จุ้น กะ ปอม
มิตรภาพสำคัญไฉน มาร่วมพิสูจน์คำๆนี้ไปกับเธอและเขา แล้วคุณจะรักพวกเขาไปโดยไม่รู้ตัว..."จุ้น กะ ปอม"

Tags: จุ้นกะปอม

ตอน: ตอนที่ 43 : โลกนี้ต้องมีผู้ชายอย่างเธอ

หลังจากที่ออกจากสตูในรถมีแต่ความเงียบ ปอมตีตั๋วนอนยาวตลอดหน้ายังซีดอยู่...จุ้นเหลือบ
ตามองเป็นระยะๆ แล้วก็ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าโรงพยาบาล จอดรถเสร็จก็เอื้อมมือมาเขย่าแขน
ปอมเบาๆ

“ปอม!”

“ฮึมม์...ถึงแล้วเหรอ” ค่อยๆเผยอเปลือกตาขึ้น ขยับตัวลุกขึ้นนั่งกวาดตามองไปทั่ว

“ทำไมบ้านมันหลังใหญ่จัง!” จุ้นหัวเราะ

“โรงหมอ....ให้หมอตรวจหน่อยจะได้หายไว ๆ” ปอมเอนตัวหงายผลึงไปบนเบาะใหม่ หัน
ตะแคงข้างมามองหน้าจุ้น ทำหน้าอ้อน

“ไม่ตรวจไม่ได้เหรอ...ปอมไม่เป็นอะไรมากหรอก ปอมอยากกลับบ้านอ่ะ!..น้าจุ้นน้า”

“มาถึงแล้วก็ตรวจซะหน่อยปอม..เผื่อมันเป็นอะไรมากกว่าที่เราเห็น”

“แล้วเค้าจะฉีดยาหรือเปล่าล่ะ...ถ้าฉีด ปอมไม่เอานะ” ปอมกลัวเข็มมาก จุ้นค้อนให้หมั่นไส้

“ถ้าไม่หนักเค้าก็คงไม่ฉีดให้หรอก..คงให้ยามากินเฉยๆน่ะ”

“แล้วปอมจะบอกอาการเค้าว่าไงล่ะ!...แพ้ท้องเหรอ” จุ้นหัวเราะ ตีแขนปอมเบาๆไปหนึ่งเพี๊ย!

“แล้วแกจะไปบอกเค้าอย่างงั้นทำไม่ล่ะ! ไอ้บ้าปอม!...แกเวียนหัว หน้ามืดจะเป็นลม จะอ๊วก!
แกก็บอกเค้าไปสิ” ปอมนอนหน้าเบ้

“กลับบ้านเฮอะนะจุ้น..ปอมไม่อยากหาหมออ่ะ” ยังดื้ออยู่

“ไม่เอา..ไป!..ลงจากรถปอม...ตรวจ ๆ แล้วจะได้รีบกลับบ้านไปพักผ่อน...เร้วว..แกอย่าดื้อสิ
ไอ้ปอม” เสียงเริ่มแข็งแล้ว นั่นแหละถึงจะกระเตื้องได้ ลุกขึ้นค้อนจุ้นควับ! ควับ! จุ้นหัวเราะ..
ลงจากรถด้วยกันทั้งคู่ จุ้นรีบวิ่งอ้อมรถมาหา...ปอมหันไปเห็นก็ขมวดคิ้ว

“จะวิ่งทำไมจุ้น!..อย่าออกแรงเยอะช่วงนี้...มันไม่ดี!” จุ้นยิ้มแหยๆส่งให้

“ลืมอ่ะขอโทษ!...ไปปอม..เดินไหวหรือเปล่า”

“ไม่ไหว!...ต้องอุ้ม” จุ้นผลักหัวปอมไปหนึ่งทีหมั่นไส้ แล้วก็เดินจูงมือกันเข้าไปในโรง
พยาบาล เดินเกือบจะถึงฝ่ายลงทะเบียนผู้ป่วยอยู่แล้ว..มีมือดีเคาะหนังสือพิมพ์มาบนไหล่
ปอม..ปอมหยุดชะงักพลอยให้จุ้นหยุดไปด้วยหันหลังไปมองทั้งคู่ และหน้าก็ฉีกยิ้มขึ้นมาทันที

“หวัดดีฮะ/ค่ะ..พี่ม้ง!” ม้งส่งยิ้มให้ [ม้งคือแฟนของจันทร์ เผื่อจำไม่ได้ : ผู้แต่ง]

“หวัดดี..มาทำอะไรกันที่นี่”

“มาซ่อมรถฮะ...อุ้ยส์” โดนจุ้นแหนบเข้าที่แขน

“พาเด็กโข่งมาหาหมอค่ะ..จะให้หมอเย็บปากซักหน่อย..ปาก เสียดีนัก” ค้อนปอมอีกควับนึง
ม้งหัวเราะ

“ใคร! ไอ้ปอมเหรอ..เออ!เห็นหน้ามันซีดๆเหมือนกัน...มา!เดี๋ยวพี่ตรวจให้วันนี้คนไข้ไม่ค่อย
มี...หึ! หึ! ได้หมูมาขึ้นเขียงแล้วโว้ยวันนี้..ต้องจับเชือดซะให้เข็ด..เอากี่เข็มดีไอ้ปอม..ห้าเข็ม
ถ้าจะดีหายชะงัดไม่เหลืออาการ” ปอมทำหน้าแหย จับมือจุ้นเขย่าใหญ่

“จุ้นนนน!..ปอมไม่ตรวจกับหมอคนนี้...หมอโรคจิต..ปอมกั๊ววว” ม้งหัวเราะยกหนังสือเคาะหัว
ปอมไปอีกที หันไปหาจุ้นที่ยืนยิ้มอยู่

“จุ้นไปลงทะเบียนให้ไอ้ปอมมันนะ...เดี๋ยวพี่บอกพยาบาลให้” ม้งเดินนำหน้า ไปสั่งพยาบาลให้

“เสร็จแล้วก็ตามเข้ามานะจุ้น...ไป!ไอ้ปอม..แกมากับฉัน” เดินนำหน้าปอม เข้าไปในห้องตรวจ

“มา!...นั่งลงซิ” ปอมนั่งลงตรงหน้าโต๊ะหมอ แล้วจุ้นก็เปิดประตูตามเข้ามาเดินมานั่งข้างๆปอม
มีนางพยาบาลเดินตามมาติดๆ ส่งประวัติคนไข้ให้ม้ง

“เป็นไงเมื่อคืนดื่มหนักล่ะสิ...วันนี้เลยแฮ้งค์” ปอมยิ้มเพลียๆ ส่งให้

“แหม! เห็นผมเป็นพวก แอลกอฮอร์ลิซึ่มไปได้..ไม่ได้กินพี่...พักนี้หยุดยาวเข้าพรรษา” จุ้นเบะ
ปากหมั่นไส้ ม้งหัวเราะ

“แล้วเป็นอะไรมา”

“ปวดหัว...วิงเวียน...คลื่นไส้...น่ามืดตาลาย..จะเป็นลม..อยากจะนอน..อยากจะอ๊วก! เยอะไป
หมดเลยอ่ะพี่หมอม้ง” ม้งหัวเราะ

“แกนี่มันตลกดีว่ะ!”

