อาญาซาตาน
ชาครีย์ หรือเสือ จากอดีตเคยเป็นคนจนๆ กลับกลายมาเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวย เพราะได้เงินจากการขายที่ดินแถวหนองงูเห่าที่เมื่อก่อนราคาไร่ละไม่กี่แสน แต่พอสร้างสนามบินขึ้นมากลายเป็นราคาหลายสิบล้าน และเขาก็สร้างฐานะให้มั่นคงด้วยการจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีเพื่อนๆ ที่เป็นลูกคนรวยทั้งหมอ ทั้งนักการเมืองคอยช่วยเหลือด้วย ทำให้สร้างตัวได้ในเวลาแค่สิบกว่าปีเท่านั้น
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ

Tags: พระเอกโหด เศร้า รัดทด

ตอน: กรงเล็บซาตาน

“พี่นิ่ม! พรุ่งนี้หนุ่มต้องพายายไปหาหมอแล้วนะ”
“เดี๋ยวพี่จะออกไปโอนเงินให้นะจ้ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ดูแลยายให้ดีๆ นะหนุ่มแล้วก็ตั้งใจเรียนด้วย”
กัณหารีบปิดแท็ปเลสแล้วคว้ากระเป๋าสตางค์เดินออกไปยังทิศทางที่คิดว่ามีประตูตามที่ชายปากร้ายเคยบอกไว้ในวันแรกที่มาถึง นอกจากจะต้องโอนเงินให้น้องแล้ว ก็จะได้ซื้อของสดมาไว้ทำอาหารด้วย เพราะที่พ่อซื้อมาไว้ให้นั้นร่อยหลอลงแล้ว หลังผ่านไปอาทิตย์หนึ่งเต็มๆ
อีกอย่างก็จะได้ซื้อเสื้อผ้าสำหรับเอาไว้ใส่ออกนอกบ้านให้มันรัดกุมมากกว่ากางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามที่คุณหนูมิวตัวจริงชอบใส่นักด้วย กว่าจะเดินถึงประตูก็ไกลโขจนต้องหันกลับไปมองว่าบ้านหลังนี้มีเนื้อที่กี่ไร่กันแน่ ทำไมถึงได้ใหญ่โตและกว้างขวางนัก
เมื่อออกไปข้างนอกได้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเลี้ยวซ้ายหรือขวา ไม่มีผู้คนผ่านมาให้ถามนอกจากถนนโล่งอีกฝั่งเป็นที่ว่างมีต้นโสนกับหญ้าขึ้นปกคลุมหนองน้ำไว้ จึงเลือกเลี้ยวไปทางซ้ายซึ่งเป็นฝั่งเดียวกับประตูหน้าของคฤหาสน์เริดหรู ซึ่งน่าจะเป็นซอยใหญ่กว่านี้และจะต้องมีถนนใหญ่อยู่ไม่ไกลแน่
แต่ก็หลายเมตรจากตรงนั้นมาหาซอยหน้าคฤหาสน์ หนึ่งกิโลเมตรจะเป็นถนนใหญ่ และอีกเกือบแปดร้อยเมตรสำหรับเดินไปตลาดที่โชคดีมีตู้เอทีเอ็มอยู่ด้านหน้าโดยไม่ต้องเปลืองแรงเดินอีก ไข่ไก่ ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมทั้งหมูเห็ดเป็ดไก่สารพัดถูกจับจ่ายมาไว้กะให้พอเป็นอาทิตย์
เมื่อเห็นว่าตลาดอยู่ไกลพอควร เสื้อยืดตัวละเจ็ดสิบกับกางเกงขาสามส่วนห้าส่วนถูกซื้อมาอย่างละสาม น้ำผลไม้ปั่นหนึ่งแก้วเพื่อเรียกพลังตอนเดินกลับ เพราะแดดร้อนกว่าที่คิดไว้ นี่ถ้าไม่รีบโอนเงินให้น้องก็คงจะรอให้บ่ายคล้อยก่อนได้ เพราะความห่วงจึงต้องจัดการให้เสร็จ
ขากลับกัณหาเลือกเดินเลาะตามรั้วคอนกรีตสูงสองเมตรอีกด้านของคฤหาสน์ จะได้ไม่ต้องออกด้านหน้าให้เมื่อย และคิดว่าระยะทางน่าจะสั้นกว่า เป็นจริงอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ร่างในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อกล้ามถึงกับนั่งหอบเมื่อเข้าไปนั่งตากพัดลมในบ้านแล้ว
“คุณท่านให้ขึ้นไปหาบนตึก เดี๋ยวนี้!”
คนนั่งร้อนๆ ถึงกับสะดุ้งเมื่อจู่ๆ มีเสียงดังเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เด็กสาววันที่ยกพัดลมมานั่นเอง ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรด้วยซ้ำ ร่างเล็กๆ กับเครื่องแต่งกายเหมือนสาวเกาหลีก็เดินหนีไปแล้ว กัณหาจึงรีบหิ้วถุงของสดไปยัดใส่ตู้เย็นไว้ก่อน แล้วรีบเดินไปหน้าตึก
“คุณท่านรออยู่ที่ห้องรับแขกรีบๆ หน่อยสิ” เจ้าเดิมส่งเสียงมาบอกเมื่อก้าวพ้นบันไขขั้นที่ห้าขึ้นมา
“มาแล้วเหรอ เชิญ!”
