จุ้น กะ ปอม
มิตรภาพสำคัญไฉน มาร่วมพิสูจน์คำๆนี้ไปกับเธอและเขา แล้วคุณจะรักพวกเขาไปโดยไม่รู้ตัว..."จุ้น กะ ปอม"

Tags: จุ้นกะปอม

ตอน: ตอนที่ 44 : ขอแค่มีเธอ

หลังจากที่พากันเดินออกจากห้องคาราโอเกะ....ปอมกระชับมือจุ้นดึงตัวจุ้นเข้ามาใกล้ๆ ก้าว
เดินไปพร้อมกัน...ผ่านห้องจัดเลี้ยงที่มีคนเดินเข้าออกกันขวักไขว่..ผ่านห้องอาหารที่มี
พนักงาน บริกรเดินกันให้วุ่น ต่างก็กำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่...ดูเหมือนผู้คนรอบข้างจะ
เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาส่งเสียงจ๋อก แจ๋ก...เสียงดนตรีบรรเลงเพลงเบาๆ กระจายไปทั่วโถง
ทางเดิน...ช่างตรงกันข้ามกับหนุ่มสาวทั้งสองคน ที่ไม่มีทีท่าว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะเอื้อนเอ่ย
ออกมาเป็นคำพูดซักคำ เหมือนกำลังซึมซับบรรยากาศรอบตัวให้ได้มากที่สุด...จับมือกันก้าว
เดินไปช้าๆ จนออกมานอกโรงแรมนั่นแหละเสียงจุ้นจึงเอ่ยมาเบาๆ

“จะไปไหนอ่ะ...ปอม!” ปอมหันมายิ้มให้

“ไปเที่ยว!”จุ้นขมวดคิ้ว

“ไปเที่ยวไหน...นี่มันจะสี่ทุ่มแล้วนะ!” ปากถามขาก็ก้าวเดินไปด้วยกัน

“เหอะน่า...ว่าแต่พรุ่งนี้แกมีงานอะไรยุ่งหรือเปล่าจุ้น!”

“หึ! ไม่ค่อยมี...ทำไม!” แล้วก็เดินกันมาถึงลานจอดรถ ปอมยิ้มตาหยีส่งให้ มือก็เปิดประตูรถ

“ก็จะได้เที่ยวสนุก สนุกไง...ไม่ต้องกังวล” จุ้นเลิกคิ้ว

“แกอย่าบอกนะว่าแกจะลาหยุดเพื่อไปเที่ยว...ไอ้ปอม!...ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็น”

“ก็เพื่อจุ้นไง!...ปอมทำได้”ประจบ ประจบ จุ้นเบะปากหมั่นไส้เท้าก็ก้าวขึ้นรถ

“จะไปที่ไหนปอม”

“พัทยา”

“ไม่กลับไปเอาเสื้อผ้าก่อนเหรอ...ไปตัวเปล่าหยั่งเงี้ยเนี่ยนะ!” ยังข้องใจอยู่ ปอมหัวเราะ

“อย่างงี้แหละดีจุ้น..ชีวิตมีรสชาติหาเอาข้างหน้า หัดทำชีวิตให้ไม่มีกฎเกณฑ์ซะบ้างจะได้ไม่
ซ้ำซากจำเจไงจุ้น” หันมายักคิ้วแผล็บส่งให้ และก็กลับไปจดจ่ออยู่กับถนนต่อ จุ้นอมยิ้ม

“นึกครึ้มอะไร...ถึงพามาเที่ยว”

“ก็ให้รางวัลคนร้องเพลงถูกใจอ่ะ...ร้องเพราะจังเลยจุ้นใครร้องก็คงไม่เพราะเท่าแกร้องล่ะ
มั้ง!..เพลงเนี้ยเค้าคงแต่งให้ฉันโดยเฉพาะแน่ๆเลยเนอะ! ฟังแล้วปลื้มจัง!” ยกหางตัวเอง จุ้นทำ
ท่าขย้อน อยากจะอ๊วก! ปอมแหงะหน้ามามองพอดีหัวเราะเสียงดัง

“เป็นอะไร!ไอ้จุ้นแพ้ท้องหรือเปล่า...ถ้าใช่ฉันจะได้หันหัวกลับเข้ากรุงเทพฯ” จุ้นส่ายหน้า

“หมั่นไส้!คน...เข้าข้างตัวเองเป็นที่หนึ่งเลย”

“อ่ะ! หรือไม่ใช่...เนื้อเพลงน่ะมันตัวฉันชัดๆ เลยนะ!...ไม่งั้นแกจะร้องให้ฉันเหรอ” จุ้นค้อน
ควับ ปอมหันมาเห็นก็อมยิ้ม และก็หันกลับไปมองถนนใหม่ปากก็เอื้อนเอ่ยออกมาเบาๆ

“ตั้งแต่แต่งงานมาเดือนนี้ก็ปาเข้าเดือนที่แปดแล้ว..เรายังไม่ได้ไปไหนที่มันพ้นกรุงเทพซักที
จุ้น..ทำแต่งานตลอด...วันนี้ฉันก็เลยถือโอกาศพาแกมาเปิดหูเปิดตาซักหน่อย...คลายเครียด
น่ะ”

“แล้วช่วงนี้แกไม่ยุ่งเหรอปอม...งานไม่ค่อยมีเหรอไง”

“มี!.แต่ฝากพี่โยได้ไม่มีปัญหา...แกสำคัญกว่า” หันมายักคิ้วให้อีกแพล็บนึง จุ้นเบะปากส่งให้
สายตาก็จ้องมองปอมใหม่

“ขับไหวหรือเปล่าปอม! ถ้าไม่ไหวฉันขับให้ก็ได้นะ...แกเพิ่งหายไข้มาใหม่ๆด้วย เดี๋ยวก็ไข้
กลับอีกหรอก”

“หายดีแล้ว...ไม่มีอาการแน่นอนชัวร์ป๊าบ! หายเป็นปลิดทิ้งตั้งแต่เมื่อวานเย็นน่ะ เพราะว่าได้
กินอาหารทิพย์เข้าปาย...โอ้ยยยย สุดยอดดด! ฝีมือแม่ครัวจุ้นนน...ช่างอาโหร่ยยย เหลือ
เกิน หุ หุ หุ” ทำหน้าแป้นแล้น ลอยหน้าลอยตาพูดสายตาก็จดจ่ออยู่กับถนน จุ้นหัวเราะ

“เออ!ทีหลังแกอย่าหวังว่าจะได้กินอีกเลยไอ้ปอม!..พูดมากดีนัก”

“ก็ชมอ่ะ!...ชมไม่ได้เหรอ!...ทำอร่อยก็ต้องชมจะให้เก็บเงียบไว้คนเดียวได้ไง...อัดอั้นตาย”
มีเถียง มีเถียง จุ้นค้อนหมั่นไส้ แล้วก็เลิกสนใจเอาหัวพิงเบาะสายตาเหม่อมองไปข้างทาง ปอม
เหลือบมามองอมยิ้มบางๆ มือก็เอื้อมไปกดรีโมทเล่นเพลงเบาๆ ในรถ

“ง่วงก็นอนไปเลยนะจุ้น...เดี๋ยวถึงแล้วฉันปลุก”

“ไม่เป็นไรยังไม่ง่วง!...นั่งเป็นเพื่อนกันเนี่ยแหละแกจะได้ไม่หลับใน” ปอมหันมาเลิกคิ้วให้

“ป๊าดดด! ไอ้จุ้น!..แกยังไม่ไว้ใจฉันอีกเหรอไอ้เรื่องขับรถเนี่ย! ขอบอก! ขอบอก! Mr. Mark
ยังเรียกพี่” จุ้นขมวดคิ้ว

“ใคร Mr. Mark ไม่เคยได้ยิน”

“อ่ะ! Mr. Mark ก็นาย มากไง...ลุงมากน่ะคนที่ขับรถตู้บริษัทฯ น่ะ” จุ้นค้อนควับ

“ฉันก็นึกว่าชื่อของไอ้พวกนักแข่งรถที่มีชื่อเสียง..พูดซะอินเตอร์เชียว”

