ใต้ปีกรักสีเพลิง {นวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ.อรุณ}
สร้อยผีเสื้อสีเพลิงจากคนแปลกหน้า
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๖ (ครึ่งหลัง)

“ผมเชื่อมั่นสายตาของอันดามัน” เป็นประโยคแรกที่แฟรงคลินเอ่ย เขาชี้ชุดโซฟารับแขกที่อยู่มุมหนึ่งของห้องแทนการออกคำสั่ง ซึ่งทั้งผู้จัดการและผู้ช่วยต่างก็รีบเข้าไปนั่งเจียมเนื้อเจียมตัวทันที

คนหนึ่งหวาดผวากับ ‘ความจริง’ ที่อาจถูกเปิดเผย ขณะอีกคนหนึ่งไม่อาจรู้เลยว่าอะไรกำลังคอยอยู่ข้างหน้ากันแน่

“เอาละ เกรซ ไหนๆคุณก็ภูมิใจกับโครงการที่คีรีธารากรุ๊ปนัก คุณลองสรุปรายละเอียดของโครงการนี้ให้ผมฟังหน่อยซิ”

“คือ...เกรซทำหลายโครงการพร้อมๆกันน่ะค่ะ อาจจำรายละเอียดได้ไม่ครบ”

ไม่ว่าสุภัทรชาจะบ่ายเบี่ยงเลี่ยงการตอบคำถามอย่างไร แต่แฟรงคลินก็ใช้ลูกล่อลูกชนระดับผู้บริหารซักไซ้ในรายละเอียดต้อนผู้จัดการสาวจนมุมจนได้ กระนั้นหญิงสาวก็ยังไว้เชิง “เกรซจำไม่ได้ค่ะ รายละเอียดอยู่ในสมุดจด ถ้าคุณแฟรงค์อนุญาตให้เกรซไปเอาสมุดจดมา รับรองว่าเกรซจะตอบคำถามคุณได้ทุกข้อค่ะ”

“งั้น...ลองยกสักโครงการที่คุณจำได้ให้ผมฟังหน่อยซิ”

“เอ่อ...” สุภัทรชาอึกอักซ้ำ

แฟรงคลินยิ้มนิดๆ ก่อนเลื่อนสายตาไปทางหญิงสาวอีกคนซึ่งนั่งก้มหน้ากัดริมฝีปากแน่น พลางถามเธอบ้าง “ไหนบอกรายละเอียดโครงการที่คีรีธารากรุ๊ปให้ผมฟังหน่อยสิ แพน!”

สุภัทรชาค่อยเบาใจบ้างว่าโชคยังเป็นของเธอ เพราะพรนางฟ้าก้มหน้างุดไม่ตอบอะไรสักคำ

“แพน...คุณทำให้ผมผิดหวังนะ เพราะตอนที่อันดามันเขียนเมลชมคุณ รวมกับสิ่งที่ตงยูพูดถึงคุณ ผมหวังว่าคุณจะมีดีมากกว่านี้เสียอีก อันดามันบอกว่าถ้าผมฝึกคุณดีๆ ผมอาจได้อันดามันคนที่สองไว้ช่วยงาน เสียดายจริงๆที่ลูกน้องเก่าของผมคงต้องคาดการณ์ผิดเป็นครั้งแรก”

พรนางฟ้าเงยหน้าขึ้นสบตาเจ้านายใหญ่ทันที มือขยับแว่นสายตาโดยอัตโนมัติ ท่าทางตื่นเต้น “คุณอันดามันพูดแบบนั้นจริงหรือคะ โอย...ช่างเป็นคำชมที่เพราะที่สุดในโลกเลย คุณอันดามันคนที่สองเนี่ยนะ!”

