จะเก็บไว้ในใจจนนิรันดร์
ถ้าไม่มีงานสัมมนานั้นอังศุมาลินคงไม่นึกถึงเขาคนนั้นอีก ทั้ง ๆ ที่หลายปีที่ผ่านมาเธอลืมเขาไปแล้วแท้ ๆ เขาที่เธอแอบรักมาตั้งแต่เรียนมัธยม เขาที่ไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง และเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
Tags: รักสามเศร้า / สับสน / วุ่นวาย
ตอน: 16 มันเกิดอะไรกับความสัมพันธ์ของเรา (วะ)
16 มันเกิดอะไรกับความสัมพันธ์ของเรา (วะ)
แม้ว่างานเลี้ยงปีใหม่เกิดเรื่องผิดพลาดไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นผลดีกับทุกฝ่ายเพราะลูกค้าที่ได้ขวานไปนั้น พัฒนากรมารู้ทีหลังจากปรเมตรว่าเขาเชื่อเรื่องดวง เรื่องฮวงจุ้ยมาก แล้วเขาก็ไม่ดื่มของมึนเมาทุกชนิดด้วย
“ไม่ต้องมายิ้มเลย” พัฒนากรรีบดักทางภรรยาที่ทำท่าจะคุยอวด
“โธ่ค่าไวน์นั้นเราคืนให้ก็ได้”ว่าแล้วก็หยิบกระเป๋าเงินออกมานับเงิน แต่สามีก็ยังไม่ยอมพูดอะไร เธอเลยต้องเงยหน้าขึ้นมา“เท่าไหร่ก็บอกมาสิ”
“มันแพงนะ”
“เท่าไหร่ล่ะ”
“ไม่ต้องหรอก ถือว่าเจ๊ากัน”พัฒนากรเลือกที่จะบอกปัดแทนการบอกราคาจริง
อาจจะเป็นเพราะทั้งสองคนใช้เงินคนละกระเป๋าอังศุมาลินเลยไม่รู้ว่าราคาไวน์สองขวดนั้นมันเท่าไหร่ และพัฒนากรก็รู้ดีว่าอังศุมาลินเองก็ไม่ค่อยมีเงินเพราะเงินเก็บของเธอก็มาซื้อคอนโดนี้หมดแล้ว
“มันแพงมากเลยเหรอ”ครั้งนี้อังศุมาลินถามเสียงอ่อย เริ่มจะรู้สึกถึงราคาของเจ้าสองขวดนั้น “เราช่วยออกขวดหนึ่งก็ยังดี เกรงใจเธอยิ่งรู้ว่ามันแพงก็ยิ่งเกรงใจ”
“ไม่ต้องก็คือไม่ต้องไง”พูดแล้วย่างสามขุมมาหอมหน้าผากเมียแล้วหยอกล้ออยู่พักหนึ่ง “ของผัวก็เหมือนของเมียนั้นล่ะ อืมวันนี้เราไปปาร์ตี้กับเพื่อนก่อนนะแล้วเดี๋ยวจะตีรถกลับบ้านที่ชลเลยอยู่บ้านดี ๆ ล่ะ จุ๊บ”
ก่อนไปก็จูบหน้าผากไปอีกหนึ่งที อังศุมาลินอ้าปากจะท้วงแต่ก็ไม่ทัน
“เราอยากให้ฉลองกับเรา ซื้อของมาทำเค้กด้วยกัน”
เธอได้แต่พูดเสียงเบา วันเกิดปีแรกของพัฒนากรที่เธอได้ใกล้ชิดกับเขาจริง ๆ เธอก็เลยอยากทำอะไรที่พิเศษด้วยกันแต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สนใจ แม้จะชวนเธอออกไปด้วยก็ไม่มี หรือจะชวนกลับบ้านก็ไม่อีก
แต่อังศุมาลินก็ไม่ละความพยายามเธอออกไปซื้อวัสดุทำเค้กเองและห้างสรรพสินค้าก็อยู่ไม่ไกลการนั่งรถเมล์ก็เลยเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและประหยัดเงินในกระเป๋า แม้ว่าเธอจะไม่ใช่นักเขียนไส้แห้งอะไร แต่ถ้าสมองของเธอเกิดดับเมื่อไหร่ไส้เธอก็คงจะต้องแห้งในสักวัน
“รูปในนี้มันจะน่ากินไปไหนเนี่ย ว้าวเล่มนี้ล่ะแล้วก็ต้องไปต่อที่แผนกของสด”
อังศุมาลินเลือกที่จะทำเค้กสตรอเบอร์รีแบบที่สามีชอบกิน เธอเลือกของอยู่นานสองนานจนเวลาเลยมาจนค่ำ ด้วยความเมื่อยและหิวเป็นหลักอังศุมาลินเลยต้องจำใจหาอาหารทานในห้าง และด้วยความไม่ระวังเธอเลยเดินไปชนกันคนอื่นเข้า แต่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก
“อิฐคิดถึงจังไม่ได้เจอตั้งหลายวัน มาทำอะไรเหรอ”อังศุมาลินตั่งท่าจะจับมือแต่ข้าวของกลับเต็มมือเธอไปหมด
“ก็มาหาอะไรกินน่ะ พอดีมางานเปิดตัวสินค้าความสวยความงามที่นี่ ว่าแต่ซื้ออะไรมากมาย มาอิฐช่วยถือนะ”อธิษฐานไม่รอช้าที่จะแย่งของจากมือหญิงสาว
“พรุ่งนี้วันเกิดพีมน่ะก็เลยอยากจะทำเค้กให้เขา”
“น่าอิจฉาเขาจังนะ”พูดเสียงเศร้าเหมือนคนอกหัก อังศุมาลินก็เลยแจกฝ่ามือให้ไปหนึ่งที “เจ็บนะ”
“อิฐก็เคยได้กินทุกปี”
“แต่ปีนี้เราคงอด”น้ำเสียงยังคงเศร้าเหมือนเดิม
“บ้า เดี๋ยวพอถึงวันเกิดอิฐเราก็ทำให้อยู่ดี เข้าไปหาอะไรกินกันดีกว่าหิวม๊ากมาก”
อังศุมาลินทำตัวอ้อนด้วยความเคยชิน โดยอาจจะลืมความรู้สึกของอธิษฐานไปบ้าง แต่ก็เพื่อความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเองอธิษฐานเลยเลือกที่จะเดินตามน้ำ
อาหารมื้อนี้ดูจะอร่อยที่สุดในรอบปีของอธิษฐาน อังศุมาลินก็พลอยลืมความทุกข์ไปด้วย แต่พอถึงเวลาคิดเงินแค่นั้นแหละอังศุมาลินก็ถึงกับจะหงาย
“สามพันสองร้อยเจ็ดสิบสาบบาทค่ะ”บริกรสาวยื่นใบเสร็จให้อธิษฐาน ชายหนุ่มจ่ายเงินให้อย่างง่ายดาย
“แพงเป็นบ้าเลยอิฐ รู้แบบนี้ออกไปกินข้างนอกดีกว่า”อังศุมาลินทำท่าเสียดายเงิน
“นิดหน่อยน่าถือว่าซื้อความสุข”อธิษฐานยิ้มปลอบใจ “แล้วจะกลับยังไง”
“คงจะรถเมล์แหละ”
ทันทีที่อังศุมาลินพูดจบอธิษฐานก็รู้สึกแปลกใจ
“พีมไม่มารับเหรอ เขายังทำงานอยู่ที่โน้นรึไง”
“เอ่อ”พอฟังคำถามอังศุมาลินก็แอบพูดไม่ออก “อืม เขาอยู่ที่บ้านแม่คงจะทำบุญกับที่โน้นแล้วคงจะกลับมา”
“แบบนั้นอิฐไปส่งที่คอนโดเอง ของเยอะแบบนี้กว่าจะถึงก็หนักแย่”