“อ่ะ! เดี๋ยวนี้ต้องอินเตอร์เนชั่นแน้ววว!หน่อย เดี๋ยวจะตามเด็กรุ่นใหม่ไม่ทัน...หึ! หึ! ไม่ต้องเป็น
ห่วงหรอกจุ้นนอนไปเถอะ ไม่หลับในแน่นอน ฉันไม่เอาชีวิตแกกับลูกมาเสี่ยงหรอก” จุ้นนอน
อมยิ้มตะแคงข้างมองปอมอยู่อย่างนั้น ปอมเหลือบมาเห็นปากก็พล่ามออกมาสายตาก็กลับไป
มองที่ถนนต่อ

“ยิ้มอะไรจุ้น!....ภูมิใจล่ะสิได้สามีน่ารักขนาดนี้”

“อึมม์” ปอมเลิกคิ้วหันมามอง แปลกใจ

“จริงง่ะ!” จุ้นพยักหน้า ปอมอมยิ้มเจ้าเล่ห์หันกลับไปมองถนนใหม่

“น่ารักจังเลยจุ้น!..เดี๋ยวปั๊ดจอดเข้าข้างทางเลยนี่”

“ทำไม..แกจะทำไมไอ้ปอม”

“ก็จะให้รางวัลคนน่ารักไง...สุดยอดเลยที่ร๊ากกกก!” ร้องเพลงออกมาอย่างดัง จุ้นอมยิ้ม

“ไอ้ทะลึ่งปอม!” ปอมหัวเราะหึ หึ

“จุ้นนน!”

“ฮึมม์!” หันหน้ามามองปอมใหม่

“จะตั้งชื่อลูกว่าอะไร” จุ้นขมวดคิ้ว

“ไม่รู้สิ...แกตั้งเหอะฉันนึกไม่ออกอ่ะ”ปอมหันมามองส่งยิ้มให้

“อ่ะ! เอาหยั่งงี้ชื่อจริงยังไม่ต้องคิดก็ได้...เอาชื่อเล่นก่อนคิดเผื่อไว้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงเลยนะ”

“เอาอะไรดีล่ะปอม! ยังคิดไม่ออกอ่ะ...แกลองนึกขึ้นมาซักชื่อสิ..เผื่อฉันจะนึกออกบ้าง”ปอม
หัวเราะ ปากก็ค่อยๆ พล่ามออกมา

“อ่ะ!ก็หยั่งน้องนิด น้องน้อย น้องหน่อย ไอ้ตุ่น ไอ้ต้อง อะไรก็ว่าไป มีออกตั้งเยอะ เลือกมา
เลยจุ้น”จุ้นทำหน้าแหย

“แกจิ้มเลือกอย่างงั้นเลยเหรอปอม...ดูมันง่ายจัง!...ให้มันมีความหมายหน่อยไม่ได้เหรอ”

“อ่ะ!ไม่เอาแบบนั้นก็ได้...เอาเหมือนตัวอักษรพ่อกับแม่ดีมั๊ย..ก็ อะไรล่ะ..น้องปอย ไอ้ป๋อง
น้องจอย ไอ้จ๋อง อะไรหยั่งเงี้ย” จุ้นหัวเราะ

“ไอ้บ้าปอม! เหมือนลิงเลยไอ้ชื่อหลังน่ะ”

“อ่ะ!เอาอันนี้ก็ได้ เอาชื่อพ่อกับแม่มาผสมกันอย่าง ปอมบวกจุ้นก็เป็น ปุ้นไงดีมั๊ย” ปอมหันมา
มองหน้าจุ้น เห็นนั่งนิ่งก็หัวเราะ

“เปลี่ยนก็ได้จุ้น...เป็น เอ่อ!”กำลังจะเอ่ยปาก จุ้นขัดมาซะก่อน

“เอาเมื่อกี้นี้แหละปอม...น่ารักดีฉันชอบ..ว่าแต่มันมีความหมายมั๊ยไอ้คำว่า ปุ้น เนี่ย หรือว่าพูด
ออกมาลอยๆ”ปอมอมยิ้ม

“น่าจะมีนะ..ถ้าจำไม่ผิดไอ้คำเนี้ยมันมาจากทางอิสาน...อ้อ!นึกออกแล้วมันมาจากคำว่า ปล้น
หรือแย่งชิงนี่แหละ” จุ้นตาเหลือก

“ไม่เอาดีกว่า ชื่อไม่เป็นมงคล” ปอมหัวเราะเสียงดัง

“ไม่เห็นเป็นไรเลยจุ้น ถ้าแกชอบก็เอาๆไปเถอะ...อ่ะ!หรือจะเอาอย่างงี้ก็ได้เพิ่มคำว่าข้าวไป
ข้างหน้าเป็น ข้าวปุ้น ดีมั๊ยไอ้คำนี้มันก็มาจากทางอิสานเหมือนกัน มันแปลว่า ขนมจีน น่ะ...
เด็กชายข้าวปุ้น เด็กหญิงข้าวปุ้น น่ารักดีออก...แก่ตัวไปลูกหลานเรียกก็ไม่กระดากปากด้วย
ไง..ยายปุ้น ตาปุ้น...เออ!ดี Work work” พูดเองเออเองเสร็จสรรพ หัวเราะคิกคักชอบใจใหญ่
จุ้นยิ้มแหยๆ ส่งให้

“คือมันก็ดีอ่ะนะไอ้ข้าวปุ้นเนี่ย!..กับเด็กผู้หญิงมันก็น่ารักดี แต่กับเด็กผู้ชายมันจะเหมาะเหรอ
ปอม เด็กชายข้าวปุ้น ฉันว่ามันแปลกๆนะ”

“อ้าวเหรอ! ไม่เหมาะเหรอ...งั้น!เอาอะไรดีล่ะ อึมม์..อ่ะเอานี่ก็ได้ เมื่อกี้ปอมบวกจุ้นเป็น ปุ้น
ใช่มั๊ย...อันนี้ก็ จุ้นบวกปอม ก็เป็น จอม ไง...เด็กชายจอม อึมม์..ใช้ได้ ใช้ได้” จุ้นขมวดคิ้ว

“ฉันรู้สึกว่ามันคุ้นๆนะ ไอ้ปุ้นไอ้จอมเนี่ยแต่มันนึกไม่ออก..ว่าเคยได้ยินจากไหน” ปอมหัวเราะ
หึ หึ ตาก็มองถนนไปด้วย

“เออน่า!แกจะไปคิดทำไมเปลืองสมอง...ตกลงใช้ได้มั๊ยเด็กชายจอมน่ะ น่ารักดีนะฉันว่า”

“อึมม์...ก็ดี!น่ารักดีและมันมีความหมายมั๊ยปอม” ปอมพยักหน้า

“มันก็แปลว่า สูง อะไรทำนองเนี้ยแหละ หยั่งจอมปลวกอะไรแบบเนี้ย”จุ้นหน้าแหย

“มั่วหรือเปล่าไอ้ปอม”

“อ๊ะ!ไอ้นี่...ระดับนี้แล้วไม่มีมั่วคร๊าบบ! ฉันได้เกรด 4 วิชาภาษาไทยตอน ม.3 เลยนะโว้ย
ไอ้จุ้น..อัจฉริยะมาเกิด”จุ้นหัวเราะ และปอมก็พล่ามต่อ

“ไอ้คำว่า จอม เนี่ยมันหมายถึงอะไรก็แล้วแต่ที่สูง หรือว่า ยอดน่ะ! ได้หมดเลยนะ จะเป็นสิ่ง
ของที่มองเห็นจับต้องได้ หรือเป็นแค่ความรู้สึกก็ได้...ที่ฉันต้องยกตัวอย่างเป็นจอมปลวกก็
เพราะว่าแกจะได้เห็นภาพชัดๆ ไงเป็นแบบสูงๆ น่ะ...หรือถ้าไม่เห็นภาพก็อ่ะ!..เอาเป็นแบบ
ความรู้สึกก็ได้ อย่างจุ้นเป็นจอมใจของปอม มันหมายความว่า จุ้นเป็นยอดดวงใจของปอมเลย
น้า” หันมายักคิ้วแพล๊บ! จุ้นค้อนให้หมั่นไส้

“ตกลงเอามั๊ยชื่อนี้..หรือจะเปลี่ยนใหม่”ปากถาม สายตาก็มองถนน จุ้นส่ายหน้า

“อันนี้ก็ได้...น่ารักดี” ปอมหันมายิ้มให้ แล้วก็เข้าสู่ความสงบอีกครั้งนึงเสียงเพลงเบาๆ ภายใน
รถ ประกอบกับอุณหภูมิที่กำลังเย็นได้ที่ทำให้จุ้นเข้าสู่นิทรารมย์ได้อย่างง่ายดาย..ปอมเหลือบ
มาเห็นก็อมยิ้มบางๆ ตบไฟเลี้ยวเข้าเลนซ้ายชิดฟุตบาท ค่อยๆจอดรถ เข้าเกียร์ว่าง ปลด
เข็มขัดนิรภัย และก็เอี้ยวตัวมาหาจุ้นปรับเอนพนักเก้าอี้..เพื่อให้จุ้นนอนได้สบายมากยิ่งขึ้น...
จุ้นสะดุ้งตื่น กระพริบตาปริบๆ จ้องหน้าปอมใหญ่

“ถึงแล้วเหรอปอม!”

