จะเก็บไว้ในใจจนนิรันดร์
ถ้าไม่มีงานสัมมนานั้นอังศุมาลินคงไม่นึกถึงเขาคนนั้นอีก ทั้ง ๆ ที่หลายปีที่ผ่านมาเธอลืมเขาไปแล้วแท้ ๆ เขาที่เธอแอบรักมาตั้งแต่เรียนมัธยม เขาที่ไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง และเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
Tags: รักสามเศร้า / สับสน / วุ่นวาย
ตอน: 10 เริ่มต้นใหม่กับรักครั้งเก่า
10 เริ่มต้นใหม่กับรักครั้งเก่า
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือเปล่าที่หน้าของอังศุมาลินไม่เป็นอะไรมากนัก แต่ตอนนี้มันก็เย็นเกิดไปกว่าที่จะเดินทางกลับบ้านได้ เธอจึงได้มานั่งอยู่ที่สวนของบ้านพัฒนากร
นี่ก็เป็นอีกความฝันของเธอเมื่อก่อน แต่ตอนนี้มันไม่ได้มีความสุขสักเท่าไหร่
“ผู้หญิงสมัยนี้ก็ทำกันทั้งนั้นแหละ แม่ไม่เห็นว่ามันจะเสียหายเลย”
พรรณณีให้ความเห็นหลังจากที่ฟังเรื่องของอังศุมาลินจากลูกชายทั้งสอง แต่ยกเว้นเรื่องสาเหตุของการบอกเลิก
“แสดงว่าแม่ชอบเธอ”
พฤตินัยชิงถามก่อนที่น้อยชายจะอ้าปากพูด
“อืม พีมเอาอย่างนี้ไหมลูกแม่ไปคุยให้ แม่รู้สึกถูกชะตากับหนูคนนี้จัง”
“จะดีเหรอครับแม่”
พัฒนากรทำท่าเขิน เลยถูกแม่ตีหัวไปด้วยความหมั่นไส้
“หนูจ๊ะ”
พรรณณีเดินมานั่งข้าง ๆ อังศุมาลิน หญิงสาวรีบเช็ดน้ำตา
“คุณน้ามีอะไรหรือคะ”
“น้าเข้าใจนะว่าหนูเสียใจ แต่ถ้ามันจะไม่น่าเกลียดเกินไปน้าอยากให้หนูลองคบกับเจ้าลูกชายน้า”
“คุณน้า”
“หนูไม่ต้องรีบตัดสินใจหรอก แต่น้าแค่อยากจะบอกว่าน้ารู้สึกชอบหนูจริง ๆ หนูคิดว่าอย่างไง เดี๋ยวน้าไปเรียกเจ้าลูกชายมาคุยเองดีกว่า”
อังศุมาลินมองตามพรรณณีเข้าไปในบ้านเห็นสองหนุ่มกำลังยืนมองอยู่ พรรณณีพูดอะไรบางอย่างกับพัฒนากรแล้วชายหนุ่มก็ค่อย ๆ เดินมา
หาอังสุมาลิน
“ใช้ผู้ใหญ่นี่มันบาปกรรมนะ”
“เราเปล่าเสียหน่อย แม่เราเขาขอมาคุยเอง แล้วเธอล่ะว่ายังไง ให้ผู้ใหญ่เสียใจนี่ก็บาปกรรมนะ”
“นี่เธอย้อนเราเหรอ”
“เราก็แค่อยากจะรู้ว่าใจเธอยังมีเราอยู่ในนั้นรึเปล่า...หรือว่าเราคิดไปเอง”
“เราไม่อยากเป็นคนบาปที่ต้องทำให้ผู้ใหญ่เสียใจ”
พัฒนากรหยุดคิดแปลความหมาย อังศุมาลินยิ้มบางให้ก่อนจะลุกเดินออกมา
“เย้!”
เดือนกว่าแล้วที่อังสุมาลินคบกับพัฒนากร และวันนี้เธอก็ตัดสินใจพาแฟนหนุ่มมาหาจอมพล เพื่อพิสูจน์ว่าเธอรักพัฒนากรด้วยใจจริงไหม
“ไม่ต้องหรอกอิ้ง เราไม่คิดมาก”
แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่อยากให้หญิงสาวทำแบบนี้ เขากลัวเกินไปกว่าจะรู้ความจริง
“เรามาถึงที่แล้วนะ เข้ามาเถอะ”
แต่อังศุมาลินก็ลากชายหนุ่มเข้ามาจนได้
“อิ้งพร้อมนะ”จอมพลให้สัญญาณ อังศุมาลินหลับตาลง “ทำใจให้ผ่อนคลาย สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ค่อย ๆ ผ่อน...”
