อาญาซาตาน
ชาครีย์ หรือเสือ จากอดีตเคยเป็นคนจนๆ กลับกลายมาเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวย เพราะได้เงินจากการขายที่ดินแถวหนองงูเห่าที่เมื่อก่อนราคาไร่ละไม่กี่แสน แต่พอสร้างสนามบินขึ้นมากลายเป็นราคาหลายสิบล้าน และเขาก็สร้างฐานะให้มั่นคงด้วยการจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีเพื่อนๆ ที่เป็นลูกคนรวยทั้งหมอ ทั้งนักการเมืองคอยช่วยเหลือด้วย ทำให้สร้างตัวได้ในเวลาแค่สิบกว่าปีเท่านั้น
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ

Tags: พระเอกโหด เศร้า รัดทด

ตอน: เกลียด เกลียด เกลียด

เสียงไอโฟนดังขึ้นหลายต่อหลายรอบ ร่างอ่อนแรงที่นอนขดอยู่กับเตียงก็ยังไม่คิดจะขยับเขยื้อนไปไหน ทั้งที่รู้ว่าทั้งน้อง ทั้งคนรักและทั้งยายโทรมาก็ตาม พอฉุกคิดขึ้นได้ว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น จึงฝืนใจลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยความยากลำบาก เกือบสี่โมงเย็นแล้ว เมื่อกัณหาเดินมาทรุดกายลงนั่งกับชุดรับแขกด้านล่าง แล้วถึงได้โทรกลับไปหาน้องเป็นคนแรก
‘ไม่มีอะไรหรอกพี่นิ่ม ยายกลับจากโรงพยาบาลมาก็บ่นคิดถึงพี่ไม่ขาดปาก หนุ่มเลยโทรมาให้ เดี๋ยวคุยกับยายนะหนุ่มจะไปอุ่นแกงให้ยายก่อน ชวนนั่งกินหอยทอดร้อนๆ ที่ร้านก็ไม่ยอมกลัวแต่จะเปลืองท่าเดียว’
แม้จะเศร้าใจสักเพียงไหน แต่หลานผู้กตัญญูก็ฝืนพูดคุยกับยายด้วยน้ำเสียงปกติที่สุดอยู่หลายนาทีก่อนจะวางสายไป ส่วนสายไม่ได้รับของแฟนหนุ่มนั้นเธอเลือกที่จะไม่โทรกลับ เพราะกลัวจะร้องไห้ออกมาเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่จนแล้วจนรอดน้ำตาก็ไหลรินออกมาอย่างไม่ยากเย็นอยู่ดี
ปฏิทินบนโต๊ะถูกมือบางหยิบดินสอขึ้นมาแล้วกากบาทลงไปตรงวันที่ นั่นหมายถึงช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานเพิ่งจะผ่านพ้นไปแค่สองจากเจ็ดร้อยสามสิบวัน กว่าที่ตัวเองจะได้รับอิสระภาพ พอคิดถึงคำนี้ขึ้นมาน้ำตายิ่งไหลรินออกมาอีก พลอยคิดถึงสัญลักษณ์ของมันขึ้นมาทันใด มือขาวค่อยๆ ฉีกกระดาษจากสมุดโน๊ตมาหนึ่งแผ่น
พับไปมาอย่างเชื่องช้า น้ำตาตกลงเปรอะเปื้อนกระดาษหยดแล้วหยดเล่า แต่เจ้าของก็ไม่สนใจยังคงพับไปเรื่อยๆ กระทั่งคลีออกมาแล้วได้นกตัวแรก ไม่นานก็มีตัวสองตามมา จำได้ว่าในครัวมีขวดโหลใบใหญ่ซุกซ่อนอยู่ในตู้ จึงลุกไปเอามาแล้วหย่อนสองตัวลงไปเก็บไว้ พร้อมกับอาการท้อแท้ใจยิ่ง