ดวงตาเธอเป็นประกาย ความรื่นเริงที่เต้นระบำอยู่ในใจทำให้ลืมควบคุมตัวเอง แค่เสี้ยววินาที หญิงสาวก็ปล่อยให้ปากเริ่มต้นอธิบายรายละเอียดของโครงการต่างๆที่อีกฝ่ายถามชนิดน้ำไหลไฟดับ

ผู้บริหารสูงสุดยิ้มด้วยความพอใจ “คุณตอบคำถามฉะฉานดีมาก อันดามันพูดถูกจริงๆ ผมจะแต่งตั้งให้คุณเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและออกแบบ”

“คุณแฟรงค์!” สองสาวอุทานขึ้นพร้อมกัน

“ไหนตอนเกรซ คุณบอกว่าต้องรอดูผลงานก่อนสามเดือนไงคะ” สุภัทรชาท้วงทันควัน

“นั่นเพราะผมยังไม่แน่ใจน่ะสิ ถึงต้องการความมั่นใจก่อน แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่าตัวเองมองคนไม่ผิด แพน...เดี๋ยวคุณย้ายของไปที่ห้องผู้อำนวยการฝ่ายได้เลยนะ ผมจะประกาศแจ้งทางเมลก่อน ส่วนหนังสือแต่งตั้ง จะเซ็นแล้วประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรไม่เกินสุดสัปดาห์นี้”

สุภัทรชาช็อก “ไม่ได้นะคะคุณแฟรงค์ คุณจะเลื่อนตำแหน่งลูกน้องเกรซข้ามขั้นแบบนั้นไม่ได้ คุณมั่นใจได้ยังไงว่าแพนจะเป็นผู้บริหารได้ เธอยังไม่เคยเป็นผู้จัดการด้วยซ้ำ”

“ก่อนเป็นผู้บริหาร คุณก็เป็นพนักงานธรรมดาเหมือนกัน” แฟรงคลินย้อนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“แต่ตำแหน่งผู้จัดการกับผู้อำนวยการมันต่างกันนี่คะ”

“คุณยังไม่เคยเป็นผู้อำนวยการเลย รู้ได้ยังไงล่ะว่ามันต่างกัน”

“ถ้า...ถ้าคุณทำแบบนั้น เกรซจะลาออกไปอยู่กับดาต้าเทค เอาลูกน้องกับลูกค้าไปด้วย” สุภัทรชาขู่มั่นใจว่าเจ้านายต้องเปลี่ยนการตัดสินใจแน่นอน คนทำงานเก่งสมัยนี้ไม่ใช่หากันง่ายๆ ยิ่งลูกค้าที่เธอสนิทสนมนั่นอีก เขาไม่กล้าเสี่ยงสูญเสียพนักงานอย่างเธอไปให้บริษัทคู่แข่งเด็ดขาด

“ตามกฎบริษัทแล้วปกติจะลาออกต้องบอกล่วงหน้าหนึ่งเดือนนะเกรซ แต่นี่ผมจะยกให้คุณเป็นกรณีพิเศษ ถ้ายืนกรานจะไปจริงๆ คุณเก็บของออกจากสำนักงานได้เลย แล้วพรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานอีก แต่ถ้าเปลี่ยนใจ...ซึ่งผมหวังให้เป็นแบบนั้น ผมจะถือว่าคุณไม่เคยพูดประโยคนั้น แล้วเราก็ทำงานร่วมกันไปตามเดิม กลับไปทบทวนให้ดีล่ะ เพราะคุณมีโอกาสตัดสินใจแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เอาละ...คุณไปได้แล้ว”

สุภัทรชากัดริมฝีปากแน่นบังคับตัวเองมิให้กรีดร้องเพราะความไม่พอใจ เธอฝืนลุกขึ้นด้วยมาดสง่างาม ยืดไหล่ตรงขณะก้าวออกจากห้อง หัวสมองหมุนจี๋...ความโกรธ ความไม่พอใจ รวมถึงริษยาเต้นพล่านอยู่ภายใน หญิงสาวกลับมาถึงบริเวณแผนกได้อย่างไรก็สุดรู้ น้ำตาที่รินลงมาอาบแก้มทำให้ลูกน้องตกใจ

“คุณเกรซ นั่นร้องไห้หรือคะ”

สุภัทรชายกมือแตะใบหน้าด้วยความงุนงง ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่าความเสียหน้าจะทำให้เจ็บปวดรุนแรงเพียงนี้ เธอเงยขึ้นมองพนักงานที่ทยอยลุกมายืนล้อมเธอ สีหน้าทุกคนเจือความห่วงใย ความคิดหนึ่งวาบขึ้นในหัว และสุภัทรชาไม่รอช้า ปล่อยโฮ โพล่งคำพูดออกมาทันที “แพน...แพนขโมยผลงานของเกรซ ใส่ร้ายว่าเกรซเอาลูกค้าไปให้คู่แข่ง แล้วก็หลอกให้แฟรงค์ยกตำแหน่งผู้อำนวยการให้เขา!”

