Delusion เหลี่ยมรัก เล่ห์ลวง
(เรื่องต่อจาก Asylum หรือ ในกรงเพลิง สนพ.อินเลิฟ)


วุฒิสมาชิกแคเทรียน เนลีคาห์น แห่ง ดาวเคราะห์บาโรว์ ถูกลักพาตัวระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่่าตนเองกลายเป็นหนึ่งในหญิงสาวที่กลายเป็นสินค้าของ เอธาน เฌอราส หนึ่งในผู้มีอิทธิพลของกลุ่มเครส และได้ทราบว่าเขาจะขายเธอให้แก่ผู้ที่ให้ราคาดีที่สุด!

Tags: ต่างดาว, เซเฟรัส, คีเรี่ยน, ยูรัส, แคเทรียน

ตอน: ตอนที่ 7

ดวงตาสีฟ้าอ่อนใสมองตามร่างสูงเพรียวในเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกับกางเกงผ้าแบบลำลองสีเข้มที่ยกถาดอาหารเข้ามาในห้องอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง แคเทรียนกะพริบตาปริบพลางมองตามร่างที่เคลื่อนไหวไปมาตรงหน้าเพื่อสร้างความมั่นใจว่าสิ่งที่เห็นกำลังเกิดขึ้นจริงมิได้คิดฝันไปเอง จนกระทั่งเจ้าของบ้านที่มาเคาะประตูราวกับรู้ว่าเธอจะลืมตาตื่นเวลาใดเลื่อนโต๊ะต้านแรงดึงดูดซึ่งดูเผินๆเหมือนแผ่นพลาสติกสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวเข้ากับสีขาวฟ้าในห้องให้มาลอยอยู่ข้างเตียง

“เช้านี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มของวุฒิสมาชิกหนุ่มผู้สร้างความประหลาดใจให้เจ้าของห้องทักทายขึ้นเป็นประโยคแรกเมื่อเขาขยับไปรวบม่านหน้าต่างชั้นนอกปล่อยแสงแดดอบอุ่นยามเช้าลอดผ่านม่านโปร่งชั้นในเข้ามาให้ความสว่าง การเคลื่อนไหวอันราบลื่นไม่ติดขัดบอกให้หญิงสาวทราบว่าอีกฝ่ายคุ้นเคยกับการกระทำแบบนี้อยู่แล้วยิ่งทำให้คนมองอัศจรรย์ใจมากขึ้น

“ถ้าคุณถามถึงความรู้สึกของฉันจริงๆก็ต้องตอบว่า รู้สึกไม่ถูกต้องที่คุณมาเคาะประตูห้องแต่เช้าเพื่อทำหน้าที่แม่บ้านแบบนี้”

ใบหน้าคมคายที่สาธารณชนต่างก็ให้คำชื่นชมว่าหล่อเหลาเกินหน้านักการเมืองคนอื่นๆนั้นหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มแจ่มใส คำตอบของหล่อนช่วยให้ชายหนุ่มแน่ใจว่าอีกฝ่ายอาการดีขึ้นจนสามารถสรรหาคำพูดมาตำหนิเขาได้ดังที่เคยเป็น

“ผมกำลังทำหน้าที่เจ้าของบ้านที่ดีต่างหาก” ยูรัสแก้พลางสาวเท้าเร็วๆเข้ามาโอบแผ่นหลังบางช่วยพยุงเมื่อเห็นเจ้าของห้องยันตัวขึ้นจากท่านอนราบ แล้วคว้าหมอนนุ่มใบใหญ่มาสอดเข้าไปเบื้องหลังให้นั่งพิงหัวเตียงได้อย่างสบายตัว “คุณเพิ่งดีขึ้นเมื่อวานนี้เองนะ”

“หรือคะ” คิ้วเรียวขมวดมุ่นขณะพยายามทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดที่พาตนเองมาอยู่ภายใต้การดูแลของอีกฝ่าย หากสิ่งที่จดจำได้กลับมีเพียงการเดินเล่นริมทะเลสาบและเวลาบางช่วงของการตื่นนอนชั่วครู่ก่อนจะหลับใหลไปอีกครั้ง แถมเรี่ยวแรงที่เคยมีก็ดูจะเหือดหายราวกับถูกดูดลงไปในหลุมดำเกือบหมดจึงได้แต่ถอนใจแผ่วแล้วเอ่ยปากตามความเคยชิน “ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณต้องลำบาก”

“ไม่มีอะไรลำบากเลย ในเมื่อคุณหลับเป็นตายเสียขนาดนั้น คุณเองก็ไม่มีนิสัยน่ารังเกียจตอนหลับด้วย ไม่ต้องกังวลหรอกครับ” ชายหนุ่มเพิ่มเสียงกลั้วหัวเราะลงในคำพูดยามระลึกถึงสภาพจำศีลของหญิงสาวที่ไม่อาจสร้างความลำบากให้แก่ผู้ใดได้ นอกจากจะสร้างความไม่สบายใจให้แก่ตัวเขาแต่เพียงผู้เดียว

และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะบอกหล่อนด้วย…

แคเทรียนนิ่วหน้าเมื่อพิจารณาสภาพร่างกายตนเองตามคำบอกเล่าของอีกฝ่าย นอกจากจะไร้เรี่ยวแรงแล้วก็ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆนอกเหนือไปจากความทรงจำเก่าๆที่ถูกกระตุ้นให้ลุกขึ้นมาโลดแล่นอย่างมีอิสรเสรีในความฝันของเธอเอง เรื่องราวทั้งหมดนั้นมีทั้งสิ่งที่ยังจำได้ดีถึงปัจจุบันจนถึงเหตุการณ์ในสมัยเด็กที่ลืมเลือนไปแล้ว และความฝันบางส่วนก็ได้รับการปรุงแต่งใหม่ให้บิดเบือนต่อเนื่องไปหลายทิศทางจนเธอเริ่มจะไม่แน่ใจว่าส่วนใดกันแน่ที่เป็นความจริง

โดยเฉพาะเรื่องที่มีคู่สนทนาเข้ามาเกี่ยวข้องแบบนี้…

“ฉันฝัน”

“หือม์ คุณฝันว่าอะไรบ้างล่ะ” เจ้าของบ้านถามเรื่อยเปื่อยด้วยไม่หวังคำตอบจริงจังใดๆขณะหยิบริบบิ้นสีชมพูอ่อนฉลุลายดอกไม้ออกจากลิ้นชักตู้ไม้ชิดผนัง เดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งข้างเตียงก่อนรวบเส้นผมสีเงินยวงที่ตกลงปรกใบหน้าขาวเนียนและช่วงบ่าบอบบางมาผูกไว้เบื้องหลังมิให้เกะกะสายตาหรือยุ่งเหยิงกว่าเดิม “ฝันถึงผมบ้างหรือเปล่า”

เสียงทุ้มนุ่มนวลข้างหูและลมหายใจอุ่นจนร้อนที่กระทบผิวแก้มเตือนให้วุฒิสมาชิกสาวรู้ตัวว่ากำลังหมกมุ่นกับตนเองมากเกินไปจนอีกฝ่ายสามารถเข้าใกล้ในระยะประชิดได้ ร่างโปร่งบางเกร็งแข็งขึ้นมาชั่วขณะก่อนผ่อนคลายลงเมื่อนึกได้ว่าเคยบอกความต้องการของตนเองให้อีกฝ่ายทราบและชายหนุ่มก็มิได้มีการเคลื่อนไหวไร้ประโยชน์เกินความเหมาะสมอันพึงมี

แน่นอนว่ายูรัสสังเกตเห็นอาการนี้เช่นกัน…

“ทำท่าแบบนี้แสดงว่าฝันถึงผมในเรื่องที่เล่าให้ฟังไม่ได้ล่ะสิ” ชายหนุ่มหัวเราะพลางผูกปมให้เป็นโบว์จนเสร็จ หากยังไม่ยอมปล่อยมือด้วยรู้สึกชอบใจความนุ่มเย็นลื่นของเส้นผมยาวสลวยที่กำลังสัมผัสอยู่จนต้องลูบไล้แผ่วเบา

“มีแต่คุณนั่นแหละที่คิดแบบนี้” หญิงสาวโต้กลับพร้อมลอบสำรวจเครื่องแต่งกายตนเองให้แน่ใจว่ามิดชิดเรียบร้อยไม่เผยสิ่งไม่สมควรต่อสายตาชายหนุ่ม เผลอเม้มปากด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะจับได้ว่าเธอมีปฏิกิริยาต่อเขาทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่แสดงความหวาดระแวงใดๆออกมาให้เห็น

ความสัมพันธ์ตั้งแต่อดีตสอนให้รู้ว่าการรับมือยูรัสนั้นต้องใช้อารมณ์และสีหน้าสงบนิ่งเป็นพื้นฐานเพื่อป้องกันมิให้อีกฝ่ายฉวยโอกาสจับความรู้สึกใดมาใช้ประโยชน์ได้…

แต่ถึงจะพยายามมากแค่ไหนก็ใช่ว่าจะได้ผลเสมอไป…

ก็ขนาดคนไม่สบายอย่างเธอยังถูกเขาบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวได้หน้าตาเฉยแบบนี้!

