อาญาซาตาน
ชาครีย์ หรือเสือ จากอดีตเคยเป็นคนจนๆ กลับกลายมาเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวย เพราะได้เงินจากการขายที่ดินแถวหนองงูเห่าที่เมื่อก่อนราคาไร่ละไม่กี่แสน แต่พอสร้างสนามบินขึ้นมากลายเป็นราคาหลายสิบล้าน และเขาก็สร้างฐานะให้มั่นคงด้วยการจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีเพื่อนๆ ที่เป็นลูกคนรวยทั้งหมอ ทั้งนักการเมืองคอยช่วยเหลือด้วย ทำให้สร้างตัวได้ในเวลาแค่สิบกว่าปีเท่านั้น
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ

Tags: พระเอกโหด เศร้า รัดทด

ตอน: นกน้อยในกรงทอง

“พวกนั้นจะมากี่โมงเหรอเสือ”
กรองแก้วเงยหน้าขึ้นไปถามลูกชายที่เดินลงมาจากชั้นบนตรงเข้าห้องอาหารอย่างเคย เขาคว้าหนังสือพิมพ์ขึ้นมาระหว่างรอให้คนรับใช้เสิร์ฟมื้อเช้า แล้วตอบแม่ขณะเปิดหาคอลัมน์ประจำ
“เห็นทัตบอกว่าจะมาเช้านะครับ แต่ไม่รู้กี่โมง แม่อยากเจอพวกนั้นเร็วๆ เหรอครับ”
ลูกชายแหย่น้อยๆ ขณะยกกาแฟขึ้นจิบควบคู่กับกวาดสายตาไปตามสิ่งพิมพ์ แม่กลับทำสีหน้าเอือมระอาด้วยซ้ำ เพราะอันที่จริงแล้วไม่ใคร่จะเห็นด้วยกับการเอาคืนคู่อริวิธีนี้ของลูกเลย ด้วยความเกลียดในตัวคุณหนูนิสัยเสีย จิตใจโหดถึงขนาดทำให้ลูกสาวคนเดียวของกรองแก้วต้องจากไปได้ลงคอ
มิหนำซ้ำยังยืนดูร่างอ่อนปวกเปียกหมดลมหายใจตรงหน้าได้อีก การกระทำแบบนี้ถ้าไม่มีเลือดชั่วๆ ของพ่อกับแม่และย่าผสมผสานอยู่ในตัวแล้วไหนเลยจะเกิดขึ้นได้ แล้วลูกชายคนเดียวของตัวเองยังจะหอบแม่นั่นมาอยู่ในบ้านอีก ต่อให้เป็นการมาอย่างไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีก็ตาม กรองแก้วก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี
“ถ้าเลือกได้แม่จะไม่ให้พวกมันมาเหยียบบ้าน เอาเสนียดจรรไรมาใส่ให้บ้านแม่มัวหมองด้วยซ้ำ”
“แต่วิธีนี้จะทำให้พวกมันเป็นทุกข์เหมือนตกนรกทั้งเป็น สองปีเองแม่ทนหน่อยนะครับ หรือถ้าเกลียดไม่อยากเห็นหน้าพวกมันมากๆ แม่ก็ไม่ต้องออกไปดูก็ได้นี่ครับ ผมจัดการเอง”
“ไม่หรอก แม่จะไปดูน้ำหน้าพวกมัน ให้มันได้รู้ว่าใช่แต่พวกมันเท่านั้นที่มีเงิน และเอาเงินซื้อชีวิตคนได้ หวังว่ามันคงยังไม่ลืมสิ่งที่มันทำกับเราไว้นะเสือ”
“รับรองครับว่าพวกมันจะจำเราไปจนวันตายเลยทีเดียว เงินไม่กี่ล้านกับการได้เห็นพวกมันมีอาการเหมือนหมาจนตรอกมันคุ้มจะตายไป”
สีหน้าที่บ่งบอกว่าเกลียดชังอย่างที่สุดของสองแม่ลูกนี้ ผู้มาเยือนรับรู้ได้โดยไม่ต้องคิดนานทันทีที่เข้ามาอยู่ในคฤหาสน์อันใหญ่โตหรูหราและเต็มไปด้วยข้าวของมีค่ามากมาย เฟอร์นิเจอร์หรือของประดับก็ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลับทั้งนั้น
