ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: อีกครั้งที่ต้องดิ้นรนหาอิสระ

ดวงหน้าที่ยังคงมีน้ำตาเอ่อล้นหันไปมองประตูห้องที่เปิดออก แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครแล้ว ก็หันหนีอย่างไม่แยแสต่อสายตาเอาเรื่องของเขาที่เดินดุ่ม ๆ เข้ามาในห้อง ชำเลืองมองไปยังถาดอาหารซึ่งยังไม่ได้รับการแตะต้องจากหญิงสาวแต่อย่างใด
“ทำไมคุณไม่กินข้าว จะเรียกร้องความสนใจจากผมด้วยวิธีนี้เหรอ” เดินเข้าไปใกล้ ๆ แต่อีกคนรีบลุกแล้วเดินหนีไปหน้าต่างและหันหลังให้ ด้วยไม่อยากจะพบหน้าเขาแม้แต่วินาที
“ผมถามไม่ได้ยินเหรอ อย่ามาเล่นสงครามเย็นกับผมนะ ระวังจะเจออะไรร้อน ๆ กลับไปอีกล่ะ หรือว่าชอบจนต้องอดข้าวเพื่อรอผม บอกดี ๆ ก็ได้ ไม่ต้องมาทำแบบนี้หรอก ผมจัดให้ตามความต้องการคุณอยู่แล้ว” ก้มหน้าไปกระซิบใกล้ ๆ คอระหงด้วยใบหน้ายิ้มอย่างสะใจ
‘เพี๊ยะ’
มือบางฟาดลงไปแรง ๆ กับแก้มสาก พร้อมสายตาเกลียดชังเป็นที่สุดเมื่อยามเธอมองหน้าเขา มือหนายกขึ้นไปลูบแก้มเบา ๆ ด้วยความเจ็บแสบ แต่ไม่นานก็คว้าเอามือที่ตบเขาแล้วบีบแรง ๆ ก่อนจะกระชากจนคนตัวเล็ก ๆ แทบจะปลิวไปตามแขน แล้วผลัก จนแทบจะล้มไปกับโต๊ะที่มีถาดข้าววางอยู่
“คุณควรจะกินอะไรลงไปก่อนที่ผมจะลืมตัวฆ่าคุณทิ้งตอนนี้”
น้ำเสียงดุดัน สายตาเกลียดชัง จ้องมองไปยังเธอที่ยืนเอามือท้าวขอบโต๊ะไว้เพื่อไม่ให้ล้มจากแรงผลัก และแทนการทำตามคำของเขา มือทั้งสองข้างกลับปัดถาดข้าวอย่างแรงจนตกกระจายเต็มพื้น แล้วหันไปมองเขาด้วยสายตาเกลียดชัง
“ฉันยอมตายดีกว่าจะกินอาหารของคนอย่างคุณ แน่จริงก็ฆ่าฉันให้ตายเลยสิ”
แววตาเอาเรื่องของหญิงสาวในเวลานี้ ไม่ได้แตกต่างไปจากแววตาศัตรูที่เขาเคยเห็นเมื่อในอดีตเลยสักนิดเดียว พลันหน้าผู้ให้กำเนิดเธอก็ลอยมาประจันหน้ากับเขา เป็นเชื้อไฟคอยสุมความเจ็บแค้น และเกลียดชังที่มีให้ครุกรุ่นได้เป็นอย่างดี สองมือคว้าเข้าไปหาไหล่ระหงแล้วบีบแรง ๆ สายตาคมจ้องมองเธออย่างเกลียดชัง
“ผมไม่ฆ่าคุณตอนนี้หรอก มันง่ายไป มันจบเร็วไป ไม่สะใจ แต่ผมจะทำให้คุณตายทั้งเป็นไปเรื่อย ๆ ให้พ่อแม่ชั่ว ๆ ของคุณเห็นว่าลูกที่กำลังตายทั้งเป็นมันทรมานยังไง พวกมันจะได้เจ็บไปด้วย ตายทั้งเป็นไปด้วย และต้องตายอย่างช้า ๆ ด้วยความทุกข์ ที่มันช่วยอะไรลูกไม่ได้ เหมือนตอนมันทำให้พ่อผมเหมือนตายทั้งเป็นไง” สีหน้าดูช่างสะใจเหลือเกิน เมื่อเขาวาดภาพเห็นศัตรูที่ต้องมีสภาพเหมือนตายทั้งเป็น
“คนเลว ๆ อย่างคุณ ในหัวสมองก็คงจะคิดแต่เรื่องเน่า ๆ ชั่ว ๆ”