พัฒนากรเฝ้ามองอย่างลุ้นละทึกไม่ได้ฟังสิ่งที่จอมพลพูดสักคำ และไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่รู้อีกทีอังศุมาลินก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว
“เป็นไงบ้าง”
เขารีบถามจนจอมพลที่กำลังจะขยับปากหันมามองตาขวาง
“อืมเราสบายใจแล้วล่ะ”
อังศุมาลินยิ้มหวานส่งกลับมาให้ พัฒนากรดีใจอย่างบอกไม่ถูกกอดหญิงสาวไว้แน่ ที่บอกว่าจะปล่อยเธอไปเขาขอเปลี่ยนคำพูดได้ไหม
“หวานจังนะ พี่เริ่มอิจฉาอิ้งแล้วสิ”
จอมพลแกล้งแหย่ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้าน
“ขอบคุณนะคะพี่จอม”
“ครับผม”
“เอาไว้อิ้งจะหาสาว ๆ มาฝากเป็นการตอบแทนนะ”
“ไม่ต้องเลยน้องหนู โชคดีนะ”
“ค่ะ”
อังศุมาลินกับพัฒนากรช่วยกันทำอาหารเย็นทานด้วยกันที่คอนโดที่ทั้งคู่ตัดสินใจซื้อด้วยกันที่กรุงเทพ ฯ เพื่อเป็นที่พักเวลามาทำธุระ แม้
มันอาจจะดูไม่ดีไปบ้างที่ทั้งคู่อยู่ห้องเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วห้องนี้มีสองท้องนอน
“ใส่อันนี้ด้วยสิ นะ”
“แต่เรา...” พัฒนากรเตรียมจะบอกว่าไม่ชอบเหมือนกับทุกครั้งที่อังศุมาลินทำอะไรที่ไม่ถูกใจให้ “อืมก็ได้ อ้าว...ทำไมไม่ใส่ล่ะ”
“ก็พีมไม่ชอบหนังไก่เราไม่ใส่ก็ได้”
“น่ารักจริง ๆ แฟนใครเนี่ย”
พัฒนากรทำท่าจะเข้ามาหอมแก้ม อังศุมาลินรีบผลักออก
“น้อย ๆ หน่อยเหอะ เราเอากับข้าวไปตั้งโต๊ะดีกว่า”
พูดจบก็เดินถือกับข้าวสองจานไปไว้ที่โต๊ะอาหาร พัฒนากรรีบตักผัดผกในกระทะขึ้นแล้วรีบเดินตาม
“เราแต่งงานกันนะ”
“บ้าน่าพีม”
“เราพูดจริง ๆ นะ”
อังศุมาลินหันมองหน้าคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้ดูจริงจังมาก ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่เขาของเธอแต่งงาน ทั้ง ๆ ที่ครบกันยังไม่ถึงสามเดือน
“ทำไม”
“ก็เรารักอิ้ง เราไม่อยากรอ”
“เอาอย่างนี้ไหม ถามนิยายเรื่องนี้ขายดีเราจะแต่งกับเธอ อีกเดือนหนึ่งเรามาลอกดูกัน”
“โธ่...อิ้ง”
พัฒนากรงอแงเป็นเด็ก ๆ อังศุมาลินก็ได้แต่ขำ โดยไม่รู้ว่าพัฒนากรกำลังเจ็บปวดใจแค่ไหน ไอ้เรื่องนิยายที่หญิงสาวเขียนเขารู้อยู่แล้วว่ามันต้องขายดี แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของเก่าจะมาเอาเธอคืนวันไหนนี่สิ
“ไม่เอาแล้วกินข้าวกันดีกว่านะ”
หนึ่งเดือนต่อมา
แค่เพียงวันแรกที่นิยายเปิดตัวก็มีแฟนหนังสือมาต่อคิวยาวจนเลยบูธ และคนที่มาลุ้นอยู่ไม่ไกลก็คือพัฒนากร ที่ตอนนี้มีสาว ๆ หลายคนมา
เรียงตัวขอถ่ายรูปคู่ด้วยเป็นแถวยาวเช่นกัน
