สัญญารัก...ข้ามฟ้า (สนพ ดอกหญ้า 2000)
เอริน..ว่าที่มัคคุเทศก์คนใหม่วัย 25 ปี ที่โชคชะตานำพาให้พบกับใครบางคนที่แดนไกลในครั้งอดีต และต้องจากกันไป
ชานนท์..นักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัย 35 ปี เขากำลังกลับมาตามหาอดีตที่หายไปหลังจากปล่อยเธอไปเมื่อหนึ่งปีก่อน พร้อมกับมาทวงสัญญารักที่จะทำให้เธอต้องจนมุม...อีกครั้ง


Tags: สัญญารัก...ข้ามฟ้า , รักโรแมนติก , ซึ้งกินใจ

ตอน: ตอนที่ 7 : แม่สื่อพ่อชัก

อาจเพราะเรื่องบางอย่างที่ได้ฟังจากสิทธิ์เมื่อวานทำให้ชานนท์ถึงกับนอนไม่หลับ ยิ่งเมื่อคิดถึงเรื่องราวที่มันบังเอิญมาเกี่ยวพันกับใครบางคนที่เขาคิดถึง เขาก็คิดจนแทบบ้าไม่อยากรับรู้ใดๆ กว่าจะออกเดินทางมาประจวบจึงค่อนสายแล้ว จู่ๆวันนี้เขาก็ตื่นสายเสียอย่างนั้นทั้งๆที่ปกติเป็นคนตื่นเช้าพอตัว ชายหนุ่มจัดแจงโทรไปหามินตราเพื่อไม่ให้รอทานกลางวันอย่างที่ตั้งใจไว้

“มิน..ทานเที่ยงกันไปก่อนเลยนะ พี่คงถึงเลทหน่อยน่ะ” ชานนท์กรอกเสียงไปตามสายขณะขับรถเบนซ์อีคลาสสีดำสนิทที่สิทธิ์ยกให้ใช้ตลอดเวลาที่อยู่เมืองไทยไปอย่างไม่รีบเร่งตามถนนสายหลัก

“อ้าว..ทำไมล่ะคะ ตอนนี้ถึงไหนแล้วคะ” มินตราถึงกับตกใจ เพราะเอรินเพิ่งวางสายไปก่อนเมื่อสักครู่ว่าหล่อนใกล้จะมาถึงแล้ว

“เลยชะอำมาแล้วจ้ะ” ชานนท์กรอกเสียงตามสาย มาหลังจากดูเนวิเกเตอร์นำทางที่ติดมากับตัวรถ

“โอ๊ยยังอีกไกลเลย แล้วอย่างนี้จะทันเอ.. เอ๊ยไม่ใช่ เอาเป็นว่าพี่นนท์รีบมาเลยนะ” มินตราสีหน้าร้อนรนหลังจากวางสายจากชานนท์จนอธิปอดรู้สึกแปลกใจไม่น้อย จนต้องปลอบภรรยาให้ใจเย็นๆ

“ใจเย็นๆที่รัก เราก็ดึงตัวเอรินไว้นานๆได้นี่ ให้เล่นกับเจ้าอาร์มไปพลางๆก็ได้ ไม่ต้องห่วง เรามายกอาหารออกมารอพวกเค้ากันดีกว่านะ เอาตรงไหนดีที่รัก ในบ้าน นอกชานหรือริมทะเลดีจ้ะ” อธิปจัดแจงแทนภรรยาที่เดินเป็นหนูติดจั่นอย่างคิดหนัก

“ตามใจเถอะ..โอม มินขอเวลาคิดแป๊บนึง” แม่สื่อจำเป็นบอกสามีไปส่งๆ อธิปที่อุตส่าห์ไม่เข้าบริษัทเพราะอยากอยู่ร่วมลุ้นอเล็กซ์กับเอรินจึงจัดแจงอย่างเงอะๆงะๆ เอาอาหารสดพร้อมเตาย่างที่กำลังจะจุดไฟรอเอรินและชานนท์มาร่วมแจมไปไว้โต๊ะหลังบ้านซึ่งอยู่ริมทะเลพอดิบพอดี