“ถึงแล้ว!” เท่านั้นแหละจุ้นจะขยับตัวทันที ปอมหัวเราะหึ หึ รีบกดไหล่จุ้นเบาๆ ให้นอนลงไป
ใหม่

“ล้อเล่น!...ยังไม่ถึงหรอกจุ้น..แกเพิ่งหลับไปได้ไม่ถึงห้านาทีเอง” จุ้นนอนส่งค้อนให้ปอมหนึ่ง
ควับ! ปอมอมยิ้ม ชะโงกหน้ามาจุ๊บ!ที่หน้าผากจุ้น

“นอนซะนะคนเก่ง! เดี๋ยวถึงแล้วฉันปลุก”เอื้อมมือมายีหัวจุ้นเบาๆ ถอยกลับมานั่งที่ และก็ออก
รถเคลื่อนเข้ามาสู่ถนนใหญ่อีกครั้งนึง จุดหมายปลายทางคือที่จังหวัดชลบุรี...........

“ปอมม!..ตื่น”เสียงจุ้นตะแง้ว ตะแง้ว อยู่ที่ข้างหูปอม มือก็เขย่าแขนปอมใหญ่..เมื่อวานมาถึง
กลางเมืองพัทยาประมาณห้าทุ่มกว่าๆ แวะซื้ออุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวและก็เสื้อผ้าคนละสอง
สามชิ้นจากนั้นก็หาที่พัก ได้ที่พักเรียบหาดคนไม่ค่อยพลุกพล่านเนื่องจากไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว
เป็นช่วงหน้าฝน

“ปอม! ตื่น”ยังเขย่าอยู่...ตาปอมยังปิด แนบสนิทเหมือนเอากาวตาช้างมาติดไว้ แล้วเสียงก็อู้อี้
อู้อี้ส่งมา

“จุ้นน! วันนี้หยุดอ่ะ..ขออีกซักสิบนาทีได้มั๊ยคนดี”

“แต่ฉันหิวอ่ะ!” นั่นแหละเปลือกตาถึงดีดผลึงลืมโพลงขึ้นมาได้ เห็นจุ้นนั่งหน้างออยู่บนเตียงก็
อมยิ้ม

“หิวเหรอ!” จุ้นพยักหน้า

“อ่ะ! งั้นรอแป๊บนะเดี๋ยวฉันอาบน้ำก่อน” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นอย่างไวหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ
ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เสร็จสรรพ พากันเดินออกไปกินอาหารเช้า..............


#####################################################


“ทำอะไรตูน!” ตูนสะดุ้งโหยงช้อนหลุดจากมือ กาแฟที่ต้องลงไปอยู่ในถ้วยหล่นมาอยู่ข้างนอก
เต็มไปหมด ทำปากจึก จักค่อยๆหันหน้ามาหา

“พี่วัฒน์อ่ะ! ทำเอาตูนตกใจหมด มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง” วัฒน์หัวเราะเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ตรงหน้า
เคาร์เตอร์

“ขวัญอ่อนด้วยเหรอเรา!” ตูนค้อนให้

“ก็กำลังคิดอะไรเพลินๆน่ะ..มันก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา”เอาผ้าเช็ดผงกาแฟบนโต๊ะใหญ่

“เอากาแฟมั๊ยพี่”แหงะหน้ามาถาม วัฒน์พยักหน้าตอบ

“เมื่อเช้าไปไหนมาพี่..ไม่เห็นอยู่ในออฟฟิต”

“ไปเซ็นสัญญาเช่าสตู แถวลาดพร้าวน่ะ”

“อ้าว! ได้แล้วเหรอ” ค่อยๆประคองถ้วยกาแฟมาส่งให้ พร้อมกับนั่งลงตรงข้ามวัฒน์

“ได้แล้ว...เริ่มเข้าได้เลยเดือนหน้า”กำลังจะยกกาแฟขึ้นจิบ สายตาเหลือบไปเห็นตูนกำลังนั่ง
เป่ากาแฟอย่างขะมักเขม้นก็อมยิ้ม

“เดี๋ยวก็หมดลมกันพอดี...มันร้อนขนาดนั้นเลยเหรอน่ะ”ตูนเงยหน้าขึ้นมองทำตาโต

“ร้อน! ไม่เป่าเดี๋ยวปากพองหมด” วัฒน์หัวเราะหึ หึ มองหน้าตูนอยู่อย่างงั้นคนถูกมองไม่รู้ตัว
นั่งก้มหน้าเป่าใหญ่ กำลังจะยกขึ้นซด

“ตูน!”ตูนสะดุ้งโหยง กาแฟที่กำลังจะเข้าปากหกกระเซ็นไปบนโต๊ะ รีบวางถ้วยหยิบทิชชู่มาเช็ด
ปากเช็ดโต๊ะอย่างเร็ว มืออีกข้างก็ยื่นมาตีแขนวัฒน์ดังเพี๊ย!

“พี่วัฒน์อ่ะ...ตกใจหมด!” วัฒน์หัวเราะส่ายหัวให้

“ทำไมเรามันกระเปิ้บ กระป๊าบอย่างงี้..คิดอะไรกันนักหนา”

“ก็มันตกใจนี่..และถ้าสำรักไปว่าไงล่ะ!”วัฒน์มองหน้าตูนก็อมยิ้ม หยิบทิชชู่ส่งให้อีกแผ่นนึง

“อ่ะ! เช็ดใหม่ ปากยังเปรอะอยู่เลย”ตูนรับมาอย่างไว ซับริมฝีปากอย่างเร็ว

“หมดยัง!” เลิกคิ้วถาม

“หมดแล้ว” นั่นแหละ มือถึงยกกาแฟขึ้นจิบต่อ

“เมื่อกี้เรียกตูนทำไม”

“จะถามว่าเย็นนี้ว่างหรือเปล่า มีธุระที่ไหนหรือเปล่า”ตูนขมวดคิ้ว

“ว่างค่ะ..ไม่ได้ไปไหน...พี่วัฒน์มีอะไรเหรอ”

“แม่พี่เค้าให้มาชวนเราไปกินข้าวที่บ้าน” ตูนอมยิ้ม

“เนื่องในวันพิเศษอะไร”

“คงจะคิดถึงว่าที่ลูกสะไภ้ล่ะมั้ง...ไม่ได้เห็นหน้าหลายอาทิตย์แล้วนี่”

“บ้า!” ยื่นมือมาตีแขนวัฒน์อีกเพี๊ยนึง วัฒน์หัวเราะ หึ หึ

“ตกลงว่างใช่มั๊ย...เดี๋ยวพี่คุยกับไทด์เสร็จจะได้ออกไปด้วยกัน”ตูนพยักหน้า

“ว่าแต่ไทด์มันอยู่หรือเปล่าตูน..ออกไปข้างนอกหรือเปล่า”

“อยู่!...เมื่อกี้ยังเห็นเดินออกมาสั่งงานเจ้าแนงอยู่เลย...ไม่น่าจะไปไหนแล้วนะจะเลิกงานแล้ว
ด้วย” วัฒน์ลุกขึ้นยืน ซดกาแฟรวดเดียวหมดถ้วย

“งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะ”กำลังจะก้าวขาออกไป นึกขึ้นได้หันกลับมาใหม่

“เกือบลืม! กาแฟอร่อยดี ฝีมือไม่เคยตก” แล้วก็ก้าวเดินออกไปจากห้อง ตูนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
นั่งจิบกาแฟจนหมดถ้วยและก็ลุกขึ้น เดินออกจากห้อง Canteen