“ตอนนี้ตลกไม่ออกแล้วพี่....ผมอยากจะอ๊วก!” ทำหน้าผอืดผอม ม้งรีบลุกจากโต๊ะเดินอ้อมมา
พยุงปอมไปที่อ่างล้างมือ จุ้นตกใจรีบตามมายืนข้างๆลูบหลังปอมใหญ่

“ลูบขึ้นจุ้น...อย่าลูบลง...เออ!นั่นแหละ” เสียงม้งสอนมา ปอมหัวด่ำอยู่ในอ่าง ม้งเดินไปหยิบ
ทิชชู่กับแอมโมเนีย มาส่งให้

“ออกมั๊ย” ปอมส่ายหัว เงยหน้าขึ้นมามีน้ำตาคลออยู่ที่เบ้า หน้าตาเริ่มมีสีเลือดบ้างประปราย

“ไม่ออกพี่..มีแต่น้ำลาย” จุ้นค่อยๆพยุงปอมมานั่งที่เก้าอี้

“วันนี้กินอะไรมาบ้าง”

“จะเลี้ยงผมเหรอ” ปากยังดีอยู่ จุ้นทำปากจึกจักหยิกปอมไปหนึ่งที ม้งหัวเราะ

“เออ!...ไอ้นี่ไม่ตายง่ายๆหรอกยังต่อล้อต่อเถียงได้อยู่..แกจะกินมั๊ยล่ะเดี๋ยวฉันเลี้ยง..แต่ต้อง
รอออกเวรก่อนนะ” ปอมหัวเราะแฮะๆ มือก็ยกแอมโมเนียขึ้นดม

“ล้อเล่น!..วันนี้ก็กินไม่แปลกจากทุกวันหรอกพี่ กับข้าวก็เดิมๆ อ้อ!มีอะไรนะ..มะ มะ มะดำนี่ละ
มั้งจำชื่อไม่ได้ และก็กะปิหวานเอาไว้จิ้มน่ะ” จุ้นกับม้งขมวดคิ้ว

“อะไรของแกเจ้าปอม มะดำ..ไม่เคยได้ยิน”

“ก็ลูกเขียวๆ เปรี้ยวๆอ่ะ..เด็กที่กองมันเก็บมาจากหลังสตู..เปรี้ยวปี๋เลยพูดแล้วน้ำลายไหล” จุ้น
อมยิ้มส่ายหัวให้

“มะดันล่ะมั้งพี่ม้ง...หลังสตูมีสองต้นสาวๆ ชอบไปเด็ดมากินกัน” ม้งหัวเราะ

“เคยกินหรือเปล่า” ปอมส่ายหน้า

“และนึกยังไงถึงอยากกิน”

“คอมันขมๆอยากจะอ๊วก!อ่ะ...มันก็เลยเปรี้ยวปากอยากจะกิน” ม้งอมยิ้มมือก็จดใหญ่

“อ้อ!แสดงว่าเป็นก่อนหน้า ที่จะกินไอ้เจ้ามะดันนี่” ปอมพยักหน้า

“เป็นมาหลายวันแล้วพี่...แต่วันนี้มันหนักกว่าทุกวัน” จุ้นขมวดคิ้วหันมามองหน้าปอม

“ทำไมฉันไม่เห็นรู้” ปอมหันมายิ้มให้จุ้น

“มันเบาน่ะจุ้น...ไม่เป็นอะไรมาก” จุ้นส่งค้อนให้..ม้งเงยหน้าจากสมุดส่งยิ้มแป้นให้ปอม

“เจาะเลือด” เหมือนฟ้าฟาดลงมาตรงหน้าปอม..ปอมตาเหลือก!จับมือจุ้นใหญ่ หันหน้ามาหา
จุ้น

“จุ้นนน! ปอมไม่เจาะอ่ะ..ไป!กลับบ้าน” ชวนกลับยิก ยิก ม้งหัวเราะ

“ไม่เจาะ! ก็ไม่รู้สิวะว่ามันเป็นอะไร..ฉันวิเคราะห์ไม่ถูก”

“หมอไม่เก่งอ่ะจุ้น!..เปลี่ยนโรงบาลเถอะ!ไปหาหมอตี๋ก็ได้เจียดยากินเอา..นะจุ้นนะ” พาลไป
ทั่ว จุ้นทำหน้าไม่ถูก ม้งหัวเราะเสียงดัง

“บ๊ะ! ไอ้ปอม..ไอ้นี่พาลซะแล้ว..แกไปที่อื่นเค้าก็ต้องเจาะทั้งนั้นแหละ..ไม่งั้นเค้าจะหาสาเหตุ
ได้งัย..ไอ้นี่หนิ” จุ้นพยักหน้าเห็นด้วย

“แกก็เจาะๆไปเถอะ...กลั้นใจ จึก!เดียวเองไม่เจ็บหรอก..เหมือนมดกัดน่ะ”ปอมทำหน้าเหยเก

“มันไม่จึกเดียวนะจุ้น!...มันหลายจึกนะถ้าเค้าคลำไม่เจอเส้นเลือดอ่ะ..ปอมเคยมาแล้วเจ็บ
ด้วย แล้วไหนจะตอนมันดูดขึ้นไปอีกอ่ะ..อุ้ย!พูดแล้วขนลุก” มีชูแขนให้จุ้นดูด้วย ขนลุกจริงๆ
จุ้นยิ้มแหยๆ ม้งหัวเราะขำ