“ฮะโหล ๆ เทส สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติ์ทุกท่าน ได้เวลาที่นางเอกของงานจะออกมาเผยโฉมแล้วนะครับ เชิญคุณอังศุมาลิน หรือที่รู้จัก
กันดีในนามอินฟินิท ครับ”
พิธีกรขาประจำของสำนักพิมพ์เรียกอังสุมาลินให้ขึ้นเวที วันนี้หญิงสาวแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ ด้วยชุดกระโปรงยาวสีฟ้า
“สวัสดีค่ะ”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เท่าไหร่แล้วครับเนี่ย”
“สิบแปดแล้วค่ะ”
“เรียกว่าเป็นเรื่องที่สาวสะพรั่งแล้วรึเปล่าครับ”
“ใช่ค่ะ”
“ช่วยบอกถึงความพิเศษของเรื่องนี้หน่อยสิครับ”
“พูดแบบนี้แสดงว่าพี่ตี้ไม่ใช่แฟนหนังสืออิ้งแน่เลย อิ้งเชื่อว่าไม่บอกแฟนคลับตัวจริงทุกคนก็คงรู้ใช่ไหมคะ”
อังศุมาลินพูดจบบรรดาแฟนคลับก็ส่งเสียงกลับมาว่าใช่
“แม้พูดแบบนี้พี่ก็ต้องโชว์ภูมิหน่อยสิครับ วันนี้พี่รู้อย่างหนึ่งว่าพระเอกที่อยู่บนปกมาอยู่ในงานนี้ด้วย เชิญพระเอกสุดหล่อมาขึ้นเวทีเลยดี
กว่า เชิญครับ”
แฟนคลับส่งเสียงกันอีกรอบพัฒนากรรีบเดินขึ้นเวทีมายืนข้างข้าง ๆ อังสุมาลิน
“หล่อไหมครับทุกคน”พิธีกรหันไปถามแฟนคลับก็ได้รับมาคำเดียวพร้อม ๆ กันว่า หล่อ “ช่วยบอกแฟน ๆ หน่อยสิครับว่ามีนางเอกตัวจริง
แล้วรึยัง”
“มีแล้วครับ เธอยืนอยู่ตรงนี้ไงครับ และเธอก็บอกผมว่าถ้านิยายเรื่องนี้ขายดีเธอจะแต่งงานกับผมด้วย ทุกคนครับช่วยผมได้ไหมครับ”
เสียงกรี๊ดดังขึ้นมากกว่าเดิมสองเท่า อังสุมาลินอึ้งไปเหมือนกันที่พัฒนากรประกาศให้ทุกคนได้รู้แบบนี้
“เซอร์ไพรส์ทุกคนอีกแล้วนะครับเนี่ย แบบนี้ข่าวดีของทั้งคู่ก็อยู่ไม่ไกลแล้วสิครับ”
แล้วงานเปิดตัวหนังสือก็เปลี่ยนเป็นงานประกางานแต่งไปเสียแล้ว
หลังจากเสร็จงานเปิดตัวหนังสืออังศุมาลินก็เข้ามาที่สำนักพิมพ์พร้อมกับพัฒนากร แน่นอนว่าตลอดทางมีเพื่อน ๆ พี่ ๆ มาร่วมแสดงความ
ยินดีกันเป็นแถว
“มาไว ไปไว จริง ๆ เลยนะคะคุณพีม พี่ล่ะเสียดาย”
นิตยากับจันทิมาก็รีบวิ่งมาดักหน้าทั้งสองด้วยเช่นกัน
“พี่ล่ะอิจฉาน้องอิ้งจริง ๆ เลย เจอแต่คนดี๊ดี”
“ยัยจุ๋ม”
นิตยารีบขัดจังหวะเมื่อเพื่อนซี้เผลอพูดเรื่องที่ไม่ควรออกมา
“พี่ขอโทษนะคะน้องอิ้ง”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ อิ้งขอตัวก่อนนะคะ ไปกันเถอะพีมคุณปูรอแย่”
“ขอตัวนะครับ”
อังศุมาลินรีบพาพัฒนากรไปที่ห้องของนันธิตา เจ้านายสาวคนเก่งกำลังรอต้อนรับด้วยเค้กก้อนโต
“ขอบคุณค่ะคุณปู”
อังศุมาลินรีบกล่าวขอบคุณก่อนจะรับเค้กมาชิม
