จุ้น กะ ปอม
มิตรภาพสำคัญไฉน มาร่วมพิสูจน์คำๆนี้ไปกับเธอและเขา แล้วคุณจะรักพวกเขาไปโดยไม่รู้ตัว..."จุ้น กะ ปอม"

Tags: จุ้นกะปอม

ตอน: ตอนที่ 46: ดาว

วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม .....เวลา 21.22 น. (ณ.บ้านกรุงเทพฯ)

เมื่อวานไม่ได้เขียนไม่มีเวลา...วันศุกร์..เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดเรา..พอทำงานเสร็จก็รีบตรงดิ่ง
กลับมาบ้านเลยเพราะจะต้องมาดูแลข้าวปลาอาหารให้พวกคุณหญิง คุณชายทั้งหลายแหล่ที่จะ
แห่กันมา..ป้าสายกับเจ้าแดงมือเป็นระวิง..พี่แน๊ทก็รีบกลับมาช่วยด้วย..ทำหลายอย่างเหมือน
กันแต่ดูเหมือนจะไม่พอไอ้พวกปอบ กับกระสือ วางปุ๊บ!ก็หายแว๊บ!ไปกับตา..ปอมกับโจ้ต้อง
ขับรถออกไปซื้ออาหารกับเครื่องดื่มมาเพิ่ม คุยกันเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน ดีนะที่ปอมไป
บอกข้างๆบ้านไว้ก่อนไม่งั้นคงได้มีเสียงสาปแช่งเป็นแน่แท้.....

มีข่าวดี! ถัดจากงานแต่งอ๊อดกับแนงตอนสิ้นปี..พอกุมภาพันธ์ปีหน้าก็จะเป็นงานแต่งของพี่
ตูนกับพี่วัฒน์..งานติดกันเลย ดีใจแทนพี่ตูนจัง!..ตอนนั้นเราก็คงจะใกล้คลอดแล้ว...

ปีนี้ไอ้ปอมมาแปลก..หลังจากที่พวกปอบกับกระสือ..กลับกันไปเรียบร้อยแล้ว...เห็นมันออก
ไปกระซิบกระซาบกับพี่ไทด์..ไอ้เราก็คิดในใจแล้วว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ..ซักแป๊บบ้านโน้นก็
พากันเดินกลับ แล้วมันก็เดินยิ้มแป้นเข้ามาทำหน้าทำตาภูมิใจสุดๆ บอกเราหน้าตาเฉย
ว่า..“กำจัดฝูงชนไปเรียบร้อยแล้ว” มันเดินมาจูงมือเราพาไปในครัว จับเรานั่งลงบนเก้าอี้ตรง
โต๊ะกินข้าวนั่นแหละ หน้ามันงี้ยิ้มพริ้มเชียว และก็เดินไปดับไฟ..หุ หุ..โรแมนติกซะไม่มีอ่ะ..
ข้างนอกสว่างโร่เลยมีแสงส่องเข้ามาด้วย...ตอนนั้นพยายามกลั้นหัวเราะแทบแย่..เห็นหน้ามัน
มุ้ย! มุ้ย!คงจะไม่ได้ดั่งใจมันน่ะ...มันหันมาหาเรายิ้มแหยๆ..บอกเราว่า “พอไหวเนอะจุ้น” เราก็
พยักหน้าส่งไปพยายามกลั้นยิ้มสุดๆ

แล้วมันก็ออกไปข้างนอกใหม่ซักแป๊บก็เดินกลับเข้ามา ในมือก็ถือเค๊กก้อนเล็กๆเท่าฝ่ามือ มี
เทียนปักอยู่หนึ่งเล่มจุดมาแล้วด้วย ค่อยๆวางไว้บนโต๊ะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเรา หันมายิ้มตาหยี
ให้และก็กระซิบส่งมาเบาๆ “สุขสันต์วันเกิด..คนจ๋วย” เราถามว่าทำไมเทียนมันมีเล่มเดียว มัน
บอกว่า “เปลือง!"