“พวกคุณคงจะไม่ลืมแม่ผมหรอกนะ และคงจะไม่เป็นการลำบากนักถ้าจะยกมือไหว้ อ้อ! ยกเว้นคุณก็ได้เพราะสงสารเห็นว่าเกิดนานแล้ว ไหว้คนอายุน้อยกว่าเดี๋ยวแม่ผมอายุสั้น อีกอย่างคนดีๆ อย่างแม่มัจจุราชยังไม่อยากได้ไปอยู่ด้วยหรอก แต่ถ้าเป็นพวกคุณล่ะไม่แน่”
แม้จะโกรธมากแค่ไหน แต่วิโรจน์กับเมียก็ฝืนใจยอมทำตามคำบอกของเจ้าหนี้หนุ่ม แต่สำหรับกัณหาที่มาในคราบคุณหนูมิวพร้อมกับแสงดาวสาวใช้ในบ้านพ่อกลับไม่รู้สึกอะไรกับการให้ยกมือไหว้กรองแก้ว ส่วนยุพาพรนั้นยังคงนั่งเชิดหน้าคอแข็งไม่ยอมก้มหัวให้ใคร แม้ตัวเองจะจนตรอกแล้วก็ตาม
ชาครีย์ยิ้มที่มุมปากด้วยความเกลียดชังเมื่อมองไปหา ก่อนจะกวาดสายตาไปยังคุณหนูจอมวีน ที่เขาจำได้ไม่มีวันลืม ซึ่งมาในลุ๊คแปลกใหม่สวยไฉไลในสไตล์สาวนักเรียนนอกดูดีไม่มีที่ติ หากเขาก็เดาได้ไม่ยากว่าไส้ในนั้นเน่าเฟ๊อะและแหลกเหลวสักแค่ไหน จนไม่แน่ใจสักนิดว่าจะหลับหูหลับตาเอาเจ้าหล่อนลงไปได้ยังไงหรือเมื่อไหร่
“ผมจะให้คนพาไปดูที่พัก เชิญ!”
เพราะนึกเกลียดขี้หน้าคู่อริจนทนดูต่อไปไม่ได้จึงไล่เอาดื้อๆ และนั่นก็เป็นความต้องการของผู้มาเยือนไม่น้อยที่อยากจะได้หนีไปให้ไกลๆ เช่นกัน ทั้งหมดเดินออกจากคฤหาสน์หลังงามตามหลัง เจียงสาวใช้วัยยี่สิบกว่าๆ ลัดเลาะไปตามถนนคอนกรีตเล็กๆ
สองฝั่งมีต้นไม้นานาชนิดขึ้นสูง พื้นเขียวขจีด้วยหญ้ามาเลจนเต็มไปหมด สนามกลางแจ้งอันกว้างใหญ่ก็มีหญ้าญี่ปุ่นปลกคลุมเอาไว้มองแล้วสบายตาจนทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของคุณหนูกำมะลอคลายความเจ็บช้ำลงได้บ้าง
เกือบสามร้อยเมตรจากคฤหาสน์มาถึงบ้านสองชั้นหลังเล็กระทัดรัดที่เรียกได้ว่าใช้กระจกเป็นส่วนประกอบเกือบจะทั้งหมด เจียงไขกุญแจแล้วเดินนำเข้าไปด้านใน ทำเอาทุกคนอึ้งอยู่ครู่ใหญ่เพราะพูดอะไรไม่ออก
“นี่เหรอบ้านที่จะให้หลานฉันอยู่ ทำไมมันสกปรกนักล่ะ”
ยุพาพรออกปากก่อนใครแล้วหันไปหาเจียงส่งสีหน้าและน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างยิ่ง เจียงเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะถูกเจ้านายสั่งมาแบบนี้
“สกปรกพวกคุณก็ทำให้มันสะอาดสิ คนของผมไม่มีเวลาว่างมากพอจะมาคอยปัดกวาดเช็ดถูกรอคุณหนูมิวของพวกคุณหรอกนะ”
เสียงชาครีย์ดังมาจากด้านหลังจนทุกคนต้องหันไปมอง แม้ยุพาพรจะไม่ได้รักหลานคนแรกเลยสักนิด แต่ก็ขอให้ได้ตอบโต้คู่อริบ้างเพื่อไม่ให้ถูกหยามเกียรติกันมากนัก
“ยัยมิวมาอยู่ที่นี่ในฐานะอื่นไม่ใช่คนรับใช้ที่คุณจะให้มาทำงานพวกนี้”
