จุมพิตในเพลิงทราย
เมื่อ ราจีฟ เทพบุตรนักรักแห่งแดนทราย พ่ายต่อมนต์เสน่หาของดาราสาวไทย
เขาผู้ไม่เคยง้อใคร กลับยอมทุ่มสุดใจเพียงหวังให้ได้ สไบนาง มาแนบชิด
ทว่ามันกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อดาราดาวยั่วจอมหยิ่งไม่ทิ้งดีกรีรั้นร้าย
เลือดร้อนของหนุ่มนักรักแดนทรายจึงกระหายอยากปราบพยศ
+++
และโชคชะตาได้นำพาเขาและเธอมาพบกันในแดนทราย
ในขณะที่เทพบุตรนักรักถูกจับคลุมถุงชนกับหญิงสาวปริศนา
แต่ครั้นเมื่อได้พบหน้า ราจีฟต้องตกตะลึงงันอย่างไม่คาดคิด
หญิงสาวที่เขาหมายปองซุกซ่อนตนอยู่ภายใต้ผ้าคลุมสีสวย
กระแสปรารถนาหวามไหวไม่อาจเก็บซ่อน...ยามสองกายแนบชิดสนิทกัน
แม้คิดว่าเป็นคนละคน แต่เมื่อใกล้เธอแล้วใจสั่น ก็ไม่มีวันที่เขาจะปล่อยให้หลุดมือ!

จุมพิตหวานท่ามกลางเพลิงทรายร้อนระอุ
ปริศนาที่ถูกปิดซ่อนไว้ยังไม่ถูกคลี่คลาย
เธอคือใคร และเขาจะทำอย่างไรเมื่อสตรีที่ยอมพลีใจให้ไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว
แล้วเขาและเธอจะฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ไปได้หรือไม่?
ร่วมไขปริศนารักหวานท่ามกลางเพลิงทรายร้อนได้ใน...จุมพิตในเพลิงทราย
Tags: ลินิน ทราย