ที่กว่านกน้อยจะเต็มขวดนั้นมันช่างเป็นเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน ร่างอ่อนแรงเอนตัวลงนอนกับชุดรับแขกแล้วหลับตาลงอย่างขมขื่นใจ ปล่อยให้หยดใสๆ ไหลไปตามหางตา เมื่อคิดถึงวินาทีที่ถูกชายปากร้ายตักตวงความสุขจากเรือนร่าง โดยไม่คิดจะสนใจสักนิดว่าจะกำลังเจ็บปวดทั้งกายและใจมากแค่ไหน ยิ่งคิดถึงภาพเหล่านั้น น้ำตาแห่งความเสียใจก็ยิ่งไหลรินออกมาไม่ขาด จึงปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ให้สาสมใจ
ใกล้จะทุ่มแล้วที่ท้องเรียกร้องหาอาหารมื้อแรกของวัน ร่างอ่อนแรงจึงเดินเข้าครัวไป ไม่นานก็ประครองชามบะหมี่ออกมานั่งที่โต๊ะอาหารแล้ว มันเป็นทรีอินวันนั่นคือมื้อเช้าเที่ยงและเย็น ทว่าพอตักเข้าปากได้คำที่สองก็ตื้อไปหมด จนกลืนไม่ลง แม้แต่น้ำเปล่าก็ยังฝืดคอด้วยซ้ำ จึงตัดสินใจทิ้งชามที่ยังมีเส้นอยู่เต็มไว้เสียตรงนั้น ก่อนจะเดินไปล็อคประตูบ้านแล้วขึ้นชั้นบนทันที
สายน้ำที่เมื่อคืนเคยนั่งร้องไห้ให้มันไหลลงมาชำระล้างคราบคาวโลกีย์เป็นชั่วโมงช่วยทำให้ร่างกายค่อยเย็นสดชื่นขึ้นมาได้บ้าง เมื่อยืนอยู่ใต้ฝักบัวอีกครั้ง ชุดนอนบางเบาถูกสวมใส่อย่างไม่พิถีพิถันนัก กระปุกเครื่องประทินผิวก็ถูกหมางเมินเช่นกัน เพราะไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรทั้งสิ้น หรือจะพูดให้ถูกคือ วินาทีนี้มันหมดอาลัยตายอยากในชีวิตไปแล้ว
“คุณลืมไปแล้วเหรอว่าบ้านนี้ไม่มีคนรับใช้ให้ ถึงได้กินไม่รู้จักเก็บล้างอย่างนั้น”
ร่างในชุดบางๆ สะดุ้งสุดตัวกับประโยคอันดังและฟังชัด จนต้องหันไปหาระเบียงห้อง ซึ่งเป็นที่มาของเสียง ก็เห็นร่างในชุดที่เกือบเหมือนเมื่อคืนเลื่อนประตูกระจกเดินเข้ามา กัณหาไม่คิดจะรอช้า รีบวิ่งไปหาประตูเพื่อหมายจะไปให้ไกลๆ ทันที เมื่อรู้ดีว่าจะต้องเจอกับการกระทำอันป่าเถื่อนของเขาอีก
“จะไปไหนไม่ทราบ! หรือคิดจะเล่นวิ่งไล่จับกันให้เหงื่อออกก่อน หรืออยากเล่นละครญี่ปุ่นแบบเมื่อคืน อ้อ! สงสัยจะชอบแบบนั้นล่ะมั้ง ถึงอยากจะชวนผมเล่นอีก แต่ผมไม่เอาด้วยหรอกนะ เพราะอยากจะเก็บแรงไว้เบิ้ลสักหน่อย เมื่อคืนตบรางวัลให้ครั้งเดียวเพราะเห็นว่ายังซิง ซึ่งผิดคาดจนผมคิดว่าฝันไปด้วยซ้ำ แต่คืนนี้และคืนต่อๆ ไปอย่าหวังว่าผมจะออมแรง ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่หนก็ตาม เมื่อไหร่ที่ผมอยาก คุณมีหน้าที่ต้องให้! จำเอาไว้ให้ขึ้นใจด้วย!”
ชาครีย์ที่เดาทางคุณหนูขาวีนออกจึงรีบก้าวยาวๆ ไปจับลูกบิดเอาไว้ได้ทัน พร้อมกับส่งประโยคตอกย้ำให้คนฟังคิดถึงภาพอันทุเรศๆ ขึ้นมาอีก
“ด้วยการข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่าน่ะเหรอ คิดว่าฉันจะยอมง่ายๆ เหรอ! ไม่มีทาง!!! ฉันจะสู้ให้ถึงที่สุด!!!”
