ใต้ปีกรักสีเพลิง {นวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ.อรุณ}
สร้อยผีเสื้อสีเพลิงจากคนแปลกหน้า
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ ๑๕ (ครึ่งแรก) + ชวนไปร่วมสนุกกับกิจกรรมที่แฟนเพจ แจกหนังสือ 3 เล่มจ้า
สายจัดแล้ว แต่คิรินทร์ยังคงนอนแผ่อยู่บนที่นอนโดยไม่มีวี่แววว่าจะขยับกาย เครื่องปรับอากาศช่วยให้ในห้องเย็นฉ่ำ ทว่าเขาไม่ยี่หระต่อสภาพอากาศหนาวเหน็บทั้งที่สวมเพียงเสื้อยืดเก่าๆ และกางเกงผ้าเนื้อบางแทนชุดนอนไว้เท่านั้น ดวงตาคมจับจ้องอยู่บนเพดานอย่างเหม่อลอย ถ้อยคำกล่าวหาของผู้หญิงวัตถุนิยมคนนั้นดังก้องอยู่ในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า และที่ชายหนุ่มหงุดหงิดนักก็เพราะเขาไม่เข้าใจตัวเองว่าเหตุใดจะต้องเก็บกอบคำพูดของเธอมาเป็นทุกข์หนักหนาเพียงนี้
ผู้หญิงใจแคบ นอกจากจะใส่ร้ายเขาแล้ว เธอยังดูถูกเขาอย่างร้ายกาจที่กล่าวหาว่าเขาขโมยต่างหูของเธอไปขาย ในความรู้สึกของพรนางฟ้า เขาดูเป็นคนไว้ใจไม่ได้ขนาดนั้นเชียวหรือ!
คิรินทร์คว้าหมอนที่อยู่ใกล้ตัวขว้างใส่ผนังเพื่อระบายความรู้สึกไม่ได้ดังใจให้บางเบาลง แต่นั่นก็แทบไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเท้าเอวมองรอบตัว รู้สึกคล้ายทุกสิ่งขวางหูขวางตาไปหมด ท้ายที่สุดเขาฉวยผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัว ผลัดเสื้อผ้า จากนั้นคว้ากระเป๋าสตางค์ผลุนผลันออกจากสตูดิโอ
คิรินทร์ขึ้นรถไฟฟ้าซื้อบัตรนั่งเล่นไปเรื่อย ไม่รู้จุดหมายปลายทาง สิ่งเดียวที่รู้ก็คือ...เขาไม่อยากอยู่ลำพังอีกแม้แต่วินาทีเดียว!
สุภัทรชายืดมือสุดแขนกรีดเล็บเปลือยเปล่าเพื่อพินิจดูด้วยความพอใจ แล้วจึงพยักหน้าสั่งช่าง “วันนี้แต่งเล็บแบบฝรั่งเศสละกัน ทาสีใสแล้วลงสีขาวที่ปลายเล็บ ไม่ต้องต่อเล็บนะ ฉันไม่อยากให้ดูกรีดกรายเกินไป”
ระหว่างเพลิดเพลินกับการปรนเปรอตัวเองด้วยคอร์สบำรุงผิวหน้า ผิวตัว มือและเท้าในสปาสุดหรู โทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ พนักงานรีบหยิบโทรศัพท์จากบนโต๊ะมาส่งให้อย่างนอบน้อม สุภัทรชาเบ้หน้านิดๆเมื่อเห็นชื่อบนหน้าจอ ทว่าครั้นกดรับสายเธอกลับเอ่ยทักทายเสียงหวานได้ทันที
“สวัสดีค่ะพี่พัทธ์” หญิงสาวเบ้ปากเมื่อได้ยินคำชวนจากปลายสาย เธออดทนฟังจนพัทธ์ธนัยเอ่ยจบประโยคแล้วจึงตอบ “เกรซต้องทำรายงานส่งแพนค่ะ ยังไม่รู้เลยว่าวันนี้จะเสร็จหรือเปล่า ต้องขอโทษพี่พัทธ์ด้วยนะคะที่ระยะหลังเกรซไม่ค่อยมีเวลาให้พี่พัทธ์เลย”