“ไม่เป็นไร”หญิงสาวรีบปฏิเสธ เพราะพอท้องอิ่มความรอบครอบก็กลับมา แม้ว่าเธอจะไม่ได้คิดมากอะไร แต่คนรอบตัวเธอ และโดยเฉพาะพัฒนากรคงจะไม่ชอบใจแน่“เรากลับเองได้ ขอบใจอิฐมากนะ”
“ได้ แต่ของพวกนี้อิฐจะเอาไปเอง อิ้งก็กลับไปตัวเปล่าแล้วกัน”
อธิษฐานใช้ความไวรวบของทั้งหมดไว้ในมือแล้วเดินออกจากร้านไป อังศุมาลินทำท่าจะเดินตามแต่ก็ต้องหยุดเมื่อคิดได้ว่าเมื่อกี้อธิษฐานจ่ายแบงค์พันไปสี่ใบเพราะฉะนั้นเงินทอนยังเหลืออีกตั้งเจ็ดร้อยกว่าบาท
“เงินทอนคะ”
บริกรสาวคนเดิมเดินมายื่นเงินให้ อังศุมาลินทำท่าจะเก็บไปทั้งหมดแต่พอเห็นสายตาที่จ้องเธออยู่ หญิงสาวก็เลยต้องตัดใจหยิบแบงค์ห้าร้อยกับแบงค์ร้อยอีกหนึ่งใบ แล้วรีบวิ่งออกจากร้านลงมาที่หน้าห้างก็พบรถของอธิษฐานกำลังจะจอดพอดี
“ร้ายจริงนะ”อังศุมาลินรีบเปิดประตูแล้วตีแขนคนร้ายกาจไปทีหนึ่ง “เงินทอนหกร้อย”
“เงินทอนมันเจ็ดร้อยกว่าไม่ใช่เหรอ”ที่เขาถามเพราะรู้ดีว่าอังศุมาลินเป็นคนยังไง เงินทุกบาทมีค่าเสมอ ยกเว้นเวลาโกรธ อารมณ์จะมีค่ามากกว่าเงินขึ้นมาทันที
“ก็พนักงานร้านนั้นเล่นมองตาไม่กะพริบ จะให้เราทำยังไงล่ะ รับไปสิถือจนเมื่อยแล้ว”
“ทีนี้บ่นเมื่อย แล้วจะแล้วจะถือของหนักขนาดนั้นขึ้นรถเมล์ ขอบคุณนะครับสำหรับเงินทอน”พูดแล้วก็หัวเราะรับเงินทอนมา คนเขินก็เลยบรรจงตีเขาไปอีกหนึ่งที แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาคงจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขาเคยบอกกับตัวเองไว้แล้วว่าไหล่ข้างนี้เป็นของเธอเสอม
อธิษฐานทำงานจนลืมเวลาเกือบทุกวัน นัดคนไข้ได้จนถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง หรือถ้ามีงานนอกก็จะกลับมารับคนไข้อย่างน้อย ๆ สองคนถ้าเวลายังเหลือ
“เธอตั้งแต่แฟนคุณหมอแต่งงานไปคุณหมอก็ดูคร่ำเคร่งกับงานมากเลยนะเธอ”
“นั้นสิ ฉันล่ะอยากจะเข้าไปดูแล”
พยาบาลผู้ช่วยสองคนนินทาอธิษฐาน
“เขาคงแลเธอแหละ ทำงานกับคุณหมอมากี่ปีแล้วล่ะ เป็นฉันก็ว่าไปอย่าง”
“ย่ะ แต่วันนี้ดูคุณหมอไม่ค่อยมีความสุขเลยนะตาแดง ๆ ด้วย”
“คุณหมอออกมาแล้ว”
พยาบาลสองสาวตกใจรีบก้มหน้าลงเหมือนกำลังทำงาน เมื่ออธิษฐานรีบวิ่งแจ้นออกจากห้องหน้าตาตื่น
“เธออยู่ไหน”
ชายหนุ่มวิ่งมาจนถึงห้องฉุกเฉินตรงไปหาหมอกุ้งที่ยืนรออยู่
“อยู่ข้างใน อาการเป็นยังไงก็ไม่รู้ ไก่ดูอยู่”
“เธอมาที่นี่ได้ยังไง บ้านเธออยู่ตั้งไกล”
“นายไม่รู้แล้วฉันจะรู้ไหมล่ะ”
อีกราวสิบนาทีหมอไก่ก็เดินออกมาจากห้องด้วยรอยยิ้ม
“ยินดีด้วยนะอิฐเธอตั้งท้องได้สองสัปดาห์แล้ว”
อธิษฐานยิ้มได้ครึ่งเดียว หมอไก่เลยงงจนหมอกุ้งต้องกระซิบบอก
“อิ้งเขาไปแต่งงานกับคนอื่นแล้ว”
“ฉันขอโทษด้วยนะอิฐ ฉันไม่รู้”หมอไก่รีบขอโทษขอโพย “แล้วสามีเธอไปไหนล่ะอิฐติดต่อเขารึยัง”
“เดี๋ยวผมโทรเอง แล้วตอนนี้เธอเป็นอย่างไงบ้าง”
“เธอหลับอยู่เข้าไปดูเธอสิเดี๋ยวก็คงจะตื่นแล้ว”
อธิษฐานขอบคุณทั้งสองคนแล้วเดินเข้ามาหาอังศุมาลินที่หลับอยู่ที่เตียง แล้วพยาบาลคนหนึ่งก็เอาถุงบางอย่างมายื่นให้
“คุณผู้หญิงท่านนี้เอามาคะ”
“ขอบคุณครับ”อธิษฐานกล่าวขอบคุณแล้วเปิดดู เป็นจังหวะเดียวกับที่อังศุมาลินตื่น“อิ้งตื่นแล้วเหรอ”
“อิฐเราเป็นอะไรไป”
“อิ้งเป็นลมน่ะ เราดีใจด้วยนะ”พูดแล้วยิ้มอ่อนโยน อังศุมาลินเลยไม่เข้าใจว่าอธิษฐานพูดเรื่องอะไร
“ดีใจเรื่องอะไร”
“อิ้งกำลังจะมีเจ้าตัวน้อยนะสิ ถ้าพีมรู้เขาก็ต้องดีใจ”
“ถ้าเขารู้อะนะ”พูดเสียงเศร้าแล้วมองไปที่ของในมืออธิษฐาน “เมื่อวานเขาโทรมาบอกว่าจะอยู่ที่นั้นครึ่งเดือน เราก็เลยเอาเค้กมาแบ่งให้อิฐ”
“อิ้งได้บอกเขารึเปล่าว่าทำเค้กไว้ให้”
“คุยกันไม่ถึงสิบห้าวิเลย เมื่อเช้าโทรไปก็ไม่รับสาย โทรหาที่บ้านก็บอกว่าไปทำงานแล้ว”ยิ่งพูดอังศุมาลินก็ยิ่งรู้สึกเศร้า แม้จะดีใจอยู่ไม่น้อยที่กำลังจะมีพยานรักเกิดขึ้นมา แต่ความเศร้าที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ได้ลดลงเลย “ทำไมนะเมื่อก่อนเรามีเวลาอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่พอแต่งงานกันเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงมันน้อยเหลือเกิน”
“อย่าเศร้าสิ มันก็แค่ช่วงนี้แหละ เดี๋ยวอีกไม่นานเขาก็ต้องเข้าประจำที่บริษัทเหมือนเดิม”คำพูดปลอบใจคนรักเก่า มันช่างบาดใจตัวเองเหลือเกิน
อังศุมาพยุงตัวเองลุกจากเตียงอธิษฐานเลยรีบเข้าไปช่วย
“ตอนที่เราเอาแต่ทำงาน อิฐก็คงจะรู้สึกแบบเราตอนนี้ใช่ไหม การที่เราต้องอยู่ห่างกัน อิฐคงจะเหงา แล้วก็คงจะเศร้ามาก”
อธิษฐานได้แต่ยิ้ม อังศุมาลินคงไม่รู้หรอกว่าตอนนี้แม้เขาจะอยู่ใกล้เธอแต่มันก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ
แต่ยังไงก็ตามอธิษฐานก็ยังแนะนำให้อังศุมาลินรีบบอกข่าวดีกับพัฒนากร และเขาก็จะไปส่งเธอด้วยตัวเอง ด้วยความเร็วรถหกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง จนรถจักยานยนต์ขับแซงไปไม่รู้กี่คัน
“อิฐเรากำลังขับรถทางไกลนะ เร่งหน่อยก็ได้”
“ได้ไงถ้าเกิดไปเจอหลุม เจอบ่อก็แย่สิ นี่เรายังคิดว่ามันยังเร็วไปด้วยซ้ำ”
อังศุมาลินเถียงไม่ออก รู้ว่าทั้งหมดเพราะอธิษฐานเป็นห่วงเธอกับลูกในท้อง
“อิฐว่าลูกเราจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”อังศุมาลินถามเสียงใส
“คงผู้หญิงมั่ง เพื่อนอิ้งทุกคนก็มีแต่ลูกผู้หญิงนี่ อิฐว่าคนที่ดวงสมพงศ์ที่เป็นเพื่อนกันได้ลูกคงจะออกมาเป็นเพศเดียวกัน”
“อิฐเป็นหมอสันฯ หรือหมอดูเนี่ย”อังศุมาลินแอบประชด “ถ้าลูกเราเป็นผู้หญิงนะ เรายกให้อิฐเลย”
“ให้เราเป็นพ่อทูนหัวเหรอ”
“ไม่ใช่ เป็นแฟน”
“เฮ้ย บ้า”อธิษฐานถึงกับสมาธิเสีย หน้าก็แดง
“จริง ๆ บนโลกนี้จะมีผู้ชายที่ดีสักกี่คน ถ้าอิฐรอลูกเราไหม เรายกให้เลย”หญิงสาวพูดเหมือนกำลังฝัน สีหน้าแววตามีความสุขไปหมด
ชายหนุ่มหัวเราะหึ ๆ แกล้งเก้อ แต่ผู้ชายดี ๆ คนนี้อิ้งก็ไม่เอาไม่ใช่เหรอ
พัฒนากรกำลังครำเคร่งกับงานที่ผิดพลาด เพราะช่างรับเหมาอีกเจ้าที่บริษัทหามาใช้ของผิดสเปคงานตึกที่เขารับผิดชอบเลยผังครึนลงมา แต่โชคดีอยู่อย่างที่ไม่มีใครเป็นอะไรมาก
“ผมต้องรายงานไปที่บริษัทอยู่แล้ว คุณทำแบบนี้มันคือการโกงกันชัด ๆ”
“โกงบ้าบออะไร”คนรับเหมาที่อายุรุ่นพี่พ่อของพัฒนากรตะโกนเสียงดัง “กูก็ทำงานของกูแบบนี้มาเป็นสิบ ๆ ปี มึงมันไอ้เด็กหัดใหม่จะไปรู้อะไร”คนผิดไม่ยอมรับผิดโทษปี่โทษกองไปทั่ว
“ลูกพี่พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกหนา”พิภพออกหน้า ดูจากอายุงานคนที่น่าจะเถียงกันได้ก็คงจะมีแต่เขา “นายช่างอายุน้อยก็จริงแต่เขาก็ร่ำเรียนมาสูง ประสบการณ์ด้านงานออกแบบก็มีมากโข”
“แล้วมึงมายุ่งไรด้วยวะ งานมึง มึงก็ทำไปอย่ามายุ่ง”คนรับเหมาไม่ยอมแพ้ถือว่าตัวเองเก๋าเกมกว่า
“ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก งานลูกพี่มันก็งานผมถึงจะคนละส่วนแต่ก็งานเดียวกัน ลูกพี่พัง งานผมก็มีผลกระทบ”
“แล้วพวกมึงจะเอาไง”
“ผมก็ไม่ยังไงทั้งนั้น คุณแค่เก็บของกลับบ้านไปให้หมดก็พอ”พัฒนากรบอก
“ค่าแรงกูล่ะ ลูกน้องกูด้วย กูทำงานให้มึงมาเป็นเดือน ๆ แล้วนะโว้ยใครกันแน่ที่โกง”คนรับเหมายังมีหน้ามาโวยวาย
พิภพมองคนงานที่ยืนมองตาปริบ ๆ เขารู้ดีว่าคนอาบเหงื่อต่างน้ำ มันเหนื่อยแค่ไหน แต่เขาก็ต้องดูก่อนว่าพัฒนากรจะเอายังไง
“แค่แรงคุณผมคงให้ไม่ได้ เพราะค่าเสียหายที่เกิดขึ้นมันมากกว่าค่าแรงของพวกคุณอยู่มาก แค่ผมไม่เรียกค่าเสียหายคุณก็ดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แน่นะบริษัทอาจจะไม่ยอมก็ได้”
พอได้ยินพัฒนากรพูดคนงานก็พากันน้ำตาซึม เถียงก็เถียงไม่ได้เพราะฝ่ายผิดคือหัวหน้าพวกเขา
“ไม่ได้พวกกูจะตั้งมอบประทวง”คนรับเหมาตะโกนดังให้ได้ยินทั่วกัน ลูกน้องหันมองหน้ากันเหริกหลักไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกันดี
“ทุกคนฟังทางนี้”พิภพตะโกนก้อง “ฉันยินดีจะจ่ายแค่แรงให้ทุกคนครึ่งหนึ่ง ถ้าทุกคนจะยังยินดีทำงานให้ฉัน”
คนรับเหมาเจ้าปัญหาทำท่าไม่พอใจ แต่คนงานหลายคนมีท่าทีเห็นด้วย
“มาทำยังงี้ได้ไง มึงอยากจะหาเรื่องกูใช่ไหม”คนรับเหมาจะตรงเข้ามาทำร้ายพิภพ พัฒนากรรีบเข้ามาขวาง
“คุณกลับไปดี ๆ ตอนนี้ดีกว่า ก่อนที่ผมจะทำอะไรรุนแรง”ครั้งนี้พัฒนากรทำท่าเอาจริง ลูกน้องของเขาก็ด้วยเช่นกัน
“ฝากไว้ก่อนเถอะพวกมึง”
พัฒนากรยิ้มมุมปากส่งคนไร้เหตุผล แล้วหันมาหาพ่อตา
“พ่อจะเอาจริงเหรอครับ”
“เธอไม่เคยทำงานหนัก เธอไม่รู้หรอกว่าเวลาไม่ได้เงินมันรู้สึกยังไง พ่อเคยโดนมานับไม่ถ้วนแล้ว กว่าจะมายืนตรงนี้ได้”ตบไหล่ลูกเขยแล้วเดินไปหาคนงานของตัวเจ้าปัญหา “ใครจะทำงานกับฉันก็ตามไปลงชื่อ ไป ๆ”
พอทุกอย่างเริ่มเข้าสภาวะปกติพัฒนากรก็จัดการโทรรายงานไปที่บริษัทแล้วถ่ายรูปตามจุด ๆ เพื่อจะได้กลับเข้าไปส่งรายงานในวันพรุ่งนี้
“นายช่างเมียมาหา”คนงานวิ่งมาบอกแล้ววิ่งกลับไป
พัฒนากรรู้สึกแปลกใจที่อังศุมาลินมาหาเขาถึงที่นี้โดยไม่บอกกล่าว พอเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงพิภพหัวเราะลั่น
“มีอะไรกันเหรอ พ่อดูมีความสุขจัง”ถามพร้อมรอยยิ้ม แล้วก็ต้องแปลกใจที่อธิษฐานก็มาด้วย “นายมาด้วยเหรอ”
“เออพาเมียชาวบ้านมาส่ง อิ้งเขามีข่าวดีจะบอกนาย พ่อครับไปกันดีกว่าให้สามีภรรยาได้คุยกัน”
“เออ ๆ ดี ๆ อารมณ์ดีโว้ย เฮ้ยวันนี้เลี้ยงข้าวทุกคน”พิภพตะโกนลั่น ก่อนจะมีคนตะโกนกลับมาว่า
“ที่นี่กินฟรีทุกวันอยู่แล้ว”
“อิ้งมีอะไร ถึงได้มาถึงที่นี้”พัฒนากรหันมาถามภรรยาหลังจากที่หัวเราะพ่อตาเสร็จ
“คือเรา...”