ดูมัน! ขวานผ่าซากซะไม่มีอ่ะ..แล้วมันก็ยิ้มเผล่ออกมาค่อยๆเลื่อนจานเค็กมาไว้ตรงหน้าเรา
จับมือเราไปลูบ และก็ส่งเสียงมาเบาๆ “ล้อเล่น...ไอ้ที่มันมีเล่มเดียวก็หมายถึงปีแรกไงจุ้น..ปี
แรกที่เราฉลองวันเกิดด้วยกันสองคน..ปีแรกที่เราใช้ชีวิตร่วมกัน..และก็เป็นปีแรกที่เรามีลูก
ด้วยกันแล้วด้วย..เก้าเดือนกับอีกหกวัน เป็นเวลาที่ฉันมีความสุขมากจุ้น..หลายคนเคยบอกฉัน
ว่า การแต่งงานเป็นเหมือนจุดสิ้นสุดของชีวิตรัก แต่มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่..ปีแรกมันจะ
เป็นเหมือนแก้วช่างเปราะบางนักจะอยู่จะไปก็ปีแรกเนี่ยแหละ คนนึงอ่อน อีกคนต้องแข็งมันถึง
จะประครองชีวิตอยู่ร่วมกันได้..ต้องปรับตัวกันเยอะมาก นั่นคือสิ่งที่หลายๆคนบอกฉัน..แต่เชื่อ
มั๊ยจุ้นไอ้สิ่งที่พวกเค้าบอกฉันมา มันช่างขัดแย้งกับความรู้สึกของฉันมาก ฉันแทบไม่ได้ทำ
ตามเลยซักนิด..เคยเป็นยังไงก็เป็นยังงั้น..การแต่งงานสำหรับฉันมันเหมือนจุดประสานของ
ชีวิตรักต่อเนื่องกับการใช้ชีวิตคู่มากกว่า..และก็คงเป็นเพราะแกด้วยมั้งจุ้นที่ทำให้ฉันไม่ต้อง
ปรับเปลี่ยนอะไรเลย...ฉันอยากจะขอบคุณพ่อแม่แกนักที่สร้างเด็กผู้หญิงตัวอ้วนๆ ขาวๆ มี
นัยย์ตาเหมือนเมล็ดอัลมอนด์ มองโลกในแง่ดี และก็ฉลาดเป็นกรดคนนี้ขึ้นมาให้กับฉัน..ฉัน
อยากจะขอบคุณพวกท่านจริงๆ”

เป็นประโยคที่ยาวมาก..และก็จำได้แม่นยำมากไม่มีวันลืม ฟังแล้วปลื้ม..ทำเอาเราน้ำตาไหล..
เป็นอย่างงี้ทุกทีเวลาที่มันพูดอะไรจริงจัง จำได้ว่ามันจ้องซะเราเขิลล์ ไม่เคยชินกับสายตา
แบบนั้นของมันซักที มองจิกเหมือนที่ไอ้แนงเคยบอกไว้ แล้วมันก็ยิ้มยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา
ให้...

นึกถึงตอนนั้นแล้วอยากจะมุดหน้าแทรกแผ่นดินหนีซะเหลือเกิน..ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะพูด
ประโยคแบบนี้ออกไปได้..เราบอกมันไปว่า “อย่าไปมองสาวไหน ด้วยสายตาแบบนี้อีกนะ”
ทำเอามันหัวเราะเสียงดัง ดึงเราไปกอดไว้ซะแน่น มันบอกว่า “ไม่มองจ๊ะ ไม่มอง มองจุ้นคน
เดียว” แล้วมันก็ชวนเป่าเทียนวันเกิด..พอไปเปิดไฟเท่านั้นแหละเหลือบเห็นเค๊กก็อมยิ้ม แกล้ง
ถามไปว่าทำไมต้องเป็นเค๊กช๊อกโกแลต มันยิ้มตาหยีส่งให้ “ฉันชอบอ่ะ จุ้น!” ดูมัน! แทนที่จะ
ซื้อเค๊กเอาใจเจ้าของวันเกิด ดันซื้อเค๊กเอาใจตัวเองซะงั้น..ไอ้ต๊อง!..แล้วมันก็ให้ของขวัญ
น่ารักมาก เป็นกำไลเกลี้ยงทองคำขาวสลักคำว่า จุ้นกะปอม ไว้ใต้ท้องกำไล..ไม่รู้ไปแอบทำ
ตอนไหน..ไม่ได้ถามมันแต่ถูกใจเรามาก จุ๊บ!มันไปทีนึง..หน้ายิ้มแป้นแล้นเลยจะเอาอีก
ไอ้ทะลึ่ง!..และก็เป็นอันเสร็จพิธีฉลองวันเกิดระหว่างเราสองคน..แต่ภารกิจของวันยังไม่เสร็จ
สิ้นต้องออกไปช่วยกันเก็บถ้วยเก็บชามที่พวกปอบ พวกกระสือกินทิ้งกันไว้ กว่าจะเก็บกวาด
ล้างจานเสร็จก็เข้าสู่เวลาของวันใหม่..ตีหนึ่ง

วันนี้วันเสาร์ตื่นสายหน่อย...ตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นปอมแล้ว..คงออกไปแต่เช้าเพราะมีถ่ายปก
หนังสือปักษ์หลังเดือนหน้า...มีเรื่องให้ตื่นเต้น วันนี้กะจะสะสางข้าวของที่อยู่ในลัง ที่ยังไม่ได้
แกะตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่ เปิดมาพลั๊วลังแรกก็เจอเลย ข้าวของจุ๊ก จิ๊ก ของปอม
หนังสือกล้องเป็นสิบๆเล่ม..ในนั้นมีสมุดโน๊ตปกหนัง ท่าทางจะสมบุกสมบันมาก มีอยู่ประมาณ
ห้าหกเล่มได้ นั่งลูบสมุดอยู่นานเหมือนกัน สองจิตสองใจจะเปิดดี..ไม่เปิดดี และความอยากรู้
ก็เข้ามาครอบงำ กำลังจะเปิดอยู่แล้วเชียว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นปอมโทรมา..บอกว่าวันนี้
กลับดึกไม่ต้องรอกินข้าว แล้วสำนึกของคนดีก็เข้ามาครอบงำเราอีกครั้งนึง รีบส่งเสียงถามมัน
ออกไปว่าจะอ่านไดอารี่ของมันได้มั๊ย..มันหัวเราะกลับมาบอกว่าได้ แต่! ต้องแลกกันอ่าน....