การที่อีกฝ่ายไม่รับคำขอโทษ ทั้งยังรับผิดเองว่ารบกวนเวลาทำงานพิสูจน์ตัวเองของเธอ ทำให้หญิงสาวพึงใจและรู้สึกดีขึ้น ความเชื่อมั่นและภาคภูมิในเสน่ห์แห่งตน ทำให้สุภัทรชาออดทิ้งท้ายแค่ “เกรซต้องวางสายแล้ว เดี๋ยวงานไม่เสร็จ ไว้พรุ่งนี้นะคะ ถ้าทำรายงานเรียบร้อยแล้วไม่ดึกเกินไป เกรซจะโทร.ไปชวนพี่พัทธ์มาทานข้าวเย็นด้วยกัน เกรซคิดถึงพี่พัทธ์จะแย่ละ”
พัทธ์ธนัยบอกลาแล้ววางสายไปอย่างว่าง่าย ทำให้เธอแปลกใจนิดหน่อย รู้สึกเหมือนว่าเขาโล่งใจ และที่โทร.มาก็แค่ทำตามหน้าที่ของการเป็นคนรักกันเท่านั้น สุภัทรชายักไหล่ปัดความคิดนั้นทิ้ง แปรเป็นรอยยิ้มกว้างสะใจ เธอแทบไม่รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่ก็ไม่ปล่อยมือจากเขาง่ายๆอยู่ดี เธอรู้ว่าพรนางฟ้าแอบชอบพัทธ์ธนัย และมันคงไม่มีอะไรจะทรมานยายตัวแสบนั่นได้มากไปกว่าการต้องทนเห็นผู้ชายที่ตัวเองรักออกโรงปกป้องผู้หญิงคนอื่นหรอก!
มุกมาลินนั่งพับขาอยู่บนพื้น วางข้อศอกบนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเตี้ยเท้าคางมองคนที่นั่งบนเก้าอี้ไม่มีพนักซึ่งกำลังตั้งใจทำงานอยู่ไม่ห่าง ดวงตาสีดำลึกล้ำคู่นั้นใช้สมาธิเพ่งมองบนผืนผ้าใบ แสงไฟในห้องตกต้องสันจมูกโด่งทาบเป็นเงาซ่อนใบหน้าซีกหนึ่งทำให้เขาดูลึกลับน่ามองยิ่งขึ้น ริมฝีปากบางสีสดเม้มนิดๆโดยไม่รู้ตัว นิ้วและมือเรียวของเขาจับดินสอลากปราดอยู่บนผืนผ้าอย่างมั่นใจ ลักษณาการของเขาจับตาจนไม่อยากละสายตาไปไหน ทั้งที่ชายหนุ่มสวมเพียงเสื้อยืดเนื้อนิ่มเปื้อนสีกับยีนเก่าๆที่ทั้งใส่ทั้งซักจนซีดและนิ่มสุดๆเท่านั้น
“แอบมองเขา เดี๋ยวจะคิดค่ามองแล้วนะ” ทั้งที่ยังตั้งใจกับงานตรงหน้า แต่ชายหนุ่มก็ยังออกปากแซว
“ไม่ได้แอบมองค่ะ มองตรงๆเลยต่างหาก” มุกมาลินโต้
“โอเค ไม่แอบก็ไม่แอบ ว่าแต่มองทำไม”
หลายวันมานี้คนรอบตัวคิรินทร์พูดตรงกันว่าเขาซึมๆ เอาแต่เก็บตัวอยู่ที่สตูดิโอ ทำหน้าเบื่อโลก ไม่กินข้าวกินปลา ท่าทางไม่มีอะไรเป็นปกติเหมือนคิรินทร์คนเดิมที่เธอคุ้นเคยสักนิด มุกมาลินจึงรับอาสามาค้นหาความจริงจากคนปากหนักเอง เมื่อสบโอกาสจึงโยนหินถามทางเป็นด่านแรก “เมื่อไหร่พี่คีจะมีแฟนสักทีคะ”
มือที่จับดินสอลากพรวดไปบนผืนผ้าใบด้วยความตกใจและลืมตัว เห็นได้ชัดว่า...เขาซ่อนบางอย่างไว้ในใจจริงๆ
มุกมาลินจับตาสังเกตเขาใกล้ชิด จึงเห็นว่าคิรินทร์กะพริบตาซ้ำๆ ก่อนจะฝืนยิ้มและหันมาทางเธอถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ...จนผิดปกติ! “อยู่ดีๆทำไมถามอย่างนี้ล่ะ รำคาญพี่ อยากเสือกไสพี่ไปไกลๆแล้วหรือ”
