Sweet Magic เวทมนตร์...รสหวาน
ความฝันที่อยากจะทำร้านขนมหวานครบสูตรของอิศยา ทำให้เจ้าหล่อนยอมหันหลังให้กับชีวิตของครอบครัว...และความฝันสุดยิ่งใหญ่ของเธอจะเกิดขึ้นได้ อิศยาต้องยอมทุ่มเทกายใจเอาชนะกำแพงหนาของป้ณณ์ให้ได้...งานช้างแบบนี้ อิศยาไม่มีทางยอมแพ้เขาเด็ดขาด แล้วจะได้รู้ว่าคนอย่างอิศยารุกรานโลกของเขาได้มากขนาดไหน
Tags: เวทมนตร์,รสหวาน,อิศยา,ปัณณ์,ปวรา

ตอน: เล่นนอกบท

“พ่อปั้นทำงานที่ไหนล่ะ มั่นคงไหม” คนสี่คนนั่งลงบนพื้นไม้ปาร์เกต์ในบ้านบริเวณห้องโถง หน้าปัณณ์มีขันน้ำเย็นเฉียบมีหยดน้ำเกาะพราว โรยด้วยดอกมะลิบนผิวน้ำเพิ่มความหอม ซึ่งชายหนุ่มจิบไปแค่อึกเดียว ก็ต้องตอบคำถามจากผู้ใหญ่สามคนจนไม่มีเวลาได้พักหายใจ ตั้งแต่เรื่องการศึกษา ตอนนี้ก็มาถึงการทำงาน

“ผมทำงานที่ดีเอสคอนสตรัคชั่นครับ เงินเดือนที่ได้มาแต่ละเดือนก็เหลือเก็บ” เหลือเก็บมากพอจะบินไปเที่ยวตามประเทศที่ต้องการได้สบายๆ...ปัณณ์ละจำนวนเงินไว้

เพียงแค่คำว่าดีเอสหลุดจากปาก คุณวรัชรีบตบเข่าฉาด ไม่วายยกยอลูกชายตัวเองมาเทียบเคียง “ในเครือโรงแรมดีเอส ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร นี่ เจ้าพลลูกชายของผมก็เป็นเชฟอาหารอยู่ในโรงแรมห้าดาว เห็นร่ำๆ ว่าจะเป็นแกนนำร้านอาหารโรมแรมในไทยผลักดันให้ดีเอสมีดาวมิชลินของไทยที่แรกด้วย”

ปัณณ์จ้องหน้าพลนิ่ง รู้สึกชื่นชมในความเก่งกาจ เพราะเรื่องอาหารดีเอสเรสเตอรอง ขึ้นชื่อติดอันดับประเทศโดยไม่ต้องมีดาวมิชลินมาการันตี นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็รู้อยู่แล้ว แต่กับเรื่องอื่น ชายหนุ่มไม่ขอชื่นชม โดยเฉพาะเรื่องของพลกับอิศยา

“รู้สึกยังไงกับลูกสาวฉัน” คุณศิยาเลือกยิงคำถามต่อไป ไม่อยากให้วรัชมัวแต่คุยเกทับ “ถ้ามาเล่นๆ ก็รีบออกไปจากชีวิตลูกสาวฉันดีกว่า ระยะเวลาที่ผ่านมามันยังไม่ถึงกับฝังรากลึกในความรู้สึกหรอก ย่าเองก็ไม่ได้มีภูมิต้านทานในเรื่องความรักเลย เลี้ยงมาเหมือนไข่ในหินของพ่อตาน่ะ ฉันไม่อยากให้ย่าเสียใจ”

“ผมจริงจังครับ” ปัณณ์ไม่ได้มีดวงตาขี้เล่น หรือนึกสนุกอย่างน้องชาย หรือเพื่อนรักอย่างภีมที่เป็นจอมเจ้าชู้ สำหรับเขา หากพูดอะไรออกไปแล้วย่อมเป็นจริงเสมอ

สองสามีภรรยาที่คิดหนุนนำลูกชายขยับตัวอย่างอึดอัด มองบุตรชายที่นิ่งเงียบมาตลอด ทั้งสองรู้สึกสงสารพลจับใจ ทั้งที่เฝ้ามองน้องน้อยมาตั้งแต่เกิด เฝ้ารักเฝ้าทะนุถนอม มาวันนี้อิศยากลับเลือกฝากความรักไว้ที่ใครอื่น พลหน้าตาไม่ได้ด้อยกว่าสักนิด ออกจะลูกจีนคิ้วเข้ม ผิวขาว ไม่เหมือนปัณณ์ วรัชมองหนุ่มต่างถิ่น ที่ตัวสูงสง่า หลังตรง ดวงตาเล็กแต่ไม่ตี่เป็นขีดแลสงบ ดึงคู่สนทนาให้มองด้วยอำนาจในตัวเองได้