“คู่นี้นี่แอบไปรักกันตอนไหนจ๊ะ ไม่บอกพี่บอกเชื้อเลย”
“เรารักกันมานานแล้วล่ะครับ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม”
พัฒนากรรีบตาม อังศุมาลินแทบจะสำลักความเรี้ยนของทั้งเค้กทั้งคน
“ขนาดนั้นเชียว”
“ความจริงผมก็ต้องขอบคุณพี่ปูด้วยนะครับที่พาเรามาเจอกันอีกครั้ง แบบตรงจังหวะ”
“เล่ามาให้พี่ฟังเลยคุณพีม พี่อยากรู้แล้วสิ”
“คุณปูขา อย่าไปฟังคนขี้โม้เลยค่ะ”
อังสุมาลินรีบดักคอแล้วตักเค้กคำโตใส่ปากคนที่เริ่มพูดมาก
“เราไม่ได้โม้สักหน่อย เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับพี่ปู ผมกับอิ้งเรียนที่เดียวกันมาตั้งแต่อนุบาล จนถึง มัธยม ยิ่งตอนมัธยมนี่นะครับได้อยู่ห้อง
เดียวกันด้วย แต่ผมดันตาบอดไม่ชอบเธอตั้งแต่ต้นไม่อย่างนั้นผมกับอิ้งก็คงแต่งงานกันไปนานแล้ว เห็นไหมครับพรมลิขิตชัด ๆ”
“น้อย ๆ หน่อยเถอะคุณ อิ้งว่านะคะคุณปูถ้ามันคือพรมลิขิตพีมเขาน่าจะเป็นเนื้อคู่เพื่อนอีกคนมากกว่า รายนี้เขาเรียนห้องเดียวกันมาตั้งแต่
ประถมจนจบมัธยมเลย”
“กลายเป็นทะเลาะกันซะได้จะรอดไหมคู่เนี้ย”
“รอดสิครับ เขาว่าเถียงกันปล่อย ๆ ลูกจะดก”
“ลูกดกนั้นมันแมวแล้ว”
“อย่างอื่นก็ได้”
“อะไรพูดดี ๆ นะ”
อังศุมาลินทำเสียงเข้มจ้องหน้าพัฒนากร
“กระต่ายไงจ๊ะ”
คุยกันไปได้สักพักพัฒนากรก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ นันธิตาเลยได้จังหวะอยู่กับอังศุมาลินสองคน
“ที่ว่าจะแต่งงานน่ะ จริง ๆ เหรอ”
“จริงสิคะ ก็อิ้งรับปากเขาไปแล้ว”
“พีมเขาต่างจากอิฐมากเลยนะ พี่ว่าอิ้งลองคิดดูดี ๆ ไหม พี่รู้สึกว่าอิฐไม่ใช่คนที่แบบที่อิ้งเล่าให้พี่ฟังเลยนะ”
อังศุมลินคิดตาม เธอเองก็โกรธจนไม่ได้คิดถึงข้อนี้ อธิษฐานไม่ใช่คนแบบที่แสดงออกให้เธอเห็นจริง ๆ นั้นแหล่ะ แต่ทำไมเขาถึงทำแบบ
นั้นกับเธอ
“อิ้ง...ไม่รู้ว่าควรทำยังไงเลยค่ะ อิ้งโกรธอิฐจนไม่ได้คิดอะไรต่อ ถ้าเป็นอิฐเขาเลือกที่จะยอมอิ้ง ไม่เคยแม้จะคิดเกินเลยกับอิ้ง เขายอมอิ้ง
ทุกอย่างเลย”
“แต่พีมไม่ใช่ ใช่ไหม พี่ได้ยินมาว่าเธอสองคนอยู่ด้วยกันมันก็จริงสินะ”
“ไม่เชิงหรอกค่ะคุณปู อิ้งซื้อคอนโดกับพีมจริง แต่มันมีสองห้อง เราแค่อยากอยู่ด้วยกันให้มากที่สุดเพื่อทนแทนวันเวลาที่เคยเสียไปน่ะ
คะ”
“พี่ไม่อยากให้อิ้งต้องไม่สบายใจหรอกนะ แต่พี่ได้ข่าวนี้มาเมื่อประมาณสามเดือนก่อน แต่พี่ไม่ได้เอาลงเพราะมันมีผลเสียกับคนหลายฝ่าย
แต่พี่ก็ยังอยากให้อิ้งเห็น”
“อิ้งเรามีธุระด่วน”
พัฒนากรที่เพิ่งได้รับโทรศัพท์รีบเข้ามาตามแฟนสาว อังศุมาลินหันไปพยักหน้ารับรู้
