จะเก็บไว้ในใจจนนิรันดร์
ถ้าไม่มีงานสัมมนานั้นอังศุมาลินคงไม่นึกถึงเขาคนนั้นอีก ทั้ง ๆ ที่หลายปีที่ผ่านมาเธอลืมเขาไปแล้วแท้ ๆ เขาที่เธอแอบรักมาตั้งแต่เรียนมัธยม เขาที่ไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง และเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
Tags: รักสามเศร้า / สับสน / วุ่นวาย

ตอน: 9 เสียใจ

9 เสียใจ

อังศุมาลินนั่งเหมือนคนไร้วิญญาณอยู่ที่ระเบียงห้องคนไข้ เธอดีใจที่ยายของเธอไม่เป็นอะไรมาก และพัฒนากรก็ไม่ได้เจ็บตัวมากด้วย แต่การที่คนรักของเธอบอกเลิกโดยใช้เหตุผลของความหวาดระแวงนั้นมัน...ไม่รู้จะอธิบายได้อย่างไร

“อิ้งหนูทานข้าวบ้างนะ”

รวีดา แม่ของอังศุมาลินเดินเอาจานข้าวมาให้ลูกสาว

“หนูไม่หิวจ๊ะ”

“ไม่หิวก็ต้องกิน ตอนบ่ายยายจะออกจากโรงพยาบาลแล้วโทรให้พ่อมารับหน่อยสิลูก”

“ค่ะ”

อังศุมาลินรับคำแล้วหยิบโทรศัพท์กดเลขสามแล้วโทรออก

[[อิ้ง]]

“เฮ้ย!”

อังศุมาลินร้องเสียงหลงรีบเอาโทรศัพท์มาดูหลังจากเสียงที่รับสายเธอนั้นไม่ใช่พ่อของเธอ และพอเอาเบอร์มาดูมันก็เขียนว่า ‘พีม’ เธอไม่
เคยบันทึกเบอร์ของพัฒนากรแน่ ๆ

“อะไรลูก”

รวีดารีบเดินมาดูลูกสาว

“แม่ดาใครเอาโทรศัพท์หนูไปเล่น”

[[ฮะโหล ฮะโหล อิ้งเป็นอะไรรึเปล่าอิ้ง ฮะโหล]]

“ไม่มีนี่ลูก เอ๊ะ! เขายังไม่ได้วางสายนี่ลูกคุยกับเขาก่อนไหม โทรศัพท์แม่มาเดี๋ยวแม่ไปรับก่อนนะลูก”

รวีดารีบเดินเข้าไปในห้องพักคุณยาย อังศุมาลินมองโทรศัพท์อย่างช่างใจก่อนจะเอามันมาแนบหูอีกครั้ง

“ฮะโหล”

[[อิ้ง เรานึกว่าเธอเป็นอะไรเสียอีก ทำไมเงียบไป]]

เสียงปลายสายดูเป็นห่วง

“เธอใช่ไหมที่เล่นโทรศัพท์เรา ใครอนุญาตไม่ทราบ”

“อิ้งคุยเสร็จไปหารถมารับยายด้วยนะพ่อไม่ว่างติดงานด่วน”

รวีดาตะโกนมาจากในห้อง

[[ยายเธอจะออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอ เดี๋ยวเราไปรับนะ ตู๊ด ๆ ๆ]]

“นี่เดี๋ยวสิยะ”

“อิ้งเป็นอะไรรึเปล่า เมื่อกี้หนูคุยกับใครลูกดูหนูโมโหมากเลยนะ”

“พีมคะ เพื่อนสมัยเรียน”

“พีมที่หนูเคยแอบชอบนั้นเหรอ ถึงว่า...”