วรัชไม่อยากจะยอมรับ ว่าพลกำลังพ่ายแพ้ให้กับผู้ชายมาดดีคนนี้ ดังโบราณจีนที่ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือจิวยี่ยังมีขงเบ้ง...ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

“คุณก็รู้ใช่ไหมว่าพ่อของย่า ไม่ยอมรับง่ายๆ แน่” ช่อแก้วเสริมอย่างมีความหวัง ยกบุรุษตัวแปรสำคัญในความรักของอิศยามา ก็เพราะอิศยามีขจรคอยปกป้องมาเสมอ พลถึงเข้ามาได้แค่ในฐานะพี่ชายเท่านั้น

“ผมจะพยายาม ถ้าวันไหนที่ผมทำให้ย่าไม่ไว้ใจ ดูแลย่าได้ไม่ดี ผมยินดีออกไปจากชีวิตของย่าครับ”

ศิยายกยิ้มทันทีในคำตอบของปัณณ์ รู้สึกพอใจกับความมั่นคง ไม่หวั่นไหวง่าย เปรียบดังต้นไม้ใหญ่ที่ใครก็สร้างความสะเทือนให้ไม่ได้ หญิงกลางคนรู้สึกว่าแท้จริงแล้ว ปัณณ์แอบมีส่วนคล้ายกับขจรในเรื่องนี้ บุคคลที่พร้อมจะปกป้องอิศยา...ไม่ใช่สัญญาลมปากพล่อยๆ อย่างพวกที่ทำไมได้จริง

ศิยาคิดว่าเธอเห็นประกายตาหวานลึกในดวงตานิ่งสงบตลอดคำพูดนั้น...สมแล้วที่เป็นอิศยา ลูกสาวที่น่ารักของเธอ ไม่ว่าอยู่ที่ใด ย่อมมีคนรักมากกว่าคนเกลียดเสมอ

ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบพล แต่เพราะว่าลูกสาวไม่ชอบต่างหาก ศิยาไม่ใช่คุณแม่หัวโบราณ ตามละครเก่าแก่ที่จับลูกหมั้นหมาย คลุมถุงชนทั้งที่ไม่รู้จัก หรือจับแต่งแบบมัดมือชก ด้วยความไม่เต็มใจ เอาคำว่าน้ำตาลใกล้มดมาหลอกล่อ หรือหลอกตัวเอง กับคนอื่นอาจจะได้ผล แต่หากใช้วิธีบังคับกับอิศยา ผลสุดท้ายนั้นไม่มีทางจบสวย อิศยาคงปีนหน้าต่างหนี กระเจิดกระเจิงไม่กลับมาแบบที่ทำประจำ

ขังอะไรขังได้ แต่หากคิดจะขังหัวใจของอิศยา เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า...

“เลิกกันซะ!” ศิยาสะดุ้งกับเสียงอันดังแจกจ่ายไปถึงเพื่อนบ้าน รู้ดีว่าหัวข้อของคนข้างนอกต้องไม่พ้นเรื่องเดียวกับในบ้านแน่นอน

วรัชกับช่อแก้วยิ้มกริ่มกับปฏิกิริยาของขจร จับมือลูกชายไว้ด้วยอาการของคนที่ยังพอมีความหวังริบหรี่ ปัณณ์ยังคงความนิ่งไว้ได้เสมอต้นเสมอปลาย ขออนุญาตคนในห้องโถงลุกออกไปเผชิญพายุร้ายด้านนอก ตรงนั้น ภาพผู้หญิงหน้างอ ตาบวมแดงเพิ่งผ่านการร้องไห้แสดงความดื้อรั้นออกมาเต็มที่ ลงมายืนในสนามหญ้า หันหน้าเผชิญกับคนในศาลา กอดอก และพูดเสียงอันดัง ตอบโต้แบบไม่เกรงกลัวอำนาจของขจรแต่อย่างใด