ยังไม่ทันที่อังศุมาลินจะพูดอะไรเสียงโทรศัพท์ของพัฒนากรก็ดังขึ้น ชายหนุ่มดูเบอร์ก่อนที่จะทำมือให้สัญญาณขอเวลาก่อน อังศุมาลินนั่งรออยู่ไม่กี่นาทีชายหนุ่มก็เดินกลับมา
“พีมคือเรา...”
“อิ้งไว้ค่อยคุยกันนะ เราต้องรีบเข้าบริษัท”
“เราไปด้วยสิ เอ่อ...ไปเอาขอที่รถก่อนนะ”
“เร็ว ๆ ล่ะ”
อังศุมาลินพยักหน้าแล้วรีบวิ่งกลับไปที่รถ อธิษฐานเห็นอังศุมาลินลืมตัวก็เลยวิ่งเข้าไปเตือน แต่ในสายตาของพัฒนากรแล้วเหมือนเขากำลังโดนหยามอยู่
“เร็วเรารีบ”ชายหนุ่มรีบวิ่งมาหาภรรยาด้วยสีหน้าเครียด
“เสร็จแล้ว ๆ เราไปก่อนนะอิฐขับรถดี ๆ ล่ะ”อังสุมาลินโบกมือลา
“พีมนายก็ขับรถดี ๆ นะรู้ไหม อย่าให้อิ้งกระทบกระเทือนมาก”อธิษฐานตะโกนบอกพัฒนากรด้วยความเป็นห่วง ชายหนุ่มเหมือนจะรับรู้แต่กลับออกรถไปอย่างรวดเร็ว
“พีมขับช้า ๆ หน่อยสิ แถวนี้หลุมเยอะนะ”อังศุมาลินเตือนเสียงสั่น
“ไม่ได้หรอกอิ้ง เรารีบมาก ไม่รู้ว่าไอ้เลวนั้นมันไปพูดอะไรกับเจ้านายเราเขาโมโหมากเอาการเลย”
พัฒนากรดูเครียดจริง ๆ อังศุมาลินก็เลยได้แต่นั่งเงียบ ๆ เกร็งไปหมดทั้งตัว เห็นหลุมทีก็หลับตาที จนมาถึงถนนใหญ่เธอคิดว่าคงเบาใจได้แต่พอเอาเข้าจริง ๆ รถบรรทุกกับเยอะมาก พัฒนากรก็ขับปาดไปปาดมาอยู่หลายต่อหลายทีจนมาจอดรถที่ปั๊มน้ำมันเขาถึงได้รู้ว่าอังศุมาลินเหงื่อแตกท่วมตัวทั้ง ๆ ที่รถเปิดแอร์เย็นช่ำ
“ไม่สบายเหรอเหงื่อแตกซกเชียว ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
เขาเดินลงจากรถไปทันที อังศุมาลินแอบบนในใจว่าไม่คิดจะฟังคำตอบแล้วจะถามทำไม หญิงสาวก็เลยคิดว่าควรจะลงไปเข้าห้องน้ำบ้างก็ดี ล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย
“สงสัยจะไปเข้าห้องน้ำ”
พัฒนากรกลับมาที่รถเห็นอังศุมาลินไม่อยู่ก็เลยคิดว่าเธอไปเข้าห้องน้ำ เขาเลยเดินตรงเข้ามินิมาร์ทเพื่อหาของทานระหว่างทาง พอกลับมาถึงที่รถอังศุมาลินก็นั่งอยู่ในรถแล้ว
“กาแฟจ๊ะ”เขาส่งกาแฟให้เธอ
“ขอบคุณคร้า”อังศุมาลินลากเสียงยาว กำลังจะดูดกาแฟแต่เสียงของอธิษฐานดังแว่วเข้ามาในโสดประสาทเสียก่อน กาแฟงดได้ก็งดนะ
“ทำไมไม่กินล่ะ”
“พีมคือเรากำลังจะมี...”
อังศุมาลินตั้งใจจะบอกอีกครั้ง แต่โทรศัพท์เจ้ากรรมของสามีก็ดังขึ้นขัดจังหวะอีก
“ครับผมจะถึงภายในหนึ่งชั่วโมงครับ”ชายหนุ่มวางสายแล้วหันมาหาภรรยา “เราต้องการสมาธิมากอิ้งอย่าเพิ่งชวนเราคุยนะ”
โดนตัดบทกันจัง ๆ อังศุมาลินก็พูดไม่ออก ถึงกรุงเทพฯ แล้วค่อยบอกก็ได้ เธอคิดในใจ แต่แล้วพอถึงกรุงเทพฯ พัฒนากรก็รีบลงจากรถโดยให้อังศุมาลินขับรถไปจอดที่จอดรถแทน ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปในห้องของเจ้านายที่นั่งรอเขาอยู่
“สวัสดีครับท่านประทาน”ชายหนุ่มยกมือไหว้ ปวรภัท หรือคนส่วนใหญ่จะเรียกท่านว่า ท่านประทาน
“คุณดูเหนื่อย ๆ นะ นั่งพักก่อนสิ”ท่านประทานใช้น้ำเสียงอ่อนโยน เขาเป็นคนเดียวกันกับผอ. โรงพยาบาลที่อธิษฐานทำงานอยู่
“ขอบคุณครับท่าน”
“ผมเองก็ไม่ทราบหรอกนะว่าคุณเป็นคนยังไง มีหลายครั้งที่ผมตัดสินใจผิดพลาด อาจจะเป็นเพราะผมคงจะแก่เกินไปคุณว่าไหม”
“ไม่หรอกครับท่านประทาน ท่านมีงานที่ต้องรับผิดชอบเยอะมากกว่า มากกว่าที่ท่านจะรู้จักคนในการปกครองหมด”
“คุณพูดถูก ผมได้ข่าวว่าคุณแต่งงานแล้วใช่ไหม”
“ครับท่าน...เอ่อ...พ่อตาผมเป็นช่างที่มารับเหมางานที่ผมรับผิดชอบอยู่”
“ผมก็ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกัน จากช่างรับเหมาที่คุณไล่เขาออก คุณมีอะไรจะเล่าอีกไหม”ท่านประทานเปิดโอกาสให้พัฒนากรได้อธิบาย และชายหนุ่มก็เริ่มอธิบายในทันที
“ท่านประทานคงไม่คิดว่าผมแก้ตัวนะครับ”
“ไม่หรอก ผมเชื่อคุณ ลูกสะใภ้ผมเธอก็บอกผมแล้วล่ะ ก่อนที่คุณจะมาไม่กี่นาที ไม่อย่างนั้นผมคงจะเข้าใจผิดคุณไปกันใหญ่ แล้วผมก็มีข่าวดีจะบอกคุณด้วย จบงานนี้คุณก็อยู่ประจำบริษัทได้เลยนะ ผมเลื่อนตำแหน่งให้คุณเป็นผู้จัดการฝ่ายโครงการ”
“จริงเหรอครับ ขอบคุณมากครับท่าน”
ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ เขาดีใจจนบอกไม่ถูกและคนแรกที่เขานึกถึงก็คือภรรยา และรีบตรงมาไปเธอ อีกไม่นานเขาคงจะได้มีเวลาอยู่กับภรรยาทุกวันแล้ว อีกไม่นานจริง ๆ
“พีมเป็นไงบ้าง เขาว่าอะไรเธอรึเปล่า”อังศุมาลินถามน้ำน้ำเสียงห่วงใย
“เราจะได้มาอยู่ประจำที่นี่แล้ว ในฐานะผู้จัดการฝ่ายโครงการ”พัฒนากรยิ้มมีความสุขกอดเธอไว้แน่น แต่แล้วอังศุมาลินก็ผลักเขาออกเต็มแรงเช่นกัน“อิ้งเป็นอะไร”
อังศุมาลินส่ายหน้าแล้วยิ้มแห้ง ๆ แล้วหันหน้าหนี พัฒนากรมองอย่างไม่เข้าใจ หรือว่าเขาทำอะไรผิดไปรึเปล่าเธอถึงได้เงียบไปแล้วทำท่าทำทางรังเกียจเขาด้วย มันเกิดอะไรกับความสัมพันธ์ของเราวะ
