♥ ♥ ♥ หัวใจร้อยดาว [ชุด ทางลัดสลัดโสด สนพ.อรุณ] ♥ ♥ ♥
อะไรนะ! ถ้าไม่แต่งงานภายในเก้าสิบวัน

เธอต้องขึ้นคานไปตลอดชีวิตเหรอ บ้าไปแล้ว!



ดอกเตอร์ โมนา วิมาลิน อยากอุทานเป็นภาษาต่างดาวชะมัด

แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เชื่อเรื่องงมงาย

แต่รุ่นพี่ที่เจออาถรรพ์ก็ขึ้นคานกันไปแล้วถ้วนหน้า

เธอจะเสี่ยงเป็นคนต่อไปจริงเหรอ...



นับว่าพระเจ้ายังไม่ใจร้ายจนเกินไป

เพราะท่านส่ง ชัชวิน มาจีบเธออย่างออกนอกหน้า

ตามมาด้วย เมอร์ซิเออร์ โนแอล เดอแบร์มองต์ สุดหล่อ

แถมยังมี เอกชัย เทรนเนอร์หล่อล่ำ

กับ กฤต นักดนตรี อารมณ์ศิลป์มาให้เลือกพร้อมเพรียง



โมนาไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

เพราะระหว่างหาทางลงจากคาน

เธอกลับต้องเผชิญปัญหาเรื่องการงานหนักหน่วง



ในท่ามกลางมรสุมที่พัดจนเธอซวนเซ

โมนาจึงได้เห็นความรักของใครบางคน...ชัดเจนขึ้นในหัวใจ

อยากรู้ก็แต่ว่า...อีกฝ่ายจะรักเธอมากพอ

และชวนเธอลงจากคานทันเวลาไหมหนอ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

เตรียมยิ้มและหัวเราะไปกับ ดอกเตอร์สาวตัวกลม ที่จะทำให้คุณเข้าใจนิยามของความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง

หัวใจร้อยดาว - เจ้าสาวร้อยชั่ง ในชุดทางลัดสลัดโสด


เขียนโดย สิริณ - ดวงมาลย์

จ่อคิววางแผงต่อจาก ใต้ปีกรักสีเพลิง เลยค่ะ

เชิญติชมกันได้เต็มที่เช่นเคย



ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย

ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ

(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )

ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

www.facebook.com/SirinFC
Tags: โนแอล โมนา ขิมคราม รอยตะวัน สลัดโสด

ตอน: ตอนที่ ๑

เกือบหนึ่งทุ่มแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าชัชวินจะปรากฏตัวขึ้นที่หน้าห้องโมนาเสียที ฟ้ามืดลงเรื่อยๆแทบไม่ต่างอะไรกับหัวใจเจ้าของห้องที่หม่นมัวไปช้าๆ หญิงสาวบังคับตัวเองอย่างยากเย็นไม่ให้โทรศัพท์ไปถามชายหนุ่มว่าสิริวิมลคือใคร เธอไม่เคยต้องลดตัวลงไปแย่งผู้ชายกับใคร โมนาอาจไม่สวย แต่เธอก็ไม่สิ้นไร้ไม่ตอกขนาดนั้น!

ในที่สุดโมนาก็ปิดคอมพิวเตอร์ ขณะกำลังจะหันไปคล้องกระเป๋าใส่ข้อมือ ก็พอดีกับที่เสียงปี๊บเบาๆดังเป็นสัญญาณว่ามีข้อความเข้า โมนาดีใจรีบหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดฝาพับทันที โทรศัพท์เครื่องนี้คุณย่าซื้อให้เธอเป็นของขวัญตอนสำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา แม้เครื่องจะเก่ามากแล้ว แต่โมนาก็ทิ้งไม่ลง เพราะนอกจากจะเป็นของสำคัญแทนตัวคุณย่าผู้วายชนม์ เวอร์ทูเครื่องนี้ยังราคาเกือบสามแสน หยิบขึ้นมาใช้เมื่อไร คนตาถึงก็รู้ทันทีว่าเป็นของแพง แถมยังรองรับเทคโนโลยีทุกอย่างเทียบเท่าไอโฟนมาตั้งแต่สี่ปีก่อนแล้ว

เมื่อเห็นไฟล์วิดีโอที่ถูกส่งมาจากเลขหมายปริศนา หญิงสาวก็มือไม้สั่น ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก

ภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอเล็กๆบอกให้รู้ว่าความหวังที่ชัชวินจะมารับเธอไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกันกลายเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว สิริวิมลโรคจิตพอจะถ่ายคลิปบัดสีที่ชายหญิงสองคนร่างเปลือยเปล่ากำลังบรรเลงเพลงสวาทอย่างเมามันส่งมาให้ดู แต่เธอ...ใจไม่ด้านพอที่จะชมจนจบ

โมราเกือบลบ ‘ของสกปรก’ ทิ้งแล้ว แต่สัมปชัญญะกลับห้ามไว้ก่อน เธอตั้งสติ ส่งวิดีโอนี้ไปเก็บไว้ที่อีเมลส่วนตัว ก่อนจะลบไฟล์ทิ้งเป็นลำดับสุดท้าย

หญิงสาวหายใจเข้าลึกๆ แม้จะเรียนจบปริญญาเอกด้านการเงิน แต่ในยามนี้หญิงสาวกลับนึกไม่ออกสักนิดว่าควรทำอย่างไรต่อไป เธอแยกแยะไม่ได้กระทั่งว่าความรู้สึกที่มีอยู่คือผิดหวัง เสียใจ โกรธ เสียหน้า หรือรังเกียจ!

โมนาเพิ่งรู้จักชัชวินได้หกเดือนเศษ ครั้งแรกที่ฝ่ายบุคคลพาผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการโครงข่ายคนใหม่มาแนะนำให้รู้จัก เขาก็ทำตัวสนิทสนมกับเธออย่างเห็นได้ชัด ชัชวินไม่เคยก้อร่อก้อติกกับพนักงานสาวๆในบริษัท ทั้งยังแสดงออกโดยไม่อับอายว่า สนใจเธอมากกว่าเพื่อนร่วมงานธรรมดา

เพียงสนิทกันได้สี่เดือนกว่าเขาก็ขอเธอเป็นแฟน โมนาดีใจจนเนื้อเต้นที่ผู้ชายตาถึงมองเห็น ‘เนื้อแท้’ ของเธอมาเกิดในที่สุด เขารักเธอโดยไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอก จิตใจเขาช่างแสนดีและงดงามนัก!

ทุกวันชัชวินรับประทานอาหารกลางวันและเย็นกับเธอ พาเธอไปส่งที่คอนโด. นั่งคุยกันกระจุ๋งกระจิ๋งจนถึงสี่ทุ่มเศษ แล้วค่อยแยกกลับบ้าน สุดสัปดาห์เขาอ้างว่าอยากให้เธอมีวันพักผ่อน จึงแทบไม่ค่อยนัดกันเลย นอกจากนานครั้งที่จะชวนเธอไปต่างประเทศใกล้ๆ เช่นฮ่องกง หรือสิงคโปร์ โดยออกเดินทางวันศุกร์และกลับค่ำวันอาทิตย์

จะว่าไปมันก็มีพิรุธเหมือนกัน หรือเขาจะกันวันหยุดไว้ไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนนั้น บางที...สิริวิมลอาจพูดจริง ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของชัชวิน ขณะที่เธอเป็นแค่...กิ๊ก!

ผู้ชายหล่อๆมีแฟนสวยราวนางแบบอยู่แล้ว มีหรือจะมาชอบสาวอ้วน หน้าตาธรรมดาๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเงิน!

บทสรุปอันแสนเจ็บปวดทำให้โมนาไหล่งองุ้ม หมดแรงกายพลังใจจะขยับตัว แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะยามเหงา ครั้นเห็นชื่อพนิดาซึ่งเพิ่งฉลองแต่งงานไปเมื่อคืนนี้บนหน้าจอ ใจคอก็ยิ่งห่อเหี่ยวหนัก

เมื่อวานเธอฟุ้งให้เพื่อนทั้งกลุ่มฟังดิบดีว่าจะพาชัชวินไปแนะนำให้รู้จัก แค่ข้ามวันกลับต้องเปลี่ยนแผนซะแล้ว โมนารับสายอย่างห่อเหี่ยว เพื่อจะพบว่าปลายสายโวยวายอย่างหงุดหงิดด้วยสปีดราวจรวด เนื้อหาทั้งหมดเป็นคำบ่นถึงตุลยาเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งในกลุ่ม เมื่อระบายจนพอใจเพียงไม่ถึงสิบนาที เจ้าสาวมือใหม่ก็วางสาย

