เสน่ห์นางหงส์
ตมิสา แม่หงส์สวยแสนเสน่ห์ เซเลบฯ สาวจอมหยิ่ง ขี้วีน ปากร้าย แล้งน้ำใจ ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา แต่ทำไม๊ทำไมคนอย่าง คณาธิป เจ้าของไร่ "พระจันทร์” หนุ่มหล่อพ่อไม่รวยถึงได้ตกหลุมเสน่ห์แม่หงส์จนถอนตัวไม่ขึ้น
ในอดีตเขาคือ "ไอ้เด็กวัด" แสนเชยที่คอยตามตอแยเธอตลอด แต่สาวเจ้าหรือจะชายตาแล และเมื่อฐานะเปลี่ยน งานนี้เขาจึงต้องปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดเพื่อพิชิตหัวใจเย็นชาของแม่สาวจอมขี้วีนอย่างเธอมาให้ได้ ดั่งคำกล่าวว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล เมื่อไม่ได้ด้วยกลก็เอาด้วยคาถา คำว่า "มารยา" ใครว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ใช้เป็น

Tags: นิยายรัก สาริน

ตอน: ตอนที่ 5 80%

“แกมันก็เป็นซะอย่างนี้ เมืองไทยมีตั้งหลายที่ที่สวยๆ แล้วไอ้ไร่นี่ก็เหมือนกัน ตัวเองจะไปอยู่แล้วยังไม่รู้ว่าสวยไม่สวยแม่ยังรู้เลย”
“หรือคะ” คิ้วเรียงเส้นสวยเลิกขึ้นด้วยความประหลาดใจ ก็แม่เธอน่ะแทบไม่เคยไปไหน วันๆ ก็เอาแต่ขลุกอยู่ในบ้าน ไม่ก็ไปบ้านของเขมทัศน์เพราะอยู่ไม่ไกล ไม่คิดว่าจะรู้จักไร่ที่เธอลงความเห็นกับตัวเองไปว่าคงเป็นแค่ไร่เล็กๆ นอกสายตา เพราะถ้าเป็นไร่สวยๆ ดังๆ เธอเองน่าจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง
“เห็นเขาออกทีวีครั้งหนึ่งเมื่อตอนวันวาเลนไทน์ ใครเขาก็ว่าบรรยากาศดี คู่รักเขาก็ชอบไปที่นั่น มันเหมาะกับการขอผู้หญิงแต่งงาน” นรมนหลับตาพริ้ม หากได้ไปที่นั่นกับเตมินทร์ซักครั้งก็คงจะดีไม่น้อย และสีหน้านั้นทำให้ตมิสาหลุดเสียงหัวเราะออกมา
“แม่ละก็ คิดว่าตัวเองกำลังเล่นเอ็มวีหรือไงคะ”
เสียงหัวเราะของลูกสาวทำให้อารมณ์สุนทรีย์ของนรมนหดหายก่อนมองค้อน
“แกน่ะมันพวกไร้ความโรแมนติก จนป่านนี้แล้วยังหาแฟนไม่ได้ คนดีๆ อย่างเขมทัศน์ก็ปล่อยให้หลุดมือ พูดแล้วยังเสียดายไม่หายเลย”
แล้วชื่อของเขมทัศน์ก็ทำให้อารมณ์ดีๆ ของหญิงสาวหดหายไปเช่นเดียวกัน ภาพสวีตหวานของเขากับคนรักใหม่เห็นทีไรก็กวนอารมณ์เธอทุกที
“พูดถึงคนอย่างนั้นทำไมคะ เขาไม่คู่ควรกับจันทร์หรอก”