“อืม คุณเมียอย่าคิดมากนักนะจ๊ะ ยังไงอเล็กซ์เค้าก็คงไม่พ้นเอรินของพวกเราอยู่แล้วล่ะ มีแม่สื่พ่อชักคอยช่วยทั้งผลักทั้งดันแบบนี้” อธิปพูดติดจะขำ ทำเอามินตราค้อนขวับอย่างหมั่นไส้ ทันใดนั้นมินตราก็ยิ้มออกมาได้เมื่อเห็นเอรินในชุดแก่นกะโหลกแสนชินตาขับรถเต่าสีฟ้าคู่ใจมาจอดเทียบหน้าประตูบ้าน

หญิงสาวผมม้าน่ารักผูกเปียหางเดียวยาว เสื้อเชิ๊ตตัวเล็กเข้าตัวแขนยาวพร้อมกางเกงขาสั้นเหนือเข่า รองเท้าผ้าใบสีขาวไม่ใส่ถุงเท้า เดินหิ้วกล่องขนาดย่อมพะรุงพะรังลงมาจากรถเต่าคันเล็กที่จอดอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านนัก เดินยิ้มแฉ่งเข้ามาหามินตราเพื่อนสาวรุ่นพี่ที่ออกมายืนยิ้มทักทายอย่างดีใจหน้าบ้าน

“สวัสดีค่ะ คุณมิน ฉันคิดถึงพวกคุณจังเลย” น้ำเสียงร่าเริงของเอรินทำเอามินตราถึงกับยิ้มกว้าง เพราะความเป็นคนนิสัยดีเข้ากับคนง่ายของเอริน ทำให้มินตรานิยมชมชอบน้องสาวคนนี้อยู่ไม่น้อย

“สวัสดีจ้ะ เอริน แบกอะไรมาเยอะแยะอีกแล้วจ้ะ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเอามา” มินตรารีบเข้าไปช่วยเอรินถือของฝากจากบ้านสวนโฮมสเตย์อย่างเกรงใจ

“มาแล้วเหรอจ้ะที่รัก” เสียงตะโกนมาจากหลังบ้าน มินตรารีบตอบรับสามีไปทันที

“เอรินมาแล้วจ้ะที่รัก” มินตราและเอรินสบตาแล้วยิ้มขำให้กัน เอรินกระซิบมินตราเบาๆอย่างสัพยอก

“แหม..คุณมิน ไม่ว่าเมื่อไหร่ คุณสองคนยังหวานใส่กันตลอดเลยนะคะ อิจฉานะคะเนี่ย ว่าแต่เพื่อนฉันอยู่ไหนคะวันนี้” เอรินหยอกเย้าพร้อมทั้งถามหาเพื่อนตัวน้อยอย่างอาร์ม ก็ได้รับคำตอบว่าเจ้าตัวน้อยยังหลับคุดคู้อยู่บนห้อง
หมู่นี้อาร์มเปลี่ยนเวลาการนอนทำให้นอนดึกมากๆและตื่นสายมากๆเช่นกัน

“ฉันมีปลาหมึกย่างฝีมือพ่อครัวเอกประจำร้านมาฝากค่ะ ขอบอกว่าตัวใหญ่มากๆ เนื้อเยอะมากๆด้วยค่ะ” เอรินและมินตราเดินคุยกันเข้าไปในบ้านอย่างสนิทสนม ก่อนที่เอรินจะทักทายอธิปแบบถือสนิทเช่นกัน

“สวัสดีค่ะ คุณพ่อคนเก่ง เดี๋ยวนี้จัดแจงแทนคุณแม่คนสวยทุกอย่างเลยเหรอคะ แหม..อยู่ในโอวาทจนฉันนึกอิจฉาคุณมินแล้วนะคะเนี่ย รู้งี้แย่ง..ตั้งแต่ที่ลอนดอนดีกว่า” เอรินแซวขำๆ อธิปและมินตราหันมามองหน้ากันยิ้มหวานให้กันอย่างแกล้งเอรินแล้วอธิปจึงเอ่ยแซวแรงๆออกไป