เรื่องที่พนิดาโทร.มา ‘ฟ้อง’ ทำให้โมนาร้อนใจ นอกจากสมาชิกในครอบครัวแล้ว คนที่เธอรักก็มีแค่เพื่อนในแก๊งเจ็ดนางฟ้าซึ่งเรียนบัญชีฯที่มหาวิทยาลัยมาด้วยกัน บัดนี้ห้าสาวแต่งงานไปแล้ว เหลือเพียงเธอและตุลยาที่ยังโสด ช่วงนี้เธอจึงลำเอียงรักตุลยาเป็นพิเศษ โมนาโทร.หาเพื่อนรักสาวโสดเพื่อคาดคั้นทันที

“ว่าไงถังถัง” ปลายสายทักทายเธอด้วยน้ำเสียงสบายใจ ใช้ฉายาที่มีเฉพาะสาวๆแก๊งเจ็ดนางฟ้าเรียกเท่านั้น

“โมเพิ่งรู้เรื่องที่ตุ่นถูกไล่ออกจากงานเมื่ออาทิตย์ก่อน มันเกิดอะไรขึ้น อย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือพี่เตยอีกแล้ว ตุ่นโอเคหรือเปล่าเนี่ย” โมนารัวถามเป็นชุด

ตุลยากลับใจเย็น ค่อยๆอธิบายปนด้วยเสียงหัวเราะ

โมนาอดทึ่งไม่ได้ ขนาดเพื่อนโดนไล่ออกจากงาน ต้องเปลี่ยนงานใหม่ แถมพี่สาวซึ่งปกติเคยหวงน้องชนิดสมควรลงกินเนสส์บุ๊ค เกิดกระเหี้ยนกระหือรืออยากให้ตุลยาไปทำงานยังบริษัทใหม่มากจนน่าสงสัย แต่ตุลยาก็ไม่ทุกข์ร้อน ไม่กังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นสักนิด ทั้งยังเฉไฉเปลี่ยนเรื่องให้โมนาลืมเรื่องเซ็งหัวใจจนหัวเราะออกอีกด้วย[1]

หญิงสาวเกือบวางสายด้วยความสบายใจแล้ว ถ้าตอนท้ายเพื่อนจะไม่ถามถึง...ชัชวิน

โมนาลังเลว่าควรเล่าเรื่องสิริวิมลให้ตุลยาฟังดีไหม เมื่อคืนเพิ่งล้อเลียนกันทะลึ่งทะเล้นตามประสาสาวๆ มาวันนี้ขืนตีบทโศก บอกความจริงว่าเขากำลังกกอยู่กับผู้หญิงอีกคน มันก็เสียหน้าไม่น้อย ถึงจะเป็นเพื่อนสนิท แต่เราไม่ต้องให้เพื่อนรู้เรื่องน่าขายหน้าทุกเรื่องก็ได้ รออีกสักพักแล้วค่อยบอกความจริงดีกว่า

“ฉันยังไม่ได้บอกคุณชัชเลย ช่วงนี้เขายุ่งๆอยู่น่ะ ไว้นัดกับคุณชัชเรียบร้อยแล้ว ฉันจะส่งเมลเข้ากลุ่ม คอนเฟิร์มเวลาและสถานที่อีกทีนะ” โมนาตัดสินใจโกหก กะว่าอาทิตย์หน้าค่อยส่งเมลไปเลื่อนนัดก็ยังทัน

โมนาวางสายอย่างเซื่องซึม จู่ๆก็นึกสงสัยว่าการที่ชัชวินนอกลู่นอกทางไปกับผู้หญิงคนนั้น เกิดจากความหวงตัวของเธอหรือเปล่า เพราะแม้จะเกิดและเติบโตในยุคที่ค่านิยมตะวันตกแผ่เข้ามาในประเทศไทยจนแทบจะกลืนเป็นเนื้อเดียวแล้ว แต่โมนาและเพื่อนก็ยังคงรักนวลสงวนตัวไม่เปลี่ยน พวกเธอเคยไปสาบานต่อหน้าพระตรีมูรติที่หน้าเซ็นทรัลเวิร์ลด์กันไว้ด้วยซ้ำว่า จะไม่ปล่อยตัวเผลอใจให้ผู้ชายคนไหนเด็ดขาดจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน

แม้หลายคนจะมีความเสี่ยงขึ้นคาน แต่พวกเธอก็ยินดี ‘เก็บไว้เป็นซากฟอสซิลที่ไม่เคยใช้งานไปจนตาย’ ดีกว่าทอดกายให้ผู้ชายเชยชมง่ายๆ บางคนขู่ว่าจะทิ้งหรือเลิกรากันถ้าไม่ยอม ‘เรื่องนั้น’ พวกเธอก็ชิงตัดออกจากสารบบชีวิตก่อนเลย เห็นสวยๆอย่างนี้ แต่แก๊งเจ็ดนางฟ้าไม่ได้โง่นะ(เว้ย) ถึงจะปล่อยให้ผู้ชายมาหลอกฟันแล้วทิ้งน่ะ!