แม้ว่างานเลี้ยงปีใหม่เกิดเรื่องผิดพลาดไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นผลดีกับทุกฝ่ายเพราะลูกค้าที่ได้ขวานไปนั้น พัฒนากรมารู้ทีหลังจากปรเมตรว่าเขาเชื่อเรื่องดวง เรื่องฮวงจุ้ยมาก แล้วเขาก็ไม่ดื่มของมึนเมาทุกชนิดด้วย
“ไม่ต้องมายิ้มเลย” พัฒนากรรีบดักทางภรรยาที่ทำท่าจะคุยอวด
“โธ่ค่าไวน์นั้นเราคืนให้ก็ได้”ว่าแล้วก็หยิบกระเป๋าเงินออกมานับเงิน แต่สามีก็ยังไม่ยอมพูดอะไร เธอเลยต้องเงยหน้าขึ้นมา“เท่าไหร่ก็บอกมาสิ”
“มันแพงนะ”
“เท่าไหร่ล่ะ”
“ไม่ต้องหรอก ถือว่าเจ๊ากัน”พัฒนากรเลือกที่จะบอกปัดแทนการบอกราคาจริง
อาจจะเป็นเพราะทั้งสองคนใช้เงินคนละกระเป๋าอังศุมาลินเลยไม่รู้ว่าราคาไวน์สองขวดนั้นมันเท่าไหร่ และพัฒนากรก็รู้ดีว่าอังศุมาลินเองก็ไม่ค่อยมีเงินเพราะเงินเก็บของเธอก็มาซื้อคอนโดนี้หมดแล้ว
“มันแพงมากเลยเหรอ”ครั้งนี้อังศุมาลินถามเสียงอ่อย เริ่มจะรู้สึกถึงราคาของเจ้าสองขวดนั้น “เราช่วยออกขวดหนึ่งก็ยังดี เกรงใจเธอยิ่งรู้ว่ามันแพงก็ยิ่งเกรงใจ”
“ไม่ต้องก็คือไม่ต้องไง”พูดแล้วย่างสามขุมมาหอมหน้าผากเมียแล้วหยอกล้ออยู่พักหนึ่ง “ของผัวก็เหมือนของเมียนั้นล่ะ อืมวันนี้เราไปปาร์ตี้กับเพื่อนก่อนนะแล้วเดี๋ยวจะตีรถกลับบ้านที่ชลเลยอยู่บ้านดี ๆ ล่ะ จุ๊บ”
ก่อนไปก็จูบหน้าผากไปอีกหนึ่งที อังศุมาลินอ้าปากจะท้วงแต่ก็ไม่ทัน
“เราอยากให้ฉลองกับเรา ซื้อของมาทำเค้กด้วยกัน”
เธอได้แต่พูดเสียงเบา วันเกิดปีแรกของพัฒนากรที่เธอได้ใกล้ชิดกับเขาจริง ๆ เธอก็เลยอยากทำอะไรที่พิเศษด้วยกันแต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สนใจ แม้จะชวนเธอออกไปด้วยก็ไม่มี หรือจะชวนกลับบ้านก็ไม่อีก
แต่อังศุมาลินก็ไม่ละความพยายามเธอออกไปซื้อวัสดุทำเค้กเองและห้างสรรพสินค้าก็อยู่ไม่ไกลการนั่งรถเมล์ก็เลยเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและประหยัดเงินในกระเป๋า แม้ว่าเธอจะไม่ใช่นักเขียนไส้แห้งอะไร แต่ถ้าสมองของเธอเกิดดับเมื่อไหร่ไส้เธอก็คงจะต้องแห้งในสักวัน
“รูปในนี้มันจะน่ากินไปไหนเนี่ย ว้าวเล่มนี้ล่ะแล้วก็ต้องไปต่อที่แผนกของสด”
อังศุมาลินเลือกที่จะทำเค้กสตรอเบอร์รีแบบที่สามีชอบกิน เธอเลือกของอยู่นานสองนานจนเวลาเลยมาจนค่ำ ด้วยความเมื่อยและหิวเป็นหลักอังศุมาลินเลยต้องจำใจหาอาหารทานในห้าง และด้วยความไม่ระวังเธอเลยเดินไปชนกันคนอื่นเข้า แต่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก
“อิฐคิดถึงจังไม่ได้เจอตั้งหลายวัน มาทำอะไรเหรอ”อังศุมาลินตั่งท่าจะจับมือแต่ข้าวของกลับเต็มมือเธอไปหมด
“ก็มาหาอะไรกินน่ะ พอดีมางานเปิดตัวสินค้าความสวยความงามที่นี่ ว่าแต่ซื้ออะไรมากมาย มาอิฐช่วยถือนะ”อธิษฐานไม่รอช้าที่จะแย่งของจากมือหญิงสาว
“พรุ่งนี้วันเกิดพีมน่ะก็เลยอยากจะทำเค้กให้เขา”
“น่าอิจฉาเขาจังนะ”พูดเสียงเศร้าเหมือนคนอกหัก อังศุมาลินก็เลยแจกฝ่ามือให้ไปหนึ่งที “เจ็บนะ”
“อิฐก็เคยได้กินทุกปี”
“แต่ปีนี้เราคงอด”น้ำเสียงยังคงเศร้าเหมือนเดิม
“บ้า เดี๋ยวพอถึงวันเกิดอิฐเราก็ทำให้อยู่ดี เข้าไปหาอะไรกินกันดีกว่าหิวม๊ากมาก”
อังศุมาลินทำตัวอ้อนด้วยความเคยชิน โดยอาจจะลืมความรู้สึกของอธิษฐานไปบ้าง แต่ก็เพื่อความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเองอธิษฐานเลยเลือกที่จะเดินตามน้ำ
อาหารมื้อนี้ดูจะอร่อยที่สุดในรอบปีของอธิษฐาน อังศุมาลินก็พลอยลืมความทุกข์ไปด้วย แต่พอถึงเวลาคิดเงินแค่นั้นแหละอังศุมาลินก็ถึงกับจะหงาย
“สามพันสองร้อยเจ็ดสิบสาบบาทค่ะ”บริกรสาวยื่นใบเสร็จให้อธิษฐาน ชายหนุ่มจ่ายเงินให้อย่างง่ายดาย
“แพงเป็นบ้าเลยอิฐ รู้แบบนี้ออกไปกินข้างนอกดีกว่า”อังศุมาลินทำท่าเสียดายเงิน
“นิดหน่อยน่าถือว่าซื้อความสุข”อธิษฐานยิ้มปลอบใจ “แล้วจะกลับยังไง”
“คงจะรถเมล์แหละ”
ทันทีที่อังศุมาลินพูดจบอธิษฐานก็รู้สึกแปลกใจ
“พีมไม่มารับเหรอ เขายังทำงานอยู่ที่โน้นรึไง”
“เอ่อ”พอฟังคำถามอังศุมาลินก็แอบพูดไม่ออก “อืม เขาอยู่ที่บ้านแม่คงจะทำบุญกับที่โน้นแล้วคงจะกลับมา”
“แบบนั้นอิฐไปส่งที่คอนโดเอง ของเยอะแบบนี้กว่าจะถึงก็หนักแย่”
“ไม่เป็นไร”หญิงสาวรีบปฏิเสธ เพราะพอท้องอิ่มความรอบครอบก็กลับมา แม้ว่าเธอจะไม่ได้คิดมากอะไร แต่คนรอบตัวเธอ และโดยเฉพาะพัฒนากรคงจะไม่ชอบใจแน่“เรากลับเองได้ ขอบใจอิฐมากนะ”
“ได้ แต่ของพวกนี้อิฐจะเอาไปเอง อิ้งก็กลับไปตัวเปล่าแล้วกัน”
อธิษฐานใช้ความไวรวบของทั้งหมดไว้ในมือแล้วเดินออกจากร้านไป อังศุมาลินทำท่าจะเดินตามแต่ก็ต้องหยุดเมื่อคิดได้ว่าเมื่อกี้อธิษฐานจ่ายแบงค์พันไปสี่ใบเพราะฉะนั้นเงินทอนยังเหลืออีกตั้งเจ็ดร้อยกว่าบาท