“ที่ถามก็เพราะสงสัยจริงๆต่างหาก พี่คีทั้งหล่อ แสนดี แล้วก็อบอุ่น ผู้หญิงคนไหนได้ไปเป็นแฟนก็คงโชคดีที่สุด ทำไมจนป่านนี้กลับยังไม่มีแฟนซะทีก็ไม่รู้”
“ไม่เสมอไปหรอก เห็นกันอยู่ว่าผู้หญิงบางคนก็ไม่อยากโชคดี” เขาย้อน เลิกคิ้วนิดๆคล้ายต้องการล้อเลียนเธอ
แม้มุกมาลินจะมองออกว่าเขาจงใจเปลี่ยนเรื่อง ทว่าความรู้สึกผิดในใจก็เรียกให้เธอลุกจากที่มานั่งบนพื้นข้างๆเก้าอี้ของชายหนุ่ม เอนศีรษะพิงเข่าเขา พร้อมกับแหงนขึ้นสบตาคิรินทร์ด้วยแววตาเศร้าๆ “ความรักนี่เป็นเรื่องเข้าใจยากจังเลยนะคะ” หญิงสาวแสร้งถอนหายใจ สังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่ายอย่างละเอียด
คิรินทร์อึ้งไปนาน สีหน้าสลดคล้ายคนมีความลับในใจ
มุกมาลินอยากถามตรงๆใจจะขาด ทว่าเธอรู้ดี...ผู้ชายคนนี้ไม่มีวันยอมปริปากบอกความรู้สึกให้ใครทราบเด็ดขาด คนภายนอกอาจคิดว่าเขาอ่านออกง่าย ดูเป็นคนอ่อนไหว แต่ก็สบายๆ ไม่ซับซ้อน
แต่สำหรับคนที่ ‘ใช้ชีวิตคู่’ อยู่กับเขามาสี่ปีกว่า หญิงสาวรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ซ่อนความรู้สึกเก่ง และคิรินทร์ก็ไม่ยอมให้ใครรุกล้ำเข้าไปในโลกส่วนตัวของเขาด้วย มีเพียงคนใกล้ชิดเท่านั้นที่เขาจะยอมระบายเรื่องไม่สบายใจให้ฟัง เธอเป็นคนหนึ่งที่เขาอนุญาตให้รับรู้บางเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่...ทุกเรื่อง!
“วันนี้มุกเป็นอะไรกันแน่ อยู่ดีๆก็ลางานมานั่งเล่นนอนเล่น นี่ไม่ใช่มุกเลยนะ เหงาเหรอ”
“ค่ะเหงา มุกคิดถึงลูก”
ประโยคนั้นทำให้คิรินทร์วางดินสอไว้บนโต๊ะข้างๆ ใช้สองมือจับต้นแขนดึงเธอให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน ดวงตาที่ทอดมองมาทอประกายห่วงใยจนมุกมาลินอยากจะโผเข้าไปกอดเขาเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่อาจทำเช่นนั้น เพราะรู้ดีว่าคิรินทร์จะมีปฏิกิริยาอย่างไร
หลังจากเสียลูกไป คิรินทร์ไม่เคยรังเกียจ ไม่เกลียดโกรธ หรือแสดงอารมณ์ทางลบใดๆทั้งสิ้น ตรงข้ามเขานิ่ง สงบ อบอุ่น นุ่มนวลดังเดิมไม่แผก และเขาก็ใช้ความเป็นคนแสนดีนั่นแหละที่กีดกั้นเธอไว้นอกกำแพง
“ไม่ใช่พี่หรอกที่ควรมีแฟน มุกต่างหากที่ต้องเปิดใจให้ตัวเองรู้จักคนใหม่ๆ เลิกจมอยู่กับอดีตได้แล้ว เรื่องของมุก เรื่องของพี่ เรื่องของเรามันมาถึงสุดทางแล้ว ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป”
มุกมาลินไม่อยากฟังคำสั่งสอนซ้ำๆ เธอรู้ว่าชายหนุ่มหวังดี แต่มันเป็นความหวังดีที่เธอไม่ต้องการสักนิด “โชคดีที่ลูกจากมุกไปก่อน ไม่งั้นเราคงต้องถูกรั้งไว้ด้วยกัน เพราะเหตุผลที่แย่มากๆเลยเนอะ”