“ถึงว่าอะไรคะ”

“แฟนเราถึงได้โมโหแบบนั้น ตาอิฐนี่นะ อิ้ง”

รวีดาต้องหยุดพูดเมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้หันมากอดเธอ รวีดาก็ได้แต่ลูบหัวปลอบใจ




อธิษฐานกดโทรศัพท์หาเพื่อนที่เป็นหมอที่ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลที่ยายของอังศุมาลินเข้ารักษา

“ต้น ยายของอิ้งได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ เออ...ขอบใจ”

อธิษฐานวางสายก่อนจะเดินเข้าไปในห้องประชุม อย่างน้อยเขาก็สบายใจขึ้นที่การกระทำของเขาไม่ได้ทำให้คนที่อังศุมาลินรักต้องเป็นอะไรไป

วันนี้ทางโรงพยาบาลได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนอธิษฐานเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่สามครั้งก่อนหน้านี้ยังตัดสินกันอย่างเป็นผลไม่ได้

“เชิญนั่ง”

คุณปวรภัท กรรมการผู้บริหารใหญ่ของโรงพยาบาล MBST เรียกให้อธิษฐานนั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด อธิษฐานยกมือไหว้ก่อนที่จะนั่ง

“การตัดสินในวันนี้คุณคงไม่โทษทางโรงพยาบาลเราว่าทอดทิ้งคุณนะ”

เริ่มพูดแค่นี้อธิษฐานก็รู้แล้วว่าเขาจะถูกตัดสินอย่างไร

“เราจำเป็นที่ต้องรักษาชื่อเสียงของโรงพยาบาล แม้ที่จริงแล้วผมยังอยากได้ฝีมือคุณอยู่ แต่เราก็ต้องพูดกันถึงส่วนรวม คุณไม่ต้องมา
ทำงานอีกแล้วนะต่อไปนี้”

“ครับ”

อธิษฐานไม่คิดจะโต้แย้งใด ๆ ทุกคนในห้องเดินออกไปทีละคนจนเหลืออยู่ไม่กี่คน

“เสียใจด้วยนะเพื่อน”

อัครพลเดินมาแตะไหล่อธิษฐานก่อนจะเดินออกจากห้องไปอีกคน พร้อมรอยยิ้ม

“มันน่านัก”

หมอสาวตัวเล็กกำมือแน่นทุบโต๊ะ

“ใจเย็น ๆ เนว”

หมอหนุ่มอีกคนเดินมาลูบหลังภรรยา

“หมออิฐพี่กับทุกคนในห้องนี้เอาใจช่วยหมออิฐนะ”

นรีเป็นตัวแทนเพื่อน ๆ เดินมาให้กำลังใจอธิษฐาน

“ทุกคนครับ ผมมีเรื่องเดียวที่อยากจะขอร้อง อย่าบอกอิ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ”

อธิษฐานยกมือไหว้ทุกคนในห้อง

“จ๊ะ พวกเราทุกคนสัญญา แต่อิฐต้องให้พี่ช่วยนะ เพื่อนพี่ที่เป็นทะนายเพิ่งกลับมาเขาจะช่วยเธอได้”

นรียื่นข้อต่อรองที่เคยเสนอไปหลายครั้งแต่อธิษฐานเคยปฏิเสธ

“ขอบคุณครับ”




พัฒนากรยิ้มหน้าบานเมื่อรวิดาชวนเขาและพี่ชายอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน แต่พอเห็นอังศุมาลินกำลังนั่งเขี่ยข้าวในจานโดยไม่มีทีท่าว่าจะตักขึ้นมากินก็พากินไม่ลงไปด้วย

หลังจากทานข้าวเสร็จอังศุมาลินก็ขอตัวไปอยู่ในห้องคนเดียวโดยไม่ยอมฟังเสียงรวิดาที่ให้นั่งคุยเป็นเพื่อนพัฒนากร และพฤตินัย

“แม่เคยเห็นอาการแบบนี้ของอิ้งเมื่อนานมาแล้ว”

รวีดาพูดขึ้น พัฒนากรรีบหันมาตั้งใจฟัง

“ตอนนั้นอิ้งกำลังจะจบมอสาม เย็นวันนั้นแม่เห็นเขาร้องไห้อย่างนัก ถามก็ไม่ตอบว่าเป็นอะไร แต่พอเพื่อนเขาโทรมาเขาก็หายเป็นปริบทิ้ง”

พัฒนากรฟังแล้วก็นึกออก ตอนมอสามอังศุมาลินที่ไม่รู้ว่าได้เบอร์เขามาจากไหน ส่งข้อความไปหาเขา แล้วแกล้งไม่บอกว่าใคร จนหลายวันผ่านไป

/เราจะบอกเธอว่าเราเป็นใคร เย็นนี้ช่วยอยู่คนเดียวนะ/

ข้อความหนึ่งส่งมาหาเขา เขาเองก็ตั้งใจจะอยู่คนเดียวแต่...