“เงินทอนคะ”
บริกรสาวคนเดิมเดินมายื่นเงินให้ อังศุมาลินทำท่าจะเก็บไปทั้งหมดแต่พอเห็นสายตาที่จ้องเธออยู่ หญิงสาวก็เลยต้องตัดใจหยิบแบงค์ห้าร้อยกับแบงค์ร้อยอีกหนึ่งใบ แล้วรีบวิ่งออกจากร้านลงมาที่หน้าห้างก็พบรถของอธิษฐานกำลังจะจอดพอดี
“ร้ายจริงนะ”อังศุมาลินรีบเปิดประตูแล้วตีแขนคนร้ายกาจไปทีหนึ่ง “เงินทอนหกร้อย”
“เงินทอนมันเจ็ดร้อยกว่าไม่ใช่เหรอ”ที่เขาถามเพราะรู้ดีว่าอังศุมาลินเป็นคนยังไง เงินทุกบาทมีค่าเสมอ ยกเว้นเวลาโกรธ อารมณ์จะมีค่ามากกว่าเงินขึ้นมาทันที
“ก็พนักงานร้านนั้นเล่นมองตาไม่กะพริบ จะให้เราทำยังไงล่ะ รับไปสิถือจนเมื่อยแล้ว”
“ทีนี้บ่นเมื่อย แล้วจะแล้วจะถือของหนักขนาดนั้นขึ้นรถเมล์ ขอบคุณนะครับสำหรับเงินทอน”พูดแล้วก็หัวเราะรับเงินทอนมา คนเขินก็เลยบรรจงตีเขาไปอีกหนึ่งที แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาคงจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขาเคยบอกกับตัวเองไว้แล้วว่าไหล่ข้างนี้เป็นของเธอเสอม
อธิษฐานทำงานจนลืมเวลาเกือบทุกวัน นัดคนไข้ได้จนถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง หรือถ้ามีงานนอกก็จะกลับมารับคนไข้อย่างน้อย ๆ สองคนถ้าเวลายังเหลือ
“เธอตั้งแต่แฟนคุณหมอแต่งงานไปคุณหมอก็ดูคร่ำเคร่งกับงานมากเลยนะเธอ”
“นั้นสิ ฉันล่ะอยากจะเข้าไปดูแล”
พยาบาลผู้ช่วยสองคนนินทาอธิษฐาน
“เขาคงแลเธอแหละ ทำงานกับคุณหมอมากี่ปีแล้วล่ะ เป็นฉันก็ว่าไปอย่าง”
“ย่ะ แต่วันนี้ดูคุณหมอไม่ค่อยมีความสุขเลยนะตาแดง ๆ ด้วย”
“คุณหมอออกมาแล้ว”
พยาบาลสองสาวตกใจรีบก้มหน้าลงเหมือนกำลังทำงาน เมื่ออธิษฐานรีบวิ่งแจ้นออกจากห้องหน้าตาตื่น
“เธออยู่ไหน”
ชายหนุ่มวิ่งมาจนถึงห้องฉุกเฉินตรงไปหาหมอกุ้งที่ยืนรออยู่
“อยู่ข้างใน อาการเป็นยังไงก็ไม่รู้ ไก่ดูอยู่”
“เธอมาที่นี่ได้ยังไง บ้านเธออยู่ตั้งไกล”
“นายไม่รู้แล้วฉันจะรู้ไหมล่ะ”
อีกราวสิบนาทีหมอไก่ก็เดินออกมาจากห้องด้วยรอยยิ้ม
“ยินดีด้วยนะอิฐเธอตั้งท้องได้สองสัปดาห์แล้ว”
อธิษฐานยิ้มได้ครึ่งเดียว หมอไก่เลยงงจนหมอกุ้งต้องกระซิบบอก
“อิ้งเขาไปแต่งงานกับคนอื่นแล้ว”
“ฉันขอโทษด้วยนะอิฐ ฉันไม่รู้”หมอไก่รีบขอโทษขอโพย “แล้วสามีเธอไปไหนล่ะอิฐติดต่อเขารึยัง”
“เดี๋ยวผมโทรเอง แล้วตอนนี้เธอเป็นอย่างไงบ้าง”
“เธอหลับอยู่เข้าไปดูเธอสิเดี๋ยวก็คงจะตื่นแล้ว”
อธิษฐานขอบคุณทั้งสองคนแล้วเดินเข้ามาหาอังศุมาลินที่หลับอยู่ที่เตียง แล้วพยาบาลคนหนึ่งก็เอาถุงบางอย่างมายื่นให้
“คุณผู้หญิงท่านนี้เอามาคะ”
“ขอบคุณครับ”อธิษฐานกล่าวขอบคุณแล้วเปิดดู เป็นจังหวะเดียวกับที่อังศุมาลินตื่น“อิ้งตื่นแล้วเหรอ”
“อิฐเราเป็นอะไรไป”
“อิ้งเป็นลมน่ะ เราดีใจด้วยนะ”พูดแล้วยิ้มอ่อนโยน อังศุมาลินเลยไม่เข้าใจว่าอธิษฐานพูดเรื่องอะไร
“ดีใจเรื่องอะไร”
“อิ้งกำลังจะมีเจ้าตัวน้อยนะสิ ถ้าพีมรู้เขาก็ต้องดีใจ”
“ถ้าเขารู้อะนะ”พูดเสียงเศร้าแล้วมองไปที่ของในมืออธิษฐาน “เมื่อวานเขาโทรมาบอกว่าจะอยู่ที่นั้นครึ่งเดือน เราก็เลยเอาเค้กมาแบ่งให้อิฐ”
“อิ้งได้บอกเขารึเปล่าว่าทำเค้กไว้ให้”
“คุยกันไม่ถึงสิบห้าวิเลย เมื่อเช้าโทรไปก็ไม่รับสาย โทรหาที่บ้านก็บอกว่าไปทำงานแล้ว”ยิ่งพูดอังศุมาลินก็ยิ่งรู้สึกเศร้า แม้จะดีใจอยู่ไม่น้อยที่กำลังจะมีพยานรักเกิดขึ้นมา แต่ความเศร้าที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ได้ลดลงเลย “ทำไมนะเมื่อก่อนเรามีเวลาอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่พอแต่งงานกันเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงมันน้อยเหลือเกิน”
“อย่าเศร้าสิ มันก็แค่ช่วงนี้แหละ เดี๋ยวอีกไม่นานเขาก็ต้องเข้าประจำที่บริษัทเหมือนเดิม”คำพูดปลอบใจคนรักเก่า มันช่างบาดใจตัวเองเหลือเกิน
อังศุมาพยุงตัวเองลุกจากเตียงอธิษฐานเลยรีบเข้าไปช่วย
“ตอนที่เราเอาแต่ทำงาน อิฐก็คงจะรู้สึกแบบเราตอนนี้ใช่ไหม การที่เราต้องอยู่ห่างกัน อิฐคงจะเหงา แล้วก็คงจะเศร้ามาก”
อธิษฐานได้แต่ยิ้ม อังศุมาลินคงไม่รู้หรอกว่าตอนนี้แม้เขาจะอยู่ใกล้เธอแต่มันก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ
แต่ยังไงก็ตามอธิษฐานก็ยังแนะนำให้อังศุมาลินรีบบอกข่าวดีกับพัฒนากร และเขาก็จะไปส่งเธอด้วยตัวเอง ด้วยความเร็วรถหกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง จนรถจักยานยนต์ขับแซงไปไม่รู้กี่คัน
“อิฐเรากำลังขับรถทางไกลนะ เร่งหน่อยก็ได้”
“ได้ไงถ้าเกิดไปเจอหลุม เจอบ่อก็แย่สิ นี่เรายังคิดว่ามันยังเร็วไปด้วยซ้ำ”