ได้ผล! เสียงงึมงำวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นทันที ทุกคนพร้อมใจกันเชื่อสิ่งที่เธอพูดโดยไร้ข้อแม้

“ว่าแล้วเชียว ดาเคยเห็นแพนเข้าไปส่งเมลในห้องคุณเกรซ เขาคงใช้วิธีนี้ทำลายชื่อเสียงคุณเกรซในสายตาผู้บริหารแน่ๆเลย” ญาดาแสดงความเห็น

ทั้งที่เธอเป็นคนสั่งให้พรนางฟ้าส่งบรรดาเมลทั้งหลายนั่นเอง แต่เรื่องอะไรสุภัทรชาจะแก้ต่างให้เพื่อนล่ะ เธอแสร้งร้องไห้หนักขึ้น พยายามกลืนก้อนสะอื้น แล้วตัดสินใจเอ่ย “เรื่องนี้มัน...มันแย่มาก เกรซรับมือไม่ไหวแล้ว ขอตัวกลับบ้านก่อนนะ” หญิงสาวเข้าหยิบกระเป๋าสะพายออกจากสำนักงาน ไม่สนใจแม้จะเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงก่อนเลิกงาน ความผิดหวัง อับอาย และเสียหน้า ทำให้เธอเหวี่ยงแหความโกรธเกรี้ยวไปทั่ว

นอกจากพรนางฟ้าและแฟรงคลินแล้ว อีกคนที่เธอหมายหัวไว้ ย่อมต้องมีชื่ออันดามัน รัชชตานนท์รวมอยู่ด้วยแน่นอน!

ธุระก็ไม่ใช่ ไม่รู้จะมายุ่งอะไรด้วย ในเมื่ออันดามันสอดมือเข้ามาวุ่นวายในเรื่องของเธอ ถ้าเธอจะทำให้ฝ่ายนั้นเสียใจบ้าง ก็อย่าหาว่าสุภัทรชา นาริยะสกุล ใจร้ายก็แล้วกัน!





ทั้งที่ควรยินดีกับการประกาศเลื่อนขั้นอันไม่คาดฝันจากเจ้านาย แต่ไฉนความรู้สึกที่ควรจะรื่นรมย์กลับเหือดหายจากใจพรนางฟ้าง่ายดายนักก็สุดรู้ เพียงกลับมาที่โต๊ะทำงาน ลูกโป่งในใจที่อัดแก๊สแห่งความสุขเต็มเปี่ยมก็ถูกปล่อยลมออกทั้งรวดเร็วและรุนแรงจนตั้งตัวไม่ทัน เพราะไม่เพียงไม่มีเพื่อนร่วมงานมาแสดงความยินดีกับเธอ ดูเหมือนทุกคนจะพร้อมใจกันทำเป็นมองไม่เห็นเธอด้วยซ้ำ

ทีแรกยังเข้าใจว่าแฟรงคลินอาจยังไม่ได้ส่งเมลประกาศการเลื่อนตำแหน่งให้พนักงาน พรนางฟ้ารีบเช็กอีเมลด้วยความแปลกใจ แต่แล้วก็ยิ่งข้องใจหนัก เมื่อพบว่าอีเมลฉบับดังกล่าวนอนนิ่งอยู่ในกล่องจดหมายแล้ว

แฟรงคลินเขียนจดหมายสั้นๆถึงพนักงานทั้งบริษัท ประกาศแต่งตั้งเธอเป็นผู้อำนวยการ มีผู้บริหารจากแผนกต่างๆส่งเมลมาแสดงความยินดีกับเธอ พนักงานจากฝ่ายอื่นก็มีบ้างประปราย แต่น่าแปลก...ไม่มีจดหมายจากเพื่อน...เอ๊ย! ลูกน้องในแผนกของเธอแสดงความยินดีด้วยเลยสักคน!