‘ไอ้พีมเล่นเกมด้วย’

‘ข้าเล่นก่อน’

‘ข้าก่อน’

เพื่อน ๆ เกือบสิบชีวิตมาเล่นบ้านเขาในเย็นวันนั้น และเธอก็โทรมา พัฒนากรรีบรับสายแล้วเดินเข้าไปคุยในห้อง เพื่อน ๆ ที่เห็นท่าทาง
แปลก ๆ เลยเดินไปแอบฟัง

‘เล่นเกม...อืมขอบใจ...อิ้งเองเหรอ อืม ไม่โกรธ บายจ๊ะ’

พัฒนากรแอบผิดหวังแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เคยได้ยินมาบ้างว่าอังศุมาลินแอบชอบเขา แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะแกล้งส่งข้อความมาหาแบบนี้

‘เฮ้ยไอ้พีมยัยอ้วนนั้นโทรหาแกเหรอ เล่ามา’

เพื่อนคนหนึ่งคาดคั้น เขาเลยเล่าเรื่องให้ฟังและเพื่อนคนเดิมก็เอาโทรศัพท์เขาไปเล่นพักหนึ่งแล้วก็เอามาคืน ค่ำวันนั้นมีเบอร์แปลกอีก
เบอร์โทรเข้ามา

‘ฮะโหลใครครับ ศรินเหรอ อืม ทำไมนะ เราไม่ได้ส่งไปนะ จริง ๆ ทำการบ้านอยู่ อืม บายจ๊ะ’

ศิรินธาเพื่อนสนิทของอังศุมาลินโทรหาเขา บอกว่าเขาส่งข้อความไปหาอังศุมาลิน ชายหนุ่มรีบเปิดดู

/โทรหาเราแบบเป็นเพื่อนได้ แต่อย่าบ่อย รำคาญ/

‘เฮ้ย!’

และมีข้อความค้างอยู่อีกหนึ่งข้อความ

/เราแค่อยากแกล้งเธอ ขอโทษที่ทำให้รำคาญ เราคิดกับเธอแค่เพื่อน จริง ๆ/

ในตอนนั้นเขาก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเขาก็บอกความจริงกับศิรินธาไปแล้ว และเพื่อนก็คงจะไปบอกกันเอง

“และครั้งนี้ทำยังไงเธอถึงจะหายล่ะครับ”

พฤตินัยถาม

“ผมขออนุญาตไปหาเธอที่ห้องได้ไหมครับ”

พัฒนากรมีความตั้งใจอะไรบางอย่าง รวีดาแอบเห็นความตั้งใจนั้น

“ได้จ๊ะ”

“ยายแก่”

พิภพ พ่อของอังศุมาลินร้องเตือนรวีดาผู้เป็นภรรยา

“เอาเถอะตาแก่ พ่อหนุ่มตรงไปเลี้ยวซ้ายนะจ๊ะ”

“ขอบคุณครับ”

พัฒนากรกล่าวขอบคุณแล้วรีบเดินออกไป

“ยัยหนูของเรามีแฟนแล้วนะ”

“มีที่ไหน อิฐมันมาขอเลิกกับลูกสาวเราแล้ว ไม่เชื่อก็ถามแม่สิ ที่แม่เป็นลมไปก็เพราะมันนี่แหล่ะ”

รวิดาพูดอย่างไม่สบอาลม พิภพหันหน้าไปหาแม่ยาย คุณยายพยักหน้าตอบ

“ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะครับ”

พฤตินัยฟังแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเลยเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกมา

“ไม่น่าไปยุ่งกับเรื่องขอเขาเลยเรา เฮ้อ”


ก๊อก ๆ ๆ ก๊อก ๆ ๆ ๆ

“หลับแล้ว”

พัฒนากรยิ้มขำเมื่อได้ยินคนหลับตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนคนร้องไห้

“เจอลี่จ๋า เปิดประตัวให้ทอมหน่อยเร็ว”