มือบางผลักร่างใหญ่แรงๆ เพื่อหมายจะเปิดประตูให้ได้ แต่นอกจากจะทำไม่สำเร็จแล้วยังถูกเขารวบข้อมือทั้งสองลากด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลตรงไปหาเตียงแล้วเหวี่ยงจนชุดนอนที่สั้นเหนือเข่าร่นขึ้นไปเกือบถึงเอว จนต้องรีบดึงลงมา จังหวะนั้นเองที่เป็นโอกาสทองให้เขากระโจนขึ้นไปผลักร่างในชุดวาบหวิวให้ล้มไปหาเตียง
“ปล่อยฉันนะ!!! ปล่อย!!! บอกให้ปล่อย!!!”
ตามด้วยเสียงร้องดังคับบ้านเมื่อถูกเขากดสองแขนตรึงไว้กับที่นอนแล้วจูบอย่างรุนแรง โดยไม่สนว่าอีกคนจะดิ้นหนีเอาตัวรอดแค่ไหน มือหนารีบเลื่อนไปบีบอกอวบที่มีบรากับชุดนอนหุ้มไว้ นั่นจึงเป็นโอกาสให้มือของกัณหาว่างจึงรีบยกขึ้นฟาดเขาไปทั่วทั้งที่หน้า ไหล่ แขนหรืออก
“ชอบความรุนแรงอีกแล้วเหรอ ได้!!! ผมจัดให้!!!” จนเขาเจ็บและเริ่มโกรธขึ้นมา จึงขยุ่มชุดบางๆ ฉีกออกพรวดด้วยมือเพียงข้างเดียวจนได้เศษผ้าติดมือมาด้วย
“หยุดนะ!!! ออกไปให้พ้น!!! ได้ยินมั้ยว่าออกไป!!!”
ปากบางไม่ยอมหยุดร้อง รวมทั้งสองกำปั้นก็ไม่ยอมหยุดกระหน่ำไปหาอกของเขานับครั้งไม่ถ้วน
“หยุดเหรอ!!! ในบ้านหลังนี้สิทธิ์คุณมีเพียงอย่างเดียว นั่นคือเป็นนางบำเรอผม นอนให้ผมเอาทุกท่าจนหนำใจในทุกๆ คืนหรือทุกๆ เวลาที่ผมต้องการ”
จนเขาต้องหยุดด้วยการคว้าสองแขนไปรวบไว้ด้วยมือเดียว แล้วย้ำเตือนหน้าที่ของดเธออีกครั้ง และใช้มือที่ว่างกระชากชุดบางที่เหลือให้ขาดออกจากเรือนกายขาวอย่างรวดเร็ว แล้วโน้มกายลงไปทับพร้อมกับดูดดื่มอย่างหิวกระหาย จนผิวกายอ่อนๆ แทบจะช้ำไปทั้งตัว อีกครั้งที่สตรีเพศต้องพ่ายแพ้แก่แรงชาย
กัณหาจึงเลือกที่จะนอนแน่นิ่งปล่อยให้เขาปลดเปลื้องชุดชั้นในออกอย่างง่ายดาย พร้อมกับดวงตาเศร้าปิดลงช้าๆ ทิ้งกายาเปล่าเปลือยให้เขาเชยชมทั้งทางสายตาและภาษาสัมผัสด้วยหัวใจที่ชอกช้ำ โดยมีหยดใสๆ ไหลออกมาฟ้อง แต่ปีศาจอย่างเขาหรือจะรู้สึก เพราะมีสุขใจที่ได้ย่ำยีคุณหนูนิสัยเสียอย่างที่สุด
แถมยิ่งเป็นลูกของไอ้คนที่ทำลายครอบครัวเขาด้วยน้ำเงินเมื่อในอดีตด้วยแล้ว มาถึง พ.ศ. นี้ก็เป็นทีของเขาที่จะเอาคืนบ้าง เขาจึงไม่ลังเลที่จะทาบทับร่างเปลือยแล้วดูดดื่มริมฝีปากที่สมัยก่อนเคยขยับขึ้นลงด่าทอคนใกล้ตัวไม่ว่างเว้น อกตั้งสวยทั้งสองเป็นจุดหมายถัดมาที่เขาดื่มกินอย่างเอร็ดอร่อย สุดท้ายริมฝีปากอุ่นก็พรมจูบเกสรสีชมพู
ที่กำลังคลี่บานออกด้วยสองมือเขา เพื่อให้ง่ายต่อการก้มลงไปดื่มด่ำครั้งแล้วครั้งเล่า และร่างขาวก็กระตุกเต้นด้วยความวาบหวิวครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน เขานึกสนุกอย่ากจะกลั่นแกล้งร่างที่เสแสร้งนอนทื่อเป็นท่อนไม้อีก จึงทำแบบเดิมๆ หลายรอบยังผลให้เจ้าของร่างต้องกัดฟันฝืนทนกับความหวามหวิวอย่างยากลำบาก