“ย่าไม่เลิก! ...ยิ่งพ่อขวางมากเท่าไหร่ ย่าจะยิ่งแสดงความรักของย่ากับพี่ปั้นมากเท่านั้น แล้วคอยดู ความฝันของย่าจะเติบโตไปพร้อมๆ กับความรัก ใครจะรู้ วันที่ความฝันของย่าสำเร็จ ย่าอาจจะแต่งงานเลยก็ได้”

เสียงอุทานหลายเสียงจากในบ้านดังพร้อมเพรียง ผู้ใหญ่ทั้งสามปิดปากร้องตกใจกับคำขาดไม่คาดฝันของอิศยา ตรงข้ามกับคนพูดที่หลุดประโยคแสนดื้อรั้น อยากเอาชนะคะคานกับพ่อในเรื่องไม่เป็นเรื่อง สะดุ้งโหยงกับการมีมืออุ่นที่เริ่มชินว่าเป็นของใครมากอบกุมไว้ สองแก้มร้อนผ่าวเพิ่มระดับความร้อนจนใบหน้าแดงก่ำ อิศยารู้สึกอับอายที่ประโยคของเธอคงดังไปหลายบ้าน ต่อให้หลายบ้าน ไม่เท่ากับการมีเจ้าของอุ้งมือคู่นี้รับฟังครบถ้วน

“ผมขอเหตุผลที่คุณพ่อขอให้ผมเลิกกับย่าได้ไหมครับ” ถือวิสาสะเรียกแบบสนิทสนมกับขจรโดยไม่สะทกสะท้าน

“ผมไม่ใช่พ่อคุณ” ขจรแยกเขี้ยวตอกกลับมา

“ผมเข้าใจครับ...คุณพ่อ” ครั้งนี้เพิ่มรอยิ้มแสดงความเป็นมิตรอย่างจงใจ เป็นวิธีการตอบโต้แบบสุขุมซ่อนความกวนฉบับปัณณ์

อิศยาไม่รู้จะโกรธหรือหัวเราะดี หรือจะย้ายข้างไปยืนปลอบใจบิดาให้ขมับสองข้างเต้นตุบน้อยลง จอมมารบทจะนิ่ง แต่วาจายั่วโมโหและก่อกวนอารมณ์ก็ยังไม่เปลี่ยน

“ถ้าเลือกหมอนี่ ก็เท่ากับไม่เลือกพ่อ” ไม่ยอมตอบเหตุผลที่จริงก็ไมได้มีอะไรมากนอกจากหวงลูกสาว

คำขาดของบิดา อิศยาเลือกตอบออกมาเป็นการกระทำ หญิงสาวตกใจในความคิดตัวเอง ถึงจะเป็นการคบกันหลอกตาที่มีประโยชน์อยู่เบื้องหลัง แต่เธอถึงกับยอมลงทุนแข็งข้อกับคุณขจรที่เคารพรัก ถึงได้อาจหาญยืดตัวมาหอมแก้มของปัณณ์ต่อหน้าทุกคน ถึงจะรวดเร็วไม่กี่วินาที แต่อิศยารู้สึกหัวใจเริ่มเต้นโหมโรงในอกยากจะควบคุม

สัมผัสเนื้อแก้มของปัณณ์นุ่ม และติดตรึงริมฝีปากของอิศยาแม้จะถอนตัวกลับมาแล้ว สายตาประหลาดใจจากดวงตานิ่งสนิทมีร่องรอยบางอย่างที่อิศยามองแล้วใจเต้นไหวแปลก...หวังว่านอกบทไปไกลของเธอคราวนี้คงไม่ทำให้ผู้ชายโลกส่วนตัวสูงลุกมาบีบคอ หรือประกาศกร้าวว่าที่จริงทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก

“อิศยา!” ชื่อจริงถูกเรียกมาจากคุณขจรและคุณศิยาพร้อมกัน ทำลายความรู้สึกแปลกในใจให้คืนสู่โลกความจริง อิศยากระโดดหลบหลังปัณณ์อัตโนมัติ ทำตัวเองให้เล็กที่สุด

“ผมจะยอมอยู่ห่างจากย่าหนึ่งเมตรต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่ครับ” ปัณณ์จับข้อมืออิศยาไว้มั่น พูดเสียงลอดไรฟันให้ได้ยินกันเพียงสองคน ไม่ต่างจากการคาดโทษ “ก๋ากั่นพอแล้วนะ คุณผู้รุกราน”