กัณหาตัดสินใจไม่ได้ว่าจะนั่งไหนระหว่างบนชุดรับแขกกับพื้น แต่พอเห็นเจ้าของบ้านปรายตาไปหาพื้น จึงนั่งพับเพียบลงอย่างไม่เดือดร้อนนัก กรองแก้วมองแล้วให้แปลกใจไม่น้อยที่คุณหนูขาวีนหัวสูงยอมนั่งพื้นได้ง่ายดายนัก แต่นั่นก็ไม่มีคะแนนสงสารเพิ่มให้ จึงนั่งตัวตรงหน้าตั้งคอแข็งใส่อย่างเกลียดชังคู่อริอยู่ดี
“นี่คุณปิ๋วเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน และนั่นก็คุณแป้ง”
กัณหายกมือไหว้หญิงท่าทางภูมิฐานเพียงคนเดียว เพราะเดาได้ว่าสาวน้อยตรงหน้านั้นคงจะอายุอานามเท่ากันหรือไม่อาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ
“ที่เรียกมาก็แค่จะบอกว่า ทีหลังถ้าจะออกไปข้างนอกช่วยกรุณาแต่งตัวให้มันมิดชิดมากกว่านี้ด้วย อย่าลืมว่าที่นี่เมืองไทยไม่ใช่เมืองนอกเมืองนาที่เธอจะใส่สั้นๆ ไปอ่อยใครต่อใครได้ แถวนี้มีข่าวฆ่าข่มขืนบ่อย ฉันกลัวว่าเธอจะอยู่ได้ไม่ถึงสองปีเลยเรียกมาบอกไว้ก่อน
อ้อ!!! อีกเรื่อง หนูแป้งคือผู้หญิงที่ดีและงามพร้อมทั้งนอกใน และฉันจองไว้สำหรับตำแหน่งสะใภ้คนเดียวของฉัน อีกไม่นานตาเสือกับหนูแป้งก็จะหมั้นหรือแต่งกันแล้ว แต่ความจริงน่าจะเกิดขึ้นปีนี้ด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีเธอเข้ามาเกี่ยวข้องก่อน ฉันแค่จะบอกให้เธอรู้ไว้ว่า การที่ได้นอนกับลูกฉันถึงสองปี
ไม่ได้หมายความว่าเธอจะมีสิทธิ์ในตัวเขานะ ก็อย่างที่บอกเธอมันก็แค่คู่นอน แค่นางบำเรอ แค่ลูกหนี้ หรือถ้าอยากจะยกตัวเองเป็นเมียขึ้นมา ก็เป็นได้แค่เมียเก็บ เมียลับๆ แต่ฉันไม่คิดว่าลูกฉันจะใจดียกคำนี้ให้เธอใช้ได้หรอก เพราะผู้หญิงอย่างเธอแค่นางบำเรอก็หรูเกินพอแล้ว ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยแค่นี้ล่ะ เชิญ!”
กัณหาลุกออกมาด้วยอาการงุนงงไม่น้อยกับธุระของเจ้าบ้าน ในใจนั้นก็อยากจะบอกออกไปนักว่า คงจะดีหากพ่อลูกชายปากร้ายจะรีบหมั้นรีบแต่งไป เวลาที่จะเหลือมาระรานนางบำเรออย่างคุณหนูมิวกำมะลอคงจะลอดน้อยลงด้วยเป็นแน่

“คุณให้เลขาโทรไปตามผมเหรอครับ”
วิโรจน์ถูกเรียกตัวมาแทบจะทันทีที่ประธานคนใหม่เข้ามานั่งได้ยังไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ
“ใช่! เชิญนั่งสิ”
ชาครีย์ไม่ได้ละสายตาจากเอกสารบนโต๊ะเลยด้วยซ้ำขณะตอบ ปาร์คเกอร์ถูกวงกลมในเอกสารไว้หลายต่อหลายที่เมื่อเห็นว่าไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกใจ หรือบางทีก็เขียนโน๊ตกำกับไว้อย่างชัดเจน แล้วเรียกเลขาเอาไปส่งให้ทัตเทพที่ตอนนี้ต้องรับหน้าที่ดูแลบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ยึดมาได้แล้ว
“ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของบริษัทเก่า”
แล้วเขาก็เงยขึ้นไปมองคนตรงหน้า พร้อมกับนั่งเอนหลังไปกับพนักเก้าอี้ยกขาขึ้นไขว้ห้างอย่างสบายอารมณ์
“ผมอยากได้รายงานจากคุณแบบละเอียดยิบ หนึ่งคือทำไมผลประกอบการถึงขาดทุนทุกปี และเราจะต้องทำยังไงให้มีกำไรขึ้นมา สองคุณช่วยลิสลูกค้ารายใหญ่ๆ ที่คุณเคยมีสัมพันที่ดีแต่ตอนนี้เขาหันไปอุดหนุนเจ้าอื่นแล้วมาให้ผมด้วย พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลว่าทำไมลูกค้าถึงหนีไป
แล้วช่วยนัดให้ผม ทัตเทพ และคุณด้วย ผมอยากจะสานสัมพันต่อ ตารางงานผมเช็คจากนายทัตได้ มะรืนรายงานทั้งหมดควรจะวางบนโต๊ะผมแล้ว ผมไม่ชอบโทรตาม ไม่ชอบคนทำงานไม่จริง และไม่ชอบเห็นผู้บริหารระดับสูงอย่างคุณดอดหนีเข้าบ่อนหรือไปเล่นจ้ำจี้กับอีหนูคนไหนในเวลางานด้วย แค่นี้ล่ะ เชิญ!”