แล้วก็เห็นกันอยู่ว่าพวกเธอโชคดี เพราะสาวงามทั้งห้าคนในกลุ่มได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆกันไปหมด ผู้ชาย…ที่เห็นว่าความรักไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง!

เมื่อสาวๆอยู่ด้วยกันตามลำพัง บางทีก็ทะลึ่งจนผู้ชายตกใจ หลังเข้าหอ แต่ละคนมีเรื่องวาบหวิวคนละนิดละหน่อยมาเล่าให้สาวโสดคนที่เหลือกรี๊ดกร๊าดกันสนุกสนาน อย่างเมื่อเช้าพนิดาซึ่งเพิ่งแต่งไปสดๆร้อนๆก็ส่งข่าวหาเพื่อนทั้งแก๊ง โดยส่งการ์ตูนรูปกระต่ายนอนหมดแรงบนที่นอน ดวงตาเป็นรูปหัวใจสีแดงดวงเบิ้ม พร้อมกับข้อความ

‘ถังถังกับตุ่น แกต้องแต่งงานนะ การมีผัวช่วย ‘เติมเต็ม’ ชีวิตเราได้จริงๆนะ เชื่อฉัน!’

โมนาถอนใจ เมื่อเช้าโลกของเธอยังเป็นสีชมพู เปี่ยมไปด้วยความหวังถึงวันหน้าอันงดงามอยู่เลย แต่ดูเถิดผ่านไปไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ทุกอย่างก็กลับตาลปัตรกลายเป็นเพียงความว่างเปล่า

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนถูกผลักเข้ามาโดยพลการ เจ้าของห้องวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ตวัดตามองผู้มาใหม่ด้วยความอ่อนใจ

“ได้ข่าวว่าวันนี้แฟนตัวจริงของคุณชัชมาอาละวาดหรือคะคุณโมนา” แสงดาว...ผู้อำนวยการฝ่ายขายถามเสียงหวานราวกับเป็นห่วง แต่โมนารู้ว่าอีกฝ่ายประชด เพราะแสงดาวแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบหน้าเธอ

หลังจบปริญญาเอกที่อเมริกา โมนากลับมาทำงานในบริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลกซึ่งมีสาขาในเมืองไทย ทว่าสองปีก่อนรุ่นพี่ก็โทร.มาชวนให้เธอเปลี่ยนงาน โมนาเลือกมารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของลียองประเทศไทย พร้อมค่าตอบแทนที่สูงขึ้นเกือบเท่าตัว และสวัสดิการที่แสนดึงดูดใจ

แสงดาวโกรธจัดเพราะเตรียมให้เพื่อนเสียบตำแหน่งนี้อยู่ แต่กลับถูกปาดหน้าเค้กไปดื้อๆ นับตั้งแต่วันนั้นอีกฝ่ายก็ประกาศตัวเป็นศัตรูกับเธอ โดยจงใจตำหนิเธอทั้งต่อหน้าและลับหลังคนในบริษัทเสมอ

เมื่อโดนประชด เรื่องอะไรจะปล่อยให้อีกฝ่ายเหน็บง่ายๆ โมนาลุกขึ้นยืน “ขนาดดิฉันเจรจากับคู่กรณีสองต่อสอง คนยังอุตส่าห์รู้กันทั้งออฟฟิศ คนในสำนักงานนี้ ‘ว่าง’ กันจังนะคะ ส่งข่าวกันปากเป็นกรรไกรเชียว”

แสงดาวหน้าถอดสี ทว่าปรับท่าทีได้รวดเร็ว เจ้าหล่อนยิ้มเย้ย จงใจซ้ำเติม “คุณโมนาอย่าคิดมากเลยนะคะ มันเป็นเรื่องธรรมดา ผู้ชายคนไหนก็ต้องอยากมีแฟนสวยๆมากกว่าผู้หญิงขี้เหร่อยู่แล้ว คิดซะว่าอย่างน้อยก็เคยมีแฟนหล่อขนาดนั้น แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ดีกว่าไม่เคยมีเลย”