คนถูกว่าก๋ากั่นสะบัดมือจากอุ้งมือใหญ่เสียเอง ถอยออกมายืนกอดอก เตรียมรับโทษจากมารดา มือพิฆาตบิดเนื้อขาวของอิศยาจนโอดโอยเหมือนเด็กเล็ก อดโยกตัวหลบมือคีมหนีบไปด้วยไม่ได้

“ทำผิดก็ต้องโดน แม่ไม่เคยเลี้ยงลูกสาวให้ใจแตก หอมแก้มผู้ชายก่อนนะ ไม่ต้องหลบ”

“โอย เจ็บนะแม่”

ขจรยืนเผชิญหนุ่มคราวลูกที่บังอาจมาล้วงคองูเห่า บุกถ้ำเสือด้วยท่าทีสำรวจ อดพอใจนิดๆ กับการตัดสินใจถอยห่างจากอิศยา แทนที่จะเล่นตามน้ำทำตัวเป็นหนุ่มมือไว แต่ของแบบนี้จะให้เชื่อว่าไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งทำก็ต้องดูกันอีกนาน...แต่คนที่ขจรต้องจัดการก่อน คือคนที่บังอาจเลือกผู้ชายอื่นนอกจากพ่อ

“โอย...พ่ออย่ามาจั๊กจี้ ย่าบ้าจี้นะ ฮะ...ฮ่า” เสียงหวานหัวเราะเคล้ากับน้ำเสียงคาดโทษแบบไม่จริงจังนัก บรรยากาศหม่นหมอง ขมุกขมัวเหมือนท้องฟ้าเคล้าฝนถูกปัดเป่าไปได้ด้วยสายลมแห่งความเข้าใจ และภาพครอบครัวสุขสันต์ก็อยู่ในสายตาผู้มาใหม่
พรพิรุณตระหนักดีว่าที่ของเธอมันไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก...



อิศยากลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน รถการันตีความรวยของผู้ชายที่เจ้าตัวแนะนำว่าคือคนรักประจักษ์ชัดถึงฐานะในสายตาของทุกคนเป็นอย่างดี พรพิรุณนั่งเก็บกวาดสิ่งของหลังงานเลี้ยงเลิกให้เรียบร้อย สองมือล้างจานภาพเหตุการณ์หนึ่งก็ไหลย้อน ดูเหมือนคนสองคนจะไม่ได้รับรู้เลยว่าเรื่องที่คุยไปนั้น ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป


‘ผมไม่ใช่พ่อพระใจบุญที่จะช่วยคุณแบบไม่หวังผล’ พรพิรุณที่กำลังเดินขึ้นบันไดศาลาเก็บของบนโต๊ะทันได้ยินประโยคที่คนทั้งคู่คุยกัน อยู่ข้างตัวรั้ว บริเวณรถลัมโบร์กินี พรพิรุณไม่เคยคาดคิดว่าตัวเองจะทำตัวเป็นคนนิสัยเสีย ยอมเดินเสียงเบามานั่งยองหลังศาลาเพื่อแอบฟังบทสนทนาของคนอื่น...ถ้าคนๆ นั้นไม่ใช่อิศยา พรพิรุณไม่มีทางทำแบบนี้แน่

เผื่อเธอจะได้ล่วงรู้จุดอ่อนของอิศยาเพิ่มมากขึ้น

ช่องว่างไม่ถึงฟุตครึ่งระหว่างกำแพงกับศาลา พอเป็นที่มิดชิดให้พรพิรุณได้ฟังประโยคสนทนาที่ไม่ได้ดังเหมือนในตอนแรก ผู้ชายมาดดีลดเสียงลงไม่ให้ใครอื่นได้ยินในรัศมีวงแคบ...แต่กับคนที่ตั้งใจฟัง ย่อมได้ยินแน่นอน

‘อีกไม่นาน ดีเอสจะมีจัดการแข่งประกวดทำขนม ผมขอให้คุณลงแข่ง’

‘ฉันจะลงแข่งในนามใคร ร้านสังกัดของฉันก็ไม่มี ร้านยังสร้างไม่เสร็จ อีกอย่างคุณจะใช้เส้นสายให้ฉันใช่ไหม ฉันไม่ลงแข่งเด็ดขาด ไหนบอกว่าการที่เราเป็นแฟนปลอมๆ เพื่อช่วยกันทั้งคู่ คุณช่วยฉันเรื่องพี่พล ฉันก็ช่วยคุณเรื่องน้องสาวคุณไง เราต่างคนต่างช่วย’