“ก็ไม่มีปัญหานี่ครับ ถ้าหลานคุณนายใหญ่จะอยู่บ้านนี้แบบสกปรกๆ ฝุ่นเกาะเกรอะกังผมไม่สนอยู่แล้ว และสองปีสำหรับชีวิตที่นี่ หลานคุณจะต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่างตั้งแต่ทำความสะอาด ซักผ้ารีดผ้า หุงหาอาหาร รวมทั้งดูแลสวนรอบๆ บ้านให้สวยเหมือนตอนนี้อยู่เสมอๆ”
ยุพาพรเถียงไม่ออกเพราะความจนตรอกของตัวเอง แม้จะไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าหลานคนแรกจะเหนื่อยกับงานเหล่านี้ ไม่ต่างจากเสาวรสนักที่ในใจไม่เดือดร้อนอะไรเพียงแต่ต้องแสดงบทแม่ที่รักลูกอย่างแนบเนียนด้วยการโอบเอวลูกสาวสุดรักไว้ตลอดเวลานับตั้งแต่มาถึงแล้ว
“อ้อ! ตลาดสดอยู่ไม่ไกลจากนี่เท่าไหร่ ถ้าหลานคุณจะออกไปซื้อของ ก็กรุณาเดินไปออกประตูหลังด้านโน่นอย่าได้สะเออะไปใช้ประตูใหญ่ให้ผมกับแม่เห็นเด็ดขาด และอย่าริใช้หรือไหว้วานคนในบ้านนี้ทำอะไรให้ทั้งสิ้น ผมไม่อนุญาตให้หลานคุณเข้าไปข้องเกี่ยวกับใครถ้าผมไม่สั่ง และถ้าพวกคุณทุกคนอยากจะมาเยี่ยม ก็ต้องขอผมก่อนเท่านั้น
หรือถ้าคุณหนูมิวอยากจะกลับบ้านก็ต้องได้รับอนุญาตจากผมก่อนด้วย ผมให้อยู่บ้านพร้อมน้ำไฟฟรีเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ คุณนายใหญ่คงต้องรับผิดชอบจ่ายให้หลานเองนะครับ เพราะยี่สิบห้าล้านกับหุ้นยี่สิบห้าเปอร์เซ็น ผมเห็นว่ามากเกินพอแล้วกับการเอาของเน่าๆ จนผมกระเดือกไม่ลงมาแลก”
วิโรจน์หันไปมองชาครีย์ด้วยท่าทีของคนไม่สบายใจยิ่งกับกฏเหล่านี้ แม้จะไม่เคยเห็นหน้าไม่เคยเลี้ยงดูไม่เคยรับผิดชอบใดๆ ในตัวลูกสาวคนแรก แต่เลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำทำให้เขาอดห่วงลูกไม่ได้ แต่ก็อยู่ในฐานะน้ำท่วมปากจึงต้องเงียบไว้
“ฉันต้องการให้คุณทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร มีพยานที่เชื่อถือได้ทั้งสองฝ่ายรู้เห็นเรื่องนี้” แต่คนที่เงียบไม่ได้คือยุพาพรเพราะต้องการความมั่นใจว่าคู่อริจะไม่เบี้ยว
“นั่นมันเป็นความต้องการของคุณ แต่สำหรับผมแล้วจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น อย่ากลัวคนอื่นจะคิดไม่ซื่อเหมือนพวกคุณไปหมดสิ หรือถ้าไม่เชื่อในคำพูดของผมก็เชิญหอบกันกลับไปได้ผมไม่สนไม่แคร์สักนิด คิดเหรอว่าผมจะพิศสวาทเศษเดนจากฝรั่งนับสิบๆ หรือไม่อาจจะร้อยแล้วก็ได้ แต่ที่ยอมให้ก็เพราะเห็นแก่หมาจนตรอกแก่ๆ ใกล้ตายตัวหนึ่งอย่างคุณเท่านั้น” นอกจากจะไม่ทำตามแล้วชาครีย์ยังส่งเสียงแข็งตอบกลับไปอย่างไม่แยแสด้วยซ้ำ
“มันจะมากไปแล้วนะนายเสือ!!!” ยุพาพรถึงกับขึ้นเสียงใส่ แต่ชายหนุ่มไม่สะทกสะท้าน
“ถ้างั้นก็ลดลงมาเหลือหุ้นแค่สิบกับเงินอีกสิบล้านพอ เพิ่มเวลาอยู่ต่อขึ้นอีกปี จะเอาอย่างนั้นไหมล่ะ”