“อิ้งขอตัวนะคะคุณปู”
“เอานี้ไปอ่านด้วยนะ”
“อ๋อ...ค่ะ สวัสดีค่ะคุณปู”
อังศุมาลินรับกระดาษที่นันธิตาส่งมาให้ใส่กระเป๋าแล้วรีบเดินออกมา
“พี่หวังว่ามันคงจะไม่สายเกินไปนะ”
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือเปล่าที่หน้าของอังศุมาลินไม่เป็นอะไรมากนัก แต่ตอนนี้มันก็เย็นเกิดไปกว่าที่จะเดินทางกลับบ้านได้ เธอจึงได้มานั่งอยู่ที่สวนของบ้านพัฒนากร
นี่ก็เป็นอีกความฝันของเธอเมื่อก่อน แต่ตอนนี้มันไม่ได้มีความสุขสักเท่าไหร่
“ผู้หญิงสมัยนี้ก็ทำกันทั้งนั้นแหละ แม่ไม่เห็นว่ามันจะเสียหายเลย”
พรรณณีให้ความเห็นหลังจากที่ฟังเรื่องของอังศุมาลินจากลูกชายทั้งสอง แต่ยกเว้นเรื่องสาเหตุของการบอกเลิก
“แสดงว่าแม่ชอบเธอ”
พฤตินัยชิงถามก่อนที่น้อยชายจะอ้าปากพูด
“อืม พีมเอาอย่างนี้ไหมลูกแม่ไปคุยให้ แม่รู้สึกถูกชะตากับหนูคนนี้จัง”
“จะดีเหรอครับแม่”
พัฒนากรทำท่าเขิน เลยถูกแม่ตีหัวไปด้วยความหมั่นไส้
“หนูจ๊ะ”
พรรณณีเดินมานั่งข้าง ๆ อังศุมาลิน หญิงสาวรีบเช็ดน้ำตา
“คุณน้ามีอะไรหรือคะ”
“น้าเข้าใจนะว่าหนูเสียใจ แต่ถ้ามันจะไม่น่าเกลียดเกินไปน้าอยากให้หนูลองคบกับเจ้าลูกชายน้า”
“คุณน้า”
“หนูไม่ต้องรีบตัดสินใจหรอก แต่น้าแค่อยากจะบอกว่าน้ารู้สึกชอบหนูจริง ๆ หนูคิดว่าอย่างไง เดี๋ยวน้าไปเรียกเจ้าลูกชายมาคุยเองดีกว่า”
อังศุมาลินมองตามพรรณณีเข้าไปในบ้านเห็นสองหนุ่มกำลังยืนมองอยู่ พรรณณีพูดอะไรบางอย่างกับพัฒนากรแล้วชายหนุ่มก็ค่อย ๆ เดินมา
หาอังสุมาลิน
“ใช้ผู้ใหญ่นี่มันบาปกรรมนะ”
“เราเปล่าเสียหน่อย แม่เราเขาขอมาคุยเอง แล้วเธอล่ะว่ายังไง ให้ผู้ใหญ่เสียใจนี่ก็บาปกรรมนะ”
“นี่เธอย้อนเราเหรอ”
“เราก็แค่อยากจะรู้ว่าใจเธอยังมีเราอยู่ในนั้นรึเปล่า...หรือว่าเราคิดไปเอง”
“เราไม่อยากเป็นคนบาปที่ต้องทำให้ผู้ใหญ่เสียใจ”
พัฒนากรหยุดคิดแปลความหมาย อังศุมาลินยิ้มบางให้ก่อนจะลุกเดินออกมา
“เย้!”
เดือนกว่าแล้วที่อังสุมาลินคบกับพัฒนากร และวันนี้เธอก็ตัดสินใจพาแฟนหนุ่มมาหาจอมพล เพื่อพิสูจน์ว่าเธอรักพัฒนากรด้วยใจจริงไหม
“ไม่ต้องหรอกอิ้ง เราไม่คิดมาก”
แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่อยากให้หญิงสาวทำแบบนี้ เขากลัวเกินไปกว่าจะรู้ความจริง
“เรามาถึงที่แล้วนะ เข้ามาเถอะ”
แต่อังศุมาลินก็ลากชายหนุ่มเข้ามาจนได้
“อิ้งพร้อมนะ”จอมพลให้สัญญาณ อังศุมาลินหลับตาลง “ทำใจให้ผ่อนคลาย สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ค่อย ๆ ผ่อน...”