“แกนี่มันยิ่งกว่าเด็กสามขวบอีกว่ะเจ้าปอม..เรื่องอื่นไม่เห็นกลัว..กลัวแค่เข็มเล่มจิ๊ดเดียว” ปอม
ค้อนตาคว่ำ

“พี่ม้งไม่มาเป็นอย่างผมไม่รู้หรอก!...ยังไงผมก็ไม่เจาะนะ..ไม่เอาจริงๆด้วย”

“ก็ถ้าไม่เจาะแล้วฉันจะสั่งยาอะไรให้แกกินได้...เฮอะ!ไอ้ปอม..ยังไม่รู้สาเหตุของโรคเลย”
ปอมทำปากจึก จัก

“เอายาแก้แพ้อย่างเดียวก็ได้..แก้วิงเวียงอะไรพวกเนี้ยอ่ะ”ม้งหัวเราะ

“แกมาเป็นหมอแทนฉันเลยมั๊ยไอ้ปอม!...รู้ดีนัก..ยาแก้แพ้อะไร๊!” เสียงเริ่มสูง

“ก็แก้แพ้ท้องอ่ะ...ไอ้ที่พวกผู้หญิงเค้ากินกันตอนแพ้ท้องน่ะ”

“แกจะเอาไปทำไม...อย่าบอกนะว่าแกท้อง ไม่งั้นฉันจะขำกลิ้งเลย” จุ้นยิ้มแหยๆ

“พวกที่ทำงานเค้าบอกว่ามันแพ้ท้องแทนจุ้นน่ะ..พี่ม้ง” ม้งหันมามองจุ้นแล้วก็หันไปมองปอม
ใหม่ และก็หัวเราะก๊ากกก ออกมาอย่างดัง

“ไอ้ปอมเอ๊ย!..และไม่บอกตั้งแต่แรก” ปอมค้อนให้ฟุบหน้าไปบนโต๊ะ ม้งหันหน้ามาหาจุ้น

“ไม่เห็นส่งข่าวเลยจุ้น..จันทร์ไม่เห็นบอกพี่”

“จุ้นก็เพิ่งจะรู้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง...พอดีพี่จันทร์ลาด้วยเลยยังไม่ได้บอกแก”

“เออใช่..จันทร์กลับขอนแก่น...แล้วฝากท้องยัง ถ้ายังก็ฝากซะที่นี่เลยหมอสูติเยอะ..เดี๋ยวพี่
บอกเพื่อนพี่ให้ดูแลเป็นพิเศษ”

“ฝากแล้วค่ะพี่ม้ง..ที่นี่แหละพอรู้ก็รีบมาเลย”

“แพ้บ้างมั๊ย...หรือว่าปกติ” จุ้นส่งยิ้มให้

“ปกติค่ะไม่มีอาการอะไรเลย..จะมีก็แต่อยากกินของเปรี้ยวบ้างนิดหน่อยเท่านั้นแหละ” แล้ว
เสียงปอมก็อู้อี้ อู้อี้มาหน้ายังฟุบอยู่ที่โต๊ะ

“เอ่อ! ขอโทษครับ..จะคุยกันอีกนานมั๊ยครับ..ถ้านานขอเตียงให้คนป่วยนอนก่อนตอนนี้คน
ป่วยหนักหัวมากเลยอ่ะ!..อยากจะถอดหัวทิ้งแล้ว”ม้งหัวเราะ

“เออ!ความคิดดี...นอนนี้เลยมั๊ยเจ้าปอมใกล้ไม้ใกล้มือฉันดี..ดูแลง่ายหน่อย”ปอมส่ายหัวยิก
ยิก หน้าก็ยังฟุบอยู่นั่นแหละ

“ไม่อาว..จากลับบ้านนน” ม้งอมยิ้ม มือก็เขียนยิก ยิก กดกริ่งเรียกพยาบาล ซักแป็บก็เดินเข้า
มารับใบสั่งยาแล้วก็เดินออกไป

“ตอนนี้..พี่ให้ยาแก้วิงเวียง หน้ามืดไปก่อนนะ..ยาแก้แพ้อย่าไปกินเลย...ส่วนเรื่องเจาะเลือด
น่ะพี่ยังต้องขออยู่นะปอม เพราะว่าแกมีประวัติเป็นโรคกระเพาะด้วย..เจาะเลือดไปตรวจจะได้
วิเคราะห์ได้ถูกจุด”เท่านั้นแหละ ผงกหัวจากโต๊ะทันที

“ไม่เอาอ่ะพี่หมอ...เดี๋ยวก็หายแล้วไม่ต้องเจาะหรอก...จุ้นอ่ะ!” รีบหันหน้ามาหาจุ้น ขอตัวช่วย

“เจาะเถอะปอม..พี่ม้งจะได้ทำงานง่ายขึ้น..จะได้ชัวร์ด้วยไง” นั่นแหละ เงียบกริ๊บ ม้งหัวเราะ
หึ หึ

“เครียดมั๊ยปอมช่วงนี้” ปอมลูบหน้าไปมา

“นิดหน่อยพี่ช่วงนี้งานเข้าเยอะ”

“พักผ่อนล่ะ!...พอมั๊ย” ปอมยิ้มแหยๆ ไม่ได้ตอบ

“เรื่องจุ้นท้องล่ะ...คิดมากหรือเปล่า” ปอมเงยหน้ามองม้ง แล้วก็อมยิ้มนิด ๆ ยกมือขึ้นนวดขมับ
ส่งเสียงมาเบาๆ

“มีบ้างพี่..กลัวมันจะเครียด..กลัวมันจะเจ็บ..สงสารมันหลายอย่างเหมือนกัน” จุ้นนั่งฟังนิ่ง
เอื้อมมือมากุมมือปอมไว้ปอมหันมายิ้มให้ ตบหลังมือจุ้นเบาๆ ม้งอมยิ้ม

“บางทีความคิดพวกนี้มันก็ส่งผลกับร่างกายเราเหมือนกันนะปอม กลัวเค้าเครียดเลยทำให้เรา
เครียดซะเอง...เคยได้ยินมั๊ยจิตสั่งกายน่ะ” ปอมพยักหน้า ยิ้มเพลียๆ

“วันนี้ได้ยินมาหนนึงแล้วจากน้องที่งาน...ตอนนี้ก็กำลังจะได้ยินอีกหนนึงจากหมอผู้เชี่ยวชาญ
และช่ำชอง” ม้งหัวเราะ เอนตัวพิงพนักเก้าอี้