วิโรจน์ลุกพรวดขึ้นทันทีด้วยความโกรธ เมื่อถูกเจ้านายรุ่นลูกและเป็นคู่อริรู้ทัน แม้จะพยายามควบคุมอารมณ์เอาไว้แค่ไหนแต่ชาครีย์ก็สังเกตเห็นอยู่ดี และนั่นทำให้เขานึกสนุกอยากจะเห็นคู่อริกระอักเลือดตายตรงหน้าให้ได้
“อ้อ! ลืมถาม”
“อะไรครับ” วิโรจน์รีบหันกลับมาหาด้วยท่าทีเรียบขรึม กลับเห็นอีกคนส่งยิ้มอย่างมีเลศนัยมาหา
“คุณรักเมียมากมั้ย” แม้จะงวยงงกับคำถามนอกรอบนี้ แต่วิโรจน์ก็ตอบโดยไม่ได้คิดอะไร
“รักมาก คุณถามทำไม” พอเข้าแผนชาครีย์จึงลุกขึ้นยืนกอดอกมองคนตรงหน้าก่อนจะ
“ไม่มีอะไรหร๊อก ผมแค่พอจะเดาออกว่าการที่คุณรักเมียมากนั้นเป็นเพราะอะไร ลูกสาวคุณคงจะมีคุณสมบัติไม่หนีแม่นะ ขนาดคืนแรกเล่นผมซะฟ้าเหลืองเลยล่ะ จุ๊ๆๆ นี่ขนาดอายุไม่เท่าไหร่ยังถึงใจได้ขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นพวกขิงแก่ๆ อย่างเมียคุณจะเด็ดแค่ไหน แต่ไม่เป็นไรหรอกเด็กๆ นี่ล่ะสอนง่ายดี ให้ทำอะไร ท่าไหน ยังไงก็ตามใจหมด ทีแรกผมก็เสียดายเงินหลายสิบล้านแทบแย่ แต่แค่ได้ลองอาทิตย์เดียวเท่านั้นล่ะ...”
“ถ้าหมดธุระเรื่องงานแล้วผมขอตัว”
วิโรจน์ไม่สนใจจะข่มอารมณ์เอาไว้อีกต่อไปแล้ว จึงรีบสวนกลับแล้วเดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้หนุ่มร่างสูงผิวเข้มพอๆ กับความหล่อยิ้มตามหลังด้วยความสะใจอยู่เป็นนาน ถึงได้โทรตามทัตเทพให้เข้ามารายงานความคืบหน้า เพราะมีเวลาให้กับบริษัทคู่อริแค่อาทิตย์ละไม่กี่วันเท่านั้น
ส่วนเวลาอื่นเอาไปทุ่มให้กิจการหลายอย่างของเขา แต่ก็อยากจะเรียกเงินที่เสียไปให้กับบริษัทคู่อริคืนบ้าง ถึงต้องเจียดเวลามาสอดส่องดูแลต่อจากทัตเทพอีกทอด ทุ่มตรงที่คนขับพารถแล่นเจ้าไปจอดหน้าบันไดบ้าน แม่ที่กำลังจะลงมือกินมื้อเย็นรีบออกมารับ และนั่งรออีกสิบนาทีเพื่อให้ลูกขึ้นไปอาบน้ำ มื้อเย็นสำหรับสองคนถึงได้เริ่มขึ้น
“กลับมาแล้วแทนที่จะเข้าบ้านพักผ่อนก่อน ดันไปทำงานต่ออีก แม่ว่าเสือน่าจะพักบ้างนะ”
เพราะความเป็นห่วงจึงต้องคอยบอกประโยคนี้บ่อยครั้ง แม้จะรู้ดีว่าลูกไม่คิดจะทำตามคำอยู่แล้ว แต่ก็ขอให้ได้เตือน ได้ตระเตรียมอาหารดีๆ ไว้ให้ลูกบ้าง แต่ลูกกลับอยากรู้ความเป็นไปของขาวีนมากกว่า
“ไปดูงานให้แน่ใจก่อนว่าเป็นอย่างที่ผมสั่งไว้หรือเปล่า จะได้กลับมาพักแบบไม่ต้องกังวลไงครับ ว่าแต่ทางนี้เป็นยังไงบ้างตอนผมไม่อยู่ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ แล้วแม่นั่นล่ะอยู่แบบร้อนๆ เหวี่ยงหรือวีนแตกหรือยัง”
“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ วันๆ ไม่ไปไหนเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้าน อ้อ! จะมีออกก็วันนี้ล่ะ ใส่ซะสั้นป่านนี้ผู้ชายทั้งซอยคงน้ำลายหกไปตามๆ กันแล้วมั้ง แม่เลยเรียกมาเตือนแรงๆ ตอนแรกนึกว่าจะเถียงกลับ แต่ผิดฟอร์มแม่คุณหนูจอมวีนยังกับคนละคนแน่ะ เพราะไม่พูดอะไรออกมาสักแอะเดียว”