“ดูคุณแสงดาวจะมั่นใจจังนะคะ ว่าคุณชัชเป็นแฟนกับผู้หญิงคนนั้นน่ะ”

“ถามใคร เขาก็ต้องมั่นใจกันทั้งนั้นแหละค่ะ เอ...หรือคุณโมยังมีหวังอยู่ว่า ตัวเองจะชนะผู้หญิงสวยยังกับนางแบบคนนั้นได้น่ะ เอ...น่าแปลกเหมือนกันนะคะว่า คุณชัชเห็นอะไรในตัวคุณโมกันน้อ เขาอยากนอนกอดห่วงยาง ตื่นขึ้นมาพร้อมกับแม่หมูบนเตียงหรือไงนะ ถึงได้...” แสงดาวยกมือปิดปาก เห็นได้ชัดว่าเสแสร้ง “อุ๊ยตาย! ฉันก็จินตนาการ คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย อย่าถือสาเลยนะคะ”

ทั้งที่โกรธจนมือสั่น แต่โมนากลับเหยียดยิ้ม “คุณแสงดาวก็แค่เผลอพูดสิ่งที่กำลังคิดโดยไม่มีปัญญาห้ามตัวเอง ‘ตนเตือนตนไม่ได้ ใครจะเตือน’ อย่างนี้แล้วดิฉันจะถือสาได้ยังไง ดิฉันเข้าใจดีค่ะ คุณแสงดาวอย่าคิดมากเลย”

“โมนา!” แสงดาวตาลุกวาว ตวาดเสียงเข้ม

โมนาตวัดตาขึ้นสบสานกับอีกฝ่าย แสร้งทำหน้าไร้เดียงสาบ้าง “ดิฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่าคะ”

“ฉันอุตส่าห์หวังดีเตือนให้เธอเจียมตัว จะได้ไม่ถูกหลอก ยังจะมายอกย้อนฉันอีก ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ”

“แหม...เกรงใจจัง เอาเป็นว่าโอกาสหน้าไม่ต้องกรุณามาห่วงใยดิฉันหรอกนะคะ คุณเอาเวลาไปเตือนสติตัวเองให้ควบคุมปากไว้ ไม่เผลอเรอพูดสิ่งที่คิดซะหมดทุกอย่าง น่าจะดีกว่านะคะ”

“อวดดีอย่างนี้ ฉันคงต้องรอสมน้ำหน้าวันที่เธอถูกผู้ชายปอกลอกจนหมดตัวแล้วล่ะสิ”

“ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์สอดมือเข้ามาวุ่นวายในเรื่องที่ดิฉันไม่ได้ร้องขอ คุณมีน้ำใจมาก” โมนาผายมือไปที่ประตู “ครั้งหน้าถ้าดิฉันยังไม่อนุญาต ขอความกรุณาอย่าเพิ่งเปิดประตูเข้ามานะคะ คนมีมารยาทเขาไม่ทำกันหรอก”

แสงดาวจ้องเธอเขม็งราวจะกินเลือดกินเนื้อ โมนาประสานสายตามั่น ไม่หลบให้สักนิด เพียงไม่กี่วินาที ผู้มาใหม่ก็สะบัดหน้าหมุนตัวออกจากประตูไป

โมนาพยายามข่มความโกรธ หิ้วกระเป๋าออกจากห้องทำงาน พนักงานบัญชีส่วนใหญ่ยังคงนั่งประจำเต็มอัตราทั้งที่เลยเวลาเลิกงานไปเป็นชั่วโมงแล้ว ดูเหมือนจะเป็นวัฒนธรรมประหลาดของคนไทย ที่ชอบทำงานกันจนมืดค่ำ ทั้งที่บริษัทก็จ่ายค่าจ้างให้ถึงแค่ห้าโมงครึ่ง สมัยฝึกงานที่ต่างประเทศ หรือทำงานในองค์กรเก่า อดีตเจ้านายถึงกับเคยขู่ว่าคนที่อยู่ออฟฟิศตอนหลังเลิกงาน แปลว่าไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารเวลา สมควรถูกตัดเงินเดือนก็ยังมี

โมนายักไหล่ คร้านจะบ่นแล้วว่าการเปิดไฟทำงานหลังเลิกงาน ทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นเพียงใด

ผู้อำนวยการสาวออกมายืนมองไฟกะพริบด้านบนของลิฟต์ด้วยความหงุดหงิด พลางล้วงมือไปในกระเป๋าหมายจะหยิบโทรศัพท์มาดูเผื่อจะมีข้อความจากชัชวินบ้าง แต่...โทรศัพท์หายไปไหน?