“ผมอยากรู้ว่าคุณจะทนนอนเป็นก้อนหินไปได้อีกสักกี่น้ำ”
แถมส่งประโยคเย้ยหยันเมื่อวกขึ้นมาจ้องมองดวงหน้าที่คราบน้ำตาเพิ่งเหือดแห้งไปไม่นาน จูบพริ้วหวานกว่าทุกครั้งจึงถูกจัดสรรให้ มือก็อยอกเย้ายอดบัวไปมาเมื่อรู้ดีว่าก้อนหินอย่างเธอจะถูกหลอมจนกลายเป็นลาวาในไม่ช้าถ้าลองเขาได้ทำแบบนี้ แต่เขาก็คาดผิดอยู่ไม่น้อยเมื่ออีกคนกัดฟันทนเพื่อต้านแรงเรียกร้องจากธรรมชาติได้นานโข จนเขาต้องหยุดแล้วจ้องมองดวงหน้าสวยที่หันหนีเขาอย่างรังเกียจเดียจฉันท์
“อื้ห์มมมม อดทนดีนี่!!! แต่ทนให้ได้ตลอดรอดฝั่งก็แล้วกัน อย่าเผลอครางออกมาเชียวนะ”
เขาจึงหยิบยื่นไม้ตายด้วยการเลื่อนมืออันช่ำชองลงไปเบื้องล่างช้าๆ แล้วทำการทารุนก้อนหินด้วยปลายนิ้วจนกายสาวบิดไปมา แต่ก็ยังฝืนทนไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามง่ายๆ สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจเลื่อนลงไปดูดดื่มอีกวาระ ไล่จังหวะจากเชื่องช้าไปหาเร่งเร็ว จนก้อนหินเริ่มเลื่อนมือไปขยุ่มผ้าปูที่นอน เมื่อความต้องการเรียกร้องให้สนองตอบอย่างยากจะแข็งใจได้อีกต่อไป
“เป็นไงล่ะคุณหนูมิว เกิดอยากขึ้นมาแล้วสิ ไม่มีใครเอาชนะธรรมชาติได้หรอกผมจะบอกให้”
เพราะเขารับรู้ได้อย่างไม่ยากเย็น จึงเย้ยหยันอีกประโยคก่อนจะปิดปากบางด้วยริมฝีปากอันร้อนผ่าว พร้อมกับคว้าสองแขนเรียวยกขึ้นไปให้เกาะเกี่ยวกับกายกำยำไว้ และแม้เจ้าของแขนอยากจะดึงมันกลับสักแค่ไหน แต่มรสุมพิศวาสที่กำลังรุมเร้ากลับสั่งให้ทำตาม แถมยังลูบไล้แผ่นหลังเขาไปมาโดยไม่รู้ตัว
และไม่รู้ว่าเสื้อผ้าเขาหลดจากกายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าตอนนี้มีสิ่งแปลกปลอมวนเวียนอยู่ใกล้ๆ กายสาวและกำลังจะเยี่ยมเยือนไปในอีกไม่ช้า อาการเจ็บปางตายจากเมื่อคืนเรียกร้องให้สองมือต้องรีบกำผ้าปูไว้จนแน่น หัวใจก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะความหวาดกลัวจากประสบการณ์แรกที่โหดร้ายเป็นเครื่องข่มขู่
“อืออออออออออออออออ”
แต่ความเจ็บกลับไม่ได้ข้องแวะมาหาอีกเลย แถมยังมีความรู้สึกตื้อเต็มอิ่มเข้ามาแทนที่ เมื่อเขาพากายล่วงล้ำเข้าไปหาเชื่องช้าจนแนบชิดและทำแบบเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ควบคู่กับการดูดดื่มริมฝีปากหวานละมุล สลับกับลิ้มลองสองปทุมเต่งตึงไม่รู้จักอิ่มหน่ำหรือเบื่อหน่ายเลยสักนิด เพราะมันช่างเต่งตึง นุ่มนิ่ม เต็มเปี่ยมไปด้วยคำเชิญชวนให้วนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างหายไปไหน