ผู้แม่รู้ดีว่าลูกถามเรื่องอื่นไปงั้นๆ แต่คงจะอยากรู้ความเป็นไปของทายาทคู่อริมากกว่า จึงเลือกที่จะหยิบยกขึ้นมาบอกกล่าว แต่ยักเรื่องว่าที่สะใภ้เอาไว้ ซึ่งคนเป็นลูกก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากมายนัก นอกจากนั่งกินไปเรื่อยๆ และเอ่ยเรื่อยๆ กับแม่เท่านั้น
“แค่อาทิตย์เดียวยังมีน้ำอดน้ำทนอยู่ล่ะมั้งครับ เพราะรู้ว่าขืนวีนใส่คืนอื่น กลับมาผมจะต้องยกเลิกข้อเสนอแน่ ก็เลยจำใจต้องทนเพื่อเงินเพื่อหุ้นในบริษัทไงครับ อยากรู้ว่าจะทนได้สักกี่น้ำ”
“สัญญิงสัญญาเสือก็ไม่ได้ทำไว้ให้พวกมันไม่ใช่เหรอ นอกจากโอนหุ้นให้นายวิโรจน์ ส่วนอีกยี่สิบห้าล้านเราจะให้หรือไม่ให้พวกมันก็ยังไม่แน่ใจ ทำไมถึงได้ใจกล้าเอาแม่ลูกสาวมาประเคนให้เสือได้ล่ะ เห็นว่ารักปานแก้วตาดวงใจไม่ใช่เหรอ” กรองแก้วอดสงสัยไม่ได้จริงๆ แต่ลูกชายก็ไขข้อข้องใจให้อย่างไม่ยากเย็นนัก
“สัญชาติญาณของหมาจนตรอกก็อย่างนี้ล่ะครับ มันจะยอมตัดของรักออกไปทีละชิ้นสองชิ้นเพื่อให้อยู่รอด พวกมันคงจะคิดว่าผมโง่เป็นควายล่ะมั้งที่ยอมเอาลูกมันมาฟันเล่นๆ สองปีแล้วจะได้ตามที่ผมบอกไว้โดยไม่ต้องเสียอะไรอีก เดี๋ยวก็รู้ แล้วพวกมันจะได้เห็นว่าคนอย่างผมมีชั้นมีเชิงมากมายจนพวกมันตามไม่ทันเลยล่ะ”
สองแม่ลูกต่างหันไปมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมาด้วยความเป็นสุขใจ เมื่อมีโอกาสได้เอาคืนคู่อริบ้าง หลังจากที่หลายปีมานี้ต้องเก็บงำความเคียดแค้นเอาไว้ในใจเท่านั้น

“เราขอบอกนิ่มอีกครั้งนะ ว่าเราจะไม่สนกับอะไรทั้งนั้น เพราะเรารักนิ่ม และจะรอจนกว่านิ่มทำงานให้พ่อเสร็จ นิ่มไม่ต้องมาคอยบอกให้เรามองคนอื่นอีกนะ ดึกมากแล้วเราว่านิ่มรีบไปนอนเถอะ เดี๋ยวเราจะต้องเตรียมงานไว้ประชุมพรุ่งนี้ด้วย เรารักนิ่มนะ ฝันดีจ้ะ”
“จ้ะ! นิ่มก็รักนัยเหมือนกัน”
ส่วนลูกสาวคู่อริของสองแม่ลูกนั้นก็กำลังยิ้มกับไอโฟนเครื่องใหม่อย่างอิ่มใจในรักอันมั่นคงที่แฟนหนุ่มเฝ้าพร่ำบอกทุกวี่ทุกวันตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้ใจอยากจะบอกเหลือเกินว่าตอนนี้ตัวเองยังคงเก็บความสาวเอาไว้ได้อย่างแน่นเหนียว แต่อีกใจก็ไม่อยากทำให้แฟนเป็นสุขด้วยเรื่องนี้ สุดท้ายก็ไปนั่งทุกข์ด้วยเรื่องนี้อีกเช่นกัน
ถ้าวันหนึ่งเกิดเจ้าของบ้านปากร้ายเกิดไม่รังเกียจคุณหนูมิว นักเรียนนอกผู้มากประสบการณ์เรื่องเพศศึกษาอย่างที่ดูถูกดูแคลนเอาไว้ แล้วเข้ามาย่ำยีช่วงชิงความสาวไป ร่างที่มุงานมาตั้งแต่เสร็จจากทำความสะอาดบ้านตอนสายๆ รีบลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมาด้วยท่าทีผ่อนคลาย เพราะส่งงานให้ บ.ก. เรียบร้อยแล้ว จึงปิดบ้านปิดไฟแล้วขึ้นไปอาบน้ำอย่างโล่งอกโล่งใจที่ไม่มีใครมารบกวน
ชุดนอนบางเบาถูกเลือกขึ้นมาสวมใส่อย่างขัดใจและไม่เคยชินสักที ตามติดด้วยการเปิดกระปุกเครื่องประทินผิวสารพัดขึ้นมาทาใบหน้าแขนขาอย่างเอื่อยเฉื่อย เพราะความเสียดายหากจะทิ้งไว้เฉยๆ ด้วยราคาแต่ละอย่างนั้นแพงลิบลิ่ว อดยิ้มน้อยๆ ออกมาไม่ได้ในความรอบคอบของย่าที่สรรหาของมาไว้ให้ใช้ได้อย่างดีเยี่ยม
‘ผั๊วะ’
‘ปัง’
“อุ๊ย!!!”
กัณหาถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ประตูห้องก็เปิดและปิดเข้าในเวลาอันรวดเร็ว ตามติดด้วยร่างสูงใหญ่ในชุดกางเกงผ้ายืดกับเสื้อกล้าม เจ้าของขาเรียวที่เพิ่งประโคมโลชั่นได้ไม่นานต้องรีบกระโจนไปคว้าเอาเสื้อคลุมที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าขึ้นมาสวมทับไว้ทันที ชาครีย์จ้องมาหาตาเขม็งในท่าทีหวงเนื้อหวงตัว
ทั้งที่แม่บอกว่าวันนี้เจ้าหล่อนเพิ่งจะลากขาสั้นไปล่อตาชายทั้งซอยทั้งตลาดมาด้วยซ้ำ เขาก้าวเชื่องช้าไปหาขณะจ้องมองร่างที่มีส่วนเว้าโค้งสวยงามดูดีและไร้ที่ติ แต่เขาก็รู้ว่านี่เป็นเพียงภาพภายนอกเท่านั้น ส่วนภายในคงจะเน่าเฟ๊อะอย่างไม่ต้องสงสัย
“เป็นไงหนึ่งอาทิตย์ที่ผมไม่อยู่ คุณพึ่งพามะเขือยาว แตงล้าน หรือกล้วยหอมไปกี่กิโลแล้วล่ะ ได้ข่าวว่าวันนี้ใส่สั้นไปอ่อยคนทั้งซอยไม่ใช่เหรอ เกิดเบื่อการกินเจกินมังสวิรัติจนเมื่อยมือแล้วหรือไง ถึงต้องวิ่งแร่หาเนื้อสัตว์เป็นๆ ดิ้นเด้งดึ๋งได้มาใช้แก้ขัด ระหว่างชะเง้อคอคอยให้ผมกลับมาเอาอยู่หลายวัน
ขาดบ้างห่างบ้างถึงกับจะลงแดงตายเลยหรือไงครับคุณหนูมิว อย่าเที่ยวแสดงอาการร่านๆ ไม่ถูกที่ถูกทางนัก ระวังจะถูกห้ามไปลงแขกข้างทางซะล่ะ เอ๊ะ! หรือว่าจะชอบ หรือว่าคุณเป็นนิวโฟมาเนีย ถึงได้ออกเร่หาผู้ชายมาไว้ปรนเปรอไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ แถมทีละคนก็ไม่ได้
แต่ต้องเป็นฝูง บอกไว้ก่อนนะว่าผมคงจะตอบสนองอารมณ์ส่วนนี้ของคุณไม่ได้หรอก คุณคงต้องนั่งหง่าวนอนหง่าวทรมานไปจนกว่าจะถึงสองปีเลยล่ะ หลังจากนั้นจะไปแรดไปร่านไปแบให้ฝูงไหนหรือก๊งแก๊งไหนเอาก็เชิญตามสบาย ผมไม่สน ไม่แคร์ และไม่เสียดาย”
“หยุดนะ!!! คุณต้องการอะไรกันแน่!!! ถึงต้องคอยมาด่ามาว่าฉันอยู่แบบนี้”
เมื่ออดทนกับถ้อยคำเหยียดหยามไม่ไหว จึงตอกกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักๆ ใบหน้าดุดัน พร้อมทั้งขยับกายหนีเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ๆ
“ผมนี่เหรอต้องการ!! ไม่ใช่คุณหรอกเหรอที่อยากจนตัวสั่น ผมถึงจะมาสองตัณหาให้นี่ไง ว่าแต่จะดัจจริตถอยหนีไปทำไมไม่ทราบ อีตัวชั้นต่ำในคราบสาวไฮโซอย่างคุณน่าจะรีบวิ่งเข้ามาตะครุบผู้ชายทุกคนที่หลงเข้ามาหาด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอ เอ๊ะ! หรือว่ากลัวผมจะดีกรีไม่ถึง แรงไม่มากพอ ลีลาอ่อนหัด
ฮ่าๆๆ อย่าห่วงไปเลยครับคุณหนูมิว ของบางอย่างหรือเรื่องบางเรื่อง หรือคนบางคนถ้าไม่ได้ลองก็จะไม่รู้หรอกว่ามีทีเด็ดยังไง ว่าแต่เราอย่าเสียเวลาเลยนะ มาเริ่มทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าเราสองคนชอบแบบไหนยังไงรุนแรงเร่าร้อนสักแค่ไหน หรือต้องเบิ้ลกันกี่สิบหน หรือจะนอนเอากันไปยันเช้า”
“ไม่!!! ออกไปให้พ้น!!! ฉันไม่ต้องการ!!!”
สองมือรีบผลักอกที่กำลังจะยกแขนขึ้นมารวบไว้จนสุดแรงเกิด ชาครีย์ถึงกับเซถอยหลังไปสองสามก้าว กัณหารีบมองไปยังประตูเพื่อหวังพาตัวเองออกไปจากห้องนี้ ออกไปให้ห่างๆ ผู้ชายปากร้ายที่เธอเพิ่งแน่ใจในวินาทีนี้เองว่า ไม่สามารถจะทำใจร่วมหลับนอนได้ด้วยเด็ดขาด เพราะเกลียดชังหน้าบึ้งตึง ดุดัน เกลียดชังในน้ำคำดูถูกเหยียดหยามของเขาอย่างที่สุด
“จะไปไหน!!!”