“จะตอกย้ำตัวเองไปไหน มันไม่ใช่ความผิดของมุกนะ หนูลีร่างกายอ่อนแอ เราทุกคนก็พยายามทุกทางแล้วที่จะรักษาแกไว้ เลิกโทษตัวเองสักทีเถอะ พี่เห็นมุกเป็นอย่างนี้ พี่ไม่สบายใจหรอกนะ”
“มุกขอโทษค่ะ” เธอหน้าจ๋อย ตัดสินใจว่าถึงเวลาทำภารกิจที่ตั้งใจให้ลุล่วงได้แล้ว “วันนี้พี่คีหยุดงานแล้วไปไหว้พระเป็นเพื่อนมุกสักวันได้ไหมคะ”
มุกมาลินมั่นใจว่าคนที่ทำเพื่อคนอื่นเสมอจะไม่มีวันปฏิเสธ และคิรินทร์ก็ทำให้เธอสมหวัง เพราะเขาถอนหายใจ ละล้าละลังคล้ายจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นเธอทำสีหน้าแววตาอ้อนวอน สุดท้ายคิรินทร์ก็พยักหน้าทั้งที่ไม่ใคร่เต็มใจ “ก็ได้ งั้นเดี๋ยวพี่ขออาบน้ำหน่อย มุกโทร.ไปชวนนายฤทธิ์ด้วยสิ ไปกันหลายๆคนสนุกดี!”
มุกมาลินยิ้มกว้างด้วยความยินดี รีบคล้องแขนไปส่งชายหนุ่มขึ้นชั้นบนของสตูดิโอ คอยจนเจ้าของห้องลับกายขึ้นไปยังชั้นสอง ค่อยหยิบโทรศัพท์มากดเรียกไปยังเลขหมายของรังสฤษฏ์ เมื่อปลายทางรับสายแล้วจึงรายงานด้วยน้ำเสียงสดใส “มุกทำสำเร็จแล้วค่ะพี่ฤทธิ์ พี่คีเลิกทำตัวเป็นฤๅษีเฝ้าถ้ำยอมไปข้างนอกแล้ว พี่ฤทธิ์อยู่ไหน แวะมาที่สตูดิโอด่วนเลยนะคะ ก่อนที่พี่คีจะเปลี่ยนใจ!”
/ / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / /
ขอบคุณทุกๆคนที่กดชอบ ให้กับตอนที่แล้วนะคะ ^^
ดีใจจริงๆ ปลาบปลื้มมากกกกก
ตอนนี้...เพื่อไม่ให้น้อยหน้าตอนที่แล้ว
อยากให้มีคนกดชอบมากกว่าตอนก่อน จะได้มิค้าาาา
(ทำตาวิ๊งๆ อ้อนวอนนนนน)
บัดนาว...ที่เพจของสิริณเล่นเกมแจกหนังสือ ใต้ปีกรักสีเพลิง อยู่ค่ะ
ตามไปอ่านกติกาด่วนเลย
www.facebook.com/SirinFC
แล้วสิริณจะรอนะคะ :D
ผู้หญิงใจแคบ นอกจากจะใส่ร้ายเขาแล้ว เธอยังดูถูกเขาอย่างร้ายกาจที่กล่าวหาว่าเขาขโมยต่างหูของเธอไปขาย ในความรู้สึกของพรนางฟ้า เขาดูเป็นคนไว้ใจไม่ได้ขนาดนั้นเชียวหรือ!
คิรินทร์คว้าหมอนที่อยู่ใกล้ตัวขว้างใส่ผนังเพื่อระบายความรู้สึกไม่ได้ดังใจให้บางเบาลง แต่นั่นก็แทบไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเท้าเอวมองรอบตัว รู้สึกคล้ายทุกสิ่งขวางหูขวางตาไปหมด ท้ายที่สุดเขาฉวยผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัว ผลัดเสื้อผ้า จากนั้นคว้ากระเป๋าสตางค์ผลุนผลันออกจากสตูดิโอ
คิรินทร์ขึ้นรถไฟฟ้าซื้อบัตรนั่งเล่นไปเรื่อย ไม่รู้จุดหมายปลายทาง สิ่งเดียวที่รู้ก็คือ...เขาไม่อยากอยู่ลำพังอีกแม้แต่วินาทีเดียว!