ไม่ทันได้พูดจบ สองมือที่บีบไหล่บางเอาไว้ก็เหวี่ยงอย่างแรงจนอีกคนถลาล้มไปกับเตียง โดยมีเขาตามไปติด ๆ ด้วยสายตาเอาเรื่องคนปากกล้าที่ด่าเขาชนิดไม่เคยมีใครเคยมาก่อน พิมมาดาทันได้แต่ยันตัวให้ลุกนั่งเท่านั้นก็ไม่สามารถไปไหนได้อีกแล้ว เพราะมีร่างใหญ่ตามมาบีบไหล่หนัก ๆ จนรู้สึกเจ็บ
“ออกไปให้พ้นนะ อย่าเอามือชั่ว ๆ มาแตะต้องตัวฉัน ออกไป ฉันไม่อยากแปดเปื้อนไปด้วย”
“ถ้าผมชั่ว งั้นก็ต้องดีใจกับคุณแล้วล่ะ ที่มีผัวชั่ว ๆ และไอ้ที่นั่งร้องไห้รอทั้งวันนี่ ไม่ใช่เพราะคิดถึงผัวชั่ว ๆ คนนี้หรอกเหรอ สงสัยจะรอให้ผัวมาปนเปรอความสุขให้ล่ะมั้ง ของเคยกินแล้วไม่ได้กินมันก็ต้องอยากเป็นธรรมดา”
‘เพี๊ยะ’ เมื่อทนกับน้ำคำเขาไม่ได้ ก็มีเพียงวิธีเดียวที่จะเอาคืนได้นั่นคือมือฟาดไปตรงแก้มเขาอย่างแรงอีกครั้ง
‘เพี๊ยะ’ จนเจ้าของแก้มถึงกับหน้าแดงด้วยแรงโกรธ จึงเผลอเอามือฟาดไปที่แก้มขาว เพื่อตอบโต้ พิมมาดารีบยกมือขึ้นลูบแก้มด้วยความเจ็บ สายตามองเขาอย่างเกลียดชังชนิดหาที่เปรียบไม่ได้ เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมาตบหน้าแม้แต่ครั้งเดียว และถ้ามีเธอก็จะถือว่าคนคนนั้นไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำร้ายผู้หญิง ซึ่งเธอยอมรับไม่ได้
‘เพี๊ยะ’ จึงฟาดมือหนัก ๆ ลงไปกับแก้มสากข้างเดิม จนเขาจ้องมองคนตรงหน้าตาเขม็ง
“ผัวเขามีไว้ให้เคารพรัก ไม่ได้มีไว้ทำอย่างอื่น และคุณจงจำไว้ให้ดี ๆ ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณทำแบบนี้กับผมอีก ผมก็จะตอบแทนคุณด้วยวิธีรุนแรงแบบนี้”
เสื้อเนื้อบางมีอันต้องขาดวิ่นเพราะแรงมือกระชากออกด้วยความโกรธจัด แล้วร่างบอบบางก็ถูกผลักให้หงายไปกับเตียงอย่างแรงโดยมีร่างบึกบึนตามลงไปและระดมจูบไปที่เรียวปากด้วยความเร็วและแรง
“ปล่อยฉันนะ ออกไปให้พ้น ฉันเกลียดคุณ ออกไป ฉันเกลียดคุณ ได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียดคุณ”
เขาหาได้สนใจกับเสียงร้องด่าไม่ขาดระยะไม่ มือหนากระชากเสื้อผ้าออกจากกายขาวอวบอย่างไม่ปราณี พอ ๆ กับทุก ๆ สัดส่วนของร่างกายเธอที่ถูกรุกรานอย่างไม่มีความปราณีแม้แต่น้อยเช่นกัน
“โอ๊ย! ปล่อยนะฉันเจ็บ” เพราะริมฝีปากอุ่นขบเม้ม และดูดไปตามซอกคอ เนินอกจนเป็นรอยแดงตัดกับผิวขาวผาดผ่องอย่างเห็นได้ชัด
“นี่คือบทลงโทษที่คุณบังอาจทำกับผม”
เป็นการย้ำเตือนอีกครั้ง ก่อนเขาจะถอดเสื้อผ้าตัวเองออกภายในเวลาไม่กี่วินาที แม้อีกคนอยากจะต่อต้านการกระทำที่รุนแรงของเขามากแค่ไหน แต่เรี่ยวแรงหาได้ทัดเทียมกันไม่ จึงได้แต่นอนแน่นิ่งยินยอมรับบทลงโทษจากเขา มันทั้งเจ็บปวดและทรมาน จนต้องปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นทางด้วยความชอกช้ำใจ