พรพิรุณฟังน้ำเสียงตอบโต้ แฝงความเกรี้ยวกราดของอิศยา รอยยิ้มร้ายเริ่มแสดงออกมา เธอไม่มีวันอยู่ใต้เงาของอิศยาไปตลอดกาลแน่นอน ได้ยินเสียงปัณณ์ขู่ปิดท้าย อิศยาได้แต่ส่งเสียงกระเง้ากระงอด ฮึดฮัดเพราะทำอะไรไม่ได้

‘จะไม่ทำก็ได้นะ เพราะว่าผมจะทำให้การก่อสร้างร้านของคุณเสร็จช้าลง’

‘ฉันนี่มันเกิดมาบุญมี แต่กรรมตัวใหญ่คอยบังไว้จริงๆ เลย ขอร้องนะคะ ห้ามใช้เส้นสายช่วยเหลือฉันเด็ดขาด คนอย่างฉัน ถ้าไม่ได้ด้วยความสามารถ ฉันไม่มีทางทำแน่’ บ่นโอดครวญอย่างคนไร้สิ้นหนทางเลือก ไม่วายทิ้งนิสัยสุดมั่นใจไม่เดินตามโลกที่จำเป็นต้องมีคนหนุนนำ


พรพิรุณวางจานใบสุดท้ายไว้บนชั้นวางจานเหนืออ่างล้างจาน ดวงตาครุ่นคิด สะบัดมือให้หยดน้ำที่เกาะมือหมาดขึ้น ความคิดหนึ่งมั่นคงชัดเจน สำหรับพรพิรุณเรื่องใครแฟนจริงแฟนปลอมไม่ใช่ประเด็นสำคัญของเธอ และถ้าเธอบอกความลับที่คนทั้งคู่เก็บไว้ให้คุณขจรรู้ คนทางนี้คงดีใจ โห่ร้อง และรับขวัญลูกสาวคนเล็กยิ่งกว่านี้ ให้อิศยาได้ทำอะไรขัดใจที่บ้านมากๆ เธอจะได้มีเวลาในการลบเงาของอิศยาไปจากร้านเรื่อยๆ

หญิงสาวมุ่งกลับมานั่งในห้องทำงานที่แต่เดิมเคยเป็นห้องที่มีคอมพิวเตอร์สำหรับเธอและอิศยาใช้งานโดยเฉพาะ แต่ปัจจุบันมีแค่เธอได้ครอบครองเพียงผู้เดียว บ้านหลังนี้พรพิรุณมาอยู่อาศัยนับตั้งแต่พ่อแม่จากไป บ้านหลังเดิมพรพิรุณเลือกตามความต้องการของคุณขจรที่บอกว่าจะเก็บรักษาไว้ให้ โดยจ้างแม่บ้านไปคอยทำความสะอาด แต่เธอต้องมาอยู่ที่นี่ เป็นหนึ่งในครอบครัวของท่าน...พรพิรุณสะเทือนใจจากการสูญเสียพ่อแม่ไปก็จริง แต่การมาอยู่ใต้ชายคาแห่งนี้ทำให้เธอได้อยู่กับสิ่งที่รัก จึงอยู่กับความเศร้าได้ไม่นาน

หลังจากเปิดคอมพิวเตอร์ และพัดลมไม่ให้ร้อนเกินไป จึงเปิดโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ขึ้นมาเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต พรพิรุณเสิร์ชหาการแข่งขันทำขนมของดีเอส หน้าจอหลักของดีเอสแกรนด์เบเกอร์รี่หน้าแรก เป็นหน้าใหญ่ที่ประกาศถึงงานใหญ่ที่มีคำโปรยว่า ‘เฟ้นหาสุดยอดพาติชิเย่แห่งเมืองไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของดีเอสแกรนด์เบเกอร์รี่’ บอกชัดถึงช่วงเวลาในการรับสมัคร เงินรางวัล และผู้ชนะที่จะมีสิทธิ์ได้ทำงานในดีเอสแกรนด์เบเกอร์รี่

ปกติพรพิรุณไม่ใช่คนรักการแข่งขันแบบนี้อยู่แล้ว ตรงกันข้ามกับเจ้าแม่แสวงหาสิ่งแปลกใหม่อย่างอิศยา รายนั้นพาตัวเองและชื่อเสียงของร้านลงแข่งมานักต่อนัก และเธอทำได้แค่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ นั่งเฝ้าร้านในเวลาที่อิศยากับขจรไปออกโรงสร้างชื่อ