เล่นเอาเราอึ้ง มันเร่งเรายิก ยิก ทำให้ต้องรีบตอบรับมันไป..ณ.ตอนนั้น พอวางสายปุ๊บ! ก็
กังวลมากกลัวที่จะเปิดเผยตัวเองตั้งแต่ตอนอายุสิบห้าให้มันได้รู้...แต่ตอนนี้ ณ.เวลานี้ไม่กลัว
แล้ว เพิ่งจะอ่านไดอารี่เล่มสุดท้ายวันที่ล่าสุดของมันเสร็จเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วนี่เองนั่งอ่านมา
ตั้งแต่สิบเอ็ดโมงเช้า...เข้าใจตัวมันได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นก็จากไดอารี่ทั้งหมดเนี่ยแหละ..ไอ้ที่คิด
ว่าใช่ ก็ใช่จริงๆด้วย ไม่ผิดหวังจริงๆ..อ่านแล้วมีความสุข..ปอมเป็นคนไม่เน้นบรรยาย ตรง
ประเด็นตรงจุดอ่านแล้วรู้ทันทีว่าเป็นตัวมัน ผิดกับเราน้ำเยอะซะเหลือเกิน เกริ่นหมดว่าแต่ละวัน
ทำอะไร...นั่งอ่านไดอารี่มันนึกภาพตามแล้วมีความสุข...เริ่มมาหน้าแรกวันแรกก็ตลกแล้ว..

มันจ่าหน้าวันแรกว่า ขึ้น ม.4 ที่โรงเรียนใหม่ เจอเพื่อนใหม่ไอ้ตาโต..หัวตั้ง..อ่านแล้วขำไม่ต้อง
อ่านเนื้อความข้างล่างก็พอจะเดาออกว่าเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากอ๊อด..ช่างบรรยายบุคลิก
ลักษณะได้เห็นภาพจริงๆ สมแล้วที่มันทำงานทางด้านนี้..เนื้อความมันเขียนไว้ว่า...

“วันนี้วันแรก..หืดขึ้นคอเลยตู เสือ..นั่งหลับบนรถเมล์ เลยไปตั้งสามสี่ป้ายดีนะที่กระเป๋ารถเมล์
มาสะกิดไม่งั้นคงจะสุดอู่..ต้องรีบวิ่งย้อนกลับมาขี้เกียจข้ามฝั่งไปรอรถอีกฟากนึง...เส้นยาแดง
ผ่าแปดเกือบไม่ทันประตูปิด..วิ่งหอบมาเข้าแถวตรงสนามบาธหน้าเสาธง...ยังยืนไม่สนิทดีเลย
ไม่รู้มีอะไรมากระแทกเข้าข้างหลังเกือบหน้าคะมำ..รีบเอาตรีนจิกพื้นปูนไว้ทันที ทดสอบความ
เหนียวแน่นของบาทาคู่ใหม่ คู่ละเก้าสิบห้าบาท ใช้ได้..ไม่งั้นคงล้มเป็นโดมิโนกันทั้งแถว..หัน
กลับไปมองแล้วก็ต้องตกใจ คนอะไร ตาโตชิบเป๋งเลย ผมก็ตั้งโด่..มันส่งยิ้มให้แล้วก็บอกว่า
มันชื่อ อ๊อด เพิ่งมากรุงเทพครั้งแรกเหมือนกัน มันเป็นคนเชียงใหม่..เออ!ดี..คนใต้ กับคน
เหนือมาเจอกันคงมันส์พิลึก....”

หุ หุ ลอกมาทั้งดุ้น อ่านไปก็ขำไป นิสัยปัจจุบัน กับตัวหนังสือที่ถ่ายทอดนิสัยเมื่ออดีตครั้งยัง
เยาว์วัยของปอมไม่แตกต่างกันเลย..ยังทะลึ่งตึงตังเหมือนเดิม..เพื่อนฝูงมากเหมือนเดิม..และ
รู้สึกจะเป็นจุดศูนย์รวมของเพื่อนเหมือนเดิมด้วย...ที่สำมะคัญเนื้อหอม ตั้งแต่หนุ่มน้อยเลยนะ
ไอ้ปอม..มีชื่อสาวๆอยู่ในสมุดมันตั้งสี่ห้าชื่อ..ปอมกับอ๊อดคบกันมาตั้งแต่ ม.4 เรียนห้องเดียว
กันมาตลอด..เอ็นท์ติดที่เดียวกัน มช. ที่เดียวกับเรา..มีข้อความที่มันเขียนถึงเราด้วย..น่าจะ
เป็นเรานะ..เพราะว่าเป็นวันที่..ที่เราเจอกับมันวันแรกบนรถไฟ..อ่านแล้วโมโหแต่แอบอมยิ้ม
เล็กน้อย..มันเขียนไว้ว่า....