#####################################################


“เนี่ย! เอาร้านนี้แหละปอม บรรยากาศน่านั่งคนเยอะดี” ปอมหันหน้ามาหา

“คนเยอะมันดีตรงไหนอ่ะ!จุ้น...แย่งกันกิน! แย่งกันหายใจ...ฉันว่าไปร้านนั้นดีกว่า”มือก็ชี้
โบ้ยไปข้างหน้า จุ้นหยุดเดินฉับ! ปอมหยุดมั่ง

“แกชี้อย่างนี้มากี่ร้านแล้วไอ้ปอม! จะมืดแล้วนะ...เดินตั้งแต่ต้นหาดจนมันเกือบจะสุดหาดอยู่
แล้วเนี่ย..ไม่ตรงใจแกซักกะที..ฉันเริ่มเมื่อยแล้วด้วย” ล้งเล้งใหญ่ เอามือทุบต้นขา ปอมทำ
ปากโฮะ โฮะ

“โอ๋! โอ๋!ไม่เดินแล้วก็ได้...อ่ะ!เอาร้านเนี้ยแหละ...ปอมล้อเล่น! มา..เข้าม๊า! เข้าม๊า!”ประจบ
ประจบ รีบคว้ามือจุ้นมากุมไว้ หน้าจุ้นยังงออยู่แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน ปอมเห็นเข้าก็อมยิ้ม

“เป็นอะไรอ่ะตัวเองหิวมากเหรอ!...เดี๋ยวเค้าสั่งให้กินเยอะๆเลยน้า...จุ้ง หมึก หอย ปู ปลา ได้
หมดวันนี้พกเงินมาเยอะ...ไม่อั้น! ไม่อั้น!”ตบกระเป๋ากางเกง ผลั่ว ผลั่ว นั่นแหละจุ้นถึงยิ้มออก
มาได้

“นั้นแน่! ยิ้มแล้ว...ไป เข้าร้าน เข้าร้าน..เดี๋ยวอาหารหมดไม่รู้ด้วยน้า” จูงมือจุ้นพากันเดินเข้า
ร้าน จุ้นเดินตามต้อยๆ พนักงานเสริฟ์พาไปนั่งโต๊ะด้านในสุด

“คนแน่นอย่างงี้ทุกวันเลยเหรอน้อง” ปอมเอ่ยปากถามพนักงานเสริฟหลังจากที่รับ Order
เสร็จ

“เพิ่งจะมาแน่นมากๆก็ วันสองวันนี่แหละครับ...พอดีว่าฝนไม่ตกนักท่องเที่ยวก็เลยเข้านะครับ”
ปอมพยักหน้า และพนักงานก็เดินผละออกไป เสียงปอมก็ค่อยๆรอดออกมา

“เข้าใจจัดร้านอ่ะ..น่านั่งดี..บรรยากาศก็เปอร์เฟคเหมาะกับคู่รักอย่างเราเนอะ”พยักพเยิกหน้า
ใหญ่ ยังประจบอยู่ จุ้นค้อนให้ควับแล้วก็ยิ้มออกมา

“ไหนเมื่อกี้บอก แย่งกันกิน แย่งกันหายใจไง”

“ก็ล้อเล่นอ่ะ! ล้อเล่นไม่ได้เหรอ..จริงๆก็จะพามากินที่ร้านเนี้ยแหละ ห้าดาวเลยน้า..แม่ช้อยมา
ชิมแล้วด้วยยังยกนิ้วโป้งให้เลย”

“ไอ้กะล่อน..ไหลไปทั่ว”จุ้นส่ายหน้าให้ เอือม!

“กุหลาบมั๊ยคะ” เสียงของเด็กหญิงตัวน้อยๆถามออกมา ในมือก็ถือกุหลาบสีแดงแปร๊ดหลาย
ดอกค่อยๆเดินมายืนอยู่ข้างๆปอม ปอมหันไปมองอมยิ้ม แล้วก็ส่งเสียงถามออกไป

“ดอกเท่าไหร่คะ”

“ยี่สิบค่ะ” ปอมเลิกคิ้ว จุ้นนั่งมองนิ่งอมยิ้มบางๆ

“ทำไมแพงจังเลยล่ะ” ทำหน้างง ตอบไม่ถูก ปอมหัวเราะ

“อ่ะ!ไม่เป็นไร...งั้นพี่เหมาหมดเลยแล้วกัน..แต่ต้องลดให้พี่บ้างนะ”เด็กหญิงยิ้มแป้น...ซักแป๊บ
จากยิ้มแป้นก็เริ่มจางลง..คิ้วเริ่มขมวดเหมือนคิดอะไรอยู่

“เดี๋ยวหนูมา”รีบวิ่งซอกแซกผ่านผู้คนออกไปหน้าร้าน จุ้นเลิกคิ้วให้หันมามองหน้าปอม

“เค้าไปไหนอ่ะปอม”

“คงจะไปถามพรรคพวกข้างนอกล่ะมั้ง ว่าลดให้ได้หรือเปล่า” ไม่กี่นาทีเด็กหญิงก็วิ่งกลับเข้า
มา ยืนหอบตัวโยน

“ลดได้ค่ะ..ลดได้10บาท” ปอมอมยิ้มในตาพราว ควักเงินออกจากกระเป๋ายื่นส่งให้

“ขายอันนี้หมด แล้วกลับบ้านเลยหรือเปล่าคะ หรือว่าต้องไปขายที่อื่นต่อ” เด็กหญิงยิ้มแป้น

“กลับเลยค่ะ...แม่บอกว่าอย่างงั้น..หนูอยากกลับไปเล่นกับเพื่อนที่บ้าน” และก็วิ่งปรู๊ดออกไป
ปอมกับจุ้นมองตามจนลับสายตา

“เนี่ยแหละจุ้น! หนึ่งในชนชั้นระดับสองที่ฉันเคยบอกแกน่ะ!..ต้องช่วยเหลือทางบ้านไม่ทำก็อด
กิน ช่วงชีวิตตอนเด็กๆก็คงจะไม่ค่อยมีมากนักหรอก ทำงานตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก...อายุก็คงจะแก่
กว่าเจ้าติวประมาณซักสองสามปีได้ล่ะมั้ง..แต่ดูตัวสิเล็กกว่าเจ้าติวอีก...ฉันล่ะนับถือจริงๆ เห็น
แล้วอดสงสารไม่ได้”จุ้นอมยิ้ม

“แกก็เลยเหมาหมดงั้นสิ!” ปอมหัวเราะ มือก็ค่อยๆ หยิบกุหลาบมาไว้ในมือทีละดอก

“อึมม์!ทำบุญน่ะจุ้น เด็กจะได้รีบกลับบ้าน...แกไม่เห็นเหรอหน้ายิ้มแป้นเลยตอนที่บอกเราว่าจะ
ได้กลับบ้านน่ะ...เด็กก็ยังเป็นเด็กน่ะจุ้น ต่อให้ต้องช่วยพ่อแม่ทำงานมากแค่ไหน มันก็ต้องมี
มุมเล็กๆบ้างล่ะที่อยากจะเล่นกับเพื่อน อยากจะทำตามใจตัวเองบ้างนิดหน่อย...จะว่าไปฉันทำ
บุญกับเด็กพวกนี้มากกว่าไปทำบุญที่วัดอีกนะ ได้ผลทันตาเห็นน่ะ...เห็นรอยยิ้มที่มันมาจาก
ข้างใน เห็นแล้วมันปลื้มมีความสุข”ยิ้มตาหยีส่งให้..พร้อมกลับยื่นกุหลาบที่อยู่ในมือส่งให้จุ้น
ทั้งกำ

“อ่ะ!ฉันให้..จะได้ถือว่าทำบุญร่วมกัน เกิดชาติหน้าจะได้เกิดมาเป็นเนื้อคู่กันอีกนะ คนจ๋วย”
อมยิ้มพริ้ม จุ้นหัวเราะเอื้อมมือมารับ

“ขอบใจปอม!...ขอให้ผลบุญที่แกทำๆมามันส่งมาถึงแกเร็วๆนะ” ปอมหัวเราะ บ้าง

“จริงๆ มันส่งมาหาฉันแล้วล่ะ ตัวเบ่อเริ่มเลยนั่งอยู่ตรงหน้าเนี่ย!อันนี้เป็นบุญเก่าน่ะ...ส่วนบุญ
ใหม่นี่กำลังเติบโตอยู่ในท้องผลบุญเก่าน่ะ”ขยิบตาส่งให้ ปิ๊ง! ปิ๊ง! จุ้นส่งค้อนให้หมั่นไส้ แล้ว
พนักงานก็ค่อยๆ ลำเลียงอาหารออกมาเสริฟ์ ผู้คนเริ่มทยอยเข้าร้านกันมากขึ้น เสียงคุยกัน
ขรมไปหมดดูจะเป็นวันสบาย สบายที่ทุกคนจะผ่อนคลายเต็มที่ ปอมกับจุ้นก็เป็นอีกคู่ที่ทั้งคุย
ทั้งกินอย่างสบายอารมณ์ ผลัดกันเล่าผลัดกันหัวเราะอยู่อย่างงั้น......