ริมฝีปากบางได้รูปขยับยิ้มบางๆให้กับการต่อว่าอันไร้ความจริงจังของคู่สนทนาด้วยรู้ว่าหล่อนกำลังป้องกันตัวเองตามปกติ ละปลายนิ้วเรียวยาวจากเรือนผมสีทองคำขาวด้วยกิริยาเป็นธรรมชาติแล้วปล่อยมือก่อนหญิงสาวชาวบาโรวิทจะรู้สึกตัวและแสดงท่าทีต่อต้านเพื่อหันไปเลื่อนถาดอาหารมาไว้ตรงหน้าเจ้าของห้อง

“ไม่ฝันต่อก็ดีแล้วล่ะ เช็ดหน้าแล้วกินอาหารเช้าเถอะ คุณหลับมาตลอดสามวัน ถ้าปล่อยให้ร่างกายขาดสารอาหารอีกคุณได้ผอมบางยิ่งกว่าก้านดอกไม้ข้างนอกนั่นแน่” วุฒิสมาชิกหนุ่มเบี่ยงเบนความสนใจของหล่อนไปสู่เรื่องที่สำคัญกว่าอย่างนุ่มนวลราบรื่น หยิบผ้าอุ่นที่เตรียมไว้สำหรับเช็ดหน้าออกจากถาดส่งให้คนป่วยถือเมื่อพิจารณาแล้วว่าอีกฝ่ายสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดีพอสมควร “ผมรับรองได้ว่าซุปนี่มีสารอาหารที่คุณต้องการมากพอๆกับที่รสชาติดี”

นัยน์ตาสีเขียวสวยของคนพูดเป็นประกายระยับยามสบกับดวงตาสีไอซ์บลูที่ตวัดมองทันทีที่ได้ยินเขาพูดประโยคสุดท้าย มือใหญ่ดึงโต๊ะต้านแรงดึงดูดที่วางถาดอาหารไว้ให้เลื่อนมาอยู่ตรงหน้าร่างบางแล้วเปิดฝาชามซุปบริการอย่างรู้หน้าที่ ไอร้อนที่พลุ่งออกมาพร้อมกลิ่นหอมยวนใจกระตุ้นให้กระเพาะคนป่วยเริ่มทำงานทันที

ซุปสีเหลืองอ่อนใสเต็มไปด้วยผักหลากสีสันหั่นเป็นชิ้นเล็กๆน่ารับประทานจนแคเทรียนต้องรีบเช็ดหน้าแล้วตักขึ้นมาชิมอย่างอดใจไม่อยู่ แต่เมื่อจะตักคำที่สองหลังพบว่ารสชาติของอาหารตรงหน้าเลิศเลอสมกับที่คนทำโอ่อวดไว้ก็ต้องชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ถึงความป่วยไข้ของตนเอง

“มียาที่ฉันต้องกินบ้างมั้ยคะ”

คำถามนั้นส่งผลให้ร่างสูงเพรียวที่กำลังตรงดิ่งไปยังตู้เสื้อผ้าหยุดเดินแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับวุฒิสมาชิกสาว สีหน้าผ่อนคลายของชายหนุ่มเคร่งขรึมขึ้นจนคนป่วยมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องจับสังเกตใดๆให้เสียเวลา และอากัปกิริยาของเขาก็ยิ่งสร้างความฉงนให้เธอมากกว่าเดิม

“มีปัญหาที่คุณยังไม่ได้บอกฉันใช่ไหม”

“ผมว่ามันไม่ควรจะเรียกว่าปัญหาหรอก” คิ้วสีน้ำตาลขมวดเข้าหากันเล็กน้อยขณะตอบคำถามนั้นหลังตัดสินใจว่าควรบอกให้คู่สนทนาทราบถึงสิ่งที่เป็นตะกอนถ่วงอยู่ในใจตั้งแต่หล่อนล้มลงไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว “คุณไม่ต้องกินยาอะไรเลย เพราะคุณแค่ใช้เวลาในการนอนมากกว่าปกติเท่านั้นเอง”

“คุณช่วยอธิบายให้ฉันเข้าใจมากกว่านี้จะได้ไหม ยูรัส” ความสงสัยใคร่รู้ทำให้หญิงสาววางช้อนในมือลงข้างชามซุปเป็นสัญญาณบอกให้คนเห็นทราบว่าหล่อนจะไม่รับประทานต่อถ้าหากไม่ได้รับคำอธิบายแจ่มแจ้งชัดเจน “เท่าที่ฉันจำได้คือการเดินเล่นริมทะเลสาบแล้วก็รู้สึกว่าการมองเห็นผิดปกติไป จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย”

“แล้วตอนนี้คุณมองเห็นชัดเจนแค่ไหน รู้สึกผิดปกติตรงไหนบ้างรึเปล่า” ยูรัสสาวเท้ายาวๆเข้ามายืนข้างกายคนป่วยอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับคำพูด มือใหญ่แตะดวงหน้าขาวจัดให้เงยขึ้นพลางก้มลงเพ่งพิศดวงตาสีฟ้าอ่อนจางควานหาความผิดปกติที่เขาเพิ่งจะได้ทราบจากปากหล่อนด้วยความห่วงใย

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนนี้ฉันมองเห็นทุกอย่างชัดเจนเป็นปกติดี คงเป็นเพราะอาการผิดปกติของร่างกายนี่แหละค่ะ ที่ทำให้ฉันมองเห็นคุณเดินโซเซ ไม่น่าจะใช่อาการเรื้อรังหรอก” แคเทรียนปฏิเสธเสียงเรียบนุ่มนวลแล้วอธิบายเพิ่มเติมเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังสังเกตหาร่องรอยความผิดปกติบนร่างเธอด้วยแววตาวิตกกังวลใจ หากเธอก็อดข้องใจมิได้ว่าเพราะเหตุใดชายหนุ่มจึงแสดงความใส่ใจมากมายทั้งที่ไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน

ไม่เคยเลย…

ไม่แม้กระทั่งตอนที่ยังหมั้นกันอยู่ก็ตาม!