เวลานี้ เธอมีสิทธิ์จะออกไปในฐานะร้านคุณตาได้เอง เพื่อต่อสู้กับอิศยา...พรพิรุณดาวน์โหลดใบสมัคร จัดการปริ๊นซ์ออกมานั่งมองกรอกรายละเอียด ระบุชัดว่าเป็นตัวแทนจากร้านคุณตา

“อุ่น...หนูจะกลับร้านอีกไหม” คุณขจรดันประตูที่แง้มอยู่เข้ามาถามโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย คนแอบกระทำการลับหลังรีบพลิกหน้ากระดาษคว่ำลงกับโต๊ะ ทำทีไร้พิรุธ สวนทางกับความระทึกในอก ภาวนาไม่ให้คุณขจรเข้ามาสำรวจมากกว่านี้

“เดี๋ยวอุ่นกลับไปค่ะ คืนนี้จะนอนที่นั่นด้วย ต้องเคลียร์ออเดอร์ลูกค้าด้วยค่ะ” ตอบคำถามไปอย่างใจเย็น

“เหนื่อยหน่อยนะ...เดี๋ยวลุงไปช่วยด้วยดีกว่า อายาก็ไม่อยู่”

พรพิรุณซ่อนรอยยิ้มขัน และเสียงหัวเราะไว้เต็มที นิสัยขี้หวงลูกสาวของคุณขจร ถึงกับยอมส่งภรรยาสุดที่รักไปนั่งเฝ้าไม่ให้ทำอะไรได้ไม่สะดวกกับปัณณ์ อยากรู้นักถ้ารู้ความจริงว่าอิศยาหลอกอะไรไว้จะรู้สึกอย่างไร แต่เอาเถอะ ให้คนทั้งบ้านวิ่งวุ่นเรื่องอิศยากันให้มากๆ เธอจะได้ดำเนินเรื่องการประกวดนี้ได้ง่ายขึ้น

ใครเก่งกว่าใคร นับจากนี้ พรพิรุณจะไม่หลบซ่อนอยู่ใต้เงาใครอีก จะได้ตัดสินระหว่างเธอ กับอิศยาเสียที


ภาพร่างบางนอนเหยียดยาวอยู่ตรงศาลาริมน้ำ สองมือประสานตรงช่วงหน้าท้อง ลมหายใจเข้าสม่ำเสมอ คอยมีหญิงวัยกลางคนโบกมือปัดป่ายยุงไม่ให้ตอมกัดบุตรสาว ดึงผ้าห่มขึ้นมาชิดอกอิศยาให้อย่างทะนุถนอม ตักของศิยาไม่ต่างจากหมอนนุ่ม แสงไฟสีนวลในศาลาไม้สีฟ้าส่องภาพตรงหน้าอย่างละมุนตา อบอุ่นใจคนมองอย่างที่สุด

“เจ้าย่าเป็นเด็กขี้อ้อนแบบนี้เสมอ” เสียงแหบกล่าวกลั้วหัวเราะ จากระเบียงบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง ทอดมองไปยังบริเวณศาลาที่อยู่ติดท่าน้ำของบ้านได้ชัดเจน “คุณกำราบไหวไหม...เด็กซนๆ คนหนึ่ง ที่มีความคิดใหญ่เกินตัว”

ปัณณ์ยิ้มให้กับคำจำกัดความของอิศยาที่คุณยายกัลยาว่ามา คิดไม่ผิดที่พวกเขาตัดสินใจบอกความจริงถึงเรื่องโกหกให้คุณศิยาและคุณยายกัลยารู้

“เขาเป็นเด็กที่ไล่ล่าความฝันของตัวเอง ถ้ายังจับผีเสื้อที่เขาวิ่งตามไม่ได้ เขาจะวิ่งไปเรื่อยๆ จนคนรอบข้างต้องยื่นมือเข้าไปช่วย ไม่ใช่เพราะความสงสาร แต่พวกเขาอยากให้รอยยิ้มสดใสของเด็กหญิงอิศยาอยู่ต่อไปได้ คอยส่งน้ำให้เธอได้มีแรงวิ่งต่อไป แทนที่จะจับผีเสื้อมาไว้ในมือของเธอ” ปัณณ์บรรยายภาพผู้หญิงที่เขารู้จักด้วยความนุ่มทุ้ม ตรงใจ