“ปอม! พอแล้วแกจะตักอะไรให้ฉันนักหนา...แกก็กินมั่งสิ”เสียงจุ้นส่งมาพร้อมกับเลื่อนจาก
หนี

“ก็กินเยอะๆไง..จะได้โตเร็วๆ”จุ้นอมยิ้ม

“ไอ้บ้าปอม! พูดอย่างกับฉันเป็นเด็ก”ปอมยิ้มแป้น

“ปอมหมายถึงลูก!...ลูกน่ะ!กินเผื่อลูกด้วยไง..เราอิ่มแล้วแต่ลูกยังไม่อิ่มน้า...นะจุ้น กิน
เยอะๆ..ไหนบอกปอมว่าหิวไม่ใช่เหรอ...ปอมสั่งให้เยอะเลยน้า เนี่ยยังเหลืออีกเพียบเลย จุ้ง
หอย ปู ปลาเต็มไปหมด..นะจุ้นคนดีของปอม จุ้ง จิ้ง จุ้ง จิ้ง” จุ้นหัวเราะส่งช้อนเข้าปากเคี้ยว
หงุบ หงับ แล้วสายตาก็พลันเห็น

“ปอม”

“หึมม์” ขานรับไป ปากก็เคี้ยวตุ้ยๆ มือก็สาระวนกับการใช้คีมบีบกล้ามปู

“อย่าเพิ่งหันไปนะ...ฉันเห็นผู้หญิงโต๊ะนั้น มองมาที่โต๊ะเราตั้งนานแล้วแกรู้จักเค้าหรือเปล่าอ่ะ”

“ไหน!”กำลังจะหันหน้าไปมองอย่างเร็ว จุ้นตกใจรีบเอื้อมมือมาตระครุบหน้าปอมไว้อย่างไวไม่
ให้หัน ส่งเสียงกระซิบมาอย่างเบา

“ไอ้บ้าปอม! บอกว่าอย่าเพิ่งหันแกจะรีบหันไปทำไม” ปอมตาเหลือก

“ก็ถ้าไม่ให้ปอมหัน แล้วมันจะเห็นเหรอ”มีเถียง มีเถียง ปากยังเคี้ยวอยู่ จุ้นหมั่นไส้หยิกแก้ม
ปอมไปหนึ่งที ปอมหน้าเบ้

“อุ้ยส์..จุ้น! ปอมเจ็บอ่ะ” ลูบแก้มปร้อย ปร้อย จุ้นถอยกลับมานั่งที่

“ดีสมน้ำหน้า” ค้อนให้ปอม อีกควับนึง

“ก็ทำเป็นฟอร์มทำโน่นทำนี่แล้วก็ค่อยๆหันไปหน่อยไม่ได้หรือไง...หันควับไปอย่างงั้นเค้าก็รู้
หมดว่าเราแอบมองเค้าน่ะ”

“อ่ะ! ก็ทีเค้ายังแอบมองเราได้เลยนี่”ยังต่อล้อต่อเถียงอยู่ จุ้นทำปากจึก จักสายตาก็ค่อยๆ
เหลือบไปดูโต๊ะนั้นอีก

“ปอม ยังมองอยู่เลยอ่ะ มีอมยิ้มนิดๆด้วย...แกค่อยๆหันไปมองสิ”

“ไม่รู้..ไม่สนใจแล้ว..เดี๋ยวเจ็บตัวอีก” นั่งกินตุ้ย ๆ จุ้นหันมามองหน้าปอมเห็นหน้ามุ้ย ก็อมยิ้ม

“อ่ะ! ขอโทษ ขอโทษ เจ็บมากเหรอน่ะ”นั่นแหละหน้าถึงบานได้

“เจ็บอ่ะจุ้น...เนี่ย!ช้ำหมดแล้วมั้ง” ตะแคงหน้าให้ดู จุ้นชะโงกหน้าเข้ามาดู

“ไม่ช้ำหรอก ฉันไม่ได้หยิกแกแรงซักหน่อย”

“แต่มันเจ็บน้า” ยังอ้อนอยู่ จุ้นหัวเราะ

“เออ! ขอโทษ ทีหลังจะหยิกเบากว่านี้”

“จุ้นอ่ะ! พูดแบบนี้ได้ไง ต้องบอกว่าทีหลังจะไม่ทำแล้วสิ”

“เออๆ ที่หลังจะไม่ทำแล้ว เรื่องมาก!”ทีนี้ปอมส่งค้อนให้บ้าง

“ปอม แกลองหันไปดูสิ..ค่อยๆหันนะเค้ายังมองอยู่เลยอ่ะ” ปอมยกน้ำขึ้นซดฮวบๆ วางแก้วลง
ค่อยๆหันไปมอง แล้วก็อมยิ้มหันหน้ากลับมาหาจุ้น

“อ๋อ!” จุ้นพยักหน้าใหญ่

“แกรู้จักเค้าเหรอปอม..ถึงว่ามองเราอยู่ตั้งนานแหนะ”

“อ๋อ! ไม่รู้จักอ่ะ” มือไม้มาเลย ปอมรีบถอยหลังหนี ยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้

“อ๊ะ!อย่านะ...มีสู้นะ!..ทีนี้ปอมไม่ยอมจริงๆด้วย! จะล๊อคคอจุ๊บ!เลย” จุ้นหัวเราะ

“ไอ้ทะลึ่ง...แล้วเมื่อกี้อ๋อทำไม...ไม่รู้จักทำไมต้องอ๋อ!”

“อ๊ะ! ก็อ๋อแบบว่าเคยเห็นแต่ไม่รู้จักไม่ได้เหรอ..ปอมยังพูดไม่จบเลยจุ้นก็ช่วยปอมพูดซะก่อน
แล้ว”

“เออๆ ขอโทษ ขอโทษ”ปอมยิ้มหน้าแป้นแล้น

“ไม่เป็นไร ไม่โกรธหรอก”จุ้นยิ่งยิ้มหนักขึ้นไปอีก

“ว่าแต่...แกเคยเห็นเค้าที่ไหนล่ะ”

“เค้าก็พักอยู่ที่เดียวกับเรานั่นแหละ..เมื่อเช้านี้ก็นั่งเรือของโรงแรมข้ามไปเกาะล้านกับเราด้วย
นะ”จุ้นขมวดคิ้วมุ้น

“ทำไมฉันไม่เห็นล่ะ”

“จะไปเห็นได้ไง..ในสายตาจุ้นมันมีปอมอยู่แค่คนเดียว”ยักคิ้วแพล๊บ ส่งข้าวเข้าปากซวบ เคี้ยว
แหงบ แหงบ จุ้นทำหน้าเอือม..ปอมหัวเราะข้าวเต็มปาก

“ก็หรือไม่จริง...เพราะสายตาปอมก็มีแต่จุ้นคนเดียว..ไม่เคยกวาดตาไปมองคนอื่นเลยน้า”ยิ้ม
ตาหยีส่งให้เคี้ยวตุ้ย ตุ้ย

“แต่ฉันไม่เห็นเค้าจริงๆน้า...สวยออกอย่างนั้นทำไมถึงหลุดรอดสายตาฉันไปได้”ปอมอมยิ้ม
ยกน้ำขึ้นดื่ม พูดน้ำเสียงเนิบๆ

“คนในเรือมันเยอะน่ะจุ้น..อีกอย่างฉันเห็นพอแกหาที่นั่งได้ปุ๊บ!ก็หันหน้าออกทะเลอย่างเดียว
ไม่สนใจผู้คนมันจะไปเห็นอะไร” จุ้นนึกภาพตาม