สุภัทรชายืดมือสุดแขนกรีดเล็บเปลือยเปล่าเพื่อพินิจดูด้วยความพอใจ แล้วจึงพยักหน้าสั่งช่าง “วันนี้แต่งเล็บแบบฝรั่งเศสละกัน ทาสีใสแล้วลงสีขาวที่ปลายเล็บ ไม่ต้องต่อเล็บนะ ฉันไม่อยากให้ดูกรีดกรายเกินไป”
ระหว่างเพลิดเพลินกับการปรนเปรอตัวเองด้วยคอร์สบำรุงผิวหน้า ผิวตัว มือและเท้าในสปาสุดหรู โทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ พนักงานรีบหยิบโทรศัพท์จากบนโต๊ะมาส่งให้อย่างนอบน้อม สุภัทรชาเบ้หน้านิดๆเมื่อเห็นชื่อบนหน้าจอ ทว่าครั้นกดรับสายเธอกลับเอ่ยทักทายเสียงหวานได้ทันที
“สวัสดีค่ะพี่พัทธ์” หญิงสาวเบ้ปากเมื่อได้ยินคำชวนจากปลายสาย เธออดทนฟังจนพัทธ์ธนัยเอ่ยจบประโยคแล้วจึงตอบ “เกรซต้องทำรายงานส่งแพนค่ะ ยังไม่รู้เลยว่าวันนี้จะเสร็จหรือเปล่า ต้องขอโทษพี่พัทธ์ด้วยนะคะที่ระยะหลังเกรซไม่ค่อยมีเวลาให้พี่พัทธ์เลย”
การที่อีกฝ่ายไม่รับคำขอโทษ ทั้งยังรับผิดเองว่ารบกวนเวลาทำงานพิสูจน์ตัวเองของเธอ ทำให้หญิงสาวพึงใจและรู้สึกดีขึ้น ความเชื่อมั่นและภาคภูมิในเสน่ห์แห่งตน ทำให้สุภัทรชาออดทิ้งท้ายแค่ “เกรซต้องวางสายแล้ว เดี๋ยวงานไม่เสร็จ ไว้พรุ่งนี้นะคะ ถ้าทำรายงานเรียบร้อยแล้วไม่ดึกเกินไป เกรซจะโทร.ไปชวนพี่พัทธ์มาทานข้าวเย็นด้วยกัน เกรซคิดถึงพี่พัทธ์จะแย่ละ”
พัทธ์ธนัยบอกลาแล้ววางสายไปอย่างว่าง่าย ทำให้เธอแปลกใจนิดหน่อย รู้สึกเหมือนว่าเขาโล่งใจ และที่โทร.มาก็แค่ทำตามหน้าที่ของการเป็นคนรักกันเท่านั้น สุภัทรชายักไหล่ปัดความคิดนั้นทิ้ง แปรเป็นรอยยิ้มกว้างสะใจ เธอแทบไม่รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่ก็ไม่ปล่อยมือจากเขาง่ายๆอยู่ดี เธอรู้ว่าพรนางฟ้าแอบชอบพัทธ์ธนัย และมันคงไม่มีอะไรจะทรมานยายตัวแสบนั่นได้มากไปกว่าการต้องทนเห็นผู้ชายที่ตัวเองรักออกโรงปกป้องผู้หญิงคนอื่นหรอก!