“พบแล้ว!..สาวหมวย Eye Line..ที่แก้มมีจุดสองข้าง..ตามไรฟันมีเขี้ยวงอกออกมา..มีอักษร
ย่อว่า จ. ” และก็ลงวันที่ ไอ้บ้านี่!..จะเขียนชื่อเต็มๆหน่อยก็ไม่ได้ชอบให้เดา..และก็ตั้งฉายา
ซะ!.สาวหมวย Eye Line ลับหลังเรามันต้องล้อเราด้วยชื่อนี้แน่ๆเลย..ไอ้ทุเรศปอม!

ไดอารี่ปอมเริ่มมีตัวหนังสือน้อยลง แต่ภาพเยอะขึ้นก็คงจะตอนเรียนมหาลัยนี่ละมั้ง...มันเข้าใจ
ทำ เล่าเรื่องราวผ่านภาพ เอาภาพมาแปะลงบนสมุดโน๊ต..มีบรรยายเป็นตัวหนังสือนิดหน่อย
และก็ลงวันที่กำกับไว้...ที่สำคัญไม่อยากจะเชื่อ..ถ้าไม่ได้มาอ่านมาดูไดอารี่ของมัน ก็คงจะ
ไม่รู้ว่าตัวเราก็มีความสำคัญกับมันเหมือนกัน เพราะแทบจะทุกหน้ากระดาษตั้งแต่แรกที่เราคบ
กับมันมา ต้องมีชื่อเราหรือว่าภาพเราเข้าไปแจมอยู่ในนั้นด้วย...อ่านไป ดูภาพไปก็ปลื้ม..
พร้อมกับอยากจะเขกกะโหลกมันนัก ไม่เคยรู้เลยว่ามีภาพพวกนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วย มันไม่เคย
บอก..มันแอบถ่าย!ไอ้บ้านี่!น่าดีดหูซ้ำ...

มีภาพที่พวกเราไปตั้งแคมป์บนดอยอินทนนท์ด้วยไปกันห้าคน..รู้สึกจะเป็นปีสุดท้ายและก็
เทอมสุดท้ายหลังจากที่สอบเสร็จ จำได้ว่ามีความสุขมากไม่อยากจะกลับเลย ภาพพระอาทิตย์
ขึ้นตอนเช้าแหวกว่ายผ่านหมอกรำไรมันช่างงามจับตานัก..ปอมจับภาพได้สวยมาก..และมันก็
แอบถ่ายอีกเป็นภาพด้านข้างเรากำลังนั่งมองดูพระอาทิตย์ขึ้น..มันเขียนบนภาพว่า “พระจันทร์
กำลังมองดูพระอาทิตย์” ดูสำนวนมัน..เปรียบเปรยซะ..

ภาพแต่ละภาพที่มันแปะลงสมุดบันทึกไว้ในแต่ละวันของมันที่มีเราเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าเอา
มากลางเปรียบเทียบกับสมุดบันทึกของเราที่มีมันมาเกี่ยวข้อง..ก็คงจะสอดคล้องกันดี ของมัน
บรรยายด้วยภาพ แต่ของเราบรรยายด้วยตัวหนังสือ...

และก็มาถึงวันสำคัญ ตอนแรกที่อ่านก็นั่งหัวเราะ พออ่านไปอ่านมาก็เกิดอาการซึ้ง ไอ้บ้า
ปอม! นั่งเขียนไดอารี่ของวันอังคารที่ 29 ธันวาคม..ตอนตีสี่ครึ่งของวันพุธที่ 30....ถ้าจำไม่ผิด
วันนั้นไอ้โจ้บอกว่านอนกันเกือบสว่าง และก็เป็นวันที่ไอ้ปอมป่วยด้วย เนื้อความมันเขียนไว้ว่า..

“ไอ้จุ้นเอ๊ย!..แกจะรู้หรือเปล่าน่ะ..ว่าฉันบอกอะไรแกไป” เพิ่งจะเห็นมันเขียนอะไรยาวๆก็วันนี้
แหละ มันเขียนเนื้อเพลงในสมุดโน๊ต...เพราะมาก....

