เสน่ห์นางหงส์
ตมิสา แม่หงส์สวยแสนเสน่ห์ เซเลบฯ สาวจอมหยิ่ง ขี้วีน ปากร้าย แล้งน้ำใจ ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา แต่ทำไม๊ทำไมคนอย่าง คณาธิป เจ้าของไร่ "พระจันทร์” หนุ่มหล่อพ่อไม่รวยถึงได้ตกหลุมเสน่ห์แม่หงส์จนถอนตัวไม่ขึ้น
ในอดีตเขาคือ "ไอ้เด็กวัด" แสนเชยที่คอยตามตอแยเธอตลอด แต่สาวเจ้าหรือจะชายตาแล และเมื่อฐานะเปลี่ยน งานนี้เขาจึงต้องปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดเพื่อพิชิตหัวใจเย็นชาของแม่สาวจอมขี้วีนอย่างเธอมาให้ได้ ดั่งคำกล่าวว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล เมื่อไม่ได้ด้วยกลก็เอาด้วยคาถา คำว่า "มารยา" ใครว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ใช้เป็น

Tags: นิยายรัก สาริน

ตอน: ตอนที่ 5 40%

ตมิสาคว้ากระเป๋าสะพายพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบโตออกมานอกห้อง กวาดสายตามองหาใครซักคน เมื่อเจอแม่บ้านกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดจึงชี้นิ้วไปที่กระเป๋าโดยไม่พูดหรือสั่งอะไรให้มากความ ริมฝีปากเคลือบสีชมพูอ่อนเม้มสนิท ก้าวขามาถึงบันไดทว่ามีเสียงหนึ่งขัดขึ้น
“จันทร์!”
หญิงสาวหยุดเท้าแล้วค่อยๆ เบือนหน้ากลับมาหาคนเรียก นรมนออกมาทั้งชุดนอน ผมเผ้ายุ่งเหยิง ท่าทางอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน
“แม่ เพิ่งตื่นหรือคะ” หญิงสาวถามทั้งที่รู้ดีจากสภาพของผู้เป็นแม่ในขณะที่คนตอบคำถามหน้ายุ่ง บึ้งบูดก่อนสาธยายสาเหตุที่ทำให้ตัวเองนอนไม่หลับ
“เพิ่งตื่นบ้าอะไร ก็พ่อแกน่ะสิ ไม่กลับมาทั้งคืน ฉันเลยต้องถ่างตารอ อย่าให้ฉันรู้เชียวนะว่าไปกกนังคนไหน แม่จะอาละวาดให้บ้านแตก”
“แม่คะ พ่อไปงานเลี้ยงอาจจะเลิกดึกมั้งค่ะ คงพักโรงแรมแถวๆ กระทรวง” ตมิสาพยายามหาข้อแก้ตัวมาแทนพ่อทว่าเพิ่งรู้ว่าคิดผิดเมื่อนรมนยิ่งร้องเสียงแหลม
“แกมันลูกพ่อ หาข้อแก้ตัวให้กันได้หมด ไม่มีใครรักฉันซักคน ทั้งลูกทั้งผัว” นรมนเริ่มต้นฟูมฟาย ตมิสาทำหน้าเซ็ง เธอน่าจะตื่นเช้ากว่านี้อีกซักหน่อยจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับแม่ที่พลอยทำให้อารมณ์สดใสของเธอหดหู่ได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
เธอไม่ได้เข้าข้างใคร ระหว่างพ่อกับแม่เธอก็รักทั้งสองคน ทว่าไม่แปลกใจนักว่าทำไมพ่อถึงไม่อยากกลับบ้าน ในเมื่อแม่มักทำให้บรรยากาศหดหู่อยู่เสมอ แม้แต่เธอเองยังต้องหาเรื่องออกจากบ้าน
ที่จริงยังไม่ถึงวันนัดของทีมงานที่จะไปไร่พระจันทร์แต่เธอเกิดอาการเบื่อบ้านอย่างหนักจึงคิดจะไปพักผ่อนก่อนเริ่มงาน นานแล้วที่ไม่ได้ขึ้นเหนือ
“แม่คะ ไม่มีใครไม่รักแม่หรอกค่ะ”
“รักเหรอ แกจะบอกว่ารักฉันทั้งที่แกจะทิ้งฉันไปงั้นสิ” นรมนตวาดแล้วจ้องมองกระเป๋าเดินทางที่แม่บ้านกำลังยืนละล้าละลังว่าจะไปทางไหนดี ระหว่างยกลงบันไดไปกับเอาเข้าห้องไปเหมือนเดิม จึงยืนรั้งรอให้มีใครออกคำสั่งอีกทีจนกระทั่งเจ้าของกระเป๋าเบือนหน้ามามอง
“เอาลงไปสิ”
“ค่ะๆ” แม่บ้านรีบรับคำแล้วค้อมตัวยกกระเป๋าออกไป นรมนกับตมิสาร้ายกาจพอกัน หากขัดใจใครคนใดคนหนึ่งก็ซวยเท่ากัน
“แกจะไปไหน”
