จะเก็บไว้ในใจจนนิรันดร์
ถ้าไม่มีงานสัมมนานั้นอังศุมาลินคงไม่นึกถึงเขาคนนั้นอีก ทั้ง ๆ ที่หลายปีที่ผ่านมาเธอลืมเขาไปแล้วแท้ ๆ เขาที่เธอแอบรักมาตั้งแต่เรียนมัธยม เขาที่ไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง และเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
Tags: รักสามเศร้า / สับสน / วุ่นวาย

ตอน: 10 เริ่มต้นใหม่กับรักครั้งเก่า

10 เริ่มต้นใหม่กับรักครั้งเก่า
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือเปล่าที่หน้าของอังศุมาลินไม่เป็นอะไรมากนัก แต่ตอนนี้มันก็เย็นเกิดไปกว่าที่จะเดินทางกลับบ้านได้ เธอจึงได้มานั่งอยู่ที่สวนของบ้านพัฒนากร

นี่ก็เป็นอีกความฝันของเธอเมื่อก่อน แต่ตอนนี้มันไม่ได้มีความสุขสักเท่าไหร่

“ผู้หญิงสมัยนี้ก็ทำกันทั้งนั้นแหละ แม่ไม่เห็นว่ามันจะเสียหายเลย”

พรรณณีให้ความเห็นหลังจากที่ฟังเรื่องของอังศุมาลินจากลูกชายทั้งสอง แต่ยกเว้นเรื่องสาเหตุของการบอกเลิก

“แสดงว่าแม่ชอบเธอ”

พฤตินัยชิงถามก่อนที่น้อยชายจะอ้าปากพูด

“อืม พีมเอาอย่างนี้ไหมลูกแม่ไปคุยให้ แม่รู้สึกถูกชะตากับหนูคนนี้จัง”

“จะดีเหรอครับแม่”

พัฒนากรทำท่าเขิน เลยถูกแม่ตีหัวไปด้วยความหมั่นไส้

“หนูจ๊ะ”

พรรณณีเดินมานั่งข้าง ๆ อังศุมาลิน หญิงสาวรีบเช็ดน้ำตา

“คุณน้ามีอะไรหรือคะ”

“น้าเข้าใจนะว่าหนูเสียใจ แต่ถ้ามันจะไม่น่าเกลียดเกินไปน้าอยากให้หนูลองคบกับเจ้าลูกชายน้า”

“คุณน้า”

“หนูไม่ต้องรีบตัดสินใจหรอก แต่น้าแค่อยากจะบอกว่าน้ารู้สึกชอบหนูจริง ๆ หนูคิดว่าอย่างไง เดี๋ยวน้าไปเรียกเจ้าลูกชายมาคุยเองดีกว่า”

อังศุมาลินมองตามพรรณณีเข้าไปในบ้านเห็นสองหนุ่มกำลังยืนมองอยู่ พรรณณีพูดอะไรบางอย่างกับพัฒนากรแล้วชายหนุ่มก็ค่อย ๆ เดินมา
หาอังสุมาลิน

“ใช้ผู้ใหญ่นี่มันบาปกรรมนะ”

“เราเปล่าเสียหน่อย แม่เราเขาขอมาคุยเอง แล้วเธอล่ะว่ายังไง ให้ผู้ใหญ่เสียใจนี่ก็บาปกรรมนะ”

“นี่เธอย้อนเราเหรอ”

“เราก็แค่อยากจะรู้ว่าใจเธอยังมีเราอยู่ในนั้นรึเปล่า...หรือว่าเราคิดไปเอง”

“เราไม่อยากเป็นคนบาปที่ต้องทำให้ผู้ใหญ่เสียใจ”

พัฒนากรหยุดคิดแปลความหมาย อังศุมาลินยิ้มบางให้ก่อนจะลุกเดินออกมา

“เย้!”



เดือนกว่าแล้วที่อังสุมาลินคบกับพัฒนากร และวันนี้เธอก็ตัดสินใจพาแฟนหนุ่มมาหาจอมพล เพื่อพิสูจน์ว่าเธอรักพัฒนากรด้วยใจจริงไหม

“ไม่ต้องหรอกอิ้ง เราไม่คิดมาก”

แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่อยากให้หญิงสาวทำแบบนี้ เขากลัวเกินไปกว่าจะรู้ความจริง

“เรามาถึงที่แล้วนะ เข้ามาเถอะ”

แต่อังศุมาลินก็ลากชายหนุ่มเข้ามาจนได้


“อิ้งพร้อมนะ”จอมพลให้สัญญาณ อังศุมาลินหลับตาลง “ทำใจให้ผ่อนคลาย สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ค่อย ๆ ผ่อน...”