เจอสวนกลับแบบนี้ยุพาพรถึงกับพูดไม่ออกได้แต่ยืนขบกรามแน่นเท่านั้น ชาครีย์จึงส่งยิ้มอย่างเย้ยหยันให้ ก่อนจะก้าวเดินไปหาประตูเพราะถึงเวลาต้องไปทำงานแล้ว แต่เหมือนเขาจะคิดอะไรขึ้นได้จึงหยุดแล้วหันกลับมาหาอีก
“อ้อ! ผมให้เวลาพวกคุณล่ำลากันได้ถึงเที่ยงเท่านั้นนะ ส่วนคุณวิโรจน์บ่ายสองมีประชุมกับผมที่บริษัทคงไม่ลืมนะครับ เจียงช่วยจัดหาอุปกรณ์ทำความสะอาดให้คนพวกนี้ด้วยนะถ้าอยากได้”
ทุกคนจ้องมองร่างสูงโปร่งเดินอย่างมั่นคงออกไป แล้วหันกลับมาหาบ้านที่เต็มไปด้วยฝุ่น และแม้ยุพาพรอยากจะหนีไปเสียตอนนี้สักแค่ไหน แต่ก็เกรงกลัวคู่อริจะสงสัยได้ว่าทำไมปล่อยให้หลานหัวแก้วหัวแหวนนั่งทำความสะอาดเพียงคนเดียวได้
“แสง! ตามเขาไปของมาปัดกวาดบ้านซะ แม่รสกับตาโรจน์พาแม่ไปห้างสรรพสินค้า ซื้อของกินมาใส่ตู้เย็นไว้ ยัยมิวจะอยู่นี่หรือไปกับย่าก็ได้” กัณหาที่ปรับตัวไม่ได้สักทีกับชื่อใหม่ของตัวเอง
“เอ่อ! มิวขออยู่ช่วยพี่แสงดีกว่าค่ะ”
แต่ถ้าจะให้เลือกแล้วก็อยากอยู่ห่างคนทั้งสามมากกว่า เพราะไม่ใคร่สะดวกใจที่จะอยู่ใกล้ๆๆ นัก จึงเลือกที่จะอยู่เพราะดูเหมือนงานจะไม่มีแค่ทำความสะอาดเท่านั้น เสื้อผ้าของคุณหนูมิวที่หอบหิ้วมาจะต้องถูกจัดเข้าตู้ให้เรียบร้อย ไหนจะข้าวของส่วนตัวอื่นๆ อีก
“ตามใจ!!!”
ยุพาพรเน้นเสียงหนักๆ เป็นการประชดไปในตัวเพราะความไม่ชอบใจในความโง่ของหลานที่ดันเลือกอยู่ทำงานแทนการไปนั่งตากแอร์เย็นๆ กินของอร่อยๆ อย่างที่ตัวเองคิดไว้แต่แรก

ใกล้เที่ยงคือเวลาที่คนทั้งสามกลับมาอีกครั้งพร้อมของกินสารพัด ทั้งสดและแห้งรวมทั้งผลหมากรากไม้ หากก็ไม่ใช่การจัดหามาให้เพราะความรักสักนิด นี่เป็นเพียงการแสดงละครตบตาคู่อริให้รู้ว่าทุกคนรักและห่วงใยคุณหนูมิวมากแค่ไหนผ่านข้าวของเหล่านี้เท่านั้น
“จำไว้นะแม่นิ่มว่าห้ามเผลอหลุดจนพวกนั้นสงสัย และถ้าเมื่อไหร่จะกลับไปหายายเธอต้องโทรไปฉันบอกก่อน จะได้ส่งรถมารับและพากลับมาส่ง เพราะยัยมิวไม่ยอมเดินไปขึ้นรถเมล์เหมือนที่หล่อนเคยทำอยู่แน่ เสื้อผ้าหน้าผม คำพูดคำจาหรือกิริยาท่าทางของยัยมิวที่แม่รสสอนไว้เธอต้องจำให้ขึ้นใจและทำตามนั้นห้ามละเลยเด็ดขาด
ฉันเพิ่มเงินเดือนให้อีกหมื่นหนึ่งสำหรับเป็นค่าซื้อของกินตอนอยู่ที่นี่ ฝากบอกน้องกับยายเธอว่าห้ามไปบ้านฉันหรือเธอห้ามพามาที่นี่เด็ดขาด ห้ามโทรไปกวนฉันกับทุกคนที่บ้านด้วย ยกเว้นว่าจะมีเรื่องจำเป็นจริงๆ เท่านั้น และถ้าเป็นไปได้เธอควรจะต้องทำให้นายนั่นรักจนหลงกับบทบาทบนเตียงของเธอ