“ปากดีนักไอ้นี่...ฉันจะบอกว่าสมองคนเราเวลาที่รับไอ้อะไรที่ซ้ำๆกัน...ซ้ำๆกันอยู่ตลอดเวลา
น่ะ..และแถมยังเป็นเรื่องที่จะต้องกลั่นกรองอยู่เรื่อยๆ..บางทีมันก็ทนรับไม่ได้นานหรอก..มัน
จะมีช่วงแฮ้งค์ต่อไม่ติดเหมือนกัน...เหมือนตอนเนี้ยที่แกกำลังเป็นอยู่เนี่ย..อันนี้ฉันสัณณิฐาน
เอานะ...จิตตก กังวลไปเรื่อยว่าจุ้นมันจะเครียดหรือเปล่า..มันจะเจ็บมั๊ย..ไหนจะเรื่องงานอีกที่
เข้ามาให้ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา..ซักแป๊บก็กลับไปคิดเรื่องเดิมอีกและ...วนเป็นหลูบอยู่หยั่งเงี้ย
แหละ...ทีนี้พอจิตมันตกไปแล้วแถมยังพ่วงนอนน้อยเข้าไปอีก..มันก็เป็นไปได้ที่สมองมันจะ
ช๊อต!เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอส่งผลมาถึงร่างกาย..พอร่างกายเริ่มอ่อนแอพลอยทำให้ไม่มี
แรงเอาดื้อๆ หน้าจะเริ่มมืดตาจะเริ่มลาย..น้ำลายจะเหนียวๆกลืนลงคอลำบาก..ผอืดผอมบ้าง
ล่ะ..อยากอ๊วกบ้างล่ะมีผลกระทบไปหมด..เค้าเรียกว่าจิตสั่งกายน่ะ” จุ้นขมวดคิ้ว

“แล้วทำไมไอ้ปอมมันเหม็นด้วยล่ะพี่ม้ง..พอไอ้พวกเด็กๆที่ทำงานเข้าใกล้มันบอกว่าเหม็น..แต่
กับจุ้นมันไม่เหม็นเหมือนคนแพ้ท้องหยั่งงั้นแหละ”ม้งหัวเราะ

“ถึงขนาดเหม็นเลยเหรอไอ้ปอม..แกนี่มันเป็นเอามาก” ส่ายหัวยิก ยิก ปอมค้อนให้ม้งหนึ่งที
นอนฟุบไปกับโต๊ะขี้เกียจฟังแล้ว..เล่นมือจุ้นอยู่อย่างงั้น

“คนป่วยน่ะจุ้น...จมูกมันจะเฝื่อนไปหมด!..ส่วนไอ้ที่ใครเหม็นใครหอมก็อยู่ที่ความรู้สึกมันแล้ว
ล่ะอันนั้นน่ะ...จริงๆ อาจจะไม่ได้กลิ่นอะไรเลยก็ได้เพราะจมูกมันเฝื่อนไปแล้ว..หรือไม่อีกทีก็
อ้อนจุ้นไง..เด็กขี้อ้อนน่ะเคยได้ยินมั๊ยจุ้น..เรียกร้องความสนใจน่ะ”

“มั่ว!”เสียงปอมส่งมา จุ้นตีมือปอมดังเพี๊ย! ม้งหัวเราะ

“พูดแทงใจดำล่ะสิไอ้ปอม..รีบขัดเชียว” นั่นแหละถึงเงยหน้าขึ้นมาได้...อมยิ้มนิดๆหน้ายังซีดๆ
อยู่

“คุยกันเสร็จยังอ่ะ!...อยากกลับบ้านแล้ว...จุ้นน..กลับเถอะ” หันหน้ามาหา...จุ้นพยักหน้า

“เสร็จแล้วใช่มั๊ยคะพี่ม้ง...จุ้นไปรับยาและก็จ่ายค่ายาได้เลยใช่มั๊ย”

“ยังไม่เสร็จขอเจาะเลือดก่อน..ไอ้ที่พี่พูดมาทั้งหมดเมื่อกี้นี้มันแค่เป็นการวิเคราะห์เฉยๆ..มันยัง
ไม่ชัวร์ดูผลเลือดดีกว่าชัวร์กว่า” ปอมหน้าม่อย

“เออน่า! เดี๋ยวคราวนี้ฉันเจาะให้แกเอง...แกมีบุญนะโว๊ย!ไอ้ปอม..ไม่ใช่ว่าฉันจะเจาะให้ใคร
ง่ายๆมือเบาอย่างกับนุ่น”

“ไม่เอา!ไม่ต้องเลย!..ตั้งแต่เป็นหมอมาเคยเจาะบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้..ผมไม่เสี่ยงด้วยหรอก”ม้ง
หัวเราะ

“ไอ้นี่!ดูถูก...ตามใจแก..แต่อย่ามาแผลงฤทธิ์เหมือนคราวที่แล้วอีกนะโว๊ย..สงสารพยาบาล
ของฉัน”ปอมส่งค้อนให้ม้งอีกที..ล่าสุดปอมมารักษาที่นี่เนื่องด้วยโรคกระเพาะกำเริบจนหมด
สติ..ฟื้นขึ้นมาตอนที่พยาบาลกำลังเดินยาอยู่..ตกใจดิ้นจนเข็มหักคาแขนไปหนึ่งเล่มทำเอา
พยาบาลหน้าซีดไปตามๆกัน

“ไปเจ้าปอมลุก..ไปห้องโน้น”ปอมยังอิดออดอยู่ไม่อยากเจาะ จุ้นต้องสะกิดแขน

“ไปลุกปอม..เร็ว!จะได้เสร็จๆกลับบ้านไปพักผ่อน”