มุกมาลินนั่งพับขาอยู่บนพื้น วางข้อศอกบนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเตี้ยเท้าคางมองคนที่นั่งบนเก้าอี้ไม่มีพนักซึ่งกำลังตั้งใจทำงานอยู่ไม่ห่าง ดวงตาสีดำลึกล้ำคู่นั้นใช้สมาธิเพ่งมองบนผืนผ้าใบ แสงไฟในห้องตกต้องสันจมูกโด่งทาบเป็นเงาซ่อนใบหน้าซีกหนึ่งทำให้เขาดูลึกลับน่ามองยิ่งขึ้น ริมฝีปากบางสีสดเม้มนิดๆโดยไม่รู้ตัว นิ้วและมือเรียวของเขาจับดินสอลากปราดอยู่บนผืนผ้าอย่างมั่นใจ ลักษณาการของเขาจับตาจนไม่อยากละสายตาไปไหน ทั้งที่ชายหนุ่มสวมเพียงเสื้อยืดเนื้อนิ่มเปื้อนสีกับยีนเก่าๆที่ทั้งใส่ทั้งซักจนซีดและนิ่มสุดๆเท่านั้น
“แอบมองเขา เดี๋ยวจะคิดค่ามองแล้วนะ” ทั้งที่ยังตั้งใจกับงานตรงหน้า แต่ชายหนุ่มก็ยังออกปากแซว
“ไม่ได้แอบมองค่ะ มองตรงๆเลยต่างหาก” มุกมาลินโต้
“โอเค ไม่แอบก็ไม่แอบ ว่าแต่มองทำไม”
หลายวันมานี้คนรอบตัวคิรินทร์พูดตรงกันว่าเขาซึมๆ เอาแต่เก็บตัวอยู่ที่สตูดิโอ ทำหน้าเบื่อโลก ไม่กินข้าวกินปลา ท่าทางไม่มีอะไรเป็นปกติเหมือนคิรินทร์คนเดิมที่เธอคุ้นเคยสักนิด มุกมาลินจึงรับอาสามาค้นหาความจริงจากคนปากหนักเอง เมื่อสบโอกาสจึงโยนหินถามทางเป็นด่านแรก “เมื่อไหร่พี่คีจะมีแฟนสักทีคะ”
มือที่จับดินสอลากพรวดไปบนผืนผ้าใบด้วยความตกใจและลืมตัว เห็นได้ชัดว่า...เขาซ่อนบางอย่างไว้ในใจจริงๆ
มุกมาลินจับตาสังเกตเขาใกล้ชิด จึงเห็นว่าคิรินทร์กะพริบตาซ้ำๆ ก่อนจะฝืนยิ้มและหันมาทางเธอถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ...จนผิดปกติ! “อยู่ดีๆทำไมถามอย่างนี้ล่ะ รำคาญพี่ อยากเสือกไสพี่ไปไกลๆแล้วหรือ”
“ที่ถามก็เพราะสงสัยจริงๆต่างหาก พี่คีทั้งหล่อ แสนดี แล้วก็อบอุ่น ผู้หญิงคนไหนได้ไปเป็นแฟนก็คงโชคดีที่สุด ทำไมจนป่านนี้กลับยังไม่มีแฟนซะทีก็ไม่รู้”
“ไม่เสมอไปหรอก เห็นกันอยู่ว่าผู้หญิงบางคนก็ไม่อยากโชคดี” เขาย้อน เลิกคิ้วนิดๆคล้ายต้องการล้อเลียนเธอ
แม้มุกมาลินจะมองออกว่าเขาจงใจเปลี่ยนเรื่อง ทว่าความรู้สึกผิดในใจก็เรียกให้เธอลุกจากที่มานั่งบนพื้นข้างๆเก้าอี้ของชายหนุ่ม เอนศีรษะพิงเข่าเขา พร้อมกับแหงนขึ้นสบตาคิรินทร์ด้วยแววตาเศร้าๆ “ความรักนี่เป็นเรื่องเข้าใจยากจังเลยนะคะ” หญิงสาวแสร้งถอนหายใจ สังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่ายอย่างละเอียด
คิรินทร์อึ้งไปนาน สีหน้าสลดคล้ายคนมีความลับในใจ
มุกมาลินอยากถามตรงๆใจจะขาด ทว่าเธอรู้ดี...ผู้ชายคนนี้ไม่มีวันยอมปริปากบอกความรู้สึกให้ใครทราบเด็ดขาด คนภายนอกอาจคิดว่าเขาอ่านออกง่าย ดูเป็นคนอ่อนไหว แต่ก็สบายๆ ไม่ซับซ้อน
แต่สำหรับคนที่ ‘ใช้ชีวิตคู่’ อยู่กับเขามาสี่ปีกว่า หญิงสาวรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ซ่อนความรู้สึกเก่ง และคิรินทร์ก็ไม่ยอมให้ใครรุกล้ำเข้าไปในโลกส่วนตัวของเขาด้วย มีเพียงคนใกล้ชิดเท่านั้นที่เขาจะยอมระบายเรื่องไม่สบายใจให้ฟัง เธอเป็นคนหนึ่งที่เขาอนุญาตให้รับรู้บางเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่...ทุกเรื่อง!