อังศุมาลินที่นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่บนเตียงรีบเช็ดน้ำตา เธอเจอเซอร์ไพรส์ถึงสองต่อ ต่อแรกเธอไม่คิดว่าคนที่เคาะห้องคือพัฒนากร ต่อที่
สองไม่คิดว่าเขาจะจำนามแฝงที่เธอเคยใช่ตอนที่ส่งข้อความหาเขาได้

“เจอลี่จ๋าทอมปวดขาแล้วนะ”

และชายหนุ่มยังมีหน้าใช่น้ำเสียงร่าเริงจนเกินเหตุอีก อังศุมาลินรีบเดินมากระชากประตูเปิด

“สมใจเธอแล้วใช่ไหมที่เราเลิกกับอิฐ”

“นิดหน่อย”พูดแล้วเดินเข้าหาอังศุมาลิน หญิงสาวรีบเบี่ยงตัวหลบ พัฒนากรเลยเดินเข้าไปในห้องของหญิงสาวได้ “พัดลมฮาตาริสีน้ำเงิน
นึกว่าจะเป็นสีฟ้าซะอีก”

อังศุมาลินรีบเดินเข้ามาขวางชายหนุ่มก่อนที่เขาจะเดินไปถึงที่นอนเธอ พร้อมกับลากเก้าอี้มาให้นั่ง

“ใจร้าย”

“แค่เธอเข้าเรามันก็มากเกินไปแล้ว นั่งแค่เก้าอี้ก็พอ แล้วมีอะไรก็รีบพูดมา”

“เธอมีเบอร์เราแล้วปีใหม่นี้อย่าลืมส่งข้อความมาสวัสดีปีใหม่เรานะ แล้วก็ต่อด้วยสุขสันต์วันเกิด”

“จะมานั่งย้อนอดีตทำไม”

“ก็เพราะเราอยากย้อนเวลากลับไปนะสิ แค่ที่เราจำเรื่องพวกนี้ได้เธอยังไม่รู้อีกเหรอว่าเราคิดอะไร เธอคิดว่าความแปลกของเธอมันจะไม่
อยู่ในความทรงจำของเราเหรอ เธออยู่ในใจเราเสมอมานะ”

พัฒนากรรัวใส่อังศุมาลินเป็นชุด อังสุมาลินเองก็ดีใจแต่มันก็มีอีกหลายอย่างที่ติดค้างอยู่ในใจ

“เราอยู่ในใจเธอ แล้วทำไมเราสารภาพรักเธอไปเธอไม่เห็นจะตอบเลย เราให้เมลล์เธอไปเธอก็ไม่คิดจะส่งคำตอบมา เราแอ็ทเฟรนดเธอ
เธอก็ไม่เคยรับ”

อังศุมาลินก็ตอกกลับไปเป็นชุดเช่นกัน

“ตอนนั้นเรามีแฟนแล้ว เราจะไปตอบรับรักเธอได้ยังไง แฟนเก่าเราเธอไม่ได้ผิดอะไรไม่ใช่เหรอ จะให้เราทิ้งแฟนแล้วมาหาเธอได้ยังไง”

“มันก็เหมือนกับที่ฉันทิ้งอิฐไปหาเธอไม่ได้เหมือนกัน ยังไงฉันก็ต้องไปง้ออิฐ”

“ถ้าเขาไม่กลับมา ให้โอกาสเราได้ไหม”

“…”



อธิษฐานนั่งมองพระจันทร์ครึ่งดวงอยู่ที่สวนหลังบ้าน เวลานี้เขาก็เหมือนกับพระจันทร์ที่ไม่เต็มดวง หัวใจของเขา เขาเลือกที่จะไปฝากไว้
กับคนที่เพิ่งรู้จักได้ไม่นาน

“อิ้งตอนนี้อิ้งคงเสียใจสินะ แต่อิฐรู้ว่าเขาจะดูแลอิ้งได้”

~โทรศัพท์ครับรับที โทรศัพท์ครับรับที~

‘คุณพีม’

[[พรุ่งนี้อิ้งจะไปหาคุณ]]

“แล้ว”

[[เธอจะไปง้อคุณ]]

“แค่นี้ใช่ไหม”

[[นี่คุณไม่คิดที่จะ…]]

อธิษฐานไม่ฟังต่อตัดสายทิ้ง แล้วกดเบอร์ใหม่ลงไป

“แม่ครับผมจะไปหาแม่นะ”