“จุ้นใจร้าย” โอดครวญ ม้งอมยิ้มส่ายหัวให้ และก็พากันเดินเข้าไปอีกห้องนึงมีพยาบาลยืนรอ
อยู่แล้ว ปอมเหลือบเห็นเข็มก็เมินหน้าหนี หน้าที่ซีดอยู่แล้วก็ยิ่งซีดหนักขึ้นไปอีกนั่งลงไปบน
เก้าอี้วางแขนไปบนโต๊ะ มืออีกข้างก็ดึงมือจุ้นเข้ามาใกล้ๆ พอปลายเข็มแทงเข้าไปในเนื้อเท่า
นั้นแหละ..ปอมสะดุ้งโหยงบีบมือจุ้นแน่นจุ้นบีบตอบ...ซักแป๊บ!พยาบาลก็ถอดเข็มออก..ปอม
ถอนหายใจเฮือก! ม้งที่ยืนดูอยู่ก็อมยิ้ม..ม้งเอ็นดูและรักคนคู่นี้มาก แทบจะรักเหมือนน้องแท้ๆ
เลยก็ว่าได้...ตอนที่เริ่มรู้จักกันใหม่ๆ ก็เป็นอีกคนที่เชียร์คนคู่นี้อยู่ในใจมีแอบเปรยๆกับจันทร์
บ้างเหมือนกันว่าเหมาะสม ชอบมองเวลาที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน..ดูจะเข้าอกเข้าใจกันเหลือ
เกิน...พอทั้งคู่ลงเอยกันได้ก็เป็นที่ถูกใจม้งเป็นยิ่งนัก

“เห็นมั๊ยง่ายนิดเดียว...แกยังไม่ทันได้หายใจเลยด้วยซ้ำเค้าก็ถอดเข็มออกแล้ว” เสียงม้งส่ง
มา ปอมพยักหน้า เอือม!ขี้เกียจเถียง

“และนี่ต้องรอฟังผลเลยหรือเปล่าคะพี่ม้ง”

“ไม่ต้องหรอกกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนเดี๋ยวพี่โทรไปบอกผลให้...เพราะเค้าต้องใช้เวลาในการ
ตรวจเหมือนกัน”จุ้นพยักหน้า

“งั้นจุ้นไปจ่ายค่ายาก่อนนะ” ว่าแล้วก็เดินออกไป ม้งหันมามองหน้าปอมใหม่ตบไหล่ปอมเบาๆ

“เจ้าปอม!..ที่พี่พูดไปเมื่อกี้นี้มันมีผลจริงๆนะ..แกอย่าไปเครียดอย่าไปคิดมากทำหัวสมองให้
มันปลอดโปร่งเข้าไว้พักผ่อนเยอะๆ..เดี๋ยวร่างกายมันก็ปรับสภาพได้เองแหละ..เชื่อพี่!”
ปอมอมยิ้มเพลียๆ ยกมือขึ้นไหว้พงก พงก

“คร๊าบบ! ขอบคุณคร๊าบบบ.จะทำตามคุณหมอม้งทุกประการเลยคร๊าบบ”ม้งหัวเราะ

“ไอ้นี่! ตลกไม่เลิก”ซักแป๊บจุ้นก็เดินเข้ามา ทั้งคู่ลาม้งแล้วก็ออกจากโรงพยาบาล.....


####################################################


“จุ้นนน! ทำอะไร” จุ้นหันไปมองตามเสียง มือก็ตีไข่ในถ้วยไปด้วย

“ไข่ตุ๋น” ปอมทำหน้าเบ้..ปอมหน้าตาแจ่มใสขึ้นอาการแทบจะไม่มีให้เห็น..เพราะว่าหลัง
จากกลับจากโรงพยาบาลเมื่อวาน จุ้นจับปอมให้นอนพักผ่อนตลอด..ยาวมาถึงบ่ายแก่ๆวันนี้

“ไข่ตุ๋นอีกแล้วเหรอ! ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นจวบจนจะเย็นของวันนี้..ก็ยังต้องกินแต่ไข่ตุ๋นอีก
เหรอ! หน้าจะเป็นไข่แล้วอ่ะ” เดินเข้ามากอดเอวจุ้นจากข้างหลัง ชะโงกหน้าข้ามไหล่มาดู

“ก็คนป่วยไง!...คนป่วยก็ต้องกินของอ่อนๆมันจะได้กลืนลงคอได้สะดวก!” ปอมอมยิ้ม เอาคาง
เกยไหล่จุ้นไว้และก็เก็กเสียงหล่อส่งมา

“เอ่อ! คุณพยาบาลครับ...หมอนกแก้วว่านะ!..คือคนป่วยไม่ได้ป่วยด้วยโรคคออักเสบนะ
ครับ...จะออกอาการประมาณหน้ามืด ตาลายซะมากกว่า..เพราะฉะนั้นกินได้ครับไอ้พวกของ
แข็งต่างๆนา นาทั้งหลายแหล่น่ะ...ตอนนี้คนป่วยต้องการแป้ง และน้ำตาลเป็นอย่างมาก! ส่วน
โปรตีนเนี่ย ลดน้อยลงหน่อยก็น่าจะได้ ไม่น่าจะมีปัญหา..ยิ่งถ้าได้ของที่เป็นชิ้นๆเป็นก้อนๆ ที่
มันทำให้อวัยวะส่วนกรามได้บริหารบ้างก็จะดีไม่ใช่น้อย..เชื่อหมอเถอะแล้วคุณพยาบาลจะรุ่ง
ทางสายงานนี้” จุ้นหัวเราะ คิก คิก ขำ แหงะหน้ามามองปอม มือก็หยุดการทำงาน

“แล้วแกจะกินได้เหรอปอม..มันไม่ผอืดผอมเหรอ มันจะฝืดคอหรือเปล่า!”

“แหม! ช่างเป็นคำถามที่น่าตอบซะเหลือเกิน..คุณพยาบาลคิดได้ไงเนี่ย!..มา..ให้หมอหอมที
น้า..ฉลาดจริง จริงเล๊ย! ภรรยาใครเอ่ย..ขอหมอหอมหน่อยน้า” ว่าแล้วก็หอมแก้มขวาคุณ
พยาบาลไปหนึ่งฟอด คุณพยาบาลค้อนควับ แล้วคุณหมอก็พล่ามต่อ

“คือหมา เอ๊ย!หมอว่านะ...ถ้ายิ่งกินไอ้ของที่คุณพยาบาลกำลังตีอยู่ในชามน่ะเข้าไปนะ..มันจะ
ผอืดผอมซะมากกว่า..คือมันเละอ่ะ!และคนป่วยก็รับเข้าไปบ่อยมาก..รวมครั้งแล้วก็จะตก
ประมาณทุกมื้อที่เป็นมื้ออาหารตั้งแต่เมื่อวานเย็น...หมอก็เลยคิดว่าน่าจะเปลี่ยนซักกาหน่อย..
ส่วนไอ้เรื่องฝืดคอน่ะไม่มีปัญหา..น้ำมี!..กลืนลงคอเอื๊อกเดียวก็หายฝืดแล้ว แฮะ แฮะ...
คุณพยาบาลคิดเหมือนหมอมั๊ย” คลอเคลีย คลอเคลีย อยู่ที่ข้างแก้มจุ้น...จุ้นหัวเราะ ไคว้มือ
มาตีหัวปอมทีนึง