แล้วจู่ๆ เขาก็หยุดทุกการกระทำทุกอย่างลง เพื่อให้มีเวลาได้พินิจเรือนร่างสลักเสลาได้รูปของหญิงสาวให้เต็มๆ ตา เพราะเมื่อคืนความรีบจะเอาชนะทำให้ลืมเลือนที่จะสำรวจไป เจ้าของกายเปลือยต้องรีบยกมือขึ้นปิดของหวงแหนพร้อมกับหลับตาปี๋เพื่อหนีความอาย แก้มขาวจั๊วะที่เขาเคยเห็นก็เปลี่ยนเป็นแดงแจ๋ในทันที เมื่อรับรู้ได้ว่าเขากำลังเพ่งพิจแทบจะทุกตารางนิ้วของร่างกาย
มือหนาคว้ามือบางออกอย่างขัดใจ แต่เจ้าของก็ไม่วายวกกลับมาปิดไว้อีกวาระ เขาเองก็ใจเย็นดึงออกอีก และกัณหาก็ยกมาปิดใหม่ ทีนี้อีกฝ่ายเย็นไม่อยู่ จึงรวบสองแขนเรียวขึ้นไปกดไว้กับที่นอน ก่อนจะค่อยๆ ใช้มือที่ว่างเลื่อนไล้ไปตามผิวกายขาวนุ่มนวล ชวนให้หลงใหลจนถ้วนทั่ว กายสาวสะดุ้งเฮือกในทุกครั้งที่มือเขารุกรานไปหามุมหวงแหน
นั่นถือเป็นยากระตุ้นเลือดในกายเขาได้เป็นอย่างดี จึงหยุดการสำรวจไว้เพียงเท่านั้นแล้วหันไปค้นหาความสุขสมจากกายสาวแทน และถึงแม้ว่าสาวเจ้าจะยังไม่กล้าตอบโต้บทรักอันช่ำชองของเขาก็ตาม แต่เพียงแค่นอนนิ่งๆ บิดกายไปมาในบางครั้ง เผลอส่งเสียงในลำคอออกมาเมื่อเอ่อล้นความสุข แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
จะเอาอะไรมากมายกับบทบาทบนเตียงเพียงแค่หนที่สอง เหลือเวลาอีกถมเถที่จะสอนสั่งให้เจ้าหล่อนเก่งกาจ คิดได้ดังนั้นเขาจึงไม่เร่งรีบที่จะเล่นท่ายากหากแต่เริ่มจากเบสิคๆ แทน กระนั้นหัวใจเขาก็สั่นสะท้านกับเรือนกายที่ไม่เคยมีชายใดได้แตะต้องมาก่อนได้ไม่ยาก และยังทำเอาเขาเหนื่อยหอบจนหายใจแทบไม่ทันในเฮือกสุดท้าย ขณะปลดปล่อยสายธารราดรดไปกับหน้าท้องแบนราบ
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีชีวิตน้อยๆ ชิงมาอยู่ด้วยก่อนเวลาที่เหมาะสม แล้วล้มตัวลงนอนหายใจรวยรินอยู่ข้างๆ กายหอมนุ่ม ขณะที่กัณหาค่อยๆ เคลื่อนออกห่าง แล้วลุกไปคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่หน้าตู้แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป แต่คืนนี้หญิงสาวไม่ได้เสียน้ำตาและเสียเวลามากเท่าเมื่อคืน เพราะรู้ว่ามันหาประโยชน์ไม่ได้แล้ว จึงพากายกลับออกมาอีกครั้ง
เพราะคาดหวังว่าเขาคงจะไปแล้ว แต่ก็เกิดอาการผิดหวังและเบื่อหน่ายทันทีเมื่อเห็นร่างเปลือยนอดทอดไปจนสุดความยาวของเตียง มีผ้าห่มผืนหนาคลุมปลายเท้าไปหาเอว ดวงตาคู่เศร้าจ้องมองไปยังเครื่องปรับอากาศที่ไม่รู้ว่าถูกเปิดตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าจะให้เดาก็คงตอนที่เขาแอบเข้ามากระมัง ทีคนอื่นจะให้ทนร้อนแต่ตัวเองกลับอยากสบาย
คิดได้แค่นี้ก็เกลียดเขาขึ้นมาจนไม่อยากอยู่ใกล้ ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากเห็นท่าทาง หรือได้ยินน้ำคำใดๆ ของเขาที่มักจะพ่นคำร้ายๆ ออกมาเอาเสียเลย จึงรีบเปิดตู้แล้วคว้าชุดนอนตัวใหม่พร้อมเสื้อคลุมมาสวมใส่ และรีบเดินมาคว้าเอาหมอนบนเตียง เพื่อหมายจะลงไปนอนชุดรับแขกข้างล่างที่ถึงแม้จะร้อนกาย แต่ก็คงจะเย็นใจได้มากกว่าอยู่ร่วมห้องร่วมเตียงกับคนป่าเถื่อนเป็นแน่