ดาว....

http://imusic.teenee.com/2/frame/2158.php

หากคืนนี้มีดาวอยู่ล้านดวง..ฉันขอได้ไหมสักดวงหนึ่งช่วยฟังฉันที...
เพราะว่าคืนนี้..ฉันมีเรื่องร้อนใจ..อยากอธิฐานและขอดวงดาวให้ช่วยฉันสักที...
เนื่องจากตอนนี้ฉันรู้สึกจิตใจมันอ่อนไหว..อยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไงจากคำพูดวันนี้...
เพราะฉันเพิ่งบอกรักไป..และเขาก็รับฟังทุกอย่างทุกถ้อยคำ..เหมือนความฝัน...
แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ..ว่าพรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุขหรือแสนเศร้า...
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก(ที)

หากว่าตัวเขามีใจให้ฉันจริง..ฉันขอได้ไหมให้ทุกสิ่งเป็นจริงเรื่อยไป...
ให้ต่อจากวันนี้เขามีแต่ฉันในหัวใจ..จะอธิฐานและขอดวงดาวให้ช่วยฉันสักที...
เนื่องจากตอนนี้ฉันรู้สึกจิตใจมันอ่อนไหว..อยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไงจากคำพูดวันนี้...
เพราะฉันเพิ่งบอกรักไป..และเขาก็รับฟังทุกอย่างทุกถ้อยคำ..เหมือนความฝัน...
แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ..ว่าพรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุขหรือแสนเศร้า...
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก(ที)

ช่วยบอกให้ฉันรู้..ให้มั่นใจ..การรอคอยมันยากเกินทนไหว...
ได้โปรดช่วยบอกฉันและตอบหน่อยได้ไหม..ว่าพรุ่งนี้เขากับฉันนั้นจะเป็นยังไง...
เพราะฉันเพิ่งบอกรักไป..และเขาก็รับฟังทุกอย่างทุกถ้อยคำ..เหมือนความฝัน...
แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ..ว่าพรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุขหรือแสนเศร้า...
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก(ที)

เพลงดาว
ศิลปิน วงพอส..อัลบั๊ม Mild...

ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกแต่ตอนนี้รู้แล้ว ความลับ เพลงที่มันร้องวันนั้น มันเป็นเพลงบอกรักชัดๆ
เพิ่งจะรู้ซึ้งแน่ชัดก็วันนี้นี่เอง..ถึงไอ้ปอมมันจะบอกเราในวันรุ่งขึ้นก็เถอะ...แต่มันกระจ่างแจ้ง
กับใจเราก็วันนี้นี่แหละวันที่ได้อ่านไดอารี่ของมัน..และเสียงร้องเพลงพร้อมกับเสียงกีตาร์ที่ได้
ยินตอนเกือบจะตีห้าของเช้าวันที่ 30 ธันวาคม..ที่ลอยตามลมมาก็เป็นน้ำเสียงและก็ฝีมือมันนี่
เอง..เพลง ดาว โรแมนติกชะมัดไอ้ปอม..และก็นั่นล่ะมั้งสาเหตุที่ทำให้มันเป็นไข้หนัก..ตัวเอง
มีไข้อยู่แล้วยังกระโดดลงน้ำไปช่วยไอ้จิ๋วให้รอดตายอีก...แถมยังมานั่งตาก ลมห่มหมอก
ครวญเพลงอยู่ข้างนอกไม่ยอมเข้าไปพักผ่อน..ไอ้บ้าปอม..ไม่เคยห่วงตัวเองเลยไอ้นี่หนิ...

เขียนซะยาว พอแค่นี้ดีกว่าง่วง...เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาต่อใหม่......

ปล.เหลืออีกไม่กี่เดือนแล้วลูกรอแป๊บนึง..แล้วหนูก็จะได้ออกมาเจอหน้าพ่อปอม กับแม่จุ้นแล้วน้า
#####################################################


เช้าวันอาทิตย์......


“จุ้นนน...อยู่ไหนอ่ะ!”เสียงปอมโวกเวกอยู่ในบ้าน...จุ้นหันไปมองมือก็รดน้ำต้นไม้ไปด้วย

“อยู่นี่!” ส่งเสียงกลับไป ซักแป๊บปอมก็โผล่หน้าออกมา..หน้าตาลายพร้อยไปด้วยแป้ง เดินยิ้ม
ล่าเข้ามาหา

“รดน้ำต้นไม้อยู่เหรอ” จุ้นค้อนควับ

“กินข้าวอยู่มั้งเนี่ย..กำลังอร่อยเลย”ปอมหัวเราะ

“แหม!...เดี๋ยวนี้มียอกย้อนน้า..คุณแม่ของลูกสามี”จุ้นอมยิ้ม

“ไอ้บ้าปอม!”ปอมยิ้มตาหยี ยื่นมือมาจับสายยางออกจากมือจุ้น

“มา!..เดี๋ยวฉันทำต่อให้”จุ้นส่งให้แต่โดยดี

“หิวยังปอม! เดี๋ยวฉันไปทำอะไรให้กิน”

“ยังอ่ะ!...แกนั่งพักก่อนเถอะจุ้นฉันยังไม่หิวหรอก” นั่นแหละ จุ้นถึงถอยมานั่งบนเก้าอี้ม้าหิน
ได้

“หมอนัด อัลตร้าซาวด์วันไหนจุ้น” ปอมแหงะหน้ามาถาม

“วันอังคาร” จุ้นนั่งยิ้มพริ้ม มือก็ลูบท้องไปด้วย..แม่จะได้เห็นลูกแล้ว..ปอมหันมาเห็นท่าทางจุ้น
ก็อมยิ้ม ยืนรดอีกซักพัก แล้วก็เสร็จเดินไปปิดน้ำม้วนสายยางเก็บเข้าที่..และก็กลับมานั่ง
ข้างๆจุ้น เอื้อมมือมากุมมือจุ้นเหนือท้อง จุ้นเงยหน้าขึ้นยิ้มให้