อังศุมาลินเถียงไม่ออก รู้ว่าทั้งหมดเพราะอธิษฐานเป็นห่วงเธอกับลูกในท้อง
“อิฐว่าลูกเราจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”อังศุมาลินถามเสียงใส
“คงผู้หญิงมั่ง เพื่อนอิ้งทุกคนก็มีแต่ลูกผู้หญิงนี่ อิฐว่าคนที่ดวงสมพงศ์ที่เป็นเพื่อนกันได้ลูกคงจะออกมาเป็นเพศเดียวกัน”
“อิฐเป็นหมอสันฯ หรือหมอดูเนี่ย”อังศุมาลินแอบประชด “ถ้าลูกเราเป็นผู้หญิงนะ เรายกให้อิฐเลย”
“ให้เราเป็นพ่อทูนหัวเหรอ”
“ไม่ใช่ เป็นแฟน”
“เฮ้ย บ้า”อธิษฐานถึงกับสมาธิเสีย หน้าก็แดง
“จริง ๆ บนโลกนี้จะมีผู้ชายที่ดีสักกี่คน ถ้าอิฐรอลูกเราไหม เรายกให้เลย”หญิงสาวพูดเหมือนกำลังฝัน สีหน้าแววตามีความสุขไปหมด
ชายหนุ่มหัวเราะหึ ๆ แกล้งเก้อ แต่ผู้ชายดี ๆ คนนี้อิ้งก็ไม่เอาไม่ใช่เหรอ
พัฒนากรกำลังครำเคร่งกับงานที่ผิดพลาด เพราะช่างรับเหมาอีกเจ้าที่บริษัทหามาใช้ของผิดสเปคงานตึกที่เขารับผิดชอบเลยผังครึนลงมา แต่โชคดีอยู่อย่างที่ไม่มีใครเป็นอะไรมาก
“ผมต้องรายงานไปที่บริษัทอยู่แล้ว คุณทำแบบนี้มันคือการโกงกันชัด ๆ”
“โกงบ้าบออะไร”คนรับเหมาที่อายุรุ่นพี่พ่อของพัฒนากรตะโกนเสียงดัง “กูก็ทำงานของกูแบบนี้มาเป็นสิบ ๆ ปี มึงมันไอ้เด็กหัดใหม่จะไปรู้อะไร”คนผิดไม่ยอมรับผิดโทษปี่โทษกองไปทั่ว
“ลูกพี่พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกหนา”พิภพออกหน้า ดูจากอายุงานคนที่น่าจะเถียงกันได้ก็คงจะมีแต่เขา “นายช่างอายุน้อยก็จริงแต่เขาก็ร่ำเรียนมาสูง ประสบการณ์ด้านงานออกแบบก็มีมากโข”
“แล้วมึงมายุ่งไรด้วยวะ งานมึง มึงก็ทำไปอย่ามายุ่ง”คนรับเหมาไม่ยอมแพ้ถือว่าตัวเองเก๋าเกมกว่า
“ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก งานลูกพี่มันก็งานผมถึงจะคนละส่วนแต่ก็งานเดียวกัน ลูกพี่พัง งานผมก็มีผลกระทบ”
“แล้วพวกมึงจะเอาไง”
“ผมก็ไม่ยังไงทั้งนั้น คุณแค่เก็บของกลับบ้านไปให้หมดก็พอ”พัฒนากรบอก
“ค่าแรงกูล่ะ ลูกน้องกูด้วย กูทำงานให้มึงมาเป็นเดือน ๆ แล้วนะโว้ยใครกันแน่ที่โกง”คนรับเหมายังมีหน้ามาโวยวาย
พิภพมองคนงานที่ยืนมองตาปริบ ๆ เขารู้ดีว่าคนอาบเหงื่อต่างน้ำ มันเหนื่อยแค่ไหน แต่เขาก็ต้องดูก่อนว่าพัฒนากรจะเอายังไง
“แค่แรงคุณผมคงให้ไม่ได้ เพราะค่าเสียหายที่เกิดขึ้นมันมากกว่าค่าแรงของพวกคุณอยู่มาก แค่ผมไม่เรียกค่าเสียหายคุณก็ดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แน่นะบริษัทอาจจะไม่ยอมก็ได้”
พอได้ยินพัฒนากรพูดคนงานก็พากันน้ำตาซึม เถียงก็เถียงไม่ได้เพราะฝ่ายผิดคือหัวหน้าพวกเขา
“ไม่ได้พวกกูจะตั้งมอบประทวง”คนรับเหมาตะโกนดังให้ได้ยินทั่วกัน ลูกน้องหันมองหน้ากันเหริกหลักไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกันดี
“ทุกคนฟังทางนี้”พิภพตะโกนก้อง “ฉันยินดีจะจ่ายแค่แรงให้ทุกคนครึ่งหนึ่ง ถ้าทุกคนจะยังยินดีทำงานให้ฉัน”
คนรับเหมาเจ้าปัญหาทำท่าไม่พอใจ แต่คนงานหลายคนมีท่าทีเห็นด้วย
“มาทำยังงี้ได้ไง มึงอยากจะหาเรื่องกูใช่ไหม”คนรับเหมาจะตรงเข้ามาทำร้ายพิภพ พัฒนากรรีบเข้ามาขวาง
“คุณกลับไปดี ๆ ตอนนี้ดีกว่า ก่อนที่ผมจะทำอะไรรุนแรง”ครั้งนี้พัฒนากรทำท่าเอาจริง ลูกน้องของเขาก็ด้วยเช่นกัน
“ฝากไว้ก่อนเถอะพวกมึง”
พัฒนากรยิ้มมุมปากส่งคนไร้เหตุผล แล้วหันมาหาพ่อตา
“พ่อจะเอาจริงเหรอครับ”
“เธอไม่เคยทำงานหนัก เธอไม่รู้หรอกว่าเวลาไม่ได้เงินมันรู้สึกยังไง พ่อเคยโดนมานับไม่ถ้วนแล้ว กว่าจะมายืนตรงนี้ได้”ตบไหล่ลูกเขยแล้วเดินไปหาคนงานของตัวเจ้าปัญหา “ใครจะทำงานกับฉันก็ตามไปลงชื่อ ไป ๆ”
พอทุกอย่างเริ่มเข้าสภาวะปกติพัฒนากรก็จัดการโทรรายงานไปที่บริษัทแล้วถ่ายรูปตามจุด ๆ เพื่อจะได้กลับเข้าไปส่งรายงานในวันพรุ่งนี้
“นายช่างเมียมาหา”คนงานวิ่งมาบอกแล้ววิ่งกลับไป
พัฒนากรรู้สึกแปลกใจที่อังศุมาลินมาหาเขาถึงที่นี้โดยไม่บอกกล่าว พอเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงพิภพหัวเราะลั่น
“มีอะไรกันเหรอ พ่อดูมีความสุขจัง”ถามพร้อมรอยยิ้ม แล้วก็ต้องแปลกใจที่อธิษฐานก็มาด้วย “นายมาด้วยเหรอ”
“เออพาเมียชาวบ้านมาส่ง อิ้งเขามีข่าวดีจะบอกนาย พ่อครับไปกันดีกว่าให้สามีภรรยาได้คุยกัน”
“เออ ๆ ดี ๆ อารมณ์ดีโว้ย เฮ้ยวันนี้เลี้ยงข้าวทุกคน”พิภพตะโกนลั่น ก่อนจะมีคนตะโกนกลับมาว่า
“ที่นี่กินฟรีทุกวันอยู่แล้ว”
“อิ้งมีอะไร ถึงได้มาถึงที่นี้”พัฒนากรหันมาถามภรรยาหลังจากที่หัวเราะพ่อตาเสร็จ
“คือเรา...”
ยังไม่ทันที่อังศุมาลินจะพูดอะไรเสียงโทรศัพท์ของพัฒนากรก็ดังขึ้น ชายหนุ่มดูเบอร์ก่อนที่จะทำมือให้สัญญาณขอเวลาก่อน อังศุมาลินนั่งรออยู่ไม่กี่นาทีชายหนุ่มก็เดินกลับมา
“พีมคือเรา...”