พัฒนากรเฝ้ามองอย่างลุ้นละทึกไม่ได้ฟังสิ่งที่จอมพลพูดสักคำ และไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่รู้อีกทีอังศุมาลินก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว


“เป็นไงบ้าง”


เขารีบถามจนจอมพลที่กำลังจะขยับปากหันมามองตาขวาง

“อืมเราสบายใจแล้วล่ะ”

อังศุมาลินยิ้มหวานส่งกลับมาให้ พัฒนากรดีใจอย่างบอกไม่ถูกกอดหญิงสาวไว้แน่ ที่บอกว่าจะปล่อยเธอไปเขาขอเปลี่ยนคำพูดได้ไหม


“หวานจังนะ พี่เริ่มอิจฉาอิ้งแล้วสิ”

จอมพลแกล้งแหย่ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้าน

“ขอบคุณนะคะพี่จอม”

“ครับผม”

“เอาไว้อิ้งจะหาสาว ๆ มาฝากเป็นการตอบแทนนะ”

“ไม่ต้องเลยน้องหนู โชคดีนะ”

“ค่ะ”



อังศุมาลินกับพัฒนากรช่วยกันทำอาหารเย็นทานด้วยกันที่คอนโดที่ทั้งคู่ตัดสินใจซื้อด้วยกันที่กรุงเทพ ฯ เพื่อเป็นที่พักเวลามาทำธุระ แม้
มันอาจจะดูไม่ดีไปบ้างที่ทั้งคู่อยู่ห้องเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วห้องนี้มีสองท้องนอน

“ใส่อันนี้ด้วยสิ นะ”

“แต่เรา...” พัฒนากรเตรียมจะบอกว่าไม่ชอบเหมือนกับทุกครั้งที่อังศุมาลินทำอะไรที่ไม่ถูกใจให้ “อืมก็ได้ อ้าว...ทำไมไม่ใส่ล่ะ”

“ก็พีมไม่ชอบหนังไก่เราไม่ใส่ก็ได้”

“น่ารักจริง ๆ แฟนใครเนี่ย”

พัฒนากรทำท่าจะเข้ามาหอมแก้ม อังศุมาลินรีบผลักออก

“น้อย ๆ หน่อยเหอะ เราเอากับข้าวไปตั้งโต๊ะดีกว่า”

พูดจบก็เดินถือกับข้าวสองจานไปไว้ที่โต๊ะอาหาร พัฒนากรรีบตักผัดผกในกระทะขึ้นแล้วรีบเดินตาม

“เราแต่งงานกันนะ”

“บ้าน่าพีม”

“เราพูดจริง ๆ นะ”

อังศุมาลินหันมองหน้าคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้ดูจริงจังมาก ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่เขาของเธอแต่งงาน ทั้ง ๆ ที่ครบกันยังไม่ถึงสามเดือน

“ทำไม”

“ก็เรารักอิ้ง เราไม่อยากรอ”

“เอาอย่างนี้ไหม ถามนิยายเรื่องนี้ขายดีเราจะแต่งกับเธอ อีกเดือนหนึ่งเรามาลอกดูกัน”

“โธ่...อิ้ง”

พัฒนากรงอแงเป็นเด็ก ๆ อังศุมาลินก็ได้แต่ขำ โดยไม่รู้ว่าพัฒนากรกำลังเจ็บปวดใจแค่ไหน ไอ้เรื่องนิยายที่หญิงสาวเขียนเขารู้อยู่แล้วว่ามันต้องขายดี แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของเก่าจะมาเอาเธอคืนวันไหนนี่สิ

“ไม่เอาแล้วกินข้าวกันดีกว่านะ”




หนึ่งเดือนต่อมา

แค่เพียงวันแรกที่นิยายเปิดตัวก็มีแฟนหนังสือมาต่อคิวยาวจนเลยบูธ และคนที่มาลุ้นอยู่ไม่ไกลก็คือพัฒนากร ที่ตอนนี้มีสาว ๆ หลายคนมา
เรียงตัวขอถ่ายรูปคู่ด้วยเป็นแถวยาวเช่นกัน

“ฮะโหล ๆ เทส สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติ์ทุกท่าน ได้เวลาที่นางเอกของงานจะออกมาเผยโฉมแล้วนะครับ เชิญคุณอังศุมาลิน หรือที่รู้จัก
กันดีในนามอินฟินิท ครับ”

พิธีกรขาประจำของสำนักพิมพ์เรียกอังสุมาลินให้ขึ้นเวที วันนี้หญิงสาวแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ ด้วยชุดกระโปรงยาวสีฟ้า