เพราะนั่นอาจจะทำให้เธออยู่กันมันอย่างสบายกว่านี้ เผื่อฉันกับพ่อเธอจะได้ทุกอย่างกลับมาโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อคืนสักแดงเดียว แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ขอแต่อย่าเผลอหลุดจนนายนั่นจับได้ว่าเธอไม่ใช่ยัยมิวก็แล้วกัน นี่เงินเดือนแรก เดือนต่อๆ ไปตาโรจน์จะเอามาให้เอง
อ้อ!!! อีกเรื่องเก็บบัตรประชาชนและของทุกอย่างที่จะทำให้นายนั่นจับได้ไว้อย่างมิดชิดนะ ห้ามเผลอวางไว้ไม่เป็นที่เด็ดขาด เพราะถ้าเธอพลาดเมื่อไหร่ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ฉันจ่ายให้เป็นค่ารักษายายเธอ รวมทั้งเงินที่ฉันต้องลงทุนซื้อของใช้สารพัดให้มาที่นี่อีก เธอจะต้องหามาคืนฉันให้ครบทุกบาททุกสตางค์ โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ”
“ค่ะ”
กัณหารับสั้นๆ กับคำสั่งหรือข้อห้ามอันยาวเหยียดจากผู้หญิงที่ตัวเองไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือย่าแท้ๆ เพราะแววตาที่ย่ามองมาหานั้น มันช่างไร้ซึ่งความรัก ไร้ซึ่งความเอ็นดูและไร้ซึ่งความผูกพันเสียเหลือเกิน
“งั้นพวกเรากลับได้จะเที่ยงแล้ว เลยเวลาเดี๋ยวไอ้บ้านั่นเดินมาบอกเลิกข้อเสนอจะเสียกันเปล่าๆ”
กัณหายกมือไหว้คนทั้งสามแล้วหันกลับมามองบ้านที่ตัวเองจะต้องอยู่ถึงสองปีด้วยใบหน้าเหงาหงอย ก่อนจะนั่งลงกับชุดรับแขกแล้วคว้าไอโฟนรุ่นไหมล่าสุดกดไปหายายที่ได้มือถือเครื่องเก่าของหลานสาวเอาไว้ใช้แทน สองยายหลานพูดคุยกันสักพักเท่านั้น
แล้วกัณหาก็ทยอยลากกระเป๋าใบใหญ่ทั้งสามขึ้นไปชั้นบน ซึ่งทำเป็นห้องนอนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงกว้างเกินความจำเป็นไปหน่อยสำหรับคนเคยอยู่ในที่คับแคบมาตั้งแต่จำความได้ ชุดอยู่กับบ้านของคุณหนูมิวที่ใส่ไว้ในกระเป๋าใบแรกถูกรื้อออกมาสำรวจ กระโปรงสั้นกางเกงขาสั้นกับเสื้อตัวเล็กตัวจิ๋วแทบทั้งนั้น
ใบสองที่ดูยังไงๆ กัณหาก็บอกกับตัวเองได้อย่างมั่นใจว่าไม่มีทางจะซื้อหาของพวกนี้มาใส่เองแน่ เพราะมันเป็นชุดนอนพวกผ้าเจอร์ซี่ ผ้ามันผ้าซาตินทั้งบางทั้งสั้นแถมมีชุดซีทรูติดมาด้วย ส่วนชุดชั้นในก็ไม่ต้องพูดถึงนอกจากจะยีห้อดังราคาแพงแล้วยังเซ็กซี่จนไม่อยากหยิบมาใส่ด้วยซ้ำ
ไม่เข้าใจว่าคุณหนูมิวตัวจริงชอบใส่ได้ยังไงแถมยังมีจีสตริงปะปนมาด้วย แต่ครั้นจะฝืนกฏแล้วไปหาซื้อมาใหม่ก็ทำไม่ได้ เพราะเสาวรสกำชับนักกับชับหนาว่าผู้ชายปากจัดคนนั้นอาจจะสงสัยได้ว่าคนที่เขาจะมานอนด้วยเป็นตัวปลอม
กระเป๋าใบที่สามค่อยทำให้โล่งใจมาหน่อย เพราะเป็นเสื้อผ้าใส่ออกนอกบ้าน ซึ่งดูจะรัดกุมเรียบหรูดูดีแถมราคาแต่ละชุดก็ไม่เบา กัณหาจัดทุกอย่างเข้าตู้ไม้สักเนื้อดีแบบบิ้วอินไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยตามนิสัย แล้วหันไปจัดการเปิดกล่องเครื่องสำอางค์กับเครื่องประทินผิวราคาแพงลิบลิ่วไว้บนตู้เครื่องแป้ง