“จะไปไหน!!!” เหมือนเขาจะรู้ทันจึงรีบคว้าข้อมือที่หอบหมอนอยู่ไว้อย่างรวดเร็ว
“ปล่อย!!! ฉันจะไปนอนข้างล่าง!!!” เขาถึงกับผุดลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องมองตาเขม็ง
“ผมต้องบอกคุณด้วยมั้ยว่าหน้าที่นางบำเรอน่ะ นอกจากจะนอนให้ผมเอาแล้ว ยังจะต้องนอนให้ผมกอดจนถึงเช้าด้วย มานี่และอย่าคิดว่าจะได้หนีไปไหนอีกเป็นอันขาด คุณไม่มีสิทธิ์จะปฏิเสธผมไม่ว่าจะกรณีใดๆ ทั้งสิ้น ผมให้อยู่คุณก็ต้องอยู่ สั่งให้ไปคุณถึงจะไปได้จำเอาไว้!!!”
เพียงเขากระชากเบาๆ ร่างนุ่มก็ถลาไปหาอกเขาแล้ว เขาไม่รอช้ารีบวาดวงแขนรวบตัวเธอเอาไว้แล้วเหวี่ยงแรงๆ จนร่างบางลอยข้ามกายเขาไปตกอยู่อีกฟาก แต่เธอก็พยายามหนีและร้องดังๆ ออกมา
“ปล่อย!!! ฉันจะไปนอนข้างล่าง!!!”
“ก็เอาสิ แต่ผมจะตามไปเบิ้ลถึงข้างล่าง แบบไม่ปิดไฟไม่ปิดม่าน คุณคงรู้ดีนะว่าผมเป็นคนพูดจริงทำจริงมากแค่ไหน พ่อแม่กับย่าคุณยังเชื่อซะสนิทใจเลย ไม่งั้นคงไม่พาคุณมาประเคนให้ผมถึงเตียงหรอก ว่าไงจะเอาแบบไหน จะนอนให้ผมเอาในห้องนี้อีกรอบหรือจะให้ลงไปเอาข้างล่าง เลือกได้ตามสบาย สำหรับที่ไหนๆ หรือต่อหน้าใคร ถ้าอยากขึ้นมาน้ำก็แตกได้ทุกที่นั่นล่ะ” เขาย้ำหนักๆ ทุกคำแล้วจ้องมองคนในอ้อมกอด
เงียบ!!!
และกายสาวแน่นิ่งไม่ไหวติงไปไหนอีก นั่นถือเป็นคำตอบสำหรับเขา จึงเอื้อมไปปิดไฟหัวเตียงแล้วเหวี่ยงแขนขึ้นไปทับร่างนุ่ม มือก็กอบกุมอกอวบนิ่มไปด้วย จากเมื่อแรกที่คิดว่าจะหาความสุขเพียงแค่นั้น แต่จนแล้วจนรอดก็ทานทนไม่ไหว จึงต้องเริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้นอีกวาระ จนหมดแรงหลับอย่างสบายใจ
กระทั่งรุ่งเช้าที่เขามักจะตื่นเองโดยอัตโนมัติเพราะความเคยชิน มองไปข้างๆ เห็นอีกคนหลับสนิท จึงรีบลุกใส่เสื้อผ้าแล้วเดินจากมาเงียบๆ แต่ในตอนค่ำเขาก็กลับเข้ามาเหมือนเดิมทำกิจกรรมเดิม โดยมีอาการขัดขืนอย่างเอาเป็นเอาตายจากคุณหนูขาวีนในแบบเดิมๆ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ต่อแรงชายและแรงเรียกร้องของธรรมชาติเช่นเดิม วนเวียนอยู่แบบนี้เป็นเดือน



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.ย. 2556, 07:56:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.ย. 2556, 07:58:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 1511





<< กรงเล็บซาตาน   ไร้ซึ่งความปราณี >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account