สาวสวยชาวบาโรวิทสะกดกลั้นอาการอยากถอนใจไว้ในอกเมื่อความรู้สึกขัดข้องใจที่เคยมีในอดีตหวนคืนมาในเวลาเพียงพริบตาเดียว ตลอดระยะเวลากว่าสี่ปีหลังการถอนหมั้นกันตามลำพังนั้นเธอก็ไม่ค่อยจะได้สนทนาวิสาสะกับยูรัสมากนัก การพูดคุยส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อมีความจำเป็นต้องติดต่ออีกฝ่ายทั้งในเรื่องทางบ้านและธุรกิจการงาน หากพบกันระหว่างเข้าร่วมประชุมสภาเซเนสก็มีแค่ทักทายกันอย่างสุภาพมีระเบียบแบบแผนเต็มไปด้วยความเหินห่างอันเกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น มิหนำซ้ำในบางครั้งก็มีบรรยากาศเย็นชารายล้อมเสียจนบุคคลอื่นๆที่ผ่านมาพบเข้าต่างคิดว่าเธอกับเขามีปัญหาขัดแย้งจนถึงขั้นไม่ถูกกันด้วย

โชคดีที่การหมั้นนั้นเป็นที่ทราบกันเฉพาะในหมู่คนใกล้ชิดของพวกเขาทั้งคู่จึงไม่มีบุคคลภายนอกมาแสดงอาการสอดรู้สอดเห็นให้รำคาญใจ…

โชคร้ายที่ญาติพี่น้องของเธอกลับไม่เห็นด้วยกับการกระทำนั้นเลยสักคนเดียว…

เพียงคิดถึงอดีตที่ผ่านมาหญิงสาวก็นึกอยากหลับใหลไม่ได้สติอีกครั้งเผื่อเหตุการณ์ทั้งหมดจะเป็นแค่ความฝันยุ่งเหยิงที่เกิดจากอาการผิดปกติทางร่างกาย ความอึดอัดคับข้องใจและเรื่องวุ่นวายชวนให้หงุดหงิดที่เกิดขึ้นกับตนเองในช่วงเกือบสองเดือนนี้จะได้มลายไปเหมือนไม่เคยมีมาก่อน ทว่าร่างสูงเพรียวที่ยืนมองด้วยแววตาใคร่ครวญอยู่เงียบๆข้างเตียงก็ทำให้ต้องรีบตัดความต้องการทั้งมวลทิ้งโดยฉับพลัน

“ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกถึงความผิดปกติตรงไหนเลยค่ะ”

วุฒิสมาชิกหนุ่มพยักหน้ารับเมื่ออีกฝ่ายสามารถลุกขึ้นมาให้คำอธิบายอย่างมีเหตุผลและยืนยันเสียงแข็งได้อีกครั้งหลังหมดสติไปโดยไม่ทันตั้งตัว ตัดสินใจเอ่ยถึงข้อสันนิษฐานที่มีความเป็นไปได้สูงสุดที่นำมาซึ่งความไม่สบายใจซึ่งไม่จางหายไปจนกว่าจะได้ทราบว่าหล่อนปลอดภัยไร้ปัญหาใดๆจริง

“ขอโทษด้วยนะ ผมไม่คิดว่าคุณจะแพ้เกสรดิโอเรส”

“เกสรดิโอเรสหรือคะ” วุฒิสมาชิกสาวทวนคำก่อนข้อมูลสำคัญที่นึกไม่ออกก่อนหน้านี้จะแล่นวาบขึ้นมาในสมอง

ดิโอเรส…

สาเหตุหลักที่ทำให้ชาวบาโรวิทไม่นิยมอสังหาริมทรัพย์ในดาเมเนส!

“อาการคุณแย่ลงอีกหรือ” ดวงตาสีเขียวมรกตจับจ้องใบหน้าซีดขาวของหญิงสาวอย่างวิตกกังวลระคนห่วงใยเมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนเงียบไปกะทันหัน “เป็นอะไรก็บอกผมสิ”

“เปล่าค่ะ ฉันไม่เป็นอะไร แค่ประหลาดใจนิดหน่อย” ศีรษะสีทองคำขาวส่ายเป็นเชิงปฏิเสธก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งพลางลงมือรับประทานอาหารต่อ “แล้วคุณทราบได้ยังไงว่าฉันเกิดอาการเพราะแพ้ดิโอเรส”

คำถามนั้นสร้างความประหลาดใจอย่างที่สุดให้แคเทรียนยามชายหนุ่มผู้ปราศจากความละอายใดๆเพียงคนเดียวที่เคยรู้จักหลบสายตาที่กำลังสบกัน กิริยาอันบ่งบอกถึงความอึดอัดใจของอีกฝ่ายส่งผลให้หญิงสาวจ้องมองเขาตาไม่กะพริบเมื่อตระหนักว่าเช้านี้มีสิ่งที่ตนเองไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน

“ผมเดาเอา” ยูรัสเหลือบมองใบหน้าขาวเนียนอีกครั้ง พยักหน้าไปยังทิศทางที่ตนเองนำคู่สนทนาไปเดินเล่นเมื่อสามวันที่แล้วพลางถอนใจเฮือกก่อนสรุป “วันนั้นไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นเลยจนกระทั่งผมเก็บดิโอเรสมาให้คุณ ผมน่าจะระมัดระวังมากกว่านี้แท้ๆ”

ภาพสาวสวยเจ้าของสีหน้าอัศจรรย์ใจยามชื่นชมลักษณะงดงามของดอกไม้สีขาวกลิ่นหอมจรุงใจรวยระรินจนนึกอยากพาหล่อนไปเดินเล่นท่ามกลางทุ่งดิโอเรสนั้นยังตราอยู่ในความทรงจำราวกับเจ้าหล่อนแสดงกิริยาเดิมซ้ำๆไม่ยอมเลิก และภาพนี้ก็ทำให้เขาสะดุดใจจนต้องทบทวนความจำใหม่ทั้งหมดกระทั่งนึกออกว่าประชากรของดาวบาโรว์แทบไม่จะเดินทางมาดาวเคราะห์ดวงนี้ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการที่ไม่เคยรู้มาก่อน

แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเพราะอะไร…

เป็นการรู้ด้วยสาเหตุอันน่าละอายที่สุดด้วย!

หญิงสาวชาวบาโรวิทพยักหน้ารับด้วยไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีกับท่าทีสงบนิ่งเต็มไปด้วยการตำหนิตนเองอย่างจริงใจของอีกฝ่าย ตักซุปเข้าปากด้วยท่าทางอันไม่ต่างจากการเคลื่อนไหวของแอนดรอยด์ซึ่งทำทุกอย่างไปโดยอัตโนมัติตามที่ถูกตั้งโปรแกรมหรือได้รับคำสั่งมาเมื่อเขาเดินกลับไปยังตู้เสื้อผ้า ในสมองมีเพียงความคิดที่ว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่น่าจะยอมรับผิดและแสดงท่าทางแบบนี้ง่ายนัก

เป็นไปได้ยังไง?

ดวงตาสีฟ้าอ่อนจางมองตามร่างสูงเพรียวที่ง่วนอยู่กับการเลือกเสื้อผ้าให้หล่อนแล้วนำเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมาอีกครั้ง คราวนี้ยูรัสเตรียมเครื่องประดับไว้ให้บนโต๊ะเครื่องแป้งอย่างคล่องแคล่วราวกับเป็นสาวใช้ประจำตัวก็ไม่ปาน และอากัปกิริยานั้นก็ทำให้คนมองนึกถึงพฤติกรรมทุกอย่างของเขาตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้อง

“คุณดูแลผู้หญิงเก่งนะคะ” หญิงสาวเปรยเสียงเบา แม้พยายามไม่แสดงความสนใจจนเกินไปนักแต่ก็อดมิได้ที่จะจับตามองเขาต่อไป

ใบหน้าคมคายเงยขึ้นแล้วสบตาคนถามผ่านกระจกเงาบานใหญ่ด้วยแววตายิ้มแย้มเป็นประกายเช่นเดียวกับริมฝีปากบาง ในขณะที่มือใหญ่หยิบเครื่องสำอางหลากหลายชนิดที่วุฒิสมาชิกสาวไม่เคยใช้มาก่อนจนกระทั่งต้องมาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ออกจากลิ้นชัก

“ถ้าผมทำไม่ได้ก็แย่สิ หากจำไม่ผิด ผมเคยบอกคุณมาก่อนแล้วว่าผมอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ที่ผู้หญิงมีอำนาจ เพราะเหตุนี้แหละผมจึงสามารถปรนนิบัติพวกคุณได้อย่างถูกต้องเหมาะสม คุณล่ะ ชอบรึเปล่าที่ผมทำแบบนี้”

ประโยคสุดท้ายของผู้ชายไร้ยางอายซึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเอาใจนั้นพุ่งเข้ามากระแทกสติรับรู้ของแคเทรียนจนการเคลื่อนไหวทุกอย่างหยุดนิ่งไปโดยอัตโนมัติ ก้อนเนื้อในอกที่เต้นเป็นจังหวะหนักแน่นสม่ำเสมอไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์กดดันเพียงใดเริ่มกระตุกวาบเป็นครั้งแรก