“ดีจริงๆ ที่หลานสาวของฉันพบคนที่มีความคิดอย่างคุณ” กัลยาหัวเราะเบิกบาน สองมือสานตะกร้าหวายต่อ ภายใต้แสงไฟสว่างในบ้าน “แต่ขนาดคนแบบคุณ ยังเอาชนะใจเจ้าตาไม่ได้ใช่ไหม...คนแบบนั้นหวังให้เทพมาจุติ หรือรอจนลูกแก่ขึ้นคานหรือไงก็ไม่รู้ถึงจะยอมปล่อยเจ้าย่าได้พบใคร” บ่นอย่างคนแก่ที่ไม่ถูกชะตากับลูกเขย

ปัณณ์ไม่อยากสนับสนุนอะไรชัดเจนในตอนนี้ นอกจากลางสังหรณ์บางอย่างจะบอกว่า หากเขาไม่จับมือกับคนที่ยืนฝ่ายตรงข้ามกับขจรไว้ให้ดี ในอนาคตตนจะลำบากยิ่งกว่านี้

ไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลาไม่นาน ผู้หญิงนิสัยจอมรุกราน รุกพื้นที่ประชิดตัวเขาทั้งด้านความคิด และหัวใจได้ในภาวะน่าเสี่ยง ปัณณ์ไม่อยากจะยอมรับง่ายๆ ในขณะที่อิศยายังคงกระทำกับเขาไม่ผิดแผกไปจากเดิม

คนอย่างปัณณ์ หากจะลงทุนทำอะไรสักอย่าง ผลที่ได้ต้องตอบกลับมาในอัตราที่น่าพอใจ...และเรื่องลงทุนหัวใจ หากหวังได้หัวใจตอบคืน ต้องให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ใช่คนเปิดเผยออกมาก่อนแล้วล่มไม่เป็นท่า

“ฝากดูแลหลานฉันด้วยนะ...ไม่ต้องไปสนใจหรอกความคิดตาแก่ล้านปีอย่างเจ้าตา ลูกโตจนเรียนจบ ยังหวงก้างไม่เลิก ดีเท่าไหร่ที่ยอมใจกว้างเรื่องร้าน นี่รู้ไหม สมัยก่อน แค่เจ้าย่าจะมาหาฉันนะ ทำเป็นขวาง กลัวฉันจะเอาย่ามาขังไว้กับตัว น่าขังน้อยเสียที่ไหน เดือนหนึ่งเจอหน้าหลานไม่ถึงห้าครั้ง มาแต่ละครั้งก็อ้อนให้ฉันสอนทำโน่นนี่ ทำให้ฉันหายเหงาไปได้เยอะ”

ชายหนุ่มเริ่มเข้าใจแล้ว ว่าอิศยาไม่ใช่แค่ดำรงตำแหน่งลูกรักประจำบ้าน เจ้านายที่ลูกน้องต่างรักเคารพ แต่ยังพ่วงตำแหน่งหลานรักของคุณยายกัลยาแห่งคุ้มน้ำมหาสวัสดิ์แห่งนี้อีกตำแหน่ง

ถ้าขืนเขาทำให้อิศยาไม่สบายใจ หรือเสียใจ คนหลายคนคงพร้อมจะเล่นงานเขาโดยไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น

“ย่าเป็นที่รักของทุกคนเลยนะครับ”

“ใช่สิ...หลานคนเล็กของฉันเลย น่าเสียดายที่ฉันไม่ใช่ยายของเจ้าอุ่นอีกคน รายนั้นก็น่าสงสาร เสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เพิ่งเป็นวัยรุ่น เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ใครๆ ก็ทุ่มเทให้ย่าแบบนั้น ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเด็กจะอิจฉากันเองหรือเปล่า”

“ผมเองก็เพิ่งเคยเจอคุณอุ่นเขาวันนี้ เธอเองก็เป็นคนที่เก่งนะครับ” ปัณณ์นึกชื่นชมถึงผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับอิศยาที่ได้พบ ฝีมือทำขนมของฝ่ายนั้น เอาตามจริงก็ถือว่าเป็นเลิศ สมกับที่เติบโตมากับขนมหวานไม่ต่างจากที่อิศยาเป็น

“จริงเรอะ...ตาลูกเขยฉันคงสอนมาดี ศิษย์เอกของเขาก็มีอยู่สองคนนี้แหละ ใจจริงฉันเองก็อยากจับแม่อุ่นมาเรียนทำขนมไทยด้วยอีกคน แต่บ้านนั้นมีจระเข้หวงไข่ มีลูกจระเข้หลุดมาตัวเดียวก็กระฟัดกระเฟียดร้านแทบพัง”