“เออจริง! ตอนนั้นฉันกลัวเมาคลื่นน่ะเลยต้องมองไปข้างนอกอย่างเดียว..ว่าแต่เค้ามาคนเดียว
เหรอปอม..เมื่อเช้าเค้าก็ข้ามเกาะไปคนเดียวเหรอ”ปอมเลิกคิ้ว

“จะอยากรู้ไปทำไมจุ้น...จะทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับคนรอบข้างหรือไง ถามเจาะเชียว”จุ้นค้อน
ควับ

“ก็เห็นเค้านั่งกินข้าวคนเดียว...ฉันก็เลยสงสัยน่ะ!..และดูสิยังนั่งมองอยู่เลยอ่ะ..พอฉันเหลือบ
ไปเห็นทีไรเค้าก็ส่งยิ้มให้ทุกทีเลยนะ”ปอมหัวเราะหึ หึ แกะกุ้งใส่จานจุ้นต่อ

“สงสัยจะแอบชอบแกมั้งจุ้น...เป็นดี้หรือเปล่า คงนึกว่าแกเป็นทอมล่ะมั้งเลยสนใจน่ะ”

“บ้า!ไอ้ปอม”ปอมยังหัวเราะอยู่ มือก็ตักโน่น ตักนี่ใส่จานจุ้น

“พูดไปด้วยกินไปด้วยจุ้น..อย่าหยุดเดี๋ยวเสียของ”จุ้นตักเข้าปากแต่โดยดี เคี้ยวตุ้ย ตุ้ย แล้ว
ปอมก็พล่ามต่อ

“เค้าไม่ได้มาคนเดียวหรอกคงมากับแฟนมั้ง...เพราะเมื่อเช้าฉันเห็นเค้าขึ้นเรือมาด้วยกัน แต่ท่า
ทางผู้ชายจะเป็นพวกยอดมนุษย์น่ะ”จุ้นขมวดคิ้วถาม ปากเคี้ยวแหงบๆ ปอมหัวเราะ

“ก็พวกมนุษย์โทรศัพท์น่ะ..คือที่หูมีโทรศัพท์งอกออกมา” จุ้นหัวเราะพรืด!!! ไอค๊อก ไอแค๊ก
สำรัก! ปอมอมยิ้ม หยิบทิชชู่ส่งให้ จุ้นรีบรับอย่างไว

“ไอ้บ้าปอม ชอบพูดให้ขำ”ซับปลายหางตาใหญ่

“อ่ะ!..ก็จะไม่ให้เรียกอย่างงั้นได้ไงล่ะ..หันไปทุกทีก็เห็นแต่โทรศัพท์ติดอยู่ที่หู..มันจะโทร
อะไรขนาดน้านน...มาเที่ยวกับสาวทั้งที ปล่อยให้สาวนั่งหงอย นั่งหง่าวมองดูท้องฟ้ากับน้ำอยู่
แค่นั้น ไม่รู้จักสื่อสารกับคนใกล้ตัว มัวแต่สื่อสารกับคนไกลตัว..ไอ้นี่!สงสัยไม่ได้ใช้ออเร้นจ์”
จุ้นหัวเราะ

“ไอ้ทุเรศปอม!...เค้าอาจจะมีเรื่องด่วน มีธุระคอขาดบาดตายก็ได้ไปว่าเค้า”ปอมส่ายหน้าอย่าง
ไว ไม่เห็นด้วย

“จุ้นน!..มาเที่ยวนะจุ้น มาพักผ่อนไม่ได้มาทำงาน...โทรตั้งแต่ขึ้นเรือยันลงเรือ และเรื่องคอ
ขาดบาดตายอะไรที่ไหน ฉันได้ยินแต่เสียงหัวเราะร่วนเชียว เห็นแล้วสงสารผู้หญิงช้ำใจแทน!”
ยักคิ้วแพล๊บส่งให้ ตักข้าวเข้าปากต่อ

“ไหนบอกว่าไม่เคยกวาดตาไปมองคนอื่น..นี่รู้ตั้งแต่ขึ้นยันลงเลยนะ”ปอมตาโต รีบกลืนอย่าง
ไว

“นั่นแน่...หึงแล้ว!จุ้นหึงแล้ว!..น่ารักจังเลยมีหึงด้วย”จุ้นน่างอ

“ไอ้บ้าปอม...หึง เหิงอะไรไอ้บ้านี่”ยื่นมือมาแหนบแขนปอม หน้าเริ่มร้อนวาบๆ เออหนอ!
ทำไมหน้ามันร้อนอย่างงี้..พอได้ยินน้ำเสียงเวลามันเอื้ออาทรกับหญิงอื่นแล้วมันตะหงิด
ตะหงิดใจยังไงไม่รู้

“เป็นอะไรจุ้น เงียบเชียว”ปอมนั่งมองหน้า..จุ้นมองตอบ

“โกรธเหรอที่ฉันบอกว่าแกหึงน่ะ..ฉันขอโทษ ไม่หึง ก็ไม่หึงสิ!..ฉันล้อเล่น”เท่านั้นแหละ น้ำตา
คลอขึ้นมาที่เบ้ากำลังจะลื่นไหล ปอมตกใจ

“อ้าว! เฮ้ย! มาโศกอะไรตอนนี้ไอ้จุ้น!..กำลังอร่อย!..โอ๋ โอ๋”กำลังจะเอื้อมมือมาเช็ดให้นึกขึ้น
ได้ว่ามือเปรอะ รีบลุกขึ้นยืนอย่างไวควักผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกงส่งให้

“อ่ะ! เอาอันนี้ไปเช็ดก่อนผืนเมื่อวาน ฉันยังไม่ได้ใช้เลยพกติดตัวไว้เฉยๆน่ะ”จุ้นยื่นมือมารับ

“เป็นอะไรจุ้น...ฉันทำอะไรให้แกไม่พอใจหรือเปล่า!” จุ้นส่ายหน้ายิก ยิก

“ไม่ได้ทำ แล้วร้องไห้ทำไมล่ะ”

“ไม่มีอะไร”น้ำเสียงสั่นเคลือ

“ไม่มีอะไรได้ไง..ต้องมีสิ..บอกฉันสิจุ้น”จุ้นมองหน้าปอมนิ่ง

“ไม่รู้สิ! ฉันบอกไม่ถูกอ่ะ!..มันรู้สึกแปลกๆ”

“แปลกยังไง” จุ้นกัดริมฝีปากนิ่ง แล้วเสียงก็ค่อยๆส่งมาเบาๆ

“คือเวลาที่แกพูดถึงผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ฉันแบบนั้น ทำนองว่าเห็นอกเห็นใจเค้าอะไรประมาณ
เนี้ย มันจะรู้สึกตื่อ ตื่อขึ้นมาน่ะ”ปอมอมยิ้มเลิกคิ้วให้

“น้อยใจเหรอ!..ไม่สบายใจหรือเปล่า!..ไม่ชอบใช่มั๊ย” จุ้นขมวดคิ้ว

“ไม่รู้! ฉันตอบไม่ถูก”ปอมยิ้มน้าแป้น ยกน้ำขึ้นจิบ

“ให้ฉันตอบแทนมั๊ยล่ะ...คำเดียวสั้นๆเลยนะจุ้น....หึง!น่ะ” จุ้นมองหน้า ทำหน้ามุ้ย ปอมหัวเราะ

“เป็นอะไรล่ะจุ้นไม่เห็นแปลกเลย..แกหึงฉันแสดงว่าแกรักฉัน..น่ารักดีฉันชอบมันภูมิใจน่ะ...
ชีวิตมีรสชาติไม่ขาดสีสรร มีขมนิดๆหวานเยอะๆหน่อยอร่อยดีซะอีก”รอยยิ้มเริ่มระบายอยู่บน
ใบหน้าจุ้น

“แกชอบของหวานล่ะสิ..ถึงชอบเยอะๆน่ะ”ปอมหัวเราะหึ หึ

“เปรียบเทียบ ขมกับหวาน..ส่วนมากมันก็เลือกอย่างหลังอยู่แล้วมันชื่นใจดี”จุ้นหัวเราะ ขนตา
ยังชื้นอยู่นิดหน่อย ปอมยิ้มพริ้ม