มือขาวจัดกระชับช้อนส่งซุปเข้าปากอีกครั้งหลังตั้งสติได้ก่อนจะเหลือบมองแผ่นหลังกว้างที่ผู้เป็นเจ้าของยังคงเรียงเครื่องประทินโฉมตามลำดับการใช้งานไปเรื่อยๆอย่างใจเย็น ใบหน้างามเผือดสีขณะปล่อยให้ความเงียบสงบเยือกเย็นของบรรยากาศยามเช้าในฤดูใบไม้ร่วงเข้าครอบครองห้องเมื่อตอบคำถามนั้นในใจ

ถ้าเพียงแต่คุณจะพูดอย่างนี้ในวันที่ฉันขอถอนหมั้น…





“แม่ดีใจที่ลูกแวะมานะจ๊ะคาลิกซ์”

คำพูดอันนุ่มนวลอ่อนหวานและมือบอบบางที่แตะแขนอย่างแผ่วเบาส่งผลให้ชายหนุ่มวัยยี่สิบสามผู้กำลังจะปล่อยมือจากพนักเก้าอี้ก้มลงแตะริมฝีปากกับแก้มที่ตกแต่งไว้ด้วยเครื่องประทินโฉมจนงดงามอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงเป็นการเอาใจอีกฝ่าย ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะอาหารตัวยาวในห้องอาหารขนาดใหญ่ไปยังที่นั่งทางด้านซ้ายมืออันเป็นตำแหน่งของตนเองถัดจากหัวโต๊ะที่ยังว่างเปล่า

“อาหารค่ำวันนี้แม่ให้เขาเตรียมของโปรดลูกไว้แล้ว ทานให้มากๆนะจ๊ะ สีหน้าลูกไม่ค่อยดีเลย แม่กำลังคิดว่างานที่คุณพ่อให้ลูกดูแลคงจะหนักเกินไป เพราะถึงลูกจะปิดเทอมแล้วแต่เราก็ไม่ค่อยพบหน้ากันเลย” สตรีร่างบางในเครื่องแต่งกายหรูหราสมวัยห้าสิบสี่เอ่ยเป็นเชิงบ่นเมื่อคาลิกซ์นั่งลงเรียบร้อยแล้ว ความไม่แน่ใจระคนห่วงใยแฝงอยู่ในน้ำเสียงยามหล่อนสังเกตเห็นสีหน้าอันผิดปกติของบุตรชายเพียงคนเดียวปรากฏขึ้นเป็นระยะยามเจ้าตัวนิ่งเงียบอย่างคนใจลอย

ดวงหน้าขาวนวลที่มีองค์ประกอบคมเข้มงดงามจนสวยเกินชายซึ่งกวาดมองอุปกรณ์การรับประทานอาหารตรงหน้าเงยขึ้นทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น หากคำตอบที่มีให้ก็มิได้ช่วยไขข้องข้องใจของผู้เป็นมารดาเลยแม้แต่น้อย

“ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ งานที่ได้รับมอบหมายอาจจะยุ่งยากบ้าง แต่ไม่มีอะไรที่คุณแม่จะต้องกังวลเลยครับ”

“บางครั้งแม่ก็คิดว่าคุณพ่อเข้มงวดกับลูกเกินไป” แกรซีลทอดถอนใจเมื่อร่างสูงเพรียวเบื้องหน้ายังคงปิดปากเงียบไม่ยอมเอ่ยถึงสาเหตุของอาการหน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นเดียวกับที่เคยเป็นมาเกือบยี่สิบปี “ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีอะไรอยากให้แม่ช่วยก็บอกได้เลยนะจ๊ะ”

“แน่นอนครับ” คาลิกซ์ตอบรับด้วยรอยยิ้มบางเบาและการค้อมศีรษะสีน้ำตาลทองสวยหวีเรียบเป็นทรงสุภาพตามมารยาทอันควรกระทำ ด้วยรู้แก่ใจดีว่าถึงผู้มีศักดิ์เป็นมารดาจะแสดงท่าทีไม่สบายใจกับการปฏิเสธของตนเองมากเพียงใด แต่หล่อนก็จะไม่เก็บเรื่องของเขาไปคิดให้เปลืองเซลล์สมองเพราะยังมีงานการกุศลรอให้สุภาพสตรีอันดับหนึ่งไปจัดการอีกมากมาย แถมอีกฝ่ายยังไม่เคยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขาจากความเข้มงวดดุดันของสามีอย่างจริงจังเลยสักครั้ง

แล้วลูกบุญธรรมจะเรียกร้องอะไรนักหนาล่ะ?

ดวงตาสีเทาอมม่วงอันโดดเด่นสะดุดตาเพศตรงข้ามหลุบลงราวกับกำลังพิจารณาลวดลายบนภาชนะกระเบื้องเนื้อละเอียดที่วางซ้อนชั้นกันขณะรอบิดามาร่วมโต๊ะอาหารแม้ความจริงจะมิได้เป็นเช่นนั้นเลย ท่านั่งตัวตรงผึ่งผายเป็นธรรมชาติอันเป็นบุคลิกที่ถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กปิดบังความคิดคำนึงซึ่งหวนกลับไปยังบุคคลหนึ่งที่เขาไม่เต็มใจจะจากมาอย่างรวดเร็วนัก

หญิงสาวเจ้าของสัดส่วนโค้งเว้าสมเป็นสตรีเพศที่เปลือยเปล่าราวเด็กแรกเกิดผู้หลับสนิทอยู่ข้างกายกระตุ้นความรู้สึกอยากปกป้องขึ้นมาอย่างไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน หล่อนดูน่ารักน่าทะนุถนอมจนเขาแทบไม่กล้าแตะต้องแม้จะเพิ่งผ่านการร่วมรักกันมาไม่นาน แผ่นหลังบอบบางสีขาวอมชมพูเนียนละเอียดยิ่งกว่าผ้าชนิดใดที่เคยรู้จักปกคลุมด้วยเส้นผมดำขลับยาวสยายแผ่กระจาย ละม้ายหมึกที่ตวัดอยู่บนเฟรมวาดภาพด้วยฝีมือของจิตรกรเลื่องชื่อในอดีตจนหัวใจของเขาเจ็บปวดเพราะความงดงามของมัน

กระนั้นภาพเบื้องหน้าก็มิได้ช่วยให้ชายหนุ่มลืมว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงมาลงเอยกันอยู่บนเตียงเช่นนี้…

หากเขาเข้าไปเร็วกว่านั้นสักสามชั่วโมงเรื่องคงไม่จบลงง่ายๆแบบนี้แน่!

คิ้วเข้มพาดเฉียงสีเข้มกว่าผมขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิดเมื่อไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ แต่ก่อนจะคิดหาหนทางป้องกันมิให้เรื่องไม่พึงประสงค์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีกก็ถูกฉุดออกจากภวังค์ด้วยเสียงเตือนเบาๆของมารดา

“คุณพ่อมาแล้วจ๊ะ”

คาลิกซ์ปรับสีหน้าจนราบเรียบขณะผุดลุกขึ้นยืนต้อนรับบิดาผู้กำลังเดินผ่านประตูห้องรับประทานอาหารตามที่เคยฝึกฝนมาอย่างปราดเปรียวว่องไว และทันทีที่ร่างสูงหนาปรากฏตัวขึ้นบรรยากาศในห้องรับประทานอาหารก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ความรู้สึกผ่อนคลายแปรเป็นกระด้างเยือกเย็นปะปนกับความอึดอัดชวนให้ครั่นคร้ามจนคนไม่คุ้นเคยอาจทนไม่ไหว

ประธานาธิบดี อลาสเตอร์ ไฮดริคเกอร์ เริ่มสำรวจเครื่องแต่งกายของบุตรชายเป็นสิ่งแรกทันทีที่สายตาปะทะเข้ากับร่างสูงเพรียว เมื่อพบว่าถูกต้องเหมาะสมตามมาตรฐานอันเข้มงวดของตนเองก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ให้กับการต้อนรับนั้นพลางหย่อนกายลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งบริเวณหัวโต๊ะ ชายหนุ่มจึงนั่งลงอีกครั้งด้วยอากัปกิริยาสำรวมมากกว่าเดิมพร้อมกับที่พ่อบ้านส่งสัญญาณให้สาวใช้เริ่มเสิร์ฟอาหารจานแรก