เสร็จก็เดินลงไปชั้นล่าง เห็นเจียงกับเด็กสาวอีกคนกำลังถือพัดลมเดินตรงมาหา เจียงยิ้มน้อยๆ ให้ ผิดกับเด็กอีกคนที่จ้องมองมาหาด้วยสายตาไม่ใคร่จะเป็นมิตรนัก แต่กัณหาไม่คิดจะสนใจ
“คุณเสือให้เอามาค่ะ แล้วเจียงจะเอารีโมทแอร์กลับไปด้วย”
กัณหาไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยิ้มให้เจียง แล้วยืนมองสองสาวจากไปสลับกับมองยังพัดลม ถ้าเป็นคุณหนูมิวตัวจริงคงทนไม่ได้หากขาดแอร์ แต่สำหรับตัวปลอมบ้านสะอาดสวนสวยแถมลมโกรกผ่านตลอดขนาดนี้ ก็อยู่ได้โดยไม่แคร์กับอากาศร้อนเลย เพราะบ้านเก่าร้อนกว่านี้หลายเท่านัก
พัดลมทิ้งไว้ชั้นล่างหนึ่งถูกยกขึ้นชั้นบนอีกหนึ่ง แล้วก็ตรงเข้าไปอาบน้ำเพื่อจะได้ใช้แท็ปเลสใหม่ของคุณหนูมิวทำงานด่วนส่งให้ บ.ก. สักที หลังจากเอาเวลาไปทำอย่างอื่นมาหลายวันแล้ว อาหารเที่ยงกับเย็นเป็นเพียงมาม่าคับเท่านั้นแล้วก็นั่งทำงานต่อ

จนสองทุ่มถึงได้พาหุ่นร้อยเจ็ดสิบในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อกล้ามลุกเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพราะเหนื่อยและง่วงเต็มทีแต่พอจับชุดนอนกับชั้นในขึ้นมาใส่ก็หนังตาแข็งขึ้นมาทันทีกับความวาบหวิวของมัน จนต้องรีบคว้าเสื้อคลุมที่จัดมาแบบเข้าชุดกันขึ้นสวมทับไว้ถึงได้เบาใจว่าไม่โป๊ะจนเกินไป
“อุ๊ย!!!”
แต่ร่างที่ยืนอยู่หน้ากระจกถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ประตูห้องนอนที่ตัวเองลืมกดล็อคก็เปิดผางออก พร้อมกับเจ้าของบ้านร่างสูงใหญ่ในชุดสูทผ้าวูลสีเทาตัวเสื้อถูกพาดไว้กับแขนที่มีเสื้อเชิ้ตสีขาวราคาแพงหุ้มเอาไว้ เหมือนคนกำลังจะเดินทางไกลมากว่าจะเพิ่งกลับจากที่ทำงาน สายตาคู่ดุดันจ้องมองไปยังเจ้าของหุ่นสูงแทบไม่กระพริบขณะเดินเข้าไปหา
จนอีกคนถูกมองต้องถอยหลังไปอย่างหวาดระแวง แล้วก็ได้คิดว่าหน้าที่นางบำเรอคงกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้เป็นแน่ และแม้จะเตรียมตัวเตรียมใจมาอย่างดิบดีสักแค่ไหน สุดท้ายก็ยังหวาดกลัวชายแปลกหน้าร่างใหญ่พร้อมสายตาที่หาแววความเป็นมิตรให้ไม่ได้อยู่ดี
ชาครีย์เดินตามไปเรื่อยๆ กระทั่งแผ่นหลังของคนถอยหนีชนกับประตูตู้เสื้อผ้า สองแขนแข็งแรงที่ยังมีสูทพาดอยู่จึงยกขึ้นค้ำประตูไว้เพื่อกันไม่ให้เจ้าหล่อนหนีไปไหนได้อีก แล้วเขาก็ก้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ ดวงหน้าขาวสวย ก่อนจะส่งน้ำเสียงเบาแต่หนักไปหาควบคู่กับสายตาดูหมิ่นอย่างไม่ปิดบัง
“ทำไม! ไอ้หน้าตื่นๆ กับการถอยหนีของคุณนี่! กำลังจะสื่อให้ผมรู้ว่าคุณกลัวงั้นเหรอ!”
