อาญาซาตาน
ชาครีย์ หรือเสือ จากอดีตเคยเป็นคนจนๆ กลับกลายมาเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวย เพราะได้เงินจากการขายที่ดินแถวหนองงูเห่าที่เมื่อก่อนราคาไร่ละไม่กี่แสน แต่พอสร้างสนามบินขึ้นมากลายเป็นราคาหลายสิบล้าน และเขาก็สร้างฐานะให้มั่นคงด้วยการจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีเพื่อนๆ ที่เป็นลูกคนรวยทั้งหมอ ทั้งนักการเมืองคอยช่วยเหลือด้วย ทำให้สร้างตัวได้ในเวลาแค่สิบกว่าปีเท่านั้น
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ

Tags: พระเอกโหด เศร้า รัดทด

ตอน: ไร้ซึ่งความปราณี

“ตาโรจน์วันนี้ช่วยบอกนายนั่นด้วยนะว่าเราจะไปรับแม่นิ่มกลับบ้าน เดือนกว่าแล้วยังไม่เห็นแม่นิ่มโทรมาบอกเลยว่าจะขอกลับเมื่อไหร่ ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้มันต้องสงสัยแน่ๆ ว่าเรารักยัยมิวประสาอะไรถึงได้ทิ้งไว้ไม่เคยไปดูดำดูดีเลย”
ยุพาพรสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเมื่อนั่งกินมื้อเช้าด้วยกัน แต่ลูกกลับทำหน้าซังกะตายใส่อย่างไม่เคยมีมาก่อน จนเมียที่อยู่ข้างๆ ต้องทำตาเขียวใส่เขาถึงได้ยอมเปิดปากอธิบาย
“ทำไมไม่ให้ยัยนิ่มขอเองล่ะครับคุณแม่ ผมไม่ค่อยอยากจะเห็นหน้ามันเท่าไหร่ ไอ้นี่ปากร้าย ใจเร็ว มันคอยแต่จะหักหน้าหรือเหน็บแนมผมต่อหน้าลูกน้องอยู่เรื่อย วันดีคืนดีก็จะสาธยายกรอกหูผมว่าเอากับยัยนิ่มยังไงท่าไหน มันมีความสุขยังไง สะใจท่าไหน จนผมอยากหนีไปไกลๆ ไม่อยากทนอยู่ให้มันหยามอีกแล้ว”
“ทนไม่ได้แกก็ต้องทน!!! เพราะแกเป็นคนสร้างเรื่องขึ้นมาเอง!!! และถ้าขืนฉันรอให้แม่นิ่มขอมันน่ะเหรอ คงชาติหน้าโน่นล่ะ ฉันโทรไปบอกสองครั้งแล้ว แต่ก็ยังทำเฉยไม่ขอมันสักที แกก็ต้องเป็นคนจัดการแทน ได้เรื่องยังไงโทรมาบอกด้วย แล้วฉันกับแม่รสจะไปรับเอง หรือถ้าแกว่างก็ควรจะไปด้วย มันจะได้เห็นว่าเรารักยัยมิว”
“ครับคุณแม่”
วิโรจน์เหนื่อยที่จะเถียง เพราะไม่มีวันชนะไม่ว่าจะเป็นแม่หรือเมียก็ตาม ดื่มกาแฟหมดแก้วเขาจึงออกจากบ้านทันที ออฟฟิศที่น่าเบื่อและไม่ยังเข้าต้องกลายเป็นจุดหมายปลายทาง เพราะไม่รู้จะไปไหนได้เช้าขนาดนี้ จึงเลือกที่จะไปนั่งเอกเขนกปล่อยใจให้ล่องลอยถึงหนทางที่จะหาเงินก้อนโตมาซื้อทุกอย่างกลับคืนโดยไม่ต้องเหนื่อยและต้องมาทนนั่งให้คู่อริมาเหยียบจมูกอยู่แบบนี้
“บอสคะ! คุณเสือเชิญที่ห้องค่ะ” จู่ๆ เลขาก็เข้ามาขัดจังหวะจนเขาหัวเสีย แต่ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากถามออกไปด้วยท่าทีเซ็งๆ
“บอกหรือเปล่าว่ามีเรื่องอะไร เพราะผมเบื่อจะไปนั่งฟังนายนั่นพร่ามเรื่องไร้สาระเต็มที”
“ไม่ทราบค่ะ แต่เห็นบอกให้ไปเดี๋ยวนี้”