“กวนเหมือนเดิมเลยนะเอริน นี่ถ้าเธอแย่งฉัน งั้นพี่ชายฉันก็แห้วสิเอริน เค้าชอบเธออยู่น๊า อย่างนี้ต้องฟ้องอเล็กซ์แล้วมั้ง” อธิปกวนใส่เอรินเช่นกัน ทำเอาสาวน้อยแววตาสลดชั่วครู่ก่อนจะเบ้ปากใส่อธิปอย่างหมั่นไส้

“เชิญขี่ม้าสามศอกไปฟ้องที่ครีตเลยย่ะ ชิ ไปหาเพื่อนรักฉันดีกว่า คุณมินขา น้องอาร์มอยู่บนห้องใช่มั๊ยคะ ฉันขอขึ้นไปหาแกนะคะ” เอรินพูดหวานหูใส่มินตรา แต่สะบัดหน้าพรืดใส่อธิป ก่อนจะเดินหนีไปหาเจ้าตัวน้อยแทน

“โอมน่ะ แกล้งเค้าอยู่ได้ ก็รู้อยู่เอรินมีจุดอ่อนเรื่องพี่นนท์ เค้าจะเสียใจนะ” มินตราตีแขนสามีเพียะอย่างหมั่นไส้น้ำคำสามีเช่นกัน อธิปได้แต่ยิ้มแหยให้ภรรยาราวกับทำผิดนักก็ไม่ปาน

“โถ..ที่รัก ต้องตอกย้ำบ่อยๆ ยัยพูดจนลิงหลับเค้าจะได้ไม่ลืมพี่เราไง เออ..แล้วดูสิ บอกไม่สนใจๆ แต่ยังอุตส่าห์รู้อีกนะว่าอเล็กซ์อยู่ที่ครีต ไม่ได้อยู่ลอนดอนน่ะ เอากะเค้าสิ ยัยแก่นนั่นน่ะ” โอมพยักเพยิดกับภรรยาที่ดูจะนึกไม่ถึงข้อนี้ จนมินตราถึงกับพึมพำออกมาเบาๆเช่นกัน

“อืม..นั่นสิ แล้วเอรินรู้ได้ไงว่าพี่นนท์อยู่ครีตไม่ได้อยู่ลอนดอนน่ะ ห๊ะ..โอม” มินตราเกาะแขนสามีถามอย่างสงสัยนิดๆ

“ก็นั่นสิ อยากรู้เดี๋ยวเรามาเป็นผู้สังเกตการณ์ตอนสองคนนี้เจอกันจังๆดีกว่านะ” อธิปโอบภรรยาพร้อมทั้งยิ้มให้กันและกันอย่างมีความสุข


************************

ทางด้านเอริน สาวจอมแก่นค่อยๆย่องเข้ามาในห้องเพื่อนรักตัวน้อยอย่างแผ่วเบา มาหยุดนั่งลงบนเตียงข้างอาร์มอย่างเงียบกริบ มือเรียวสวยปัดผมหยิกรุงรังจากการนอนดิ้นของเด็กน้อยอย่างเบามือด้วยความเอ็นดู

“หวา..ยังงี้ก็อดเล่นกันเลยสิหนูอาร์ม พี่เอรินมาแล้วนะครับ” เอรินกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูน้อยของเพื่อนรักอย่างจะปลุกกลายๆ ใช้เวลาหยอกเย้าเจ้าตัวเล็กที่หลับอุตุไม่สนใจใยดีตนอยู่เป็นนานสองนาน อาร์มก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นสักที ทำเอาเอรินถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ

ทันใดนั้นเอรินก็ได้ยินเสียงรถยนต์แล่นมาจอดหน้าบ้านของมินตราพอดี ด้วยความสงสัยหญิงสาวจึงรีบลุกขึ้นไปส่องยังริมหน้าต่าง แล้วใบหน้านวลสวยก็แปลเปลี่ยนเป็นซีดขาว แววตาระริกเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ตกใจ ระคนยินดีที่ได้เห็นหน้าชายหนุ่มที่เปรียบเสมือนรักครั้งแรกเพียงชั่วครู่ก่อนที่ชานนท์จะเดินเข้ามาในตัวบ้าน