“พักนี้เป็นยังไงบ้าง คาลิกซ์”

ผู้นำดาวเคราะห์โอริฟีคส์เอ่ยทักทายเป็นประโยคแรกเมื่อสาวใช้ถอยหลังออกไปยืนชิดผนังห้องมิให้เกะกะสายตา มือใหญ่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นด้วยวัยกว่าหกสิบสะบัดผ้าเช็ดปากคลุมตักขณะพิจารณาอาหารตรงหน้าก่อนเริ่มลงมือรับประทาน

“ผมสบายดีครับคุณพ่อ” ชายหนุ่มตอบเสียงเบาหากดังพอที่บุพการีทั้งคู่จะได้ยินอย่างชัดเจน แม้แกรซีลจะให้ความสนใจกับอาหารตรงหน้าและสิ่งที่อยู่ในความคิดของตัวเองมากกว่าจะสนใจฟังพวกเขาสนทนากันก็ตาม “งานทุกอย่างไม่มีอะไรติดขัดน่าเป็นห่วง แผนที่วางไว้ก็ไม่พบช่องโหว่ให้เกิดการผิดพลาดได้ เวลาปฏิบัติจริง ถ้าไม่มีตัวแปรที่คาดไม่ถึงโผล่มาก็จะไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ”

ชายสูงวัยส่งเสียงตอบรับในลำคอเป็นเชิงรับรู้พลางสังเกตท่าทางคนพูดก่อนจะพบว่าสีหน้าของชายหนุ่มราบเรียบสงบนิ่งตามปกติ ถึงแม้จะทราบดีว่าคำตอบของบุตรชายบุญธรรมคงไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมเพราะคาลิกซ์มักจะระมัดระวังตัวและหลีกเลี่ยงการสร้างความขุ่นเคืองให้เขามากเท่าที่จะทำได้ หากอลาสเตอร์ก็ยังต้องการให้อีกฝ่ายสำนึกไว้เสมอว่าตัวเองอยู่ในฐานะใดจึงไม่เคยคลายความเข้มงวดลงแม้แต่ครั้งเดียว

“ที่นั่นมีเรื่องที่ฉันควรรู้เกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า”

“มีแค่เรื่องวุ่นวายเล็กๆน้อยๆระหว่างเจ้าหน้าที่เท่านั้นล่ะครับ ไม่มีอะไรที่คุณพ่อควรจะเสียเวลาด้วยเลย” คาลิกซ์เริ่มตักอาหารเข้าปากขณะจิตประหวัดถึง ‘เรื่องวุ่นวายเล็กๆน้อยๆ’ ที่ทำให้ตนเองหงุดหงิดหัวเสียจนถึงบัดนี้ หากชายหนุ่มก็ไม่คิดจะเปิดปากเล่าถึงสาเหตุและความเป็นไปของเรื่องนี้ให้บิดาฟังแม้แต่คำเดียว

โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เขาไม่ต้องการให้คนอย่างอลาสเตอร์เข้ามายุ่งด้วย!

“แล้วซาฮ์ยันล่ะ เขาเป็นยังไงบ้าง”

นัยน์ตาเทาอมม่วงเหลือบมองใบหน้าอันเต็มไปด้วยริ้วรอยจากวัยและการประกอบอาชีพทหารในอดีตแวบหนึ่งก่อนตอบคำถามด้วยบทสนทนาธรรมดาจนคนที่ได้ยินไม่อาจเข้าใจเป็นอื่นได้ เว้นแต่ว่าบุคคลผู้นั้นจะทราบถึงสถานการณ์ที่วุฒิสมาชิกผู้ถูกกล่าวถึงกำลังเผชิญอยู่ก่อนหน้านี้

สถานการณ์ที่จะทำให้เขาโดนหน่วยสอบสวนกลางของเซเฟรัสลากตัวลงจากเตียงในบ้านพักกลางดึกเพื่อสอบสวนหาก ลิสโต เคอร์กิส ยังมีชีวิตอยู่!

“อาการป่วยของวุฒิสมาชิกซาฮ์ยันบรรเทาลงแล้วครับ แต่ถึงเขาจะเป็นคนออกปากรับรองต่อหน้าผมด้วยตัวเอง ผมก็ไม่คิดว่าโรคนี้จะหายขาดได้ง่ายๆ เราอาจต้องส่งผู้เชี่ยวชาญไปช่วยดูแลด้วยก็ได้”

“งั้นหรือ” คิ้วสีดอกเลาเลิกขึ้นเล็กน้อย ไม่นึกแปลกใจที่บุตรชายเพียงคนเดียวปล่อยให้สีหน้าไม่สบอารมณ์เผยตัวออกมาอย่างชัดเจน รู้แก่ใจดีกว่าทั้งคู่ต่างก็กินแหนงแคลงใจในตัวอีกฝ่ายมานานปี “ถ้าอย่างนั้นแกก็ควรจะสังเกตอาการเขาไว้บ้างนะ เผื่อเป็นอะไรไปเราจะได้ช่วยเหลือทัน”

หนุ่มรูปงามค้อมศีรษะรับคำสั่งเงียบๆขณะหวนนึกถึงชายวัยกลางคนที่มีใบหูแหลมตามเชื้อสายเผ่าพันธุ์ฟราเนเลสเป็นเอก ลักษณ์เฉพาะตัว ซ่อนแววตาหมายมาดระคนสาสมใจเอาไว้มิให้ผู้ใดสังเกตเห็นยามนึกถึงคำบอกเล่าภายในซึ่งได้ยินมาจากปากของคนรู้จักที่เชื่อถือได้

เฟกัล ซาฮ์ยัน เป็นคนแนะนำให้ลงโทษไอ้สารเลวนั่นด้วยวิธีการอันยังความทรมานใจมาสู่คนรักของเขา…

ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้มันเล็ดรอดสายตาไปแน่!




สาวงามในชุดราตรียาวสีขาวยืนมองคู่รักที่กำลังเต้นรำอย่างมีความสุขกลางห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ซึ่งจัดไว้เป็นฟลอร์ด้วยอาการหน้านิ่วคิ้วขมวด นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจางที่จับจ้องร่างสูงสง่าของฝ่ายชายซึ่งเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวแล้วย้ายไปยังหญิงสาวผมดำร่างอวบในชุดราตรีสั้นสีเขียวทองเต็มไปด้วยแววครุ่นคิด

การตกแต่งอย่างหรูหราสวยงามเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยเกินกว่าจะพบได้ในห้องจัดเลี้ยงแบบติดตั้งชั่วคราว ซึ่งสามารถเรียกใช้บริการได้ทั่วไปบนดาวเคราะห์ทุกดวงที่มีบริษัทรับจัดงานเลี้ยงนั้น ประกาศความมั่งคั่งของตระกูลอิลราซานอย่างปฏิเสธมิได้ หากสภาพแวดล้อมรอบกายมิได้ส่งผลกระทบต่อความสนใจใคร่รู้ของหญิงสาวชาวบาโรวิทผู้ชื่นชมเจ้าของบ้านอย่างเงียบๆมาเกือบสิบปีแต่อย่างใด เพราะบทสนทนาระหว่างเธอกับเจ้าภาพฝ่ายหญิงเมื่อสักครู่ชวนให้อดสงสัยมิได้ว่าข้อเท็จจริงในการถูกซื้อตัวมาของอีกฝ่ายเป็นอย่างไรกันแน่ แถมรายละเอียดและความคิดเห็นในเรื่องสิทธิสตรีของดาราจักรทางช้างเผือกที่เธอสนใจใคร่รู้จนต้องเข้าไปพูดคุยกับปัณฑารีย์ด้วยความจำใจก็ไม่ได้ทราบมากเท่าที่ต้องการเพราะถูกชายผู้ไม่พึงประสงค์มาขัดจังหวะเสียก่อน

เธรอน เซส ศัตรูของผู้หญิงทั้งกาแล็กซี!