ย่างเข้าเดือนที่สามแล้วตั้งแต่ต้องตกเป็นลูกน้องคู่อริ ทว่าเขาก็ยังไม่ชินสักทีกับการถูกสั่งแบบนี้ แต่จะทำไงได้ ในเมื่อตัวเองเป็นรอง ต้องงอนต้องง้อมันไปก่อน จึงลุกเดินเอื่อยเฉื่อยไปห้องหรูหราของประธานที่กำลังนั่งก้มหน้าอ่านเอกสารอย่างขมักเขม้น และเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด เพราะทันทีที่นั่งลงเขาก็ถูกด่าถูกว่าถูกดุประหนึ่งเด็กฝึกงานนานกว่าครึ่งชั่วโมง
“ผมขอโทษครับ แล้วผมจะทำให้ดีกว่านี้”
นี่เป็นวิธีใหม่ที่เขาเพิ่งทำใจยอมรับและนำมาปฏิบัติ เพื่อหลีกหนีจากแรงกดดันจะได้ไม่ต้องเผลอระเบิดลงให้เสียเรื่องเปล่าๆ
“ผมก็หวังอย่างนั้น และหวังมาตั้งแต่วันที่คุณเปลี่ยนสภาพจากเจ้าของมาเป็นลูกจ้างผมแล้วด้วย แต่จนป่านนี้คุณยังทำตัวห่วยแตกเหมือนเดิม หรือจะพูดให้ถูกและตรงก็คือคุณห่วยหนักกว่าเดิมอีก”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนวิโรจน์มั่นใจว่าคงได้ลุกขึ้นตะบันหน้าไอ้บ้านี้เป็นแน่ แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่ทำได้นั่นคือนิ่ง อีกคนจึงนิ่งด้วย เพราะคำด่าของตัวเองดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่
“เอ่อ! ผมอยากจะขอรับยัยมิวกลับไปหาแม่กับย่าหน่อย ไม่ทราบพรุ่งนี้พอจะได้หรือเปล่าครับ”
พอนึกขึ้นได้ถึงคำสั่งแม่เมื่อเช้าจึงยอมเปิดปากเอ่ย ชาครีย์ที่เพิ่งจะก้มหน้าไปหาเอกสารต้องเงยขึ้นมาอีกครั้งด้วยท่าทีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยให้คู่อริที่นั่งรอฟังคำตอบอย่างใจจดจ่อเห็น
“ไม่เจอแค่เดือนกว่าๆ คิดถึงกันแล้วเหรอ ก็อย่างว่าล่ะนะ คุณหนูมิวผู้น่ารักนะเอ็นดูน่าทะนุถนอม ผมเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่หรือแม้แต่ย่าดีว่ารักว่าหวงหรือห่วงสักแค่ไหน ก็พวกคุณเลี้ยงมาอย่างดี ดูแลทะนุถนอมยังกับไข่ในหิน ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม จนคุณหนูมิวเติบโตมาเป็นสาวสวยสะพรั่ง คงคาดหวังว่าจะให้พบสิ่งดีๆ ในชีวิต ได้พบคู่ครองดีๆ สินะ
แต่น่าเสียดาย! ผู้ชายที่ได้เจาะไข่แดงกลับเป็นไอ้เสือผู้ต่ำต้อยที่ไฮโซอย่างพวกคุณไม่เคยเห็นหัว แล้วรู้สึกยังไงบ้างล่ะ ดีใจ! ชอบใจ! หรือเสียใจ! แต่สำหรับผมนะดีใจเป็นบ้าเลยล่ะ ที่นานทีปีหนจะได้เจอผู้หญิงสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยต้องมือชายมาก่อน มันทำให้ผมกระชุ่มกระชวยทุกครั้งที่ได้นอนกับลูกคุณ ผมถึงได้อารมณ์ดีทุกวันอย่างนี้ไงล่ะ
เพราะคุณมิวบริการถึงใจ! ถึงพริก! ถึงขิง! ไม่ว่าจะดับเบิ้ลหรือทริปเปิ้ลก็จัดให้ไม่มีขัด สั่งให้ดูดตรงนั้นรูดตรงนี้ก็ตามใจสารพัด ถึงจะยังอ่อนหัดไปสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร! ผมเชื่อว่าสองปีที่อยู่ด้วยกัน รับรองลีลาขึ้นติดอันดับท็อปชาร์ดแน่ เผลอๆ พอครบกำหนดลูกคุณอาจจะหลงรักผมหัวปรักหัวปรำจนไม่อยากจากไปก็ได๊! ใครจะไปรู้!