ความเกลียดชังมีในตัวศัตรูมากเท่าไหร่ ถูกเขาถ่ายเทลงไปกับอีกคนที่นอนนิ่ง ยินยอมให้เขากระทำโดยไม่คิดจะต่อต้านใด ๆ มากเท่านั้น น้ำตาของหญิงสาวไหลรินออกมาให้เขาเห็น ไม่บอกก็รู้ว่ามันต้องมาจากความเกลียดชังในตัวเขาเป็นแน่ และเขาก็ต้องการจะบอกเธอเช่นกันว่า เขาเองก็รังเกียจ เคียดแค้นเจ้าของเลือดชั่ว ๆ ในกายเธอมากเช่นกัน โดยผ่านสัมผัสรักที่รุนแรงและเร่าร้อน
จึงไม่แปลกที่เขาจะปล่อยให้ไฟสวาทซึ่งลุกโชนในกายหนุ่ม เดินทางไปพร้อม ๆ กับความเกลียดชังในตัวศัตรู ยิ่งไฟแห่งรักที่มีต่อกายสาวลุกโชติช่วงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีไฟแค้นตามติดไปด้วยมากเท่านั้น และร่างเธอก็คือเครื่องรองรับความเกลียดชังนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว ทุกท่วงท่าทุกลีลาที่ใจเขาปรารถนาอยากได้จากร่างอรชร เขาต้องได้ และได้ด้วยความสาแกใจอย่างที่สุด ร่างนุ่มนวลขาวอวบอั๋นเต็มตึงถูกเคล้าคลึง บีบเค้น ขบเม้มอย่างย่ามใจ
และยิ่งธรรมชาติสั่งการให้เพศที่อ่อนแอกว่าตอบรับการรุกรานจากเขา ยิ่งเป็นสัญญาณให้เขาทุ่มเทแรงกายทั้งหมดที่มีให้กับไฟพิศวาทที่เข้ามาครอบงำจิตใจ ยอดชูชันสั่นไหวไปตามแรงกายชายที่พุ่งเข้าใส่รุนแรงรวดเร็ว ตามท่วงทำนองของความเป็นชายเรียกร้อง และเขาก็สนองตอบความต้องการนั้นอย่างสุขใจ แทบจะเรียกได้ว่าสุขกว่าครั้งไหน ๆ หรือกับคนไหน ๆ ที่เขาเคยมีมาก็ว่าได้ เลือดในกายหนุ่มส่งสัญญาณบอกให้รีบเพิ่มความเร็วแรงอีกระลอก เพื่อไปให้ถึงปลายฝันซึ่งรออยู่แค่เอื้อม เรี่ยวแรงมีเท่าไหร่เขาทุ่มให้แทบสุดชีวิตเพื่อปีนป่ายไปให้ถึงฝั่ง พร้อม ๆ กับได้ระบายไฟแค้นและปลดปล่อยไฟรักอย่างสาสมใจ
แล้วก็ผละไปจากผิวกายขาวผ่องอย่างไม่ใยดีแม้แต่น้อย อาการโล่งใจของเจ้าของร่างเมื่อได้อยู่ห่างจากเขามีขึ้น แต่มันก็ตามติดด้วยความเจ็บช้ำทั้งกายและใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เช่นกัน กับบทบาทแห่งรักอันป่าเถื่อนของเขาในครั้งนี้ เพราะมันช่างไร้ซึ่งความปราณี ไร้ซึ่งความสุขสมของอีกฝ่าย วินาทีนี้เธอได้รับรู้รสชาติของการตกเป็นเครื่องระบายอารมณ์แล้ว ว่ามันเป็นอย่างไร มันเจ็บปวด ทรมานมากแค่ไหน พยายามจะยันกายให้ลุกขึ้นแต่ก็หมดแรงกำลังอยู่ตรงนั้น จึงได้แต่ทิ้งร่างอันหนักอึ้งให้นอนซมอยู่ใต้ผ้าห่มหนาอย่างเดียวดาย แต่ก็ไม่วายมีน้ำตาคอยเป็นเพื่อนไปแทบจะค่อนคืน กว่าจะปิดตาหลับลงได้ด้วยอาการของคนอ่อนเพลีย