“ก็ได้! เดี๋ยวฉันไปเอากับข้าวบ้านโน้นมาดีกว่า..ป้าสายน่าจะทำเสร็จแล้ว” ว่าแล้วก็แกะแขน
ปอมออกจากเอวทันที ปอมหัวเราะเสียงดัง กอดไว้ซะแน่นไม่ปล่อย

“เดี๋ยวไอ้จุ้น!...แกนี่มันเป็นพวกหัวติดจรวดหรือไงวะ..พูดปั๊บ! ก็จะทำปุ๊บ!...ฉันยังไม่หิวเลย..
แล้วก็ไม่ต้องไปเอาหรอกกับข้าวบ้านโน้นน่ะ...ทำเองสิจุ้น!ฉันเห็นแกซื้อพวกหมูเนื้อไว้เต็มตู้
เย็นไปหมดไม่ใช่เหรอ..ไม่เห็นแกแสดงฝีมือให้ได้ยลซักที” จุ้นหันหน้ามายิ้มแหยๆให้ปอม

“ฉันกลัวแกจะกินไม่ลงน่ะ!...ก็เลยไม่ได้ทำให้กิน” ปอมอมยิ้ม เอาคางเกยไหล่จุ้นไว้ส่ง
เสียงออกมาเบาๆ

“จุ้นนน!...แกทำอะไรฉันก็กินหมดแหละ..คนเราจะทำอะไรซักอย่างมันต้องมีครั้งแรก ถ้าไม่
ลองแล้วแกจะรู้เหรอ ว่าฉันรู้สึกอย่างไรเวลาที่กินฝีมือแกน่ะ!...ส่วนไอ้เรื่องไข่น่ะฉันก็แซวแก
เล่นเท่านั้นเอง แกจะทำกี่ไข่สารพัดไข่แค่ไหนฉันก็กินทั้งนั้นแหละไม่มีปัญหาอะไรเลย” จุ้น
เม้มปาก หันหน้ามาหา

“กินได้แน่นะ!” ปอมพยักหน้ายิก ยิก เท่านั้นแหละจุ้นยิ้มแป้นออกมาเลย

“งั้นรอแป๊บ! เดี๋ยวฉันไปเอาของในตู้เย็นมาทำก่อน”

“เดี๋ยว! จุ้น” ปอมยังขืนตัวจุ้นไว้อยู่ จับจุ้นให้หันหน้ามาหาแขนก็กอดจุ้นไว้ซะแน่น

“มีอะไร” ปอมยิ้มแป้น ลอยหน้าลอยตาถาม

“วันนี้วันอะไรเอ่ย”

“วันอังคาร” ปอมยิ้มตาหยี ถามใหม่ ถามใหม่

“แล้วพรุ่งนี้ล่ะ..ตอบได้มั๊ยว่าวันอารัย”

“ก็ต้องเป็นวันพุธสิ...ไอ้นี่ถามแปลก” ปอมพยักหน้า ยิก ยิก

“แล้วพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญยางงัย..ติ๊ก ต๋อก ติ๊ก ต๋อก ติ๊ก ต๋อก” จุ้นอมยิ้ม ในตาพราว

“เป็นวันสำคัญทางศาสนา วันพระ!” ปอมทำปากจึก จัก

“ไม่ใช่!...อ่ะให้ตอบใหม่ วันอะไรเอ่ย ติ๊ก ต๋อก ติ๊ก ต๋อก”

“วันเปิดตัวโฆษณาสินค้าตัวใหม่” ปอมหน้าเบ้

“ไม่ใช่อ่ะจุ้น!...อ่ะใบ้ให้ก็ได้..เป็นวันที่สิ่งน่ารัก น่ารักเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกน่ะ” จุ้นกลั้นยิ้ม ส่ง
เสียงออกมาอย่างดัง

“วันเกิดไอ้แต้ม!” ปอมค้อนให้ควับ

“จุ้นอ่ะ!...จำไม่ได้จริงๆเหรอ” จุ้นอมยิ้ม จ้องหน้าปอมนิ่ง

“จำได้!..ทำไมฉันจะจำไม่ได้ 15 สิงหา..วันเกิดแกไงปอม..บางปีฉันยังจำได้แม่นกว่าแกอีกนะ
ปอม” ปอมยิ้มแป้น กระชับตัวจุ้นเข้ามาอีก

“น่ารักจังเลย..จำได้ด้วย แล้วมีของขวัญอะไรให้ปอมหรือเปล่าเอ่ย” จุ้นหัวเราะ

“ไอ้งก!..มันยังไม่ถึงเลยไอ้ปอม แกจะด่วนเอาอะไรตอนนี้”

“ก็ให้ก่อนก็ได้...ไม่ผิดกฎิกาหรอก”

“ไม่เอา! ไอ้บ้านี่” ตีบ่าปอมแปะ แปะ ปอมค้อนให้อีกควับ

“จุ้นอ่ะ!” ยืนหน้าคว่ำ จุ้นหัวเราะ ชะโงกไปจุ๊บที่ริมฝีปากปอมหนึ่งที

“อ่ะ!เอามัดจำไปก่อน” ปอมยิ้มแป้น หอมแก้มจุ้นฟอด ฟอด

“น่ารักจังเลย”

“ปล่อยซักทีสิไอ้ปอม!...ฉันจะได้ไปทำอะไรให้แกกินเดี๋ยวจะมืดจะค่ำซะก่อน” นั่นแหละถึงจะ
ออกจากอ้อมกอดปอมได้....หลังจากกินข้าวกันเป็นที่เรียบร้อย ปอมก็นอนเคล้งอยู่บนโซฟา
หน้าโทรทัศน์..จุ้นเดินถือจานฝรั่งมานั่งข้างๆ

“ปอม!”