ก็ไอ้คนอย่างผมนี่ลองใครได้อยู่ใกล้ๆ ทีไรเป็นต้องติดใจติดเสน่ห์ทุกรายสิน่า แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ผมมันเป็นคนรักษาคำพูด บอกว่าปล่อยก็คือปล่อย บอกว่าไม่เอาก็คือไม่เอา ถึงลีลาลูกคุณจะถึงใจแค่ไหน แต่สองปีนี่ผมคงเอาจนเบื่อแล้วล่ะ คงไม่มีจิตพิศวาสจะเก็บไว้ทำพันธุ์หรอก ว่าแต่คุณเหอะ! อยากได้พันธุ์ของผมติดไปบ้างหรือเปล่าล่ะ!
เลือดชั่วๆ ในตัวคุณมิวมาเจอเลือดเดือดๆ แรงๆ ของผมเข้า ลูกออกมาคงจะร้ายพิลึกนะคุณว่ามั้ย คงจะเอาแต่ใจตัวเป็นที่หนึ่ง อยากได้อะไรก็ต้องได้เหมือนแม่ และคงจะชอบเอาชนะ ชอบเอาคืนหนักๆ อย่างพ่อ แต่ก็ดีนะผมว่า พอถึงวัยเรียนคงจะไม่มีใครกล้ารังแกหรือกล้าหือหรอก
อยากได้หลานแบบไหนก็สั่งนะครับคุณพ่อตาชั่วคราว เดี๋ยวลูกเขยชั่วคราวจะปั้มให้ไม่มีเกี่ยง รับรองได้แบบสำเนาถูกต้องจากต้นฉบับไปเลยทีเดียวล่ะ เรียกว่ามองหน้าหลานทีไรไม่ต้องถามว่าใครเป็นเจ้าของสเปิร์มก็ร้องอ๋อออกทันที พวกคุณจะได้ลืมผมไม่ลงไปตลอดชาติไงล่ะ...และ”
“ถ้าคุณไม่อนุญาตก็ไม่เป็นไร ขอตัวกลับไปทำงานก่อน”
วิโรจน์หมดความอดทนที่จะนั่งฟังถ้อยคำที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุดลงทันที จึงรีบตัดบทแล้วลุกพรวดจากเก้าอี้ตรงไปหาประตูโดยไม่คิดจะหันกลับมามอง เจ้าของใบหน้าหล่อเข้มที่กำลังยิ้มเยาะเย้ยไล่หลังไปเลยสักนิด ร่างสูงใหญ่นั่งเอนไปกับพนักเก้าอี้ เคาะนิ้วลงบนโต๊ะขณะใช้ความคิด ก่อนจะกดโทรศัพท์ไปหาเลขา
“ผมฝากโทรไปบอกคุณวิโรจน์ด้วยว่าพรุ่งนี้ตกลง จะไปตอนไหนให้โทรบอกด้วย”
และเลขาก็ทำตามคำสั่งในทันที วิโรจน์ที่เพิ่งวางโทรศัพท์ลงไม่ได้ดีใจสักนิดกับคำอนุญาตของไอ้บ้านั่น เพราะในใจทั้งโกรธทั้งเกลียดที่สุดเมื่อถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีไม่มีหยุดหย่อน และแม้จะไม่ได้ผูกพันอะไรกับลูกที่เกิดจากเด็กรับใช้ในบ้านมากมายนัก
แต่ก็ยังมีความเข้าอกเข้าใจเห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของลูก ที่ต้องทนอยู่กับไอ้บ้าที่เขาเดาออกว่าคงจะไม่มีความปราณีเป็นแน่เวลาเรียกใช้งานในทุกค่ำคืนเป็นแน่ และเขาก็รู้ดีว่าลูกจะต้องทนทุกข์ทรมานกับปากร้ายๆ และการกระทำที่รุนแรงๆ ของไอ้บ้านี้แค่ไหน
“สักวันฉันจะเอาทุกอย่างคืนมา และฉันจะจัดการกับแกให้สาสมกับที่แกทำกับฉันและกับลูกฉัน ไอ้สิงห์!!!”