“คุณเนยคะ ตื่นเถอะค่ะ สายแล้ว คุณเนยคะ”
ดวงตาที่ปิดสนิทค่อย ๆ ลืมขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีคนมาเขย่าตัว ตั้งสติได้ก็รู้ว่าเป็นป้าซึ่งคุ้นหน้ามานั่งอยู่ข้าง ๆ เตียง พิมมาดาพยายามพยุงตัวให้ลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ทำได้ด้วยความยากลำบาก จนเอี้ยงต้องคอยช่วย ผ้าห่มที่เกือบหลุดออกจากอกเปล่าเปลือยถูกมือผู้อาวุโสรีบคว้าไว้ให้ได้
“คุณเนยไปอาบน้ำนะคะ จะได้มากินข้าว”
เอี้ยงเรียกชื่อเธออีกครั้ง เพราะรู้มาจากสามารถเมื่อเช้านี้ แต่เมื่อมองเห็นผิวขาวส่วนที่พ้นผ้าห่มออกมา มีแต่รอยแดง ช้ำ เป็นจุด ๆ เต็มไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ตามแขนขาว ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าส่วนที่อยู่ใต้ผ้าห่มจะมีสภาพแบบไหน และหัวใจของเอี้ยงกระตุกวาบขึ้นชั่วขณะ เมื่อเห็นหยาดหยดน้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาอันเศร้าสร้อย อยากจะช่วยแต่ก็จนด้วยปัญญาเหลือเกิน
“ไปอาบน้ำนะคะ นี่ผ้าเช็ดตัว ป้าช่วยพยุงค่ะ”
เจ้าของร่างอ่อนแรงยอมทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะเอาผ้าเช็ดตัวมุดเข้าไปพันรอบกายไว้ แล้วเดินเข้าห้องน้ำโดยมีเอี้ยงคอยช่วยพยุงจนถึงประตู ผ้าขนหนูค่อย ๆ หลุดออกไป เมื่อหญิงสาวมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ เห็นรอยเขียวช้ำแทบจะทุกสัดส่วนของร่างกาย อดคิดถึงบทลงโทษรุนแรงจากเขาเมื่อคืนไม่ได้ ใจภาวนาขอให้มีคนมาช่วยพาออกไปให้พ้นจากการกักขังในเร็ววัน แต่อีกใจก็อดหวาดหวั่นไม่ได้ว่าจะมีใครสักกี่คนกัน ที่จะเป็นเดือดเป็นร้อนกับการหายมาของตัวเองแบบนี้
อะไรจะเกิดขึ้นถ้าคนที่จับตัวมา สร้างสถานการณ์ให้เป็นการมากับเขาด้วยความสมยอมแทน แม้จะกลัวในเหตุนี้ แต่ก็ยังอยากหวังว่าทั้งพ่อและป้าค้อรวมทั้งขวัญข้าวเพื่อนรัก จะต้องรู้จักเธอดี ส่วนแม่เลี้ยงหญิงสาวไม่คิดหวัง เพราะนอกจากจะไม่อยากช่วยให้ได้กลับไปแล้ว อาจจะสาบส่งให้เธอหายไปจากโลกนี้ก็เป็นได้ เพียงคิดแค่นี้ ก็เรียกน้ำตาให้ไหลรินออกมาได้ไม่ยากสักนิด และเธอก็บอกกับตัวเองว่า จะหวังให้ใครมาช่วยไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ตัวเองจะต้องเป็นที่พึ่งของตัวเองเป็นดีที่สุด
“คุณเนยมากินข้าวเถอะค่ะ เมื่อวานก็ไม่ได้กินอะไรสักคำ”
