อ่านที่บล็อคก็ได้ ขอบคุณนะคะ
คุณ cherryfirm : ถ้าผิดตรงไหนช่วยบอกได้เลยนะคะ บางทีก็ตกหล่นไป ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
ขอให้สนุกกับการอ่านค้า
ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ส.ค. 2556, 00:00:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ส.ค. 2556, 00:00:45 น.
จำนวนการเข้าชม : 1632
<< บทที่ ยี่สิบหก : ปัญหาใหม่ | บทที่ ยี่สิบแปด : พ่อ!!! >> |
ดังปัณณ์ 27 ส.ค. 2556, 08:57:18 น.
อั้ยย่ะ! งานเข้า จะออกหัวหรือก้อยล่ะงานนี้ รุ้งกะคุณชินจะทำไง รอต่อนะคะ ^^
อั้ยย่ะ! งานเข้า จะออกหัวหรือก้อยล่ะงานนี้ รุ้งกะคุณชินจะทำไง รอต่อนะคะ ^^
พันธุ์แตงกวา 27 ส.ค. 2556, 09:04:59 น.
ยังสนุกเหมือนเดิม กรี้ดด จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเนี่ย คุณหนูอิงคงไม่งอนตุ๊บป่องไปอีกน้า
ยังสนุกเหมือนเดิม กรี้ดด จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเนี่ย คุณหนูอิงคงไม่งอนตุ๊บป่องไปอีกน้า
lovereason 27 ส.ค. 2556, 22:27:01 น.
เดี๋ยวคืนนี้ไปอ่านค่า ^^
เกเรบล็อคไปสองวัน
แต่แอบแว๊บๆในนี้เร็วกว่านิดนึง
แต่ว่าทันใจ อิอิ
เดี๋ยวคืนนี้ไปอ่านค่า ^^
เกเรบล็อคไปสองวัน
แต่แอบแว๊บๆในนี้เร็วกว่านิดนึง
แต่ว่าทันใจ อิอิ
ChaCha 28 ส.ค. 2556, 00:33:44 น.
แอบเชียร์คุณมาวินอ่ะค่ะ :-)
แอบเชียร์คุณมาวินอ่ะค่ะ :-)
ปริยาธร 1 ก.ย. 2556, 17:27:01 น.
แวะมาส่งกำลังให้คุณปลายสีนะคะ
แวะมาส่งกำลังให้คุณปลายสีนะคะ