หญิงสาวไม่มีเวลาหยุดคิดอะไรอีก เพราะแม่บ้านเข้ามาช่วยเธอเก็บของที่โต๊ะเพื่อย้ายไปยังห้องทำงานส่วนตัวของผู้อำนวยการที่อยู่ด้านในสุด ห้องที่กว้างกว่า ใหญ่กว่า และวิวสวยกว่าห้องของสุภัทรชา!

พรนางฟ้านั่งประจำโต๊ะทำงานตัวใหม่มองรอบๆห้องอันกว้างขวางอย่างหดหู่ มีประโยชน์อะไรที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง ถ้าไม่มีเพื่อนร่วมยินดีกับเธอเลยสักคน แย่ยิ่งไปกว่านั้น...เพื่อนสนิทคงกำลังโกรธจนแทบไม่อยากเห็นหน้าเธออีกต่อไปแล้ว!





“ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก” เสียงระบบอัตโนมัติที่ดังผ่านสายโทรศัพท์มาซ้ำๆทำให้สุภัทรชากดตัดสาย โยนโทรศัพท์ลงที่เบาะข้างๆแล้วกรีดร้องลั่นรถ “บ้าเอ๊ย! พี่พัทธ์นะพี่พัทธ์ ทำอะไรอยู่เนี่ย ทำไมต้องปิดเครื่องด้วยก็ไม่รู้!”

ในอารมณ์ต้องการหาที่ระบาย หาพวก สุภัทรชาพร้อมจะยึดใครก็ได้ที่เทิดทูนเธอไว้เป็นหลัก มิให้ตนเองจมอยู่ในทะเลแห่งความผิดหวังจนสำลักตาย มือไวเท่าความคิด หญิงสาวควานหาโทรศัพท์มากดโทร.ออกอีกครั้ง ทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่บนท้องถนน

“คุณอยู่ที่ไหน” เธอถามโดยไม่เอ่ยแม้คำทักทาย รอจนได้คำตอบแล้วก็กรอกเสียงลงไปอย่างเอาแต่ใจ “เกรซอยู่แถวนี้พอดี เดี๋ยวจะไปหานะ” แล้วเธอก็ตัดสายไป

ไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึงจุดหมาย สุภัทรชาเดินฉับๆไปยังร้านอาหารตรงหน้า กิริยาที่ใครคนหนึ่งยิ้มปลาบปลื้มชื่นชมก้าวยาวๆเข้ามารอรับหน้าที่หน้าประตูร้าน ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวในใจหญิงสาวค่อยบรรเทาลงทีละน้อย

“คุณเกรซ...ดีใจจังที่วันนี้คุณโทร.หาผม” รังสฤษฏ์แสดงความยินดีออกนอกหน้า

“ไปช็อปปิ้งเป็นเพื่อนเกรซหน่อยสิ” วันนี้เธอจะเหมาของให้หมดห้างเลย คอยดู!

“เอ่อ...พอดีผมกินข้าวกับเพื่อนๆอยู่ เดี๋ยวขอกลับเข้าไปบอกเพื่อนก่อนนะครับ” ชายหนุ่มเหลียวไปทางร้านอาหารด้านหลังด้วยอาการละล้าละลัง แต่เห็นชัดว่าเขาอยากไปกับเธอตัวสั่นแล้ว

“เพื่อน?” สุภัทรชาชะเง้อมองผ่านกระจกใสเข้าไปในร้าน “โต๊ะไหน...เดี๋ยวเกรซไปบอกให้เอง”