ชาครีย์รีบกระโดดไปคว้าแขนเอาไว้เมื่อเห็นคุณหนูขาวีน หนีด้วยการวิ่งขึ้นเตียงแล้วกระโจนไปหาประตู
“ปล่อยนะ!!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!! ออกไปให้พ้นๆ ฉันเกลียดคุณ!!!” เจ้าของแขนทั้งสะบัดและขืนตัวไว้ เมื่อถูกเขาลากแล้วเหวี่ยงแรงๆ จนเซล้มไปหาเตียง
“เล่นละครเป็นสาวไร้เดียงสาได้แนบเนียนไม่เบานี่!!! หรือว่าชอบปลุกอารมณ์ด้วยวิธีนี้!!! จะได้เพิ่มรสชาติ...”
ยังไม่ทันได้พูดจบเขาก็ต้องหลบอย่างรวดเร็ว เมื่อกล่องทิชชู รีโมททีวี แจกันดอกไม้และของทุกชิ้นที่วางอยู่โต๊ะหัวเตียงถูกอีกคนขว้างมาใส่ไม่ยั้งจนหมดเกลี้ยง เขาถึงได้ยืนยิ้มอย่างสมเพชให้ก่อนจะย่างสามขุมเข้าไปหา ร่างในชุดนอนบางเบาลุกขึ้นเตรียมวิ่งหนีอีกรอบ แต่ก็ถูกเขากางแขนออกกั้นไว้แล้วดันแรงๆ กลับจนเซกลับไปที่เก่าอีก
เขาจึงรีบตามไปค่อมไว้แล้วกดสองแขนไว้กับที่นอน ก่อนจะส่งยิ้มเย้ยหยัน พร้อมกับประโยคดูถูกดูแคลนอีกไม่มีหยุดหย่อน กัณหาพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างที่สุด และบอกตัวเองไว้ในวินาทีนี้เลยว่า ถ้าหลุดออกจากห้องนี้ได้เมื่อไหร่ บ้านที่มียายกับน้องอยู่จะเป็นจุดหมายต่อไป
เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะทนอยู่กับผู้ชายปากร้ายได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว แม้จะไม่รู้ว่าผลที่จะตามมาจากการหนีจะเป็นยังไง แต่เธอก็พร้อมจะรับมัน อย่างมากก็แค่หาเงินล้านกว่าไปคืนย่า และได้ความโกรธเกลียดที่พ่อกับย่าคงจะมีให้เพราะทำงานไม่สำเร็จ แต่จะแคร์ไปทำไมกัน ในเมื่อคนทั้งสองไม่เคยรักไม่เคยเอ็นดูเลือดแค่ก้อนเดียวอย่างเธออยู่แล้ว
“สงสัยจะชอบทำตัวแบบดาราญี่ปุ่นนะ ที่กว่าจะถูกเอาได้ก็ต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นหวาดกลัวไอ้พระเอกหน้าเหี้ยมๆ แต่ไอ้นั่นใหญ่ยาวอย่าบอกใคร แล้วอย่าลืมร้องครวญครางตั้งแต่วินาทีแรกที่ถูกผมจิ้มไปจนถึงนาทีสุดท้ายที่น้ำแตกด้วยล่ะ คงได้รสชาติแปลกพิลึก”
“ออกไปให้พ้นนะ!!!”
เมื่อสรุปให้ตัวเองได้ดังนั้น เท้าบางจึงยกถีบหนักๆ ไปที่หน้าท้องจนร่างสูงใหญ่หงายหลังตกเตียงไป กัณหาไม่รอช้ารีบวิ่งไปคว้ากระเป๋าเงินกับมือถือบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้ววิ่งไปหาประตูเปิดออกอย่างรวดเร็ว เพื่อหมายจะไปจากที่นี่ให้พ้นๆ แต่ไปถึงแค่บันไดเท่านั้น ก็ถูกเขาวิ่งตามมาแล้วกระชากลากถูอย่างแรง
“จะไปไหน!!! สะดีดสะดิ้งนักนะ!!! คิดว่าผมจะพิศวาสคุณนักหนาเหรอ!!! มาทำเรื่องของเราให้จบๆ ไปดีกว่า”
“ไปให้พ้น!!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!!”
มืออีกข้างที่ว่างจากการถือกระเป๋ากับไอโฟนรีบเกี่ยวราวบันไดเอาไว้อย่างเหนียวแน่น แต่มันก็เหนียวไม่พอเพราะแรงอีกคนมีมากกว่าหลายเท่านัก เมื่อเขากระชากแขนแรงๆ จนร่างในชุดนอนล้มลงกับพื้น ก่อนจะถูกเขาลากไปอย่างไม่ไยดี ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผิวบางๆ จะเสียดสีพื้นหินอ่อนจนเสียงดังอี๊ดอ๊าดหลายต่อหลายครั้งเลย
“คุณเล่นละครเป็นอีตัวญี่ปุ่นมามากพอแล้ว!!! และผมก็ไม่ชอบเป็นพระเอกหน้าเหี้ยมแบบนั้นด้วย!!! แต่ผมชอบเป็นพระเอกไทย และอยากได้นางเอกแบบไทยๆ ที่เรี่ยวแรงน้อย จับนิดผลักหน่อยก็ล้มไปหาเตียง แล้วนอนแน่นิ่งรอให้ผมเอาไอ้หนูจิ้มพรวดๆ ไปหามากกว่า!!!”