กัณหาเลือกที่จะยืนนิ่งเงียบไม่ตอบโต้อะไร สองมือหนาจึงละจากการค้ำบานประตูมาเป็นจับสองไหล่แล้วบีบแรงๆ ใบหน้าเขาตอนนี้บูดบึ้งสายตาชิงชังผู้หญิงที่พรากชีวิตน้องสาวคนเดียวไปอย่างที่สุด โดยไม่สนใจกับเสื้อสูทที่ตกลงไปกองอยู่กับพื้นสักนิด
“หึ!!! อย่าแสดงละครตบตาให้เมื่อยเลย เพราะผมเดาออกอยู่ดีว่าผู้หญิงที่ไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่แปดขวบจนอายุยี่สิบกว่าอย่างคุณน่ะเคยนอนแบให้ผู้ชายเอามากี่สิบครั้ง กี่เชื้อชาติทั้งไทยและเทศ สูงต่ำดำขาวสั้นยาวหรือใหญ่ยักษ์คุณก็คงจะสู้ได้ไม่หวั่นไหวแน่ และคงจะตอบสนองอย่างถึงอกถึงใจเลยล่ะสิท่า”
กัณหาเจ็บที่ไหล่เพราะแรงบีบจนอยากจะร้องออกมาดังๆ แต่เจ็บกายก็ยังไม่เท่ากับเจ็บใจจากน้ำคำที่กำลังด่าทอออกมา และถ้าหากไม่คิดว่าคนที่เขากำลังด่าอยู่นี่คือคุณหนูมิวล่ะก็ คงได้เถียงกลับเข้าให้แล้ว แต่คิดอีกทีก็รู้ดีว่าตัวเองไม่อยู่ในฐานะจะทำอย่างนั้นได้
เพราะนั่นอาจจะทำให้เขาโกรธจนพาลยกเลิกข้อเสนอให้ย่ากับพ่อเป็นแน่ ทีนี้หนทางที่ตัวเองจะหาเงินค่ารักษายายไปชดใช้ให้ย่าก็คงจะมืดสนิทอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงพยายามสงบสติอารมณ์ สงบใจและสงบปากสงบคำเอาไว้ ปล่อยให้เขาด่าว่าได้ตามใจ
“ทำไม!!! อยากเถียงเหรอว่ามันไม่จริง เอ๊ะ!!! หรือจะบอกว่าที่ผมพูดมานี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ เพราะความจริงคุณผ่านมาเกินร้อย ประสบการณ์บนเตียงเทียบระดับปรมาจารย์ชั้นครู จนรู้ว่าผู้ชายชาติไหนชอบให้ผู้หญิงตอบสนองตัณหายังไง เช่นพวกญี่ปุ่นก็ต้องการให้ร้องโอดครวญปางจะตายเวลามีไอ้นั่นจิ้มเข้าไป
ส่วนยุโรปก็ชอบให้แสดงบทร่านๆ ร้อนสวาทออกมาส่ายสะโพกรับแรงกระแทกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสจีบปากจีบคอยังกับกำลังกินอาหารรสเด็ด ส่วนไอ้มืดก็ชอบให้ร้องดังๆ เพราะเจ็บปวดในความใหญ่ยาวของพวกมัน และพี่ไทยก็ชอบให้นอนนิ่งๆ ทำเป็นเหนียมอายประหนึ่งว่าไม่เคยเลยสักครั้งใช่ไหมล่ะ
แค่คิดแค่วาดภาพคุณกับผู้ชายเกินร้อยขึ้นมา ผมก็สะอิดเสอียนจะแย่ จนไม่รู้ว่าจะทำใจให้มาสมสู่กับคุณได้ยังไง คงต้องหง่าวรอไปก่อนนะ หรือถ้าอยากจนทนไม่ไหวจริงๆ เวลาไปช้อปที่ตลาดก็ซื้อมะเขือยาว แตงล้าน หรือไม่ก็กล้วยหอมห่ามๆ ติดไม้ติดมือมากระแทกแก้ขัดไปก่อนก็แล้วกัน
แต่อย่าเผลออยากได้ของจริงด้วยการไปอ่อยคนรถ คนสวนหรือ รปภ. หน้าป้อมยามซะล่ะ เพราะยังไงๆ ผมก็คงจะทนนอนใช้ผู้หญิงร่วมกับลูกจ้างไม่ได้หรอก ก็คนมันเห็นหน้ากันทุกวัน แต่อย่างพวกที่เมืองนอกก็ช่างหัวมัน เพราะผมไม่รู้จักสักคนเลยพอทนได้