เอี้ยงนั่งรอให้นักโทษสาวสางผมอยู่หน้ากระจกเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว จึงได้ตัดสินใจเรียก มือที่จับหวีอยู่หยุดการทำงานลงเมื่อได้ยินเสียงเรียก ก่อนจะค่อย ๆ ลุกไปนั่งมองดูอาหารในถาด โดยมีเอี้ยงยื่นช้อนกับส้อมให้ อีกคนรับมาถือไว้ แต่ยังไม่ยอมตักอาหารเข้าปาก เพราะไม่รู้สึกหิวเอาเสียเลย
“ไปนั่งกินหน้าห้องดีมั้ยคะ ป้าจะให้บัวผันมาช่วยยกโต๊ะ จะได้เห็นต้นไม้เขียว ๆ ข้างนอก อาจจะทำให้คุณเนยอยากกินข้าวบ้างก็ได้นะคะ” เพราะรู้ดีว่าคนที่นั่งอยู่เจออะไรมา จึงอยากจะช่วยทำให้สดชื่นขึ้นมาบ้าง พิมมาดาเงยหน้าไปมองเอี้ยงด้วยความสงสัย เพราะรู้ดีว่าแกอยู่ในสถานะลูกจ้าง การจะฝ่าฝืนเจ้านายหนุ่มด้วยการพาเธอออกไปย่อมมีความเสี่ยงจะต้องถูกดุด่าได้
“ตอนนี้คุณภาพไม่อยู่หรอกค่ะ อีกนานกว่าจะกลับมา รีบ ๆ ไปเถอะนะคะ จะได้เห็นวิวสวย ๆ ด้วยค่ะ บัวผันเร็วมาช่วยยกโต๊ะหน่อย เอ้า! มาสิ มัวยื่นบื่ออะไรอีกล่ะ”
เมื่อเห็นหลานไม่อยากเอาด้วยจึงต้องดุ จนบัวผันรีบมาจัดการตามป้าสั่ง พิมมาดาเดินตามคนทั้งสองออกมาช้า ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นบรรยากาศภายนอกในเวลากลางวัน มันช่างเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวขจีทั่วบริเวณ ลมพัดอ่อน ๆ ทำให้เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ที่บัวผันยกมาให้
“เห็นมั้ยคะ บรรยากาศข้างนอกดีกว่าข้างในเยอะเลย ทีนี้คุณเนยก็กินข้าวนะคะ กินเสร็จป้าคงจะต้องให้เข้าห้องเลยนะ กลัวคุณภาพมาเห็น รายนี้ถ้าใครขัดขืนคำสั่งจะเจอหนักค่ะ”
ไม่ต้องบรรยายมากไปกว่านี้เธอก็รู้ดี เพราะหลักฐานตามร่างกายขาวเป็นเครื่องยืนยันได้ สายตาอันเหม่อลอยมองกวาดไปรอบ ๆ บริเวณบ้านทั้งด้านบนและล่าง พบว่าช่างว่างเปล่าจากผู้เป็นเจ้าของและชายร่างใหญ่ที่เคยมายืนเฝ้าเสียนี่กระไร แม้จะซาบซึ้งในน้ำใจป้าที่เอื้ออาทรพาออกมาข้างนอกมากแค่ไหน แต่ก็จำจะต้องทรยศด้วยการคิดหนีอยู่ดี จึงรีบตักอาหารเข้าปากเพื่อให้ท้องอิ่มจะได้มีแรงวิ่งหนีและครั้งนี้ เธอจะวิ่งให้สุดกำลังที่มีในตัวทั้งหมด
“เอาข้าวเพิ่มมั้ยคะ”
เพราะเห็นข้าวในจานหมดเกลี้ยง เอี้ยงที่นั่งอยู่ด้วยจึงเสนอ อีกคนพยักหน้ารับเพื่อคาดหวังจะให้แกลุกจากเก้าอี้ แต่บัวผันกลับเป็นคนไปแทน เมื่อแกพยักหน้าให้หลานที่ยืนอยู่ไม่ห่าง สร้างความผิดหวังให้เธออย่างที่สุด แต่ก็เหมือนจะพอมีโชคช่วยอยู่บ้าง ที่จู่ ๆ ก็มีเสียงมือถือดังขึ้น เอี้ยงจึงคิดขึ้นได้ว่าตัวเองลืมวางมือถือไว้ ตอนที่จัดห้องให้เจ้านายหนุ่ม หันไปมองทางบ้านใหญ่ที่บัวผันไปเอาข้าว เห็นกำลังเดินมาแต่ไกล จึงรีบเดินเข้าห้องไปรับโทรศัพท์ และนี่คือโอกาสทองของนักโทษสาว ที่รีบลุกและวิ่งตรงไปหาบันไดด้วยความเร็ว