“คู่ควร!” คนเป็นแม่ขึ้นเสียงสูง รอยยิ้มคล้ายหยามเหยียดวาบผ่านก่อนมองใบหน้าสะสวยที่ได้แบบที่ดีจากพ่อและแม่มาอย่างไร้ที่ติ “ก็เพราะพ่อแกมันสอนลูกผิดๆ สอนให้คิดว่าตัวเองวิเศษวิโสกว่าคนอื่นมันถึงได้จมไม่ลงกันอย่างนี้ไงล่ะ คิดว่าตัวเองเป็นหงส์แล้วคนอื่นเขาเป็นเป็ดเป็นห่านกันไปหมด”
ตมิสาอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายไปเสียเดี๋ยวนี้ นึกเอาไว้ไม่ผิดเลยว่าลงท้ายแม่ก็ต้องหาเรื่องมาชวนทะเลาะ ต่อให้เริ่มต้นมาดีแค่ไหนก็เถอะ
“พอได้แล้วแม่ จันทร์ขี้เกียจจะฟัง”
“เออ ฉันไม่พูดก็ได้ แกกับพ่อก็คงรำคาญฉันเต็มแก่ คงภาวนาวันละร้อยตลบให้ฉันตายๆ ไปซะทีละสิ” นรมนเสียงเครืออารมณ์แปรปรวนจนคนใกล้ชิดรับมือไม่ถูก
ตมิสาเลือกที่จะเงียบไม่แก้ตัวใดๆ เพราะรังแต่จะทำให้ชนวนเล็กๆ ลุกลามใหญ่โตไม่รู้จบ
นรมนเองเมื่อตมิสาไม่คิดโต้ตอบก็เงียบเสียงไปเอง เบือนใบหน้าฉ่ำไปด้วยหยดน้ำใสๆ กลับไปยังทิวทัศน์สองข้างทาง
ทำไมนะ…ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจเธอเลยซักคน

คณาธิปปัดความคิดฟุ้งซ่านที่ข้องเกี่ยวกับแม่หงส์ ตามฉายาที่ปิ่นอนงค์และใครอีกหลายคนตั้งให้เซเลบฯ สาวนาม ตมิสา ตฤนโสภณ
และใช่ว่ามันจะไม่เคยผ่านเข้าหูเจ้าตัวทว่าหญิงสาวเลือกจะไม่ใส่ใจ
“นายคะ นายจะให้เตรียมอะไรเพิ่มเติมอีกไหมคะ” ป้าตองอ่อนแม่บ้านและญาติห่างๆ ของสาธิตาเข้ามารายงานภายหลังจากที่เตรียมเมนูอาหารสำหรับแขกพิเศษเสร็จเรียบร้อยแล้ว
พื้นที่ของไร่พระจันทร์นอกจากจะมีไร่พืชพรรณหลายชนิดแล้ว ยังมีรีสอร์ตราวๆ สามสิบหลังที่อยู่ในความดูแลของเขา เป็นรีสอร์ตแบบเน้นธรรมชาติสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ไม่เน้นความสะดวกสบายเหมือนกับที่อื่นๆ
รีสอร์ตนี้เขาใช้ชื่อสาธิตา เพราะตั้งใจไว้ว่าจะให้เป็นของขวัญวันรับปริญญาของเธอ
“ไม่มีแล้ว ป้าตองช่วยไปตามลุงเหมยมาให้ฉันทีแล้วกันนะ อ้อ..ตามเป็ดมาด้วย”
“ค่ะนาย” เจ้าของชื่อรับคำ ไม่นานบุคคลที่ชายหนุ่มเรียกหาก็รีบสาวเท้าเร็วๆ เข้ามาพร้อมกัน ชายหนุ่มหันมาหาหัวหน้าคนงานแล้วบอก
“ลุงเหมย ทีมงานเขาต้องการไปถ่ายรูปไร่องุ่น ไร่สตรอ์เบอร์รี่ โรงบ่มไวน์และที่สำคัญนังขาว”
นังขาว คือม้าพันธุ์อาหรับสีนิลขนเป็นเงางามนุ่มมือ เป็นม้าที่สวย ประเปรียว ฝีเท้าเบาและวิ่งเร็วจนเขาอดไม่ได้ที่จะเปรียบเปรยว่ามันเป็นเหมือนผู้ดื่มด่ำในสายลม แม้จะเป็นแค่ม้าทว่าผ่านการออกทีวีมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อครั้งมีพวกรายการทีวีมาขอถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงราย
“ถ่ายเฉยๆ น่ะพอไหวครับนาย แต่หวังว่าคงไม่ให้นางแบบมาทำอะไรกับมัน นังขาวมันไม่ชอบผู้หญิงสวยกับกลิ่นน้ำหอมซะด้วย” ลุงเหมยทำหน้าหนักใจ เพราะเลี้ยงนังขาวมาตั้งแต่มันเป็นลูกม้าจึงรู้ดีว่านิสัยมันค่อนข้างพยศ ในไร่นี้นอกจากคณาธิปแล้วไม่มีใครปราบมันอยู่
“ผมก็ยังไม่รู้รายละเอียด พอพูดถึงไร่พระจันทร์ ใครๆ ก็ถามถึงแต่นังขาว” น้ำเสียงติดจะภาคภูมิใจอยู่หน่อยๆ เพราะนังขาวถือเป็นม้าคู่ใจของเขาที่เลี้ยงดูประคบประหงมอย่างกับลูกในไส้ หากให้เขาเลือกไปกินข้าวด้วยกันระหว่างผู้หญิงสวยๆ กับนังขาวเขายังลังเล
“ก็แหงละครับ ตั้งกะมันออกทีวีกับหนังสือท่องเที่ยว มีคนพูดถึงมันมากกว่านายอีก” ลุงเหมยหัวเราะ จะว่าไปแทบไม่มีใครรู้จักชายผู้เป็นเจ้าของไร่พระจันทร์เพราะเวลามีใครมาติดต่อเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการทำไร่ทำสวนหากไม่เขาก็เป็นสาธิตาออกหน้ารับแทน
“อย่าให้ใครมายุ่งกับผมเลย ลงเหมยช่วยรับหน้าทีมงานวันพรุ่งนี้ด้วยแล้วกัน”
“อ้าวแล้วนายละครับ จะไปไหน” ลุงเหมยทำหน้ายุ่งยากใจ เพราะเขาเองก็ไม่ค่อยจะสันทัดรับแขกประเภทนี้เหมือนกัน สาธิตาก็ไม่อยู่เสียด้วย
ทว่าเป็นคำสั่งไม่เต็มใจอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามอยู่ดี
“ผมก็จะอยู่แถวๆ นี้แหละแต่ไม่อยากออกหน้า”
“อย่างนั้นค่อยยังชั่วครับนาย เผื่อมีเรื่องด่วนอะไรให้ต้องตัดสินใจ ก็รู้ๆ กันอยู่พวกนี้เรื่องเยอะจะตาย ถ้าคุณสาอยู่ละก็หายห่วง”
“ผมถึงได้คิดจะยกรีสอร์ตนี่ให้เขายังไงละครับ รายนั้นเขาชอบงานบริการ ส่วนผมขอเป็นฤาษีเข้าป่าตามเดิมดีกว่า” ชายหนุ่มยิ้มในหน้าเมื่อพูดถึงน้องสาวนอกไส้ก่อนนึกได้ว่ามีนายเป็ดยืนอยู่
“เป็ด มะรืนนี้ฉันให้นายดูแลโรงบ่มไวน์ช่วยน้าเฟื่องนะ อยู่เฉพาะด้านหลังถ้าพวกนั้นจะเข้าไปขอสถานที่ถ่ายอะไรละก็ให้เอาเฉพาะด้านนอก แต่ให้น้าเฟื่องรับหน้านะ แกน่ะต้องหลบ”
“มีอะไรหรือครับนาย” นายเป็ดเลิกคิ้ว คาดเดาไปเองว่าคณาธิปคงจะกลัวเขาทำไร่ขายหน้าทว่าชายหนุ่มรีบบอกเมื่อเดาสีหน้าลูกน้องออก
“คู่กรณีแกเขาเป็นนางแบบให้นิตยสารเล่มนี้”
“คู่กรณีผม?”