พัฒนากรเฝ้ามองอย่างลุ้นละทึกไม่ได้ฟังสิ่งที่จอมพลพูดสักคำ และไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่รู้อีกทีอังศุมาลินก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว
“เป็นไงบ้าง”
เขารีบถามจนจอมพลที่กำลังจะขยับปากหันมามองตาขวาง
“อืมเราสบายใจแล้วล่ะ”
อังศุมาลินยิ้มหวานส่งกลับมาให้ พัฒนากรดีใจอย่างบอกไม่ถูกกอดหญิงสาวไว้แน่ ที่บอกว่าจะปล่อยเธอไปเขาขอเปลี่ยนคำพูดได้ไหม
“หวานจังนะ พี่เริ่มอิจฉาอิ้งแล้วสิ”
จอมพลแกล้งแหย่ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้าน
“ขอบคุณนะคะพี่จอม”
“ครับผม”
“เอาไว้อิ้งจะหาสาว ๆ มาฝากเป็นการตอบแทนนะ”
“ไม่ต้องเลยน้องหนู โชคดีนะ”
“ค่ะ”
อังศุมาลินกับพัฒนากรช่วยกันทำอาหารเย็นทานด้วยกันที่คอนโดที่ทั้งคู่ตัดสินใจซื้อด้วยกันที่กรุงเทพ ฯ เพื่อเป็นที่พักเวลามาทำธุระ แม้
มันอาจจะดูไม่ดีไปบ้างที่ทั้งคู่อยู่ห้องเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วห้องนี้มีสองท้องนอน
“ใส่อันนี้ด้วยสิ นะ”
“แต่เรา...” พัฒนากรเตรียมจะบอกว่าไม่ชอบเหมือนกับทุกครั้งที่อังศุมาลินทำอะไรที่ไม่ถูกใจให้ “อืมก็ได้ อ้าว...ทำไมไม่ใส่ล่ะ”
“ก็พีมไม่ชอบหนังไก่เราไม่ใส่ก็ได้”
“น่ารักจริง ๆ แฟนใครเนี่ย”
พัฒนากรทำท่าจะเข้ามาหอมแก้ม อังศุมาลินรีบผลักออก
“น้อย ๆ หน่อยเหอะ เราเอากับข้าวไปตั้งโต๊ะดีกว่า”
พูดจบก็เดินถือกับข้าวสองจานไปไว้ที่โต๊ะอาหาร พัฒนากรรีบตักผัดผกในกระทะขึ้นแล้วรีบเดินตาม
“เราแต่งงานกันนะ”
“บ้าน่าพีม”
“เราพูดจริง ๆ นะ”
อังศุมาลินหันมองหน้าคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้ดูจริงจังมาก ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่เขาของเธอแต่งงาน ทั้ง ๆ ที่ครบกันยังไม่ถึงสามเดือน
“ทำไม”
“ก็เรารักอิ้ง เราไม่อยากรอ”
“เอาอย่างนี้ไหม ถามนิยายเรื่องนี้ขายดีเราจะแต่งกับเธอ อีกเดือนหนึ่งเรามาลอกดูกัน”
“โธ่...อิ้ง”
พัฒนากรงอแงเป็นเด็ก ๆ อังศุมาลินก็ได้แต่ขำ โดยไม่รู้ว่าพัฒนากรกำลังเจ็บปวดใจแค่ไหน ไอ้เรื่องนิยายที่หญิงสาวเขียนเขารู้อยู่แล้วว่ามันต้องขายดี แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของเก่าจะมาเอาเธอคืนวันไหนนี่สิ
“ไม่เอาแล้วกินข้าวกันดีกว่านะ”
หนึ่งเดือนต่อมา
แค่เพียงวันแรกที่นิยายเปิดตัวก็มีแฟนหนังสือมาต่อคิวยาวจนเลยบูธ และคนที่มาลุ้นอยู่ไม่ไกลก็คือพัฒนากร ที่ตอนนี้มีสาว ๆ หลายคนมา
เรียงตัวขอถ่ายรูปคู่ด้วยเป็นแถวยาวเช่นกัน
“ฮะโหล ๆ เทส สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติ์ทุกท่าน ได้เวลาที่นางเอกของงานจะออกมาเผยโฉมแล้วนะครับ เชิญคุณอังศุมาลิน หรือที่รู้จัก
กันดีในนามอินฟินิท ครับ”