ถึงไม่มั่นใจว่าจะทำอย่างที่พูดได้ แต่ความโกรธก็เรียกให้เขาร้องระบายออกมาบ้าง แม้จะเพียงได้แค่พูดอยู่คนเดียวในห้องก็ตามที

เบอร์ที่ไม่คุ้นเอาเสียเลยโชว์ขึ้นบนหน้าจอไอโฟนหลายครั้ง แต่เจ้าของทำเป็นเมินเฉย เพราะกำลังยุ่งอยู่กับงานออกแบบปกที่ต้องรีบส่งให้ บ.ก. ในไม่กี่วันนี้ จนเสียงเงียบลงเอง แต่ไม่นานก็ดังขึ้นอีก คราวนี้รู้ว่าเป็นใครเพราะชื่อแสดงหรามาว่าเป็นเบอร์คุณยุพาพร ผู้ที่อยู่ในฐานะย่า แต่หลานอย่างเธอไม่อาจจะเมมคำว่า ‘ย่า’ ลงไปได้
หนึ่งคือเจ้าตัวคงไม่ปลื้มนัก ที่จะให้หลานสายเลือดคนใช้ในบ้านถือวิสาสะเรียกก่อนได้รับอนุญาต สองคนเป็นหลานเองก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้เอ่ยคำนี้ออกมา ด้วยเจ็บช้ำใจเมื่อถูกทั้งย่าและพ่อหมางเมินไม่ดูดำดูดีนับตั้งแต่มาเกิดในท้องแม่ก็ว่าได้
“แม่รสโทรหาตั้งหลายครั้งทำไมเธอไม่รับสาย จนฉันต้องโทรมาเอง” ทันทีที่กดรับเสียงห้วนๆ ก็ส่งมาทันควัน จนแทบจะหาข้อแก้ตัวไม่ทัน
“เอ่อ! นิ่มทำงานอยู่ค่ะเลยไม่ได้วิ่งขึ้นมารับ พอดีทิ้งมือถือไว้บนห้อง”
“ฉันบอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าเรียกตัวเองแบบนี้ คิดบ้างหรือเปล่าว่าอาจจะมีใครบังเอิญมาได้ยินเข้า จำไว้!!! ทีหลังอย่าให้ต้องพูดซ้ำซากนะ ฉันไม่ชอบ!!! และที่ฉันให้แม่รสโทรมานี่ก็แค่จะบอกว่าพรุ่งนี้เก้าโมงเตรียมตัวกลับบ้านฉันจะไปรับ แค่นี้ล่ะ”
กัณหาถอนหายใจหนักๆ อย่างเหนื่อยหน่ายกับสภาพที่กำลังเผชิญอยู่ แต่ก็ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องเหล่านี้ให้มากนัก จึงหันหน้ากลับไปหางานต่อ ผัดผักรวมน้ำมันหอยราดข้าวเป็นอาหารง่ายๆ ที่ใช้เวลาทำไม่กี่นาทีก็ได้มื้อเย็นแล้ว จะได้มีเวลาทำงานอีกหน่อย
“พี่ไม่รู้ว่าจะถึงบ้านกี่โมง แต่คงจะทันกินข้าวเที่ยงด้วยกันมั้ง งั้นไว้คุยต่อพรุ่งนี้นะหนุ่ม”
ก่อนเข้าไปอาบน้ำก็ไม่ลืมโทรบอกน้องกับยายด้วยความดีใจที่จะได้พบกัน หลังจากเดือนกว่าๆ แล้วที่ได้แต่คุยทางโทรศัพท์ ค่ำคืนนี้จิตใจจึงเบิกบานกว่าทุกคืน อาบน้ำเสร็จก็รีบมาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า แม้จะไม่รู้ว่าเขาให้กลับได้กี่วันก็ตาม
‘ผั๊ว’
‘ปัง’