“ฮึมม์!” ปอมหันมามอง

“วันนี้พี่ม้งโทรมาบอกเรื่องผลเลือดแล้วนะ..บอกว่าปกติดีไม่เป็นไร”

“น่ะ!เห็นไหมล่ะ...หลอกให้ฉันเจ็บตัวฟรี” และก็กระดืบ กระดืบมานอนบนตักจุ้นเอื้อมมือไป
หยิบฝรั่งส่งเข้าปากเคี้ยวแหงบๆ นอนดูโทรทัศน์เฉย จุ้นก้มลงมองอมยิ้ม

“ปอม!”

“ฮึมม์” ตอบรับไปสายตาก็จ้องมองโทรทัศน์ไปด้วย

“แกมีอะไรอยู่ในใจหรือเปล่า! บอกฉันได้นะอย่าเก็บไว้คนเดียว..ฉันอาจจะช่วยแกได้” ปอม
หันหน้ามาจากโทรทัศน์เงยหน้ามองจุ้นนิ่งอยู่นานแล้วก็ค่อยๆส่งยิ้มให้ จับมือจุ้นมากุมไว้พึมพำ
ออกมา

“จุ้นน...จริงๆแล้วฉันไม่ใช่ลูกคนเดียวหรอกนะฉันมีน้องน่ะเป็นน้องผู้หญิงด้วย” จุ้นขมวดคิ้ว
ปอมพยักหน้ายิก ยิก รำลึกความหลังให้จุ้นฟัง

“ตอนฉันประมาณซักสิบสามขวบน่ะ..แม่ตั้งท้องน้องอีกคนนึง พ่อกับแม่ดีใจใหญ่เลยรวมทั้ง
ฉันด้วย..ฉันอยากมีน้องน่ะ..ตื่นเต้นกันทั้งบ้าน จำได้ว่าพ่อเอาใจแม่มากฉันก็ช่วยทำทุกอย่าง
เท่าที่เด็กคนนึงจะทำได้..ไม่พยายามสร้างเรื่อง ไม่พยายามก่อปัญหาให้ท่านไม่สบายใจ...
ช่วงที่แม่ตั้งท้องน้องสองสามเดือนแรกแม่ต้องอยู่ในความดูแลของหมอตลอด เพราะแม่มามี
น้องตอนอายุค่อนข้างมากแล้วน่ะ หมอกลัวเด็กและแม่จะไม่ปลอดภัย มันพลอยทำให้แม่เป็น
กังวล แพ้โน่นแพ้นี่ไปหมด เรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมี และก็คิดมากอยู่ตลอดเวลา...ประมาณ
เดือนที่หก หรือที่เจ็ดเนี่ยแหละฉันก็จำไม่ค่อยได้ แม่เจ็บท้องมากต้องเข้าโรงพยาบาล หมอ
พบว่าน้องผิดปรกติต้องรีบทำการผ่าตัดเอาตัวน้องออกมา...ปรากฎว่าสายสะดืดพันตัวน่ะ!..ผ่า
ออกมาก็ไม่หายใจซะแล้ว” จุ้นนั่งฟังนิ่ง ลูบมือปอมเบาๆ ปอมส่งยิ้มให้จุ้น

“น้องเป็นผู้หญิงถ้าเค้ายังอยู่ก็คงจะอายุประมาณ สิบห้า สิบหกแล้วมั้ง...ช่วงนั้นเป็นภาวะวิกฤต
ของที่บ้านเลยก็ว่าได้ แม่นิ่งมากโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา...พ่อก็พยายามปลอบใจแม่อยู่
เรื่อยๆ ส่วนฉันก็เริ่มกลายเป็นเด็กขี้อ้อนเรียกร้องความสนใจไปเลยตั้งแต่ตอนนั้น...แม่มาบอก
ฉันทีหลังน่ะ..คือฉันจะพัวพันอยู่กับแม่ตลอดไม่ห่างเลย..แต่มันส่งผลดีนะแม่ฉันค่อยๆดีขึ้นหัน
มาสนใจฉันมากขึ้น..นึกถึงเรื่องน้องน้อยลง ปีกว่าได้แหละแม่ถึงกลับมาเป็นปรกติชีวิต
ครอบครัวมันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม!”จุ้นยีผมปอมเบาๆ

“เรื่องนี้หรือเปล่าที่เป็นสาเหตุให้แกเครียดแทนฉันน่ะปอม” ปอมพยักหน้า

“มันติดตาน่ะจุ้น...ฉันเห็นอาการของแม่ฉันเวลาที่ท่านแพ้ท้องแล้วฉันสงสาร..ไม่อยากให้แก
เป็นแบบนั้น รู้สึกมันทรมานจังเลย กลัวแกจะเครียด กลัวแกจะกังวลไปซะหมด” จุ้นอมยิ้ม
หยิกแก้มปอมเบาๆ

“ฉันรักแกจังปอม!” ปอมยิ้มตาหยีส่งให้

“แกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกปอม...ฉันไม่เป็นอะไร ไม่คิดมาก..ไม่เครียด แพ้ก็ไม่แพ้กะเค้า
แข็งแรงออกจะตายนี่เห็นมั๊ย” ยกแขนขึ้นโชว์กล้ามที่ไม่ค่อยจะมี ปอมหัวเราะ

“ดีแล้ว! ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ฉันจะได้สบายใจขึ้น” จุ้นอมยิ้มแล้วเสียงก็ส่งมาใหม่

“ว่าแต่! ไอ้เรื่องขี้อ้อนเรียกร้องความสนใจเนี่ยมันเกิดขึ้นตอนที่แกเล่ามาใช่มั๊ยอ่ะ...แล้วไอ้
เรื่องขี้ประจบช่างเอาใจเนี่ยมันเริ่มตอนไหนล่ะ”ยังสงสัย ปอมอมยิ้มพริ้ม

“เหรอ! ฉันเป็นแบบนั้นเหรอ...ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย!” จับมือจุ้นหอมฟอด ฟอด จุ้นค้อนให้หมั่นไส้

“ทั้งขี้อ้อน ขี้ประจบ ขี้ลืม ขี้แพ้ชวนตี ไอ้เรื่องขี้ๆ ทั้งหลายแหล่น่ะมันอยู่ในตัวแกหมดนั่น
แหละ” ปอมหัวเราะ พูดออกมาเบาๆ

“ฉันไม่รู้ตัวหรอกจุ้นถ้าแกไม่บอก!..บอกฉันสิฉันจะได้ปรับปรุงตัว”

“ไม่ต้องหรอกฉันไม่ได้ว่าแกแค่ถามเฉยๆน่ะ..เสน่ห์ของแกมันอยู่ตรงนี้แหละไม่จำเป็นต้อง
เปลี่ยนเลย..ผู้ชายน้อยคนที่จะเป็นแบบนี้อีโก้แรง ความมั่นใจสูงความเป็นเด็กที่มันซ่อนอยู่ใน
ตัวลึกๆมันก็เลยหายไป..ผิดกับแกมันยังคงมีอยู่..ฉันไม่แปลกใจเลยที่เพื่อนๆจะรักแก..ฉันก็
เป็นหนึ่งในนั้นด้วย” ปอมอมยิ้มพริ้ม

“พูดดีจัง!..รักจุ้นจังเล้ย” ประจบ ประจบ จุ้นหมั่นไส้เคาะหัวปอมไปอีกหนึ่งทีแล้วก็หันกลับไป
นั่งดูหนังกันต่อ.......