“จันทร์บอกแม่แล้วนี่คะว่าจะขึ้นเหนือ รับงานถ่ายแบบปกหนังสือเอาไว้” ตมิสาประคองแม่ให้กลับเข้าไปในห้องนอน คงต้องกล่อมกันนานซักหน่อยถึงจะออกจากบ้านได้
“ไหนว่าอีกหลายวัน” นรมนย้อนถามแต่ก็เดินตามแรงประคองของลูกสาวแต่โดยดี
“จันทร์อยากพักผ่อนนี่คะ ขับรถไปเองสะดวกกว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนก็ไป เพราะถ้าไปพร้อมทีมงานจันทร์คงไม่ได้พัก” หญิงสาวเอ่ยแก้
นรมนทำหน้าคิดครู่หนึ่งจึงกระตุกข้อมือลูกสาว
“แม่เหงา…”
“จันทร์ไปไม่นานหรอกค่ะแม่ ไม่กี่วัน” หญิงสาวกล่าวย้ำ ทว่าคนเป็นแม่ส่ายหน้า ยืนยันคำพูดเดิม
“แม่เหงา พ่อแกก็ไม่ค่อยกลับบ้าน แม่ไปด้วยนะ”
“คะ?” ตมิสาเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง คิ้วเรียวเลิกสูง ไม่อยากเชื่อหูและวินาทีถัดมาหญิงสาวก็ทำหน้าเหมือนถูกบังคับให้กินยาหม้อขมๆ
นรมนเห็นอย่างนั้นจึงกดไหล่ลูกสาวให้นั่งลงบนปลายเตียงก่อนหย่อนสะโพกลงตาม มือเอื้อมมาบีบมือลูกสาวแล้วสบสายตาเว้าวอน
“แม่เหงา…”
“แต่ว่า….” หญิงสาวถอนหายใจ ที่จะไปก่อนเวลาก็เพราะไม่อยากอยู่บ้านฟังเสียงบ่นเรื่องเดิมๆ ของแม่ แล้วจะมีประโยชน์อะไรถ้าแม่เธอจะไปด้วย
“นะจันทร์ แม่เหงามาก ไม่อยากนั่งๆ นอนๆ รอลูกผัวอยู่กับบ้าน”
“จันทร์ไปทำงานนี่คะแม่ รังแต่จะทำให้แม่เบื่อเปล่าๆ ไม่สนุกหรอกค่ะ” ตมิสาหาทางบ่ายเบี่ยงด้วยคำพูดที่ดูละมุนละม่อมที่สุด หากแม่ไปด้วยเธอคงฟังเรื่องพ่อกับบรรดาอีหนูที่ไม่รู้มีจริงหรือเปล่าของพ่อไปตลอดทั้งวันทั้งคืนอย่างน้อยก็จนกว่างานจะเสร็จ
“นานแล้วนะจันทร์” นรมนเริ่มต้นด้วยสุ้มเสียงอ่อน และทุกครั้งที่ใช้น้ำเสียงลักษณะนี้ เธอไม่เคยกล้าขัดใจ เพราะรู้ดีว่าผู้เป็นแม่มักมีอารมณ์อ่อนไหวง่าย บ่อน้ำตาตื้นเป็นที่สุด “นานแล้วที่เราสองแม่ลูกไม่ได้ไปเที่ยวไหนด้วยกัน แม่ยังจำได้ตอนจันทร์ยังเด็กเราไปเชียงรายด้วยกัน แม่อยากไปอีก”
ตมิสาหลุบสายตามองพื้นปาเก้สีน้ำตาล ในขณะที่นรมนเล่าเรื่องราวความหลังเมื่อครั้งเธอยังเด็ก ประกายตาสุกใสของของแม่ทำให้หญิงสาวปฏิเสธไม่ออก
“แม่ยังจำได้ตอนที่เราไปปายที่แม่ฮ่องสอน หมอกขาวๆ เหมือนขนมถ้วยฟู อากาศก็หนาวจนติดลบ แม่ต้องใส่เสื้อให้จันทร์หนาอย่างกับพวกเอสกิโม ตอนนั้นแม่มีความสุขมากเลยนะจันทร์
“แม่แน่ใจเหรอคะว่าอยากไปกับจันทร์อีก” ตมิสาเผลอพลั้งปาก เมื่อนึกมาได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปจึงได้กัดริมฝีปากตัวเองแน่นแต่ช้าไปแล้วเพราะประโยคนี้ทำให้นรมนตอบรับในทันที
“แม่อยากไป”
“เอ่อ…”
“จันทร์รอแม่หน่อยนะ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงแม่อาบน้ำแต่งตัวแล้วให้เด็กมาจัดกระเป๋าให้” นรมนสีหน้าสดชื่นขึ้นมาทันตาก่อนถลาร่อนไปยังตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนอารมณ์บึ้งบูดเมื่อครู่ได้รวดเร็วราวพลิกฝ่ามือทำให้ตมิสาปฏิเสธไม่ออก กลอกตาขึ้นฟ้าแล้วพ่นลมหายใจออกมาแผ่วเบา



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ย. 2556, 22:56:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ย. 2556, 22:56:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 1457





<< ตอนที่ 4 100%   ตอนที่ 5 80% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account