“ตื่นเต้นมั๊ยจุ้น!” จุ้นพยักหน้างึก งึก ปอมยิ้มตาหยี

“เหมือนกันเลย...ฉันนะตื่นเต้นม๊าก มาก...ไม่รู้ว่าจะเป็น เจ้าหนู หรือน้องหนู...ตื่นเต้น!..
ตื่นเต้น!” กอดใหญ่..กอดใหญ่..ทำหน้าทำตาตื่นเต้นสุด สุด จุ้นอมยิ้มแกมหมั่นไส้ แหนบไปที่
ชายโครงปอมหนึ่งที ปอมสะดุ้งแหงะหน้ามามองจุ้นใหม่

“ไอ้เจ้าอัลต้าซาวด์นี่ดูแล้วรู้เลยมั๊ยจุ้น...เห็นเลยหรือเปล่า” จุ้นยิ้ม

“ก็..ถ้าเด็กอยู่ในท่าที่เหมาะสม ไม่เหนียมอาย..ก็คงจะเห็นน่ะ” ปอมเลิกคิ้ว มองหน้าจุ้นเขม็ง

“ตัวเท่ากำปั้นเนี้ยนะ...อายกันเป็นแล้วเหรอ” จุ้นหัวเราะ

“ฉันเปรียบเปรยให้ฟัง...ไอ้บ้านี่!” ตีแขนปอมอีกหนึ่งเพี๊ย! ปอมยิ้ม

“ล้อเล่น!...แซวเล่นเฉยๆ...ว่าแต่..ท้องแกไม่ค่อยใหญ่เลยนะจุ้น นี่ขนาดห้าเดือนกว่าแล้วนะ...
ดูไม่ออกเลยอ่ะ”

“ท้องแรกมั้ง..มันเลยมองไม่ค่อยเห็นสงสัยจะเริ่มใหญ่ขึ้นตอนเดือนหลังๆ นั่นแหละ”ปอมพยัก
หน้า

“อุ๊ยส์!” จุ้นอุทานมาเบาๆ ปอมมองหน้าเลิกคิ้วให้..จุ้นยิ้มรีบดึงแขนปอมที่กอดอยู่ออก ค่อยๆ
จับมือปอมมาวางไว้ที่ท้องตัวเอง รีบส่งเสียงถามมาอย่างไว

“รู้สึกมั๊ยปอม!” น้ำเสียงตื่นเต้นจัด ปอมเลิกคิ้ว

“รู้สึกอะไร”

“ลูกดิ้น” ปอมตาเหลือก

“จริงอ่ะ...ไหน!”รีบเอามือกดใหญ่ จุ้นตีหลังมือปอมเบาๆ

“อย่ากดปอม...วางเฉยๆ”เอามือตัวเองวางทับไปบนหลังมือปอม ปอมขมวดคิ้วนิ่วหน้า

“ไหนอ่ะจุ้น!..ไม่เห็นรู้สึกเลย”จุ้นยิ้ม

“ใจเย็นๆปอม...รอเค้าแป๊บนึง”ทีนี้ปอมก้มลงมาซะใกล้เลย จ้องมองท้องจุ้นนิ่ง มือก็ยังคงวาง
ไว้อยู่ที่เดิม ซักแป๊บก็ส่งเสียงออกมาเบาๆเหนือหน้าท้องจุ้น

“คนดีของพ่อปอม..ขยับหน่อยสิลูกให้พ่อรู้สึกหน่อย” แล้วจุ้นก็ต้องยิ้มล่าออกมา

“ขยับแล้วปอม...รู้สึกมั๊ย!”ปอมเงยหน้าขึ้นมายิ้มตาหยี พยักหน้าส่งให้ ค่อยๆเอามือออกจาก
หน้าท้องจุ้น..ก้มลงมองต่อ เห็นเป็นคลื่นเล็กๆลอยนูนขึ้นมา ปอมอมยิ้มเอานิ้วไปสะกิดเจ้าคลื่น
เล็กๆนั่น ปากก็ค่อยๆส่งเสียงออกมา

“ว่าง่ายตั้งแต่อยู่ในท้องเลยน้าคนเก่ง..น่ารักจังเลย” ก้มลงไปจุ๊บท้องจุ้นเบาๆ แล้วคลื่นเล็กๆก็
หายไป ปอมเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้จุ้น

“ลูกชอบเสียงฉัน”ยักคิ้วแพล๊บๆ อวด! จุ้นอมยิ้มพยักหน้าส่งให้ เห็นด้วย!