โต๊ะที่เขาชี้ให้ดูอยู่ไม่ไกลจากประตูร้านนัก พอมองเห็นจากระยะสายตา ผู้ชายคนหนึ่งนั่งหันหน้ามาทางเธอพอดี สูทสีเข้มทำให้เขาดูดี ยิ่งเมื่อรวมกับผิวขาวและใบหน้าหล่อเหลาสะอาดตาก็ทำให้น่ามองขึ้นไปอีก เพื่อนร่วมโต๊ะอีกคนหันข้างให้ประตู เสื้อยืดเก่าๆกับยีนปอนๆว่าแย่แล้ว ซีกหน้าด้านข้างที่เห็นหนวดเครารุงรังและผมยาวเรื้อถึงต้นคอยิ่งทำให้น่ารังเกียจเข้าไปใหญ่

“คนใส่สูทก็พอไหวนะ แต่อีกคนนี่...อี๋! สกปรก คุณคบเพื่อนอะไรเนี่ย ดูไม่ได้เลย น่าขยะแขยงชะมัด” เธอห่อไหล่ ทำท่าขนลุกขนพอง

รังสฤษฏ์หัวเราะขันๆ “อะไรกันครับ คุณเกรซจำพี่คีไม่ได้เหรอ คนใส่ยีนกับเสื้อยืดนั่นก็จิตรกรที่คุณเกรซเคยไปร่วมงานเปิดตัวภาพเขียนเมื่อเดือนก่อนไงฮะ”

คนฟังเบิกตาโต ขมวดคิ้วนิดๆไม่เชื่อสายตา เมื่อหนุ่มหล่อเร้าใจสไตล์เม็กซิกันที่เคยเห็นหน้าไกลๆ มาวันนี้กลายสภาพเป็นโจรห้าร้อยหน้าตารกครึ้มด้วยหนวดเครา แถมยังแต่งตัวเก่าปอนสกปรกจนน่ารังเกียจ เพียงนึกถึงจิตรกรผู้นั้น...ความหงุดหงิดก็รื้นขึ้น อีตานี่แหละที่พรนางฟ้าบอกว่ายกภาพ ‘ของเธอ’ กลับไปที่โต๊ะเพื่อน!

หมั่นไส้! เห็นผู้หญิงเชยๆนั่นดีกว่าเธอ ดีละ...อย่างนี้ต้องหว่านเสน่ห์ให้หลงให้รัก แล้วหักอกทิ้งให้เข็ด!

หญิงสาวไม่หยุดคิดสักวินาทีเมื่อผลักประตูเดินปราดเข้าไปยืนที่โต๊ะนั้นทันที “สวัสดีค่ะคุณคิรินทร์ เสียดายจังวันที่งานเปิดตัวคุณเราไม่ได้ทักทายกัน ดิฉันสุภัทรชา นาริยะสกุล ค่ะ หรือจะเรียกว่าเกรซก็ได้”

เจ้าของชื่อหันมาทางเธอ ดวงตาเขาไม่บอกเลยว่าชื่นชมหรือยินดี มันว่างเปล่าจนน่าตบนัก!

“คุณเกรซ...อ้อ...” เขาพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบไปอีก

ผิดแผนเป็นบ้า! สุภัทรชาคำรามในใจ เกิดมาไม่เคยเจอใครเย็นชากับความงามของเธอขนาดนี้มาก่อนเลย แต่ด้วยมารยาทอันดี เธอจำต้องฝืนยิ้มอีกครั้ง “นี่คุณคิรินทร์จะไม่แนะนำเพื่อนให้เกรซรู้จักบ้างหรือคะ”

กลับเป็นรังสฤษฏ์ที่ก้าวมายืนเคียงข้างรีบแนะนำแทน “คุณเกรซครับ นี่พี่ภูผาครับ”

“สวัสดีค่ะคุณภูผา ดิฉันสุภัทรชาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักคุณภูผานะคะ”

“เรียกมันว่าท่านทูตก็ได้” คิรินทร์เสริมด้วยท่าทียวนๆ

“เฮ้ย! ล้อเลียนซะจริงนะเอ็งนี่” หนุ่มหล่อในชุดสูทเอ็ดเพื่อน ก่อนหันกลับมาทางเธอ “สวัสดีครับคุณสุภัทรชา ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”