พิธีกรขาประจำของสำนักพิมพ์เรียกอังสุมาลินให้ขึ้นเวที วันนี้หญิงสาวแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ ด้วยชุดกระโปรงยาวสีฟ้า
“สวัสดีค่ะ”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เท่าไหร่แล้วครับเนี่ย”
“สิบแปดแล้วค่ะ”
“เรียกว่าเป็นเรื่องที่สาวสะพรั่งแล้วรึเปล่าครับ”
“ใช่ค่ะ”
“ช่วยบอกถึงความพิเศษของเรื่องนี้หน่อยสิครับ”
“พูดแบบนี้แสดงว่าพี่ตี้ไม่ใช่แฟนหนังสืออิ้งแน่เลย อิ้งเชื่อว่าไม่บอกแฟนคลับตัวจริงทุกคนก็คงรู้ใช่ไหมคะ”
อังศุมาลินพูดจบบรรดาแฟนคลับก็ส่งเสียงกลับมาว่าใช่
“แม้พูดแบบนี้พี่ก็ต้องโชว์ภูมิหน่อยสิครับ วันนี้พี่รู้อย่างหนึ่งว่าพระเอกที่อยู่บนปกมาอยู่ในงานนี้ด้วย เชิญพระเอกสุดหล่อมาขึ้นเวทีเลยดี
กว่า เชิญครับ”
แฟนคลับส่งเสียงกันอีกรอบพัฒนากรรีบเดินขึ้นเวทีมายืนข้างข้าง ๆ อังสุมาลิน
“หล่อไหมครับทุกคน”พิธีกรหันไปถามแฟนคลับก็ได้รับมาคำเดียวพร้อม ๆ กันว่า หล่อ “ช่วยบอกแฟน ๆ หน่อยสิครับว่ามีนางเอกตัวจริง
แล้วรึยัง”
“มีแล้วครับ เธอยืนอยู่ตรงนี้ไงครับ และเธอก็บอกผมว่าถ้านิยายเรื่องนี้ขายดีเธอจะแต่งงานกับผมด้วย ทุกคนครับช่วยผมได้ไหมครับ”
เสียงกรี๊ดดังขึ้นมากกว่าเดิมสองเท่า อังสุมาลินอึ้งไปเหมือนกันที่พัฒนากรประกาศให้ทุกคนได้รู้แบบนี้
“เซอร์ไพรส์ทุกคนอีกแล้วนะครับเนี่ย แบบนี้ข่าวดีของทั้งคู่ก็อยู่ไม่ไกลแล้วสิครับ”
แล้วงานเปิดตัวหนังสือก็เปลี่ยนเป็นงานประกางานแต่งไปเสียแล้ว
หลังจากเสร็จงานเปิดตัวหนังสืออังศุมาลินก็เข้ามาที่สำนักพิมพ์พร้อมกับพัฒนากร แน่นอนว่าตลอดทางมีเพื่อน ๆ พี่ ๆ มาร่วมแสดงความ
ยินดีกันเป็นแถว
“มาไว ไปไว จริง ๆ เลยนะคะคุณพีม พี่ล่ะเสียดาย”
นิตยากับจันทิมาก็รีบวิ่งมาดักหน้าทั้งสองด้วยเช่นกัน
“พี่ล่ะอิจฉาน้องอิ้งจริง ๆ เลย เจอแต่คนดี๊ดี”
“ยัยจุ๋ม”
นิตยารีบขัดจังหวะเมื่อเพื่อนซี้เผลอพูดเรื่องที่ไม่ควรออกมา
“พี่ขอโทษนะคะน้องอิ้ง”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ อิ้งขอตัวก่อนนะคะ ไปกันเถอะพีมคุณปูรอแย่”
“ขอตัวนะครับ”
อังศุมาลินรีบพาพัฒนากรไปที่ห้องของนันธิตา เจ้านายสาวคนเก่งกำลังรอต้อนรับด้วยเค้กก้อนโต
“ขอบคุณค่ะคุณปู”
อังศุมาลินรีบกล่าวขอบคุณก่อนจะรับเค้กมาชิม
“คู่นี้นี่แอบไปรักกันตอนไหนจ๊ะ ไม่บอกพี่บอกเชื้อเลย”
“เรารักกันมานานแล้วล่ะครับ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม”
พัฒนากรรีบตาม อังศุมาลินแทบจะสำลักความเรี้ยนของทั้งเค้กทั้งคน
“ขนาดนั้นเชียว”
“ความจริงผมก็ต้องขอบคุณพี่ปูด้วยนะครับที่พาเรามาเจอกันอีกครั้ง แบบตรงจังหวะ”
“เล่ามาให้พี่ฟังเลยคุณพีม พี่อยากรู้แล้วสิ”
“คุณปูขา อย่าไปฟังคนขี้โม้เลยค่ะ”