#####################################################


“ไอ้จุ้น! แกโชว์เพลงหน่อยสิ..ฉันไม่ได้ฟังแกร้องมาตั้งนานแล้ว..คิดถึงน่ะ” เสียงแนงลอยมา..
วันนี้ไทด์เลี้ยงฉลองวันเกิดให้ปอมกินข้าวเสร็จก็พากันมาต่อที่คาราโอเกะในโรงแรมชื่อดัง มา
กันครบองค์ประชุม

“เออจุ้น!...พี่ก็อยากฟังร้องเป็นเกรียติ์ให้ไอ้ปอมมันหน่อย..วันนี้วันเกิดมันน้า” เคนส่งเสียงมา
บ้าง จุ้นยิ้มส่งสายตาข้ามโต๊ะมามองหน้าปอม เห็นปอมนั่งเอนตัวพิงเบาะยักคิ้วแพล๊บๆให้

“ก็ได้!” ว่าแล้วจุ้นก็เลือกเพลง..สักแป๊บก็เจอ พอสาวๆ เห็นชื่อเพลงเท่านั้นแหละ กรี๊ด กร๊าด
กิ๊บ กิ๊วกันใหญ่ หนุ่มๆหันมามองกันเป็นแถว รวมทั้งปอมด้วยหันมานั่งฟังนิ่ง แล้วเสียงจุ้นก็ส่ง
ออกมาพร้อมกับมองหน้าปอมไปด้วย

“เพลงนี้มอบให้แก่เจ้าของวันเกิด...คุณชายปอมศักดิ์” หัวเราะกันเป็นที่ครึกครื้น และดนตรีก็
ขึ้น

เพลง..โลกนี้ต้องมีผู้ชายอย่างเธอ
ศิลปิน...มาช่า วัฒนพานิช

http://www.gmember.com/music/search_song/index.php?searchsongid=00971101&searchfrom=id

ทุกครั้งที่ฉันเห็นผู้คนรอบตัว..มากมาย....อยู่ใกล้ๆเธอ...
ฉันคิดว่าฉันรู้..สิ่งใดที่เค้า..ต้องการ...
ฉันคิดว่าสายฝนก็คง..พรั่งพรู..จากฟ้า..ตกมาใกล้ๆเธอ...
ถึงแม้สายรุ้งก็คงถักทอ..โค้งลง..มาเจอ...ต่างแข่งขันกัน.....
เท่าที่รู้ฉันก็เป็นคนหนึ่ง..ที่บังเอิญ..มีความรู้สึกนั้น....
ไม่มีคำถามให้ฉันต้องสงสัยตั้งแต่ได้เจอ..กับเธอ..ไม่เคยเป็นอย่างวันนี้...
ไม่มีคนไหนที่ฉันนั้นเผลอไผล..ให้หมดหัวใจ..อย่างนี้...ก็มีแค่เธอ....
จากนี้ฉันก็ไม่รู้เธอคิดจะรักจะเลือกใคร..แต่ว่าฉันพูดได้ว่ารักเธอมากมาย.....

ฉันคิดว่าโลกนี้ต้องมีผู้ชาย..อย่างเธอ..โลกจะได้น่าอยู่....
และฉันก็รู้ว่ามีแต่คนรักเธอ..เพิ่มเติม..อยู่ทุกทุกวัน....
เท่าที่รู้ฉันก็เป็นคนหนึ่ง..ที่บังเอิญ..มีความรู้สึกนั้น....
ไม่มีคำถามให้ฉันต้องสงสัยตั้งแต่ได้เจอ..กับเธอ...ไม่เคยเป็นอย่างวันนี้.....
ไม่มีคนไหนที่ฉันนั้นเผลอไผล..ให้หมดหัวใจ..อย่างนี้...ก็มีแค่เธอ...
จากนี้ฉันก็ไม่รู้เธอคิดจะรักจะเลือกใคร...แต่ว่าฉันพูดได้ว่ารักเธอมากมาย...รักเธอเหลือเกิน


สิ้นเสียงดนตรีจบ..เสียงกรี๊ด เสียงปรมมือดังเกรียวกราวไปหมด สาวๆหน้าแดงไปตามๆกัน
เขิลล์ ปอมอมยิ้มลุกขึ้นยืน...เดินพรวด พราด ข้ามผ่านพวกผู้ชายไปหาจุ้น เล่นเอาผงะหน้า
หงายไปตามๆ กันตกใจ แล้วก็ดึงมือจุ้นให้ลุกขึ้นยืนจะพาเดินออกจากห้อง จุ้นยังแปลกใจอยู่
ฝืนตัวไว้ ยังไม่ทันจะอ้าปากถาม เสียงอ๊อดก็ลอยมาถามแทนซะก่อน

“ไอ้ปอม!.. แกจะพาไอ้จุ้นไปไหน” ปอมหันมายิ้มให้

“ไปหาที่เงียบๆ...ไม่ต้องรอนะถ้าเลิกแล้วก็กลับกันได้เลย” กร๊ากก กรี๊ด ปี๊ด ปิ้ว เสียงแซว
ระงมทั่วไปหมด หัวเราะชอบใจไปตามตามกัน แล้วปอมก็พาจุ้นเดินออกไปจากห้อง..........



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 มิ.ย. 2554, 19:17:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 มิ.ย. 2554, 19:17:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1858





<< ตอนที่ 42 : ยอมแพ้เพื่อเธอ   ตอนที่ 44 : ขอแค่มีเธอ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account