“อิ้งไว้ค่อยคุยกันนะ เราต้องรีบเข้าบริษัท”
“เราไปด้วยสิ เอ่อ...ไปเอาขอที่รถก่อนนะ”
“เร็ว ๆ ล่ะ”
อังศุมาลินพยักหน้าแล้วรีบวิ่งกลับไปที่รถ อธิษฐานเห็นอังศุมาลินลืมตัวก็เลยวิ่งเข้าไปเตือน แต่ในสายตาของพัฒนากรแล้วเหมือนเขากำลังโดนหยามอยู่
“เร็วเรารีบ”ชายหนุ่มรีบวิ่งมาหาภรรยาด้วยสีหน้าเครียด
“เสร็จแล้ว ๆ เราไปก่อนนะอิฐขับรถดี ๆ ล่ะ”อังสุมาลินโบกมือลา
“พีมนายก็ขับรถดี ๆ นะรู้ไหม อย่าให้อิ้งกระทบกระเทือนมาก”อธิษฐานตะโกนบอกพัฒนากรด้วยความเป็นห่วง ชายหนุ่มเหมือนจะรับรู้แต่กลับออกรถไปอย่างรวดเร็ว
“พีมขับช้า ๆ หน่อยสิ แถวนี้หลุมเยอะนะ”อังศุมาลินเตือนเสียงสั่น
“ไม่ได้หรอกอิ้ง เรารีบมาก ไม่รู้ว่าไอ้เลวนั้นมันไปพูดอะไรกับเจ้านายเราเขาโมโหมากเอาการเลย”
พัฒนากรดูเครียดจริง ๆ อังศุมาลินก็เลยได้แต่นั่งเงียบ ๆ เกร็งไปหมดทั้งตัว เห็นหลุมทีก็หลับตาที จนมาถึงถนนใหญ่เธอคิดว่าคงเบาใจได้แต่พอเอาเข้าจริง ๆ รถบรรทุกกับเยอะมาก พัฒนากรก็ขับปาดไปปาดมาอยู่หลายต่อหลายทีจนมาจอดรถที่ปั๊มน้ำมันเขาถึงได้รู้ว่าอังศุมาลินเหงื่อแตกท่วมตัวทั้ง ๆ ที่รถเปิดแอร์เย็นช่ำ
“ไม่สบายเหรอเหงื่อแตกซกเชียว ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
เขาเดินลงจากรถไปทันที อังศุมาลินแอบบนในใจว่าไม่คิดจะฟังคำตอบแล้วจะถามทำไม หญิงสาวก็เลยคิดว่าควรจะลงไปเข้าห้องน้ำบ้างก็ดี ล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย
“สงสัยจะไปเข้าห้องน้ำ”
พัฒนากรกลับมาที่รถเห็นอังศุมาลินไม่อยู่ก็เลยคิดว่าเธอไปเข้าห้องน้ำ เขาเลยเดินตรงเข้ามินิมาร์ทเพื่อหาของทานระหว่างทาง พอกลับมาถึงที่รถอังศุมาลินก็นั่งอยู่ในรถแล้ว
“กาแฟจ๊ะ”เขาส่งกาแฟให้เธอ
“ขอบคุณคร้า”อังศุมาลินลากเสียงยาว กำลังจะดูดกาแฟแต่เสียงของอธิษฐานดังแว่วเข้ามาในโสดประสาทเสียก่อน กาแฟงดได้ก็งดนะ
“ทำไมไม่กินล่ะ”
“พีมคือเรากำลังจะมี...”
อังศุมาลินตั้งใจจะบอกอีกครั้ง แต่โทรศัพท์เจ้ากรรมของสามีก็ดังขึ้นขัดจังหวะอีก
“ครับผมจะถึงภายในหนึ่งชั่วโมงครับ”ชายหนุ่มวางสายแล้วหันมาหาภรรยา “เราต้องการสมาธิมากอิ้งอย่าเพิ่งชวนเราคุยนะ”
โดนตัดบทกันจัง ๆ อังศุมาลินก็พูดไม่ออก ถึงกรุงเทพฯ แล้วค่อยบอกก็ได้ เธอคิดในใจ แต่แล้วพอถึงกรุงเทพฯ พัฒนากรก็รีบลงจากรถโดยให้อังศุมาลินขับรถไปจอดที่จอดรถแทน ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปในห้องของเจ้านายที่นั่งรอเขาอยู่
“สวัสดีครับท่านประทาน”ชายหนุ่มยกมือไหว้ ปวรภัท หรือคนส่วนใหญ่จะเรียกท่านว่า ท่านประทาน
“คุณดูเหนื่อย ๆ นะ นั่งพักก่อนสิ”ท่านประทานใช้น้ำเสียงอ่อนโยน เขาเป็นคนเดียวกันกับผอ. โรงพยาบาลที่อธิษฐานทำงานอยู่
“ขอบคุณครับท่าน”
“ผมเองก็ไม่ทราบหรอกนะว่าคุณเป็นคนยังไง มีหลายครั้งที่ผมตัดสินใจผิดพลาด อาจจะเป็นเพราะผมคงจะแก่เกินไปคุณว่าไหม”
“ไม่หรอกครับท่านประทาน ท่านมีงานที่ต้องรับผิดชอบเยอะมากกว่า มากกว่าที่ท่านจะรู้จักคนในการปกครองหมด”
“คุณพูดถูก ผมได้ข่าวว่าคุณแต่งงานแล้วใช่ไหม”
“ครับท่าน...เอ่อ...พ่อตาผมเป็นช่างที่มารับเหมางานที่ผมรับผิดชอบอยู่”
“ผมก็ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกัน จากช่างรับเหมาที่คุณไล่เขาออก คุณมีอะไรจะเล่าอีกไหม”ท่านประทานเปิดโอกาสให้พัฒนากรได้อธิบาย และชายหนุ่มก็เริ่มอธิบายในทันที
“ท่านประทานคงไม่คิดว่าผมแก้ตัวนะครับ”
“ไม่หรอก ผมเชื่อคุณ ลูกสะใภ้ผมเธอก็บอกผมแล้วล่ะ ก่อนที่คุณจะมาไม่กี่นาที ไม่อย่างนั้นผมคงจะเข้าใจผิดคุณไปกันใหญ่ แล้วผมก็มีข่าวดีจะบอกคุณด้วย จบงานนี้คุณก็อยู่ประจำบริษัทได้เลยนะ ผมเลื่อนตำแหน่งให้คุณเป็นผู้จัดการฝ่ายโครงการ”
“จริงเหรอครับ ขอบคุณมากครับท่าน”
ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ เขาดีใจจนบอกไม่ถูกและคนแรกที่เขานึกถึงก็คือภรรยา และรีบตรงมาไปเธอ อีกไม่นานเขาคงจะได้มีเวลาอยู่กับภรรยาทุกวันแล้ว อีกไม่นานจริง ๆ
“พีมเป็นไงบ้าง เขาว่าอะไรเธอรึเปล่า”อังศุมาลินถามน้ำน้ำเสียงห่วงใย
“เราจะได้มาอยู่ประจำที่นี่แล้ว ในฐานะผู้จัดการฝ่ายโครงการ”พัฒนากรยิ้มมีความสุขกอดเธอไว้แน่น แต่แล้วอังศุมาลินก็ผลักเขาออกเต็มแรงเช่นกัน“อิ้งเป็นอะไร”
อังศุมาลินส่ายหน้าแล้วยิ้มแห้ง ๆ แล้วหันหน้าหนี พัฒนากรมองอย่างไม่เข้าใจ หรือว่าเขาทำอะไรผิดไปรึเปล่าเธอถึงได้เงียบไปแล้วทำท่าทำทางรังเกียจเขาด้วย มันเกิดอะไรกับความสัมพันธ์ของเราวะ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ย. 2556, 19:58:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ย. 2556, 19:58:43 น.
จำนวนการเข้าชม : 1386
<< 15 หัวใจที่แตกต่าง | 17 ความรู้สึก >> |