“จุ้นนน!..ฉันขอโทษบางครั้งฉันก็พูดอะไรตามที่ใจฉันคิดมากไปหน่อยคำพูดมันก็เลยจะออก
มาโพล่งๆฟังแล้วอาจทำให้แกไม่สบายใจได้...ด้วยอาชีพฉันล่ะมั้งทำให้ต้องมองสิ่งรอบ
ข้างอยู่ตลอดเวลามันฝังลึกอยู่ข้างในแล้วน่ะ..พอมองแล้วมันก็ต้องคิดวิเคราะห์ไปเรื่อย..แต่
ขอบอกว่าฉันไม่ได้มีอะไรจริงๆน้า แค่พูดตามที่คิดเท่านั้นเอง”

“ฉันรู้แล้ว..ฉันเชื่อแกปอม..ฉันเชื่อแกมาตลอดไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่นเลย...เพียงแต่ช่วงนี้ฉัน
เป็นอะไรไม่รู้อารมณ์มันมีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลาน่ะ..โกรธง่าย ขึ้นง่ายยังไงไม่รู้”ปอมตาเหลือก

“อ้าว! งั้นแกก็ไม่ได้หึงฉันน่ะสิ..ว้า!แย่จัง!”ยิ้มตาหยี ยกกำปั้นเคาะหัวเอนไปด้านนึง จุ้นหัวเราะ

“ไอ้บ้าปอม” ปอมยิ้ม

“สงสัยจะเป็นอารมณ์คุณแม่มาเยือนล่ะมั้ง..ฮอร์โมนคุณแม่ฉีดพล่าน..หงุดหงิดง่ายหายเร็ว
อะไรอย่างเนี้ย..เออ!ใช่! ใช่! ฉันเคยอ่านเจอเหมือนกัน” พยักหน้างึก งึก

“ปอม! ปอม! เค้ามากับแฟนเค้าจริงๆด้วยอ่ะ”กระซิบน้ำเสียงกระตือรือร้นจัด ยื่นมือมาสะกิด
แขนปอมยิก ยิก สายตาก็มองไปข้างหน้า ปอมตาเหลือก

“ไอ้จุ้น! ทำไมแกเปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนอารมณ์เร็วจะวะตามไม่ทัน...ไม่ต้องไปสนใจเค้าแล้ว
เดี๋ยวอารมณ์เปลี่ยนอีก กินเร้ว!”ตักโน่นตักนี่ใส่จานให้ จุ้นกินไปด้วยสายตาก็มองโต๊ะนั้นไป
ด้วย

“ปอม! จริงอย่างที่แกว่าอ่ะ...เป็นมนุษย์โทรศัพท์จริงๆด้วย..ยังไม่เลิกโทรเลย..ฉันสงสาร
ผู้หญิงจังดูท่าทางจะเอือมนะน่ะ”

“จุ้นนน!”ปอมเตือนมาเบาๆ นั่นแหละถึงเงียบได้นั่งหน้างอกินข้าวต่อ ปากก็ค่อยๆเอื้อนเอ่ยมา

“ดีนะที่แกเป็นพวกมนุษย์ขี้ลืมโทรศัพท์น่ะ ไม่งั้นฉันคงนั่งหน้าเซ็งอย่างผู้หญิงโต๊ะนั้นแน่ๆ”ยัง
ไม่จบ มีต่อ ปอมหัวเราะ

“แกนี่..น่ารักจังว่ะ!ตื้อไม่เลิก”นั่งอมยิ้มจ้องหน้าจุ้นนิ่ง

“จุ้นน! ต่อให้ฉันพกโทรศัพท์มาฉันก็ไม่บ้าโทรอย่างงั้นหรอก...ดีไม่ดีฉันจะปิดซะให้รู้แล้วรู้
รอดเพราะฉันให้เกรียติ์แกน่ะ” ส่งตาหวานให้..จุ้นอมยิ้มปลื้มนั่งกินข้าวต่อ ยิ่งตกดึกคนยิ่งแน่น
ขนัด พนักงานเดินกันให้ขวักไขว่..ปอมกับจุ้นกินเสร็จเช็คบิลและก็เดินออกจากร้าน..จูงมือกัน
เดินดูสินค้าที่ตั้งวางขายบนแผงข้างทาง แสงไฟนีออน สีส้ม สีขาวสว่างเป็นจุดๆ ตามแผงร้านที่
ตั้งไว้ริมถนน ปอมหิ้วถุงพะรุงพะรังแต่ไม่ใช่ของตัวเองซักชิ้นของจุ้นทั้งนั้น ดูเหมือนจุ้นเห็น
อะไรที่ถูกตาต้องใจก็จะซื้อไปซะหมดส่วนมากจะเป็นของเล็กๆน้อย เอาไว้ตกแต่งบ้าน

“จุ้นน! พอเถอะ เยอะแล้ว” จุ้นหันมามองมือก็กำช่อกุหลาบไว้

“หนักเหรอ! ถ้าหนักเอาไปเก็บที่โรงแรมก่อนก็ได้ เดี๋ยวค่อยลงมาใหม่นะ” ปอมตาโต อมยิ้ม

“เยอะ!ไม่ใช่หนัก..ไอ้นี่ชอบบิดเบือนคำพูด..จะซื้ออะไรกันนักหนาล่ะจุ้นเยอะแล้วนะเนี่ย”

“มันสวยอ่ะปอม...นานๆมาทีไม่เป็นไรหรอก”ปอมหัวเราะ

“ตามใจ!”แล้วก็พากันเดินต่อ กว่าจะกลับเข้าโรงแรมได้ก็สี่ทุ่ม จุ้นอาบน้ำก่อนพออาบเสร็จก็
เดินออกมานั่งจ้องโทรทัศน์ข้างๆปอม กลิ่นหอมฟุ้ง

“ปอม! ไปอาบน้ำ” ปอมแหงะหน้ามามองยิ้มให้ ทำจมูกฟึดฟัด

“หอมจัง!” ชะโงกหน้ามาหอมแก้มจุ้นหนึ่งฟอด ลุกขึ้นยืนหยิบผ้าเช็ดตัว กำลังจะเข้าห้องน้ำ

“ปอมเดี๋ยวฉันมานะ”ปอมหันมามองขมวดคิ้ว

“จะไปไหนน่ะ”

“ไปข้างนอกแป๊บนึง เดี๋ยวมา”

“รอไปพร้อมกัน เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”จุ้นส่งยิ้มให้

“ไม่เป็นไร..ไม่ต้องห่วงแป๊บเดียวเอง”

“ตามใจ...แต่อย่าไปเดินในที่มืดๆนะจุ้น” นั่นแหละถึงแยกย้ายกันไปได้ จุ้นเดินออกมานอก
ห้องยืนสูดอากาศแป็บนึงค่อยๆก้าวเดินลงบันไดทีละขั้น เสียงหลีดหลิ่งเรไรร้องระงม..เสียง
คลื่นกระทบฝั่งอยู่ไกลๆ เท้าก็ก้าวเดินไปเรื่อยๆ กำลังจะถึงทางเดินลงหาดอยู่แล้ว ได้ยินเสียง
สะอึกสะอื้นใกล้ๆ รีบหันไปมอง เห็นหญิงสาวนางหนึ่งนั่งก้มหน้าร้องไห้อยู่ก็ชะงัก รีรออยู่แป๊บ
นึงค่อยๆเดินเข้ามา

“คุณ..คุณคะ”หญิงสาวสะดุ้งเฮือก! เงยหน้าขึ้นมองจุ้น....จุ้นเลิกคิ้วแปลกใจ

“อ้าว! คุณนั่นเอง”หญิงสาวรีบเอามือป้ายน้ำตาที่ใบหน้าออก ส่งยิ้มให้

“หวัดดีค่ะ...ดูเหมือนวันนี้เราจะเจอกันทั้งวันเลยนะคะ” จุ้นอมยิ้ม เดินเข้ามานั่งบนเตียงผ้าใบ
ข้างๆ

“โลกกลมน่ะค่ะ มันก็เลยต้องเจอกันบ่อย” หญิงสาวหันมายิ้มให้

“ฉันชื่อแพรค่ะ”

“จุ้นค่ะ”

“ชื่อน่ารักดีนะคะ” จุ้นหัวเราะ

“สงสัยว่าพ่อกับแม่จะเห็นแววน่ะค่ะ...ว่าโตขึ้นคงชอบจุ้นเรื่องคนอื่นเลยตั้งชื่อตามนิสัย”แพร
หัวเราะออกมาเสียงกังวานใส จุ้นจ้องนิ่ง เวลาหัวเราะดูดีจัง แต่ทำไมปล่อยให้จิตใจเศร้าอย่างงี้
หนอ