“คุณภูผาเป็นทูตหรือคะ” น้ำเสียงเธอทอดอ่อนลงอีกนิดด้วยความจงใจ ริมฝีปากแต้มรอยอ่อนหวานเพิ่มขึ้นเช่นกัน จุดหมายที่ก้าวเข้ามาทักทายที่โต๊ะเปลี่ยนในเสี้ยววินาที เห็นกันอยู่ว่าหน้าตา การแต่งตัว และหน้าที่การงานของ ‘ท่านทูต’ ชนะเลิศ ทิ้งผู้ชายอีกสองคนไม่เห็นฝุ่น!

“ผมแค่ทำงานอยู่กระทรวงการต่างประเทศเท่านั้นเองครับ อย่าไปฟังที่เพื่อนมันประชดผมเลย"

สุภัทรชาปรายตามองคิรินทร์แล้วบิดริมฝีปากดูหมิ่น เมื่อเป้าหมายเปลี่ยน เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำดีกับผู้ชายคนนี้อีก จึงถือโอกาสนั้นประชดเบาๆเป็นการเริ่มต้น “ต๊าย! เกรซต้องดีใจใช่ไหมคะ ปกติไม่ค่อยเจอผู้ชายช่างประชดเลย นึกว่านิสัยแบบนี้มีแต่ในผู้หญิงซะอีก”

คิรินทร์ยิ้มเรื่อยๆ “ดีนะเนี่ยที่คุณว่ามีแต่ผู้หญิง ทีแรกผมนึกว่าคุณเกรซจะบอกว่านิสัยช่างประชดมีแต่ในพวกชาวบ้านเท่านั้น ผู้ดีเขาไม่ประชดกันหรอก ถ้าคุณพูดแบบนั้นผมคงโกรธตายเลย ที่มาหาว่าผมเป็นไพร่”

สุภัทรชาสะอึกเมื่อถูกย้อนแรงไม่แพ้กัน ครั้นจะอาละวาดก็กลัวถูกหาว่าร้อนตัว จึงทำได้เพียงพยายามหายใจเข้าลึกๆ บอกตัวเองให้ใจเย็น เดี๋ยวเสียคะแนนหมด เพราะ ‘ท่านทูต’ กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาแสดงความสนใจอยู่

ก่อนสงครามน้ำลายจะลุกลามไปมากกว่านี้ ภูผาก็รีบผายมือไปที่เก้าอี้ตัวที่ยังว่างอยู่ “ถ้าคุณสุภัทรชาไม่รังเกียจ ให้เกียรติร่วมโต๊ะกับพวกเราก่อนสิครับ”

“อุ๊ย! ไม่ได้หรอกค่ะ” เธอปฏิเสธอย่างมีจริต พลางทิ้งสายตาเศร้าๆให้ภูผา “เกรซไม่อยู่ในอารมณ์จะสังสรรค์หรอกค่ะ วันนี้เพิ่งเจอเรื่องสะเทือนใจมาหยกๆ”

“คุณเกรซเป็นอะไรครับ” รังสฤษฏ์รีบถามด้วยความเป็นห่วง

“ถูกเพื่อนหักหลังค่ะ ใส่ร้ายเรื่องงาน แล้วก็แย่งตำแหน่งผู้อำนวยการไปหน้าด้านๆเลย” หญิงสาวเม้มปากนิดๆ สูดหายใจเข้าลึก ทำกิริยาคล้ายกำลังกล้ำกลืนความโศกรันทดลงในใจ

คิรินทร์ตวัดตามองเธอทันที “เพื่อน? คุณคงไม่ได้หมายถึง...”