อังสุมาลินรีบดักคอแล้วตักเค้กคำโตใส่ปากคนที่เริ่มพูดมาก
“เราไม่ได้โม้สักหน่อย เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับพี่ปู ผมกับอิ้งเรียนที่เดียวกันมาตั้งแต่อนุบาล จนถึง มัธยม ยิ่งตอนมัธยมนี่นะครับได้อยู่ห้อง
เดียวกันด้วย แต่ผมดันตาบอดไม่ชอบเธอตั้งแต่ต้นไม่อย่างนั้นผมกับอิ้งก็คงแต่งงานกันไปนานแล้ว เห็นไหมครับพรมลิขิตชัด ๆ”
“น้อย ๆ หน่อยเถอะคุณ อิ้งว่านะคะคุณปูถ้ามันคือพรมลิขิตพีมเขาน่าจะเป็นเนื้อคู่เพื่อนอีกคนมากกว่า รายนี้เขาเรียนห้องเดียวกันมาตั้งแต่
ประถมจนจบมัธยมเลย”
“กลายเป็นทะเลาะกันซะได้จะรอดไหมคู่เนี้ย”
“รอดสิครับ เขาว่าเถียงกันปล่อย ๆ ลูกจะดก”
“ลูกดกนั้นมันแมวแล้ว”
“อย่างอื่นก็ได้”
“อะไรพูดดี ๆ นะ”
อังศุมาลินทำเสียงเข้มจ้องหน้าพัฒนากร
“กระต่ายไงจ๊ะ”
คุยกันไปได้สักพักพัฒนากรก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ นันธิตาเลยได้จังหวะอยู่กับอังศุมาลินสองคน
“ที่ว่าจะแต่งงานน่ะ จริง ๆ เหรอ”
“จริงสิคะ ก็อิ้งรับปากเขาไปแล้ว”
“พีมเขาต่างจากอิฐมากเลยนะ พี่ว่าอิ้งลองคิดดูดี ๆ ไหม พี่รู้สึกว่าอิฐไม่ใช่คนที่แบบที่อิ้งเล่าให้พี่ฟังเลยนะ”
อังศุมลินคิดตาม เธอเองก็โกรธจนไม่ได้คิดถึงข้อนี้ อธิษฐานไม่ใช่คนแบบที่แสดงออกให้เธอเห็นจริง ๆ นั้นแหล่ะ แต่ทำไมเขาถึงทำแบบ
นั้นกับเธอ
“อิ้ง...ไม่รู้ว่าควรทำยังไงเลยค่ะ อิ้งโกรธอิฐจนไม่ได้คิดอะไรต่อ ถ้าเป็นอิฐเขาเลือกที่จะยอมอิ้ง ไม่เคยแม้จะคิดเกินเลยกับอิ้ง เขายอมอิ้ง
ทุกอย่างเลย”
“แต่พีมไม่ใช่ ใช่ไหม พี่ได้ยินมาว่าเธอสองคนอยู่ด้วยกันมันก็จริงสินะ”
“ไม่เชิงหรอกค่ะคุณปู อิ้งซื้อคอนโดกับพีมจริง แต่มันมีสองห้อง เราแค่อยากอยู่ด้วยกันให้มากที่สุดเพื่อทนแทนวันเวลาที่เคยเสียไปน่ะ
คะ”
“พี่ไม่อยากให้อิ้งต้องไม่สบายใจหรอกนะ แต่พี่ได้ข่าวนี้มาเมื่อประมาณสามเดือนก่อน แต่พี่ไม่ได้เอาลงเพราะมันมีผลเสียกับคนหลายฝ่าย
แต่พี่ก็ยังอยากให้อิ้งเห็น”
“อิ้งเรามีธุระด่วน”
พัฒนากรที่เพิ่งได้รับโทรศัพท์รีบเข้ามาตามแฟนสาว อังศุมาลินหันไปพยักหน้ารับรู้
“อิ้งขอตัวนะคะคุณปู”
“เอานี้ไปอ่านด้วยนะ”
“อ๋อ...ค่ะ สวัสดีค่ะคุณปู”
อังศุมาลินรับกระดาษที่นันธิตาส่งมาให้ใส่กระเป๋าแล้วรีบเดินออกมา
“พี่หวังว่ามันคงจะไม่สายเกินไปนะ”

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.ย. 2556, 21:44:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.ย. 2556, 21:44:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 1277
<< 9 เสียใจ | 11 ความจริง >> |

ปลาวาฬสีน้ำเงิน 3 ก.ย. 2556, 16:44:55 น.
อยากรู้จัง จะเกิดอะไรขึ้น น๊า
อยากรู้จัง จะเกิดอะไรขึ้น น๊า