วันต่อมาพัฒนากรอาสาให้พฤตินัยขับรถมาส่งอังศุมาลินที่บ้านอธิษฐาน หญิงสาวรีบลงไปเปิดประตูบ้านแต่บ้านถูกเปลี่ยนกุญแจไปแล้ว และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่

“ไปไหนต่อ”

พัฒนากรถาม

“โรงพยาบาล”



โรงพยาบาล MBST

“เดินช้า ๆ หน่อยเราตามไม่ทัน”

“ตามไม่ทันก็ไม่ต้องตาม”

อังศุมาลินพูดแบบไร้เยื่อใยแล้ววิ่งออกไป

“น้องชาย”

พฤตินัยเดินมาพร้อมรถเข็น พัฒนากรหันไปยิ้มให้แล้วรีบนั่ง พี่ชายเลยจัดการซิ้งสุดแรง

“เขาลาออกไปแล้วพี่ไม่รู้อะไรจริง ๆ”

พัฒนากรมาถึงก็เห็นอังศุมาลินกำลังคุยกับหมอสาวสวยอยู่

“ขอบคุณค่ะพี่น้ำค้าง”

“จะไปไหนต่อจ๊ะ”

พัฒนากรถามเสียงใส โบกมือทักทายคุณหมอที่อยู่กับอังศุมาลิน

“ไปหาพี่เอก”

“ไม่ได้!”

สามเสียงพูดประสานกัน

“เอกไปประชุมที่ต่างจังหวัดไม่อยู่อีกหลายอาทิตย์”

นรีเป็นคนตอบ อังศุมาลินเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“จะโทรหาใคร คุณอิฐเขาไม่รับสายเธอไม่ใช่เหรอ”

“ฉันจะโทรหาพี่เอก เอามานะ”

พัฒนากรรีบแย่งโทรศัพท์ของอังศุมาลินมาถือไว้

“ไปโทรรบกวนคนอื่นเขาทำไม เธอน่าจะรู้น่าว่าแฟนเธอมีที่ไปที่ไหนบ้าง”

“จริงสิ”



รถของพฤตินัยมาจอดที่หน้าบ้านสวนหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขานัก

“อยู่ห่างจากบ้านเรานิดเดียว”

“นั้นนะสิพี่ดรีม”

อังศุมาลินไม่สนใจฟังรีบวิ่งเขาไปในบ้านแล้วก็ได้เจอกับคนที่ตามหามาทั้งวัน

“อิฐ”

“มาช้ากว่าที่คิดนะ”

“หมายความว่ายังไง”

“ผมนึกว่าคุณจะมาหาผมตั้งแต่เมื่อวานเสียอีก”

อธิษฐานใช่น้ำเสียงเยื้อหยัน พร้อมกับแววตาจิกกัด

“อิฐก็เห็นว่ายายเราเข้าโรงพยาบาล”

“แล้วไง ผู้มีพระคุณโกรธยังมีอะไรสำคัญมากไปกว่านี้อีก”

เพียะ! เพียะ! อังศุมาลินตบเข้าไปที่หน้าตัวเองเต็มแรงสองครั้งจนเกิดรอยแดงในทันที

“อิ้ง!”

อธิษฐานรีบยึดมือทั้งสองข้างไว้

“ปล่อยฉันไม่ต้องการเป็นหนีบุญคุณใคร ปล่อย!”

“โอ๊ย!”

อังศุมาลินสลัดสุดแรงแต่เมื่ออีกคนไม่ยอมปล่อยเธอเลยตัดสินใจถีบจนอธิษฐานกระเด็น
และก็กลับมาต่อยและตบหน้าตัวเองอีกทีจนเลือดออกจมูกและปาก แล้วหญิงสาวก็หันหลังเดินออกมา พร้อมกับน้ำตาที่นองหน้าไม่ใช่
เพราะเจ็บตัว แต่เพราะเจ็บที่ใจ คนที่เธอคิดว่าดีที่สุดกลับทำร้ายใจเธอได้เจ็บแสบแบบนี้เชียวหรือ



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ย. 2556, 08:45:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.ย. 2556, 08:45:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 1169





<< ตอนที่ 8 ฝากดูแล   10 เริ่มต้นใหม่กับรักครั้งเก่า >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account