ครั้นปัดชายหนุ่มน่ารังเกียจที่บังเอิญเจอเพราะเขาดันเป็นเพื่อนสนิทของชายที่เธอชื่นชมออกจากสมองและใช้เวลาทบทวนอย่างถ้วนถี่แล้ว วุฒิสมาชิกสาวก็แน่ใจว่าทั้งไซเร็คและอดีตคู่หมั้นของตนเองไม่มีทางชื่นชอบหรือสะดุดตาผู้หญิงคนนี้เป็นการส่วน ตัวจนต้องประมูลหล่อนมาแน่

หากยังมีข้อสงสัยบางประการค้างคาอยู่…

ทำไมปัณฑารีย์ถึงมาอยู่กับเขาได้?

เหตุใดไซเร็คจึงไม่ส่งหล่อนกลับโลกทั้งที่คนอย่างเขาสามารถทำได้อย่างง่ายดาย?

ความคิดแคเทรียนสะดุดลงเมื่อแอนดรอยด์ในชุดบริกรเสนอเครื่องดื่มในถาดที่ยกเดินวนเวียนไปมาเพื่อให้บริการแขกผู้มาเยือน มือขาวจัดจึงคว้าแก้วเจียระไนบรรจุของเหลวสีเหลืองอำพันก่อนย้ายตนเองไปยืนหลบมุมที่พิจารณาแล้วว่าจะไม่มีใครเข้ามายุ่มย่ามวุ่นวายด้วย ดวงตาสีไอซ์บลูยังคงจับจ้องคู่เต้นรำกลางฟลอร์โดยไม่ใส่ใจกับคู่อื่นๆที่รายล้อมอยู่พลางใช้ความคิดต่อ

‘หมอนั่นมีสาวชาวโลกร่าเริงแจ่มใสเดินไปเดินมาในบ้านมาหลายเดือนแล้ว พบกันครั้งล่าสุดก็เห็นว่าอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากเพราะได้พยาบาลส่วนตัวดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี มีผู้หญิงน่ารักขี้เล่นคอยดูแลใกล้ชิดใครจะไม่ดีขึ้นได้’

คำบอกเล่าของยูรัสที่ยังจดจำได้ดีผุดขึ้นมาในสมองเมื่อภาพน่าขัดใจชวนหงุดหงิดเบื้องหน้าดำเนินต่อไปเรื่อยๆ คิ้วเรียวสีทองคำขาวขมวดเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจเมื่อคิดถึงการขาดข้อมูลส่วนบุคคลของหญิงสาวชาวโลกซึ่งอาศัยอยู่ในคฤหาสน์อิลราซานร่วมกับไซเร็คทำให้เธอไม่อาจเตรียมตัวตั้งรับร่างเล็กน้ำหนักเกินมาตรฐาน กิริยาวาจารื่นเริงกระตือรือร้นราวกับลูกสัตว์ไร้เดียงสา และนิสัยเปิดเผยอารมณ์ความรู้สึกและเรื่องส่วนตัวให้คนแปลกหน้ารับรู้เกินระดับที่กล่าวได้ว่าเหมาะสมโดยไม่หยุดตรึกตรองนั้นเลยสักนิด

หลังจากที่เห็นตัวจริงและได้สนทนากันเธอก็สามารถรับประกันว่าปัณฑารีย์มิได้อัปลักษณ์หรือมีความผิดปกติทางอารมณ์จนเพศตรงข้ามจะเมินผ่านไปไม่สนใจ ด้วยรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายนั้นสามารถใช้ชีวิตคู่ร่วมกับชายสักคนได้ไม่ยากหากหล่อนต้องการ ทว่าคุณสมบัติที่หญิงสาวชาวโลกมีติดตัวไม่น่าจะเพียงพอสำหรับบุรุษผู้ดำเนินชีวิตในสังคมที่ให้ความสำคัญกับชาติตระกูล ทรัพย์สมบัติ และภาพลักษณ์ อยู่ทุกลมหายใจ

แต่นั่นก็มิใช่ความผิดของปัณฑารีย์แม้แต่น้อย…

ที่ผิดคือคนจับหล่อนมาต่างหาก!

กระนั้นความรู้สึกชื่นชมในตัวไซเร็คที่มีมานานก็ยังทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าเขาสามารถเลือกผู้หญิงที่เหมาะสมกว่านี้ได้…

หญิงสาวชาวบาโรวิทถอนใจแผ่วอย่างผิดหวังในตัวชายหนุ่มผู้พรั่งพร้อมซึ่งชื่นชมมานานเกือบสิบปีพร้อมกับรู้สึกผิดที่ไม่อาจมองหญิงสาวชาวโลกในแง่มุมดีกว่านี้ได้ ก็คงเป็นเพราะคู่ควงในอดีตของไซเร็คล้วนมีความสามารถโดดเด่นในด้านต่างๆจนได้รับการยอมรับนับถือในสังคม แถมยังไม่เคยมีใครเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวมาจากต่างดาราจักรเพื่อใช้เป็นสินค้าในการประมูลและตกอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่แทบจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้หากต้องอยู่ตามลำพังมาก่อน

แคเทรียนเทเครื่องดื่มที่ถืออยู่ลงคอพรวดเดียวหมดเมื่อเล็งเห็นว่าการตัดสินใจของเพื่อนที่ตนเองเคยคิดว่าสามารถมีอนาคตร่วมกันได้ผิดพลาดอย่างที่สุดจะทำให้รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิมหากคิดต่อไป เพราะนอกจากเรื่องที่น่าหงุดหงิดรบกวนจิตใจนี้เธอยังมีเรื่องสำคัญยิ่งกว่ารอให้จัดการอยู่

คนโกหกหน้าตายที่ชอบกลั่นแกล้งคนอื่น!

ร่างสูงโปร่งในชุดราตรีเกาะอกสีขาวยาวกรอมเท้าประดับลวดลายอ่อนช้อยเข้ากับรองเท้าส้นแหลมสูงกำก้านแก้วเจียระไนว่างเปล่าในมือแน่นเมื่อเริ่มเดินหาคนที่นำเธอมาร่วมงานเลี้ยงแนะนำตัวว่าที่เจ้าสาวบนดาวอาริออสแห่งนี้ ดวงตาสีอ่อนจางสำรวจห้องจัดเลี้ยงขณะออกเดินด้วยกิริยาเอื่อยเฉื่อยเพื่อหาร่างสูงเพรียวที่คุ้นเคยด้วยการกวาดสายตามองรอบกายฉับไว และความไม่สบายใจก็เริ่มครอบงำเมื่อสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเหล่าบุรุษชาวคีเรี่ยนที่ดูจะมุ่งตรงมาหาตนเองพร้อมประกายตาชวนอึดอัด เธอจึงเปลี่ยนทิศทางไปยังฟากห้องที่มีเพศหญิงมากกว่าโดยอัตโนมัติ

‘ยินดีที่ได้พบคุณอีกครั้งครับแพน นายด้วย ไซเร็ค ยินดีด้วยนะ และสุภาพสตรีผู้งดงามคนนี้ก็คือแคเทรียน’

ประโยคที่รวมคำทักทายและแนะนำตัวคู่ควงอย่างสั้นๆด้วยชื่อต้นเข้าไว้ด้วยกันของยูรัสยามพบหน้าเจ้าภาพงานแทบจะทำให้หญิงสาวหันขวับไปจ้องหน้าเขาทันควัน คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายยอมรับออกมาด้วยตัวเองแล้วว่าเธอคือ แคเทรียน เนลีคาห์น ตัวจริง ทว่ามารยาทสังคมและจำนวนแขกที่ทยอยกันเข้ามาในงานก็เตือนให้เธอสงบปากคำรอจนกว่าจะมีเวลาและโอกาสเหมาะสมสำหรับการสอบถามที่จะกลายเป็นการซักฟอกเอาไว้ทีหลัง

กระนั้นก็มีบางอย่างที่เธอยังไม่สามารถหาคำตอบได้ด้วยตนเอง…

ทำไมถึงเป็นตอนนี้!?

ยูรัสมีเหตุผลอะไรถึงได้ยอมรับสิ่งที่ทำเป็นไม่ใส่ใจมาตลอดในงานเลี้ยงคืนนี้?