“เกรซหมายถึงพรนางฟ้าน่ะค่ะ แพนใช้ผลงานของเกรซไปเอาความดีความชอบกับเจ้านาย ใส่ร้ายว่าเกรซแอบอ้างงานของเขามาเป็นของตัวเอง นี่นายก็เชื่อเขานะคะ ถึงขนาดจะเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้อำนวยการเลยด้วย” เธอแกล้งทำเสียงเครือละม้ายน้ำตาเจียนจะหยาดหยด

“คุณพรนางฟ้าเนี่ยนะจะทำอย่างที่คุณพูด ผมไม่เชื่อ เพื่อนคุณเขา...” คิรินทร์แย้งยังไม่ทันจบ ก็ถูกแทรกขึ้นเสียก่อน
“กรุณาอย่าพูดถึงเขาอีกเลยค่ะ เกรซไม่นับคนทรยศหักหลังอย่างนั้นเป็นเพื่อนอีกต่อไปแล้ว!”



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ส.ค. 2556, 05:41:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ส.ค. 2556, 05:41:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 1361





<< ตอนที่ ๖ (ครึ่งแรก)   ตอนที่ ๗ (ครึ่งแรก) >>
Pat 28 ส.ค. 2556, 06:15:57 น.
สมยััยเกรซ ถูกหักหน้าอย่างแรง แต่ยังไม่วายคายพิษใส่แพนอีก แพนได้ตำแหน่งโดยชอบธรรมแล้ว แต่จะทำงานลำบากขึ้นหรือเปล่าถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากลูกน้อง


สิริณ 28 ส.ค. 2556, 06:34:23 น.
จัดหนัก 'คุณเกรซ' กันต่อเนื่องไปเลยจนจบบทค่ะ
หวังว่าตอนนี้คงจะสะใจใครอีกหลายๆคนนะคะ ฮี่ๆๆๆ

เสียดายหน้านี้ไม่มีทุเรียน
เพราะพฤติกรรมยายเกรซนับจากนี้
คงจะวอนโดนหนามทุเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ แฮ่...



ตอบคอมเม้นต์กันเลยดีกว่าเนอะ

@Sukhumvit66 : คาดว่าตอนล่าสุด
คงทำให้คุณสุขุมวิท๖๖ สะใจ ออกนอกหน้าได้เลย
เพราะนางเริ่มแพ้ภัยตัวเองแล้วนะเออ



@ lovemuay : คิดเล่นๆว่าถ้าชีวิตจริงใครที่มันร้ายนัก
เจอแบบยายเกรซเข้าบ้าง
เราคงสะใจยิ่งกว่านี้อีกเนอะ



@Furzan : วี้ดว้ายกระตู้วู้
นักอ่านเงายอมปรากฏตัวแล้ว
ฉากสะใจนี่ดีจริง อิอิ

ถ้าไม่รังเกียจ
รบกวนส่งที่อยู่ไว้ให้สิริณทางกล่องจดหมายด้วยนะคะ
สิริณอยากส่งโปสต์การ์ดไปทักทายค่ะ



@พันธุ์แตงกวา : คนทำงานเก่งๆ
มองปุ๊บก็มองออกจริงๆนะ ว่าใครทำหรือไม่ทำงาน
ถ้าปลื้มหนูเอ็ม ก็ต้องติดตามกันต่อค่ะ
(ยังคงล่อลวงไม่เลิก)
เพราะหนูเอ็มจะมารับเชิญในเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะทีเดียว

ป.ล. เห็นคุณแตงกวาเขียนคำว่า เกม ทีแรก
ยังแอบยิ้มอยู่เลย 55555



@Chii : อันดามันนางเก่งมาตั้งแต่ "แผนก่อการรัก" แล้วค่ะ
ไหนๆมารับเชิญที่เรื่องนี้ทั้งที
ก็ต้องเก่งให้ตลอดรอดฝั่ง เดี๋ยวคะแนนนิยมตกค่ะ 55555

รบกวนคุณ Chii ฝากที่อยู่ไว้ให้สิริณทางกล่องจดหมายด้วยนะคะ
สิริณอยากส่งโปสต์การ์ดไปทักทายกันค่ะ

หรือหากเล่นเฟซบุ๊ค ก็อยากชวนไปไล้ค์เพจ SirinFC
ตอนนี้มีกิจกรรมแจก สนิมดอกรัก อยู่นะคะ
ไปร่วมสนุกกันได้เลย