“คุณเนย! ป้า ๆ ๆ คุณเนยหนีอีกแล้ว ป้า ๆ ๆ ไปไหนนะ” บัวผันรีบวิ่งเอาจานข้าวมาวางไว้บนโต๊ะแล้วรีบวิ่งตามออกไป เอี้ยงเองก็รีบวิ่งออกมาดูด้วยความตกใจ
“ผมถามว่าอะไรป้า! นั่นเสียงอะไร!” เจ้านายหนุ่มถามมาตามสายด้วยความอยากรู้
“เอ่อ! เอ่อ! คุณเนยค่ะ คุณเนยหนีไปอีกแล้วค่ะคุณภาพ เอ่อ! วิ่งไปตามถนนที่จะออกไปข้างนอกค่ะ”
เอี้ยงรายงานเจ้านายหนุ่มด้วยความกลัวในอารมณ์ เมื่ออีกฝ่ายวางสายแล้ว จึงรีบวิ่งลงบันได แต่ด้วยความที่อายุมากแล้วจึงไปได้ไม่เร็วสักเท่าไหร่ กว่าจะลงมาถึงก็กินเวลาหลายนาที
“ไหนไปทางไหนป้า” สหภาพกับสามารถที่อยู่ในชุดออกกำลังกายรีบวิ่งมาสมทบทันที
“วิ่งไปทางนั้นค่ะ”
สามารถรู้งานรีบวิ่งไปสตาร์ทรถรอเจ้านายหนุ่มทันที ออกรถมาไม่ทันไรก็เจอบัวผันทั้งวิ่งทั้งหอบอยู่ข้างทางและอีกคนวิ่งนำหน้าอย่างไม่คิดชีวิต เมื่อหันหลังมาเห็นรถของเขาอยู่ไม่ห่างและกำลังแล่นตรงมาหา จึงรีบวิ่งหนีเข้าป่าข้างทางเหมือนคืนก่อน แต่ครั้งนี้รู้สึกจะไปได้คล่องตัวกว่า เพราะไม่มีความมืดเข้ามาเป็นอุปสรรค
“ขับรถออกไปดักถนนใหญ่ไว้ ถ้าเจอตัวเมื่อไหร่ รีบเอาขึ้นรถมาเร็ว ๆ”
เขาหันไปสั่งสามารถและบัวผันก่อนที่ตัวเองจะลงจากรถแล้ววิ่งไปตามทิศทางที่หญิงสาววิ่งหายเข้าไป ผิวบางและขาวตอนนี้ถูกขูดขีดด้วยกิ่งไม้ใบหญ้าจดเป็นรอยและมีเลือดซิบ ๆ ออกมา แต่เจ้าของหาได้สนใจไม่ ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งจนสุดชีวิต แม้ไม่รู้ว่าจะวิ่งไปทิศทางไหน และไม่สนใจจะหันมองคนที่วิ่งตามมาด้วยซ้ำ เพราะถือว่าจะทำให้เสียเวลา รู้ดีว่า ถ้าครั้งนี้หนีไม่รอด ก็คงจะได้รับโทษหนักจากเขาเป็นแน่ ดังนั้นใจจึงท่องบอกตัวเองเอาไว้ว่าจะต้องหนีให้รอด



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ส.ค. 2556, 09:52:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ส.ค. 2556, 09:52:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 3104





<< แผนขย่ำศัตรูใหม่ของซาตาน   อิสระที่หลุดลอยอีกครั้ง >>
alecigor 27 ส.ค. 2556, 10:15:09 น.
ขอให้รอด


sonakshi 27 ส.ค. 2556, 14:58:31 น.
พระเอกโหด


กันเกราธัญญรัตน์วรนัน 29 ส.ค. 2556, 07:28:43 น.
คุณ alecigor = จะรอดไหมน้อ

คุณ sonakshi = ใช่ค่ะ โหดมากกกกกกกก ขอบอกกกกกก

ขอบคุณสำหรับเม้นให้กำลังใจค่ะ

ยิ้มมมมมมมมมม


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account