หญิงสาวแหวกกระเป๋ากว้าง หาทุกซอกทุกมุม แต่ก็ไม่พบ จึงทวนความทรงจำว่าครั้งสุดท้ายที่ใช้คือตอนโทร.หาตุลยา เดาว่าคงลืมไว้ที่ห้องทำงาน จึงรีบเข้าไปในออฟฟิศอีกครั้ง แล้วโมนาก็ยืนขาแข็งราวถูกสาปเป็นหิน เมื่อได้ยินเสียงพูดคุยกันมาแต่ไกล ฟังจากทิศทางก็รู้ว่ามาจากแผนกบัญชี เธอย่อตัวลงซ่อนหลังพาร์ติชั่น ค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ ขณะถ้อยคำนินทาปนเสียงหัวเราะดังเป็นระยะ

“ตอนแฟนนายชัชเรียกผอ.ว่าซิ้มหน้าจืดนะ ฉันอยากให้ทุกคนเห็นจริงๆ คุณโมงี้หน้าซีดปากสั่นเลย”

“พีชว่าเราอย่านินทาเจ้านายกันเลยนะ” นี่เสียงพิชญา เธอจำได้

“โอ๊ย! เบื่อแกจริงๆเลยพีช ทำตัวเป็นนางเอกอยู่ได้ ทั้งที่แกนั่นแหละที่ถูกโขกสับมากกว่าใคร” หัวโจกโวยวาย “ถามจริงๆเถอะ ไม่เกลียดแม่นั่นบ้างเหรอ”

“พีชทำงานผิดพลาด ก็ต้องถูกดุสิ คุณโมยังชมพีชเลย ว่าไม่เคยทำผิดซ้ำเรื่องเดิม แปลว่ารู้จักเอาคำตำหนิไปปรับปรุงตัวเอง”

“โอ๊ย! อยากสรรเสริญเจ้านายก็เชิญไปคนเดียวเถอะ นี่ๆ มาฉันเล่าต่อ เมื่อกี้ถึงไหนละ คุณโมหน้าซีดใช่มะ”

“เดี๋ยวๆ เธอไปเห็นหน้าเจ้าหล่อนได้ไง ในเมื่อตรงนั้นมีประชาสัมพันธ์อยู่คนเดียว” โมนานึกไม่ออกว่านี่เสียงใคร แต่ก็คงเป็นเพื่อนสักคนของพิชญาแน่ๆ

“ก็ยายนั่นแหละมาเล่าให้ฟัง แต่บอกให้รู้เลยว่านั่นไม่ใช่ช็อตเด็ดสุด เพราะซีนที่ฉันแทบจะปรบมือให้เลย ก็คือตอนที่แฟนนายชัชเรียกคุณโมว่า ‘ยายอ้วน’ แหม...เขาด่าซะแสบเลยนะ เจ้านายเราทนฟังไม่ไหว ถึงกับต้องไล่เด็กประชาสัมพันธ์เข้ามาในออฟฟิศเลย” เจ้าของเสียงคนเดิมขยายความต่อ

“เจ้าแม่จอมโหดเนี่ยนะหน้าซีด จ้างให้ก็ไม่เชื่อเด็ดขาด”

“นี่ไง ยายนั่นกดปุ่มโทรศัพท์อัดไว้ได้พอดี ฉันเปิดฟังซ้ำตั้งหลายหน สะใจเป็นบ้า ยายแฟนตัวจริงบอกว่า...”

โมนาจิกเล็บลงในมือ ห้ามตัวเองมิให้ผุดลุกขึ้นไปตวาดใส่ผู้คนที่กำลังสนุกสนานกับการซ้ำเติมเธอ แล้วหญิงสาวก็ได้ยินถ้อยคำประโยคนั้นอีกครั้ง นอกจากประชาสัมพันธ์สาวจะอัดมันไว้แล้ว เด็กนั่นยังเผยแพร่มันต่อด้วย!