“แฟนคุณจุ้นไม่ลงมาด้วยเหรอคะ...ไม่เห็นมี”พูดเสร็จก็สอดส่ายสายตาหา

“ไม่ได้ลงค่ะอาบน้ำอยู่..แล้ว เอ่อ!” แพรยิ้ม

“แฟนแพรเหรอคะ...ลงมาค่ะแต่ขอตัวไปโทรศัพท์...คงอีกนานน่ะค่ะกว่าจะเสร็จ”จุ้นยิ้มแหยๆ
ส่งให้ แพรค่อยๆพูดออกมาสายตาก็เหม่อมองออกไปในความมืดเบื้องหน้า

“แพรชินแล้วค่ะรอจนชิน..ตอนนี้จากชินเริ่มจะเบื่อแล้วค่ะ..รู้สึกสงสารตัวเองจังทำไมต้องรัก
อะไรมากมายขนาดนั้นก็ไม่รู้” หัวเราะ หึ หึ จุ้นนั่งฟังนิ่ง

“แฟนแพรเค้าธุรกิจเยอะค่ะ...เพื่อนฝูงก็เลยเยอะตามไปด้วยมันก็เลยต้องติดต่อกันบ่อย..
โทรศัพท์เลยเป็นสิ่งที่เค้าขาดไม่ได้” แพรหันมายิ้มให้

“แฟนคุณจุ้นน่ารักนะคะ...แพรเห็นตั้งแต่เช้าแล้วชอบมองน่ะค่ะน่ารักดี ดูเค้าจะเอาใจคุณจุ้น
ตลอดเวลา ท่าทางจะมีอารมณ์ขันด้วย เพราะเห็นคุณจุ้นหัวเราะอยู่บ่อยๆ”จุ้นหัวเราะ

“มันต๊อง!ค่ะ” แพรหัวเราะ หันไปมองเบื้องหน้าใหม่

“ดีค่ะไม่เครียด...แพรอยากมีช่วงเวลาแบบนี้บ้างจัง...อยู่กันสองต่อสอง แบบไม่ต้องมีสิ่งไหน
สิ่งใดมากวนใจทำชีวิตเรื่อยๆ สบาย สบาย ไม่ต้องรีบต้องร้อน ไม่ต้องแข่งกับอะไรทั้งสิ้น..ดู
มันมีความสุขดี...คนเรานี่ไม่เคยพอเลยนะคะ มีอยู่แล้วก็อยากจะมีขึ้นไปอีกไม่ยอมหยุด
พยายามไขว่คว้าก้าวเดินไปข้างหน้าอยู่เรื่อยๆ..ไม่พยายามมองคนข้างๆว่าอยากจะก้าวไปด้วย
หรือเปล่า”แล้วก็นิ่งเงียบ หัวเราะเบาๆออกมา

“แพรพล่ามซะเยอะเลย คุณจุ้นคงเบื่อ”

“ไม่หรอกค่ะฟังเพลินดี” แพรยิ้ม

“ขอบคุณค่ะที่รู้สึกอย่างงั้น...สองวันมานี่ไม่ค่อยได้พูดน่ะค่ะใช้แต่สายตาอย่างเดียว..มันคงจะ
เก็บกด หึ หึ”จุ้นอมยิ้ม

“แล้วนี่คุณแพรจะกลับวันไหนคะ”

“พรุ่งนี้เช้าค่ะ! งานแฟนแพรเยอะก็เลยต้องรีบกลับ..และคุณจุ้นล่ะคะ”

“ยังไม่รู้เหมือนกันค่ะ แล้วแต่คนข้างบนโน่นเอาแน่เอานอนไม่ได้กับตาคนนั้น..เปลี่ยนได้
ตลอด..ตอนจะมานี่ก็ปุ๊บปั๊บมา ไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัว เสื้อผ้าก็มาซื้อเอาที่นี่..เค้าบอกว่า
ชีวิตมันมีรสชาติดี” แพรหัวเราะ

“น่าสนุกจัง! ตื่นเต้นดีออกค่ะ ไม่รู้จะเจออะไรข้างหน้า ไม่ต้องมีแบบแผนมาก ขอแค่มีเธอกับ
เงินในกระเป๋าฉันก็พอ แค่นี้ฉันก็อยู่ได้ โรแมนติกจังค่ะ!”จุ้นยิ้มปูเลี่ยน ปูเลี่ยนส่งให้ แพรหันมา
ยิ้มตอบ

“ฟังดูเหมือนแพรเพ้อเจ้อนะคะพูดเหมือนนิยาย แต่ลักษณะภายนอกที่แพรมองแฟนคุนจุ้นมัน
เป็นอย่างงั้น...อยากให้แฟนแพรเป็นแบบนี้บ้างจัง ความรู้สึกแพรคงจะดีขึ้นกว่านี้”ถอนหายใจ
เฮือก!

“แพร! คุยกับใครอยู่น่ะ”เสียงห้าว ๆ ลอยมาตามลม ซักแป๊บต้นตอของเสียงก็โผล่ออกมา
ค่อยๆเดินเข้ามาหา แพรกับจุ้นหันไปมองลุกขึ้นยืนกันทั้งคู่

“เพื่อนใหม่แพรค่ะ..ชื่อจุ้น..ส่วนนี่พี่พลค่ะแฟนแพร”จุ้นหันไปยิ้ม พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้
ทักทาย

“สวัสดีค่ะ”พลยกมือรับไหว้

“สวัสดีครับ...ได้ยินเสียงแพรคุยจ้อเลยคงจะได้เพื่อนคุยถูกใจ” จุ้นยิ้ม ไม่ได้โต้ตอบอะไร

“ไปแพรขึ้นกันยัง...พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้าเข้ากรุงเทพเดี๋ยวสายแล้วรถมันจะติด”แพรหันมายิ้ม
ส่งให้จุ้น

“งั้นแพรขอตัวนะคะคุณจุ้น”

“ค่ะ!” แพรกำลังจะหันกลับไปนึกขึ้นได้หันมาใหม่ รีบควักกระเป๋าสตางค์หยิบนามบัตรส่งให้
จุ้น

“ถ้าคุนจุ้นว่างๆ ยังไงก็โทรมาคุยได้นะคะ” จุ้นรับไว้ส่งยิ้มให้

“ได้ค่ะ!”

“เอ่อ! คุณจุ้นมีเบอร์มั๊ยคะ” จุ้นเลิกคิ้ว แล้วก็ยิ้มออกมา

“ขอโทษค่ะ...พอดีไม่ได้พกนามบัตร”

“ไม่เป็นไรบอกก็ได้ค่ะ..แพรจำได้”

“แพร!”เสียงพลเตือนออกมาเบาๆ จุ้นหัวเราะแล้วก็บอกเบอร์แพรไป ซักครู่สองหนุ่มสาวก็เดิน
ลับไปจากสายตา

“จุ้นนน! อยู่ไหนน่ะ”ปอมส่งเสียงเรียกโวกเวก จุ้นหันไปมอง

“อยู่ข้างล่างนี่”นั้นแหละตัวถึงโผล่ออกมาได้

“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้...ยุงกัด!..ไปขึ้นข้างบน” จุ้นเดินอมยิ้มเข้ามากอดปอม หน้าซบอยู่ที่บ่า

“รักแกจัง!” ปอมเลิกคิ้วอมยิ้ม

“เป็นอะไร จุ้น! ผีทะเลเข้าสิงเหรอ...ไม่เอา ไม่เอา...ตรงนี้อายเค้า..ไป!..ไปข้างบน”จุ้น
หัวเราะ ผละหน้าออกจากบ่า ทุบอกปอมดังบึก ปอมแกล้งทำตัวงอ

“ไอ้ทะลึ่งปอม! แกน่ะสิผีทะเล”ปอมยิ้มตาหยีส่งให้

“ไป!..ขึ้นเถอะจุ้น..ยุงกัดปอมอ่ะ!..เหนียวตัวด้วยอาบน้ำแล้วนะ” จุ้นค้อนหมั่นไส้ ปอมหัวเราะ
รีบจับมือจุ้นพากันก้าวเดินไปด้วยกัน...............



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 มิ.ย. 2554, 19:17:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 มิ.ย. 2554, 19:17:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1705





<< ตอนที่ 43 : โลกนี้ต้องมีผู้ชายอย่างเธอ   ตอนที่ 45 : เวลา >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account