ส่วนไอ้พืชผักทั้งหลายมันก็ไม่มีปาก คงไม่คิดจะมาถามผมหรอกว่าลีลาคุณตอนนอนกับผมหรือนอนกับพวกมันน่ะ แตกต่างกันยังไงคุณส่ายหรือแอ่นรับนาทีละกี่หน โยกกับมันช้าหรือเร็ว หรือแอบนินทาลับหลังว่าใครใหญ่ยาวยาวเอาได้ถึงใจคุณมากกว่า”
สิ้นคำเขาก็ปล่อยมือออกแล้วจ้องมองดวงตาสีสนิมเหล็กที่กำลังจ้องเขากลับนิ่งๆ ไม่ไหวติง ไม่โกรธ ไม่ด่า ไม่เอะอะโวยวายเหมือนที่คิดไว้แต่แรก ทำให้เขาหมดสนุกกับการใช้ถ้อยคำถากถางคุณหนูจอมวีนเอาง่ายๆ ร่างสูงก้มลงไปเก็บสูทบนพื้นแล้วเดินตรงไปหาประตู แต่คิดอะไรขึ้นได้จึงหันกลับมาอีก
“อ้อ!!! อย่าหิวมากจนแกล้งทำเป็นว่าลืมล็อคประตูบ้านเหมือนคืนนี้เชียวนะ วันดีคืนดีหมูหมากาไก่แถวนี้จะดอดขึ้นมาจิ้มเข้าให้ หรือถ้าอยากจะส่งสัญญาณเป็นนัยๆ บอกให้ผมรู้ล่ะก็ไม่ต้องหรอกนะ ผมมีกุญแจ วันไหนเบื่อๆ หรือหาอีตัวไม่ได้ จะเปิดมาใช้บริการอีตัวชั้นต่ำในคราบสาวไฮโซอย่างคุณเอง”
ปัง
ทันทีที่ประตูปิดกัณหาถึงกับเข่าอ่อนจนยืนไม่อยู่ จึงปล่อยให้ร่างสูงค่อยๆ ทรุดนั่งลงกับพื้น ดวงตาพล่ามัวไปด้วยกลุ่มน้ำ ไม่นานก็หยดแหมะลงไป เพราะเจ็บใจกับคำด่าทอที่เชื่อแน่ว่ายังไม่เคยได้ยินใครใช้คำเจ็บแสบแบบนี้มาก่อน
เธอแน่ใจเสียยิ่งกว่าแน่ว่าชายที่เดินออกไปเมื่อครู่นี้ เป็นคนแรกที่เธอบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ‘เกลียด’ และเป็นความเกลียดที่ไม่เคยมีให้ใครมาก่อนก็ว่าได้ ความไม่เข้าใจ ความสงสัย แล่นเข้ามาในหัวว่าคนในครอบครัวพ่อไปทำอะไรให้เขานักหนา ถึงได้มาใช้วาจาเหยียดหยามคุณหนูมิวได้ถึงเพียงนี้
แล้วทุกเมื่อเชื่อวันจะต้องมาทนฟังโดยไม่มีสิทธิ์ได้ตอบโต้เขาเช่นนี้หรือ แล้วตัวเองจะมีความอดทนไปได้จนครบสองปีหรือไม่ นี่ยังไม่นับรวมกับการที่จะต้องเอาตัวเข้าแลกความใคร่ให้เขา ก็ยังแทบจะทานทนไม่ได้แล้ว ถ้าเวลานั้นมาถึงเธอจะทำยังไง จะทุกข์ทรมานมากแค่ไหน
ไม่เคยรู้และไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะต้องพาตัวมาร่วมหลับนอนกับชายปากร้ายเยี่ยงเขา เพราะภาพที่วาดหวังไว้แต่แรกก็คือ เขาน่าจะเป็นเหมือนชายทั่วไปที่ต้องการเอาผู้หญิงไว้สนองตัณหา แม้จะเสียเงินมากมายจนเกินความจำเป็นก็ยอม ซึ่งนั่นก็พอรับได้ พอเสียสละได้เพื่อยาย แล้วสำหรับชายคนนี้ล่ะ



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ย. 2556, 21:06:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.ย. 2556, 07:58:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1321





<< จำเลยบริสุทธิ์   กรงเล็บซาตาน >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account