ตอน: ตอนที่ 3 40%

สไบนางแอบหลบลำยองที่แวะเข้าร้านสปาไป รพ.จิตเวช โดยอ้างว่าขอออกไปชอปปิงให้หายเหนื่อยจากการทำงานติดต่อกันมาหลายวัน
ลำยองแทบว่าจะไม่ปฏิเสธงานไหนที่ติดต่อมาเลย ทั้งงานเดินแบบ ถ่ายแบบ อีเวนท์ ละคร แล้วไหนจะรายการต่างๆ ทำให้เธอแทบไม่มีเวลาหายใจเลยตลอดสองสัปดาห์
หญิงสาวลงจากรถด้วยหัวใจเต้นระทึก ซื้อขนมที่ยายเคยบอกเอาไว้ว่าเป็นของที่แม่ชอบมาหลายอย่าง หวังว่าแม่คงไม่อาละวาดเอากับเธอ แค่เพียงรอยยิ้มหรือคำทักทายไม่กี่คำ เธอก็พอใจ กับเธอดูเหมือนแม่จะตั้งป้อมปราการแข็งแรงเอาไว้ แต่กับคนอื่น แม่กลับพูดคุยด้วยเป็นปกติ
เกิดอะไรขึ้นกันนะ จู่ๆ ทำไมแม่ถึงได้เกลียดลูกในไส้ของตัวเอง
สไบนางส่งขนมให้พยาบาลเวรเป็นของฝาก แล้วยื่นความประสงค์ขอเข้าเยี่ยมแม่ พยาบาลหายไปชั่วครู่ก็เข็นรถที่มีแม่ของเธอในชุดคนไข้สีชมพูนั่งมา หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ดวงตาของแม่ที่ทอดจับเธอดูเหม่อลอย ไม่มีทีท่าจะจดจำได้ว่าเธอเป็นลูกสาว
“แม่เป็นยังไงบ้างคะ” เธอเอ่ยถาม มือวางทาบไปบนหัวเข่าในชุดคนป่วย หยาดน้ำตารื้นขึ้นมาทั้งสองข้าง กี่ปีมาแล้ว แม่ก็ยังอยู่ในสภาพเดิม
“ใคร ฉันไม่รู้จัก มาหาฉันทำไม” เครือวัลย์ ขยับเข่าหนีแล้วมองตอบสไบนางอย่างไม่ไว้ใจ พยาบาลจึงก้มหน้าลงมาบอก
“คุณเครือวัลย์จำไม่ได้หรือคะ มองให้ดีๆ สิคะ”
คนป่วยทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย สไบนางยิ้มกว้างเมื่อแม่มองมา หากแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเครือวัลย์ตวาดพลางกรีดร้อง
“นังบ้า ไปนะ ไปนะ!”
“แม่ แม่จ๋า…หวานเป็นลูกแม่ไงจ๊ะ ลูกสาวคนเดียวของแม่” หญิงสาวร้องไห้ เมื่อสบเข้ากับดวงตาเย็นชาว่างเปล่าของแม่บังเกิดเกล้า
“ฉันไม่มีลูก พาฉันไป มันจะฆ่าฉัน” เครือวัลย์ดิ้นรนอาละวาดจนพยาบาลต้องร้องเรียกให้คนมาช่วยจับตัวเอาไว้ พร้อมยาฉีดระงับประสาท จากนั้นอาการของเครือวัลย์จึงค่อยสงบลง และหลับพับคารถเข็น สไบนางมองตามหลังรถเข็นแม่ไปด้วยความร้าวรานใจ
“อาการของแม่ไม่ดีขึ้นเลยหรือคะ”
“ไม่นะคะ อาการของคนไข้ดีขึ้นมาก พูดจาหัวเราะกับคนอื่นๆ แต่ดิฉันก็แปลกใจ ทุกครั้งที่เห็นคุณสไบนาง คนไข้จะมีอาการอย่างนั้นทุกที”
“หวานก็ไม่ทราบค่ะ อย่างนั้นหวานขอตัวกลับก่อนนะคะ ฝากขนมนี่ให้แม่ด้วย” หญิงสาวยิ้มเศร้า เดินคอตกออกไป พยาบาลเองก็มองตามอย่างเห็นใจ ไม่ว่าจะตะล่อมถามอย่างไร คนไข้ก็ไม่เคยเอ่ยปากถึงเรื่องราวเกี่ยวกับลูกสาวให้ฟัง
สไบนางเช็ดน้ำตา แล้วปรับเสียงเครือสะอื้นให้เป็นปกติ เมื่อมีสายจากลำยองแม้จะพยายามฝืนทำเสียงให้ร่าเริงแล้ว แต่ผู้เป็นน้าก็ยังจับได้อยู่ดี
“แกไปไหนมา”
“หวานก็มาซื้อของแถวนี้แหละ น้าจะเอาอะไรไหม หวานจะซื้อไปฝาก”
“ไม่ต้องเลยนะ ฉันจับน้ำเสียงแกได้ ให้เดาเถอะ แกแอบไปหาพี่เครือใช่ไหม รีบออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ เดี๋ยวเถอะ นักข่าวมาเห็นเข้าจะทำยังไง” ลำยองร้อนใจ หลานสาวคนนี้หัวดื้อหัวรั้น ตักเตือนอะไรก็ไม่เคยฟัง คนดูจะรับได้ยังไง ที่นางเอกในดวงใจมีแม่เป็นบ้า
“เจอก็บอกเขาไปตามตรงสิ หวานไม่เห็นอาย”
“ถ้าแกเป็นนังหวาน เด็กสลัมคนเก่าก็ไม่มีใครสนแกหรอก แต่ตอนนี้แกคือ สไบนาง นางเอกเบอร์หนึ่งของช่อง ฉันหวังดีกับแกนะ ถ้าวันหนึ่งคนหมดความนิยมขึ้นมา แกก็แย่ ฉันเห็นมานักต่อนักแล้ว พวกนางเอกเก่าๆ ต้องเอาของเก่ามาขายกิน”
“หวานมีเงินเก็บ ถึงหวานไม่มีงานแสดงแล้ว หวานก็ไม่เอาตัวเข้าแลกงานหรอก น้าก็รู้นี่ว่าหวานไม่ใช่คนแบบนั้น เพราะถ้าหวานจะทำ ก็คงทำไปนานแล้ว”
“เงินเก็บ? จะซักเท่าไรเชียว บ้านกับรถแกก็ยังต้องผ่อน ฉันบอกแล้ว แค่ไปกินข้าวกับเสี่ยซ้ง เขาก็จ่ายแกเป็นแสน ใคร๊มันจะโง่ไม่เอา” ลำยองพูดมาถึงเรื่องนี้แล้วชักหงุดหงิด ถ้าสไบนางรับปากไปกินข้าวกับเสี่ยซ้ง เธอเองก็จะได้ของกำนัลเล็กๆ น้อยๆ เป็นสินน้ำใจ อย่างน้อยก็หลักหมื่นละ
แต่หลานของเธอมันโง่ หยิ่งไม่เข้าเรื่อง แค่ไปนั่งยิ้มหวานๆ พูดจาเอาอกเอาใจเขาหน่อย ไม่ได้ไปทำอะไรมากกว่านั้น ได้ตั้งเป็นแสนยังไม่ยอมเอา
“หวานยอมโง่ ดีกว่าให้คนมาดูถูก”
“โอ๊ย…ฉันไม่อยากพูดกับแกแล้ว เป็นไงล่ะ ไปหาพี่เครือ คงยิ้มหวานให้แกมาทีหนึ่ง ตามด้วยหอมแก้มไปอีกหลายฟอดสินะ” ลำยองประชดให้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าพี่สาวเป็นอะไร ทำไมถึงได้จงเกลียดจงชังลูกสาวคนนี้นัก เธอหายไปจากบ้านหลายปี กลับมาพี่สาวก็เป็นบ้าไปแล้ว
“น้ารู้แล้วยังจะถาม”
“แต่แกก็ไป?”
“ก็เขาเป็นแม่หวานนี่ ต่อให้แม่เกลียดหวายังไง หวานก็ยังรักแม่เหมือนเดิมนั่นแหละ แล้วนี่น้าอยู่ที่ร้านรึเปล่า เดี๋ยวฉันออกไปรับ”
“รีบมาก็แล้วกัน อ้อ..พรุ่งนี้แกมีงานอีเว้นท์โทรศัพท์มือถือนะ ตอนบ่ายของรถมอเตอร์ไซค์” ลำยองรีบบอกก่อนที่หลานสาวจะวางสายไป
สไบนางถอนหายใจ รู้สึกอ่อนล้า อยากไปพักผ่อนในที่ไกลๆ บ้าง แต่เธอก็รู้ดีว่าภาระหน้าที่มีมากเหลือเกิน น้าเธอเองก็พูดถูก เงินเก็บที่เธอมี ทำอะไรไม่ได้มากนักในสมัยนี้ แถมยังต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาของแม่แต่ละเดือนทุกอย่างรวมกันก็เล่นเอาชักหน้าไม่ถึงหลัง