คนในห้องไม่ได้ตกใจมากมายกับเสียงประตูนัก เพราะเริ่มจะชาชินกับการมาแบบเอะอะแต่ไปแบบเงียบเชียบไร้ร่องรอยของเขาแล้ว จึงไม่สนใจจะหันไปมองร่างสูงที่ก้าวอาดๆ เข้ามาเลยสักนิด นอกจากรูดซิปกระเป๋าแล้วเอาไปเก็บไว้ในตู้ดังเดิม
“คงจะดีใจมากสินะที่จะได้กลับไปเป็นคุณหนูให้คนในบ้านคอยห้อมล้อมเอาอกเอาใจ ทำอะไรต่อมิอะไรให้ทุกอย่างจนคุณหนูขาวีนยอ่างคุณจะกลายเป็นง่อยอยู่แล้ว”
แล้วส่งประโยคประชุดประชันกรอกหูด้วยน้ำเสียงหนักแน่น กัณหาไม่คิดจะต่อปากต่อคำ นอกจากจ้องมองเขาด้วยสายตาชิงชังแล้วเลี่ยงเดินไปยืนกอดอกตรงหน้าต่าง เขาไม่วายตามไปอยู่ดี
“แต่อย่าดีใจมากไปนักเลย เพราะผมให้คุณกลับไปเป็นแบบเดิมได้แค่สองวันเท่านั้น แล้วทีหน้าทีหลังถ้าอยากจะกลับไปเป็นคุณหนูอีก ช่วยกรุณาบอกผมตรงๆ ไม่จำเป็นต้องให้พ่อแม่หรือย่าคุณมาอ้อนวอนผมหรอก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้อีตัวอย่างคุณควรจะอ้าปากบอกเองจะดีกว่า ถ้ากลัวผมไม่ยอมให้ไปคุณก็หัดใช้มารยาหญิงอ้อนวอนผมตอนที่เรากำลังกระหน่ำ กระแทกกันอย่างเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่สิ รับรองผมจะรีบตกลงเชียวล่ะ”
ดวงหน้าสวยกับดวงตาคู่หมองหันไปจ้องมองเขาเขม็ง เพราะเกลียดชังในน้ำคำเจ็บแสบที่เขาขยันสรรหามาด่าทอได้ไม่เว้นวัน จนเผลอหลุดปากตอบโต้ไป
“คนอย่างฉันไม่คิดที่จะอ้อนวอนผู้ชายอย่างคุณ ต่อให้ฉันต้องอยู่ที่นี่ตลอดสองปีโดยไม่ให้ไปไหน ฉันก็จะไม่มีวันขอความเมตตาปราณีจากคุณเป็นอันขาด เพราะคนอย่างคุณไม่มีอะไรดีๆ ติดตัวมาตั้งแต่เกิดแล้วด้วยซ้ำ หรือถ้าจะมีก็คงเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน ความสกปรก และความไร้มนุษยธรรมมากกว่า ไอ้สิ่งดีๆ ที่มนุษย์เขามีกันมันไม่กระเด็นมาเฉียดตัวคุณหรอก”
ชาครีย์โกรธจนเลือดขึ้นหน้าเมื่อถูกเถียงกลับเป็นครั้งแรก สองมือจึงรีบยกขึ้นบีบสองไหล่แล้วเขย่าแรงๆ สายตาดุดันจ้องเขม็งไปหาคุณหนูมิวที่เริ่มจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาด้วยการส่งวาจามาเสียดแทงเขา หลังจากที่ยอมสงบปากสงบคำมานาน
“คุณกล้าว่าผมเหรอ!!!” กัณหาเองก็จ้องกลับไม่กระพริบตาเพราะความโกรธ แถมตอบโต้เขาอีก
“ฉันกล้าทำอะไรได้มากกว่านี้!!! ถ้าคุณยังไม่หยุดดูถูกฉัน!!!”