“วันนี้มุกเป็นอะไรกันแน่ อยู่ดีๆก็ลางานมานั่งเล่นนอนเล่น นี่ไม่ใช่มุกเลยนะ เหงาเหรอ”
“ค่ะเหงา มุกคิดถึงลูก”
ประโยคนั้นทำให้คิรินทร์วางดินสอไว้บนโต๊ะข้างๆ ใช้สองมือจับต้นแขนดึงเธอให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน ดวงตาที่ทอดมองมาทอประกายห่วงใยจนมุกมาลินอยากจะโผเข้าไปกอดเขาเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่อาจทำเช่นนั้น เพราะรู้ดีว่าคิรินทร์จะมีปฏิกิริยาอย่างไร
หลังจากเสียลูกไป คิรินทร์ไม่เคยรังเกียจ ไม่เกลียดโกรธ หรือแสดงอารมณ์ทางลบใดๆทั้งสิ้น ตรงข้ามเขานิ่ง สงบ อบอุ่น นุ่มนวลดังเดิมไม่แผก และเขาก็ใช้ความเป็นคนแสนดีนั่นแหละที่กีดกั้นเธอไว้นอกกำแพง
“ไม่ใช่พี่หรอกที่ควรมีแฟน มุกต่างหากที่ต้องเปิดใจให้ตัวเองรู้จักคนใหม่ๆ เลิกจมอยู่กับอดีตได้แล้ว เรื่องของมุก เรื่องของพี่ เรื่องของเรามันมาถึงสุดทางแล้ว ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป”
มุกมาลินไม่อยากฟังคำสั่งสอนซ้ำๆ เธอรู้ว่าชายหนุ่มหวังดี แต่มันเป็นความหวังดีที่เธอไม่ต้องการสักนิด “โชคดีที่ลูกจากมุกไปก่อน ไม่งั้นเราคงต้องถูกรั้งไว้ด้วยกัน เพราะเหตุผลที่แย่มากๆเลยเนอะ”
“จะตอกย้ำตัวเองไปไหน มันไม่ใช่ความผิดของมุกนะ หนูลีร่างกายอ่อนแอ เราทุกคนก็พยายามทุกทางแล้วที่จะรักษาแกไว้ เลิกโทษตัวเองสักทีเถอะ พี่เห็นมุกเป็นอย่างนี้ พี่ไม่สบายใจหรอกนะ”
“มุกขอโทษค่ะ” เธอหน้าจ๋อย ตัดสินใจว่าถึงเวลาทำภารกิจที่ตั้งใจให้ลุล่วงได้แล้ว “วันนี้พี่คีหยุดงานแล้วไปไหว้พระเป็นเพื่อนมุกสักวันได้ไหมคะ”
มุกมาลินมั่นใจว่าคนที่ทำเพื่อคนอื่นเสมอจะไม่มีวันปฏิเสธ และคิรินทร์ก็ทำให้เธอสมหวัง เพราะเขาถอนหายใจ ละล้าละลังคล้ายจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นเธอทำสีหน้าแววตาอ้อนวอน สุดท้ายคิรินทร์ก็พยักหน้าทั้งที่ไม่ใคร่เต็มใจ “ก็ได้ งั้นเดี๋ยวพี่ขออาบน้ำหน่อย มุกโทร.ไปชวนนายฤทธิ์ด้วยสิ ไปกันหลายๆคนสนุกดี!”
มุกมาลินยิ้มกว้างด้วยความยินดี รีบคล้องแขนไปส่งชายหนุ่มขึ้นชั้นบนของสตูดิโอ คอยจนเจ้าของห้องลับกายขึ้นไปยังชั้นสอง ค่อยหยิบโทรศัพท์มากดเรียกไปยังเลขหมายของรังสฤษฏ์ เมื่อปลายทางรับสายแล้วจึงรายงานด้วยน้ำเสียงสดใส “มุกทำสำเร็จแล้วค่ะพี่ฤทธิ์ พี่คีเลิกทำตัวเป็นฤๅษีเฝ้าถ้ำยอมไปข้างนอกแล้ว พี่ฤทธิ์อยู่ไหน แวะมาที่สตูดิโอด่วนเลยนะคะ ก่อนที่พี่คีจะเปลี่ยนใจ!”
/ / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / /
ขอบคุณทุกๆคนที่กดชอบ ให้กับตอนที่แล้วนะคะ ^^
ดีใจจริงๆ ปลาบปลื้มมากกกกก
ตอนนี้...เพื่อไม่ให้น้อยหน้าตอนที่แล้ว
อยากให้มีคนกดชอบมากกว่าตอนก่อน จะได้มิค้าาาา
(ทำตาวิ๊งๆ อ้อนวอนนนนน)
บัดนาว...ที่เพจของสิริณเล่นเกมแจกหนังสือ ใต้ปีกรักสีเพลิง อยู่ค่ะ
ตามไปอ่านกติกาด่วนเลย
www.facebook.com/SirinFC
แล้วสิริณจะรอนะคะ :D
![](/images/icons/guest.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ต.ค. 2556, 00:06:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ต.ค. 2556, 00:06:11 น.
จำนวนการเข้าชม : 1420
<< ตอนที่ ๑๔ (จบตอน) | ตอนที่ ๑๕ (จบตอน) // แจกหนังสือ 3 เล่ม >> |
![](/images/icons/4578.jpg)
นักอ่านเหนียวหนึบ 2 ต.ค. 2556, 00:46:14 น.
อุ๊วววว ตัวละครเพิ่ม ใช่ไหม????
พี่คีแอบซุกศรีภรรยา!!!!!
อัลไลๆๆๆๆๆ
อุ๊วววว ตัวละครเพิ่ม ใช่ไหม????
พี่คีแอบซุกศรีภรรยา!!!!!
อัลไลๆๆๆๆๆ
![](/images/icons/827.jpg)
ใบบัวน่ารัก 2 ต.ค. 2556, 06:48:59 น.
อะไรก็ตามใจเย็นๆๆนะ
อะไรก็ตามใจเย็นๆๆนะ
![](/images/icons/guest.jpg)
ketza 2 ต.ค. 2556, 09:26:04 น.
เค้าจิ้มไปแล้วน๊า จิ้มจึกๆๆๆเลย 555
เค้าจิ้มไปแล้วน๊า จิ้มจึกๆๆๆเลย 555
![](/images/icons/187.jpg)
จิรารัตน์ 2 ต.ค. 2556, 10:22:07 น.
จะไปดักตบหนูแพน ที่ทำให้พี่คีเศร้า ชิชิ....
จะไปดักตบหนูแพน ที่ทำให้พี่คีเศร้า ชิชิ....
![](/images/icons/3829.jpg)
Sukhumvit66 2 ต.ค. 2556, 10:44:58 น.
ห๊า.......พี่คีมีเมียแล้ว อัลไรกันคร้า........
ห๊า.......พี่คีมีเมียแล้ว อัลไรกันคร้า........
![](/images/icons/guest.jpg)
ree 2 ต.ค. 2556, 12:02:44 น.
ลูกคนนั้นของคิรินทร์จริงๆ ใช่ไหม
ลูกคนนั้นของคิรินทร์จริงๆ ใช่ไหม
![](/images/icons/guest.jpg)
พันธุ์แตงกวา 2 ต.ค. 2556, 18:16:46 น.
โอ๊ะ! เซอร์ไพร้ส์ แบล็คการวด์คุณใหญ่ค่า
โอ๊ะ! เซอร์ไพร้ส์ แบล็คการวด์คุณใหญ่ค่า
![](/images/icons/577.jpg)
goldensun 3 ต.ค. 2556, 19:10:34 น.
แพนนิสัยเสียอย่างนี้ ปล่อยไปเถอะ เมียเก่าพี่ใหญ่ออกจะน่ารัก เอ๊ะ จะเรียกพี่คีหรือพี่ใหญ่คะ
แพนนิสัยเสียอย่างนี้ ปล่อยไปเถอะ เมียเก่าพี่ใหญ่ออกจะน่ารัก เอ๊ะ จะเรียกพี่คีหรือพี่ใหญ่คะ