‘ยายอ้วน! ถ้าฝันอยู่ก็ตื่นได้แล้ว ชัชเขาไม่ตาต่ำเลือกตุ่มต่อขาอย่างเธอไปเป็นแฟนหรอก สำเหนียกตัวเองไว้บ้าง ก่อนจะพูดอะไรเพ้อเจ้อน่าขำออกมาน่ะ’

เสียงหัวเราะครื้นเครงดังขึ้นอย่างสนุกสนานเฮฮา

“ห้ามไม่ฟัง งั้นพีชไม่คุยด้วยแล้ว เชิญนินทากันต่อตามสบายเถอะ” พิชญาเอ่ยจบ เสียงเก้าอี้เลื่อนก็ดังเบาๆ

โมนารู้มานานแล้ว ว่าพนักงานเกรงกลัวเธอ เพราะความดุ เฮี้ยบ และเคร่งครัดชนิดทำงานผิดพลาดไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พนักงานส่วนใหญ่จะเคยถูกตำหนิ ถูกเอ็ดมาบ้าง แต่นั่นเป็นเรื่องงาน เธอไม่เคยหาเรื่องกลั่นแกล้งใคร ไม่เคยพูดถึงใครลับหลัง แต่ทำไมคนพวกนี้ต้องซ้ำเติมยามที่เธอถูก ‘คนนอก’ บุกรุกมารังแกกันด้วย

สังคมนี้มันเป็นอะไรไปกันหมด การย่ำซ้ำเมื่อคนอื่นล้ม กลายเป็นค่านิยมที่น่าชื่นชมตั้งแต่เมื่อไร ทำไมคนสวยๆพวกนี้ถึงใจร้าย นิสัยไม่ดี ชอบล้อปมด้อยคนอื่น เกิดมาสวยก็โชคดีแล้ว ทำไมยังต้องคอยเปิดบาดแผลคนอื่นให้ยิ่งเจ็บปวด คิดว่าเหยียบย่ำคนอื่นแล้วจะทำให้ตัวเองสูงขึ้นหรือไง ใจร้ายที่สุด!

โมนากัดริมฝีปากแน่น ข่มความรู้สึกที่ปะปนกันทั้งน้อยใจ โกรธ และ...เจ็บใจ

แล้วพิชญาก็เดินพ้นมุมของพาร์ติชั่นมา ฝ่ายนั้นยืนนิ่งตัวแข็งเมื่อเห็นเธอ โมนายืดตัวตรงเพื่อให้ลูกน้อง ‘ทุกคน’ เห็นชัดๆว่าได้ยินถ้อยคำทั้งหมดแล้ว บรรยากาศรอบด้านเงียบสงัด ขณะดวงตาเข้มดุกวาดมองสาวๆที่หุบปากฉับ หน้าเจื่อนวางกิริยาไม่ถูกถ้วนหน้า

หญิงสาวมองหาตัวหัวโจก ส่งยิ้มเยียบเย็นไปให้นิสา จ้องมองพนักงานบัญชีผู้นั้นด้วยดวงตาคมกริบ ก่อนก้าวช้าๆผ่านพิชญาไปที่ห้องทำงาน ไม่ละสายตาจากคนต้นเรื่องสักนิด กระทั่งถึงห้องทำงานจึงไขกุญแจเข้าไปหยิบโทรศัพท์ จากนั้นออกมาล็อกประตูอย่างใจเย็น โมนากวาดตามองทุกคนจนไปหยุดที่นิสาอีกครั้ง เห็นลูกน้องก้มหน้าไม่กล้าสบตาเธอสักคน หญิงสาวบิดริมฝีปากนิดๆ กอ่นหมุนตัวเดินออกจากออฟฟิศอย่างเชื่องช้า มั่นใจว่าอีกหลายนาทีกว่าทุกคนจะหาปากตัวเองเจอ

เมื่อมายังล็อบบี้อีกครั้ง ภาพเหตุการณ์และบทสนทนาที่ยายนกกระยางขายาวประณามเธอเจ็บแสบดังซ้ำๆในหัวจนน่ารังเกียจ ทั้ง ‘ยายซิ้มหน้าจืด’, ‘ผู้หญิงหน้าตายังกับเต้าหูยี้เละๆ หุ่นบวมฉุเหมือนกระปุกตังฉ่าย’ ไหนยังจะ ‘ยายอ้วน’ ไปจนถึง ‘ตุ่มต่อขา’ สรุปว่าทั้งเนื้อทั้งตัวเธอ ไม่มีส่วนไหนดีเลยสักนิด!

โมนากัดริมฝีปาก กำมือแน่นจนเล็บจิกลงในมือ เธอเกลียดพนักงานพวกนั้น เกลียดสิริวิมล เกลียดทุกคนที่ชอบล้อเลียนเธอลับหลัง และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่โมนา...เกลียดตัวเองเช่นกัน!



สำนักงานของลียองอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสองร้อยเมตร แถมคอนโดมิเนียมของโมนาก็อยู่ติดสถานีรถไฟใต้ดิน หญิงสาวจึงไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัว ทุกวันเธอผ่านโรงแรมหรูระดับห้าดาวซึ่งอยู่ระหว่างทางไปสถานีรถไฟฟ้าโดยไม่เคยสนใจ แต่จู่ๆวันนี้มันกลับสะดุดตาเธออย่างประหลาด โมนาเพิ่งนึกได้ว่าบริษัทสมัครสมาชิกฟิตเนสของโรงแรมไว้เป็นสวัสดิการสำหรับพนักงานด้วย เธอหยุดยืนบนทางเท้ามองลึกไปในโรงแรมด้วยอาการชั่งใจ

“ขอทางหน่อยป้า อย่ายืนขวางทางสิ เดี๋ยวก็ถูกชนล้มหรอก” เสียงหนุ่มรุ่นกระทงดังขึ้นจากเบื้องหลัง

โมนาตวัดตาดุๆไปมองฉับ “เรียกใครป้าไม่ทราบ”

“เอ้อ...โทษทีครับพี่ มองข้างหลัง ผมนึกว่าคนแก่น่ะ” ไอ้หนุ่มนั่นแก้ตัว

“พอหันกลับมาเห็นข้างหน้าแล้ว คิดว่ายังไง” โมนาคาดคั้น อารมณ์บูดๆกลายเป็นเน่าสนิทในพริบตา

“ผมขอตัวก่อนดีกว่าครับพี่ ขอโทษด้วยนะครับ” เจ้านั่นรีบก้มศีรษะเป็นเชิงลุแก่โทษ แล้วเผ่นอ้าวหนีไปทันที
โมนาตวัดตาค้อนตามไปด้วยความหงุดหงิด สรรพนาม ‘ป้า’ เมื่อกี้ต้องเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ลาหลังหักแน่ๆ เพราะหญิงสาวไม่หยุดคิดสักนาที รีบเข้าไปในโรงแรมอย่างรวดเร็ว

[1] จากเรื่องเจ้าสาวร้อยชั่ง โดยดวงมาลย์ สำนักพิมพ์อรุณ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

สืบเนื่องจากความซุ่มซ่ามของสิริณ

ทำให้ลิงค์นิยายตกไปจากหน้ารวม

ใครยังไม่ได้อ่าน ใต้ปีกรักสีเพลิง ตอนหวานจิกหมอน ตอนที่ ๑๓ ครึ่งแรก

รีบตามไปอ่านและกดไล้ค์ให้เค้าด่วนเลยนะจ๊ะ

สิริณรอไล้ค์จากเพื่อนๆอยู่ อยากฟินนนนน ^_^

http://home.love-stories.net/lovestories/viewnovel/13619




สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ย. 2556, 03:28:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ย. 2556, 03:28:34 น.

จำนวนการเข้าชม : 1933





<< บทนำ   ตอนที่ ๒ (ครึ่งแรก) >>
Sukhumvit66 26 ก.ย. 2556, 18:06:44 น.
โดนว่าขนาดนี้แล้ว เธอจะลุกขึ้นมาปฎิวัติตัวเองไหมค่ะ หรือ คาเลกเตอร์นางเอกจะเป็นแบบนี้ค่ะ


ปลากัด 26 ก.ย. 2556, 21:27:31 น.
พี่เวย์ขยันฝุดๆ มาส่องหาทางสลัดโสดบ้างค่ะ อิอิ


Pat 27 ก.ย. 2556, 19:41:43 น.
ถังถัง ปฎิวัติตัวเองใหม่โลดดดด


นักอ่านเหนียวหนึบ 15 ต.ค. 2556, 02:29:43 น.
บางทีสังคมแบบนี้ก็น่าเบื่อ แต่มันก็อาจจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดอะไรดีๆ ขึ้นก็ได้
รีบไปอ่านตอนต่อไปดีก่า ฟิ้วววว


Zephyr 15 ต.ค. 2556, 16:17:20 น.
โมดิฟายเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ
จิ้นเป็นนางเอกได้มั้ย ขอเถอะ เค้าก็หุ่นใกล้เคียง ฮือออออ


ketza 5 ธ.ค. 2556, 08:30:01 น.
จ๊ากกก.... เรียกป้าเลยรึ
... เรียกพี่ได้ไหม....โมนาคงอยากจะฟังเพลงนี้ เหอๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account