“ทำไมผมจะต้องหยุด!!! เพราะผมพูดความจริง!!! หรือคุณจะเถียงว่าคุณไม่ใช่อีตัวนอนแบให้ผมเอามาเป็นเดือนแล้ว และนอกจากจะดูถูกคุณแล้ว ผมยังกล้าดูถูกโคตรเง้าของคนด้วย ถ้าผมป่าเถื่อน สกปรกและไร้มนุษยธรรม โคตรของคุณมันก็สถุล ต่ำ โสโครก และแทบจะไม่มีความเป็นคนกระเด็นไปเฉียดตั้งแต่เกิดมาด้วยซ้ำเหมือนกัน
เพราะพวกมันถือว่าเงินอยู่เหนือกฏหมาย อุดปากใครก็ได้ เปลี่ยนขาวให้เป็นดำเปลี่ยนผิดให้เป็นถูกได้ แค่นี้ก็ไม่มีใครเอาผิดและลงโทษมันได้แล้ว แต่ผมนี่ล่ะที่จะลงโทษพวกมัน มอบความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสให้พวกมันได้เห็น ผ่านทายาทจิตใจโหดร้ายอย่างคุณไงล่ะ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้ผมฟังด้วยนะ ว่าโคตรของคุณรู้สึกยังไงที่ได้เห็นโทษทัณฑ์ที่ไอ้เสือคนนี้เป็นคนพิพากษาให้”
แล้วเขาก็เหวี่ยงแรงๆ จนคนที่ไม่รู้นัยความหมายจากน้ำคำของเขาถึงกับถลาไปหาเตียง และแม้จะรู้ดีว่าการดิ้นรนหลีกหนีจากน้ำมือเขาไม่เคยเป็นผล แต่กัณหาก็สาบานกับตัวเองไว้ตรงนี้ว่าจะไม่ยอมนอนนิ่งให้เขารังแกได้ง่ายๆ สองแขนจึงยกขึ้นเตรียมฟาดฟันกับเขาที่กำลังก้าวอาดๆ มาหา
“คิดเหรอว่าจะสู้ผมได้!!! อย่าเสียแรงเปล่าไปหน่อยเลย!!! เพราะคุณไม่มีทางรอดจากคำพิพากษาไปได้แน่!!!”
“อย่านะ!!! ออกไป!!! ฉันเกลียดคุณ!!! ได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียด!!! เกลียด!!! เกลียด!!!”