“ฮึ๊ย..มาได้ไง..คุณลุง นี่ตัวจริงหรือฉันตาลายฝันไปเนี่ย ทำไงดีๆ ยัยเอริน ทำไงดีล่ะทีนี้ โอ๊ยฉันตื่นเต้นจนแทบบ้าแล้วนะเนี่ย” เอรินเดินเป็นหนูติดจั่นอยู่บนห้องเด็กน้อยเพื่อนรัก

“โอ๊ย!! หัวใจจะวาย ดูฉันสิวันนี้แต่งตัวดูไม่ได้เลย กะโปโลขนาดนี้แล้วฉันจะเจอคุณลุงได้ยังไง โอ๊ย!!จะบ้า แย่แล้วยัยเอรินเอ๊ย”

มินตราดีใจจนออกนอกหน้าทันทีที่เห็นรถเป้าหมายคันที่สองแล่นมาจอดยังประตูรั้วปีกไม้สีขาว หญิงสาวรีบกุลีกุจอออกไปรอรับชานนท์ที่กำลังเดินเข้ามาถึงหน้าประตู ชายหนุ่มยิ้มรับให้มินตราอย่างอารมณ์ดี พร้อมถามหาอธิปและอาร์ม เมื่อมองหาไปทั่วบ้านแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาน้องสนิทกับเด็กน้อยที่เขารักเสมือนลูก

“อดัมส์กับอาร์มล่ะจ้ะ”

“โอมอยู่หลังบ้านค่ะ กำลังย่างของทะเลรอพี่นนท์อยู่ ส่วนอาร์ม..อยู่กับเพื่อนข้างบนโน้นค่ะ พี่นนท์ก็ไม่ช้านี่คะ พวกเราก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย มาทานข้าวกันก่อนแล้วค่อยดูแบบแปลนโรงแรมใหม่ดีกว่านะคะ ท่าจะต้องคุยกันยาวมินไม่รู้ว่าพี่นนท์ต้องการอะไรเพิ่มเติมรึเปล่า” แล้วมินตราก็ชี้ชวนให้ชานนท์มองอธิปผ่านทางหน้าต่างที่เห็นอยู่ไม่ไกล

“นั่นไงคะ น้องชายพี่ ตอนนี้เป็นคุณพ่อบ้านมากเลย”

ชายหนุ่มถึงกับขบขันไม่น้อยที่เห็นน้องชายสนิทกำลังหน้าดำคร่ำเครียดอยู่หน้าเตาอย่างขมีขมัน

“โอ้โห..เจ้าอดัมส์เดี๋ยวนี้เป็นแฟมิลี่แมนมากเลยนะ ถ้าไม่มาเห็นกับตาพี่คงไม่เชื่อ”

“เราไปหาโอมกันดีกว่าค่ะ เอ่อ..วันนี้มินมีแขกพิเศษด้วยนะคะ สาวน้อยของพี่นนท์ ตอนนี้เธออยู่ข้างบนกับอาร์มค่ะ ตอนนี้เค้าเป็นเพื่อนกันค่ะ อาร์มเค้ารักพี่เอรินมากเลย” มินตราแอบกระซิบชานนท์เบาๆ ส่งผลให้ชายหนุ่มถึงกับชะงักฝีเท้าหยุดมองไปยังทางบันไดด้วยประกายตาแวววาวอย่างตื่นเต้น มินตราถึงกับลอบยิ้มออกมาอย่างสมใจ

“อยากไปหาเธอมั๊ยคะ ห้องทางซ้ายนะพี่นนท์ เดี๋ยวมินไปเตรียมอาหารกับโอม พวกพี่ตามสบายนะคะ” มินตราจัดแจงเสร็จก็เดินออกประตูหลังบ้านไปโดยไม่ฟังคำทักท้วงของชานนท์ที่ยืนหันรีหันขวางอยู่

“เดี๋ยว เดี๋ยว..มิน” ชานนท์ร้องเรียกหาตัวช่วยแต่ไม่ทันเพราะมินตราจงใจหลบฉากให้เขาและเอรินได้อยู่กันตามลำพังโดยเฉพาะ

“หวังว่าจะสำเร็จนะโอม”มินตราดึงแขนสามีที่อยู่นอกบ้านด้วยกันให้มาแอบมองชานนท์ ที่ในที่สุดก็ตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไปจนได้