ช่างแต่งหน้าปัดบลัชออนไปบนพวงแก้มของสไบนางเป็นลำดับขั้นตอนสุดท้าย วันนี้เธอมีถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำแบบทูพีช คู่กับนายแบบนิโกรผิวหมึกสองคน เรื่องงาน ต่อให้เปลืองเนื้อเปลืองตัว หรือโชว์เนื้อหนังแค่ไหน เธอไม่เกี่ยง แต่งานพิเศษที่ลำยองขยันสรรหามาให้ เธอไม่คิดจะเอา
แม้ว่ามันจะได้มากกว่าการที่เธอต้องเหนื่อยอดหลับอดนอนหลายเท่าก็ตาม
“หุ่นน้องหวานเฟิร์มมากค่า พี่ละอิจฉา” ช่างแต่งหน้ามองอย่างชื่นชม รูปร่างสมส่วนไร้ที่ติ ใบหน้าหวานคล้ายสาวแขก ยามต้องเล่นบทอมทุกข์ก็ดูเศร้า ยามเมื่อต้องอยู่ในบทบาทเซ็กซี่โชว์เนื้อหนังก็ทำให้ได้ดีเยี่ยม จนเชื่อว่าเธอคือนางเสือสาวยั่วสวาทจริงๆ
“หุ่นพี่เอี้ยงก็ดีเหมือนกันนะคะ เนื้อแน่นเชียว” หญิงสาวแกล้งหยอกเอินด้วยการบีบหมับไปบนต้นขากำยำของช่างแต่งหน้าที่มีความเป็นชายเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ฝ่ายนั้นมองค้อนแล้วหัวเราะขึ้น ตั้งแต่ทำงานในวงการแต่งหน้าให้ดารามานับไม่ถ้วน ก็เห็นมีสไบนางนี่แหละที่ไม่ถือตัว เป็นที่รักของทุกคน
“เฟิร์มแค่ไหน ก็สู้คุณหวานไม่ได้หรอกค่า โน่นแหนะคุณใหญ่เรียกแล้ว แดดกำลังงาม” ช่างแต่งหน้ารุนหลังเธอให้ออกไป แสงแดดยามเช้าบนเกาะห่างไกลผู้คนกำลังสวยพอดี แดดตกกระทบกับเม็ดทรายเล็กๆ ดูระยิบระยับเช่นเดียวกับผืนน้ำทะเลสีฟ้าตัดกับขอบฟ้าสีคราม
นายแบบรออยู่ก่อนแล้วในชุดกางเกงว่ายน้ำ ผิวสีหมึกทาทับด้วยกากเพชรดูแวววาว สายตาชายหนุ่มทั้งสองจับจ้องหญิงสาวไม่วางตา
ผู้หญิงเอเชีย ผิวสีน้ำผึ้งเนื้อละเอียด หน้าตาราวเทพธิดาจำแลง ใช่จะผ่านตามาให้เห็นง่ายๆ
สไบนางกล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษกับชายหนุ่มทั้งสอง เพื่อเป็นการทำความรู้จักกันในขั้นต้น จากนั้นจึงถูกจับให้โพสท่าทางตามสไตลิสต์ มองจากภาพค่อนข้างเปลืองตัว แต่คนถ่ายก็พยายามเซฟให้เธออย่างสุดๆ งานนี้เธอได้ค่าจ้างมามากพอจะหลับหูหลับตาถ่ายให้เสร็จ
ขอแค่เป็นงานสุจริตเท่านั้นพอ



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ย. 2556, 22:56:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ย. 2556, 22:56:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1132





<< ตอนที่ 2 100%   ตอนที่ 3 100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account