“ที่กรุงเทพฯ ก่อนฉันพาแกมาไงล่ะ” คณาธิปบอกเพียงเท่านี้ใบหน้าสีเข้มของนายเป็ดก็ซีดเผือด งานนี้เขาไม่มีทางเสนอหน้าออกมาแน่ มีหวังแม่เจ้าประคุณได้เชิญตัวเขาเข้าตะราง
“อูย…ขอบคุณครับนายที่เตือนผม ไม่งั้นละแย่แน่”
“เออ ถ้าไม่อยากไปนอนเล่นนอกสถานที่ก็อย่าเสนอหน้ามาให้เขาเห็น เห็นแค่นั้นน่าจะรู้ฤทธิ์ดีอยู่แล้ว” เมื่อเห็นสีหน้าจ๋อยๆ ของลูกน้องคณาธิปก็หัวเราะขึ้น แม่หงส์คนนี้แล้งน้ำใจแค่ไหน เขารู้ดี เชื่อแน่หากเธอเห็นนายเป็ดเข้าละก็คงต้องร้องโวยวายจะลากตัวมันเข้าตะรางแบบไม่ยอมฟังคำแก้ตัวใดๆ และตัวเขาเองก็จะพ่วงข้อหาให้ที่พักพิงกับโจรเข้าอีก
ลองว่าปักใจว่าใครไม่ดี ใครเลวแล้วเป็นเรื่องยากที่ตมิสาจะเปลี่ยนใจ
“สาบานเลยครับนาย เป็นไปได้ไอ้เป็ดอยากลางานไปเลย”
“อย่าให้เสียงาน หลบๆ เข้าหน่อยก็พอแล้ว เขาไม่มีเวลามาสนใจคนงานนักหรอก” ชายหนุ่มตัดบทในขณะที่ลุงเหมยยืนฟังเงียบๆ แม้จะสงสัยแต่ไม่คิดซักถาม เพราะทำงานด้วยกันมานานจึงรู้ว่าต้องทำตัวเองให้รู้เฉพาะในสิ่งที่ตัวเองควรรู้เป็นพอ
เมื่อจัดการสั่งงานและดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว ชายหนุ่มจึงคิดจะแวะไปดูต้นกล้ากาแฟที่เพิ่งให้คนงานลงแปลงเมื่อไม่กี่วันแต่เสียงเรียกด้านหลังดังขึ้นเสียก่อน
“นายครับนาย”
“มีอะไรวะ เสียงดังอย่างกับใครเผาไร่”
“เครื่องสูบน้ำมันเสียครับนาย กล้าเพิ่งเอาลงเลยยังไม่ได้น้ำ ผมกลัวว่ามันจะเฉาแดดซะก่อน”
“อ้าว แล้วทำไมไม่ไปตามช่างมาเล่า” คณาธิปหงุดหงิด กล้าเพิ่งเอาลงใหม่จำเป็นต้องได้รับน้ำเพียงพอ ปล่อยไว้แบบนี้ได้ยังไง
ท่าทางของผู้เป็นนายทำให้คนมารายงานหน้าเสีย
“ช่างไม่อยู่ครับนาย พวกผมลองซ่อมแล้วแต่มันยังใช้งานไม่ได้”
“เดี๋ยวฉันไปดูเอง” คณาธิปตัดบทแล้วเดินดุ่มออกไป เมื่อไปถึงมีคนงานชายหลายคนกำลังยุ่งวุ่นวายกับการซ่อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อใช้สำหรับสูบน้ำมาใช้ในไร่ วันนี้แดดค่อนข้างแรง ต้นกล้าอ่อนๆ ที่เพิ่งให้ลงแปลงยังไม่ติดดีจึงจำเป็นต้องได้รับน้ำให้เพียงพอ
“ไม่ได้เลยครับนาย” ใครคนหนึ่งถอนหายใจแล้วหันมาบอก
ชายหนุ่มเดินเข้าไปดูเครื่องสูบน้ำ แล้วกวักมือเรียกหาอุปกรณ์ ก่อนนอนหงายค่อยๆ เลื่อนตัวเข้าไปใต้เครื่องสูบน้ำโดยมีคนงานเป็นผู้ช่วย



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ต.ค. 2556, 20:11:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ต.ค. 2556, 20:11:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1169





<< ตอนที่ 5 40%   ตอนที่ 5 90% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account