“ก็เห็นพูดอย่างนี้ทุกครั้ง แต่สุดท้ายก็เห็นคุณทั้งกอด ทั้งจูบ ทั้งลูบ ทั้งคลำคนที่คุณเกลียดทุกคืนอยู่ดี แถมยังส่งเสียงครวญครางอย่างมีความสุขทุกครั้งด้วยซ้ำ แต่คืนนี้ผมว่าคุณคงจะกอดจูบผมไม่ลงหรอก ส่วนเรื่องเสียงนั้นผมไม่รู้ว่าจะครวญครางหรือร้องห่มร้องไห้กันแน่ เพราะฉากรักบนเตียงของเราจะดุเด็ดเผ็ดมันถึงพริกถึงขิงมากกว่าทุกคืน จะได้ให้โคตรเง้าคุณดูเป็นขวัญตาไงล่ะ ว่าไอ้เสือคนนี้ลายมันออกมากน้อยแค่ไหน”
“โอ๊ย!!!” อีกครั้งที่ชุดนอนขาดวิ้นติดมือเขาไป ชุดชั้นในก็ปลิวตามแรงกระชากโดยไม่สนใจว่ามันจะขูดผิวขาวๆ จนเกิดริ้วรอยเลยสักนิด
“อื้ห์มมมมมมมมมมมม” แล้วจุมพิตอันร้อนแรงก็เริ่มขึ้นเมื่อร่างใหญ่ทับอีกร่างไว้จนไร้หนทางดิ้นรนหนี
“ปล่อย!!! ฉันเจ็บ!!! บอกให้ปล่อย!!!”
กัณหาทั้งดิ้นหนีทั้งร้องเพราะความเจ็บ เล็บก็ทั้งจิกข่วนและฟาดฟันเพื่อต่อสู้ เมื่อเขาทั้งจูบ ทั้งขบ ทั้งเม้ม หรือแม้กระทั่งกัดไปจนแทบจะทุกสัดส่วนของร่างกายก็ว่าได้ อกอวบที่เคยถูกเขาลูบคลำบัดนี้อยู่ในอุ้งมือที่เขาเจตนาจะบีบให้เจ้าของเจ็บปวด แล้วดูดดื่มอย่างแรงจนได้ริ้วรอยประทับกับผิวขาวๆ ไปด้วย
“โอ๊ย!!! หยุดนะ!!! ฉันเจ็บ!!! บอกให้หยุด!!!”
บทรักอันป่าเถื่อนและรุนแรงจากเขาที่กัณหาเองก็ไม่เคยพานพบมาก่อนบรรเลงขึ้นเปรียบประหนึ่งเป็นคนละคน จนเจ้าของร่างที่กำลังรองรับอารมณ์ดิบของเขาต้องกัดฟันอดทนสู้เพื่อให้วินาทีอันโหดร้ายผ่านพ้นไปโดยเร็ว แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิดไว้เลย เพราะเรี่ยวแรงอันมหาศาลของเขานั้นดูเหมือนจะไม่มีวันหมด ยังคงครอบครองเรือนกายขาวอย่างหื่นกระหายและร่ายรำไฟตัณหาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
หรือถ้าไฟดับมอดลง เขาก็เพียงแค่พักไม่นานแล้วไฟสวาสก็ลุกโชติช่วงชัชวาลย์ขึ้นมาอีก เจ้าของสองแก้มที่ยังคงมีน้ำตาอาบลงไปเป็นทาง ก็จำยอมพลีกายให้เขาใช้เป็นที่ระบายความโกรธแค้น ความเกลียดชังอีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง จนหมดซึ่งเรี่ยวแรงแล้วนอนขดตัวร้องไห้ตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเกือบตลอดคืน ผล็อยหลับไปตอนใกล้ฟ้าสางเพราะความเหนื่อยอ่อนนั่นเอง



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ย. 2556, 09:11:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ย. 2556, 09:11:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 1473





<< เกลียด เกลียด เกลียด   ของกำนัลวันกลับบ้าน >>
alecigor 19 ก.ย. 2556, 09:41:29 น.
พระเอกปากโคตรร้ายเลย


ไม้เอก 19 ก.ย. 2556, 19:59:45 น.
สงสารหนูนิ่ม


กันเกราธัญญรัตน์วรนัน 27 ก.ย. 2556, 19:56:11 น.
ใช่ค่ะ ปากสุดยอด งงเหมือนกันว่าตัวเองเขียนมาได้ยังไง แต่อารมณ์มันพาไปอะนะคะ ยิ้มมม

หนูนิ่มถูกกระทำตล้อดตลอดค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account