“ออกไป!!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!! ฉันเกลียดคนป่าเถื่อนอย่างคุณ!!! ได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียดและไม่มีวันจะยอมเด็ดขาด!!!”
เมื่อถูกลากแล้วโยนไปใส่เตียงโดยมีเขาขึ้นไปค่อมร่างกดแขนไว้อีกครั้ง ปากที่ว่างจึงด่าทอใส่เขาไม่ยั้ง สองขาก็ถีบไปหาร่างใหญ่หลายครั้งจนเขาทนความเจ็บไม่ไหว จึงยกขาอันหนักอึ้งไปทับเอาไว้
“อ้อ!!! ชอบความรุนแรงแบบนี้ก็ไม่บอก ได้!!! ไอ้เสือจัดให้ไม่มีปัญหา!!!”
แล้วเขาก็ละมือจากการกดสองแขนไว้มาหาชุดนอนบางเบากระชากแรงๆ จนขาดออกเป็นทางยาวไปถึงเอว เสื้อคลุมก็ถูกดึงออกอย่างรวดเร็ว จนเหลือเพียงแต่ชุดชั้นในสีชมพูเซ็กซี่ๆ ไว้แค่นั้น
“อย่า!!! ปล่อยฉันนะ!!! ช่วยด้วย!!! ช่วยด้วยๆๆ ช่วยฉันด้วย!!! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!”
“ต่อให้คุณร้องจนคอแตกก็ไม่มีใครกล้าเสนอหน้ามาช่วยหรอก และกรุณาลดความสะดีดสะดิ้งของคุณลงด้วยนะ บอกแล้วไงว่าผมชอบดาราไทยมากกว่า”
“อย่า!!! อื้ห์มมมมมมมมมมมม!!!”
แม้จะพยายามดิ้นหนีสักแค่ไหน แต่เมื่อถูกเขาพากายอันหนักอึ้งไปทับไว้ แล้วจูบรุนแรงดุดัน จนกัณหาหมดปัญญาที่จะพาตัวเองให้หลุดรอดจากความสูญเสียที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ และยิ่งแน่ใจขึ้นอีกเมื่อมือเขากระชากชุดชั้นในออกไปในเวลาไม่กี่วินาทีจนหลงเหลือแต่กายขาวผิวพรรณนุ่มเนียนกับส่วนเว้าโค้งสวยงามเท่านั้น
“อย่างนี้ล่ะที่นางเอกไทยทำกัน จำไว้ว่าผมชอบ คุณไม่ต้องแสดงละครมากมายหรอก แค่นอนนิ่งๆ รอให้ผมจิ้มพรวดๆ จนน้ำแตกก็พอ แต่ถ้าจะส่งเสียงครวญครางออกมาบ้างผมก็ไม่ว่านะ ของอย่างนี้ห้ามกันไม่ได้หรอกใช่มั้ยล่ะ เวลาได้กินของอร่อยๆ เผ็ดๆ ร้อนๆ ถึงอกถึงใจมันก็ต้องมีซี๊ดซ๊าดๆ เป็นธรรมดา”
เขาไม่วายส่งประโยคเหยียดหยามมาให้เมื่อเห็นคนอยู่เบื้องล่างนอนนิ่งๆ แล้ว จึงยิ้มออกมาอย่างสมเพชที่แค่ถูกจูบก็อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งถูกไฟลน เสื้อกล้ามกับกางเกงถูกเขาถอดออกอย่างรวดเร็ว แล้วทาบไปหาคนนอนนิ่งอีกวาระเพื่อจูบปากอิ่ม มือก็กอบกำอกชูชันไปมาทั้งสองข้างอย่างเมามันและเป็นสุข
ผิดกับอีกคนที่ทุกข์ปานจะขาดใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว นอกจากนอนหลับตาพริ้มปล่อยให้เขาทำอะไรได้ตามใจชอบ ควบคู่กับการปล่อยให้หยดใสๆ ไหลอาบหางตาลงไปเป็นทาง เมื่อเสียใจเหลือคณานับกับชายที่กำลังตักตวงความสุขจากร่างอันปราศจากมลฑิณนี้หาใช่คนที่คาดหวังเอาไว้ตั้งแต่แรกไม่
ทั้งใบหน้าท่าทางและคำพูดของคนรักต่างหลังไหลเข้ามาในความทรงจำ ขณะที่อีกชายกำลังสำรวจเรือนกายขาวไปแทบจะทั่วทุกตารางนิ้ว ก่อนจะเปลื้องผ้าชิ้นสุดท้ายออกจากกาย เมื่อมีความต้องการอย่างล้นเหลือเรียกร้องออกมา จนไม่อาจจะทานทนได้ต่อไป
“อื้อๆ ฮื่อๆๆ หึ๊ดๆๆ ฮื่อๆๆ”
เจ้าของร่างที่กำลังถูกรุกรานร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาหลายครั้งหลายหน เมื่อเขาพยายามล้วงล้ำเข้าไปหลายครั้งหลายคราแต่ยังไม่สำเร็จสักที และแม้จะยากเย็นหรือเนิ่นนานกับความพยายามที่จะพิชิดเยื่อพรหมจรรย์ของหญิงสาวที่เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะหลงเหลือมาได้จนป่านนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ได้มันมาจริงๆ หลักฐานก็มีให้เห็นเต็มสองตา
“ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆๆ”