@จิรารัตน์ : เชื่อว่าร้อยละ 99 ของคนที่ชอบฉากนี้
เคยเจอนางมารร้ายแบบยายเกรซในที่ทำงานมาแล้วทั้งสิ้น 5555



@goldensun : กรรมยังเพิ่งเริ่มวิ่งตามยายเกรซเองค่ะ
จากนี้...นางคงยิ่งแค้นพรนางฟ้านะเนี่ย อิอิ



@ Pat : พระเจ้าไม่เข้าข้างคนผิดเนอะ 55555



@nateetip : ดีใจจังที่คุณนทีทิพย์ชอบ
ปลื้มซ้ำสองกับคำว่า "สนุก" ฮี่ๆๆๆ

ไหนๆก็หลงมาอ่านนิยายของสิริณแล้ว
นักเขียนจอม 'ขอ' คงไม่ปล่อยให้ลอยนวล
'ขอ' ที่อยู่คุณนทีทิพย์ด้วยค่ะ
ส่งมาทางกล่องข้อความของเว็บเลิฟเลยก็ได้
เดี๋ยวสิริณจะส่งโปสต์การ์ดไปทักทายกันค่ะ :D



@lovereason : หนูนุ่นน่ารักมาก
มาทักทายกันทั้งที่ถนนฯ และที่นี่
ขอกอดสองที หอมแก้มสามที อิอิ
พี่ฝากรอยยิ้มไปกับโปสต์การ์ดหอบใหญ่
เลยอาจทำให้มันเดินทางช้าไปบ้าง ฮ่าๆๆ
ถ้าได้รับแล้ว รบกวนมาสะกิดบอกกันบ้างนะคะ



ขอบคุณเพื่อนนักอ่านทุกคนที่กดไล้ค์ และทุกยอดวิว
สำหรับตอนที่แล้วนะคะ
เป็นความปลาบปลื้มจริงๆ
ยิ้มหน้าบานแล้วววววววว

กระซิบบอกความลับนิดนึงนะคะ
ตอนนี้ปก ใต้ปีกรักสีเพลิง เสร็จแล้ว
สวยมากด้วยยยยย
เพื่อนๆเก็บตังค์รออุดหนุนกันได้เล้ยยยยย <3 <3 <3


lovemuay 28 ส.ค. 2556, 06:49:32 น.
ยัยเกรซไม่วายคายพิษไว้จนได้ ช่ายเหอะพอความจริงเปิดเผยจะใีหน้าอยู่ในออศฟิศอีกได้ไง


พันธุ์แตงกวา 28 ส.ค. 2556, 09:16:15 น.
ยัง ยังจะไม่สำนึกยายคุณเกรซนี่ แล้วยังจะไปแค้นหนูเอ็มอีกด้วย ไม่รู้ซะแล้วว่าใครเป็นใคร จัดให้หนักเลยนะคะไรท์เตอร์


จิรารัตน์ 28 ส.ค. 2556, 12:10:16 น.
แม่เจ้า นางได้ออสการ์นางร้ายยอดเยี่ยมไปครอง // เพลียกับนางมาก


Sukhumvit66 28 ส.ค. 2556, 18:42:56 น.
กรี๊ด กรี๊ด สะใจมากค่ะ อยากให้เพื่อนร่วมงานตาสว่างด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ อิอิ


goldensun 28 ส.ค. 2556, 19:27:13 น.
เกรซทำได้ยังไง แล้วเพื่อนร่วมงานไม่รู้เลยหรือคะ ว่าใครเป็นเจ้าของผลงาน ทำงานด้วยกันแท้ๆ ไม่น่าเชื่อ
แต่พรที่หวังนี่ ให้ผลกับแพนแบบติดจรวด สร้างทางลัดให้เลย แต่คงอึดอัดจนกว่าความจริงจะเปิดเผยนะคะ
คิรินทร์จะคล้อยตามเกรซรึเปล่า


lovereason 29 ส.ค. 2556, 00:07:52 น.
ขอบคุณค่า พี่เวย์ ^^

รอๆๆเลยค่า

เกรซนี่จริงๆเลย ไม่ไหวเลยค่ะเจ้คนนี้ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account