การปฏิเสธด้วยท่าทีไม่ใส่ใจหรือแสดงการรับรู้ใดๆเมื่อเธอพยายามยืนกรานว่าตนเองคือบุคคลที่เขารู้จักดีนั้นช่วยเน้นข้อเท็จจริงที่ว่าอีกฝ่ายต้องการกลั่นแกล้งเธอดังที่เคยทำมาตลอด หากแคเทรียนก็ไม่คิดว่าผู้ชายที่เหินห่างกันมานานพอสมควรและมิได้มีทีท่าว่าจะหวนไปกลับไปใช้วิธีการเดียวกับสมัยเยาว์วัยจะทำอะไรแบบนี้อีก

และวุฒิสมาชิกสาวก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเตรียมพร้อมในการนำเธอมาร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วย!

ริมฝีปากบางเคลือบสีแดงสดใสมันวาวเม้มเข้าหากันขณะค้นหาคำอธิบายที่ถูกต้องหากยิ่งคิดหญิงสาวชาวบาโรวิทก็ยิ่งไม่เข้าใจในการกระทำของอีกฝ่าย ความมีเหตุผลสั่งการให้หาตัวต้นเหตุโดยด่วนแล้วรีบกลับที่พักเพื่อสนทนากันให้ชัดเจนก่อนที่เรื่องราวจะยุ่งยากมากยิ่งขึ้น

ร่างโปร่งระหงในชุดราตรีสวยเด่นสะดุดตาสาวเท้าผ่านชายหนุ่มหน้าตาดีซึ่งเตรียมเอ่ยปากทักทายด้วยการเมินผ่านละม้ายไม่ทันสังเกตเห็นท่าทีอีกฝ่าย จ้ำพรวดไปยังเฉลียงทางซ้ายมือหมายใช้เป็นที่หลบภัยชั่วคราวจากบุคคลไม่พึงประสงค์ซึ่งมีจำนวนมากอย่างน่าตกใจพลางบ่นถึงความเจ้าชู้ของเผ่าพันธุ์คีเรี่ยนอยู่ในใจ หากหญิงสาวชาวบาโรวิทก็ต้องชะงักเมื่อสังเกตเห็นชายหญิงคู่หนึ่งยึดจุดหมายของตนเองอยู่ก่อนแล้วผ่านทางประตูกระจกบานยาวที่แอนดรอยด์รับใช้ประจำบ้านเปิดทิ้งไว้ให้อากาศเย็นฉ่ำยามค่ำคืนโชยผ่านเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง

ครั้นรูปร่างและเสื้อนอกที่คุ้นตาของฝ่ายชายผ่านเข้ามาในคลองจักษุ เธอก็เลือกหลบเข้าแฝงกายหลังม่านปกปิดตนเองจากสายตาโลมเลียไม่น่าไว้วางใจของเหล่าบุรุษเพศ ตั้งใจจะรอจนกว่ายูรัสสนทนากับหญิงสาวแปลกหน้าที่น่าจะเป็นหนึ่งในคนรู้จักจากหน้าที่การงานซึ่งแวะเวียนเข้ามาทักทายชายหนุ่มตลอดเวลาที่มาถึงจนเสร็จเรียบร้อยจึงค่อยเปิดเผยตนเองเพื่อชวนเขากลับที่พัก ทว่าระยะห่างที่คะเนว่าจะช่วยป้องกันมิให้การยืนรออยู่เงียบๆกลายเป็นการแอบฟังกลับถูกย่นย่อด้วยสายลมราตรีซึ่งพัดผ่านเข้ามาทางประตูระเบียงจนได้ยินบทสนทนาอย่างชัดเจน

“บอกตามตรงว่าฉันแปลกใจที่เห็นคุณมาร่วมงานนี้ด้วย”

คำเปรยด้วยน้ำเสียงแหบเล็กน้อยที่กระตุ้นความสนใจคนฟังได้เป็นอย่างดีของฝ่ายหญิงดังขึ้นให้แคเทรียนนึกสงสัยว่าเคยได้ยินเสียงนี้ที่ไหนมาก่อน หากยังไม่ทันจะได้ทบทวนความจำหรือขยับออกห่างตามมารยาทอันควรกระทำก็ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มกลั้วหัวเราะของยูรัสลอยมาตามลม

“แปลกตรงไหนล่ะ ผมเป็นเพื่อนไซเร็ค แถมยังเป็นลูกครึ่งคีเรี่ยน จะมาร่วมงานก็เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าจะแปลกก็คงเป็นคุณมากกว่า อดีตแฟนที่มาร่วมงานเลี้ยงแนะนำตัวว่าที่เจ้าสาวทั้งที่งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาปลีกตัวไปทำอย่างอื่น”

สถานะของฝ่ายหญิงที่ได้ยินส่งผลให้หญิงสาวชาวบาโรวิทอยากเห็นหน้าอีกฝ่ายขึ้นมาทันที เพียงชั่วแวบที่ได้เห็นร่างสูงสมส่วนในชุดราตรีสีเงินวาวระยับจากด้านหลังมิได้ช่วยให้นึกออกเลยว่าหล่อนคือผู้หญิงคนใดที่เคยพบมาก่อน

“จริงๆก็ไม่ว่างอย่างที่คุณรู้นั่นแหละ แต่ความอยากรู้อยากเห็นทำให้ฉันต้องมาดูว่าผู้หญิงที่ไซเร็คตั้งใจจะแต่งงานด้วยเป็นคนแบบไหน แล้วก็ไม่ผิดกับที่คิดไว้จริงๆ”

“หือม์”

ความเงียบทำให้แคเทรียนตัดสินใจยอมเสียมารยาทอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยการขยับไปแอบมองว่าเหตุไฉนทั้งคู่จึงไม่พูดอะไรเลย และภาพยูรัสป้องไลท์เตอร์ขณะจ่อเปลวไฟเข้ากับมวนบุหรี่ที่ถูกคาบอยู่ในปากหญิงสาวคู่สนทนานั้นก็บอกให้ทราบว่าเพราะเหตุใด เมื่อแสงไฟปลายมวนบุหรี่วาบขึ้นจากการอัดควันเข้าปอดพร้อมส่ายหน้าบอกความอ่อนใจแล้วบทสนทนาก็ดำเนินต่อไป

“พวกผู้ชายไม่เคยสังเกตเลยสินะ คุณรู้ไหมว่าทำไมไซเร็คถึงคบกับผู้หญิงที่มีฐานะพอกันหรืออยู่ในสังคมเดียวกันได้ไม่นาน เพราะเขาทนไม่ได้ที่ตัวเองจะไม่มีอำนาจควบคุมทุกอย่างในความสัมพันธ์ให้เป็นไปตามที่ต้องการยังไงล่ะ สาวๆในอดีตพวกนั้นมีพร้อมทุกอย่าง พวกหล่อนก็เลยไม่ต้องการให้เขามาควบคุมดูแล ส่วนฉันกับเขา เราเหมือนกันเกินไปถึงได้ไปกันไม่รอด สามอาทิตย์นั่นเป็นเวลาสำหรับความสัมพันธ์ทางกายล้วนๆ คุณไม่จำเป็นต้องทำหน้าไม่เห็นด้วยอย่างนั้นหรอกน่า ยูรัส ในสายตาคนที่โปรดปรานความสมบูรณ์แบบอย่างคุณ ผู้หญิงคนนั้นคงบกพร่องมาก จริงๆต้องบอกว่าหล่อนเป็นประเภทที่คุณไม่คิดชายตามองเป็นครั้งที่สองด้วยซ้ำ แต่สำหรับไซเร็ค ผู้หญิงท่าทางว่าง่ายไม่คิดอะไรมากแถมไม่มีที่ไปอย่างแพนน่ะ ลงตัวที่สุดแล้ว”

คำอธิบายยาวเหยียดพร้อมคำวิจารณ์ส่วนบุคคลนั้นช่วยให้คนแอบฟังบรรลุความจริงเกี่ยวกับเจ้าของคฤหาสน์อีกขั้น เริ่มมองเห็นว่านอกจากความผิดหวังอันเนื่องมาจากความคาดหวังส่วนตัวที่ชายหนุ่มผู้นั้นมีรสนิยมแย่กว่าที่เคยคิดไว้แล้ว ส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดงานเลี้ยงในคืนนี้ยังเป็นผลมาจากนิสัยส่วนตัวที่ไม่อาจแก้ไขของเขาอีกด้วย