กระนั้นเขาก็ไม่คิดจะสนใจกับเสียงร้องไห้ฮือๆ สักนิด เมื่อความต้องการรุมเร้าจนหน้ามืด ตามัว หูหนวก ใจบอดไปแล้ว เขาจึงแหวกว่ายอยู่ในวังวนแห่งความสุขที่ธรรมชาติสรรสร้างมาให้ โดยไม่สนใจสักนิดว่าอีกคนจะเป็นทุกข์ทรมานและร้องไห้ปริ่มจะขาดใจนับตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเข้าใกล้ กระทั่งวินาทีสุดท้ายที่เขาผละออกห่าง
แล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ ด้วยความอ่อนแรง เจ้าของใบหน้าขาวที่เปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตาค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วคว้าเสื้อคลุมที่ตกอยู่กับพื้นขึ้นมาใส่ ก่อนจะพยุงกายลุกเดินอย่างเชื่องช้า เพื่อตรงไปหาห้องน้ำแล้วเปิดฝักบัวออกอย่างรวดเร็วเพื่อชำระร่างกายให้ขาวสะอาด เพื่อหมายจะลบล้างเหตุการเมื่อครู่ให้ออกไปจากใจ และจะทำเป็นลืมว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่มีหรือที่ทำได้โดยง่ายๆ
“ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ร่างเปล่าเปลือยถึงกับหมดแรงจนต้องทรุดตัวลงนั่งกอดสองเข่าแล้วร้องไห้ออกมาดังๆ แข่งกับเสียงสายน้ำไหล ด้วยความเสียใจกับสิ่งที่สูญเสียไป แม้จะตระเตรียมใจสำหรับวินาทีนี้มาแล้ว แม้จะรู้ถึงผลลัพท์ของการมาทำงานนี้แล้ว แต่เมื่อชายคนที่ได้ความสาวไปกลับเป็นคนปากร้าย จิตใจต่ำช้า วาจาต่ำทราม และการกระทำป่าเถื่อนเช่นนี้ ก็ยากเหลือเกินที่จะทำใจยอมรับได้
ร่างกำยำที่ยังคงมีเหงื่อไหลท่วมต้องรีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าในทันที เมื่อเสียงสะอื้นดังออกมาก่อกวนจนยากจะหลับตาลงได้ แม้จะยังเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกลแต่แสนสุขก็ตามที โทรศัพท์กับกระเป๋าที่ตกอยู่บนพื้นตรงหน้าบันไดถูกเขารวบไว้แล้วเดินเอาเข้าไปโยนลงบนเตียง โดยไม่ได้สนใจจะเปิดดูด้วยซ้ำ
แล้วก้าวยาวๆ ออกจากบ้านที่เมื่อก่อนเขามักจะใช้พักพิงมานานนม ก่อนจะสร้างคฤหาสน์หลังงามแล้วย้ายขึ้นไปอยู่หลายปีมาแล้ว เหล้าที่เคาน์เตอร์บาร์ถูกฉวยขึ้นไปบนห้องนอนแล้วรินใส่แก้วยกขึ้นมาจิบอย่างเชื่องช้า ขณะนั่งเอาหลังพิงหัวเตียงครุ่นคิดถึงเยื่อพรหมจรรย์ที่ได้มาอย่างไม่คาดฝัน
แต่ก็ไม่คิดจะสงสัยอะไรนอกจากตอบตัวเองว่า ครอบครัวคู่อริที่ส่งแม่คุณหนูขาวีนไปอยู่กับญาติที่เมืองนอกคงจะดูแลความประพฤติเป็นอย่างดี เทียวรับส่งระหว่างบ้านกับเรียนกระมัง ถึงแตกแถวเที่ยวมั่วผู้ชายไม่ได้อย่างที่เขาเดาไว้แต่แรก และเขาเดาออกว่าคู่อริกับญาติที่อยู่เมืองนอกคงจะใช้ความพยายามไม่น้อย
ที่จะต้องคอยต้อนเจ้าหล่อนให้อยู่ในกรอบได้ดีขนาดนี้ นี่ยิ่งทำให้เขาสะใจเข้าไปอีกที่ไข่ในหินอันเป็นที่รักของพวกมัน ต้องมาถูกคนอย่างเขาเจาะเข้าไปกินได้ ความหวังที่จะลูกสาวเก็บไว้เรียกค่าตัวแพงๆ กับพวกคนมีเงินระดับเดียวกับพวกมันต้องมาพังพินาศลงด้วยน้ำมือของคนที่พวกมันเคยเหยียบย่ำอย่างไม่ปราณี มันช่างสะใจเป็นที่สุด จนอยากจะหัวเราะเยาะใส่พวกมันซะเดี๋ยวนี้



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ก.ย. 2556, 10:26:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.ย. 2556, 07:58:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1363





<< นกน้อยในกรงทอง   เกลียด เกลียด เกลียด >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account