“สวัสดีค่ะ”

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เท่าไหร่แล้วครับเนี่ย”

“สิบแปดแล้วค่ะ”

“เรียกว่าเป็นเรื่องที่สาวสะพรั่งแล้วรึเปล่าครับ”

“ใช่ค่ะ”

“ช่วยบอกถึงความพิเศษของเรื่องนี้หน่อยสิครับ”

“พูดแบบนี้แสดงว่าพี่ตี้ไม่ใช่แฟนหนังสืออิ้งแน่เลย อิ้งเชื่อว่าไม่บอกแฟนคลับตัวจริงทุกคนก็คงรู้ใช่ไหมคะ”

อังศุมาลินพูดจบบรรดาแฟนคลับก็ส่งเสียงกลับมาว่าใช่

“แม้พูดแบบนี้พี่ก็ต้องโชว์ภูมิหน่อยสิครับ วันนี้พี่รู้อย่างหนึ่งว่าพระเอกที่อยู่บนปกมาอยู่ในงานนี้ด้วย เชิญพระเอกสุดหล่อมาขึ้นเวทีเลยดี
กว่า เชิญครับ”

แฟนคลับส่งเสียงกันอีกรอบพัฒนากรรีบเดินขึ้นเวทีมายืนข้างข้าง ๆ อังสุมาลิน

“หล่อไหมครับทุกคน”พิธีกรหันไปถามแฟนคลับก็ได้รับมาคำเดียวพร้อม ๆ กันว่า หล่อ “ช่วยบอกแฟน ๆ หน่อยสิครับว่ามีนางเอกตัวจริง
แล้วรึยัง”

“มีแล้วครับ เธอยืนอยู่ตรงนี้ไงครับ และเธอก็บอกผมว่าถ้านิยายเรื่องนี้ขายดีเธอจะแต่งงานกับผมด้วย ทุกคนครับช่วยผมได้ไหมครับ”

เสียงกรี๊ดดังขึ้นมากกว่าเดิมสองเท่า อังสุมาลินอึ้งไปเหมือนกันที่พัฒนากรประกาศให้ทุกคนได้รู้แบบนี้

“เซอร์ไพรส์ทุกคนอีกแล้วนะครับเนี่ย แบบนี้ข่าวดีของทั้งคู่ก็อยู่ไม่ไกลแล้วสิครับ”

แล้วงานเปิดตัวหนังสือก็เปลี่ยนเป็นงานประกางานแต่งไปเสียแล้ว



หลังจากเสร็จงานเปิดตัวหนังสืออังศุมาลินก็เข้ามาที่สำนักพิมพ์พร้อมกับพัฒนากร แน่นอนว่าตลอดทางมีเพื่อน ๆ พี่ ๆ มาร่วมแสดงความ
ยินดีกันเป็นแถว

“มาไว ไปไว จริง ๆ เลยนะคะคุณพีม พี่ล่ะเสียดาย”

นิตยากับจันทิมาก็รีบวิ่งมาดักหน้าทั้งสองด้วยเช่นกัน

“พี่ล่ะอิจฉาน้องอิ้งจริง ๆ เลย เจอแต่คนดี๊ดี”

“ยัยจุ๋ม”

นิตยารีบขัดจังหวะเมื่อเพื่อนซี้เผลอพูดเรื่องที่ไม่ควรออกมา

“พี่ขอโทษนะคะน้องอิ้ง”

“ไม่เป็นอะไรค่ะ อิ้งขอตัวก่อนนะคะ ไปกันเถอะพีมคุณปูรอแย่”

“ขอตัวนะครับ”

อังศุมาลินรีบพาพัฒนากรไปที่ห้องของนันธิตา เจ้านายสาวคนเก่งกำลังรอต้อนรับด้วยเค้กก้อนโต

“ขอบคุณค่ะคุณปู”

อังศุมาลินรีบกล่าวขอบคุณก่อนจะรับเค้กมาชิม

“คู่นี้นี่แอบไปรักกันตอนไหนจ๊ะ ไม่บอกพี่บอกเชื้อเลย”

“เรารักกันมานานแล้วล่ะครับ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม”

พัฒนากรรีบตาม อังศุมาลินแทบจะสำลักความเรี้ยนของทั้งเค้กทั้งคน

“ขนาดนั้นเชียว”

“ความจริงผมก็ต้องขอบคุณพี่ปูด้วยนะครับที่พาเรามาเจอกันอีกครั้ง แบบตรงจังหวะ”

“เล่ามาให้พี่ฟังเลยคุณพีม พี่อยากรู้แล้วสิ”

“คุณปูขา อย่าไปฟังคนขี้โม้เลยค่ะ”