ดวงตาสีไอซ์บลูกะพริบปริบเมื่อความเป็นจริงเบื้องหน้าซึมซาบเข้าสู่สมองต่อจากบทสนทนาเมื่อครู่ ผู้หญิงคนนี้คือคนที่เธอเคยเห็นอยู่กับไซเร็คบ่อยๆจนไม่น่าแปลกใจที่จะรู้จักนิสัยใจคอของเขาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อนำมาประกอบเข้ากับการเปิดเผยความสัมพันธ์อันเป็นส่วนตัวของหล่อนกับเขาเมื่อครู่ หากการวินิจฉัยอันแม่นยำถึงสีหน้าและความคิดของยูรัสที่ไม่ค่อยแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกอันแท้จริงให้คนอื่นรู้มากนักกลับทำให้เธอฉงนใจยิ่งกว่าที่สงสัยในเรื่องของไซเร็คหลายเท่า

หล่อนรู้จักสนิทสนมกับยูรัสมากแค่ไหน?

“ก็คงจะจริงอย่างที่คุณว่า” วุฒิสมาชิกหนุ่มคล้อยตามก่อนจะอัดควันเข้าปอดด้วยท่าทางผ่อนคลายจนหญิงสาวชาวบาโรวิทรู้สึกแปลกใจ “ผมมันคนชอบความสมบูรณ์แบบ ไม่มีทางสนใจแพนแน่”

อัญมณีทรงหกเหลี่ยมสีเหลือบมุกที่ประดับบนเส้นผมสีดำสนิทบิดเกลียวซับซ้อนงดงามเป็นประกายวับวาวไหวระริกยามผู้เป็นเจ้าของส่ายศีรษะราวกับเจ้าตัวกำลังอ่อนใจ ดวงหน้าคมเข้มสวยเฉี่ยวตกแต่งมาเป็นอย่างดีเผยรอยยิ้มรู้ทันขณะสบตาชายหนุ่มที่ยืนเคียงข้างก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงยั่วเย้าเจ้าเล่ห์

“อย่างคุณ…คงต้องเป็นแคเทรียนสินะ”

เสียงเรียกชื่อตนเองดึงความสนใจของคนแอบฟังกลับมาสู่บทสนทนาอีกครั้ง หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัวขณะตั้งใจฟังว่าฝ่ายชายจะพูดอะไรต่อไป

“คุณนี่ร้ายเหมือนเดิมนะยูรัส พาหล่อนมาที่นี่เพื่อให้ตัดใจจากไซเร็ค แถมยังป้องกันไม่ให้แม่สาวที่น่าสงสารนั่นหันไปสนใจใครอื่นอีก”

ศีรษะสีน้ำตาลอ่อนของชายหนุ่มที่หยุดนิ่งขณะกวาดตามองสวนประดับไฟงดงามเบื้องหน้าหันกลับมายังคนพูดพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีเขียวมรกตกระทบแสงจากโคมไฟติดผนังเป็นประกายพราวด้วยความขบขันเหลือบมองคู่สนทนาแวบหนึ่งก่อนมองตามควันบุหรี่ลอยเป็นสายขึ้นสู่เบื้องบน

“คิดมากไปแล้ว มาเร็น แคเทรียนอาจจะเพียบพร้อมทุกด้าน แต่หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ผู้ชายส่วนใหญ่จะให้ความสนใจหรอก”

ดวงหน้างามสดใสที่แต่งด้วยเครื่องสำอางโทนชมพูเผือดสีลงเล็กน้อยยามความรู้สึกชาวาบแผ่ซ่านไปทั่วก่อนเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เมื่อตระหนักวาจาของชายหนุ่มไม่ต่างอะไรกับการสาดน้ำเย็นใส่หน้าโดยที่เธอไม่ทันรู้ตัว ก้อนเนื้อในอกกระตุกแล้วเริ่มสั่นสะท้านไม่เป็นจังหวะยามกระแสเย็นยะเยือกสลับร้อนฉ่าแล่นซ่านเป็นระลอกจากศีรษะจรดปลายเท้าจนไม่อาจจับใจความได้ว่าทั้งคู่กำลังพูดอะไรต่อ

มิหนำซ้ำภาพที่เห็นเบื้องหน้าก็ยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่เคยคิดมานานแล้ว…

หญิงสาวคนสวยในชุดสีเงินสะดุดตาแนบไปกับเรือนร่างเพรียวบางขยับเข้าใกล้จนแนบชิดกับร่างสูงของชายหนุ่ม ท่อนแขนขาวนวลตวัดโอบรอบคอเขาด้วยกิริยาบอกความคุ้นเคยเป็นอย่างดีจนลำคอคนเห็นตีบตัน มิหนำซ้ำน้ำเสียงอ่อนเอื่อยแฝงความเย้ายวนของฝ่ายหญิงขณะลูบไล้ปลายนิ้วขึ้นลงตามลำคอด้านหลังของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบาก็ยิ่งประกาศถึงความสนิทสนมระหว่างกันมากกว่าเดิมหลายเท่า

“งั้นถ้าเราจะรำลึกความหลังกันสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรนะคะ”

ประโยคนั้นกระชากสติรับรู้ของวุฒิสมาชิกสาวให้กลับมาอยู่กับร่างกายทันทีที่ได้ยิน ริมฝีปากบางเม้มแน่นพร้อมหมุนตัวขวับสาวเท้าออกจากหลังม่านเมื่อไม่สามารถทนยืนนิ่งเงียบอยู่ได้อีกต่อไป!




TBC.




ฮิ้ววววววว!

คราวนี้ทิ้งท้ายแบบโหดนิดๆ ลุ้นกันต่อตอนหน้านะคะว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง ^o^



ปุณณารมย์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.ย. 2556, 01:16:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.ย. 2556, 01:18:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1166





<< ตอนที่ 6   ตอนที่ 8 >>
ปุณณารมย์ 4 ก.ย. 2556, 01:18:12 น.

ตอบคอมเมนต์จากตอนที่แล้วค่ะ ^^

saralun
ขอบคุณมากค่ะ สาวๆแถวนี้น่ารักที่ซู๊ดดดเลย

คิมหันตุ์
กร๊ากก ยูรัสแกล้งแคเทรียนจริงๆค่ะ แต่ก็มีสาเหตุอื่นๆด้วย ไม่ได้แกล้งอย่างเดียวหรอก ตาคนนี้แกชอบฉวยโอกาสที่ผ่านเข้ามาค่ะ
ส่วนคนที่เอธานคุยด้วย...เคยโผล่ในเรื่องของไเซเร็คค่ะ ลองเดาดูนะคะว่าน่าจะเป็นใคร
ไม่หยุดอัพหรอกค่ะ แค่เหี่ยวเล็กน้อยตอนเห็นจำนวนคอมเมนต์ แหะๆ เห็นแล้วหมดเรี่ยวหมดแรงพิกล
ตอนนี้ในบอร์ดยังไม่ได้มีอะไรอัพเดทด้วยค่ะ อ่านในนี้ไปก่อนแล้วกันนะคะ ^^

pimsaowaluck
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ จะพยายามแก้ไขให้ดีขึ้นนะคะ ^^


คิมหันตุ์ 4 ก.ย. 2556, 10:02:35 น.
อ้าวเป็นคู่หมั้นกันมาก่อนหรอเนี่ย...แล้วก็เข้าใจผิดกันสินะ........

รอดูต่อว่า ตายูรัสจะทำให้ น้องน้ำแข็งละลายยังไง...

ปล.เหตุการณ์เกิดขึ้น สลับไปมากับเรื่องไซเร็ค สงสัยต้องไปถอยเรื่องตาไซเร็คมาอ่านอีกรอบ แง๊ๆ


saralun 4 ก.ย. 2556, 11:52:44 น.
เนื้อเรื่องกำลังน่าติดตาม ... เป็นกำลังใจให้ค่า ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account