***************************

ชานนท์ก้าวขึ้นบันไดแต่ละขั้นอย่างเงียบกริบ ไม่เคยเลยที่หนุ่มใหญ่วัย 35 ปีอย่างเขาจะประหม่าได้มากถึงขนาดนี้ ยามที่จะได้เจอยัยกุหลาบชมพูที่เขาติดใจในรสจูบหวานซ่านใจที่เคยได้รับจากหล่อนนักหนา

แล้วชานนท์ก็ค่อยๆแง้มประตูห้องฝั่งซ้ายออกอย่างเบามือ เผยให้เห็นเอริน..ยัยกุหลาบชมพูของเขา เดินหน้ามุ่ยกลับไปกลับมาอย่างครุ่นคิด ชายหนุ่มค่อยๆเดินเข้าไปใกล้หล่อนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเอรินสังเกตเห็นถึงกับตะลึง

“คะ..คุณ!!” เอรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก ทันทีที่ชานนท์ค่อยๆเดินด้วยมาดสุขุมนุ่มลึกอย่างเคย เข้ามาใกล้หล่อนมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะมายืนชิดติดกับตัวหล่อน จนหญิงสาวต้องยกมือออกมากางกั้นปกป้องตนเองไม่ให้เขาเข้ามาประชิดได้มากกว่านี้

“ในที่สุดฉันก็เจอเธอ..ยัยกุหลาบชมพู” สีหน้ายิ้มกริ่มของชานนท์ที่ดูเจ้าเล่ห์ในสายตาของหล่อนเป็นหนักหนา เอรินถึงกับอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่

“คะ..คุณลุง..มาได้ยังไง” น้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมทั้งสีหน้าหวาดหวั่นของเอรินทำให้ชานนท์นึกอยากแกล้งหล่อนขึ้นมาตะหงิดๆ จึงตอบกวนสาวน้อยไปอย่างหมั่นเขี้ยว

“ก็นั่งเครื่องบินมาสิ..ถามได้” ชานนท์ค่อยๆรุกไล่เอรินที่เดินถอยหลังกรูดไปทีละน้อยจนไปจำนนอยู่กับผนังกำแพงหน้าห้องน้ำ เอรินถึงกับหน้าเสีย

“เมื่อกี้เรียกฉันว่าอะไรนะ” ชานนท์ลูบไล้ใบหน้านวลใสของเอรินที่ยืนใจเต้นไม่เป็นส่ำด้วยสายตาหยาดเยิ้ม จนหญิงสาวแทบจะเข่าอ่อนเลยทีเดียว

“กะ..ก็ คุณลุงไง” เอรินหลบหน้าหลบตาอ้อมแอ้มตอบชานนท์อย่างหวาดหวั่นสายตานั้นของเขา ชานนท์ถึงกับอมยิ้มได้ใจ

“แสดงว่าอยากโดนจูบ” ทันทีที่จบคำพูดกระเซ้าของชานนท์ เอรินถึงกับหน้าตื่น ตากลมสวยเบิกโพลงอย่างตกใจ รีบปฏิเสธในทันที

“ห๊า..มะ ไม่ใช่น๊า ยะ..อย่า อุ๊บ”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ ^^
ขอบคุณคุณปลายสีสำหรับคอมเมนท์ในตอนที่แล้วด้วยนะคะ




lovereason
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ส.ค. 2556, 21:54:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ส.ค. 2556, 21:54:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1790





<< ตอนที่ 6 : ความลับของบ้านสีขาว   ตอนที่ 8 : หลอกล่อปล้นจูบ..ยัยกุหลาบ >>
Sukhumvit66 28 ส.ค. 2556, 01:57:43 น.
เราก็ว่าชื่อเรื่องคุ้น ๆ เคยเจอที่ไหนน้า ที่แท้ก็จากพันทิปนี่เอง
มาฝากตัวเป็นรีดเดอร์ด้วยคนนะคะ


lovereason 29 ส.ค. 2556, 00:01:01 น.
ขอบคุณคุณSukhumvit66 ด้วยนะคะ
นุ่นจะพยายามมาอัพบ่อยๆค่า ^ ^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account