อังสุมาลินรีบดักคอแล้วตักเค้กคำโตใส่ปากคนที่เริ่มพูดมาก

“เราไม่ได้โม้สักหน่อย เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับพี่ปู ผมกับอิ้งเรียนที่เดียวกันมาตั้งแต่อนุบาล จนถึง มัธยม ยิ่งตอนมัธยมนี่นะครับได้อยู่ห้อง
เดียวกันด้วย แต่ผมดันตาบอดไม่ชอบเธอตั้งแต่ต้นไม่อย่างนั้นผมกับอิ้งก็คงแต่งงานกันไปนานแล้ว เห็นไหมครับพรมลิขิตชัด ๆ”

“น้อย ๆ หน่อยเถอะคุณ อิ้งว่านะคะคุณปูถ้ามันคือพรมลิขิตพีมเขาน่าจะเป็นเนื้อคู่เพื่อนอีกคนมากกว่า รายนี้เขาเรียนห้องเดียวกันมาตั้งแต่
ประถมจนจบมัธยมเลย”

“กลายเป็นทะเลาะกันซะได้จะรอดไหมคู่เนี้ย”

“รอดสิครับ เขาว่าเถียงกันปล่อย ๆ ลูกจะดก”

“ลูกดกนั้นมันแมวแล้ว”

“อย่างอื่นก็ได้”

“อะไรพูดดี ๆ นะ”

อังศุมาลินทำเสียงเข้มจ้องหน้าพัฒนากร

“กระต่ายไงจ๊ะ”

คุยกันไปได้สักพักพัฒนากรก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ นันธิตาเลยได้จังหวะอยู่กับอังศุมาลินสองคน

“ที่ว่าจะแต่งงานน่ะ จริง ๆ เหรอ”

“จริงสิคะ ก็อิ้งรับปากเขาไปแล้ว”

“พีมเขาต่างจากอิฐมากเลยนะ พี่ว่าอิ้งลองคิดดูดี ๆ ไหม พี่รู้สึกว่าอิฐไม่ใช่คนที่แบบที่อิ้งเล่าให้พี่ฟังเลยนะ”

อังศุมลินคิดตาม เธอเองก็โกรธจนไม่ได้คิดถึงข้อนี้ อธิษฐานไม่ใช่คนแบบที่แสดงออกให้เธอเห็นจริง ๆ นั้นแหล่ะ แต่ทำไมเขาถึงทำแบบ
นั้นกับเธอ

“อิ้ง...ไม่รู้ว่าควรทำยังไงเลยค่ะ อิ้งโกรธอิฐจนไม่ได้คิดอะไรต่อ ถ้าเป็นอิฐเขาเลือกที่จะยอมอิ้ง ไม่เคยแม้จะคิดเกินเลยกับอิ้ง เขายอมอิ้ง
ทุกอย่างเลย”

“แต่พีมไม่ใช่ ใช่ไหม พี่ได้ยินมาว่าเธอสองคนอยู่ด้วยกันมันก็จริงสินะ”

“ไม่เชิงหรอกค่ะคุณปู อิ้งซื้อคอนโดกับพีมจริง แต่มันมีสองห้อง เราแค่อยากอยู่ด้วยกันให้มากที่สุดเพื่อทนแทนวันเวลาที่เคยเสียไปน่ะ
คะ”

“พี่ไม่อยากให้อิ้งต้องไม่สบายใจหรอกนะ แต่พี่ได้ข่าวนี้มาเมื่อประมาณสามเดือนก่อน แต่พี่ไม่ได้เอาลงเพราะมันมีผลเสียกับคนหลายฝ่าย
แต่พี่ก็ยังอยากให้อิ้งเห็น”

“อิ้งเรามีธุระด่วน”

พัฒนากรที่เพิ่งได้รับโทรศัพท์รีบเข้ามาตามแฟนสาว อังศุมาลินหันไปพยักหน้ารับรู้

“อิ้งขอตัวนะคะคุณปู”

“เอานี้ไปอ่านด้วยนะ”

“อ๋อ...ค่ะ สวัสดีค่ะคุณปู”

อังศุมาลินรับกระดาษที่นันธิตาส่งมาให้ใส่กระเป๋าแล้วรีบเดินออกมา

“พี่หวังว่ามันคงจะไม่สายเกินไปนะ”




เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.ย. 2556, 21:44:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.ย. 2556, 21:44:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 1219





<< 9 เสียใจ   11 ความจริง >>
ปลาวาฬสีน้ำเงิน 3 ก.ย. 2556, 16:44:55 น.
อยากรู้จัง จะเกิดอะไรขึ้น น๊า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account