ปัณณ์หัวเราะกับการเปรียบเปรย ไม่ต้องระบุว่าใครเป็นจระเข้หวงไข่ และใครเป็นลูกจระเข้ที่หลุดมาตัวนั้น สายตาของปัณณ์มองลูกจระเข้น้อยที่ชอบชีวิตที่ตัวเองลิขิตหลับตาสงบบนตักนุ่มของมารดาด้วยความอ่อนโยน

โดยมีสายตาของหญิงสูงวัยสังเกตตามอย่างถูกใจ โดยเฉพาะประกายตาในดวงตาสีดำลึกล้ำนั้นส่องประกายความหวานออกมาจนกัลยาสัมผัสได้

................................................................................................

บทนี้นิสัยนางเอกก๋ากั่นแท้ ฮาาา วันนี้มาอัพให้เร็วๆ เลยค่ะ (เร็วไปไหม)
คุณ ร้อยวจี บทใหม่มาแล้วค่า ตอนนี้เริ่มเร่งมือปั่นเพิ่ม ใกล้หมดสต็อก อ่านเรื่องนี้แนะนำขนม กับเครื่องดื่มเย็นๆ อาจจะได้อารมณ์หวานเพิ่มค่ะ ฮาา
คุณ icewinter อ่านแล้ว คุณพ่อก็ยังไม่ปลื้มปัณณ์นะ ฮาา ขอบคุณที่เข้ามาอ่านทุกวันเลย ตั้งใจเขียนนิยายเรื่องนี้ให้ออกมาน่ารัก อบอุ่น ดีใจที่สัมผัสได้นะคะ :)
คุณ Auuuu บทนี้องศาสาบสูญ ฮาา โดนทุกคนปล่อยเกาะทิ้งไปเรียบร้อย ไว้ไปจัดการองศาใหม่ในบทหน้า บทนี้เปิดตัวครอบครัวนางเอกครบเลยค่ะ
คุณ ariesleo ไม่เป็นไรค่า มาเมื่อไหร่ก็ได้ แค่มาอ่านก็รักกันจริงแล้ว ขอบคุณมากๆ ค่า ดีใจเหมือนกันที่หลายคนชอบค่ะ
คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ ดีใจที่ชอบนะคะ แอบไปอ่านเมนท์ในตอนเก่าแล้วด้วย ตอนเขียนไม่ได้คิดเลย พอกลับมาอ่าน จริงแฮะ สวเนตร คือโนดาเมะชัดๆ ฮา
ขอบคุ๊ทุกเมนท์ ทุกไลค์ ทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ^_^



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ก.ย. 2556, 00:20:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.พ. 2558, 22:10:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 1512





<< ไปให้ไกลเท่าที่ขาสองข้างจะเดินไปได้...   เกิดอะไรกับใจ... >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 28 ก.ย. 2556, 00:39:50 น.
ถ้างั้น ไรเตอร์อย่าลืมเรื่องของพี่สาวน้าาาา เอาพลอตคล้ายโนดาเมะเลย แบบเป็นเวอร์ไทย
555 (เหมือนสั่งอาหารนะ เอ๊ะยังไง)
ตอนนี้ก็อ่านไป ยิ้มไป พี่ปั้นนี่ท่ามากจิงจิ๊งงงงง หนูย่าก็ซื่อสุดๆ
ต่ก็น่าร๊อกนะเคอะ อิอิ


Auuuu 28 ก.ย. 2556, 01:32:23 น.
แอบสงสารอุ่นเหมือนกันนะ


ariesleo 28 ก.ย. 2556, 01:45:59 น.
อิจฉาย่า เน๊อะ


ร้อยวจี 28 ก.ย. 2556, 02:02:23 น.
ตัวอิจฉากำลังเริ่มแผนร้าย อุ่นก็น่่าสงสารแต่ความคิดร้ายๆ ทำให้สงสารไม่ลง อยากรู้จังใครจะชนะ สนุกค่ะ
ได้ลุ้นตอนแข่ง ขอให้ย่าชนะค่ะ คนอ่านจะได้ไม่หัวใจวายเพราะตื่นเต้น


icewinter 28 ก.ย. 2556, 09:54:10 น.
หวานมากกก ชอบตอนนี้ฝุดๆ แต่อุ่นทำไมเริ่มร้ายอย่างงี้. ดย่จัง รอดูต่อไปค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account