“คุณแม่ของลูกก็ชอบเสียงฉันด้วย” ยิ้มพริ้ม ยังไม่หยุด..ทีนี้จุ้นมีค้อนส่งให้ทำปากเบะ

“แหวะ!” ปอมหัวเราะ...เอื้อมมือมาบีบจมูกจุ้นเบาๆ ชะโงกหน้าไปจุ๊บ! ที่หน้าผากจุ้นหนึ่งที แล้ว
เสียงไทด์ก็ลอยเข้ามา

“เฮ้ย! กลางแจ้งเลยเหรอ..ไม่อายคนมองมั่งหรือไง”รีบหันควับไปหาที่มาของเสียงกันกันทั้งคู่
เห็นไทด์กำลังเดินเข้ามามีชามใบใหญ่อยู่ในมือ จุ้นหน้าร้อนวาบ! วาบ! ปอมหัวเราะปากก็ส่ง
เสียงออกไป

“นิสัยไม่เคยเปลี่ยน...ชอบทำตัวเป็นแมลงคอยแอบดูเค้าตามหลืบ..ตามกำแพงบ้าน” ไทด์
หัวเราะ ยกเท้าส่งให้ ปอมรีบหลบทันทีลุกอย่างไว

“ปากดีนักไอ้นี่...เดี๋ยวอดกินของดีฉันอุตส่าห์ถ่อสังขารถือมาให้เนี่ย..อย่ากินเลยดีกว่ามั้งเอา
กลับดีกว่า”ทำท่าจะเดินกลับ ปอมหัวเราะรีบเข้ามาอย่างไว

“แหม! ทำเป็นงอน...ล้อเล่น! ผมล้อเล่น..น่าเฮียน่า...นั่งลงก่อน!..นั่งลงก่อน..จ๋อเจี่ยมเจี่ยม”
ประจบ ประจบ ดึงแขนไทด์ใหญ่ ไทด์ส่งเสียงดังลั่น

“ไอ้ปอม!อย่าดึง ไอ้ห่านี่เดี๋ยวหก” จุ้นหัวเราะเอื้อมมาตีแขนปอมดังเพี๊ย! ปอมสะดุ้งก้มลงมอง
หน้าจุ้น เลิกคิ้วส่งให้

“นั่นแน่..แท๊คทีมพี่น้องเหรอ..อีกคนใช้เสียงอีกคนใช้กำลัง..อย่างงี้ปล่อยไว้ไม่ได้ต้อง
จัดการ” รีบถอยมานั่งข้างๆจุ้นทันที จิ้มไปที่เอว..จุ้นสะดุ้งโหยง ตีแขนปอมแปะ แปะ

“ไอ้บ้าปอม” ปอมหัวเราะ ไทด์ยิ้มส่ายหัวให้ แล้วก็วางชามวางไว้บนโต๊ะ ปอมชะโงกมอง

“อะไรน่ะพี่!”

“ไก่ตุ๋น..ยาจีน” ปอมยิ้มล่า เอามือตบตักผาง

“บ๊ะ! ตุ๋นกันแต่เช้าเลยวุ้ย! ลาภปาก..ลาภปาก”เอามือวาดปากใหญ่ จุ้นอมยิ้มหมั่นไส้ แล้วก็หัน
มาหาไทด์

“พี่ไทด์..หลานดิ้นแล้ว”ไทด์ยิ้ม เลิกคิ้วให้

“เหรอ!”นั่งลงข้างๆจุ้นอีกฝั่งนึง เอื้อมมือจะจับท้องจุ้น ปอมมองอยู่รีบตีมือไทด์ดังเพี๊ย!

“จะทำอะไร” ไทด์หัวเราะ

“จะจับท้องมัน”ปอมจ้องเขม็ง

“ทำไมต้องจับ” ไทด์หน้าเหวอ!

“อ้าว! ไอ้นี่...ถ้าไม่จับแล้วจะรู้เหรอว่าหลานฉันดิ้นแล้ว” จุ้นนั่งฟังสองหนุ่มเถียงกันก็หัวเราะ
คิก คัก

“ไม่ต้องจับก็ได้...ดูเฉยๆก็เห็น”ไทด์เลิกคิ้ว ก้มลงมอง

“ไหนล่ะ! เห็นที่ไหน..ไม่เห็นเขยื้อนเลย”ปอมก้มลงมองมั่ง

“ตอนนี้คงหลับ..เดี๋ยวตื่นแล้วจะเรียกให้ดู..ห้ามจับ” ไหลไปทั่ว...ไทด์อมยิ้มเงยหน้าขึ้นมอง

“ไอ้งกเอ๊ย!..มันจะเป็นอะไรไป..น้องฉัน!..จับนิดจับหน่อยไม่ได้หรือไง” ปอมเลิกคิ้ว

“ไม่ได้! สงวนลิขสิทธ์..เมียผม..เดี๋ยวค่อยจับหลานตอนคลอดออกมาโน่น..ตอนนี้ผมจับได้คน
เดียว..หวง!” ยักคิ้วส่งให้ ไทด์หัวเราะเสียงดัง จุ้นอมยิ้ม

“ไอ้ขี้หวง!...เออ!ไม่จับก็ได้วะ..งกนัก..ไปดีกว่า”ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน ปากก็ส่งเสียงมาหาจุ้น

“ถ้าหมดแล้วไปเอาอีกนะจุ้น..แน๊ทเค้าทำไว้หม้อเบ่อเริ่มเลย...ทำเผื่อปอบแถวเนี้ยน่ะ! มันกิน
จุ” มีกัดปอมส่งท้าย ปอมหัวเราะแล้วไทด์ก็เดินออกไป

“ไปจุ้น! เข้าบ้านเถอะ..แดดเริ่มมาแล้ว”หยิบชามขึ้นมาและก็พากันเดินเข้าบ้าน.....

หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จสรรพ จุ้นก็เอาหนังสือมานั่งอ่านตรงศาลาริมทะเลสาบหลังบ้าน....
ปอมล้างรถอยู่หน้าบ้าน..ผ่านไปได้ซักครึ่งชั่วโมงปอมก็เดินเข้ามาหา...ถือจานผลไม้เข้ามา
ด้วย ปากก็เคี้ยวแหงบๆ เดินมานั่งซะชิดจุ้นชะโงกหน้ามาอ่านหนังสือในมือจุ้นไปด้วย แล้วก็
ค่อยๆส่งเสียงออกมา

“จุ้นนน!”

“ฮึมม!” ขานรับมาเบาๆ สายตาก็จับจ้องอยู่กับหนังสือ

“กุญแจล่ะ!” จุ้นหันมามอง

“กุญแจอะไร” ปอมยิ้มตาหยี

“กุญแจดี้อะไร” จุ้นขมวดคิ้ว งง!

“อะไรของแก ไอ้ปอม! พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง”ปอมยิ้มแป้นแล้น

“กุญแจดี้อะไร...ก็กุญแจไดอะรี่ไง..เมื่อกี้ฉันไปส่องดูในตู้เห็นมีสมุดบันทึกแกอยู่หลายเล่ม
เหมือนกันแต่มันล๊อคกุญแจไว้หมดทุกเล่มเลยอ่ะ..อยู่ไหนอ่ะจุ้น”แบมือขอใหญ่..จุ้นนิ่ง ปอม
เลิกคิ้ว

“นั่นแน่..ทำมาเป็นฟอร์มนิ่ง...สัญญาแล้วนะว่าจะแลกกันอ่าน...อย่าเฉไฉ เร็ว!..อยู่ไหนอ่ะ
จุ้น”เร่ง ยิก ยิก จุ้นทำหน้าแหย

“แกอยากอ่าน จริงๆเหรอ..ไม่มีอะไรหรอกปอม..ชีวิตฉันมันไม่มีอะไรมากหรอกเรียบๆ..เด็กๆ
น่ะ..อย่าอ่านเลยนะ”ปอมหัวเราะ

“ไม่ต้องเลย..แกอ่านของฉันแล้วนะจุ้นเมื่อวานเนี้ย..แกรู้จักฉันตอนเป็นเด็กแล้วนี่..ตอนนี้ก็ถึง
ตาฉันจะได้รู้จักแกมั่งไงจุ้น...มาเร็ว อยู่ไหน” จุ้นส่งค้อนให้ แล้วก็บอกที่เก็บกุญแจ ปอมรีบ
เข้าไปในบ้านซักครู่ก็เดินออกมา ในมือก็ถือไดอารี่มาเป็นตั้ง..แล้วก็มานั่งข้างๆจุ้น เลือกหา
เล่มแรกแล้วก็เจอปากก็พร่ามออกมา

“แต่น! แต้น! แต๊น! ขอเชิญท่านเข้าสู่อดีตอันหอมหวาน..ที่ไม่อาจจะลืมเลือนของเด็กหญิง
จุ้น” จุ้นแหงะหน้ามามองค้อนส่งให้..แล้วปอมก็เงียบเสียงไป เข้าสู่ภวังค์ของการอ่าน...จุ้นจะ
เหลือบตาดูปฏิกิริยาปอมเป็นระยะ ระยะ เห็นปอมยิ้มบ้างเลิกคิ้วบ้างก็อยากจะรู้ว่าอ่านถึงไหน
แล้ว พยายามจะชะโงกหน้ามอง ปอมก็เอนตัวออกห่างเหมือนแกล้ง จุ้นหน้าคว่ำขัดใจ ทำอะไร
ไม่ได้ก็หันมาอ่านหนังสือในมือตัวเองต่อ..ผ่านไปได้เกือบครึ่งชั่วโมง แล้วปอมก็หัวเราะออก
มา หันหน้ามาหาจุ้น...จ้องหน้าจุ้นใหญ่ จุ้นทำปากจึกจัก

“มองอะไร” ปอมอมยิ้ม ค่อยๆเอ่ยออกมาเบาๆ

“ตอน ม5.วันนั้นแกเจ็บมั๊ยจุ้น...วันที่แกอัดไอ้คนที่มาว่าแกเป็นทอมน่ะ!..ฉันอยากจะอัดมัน
แทนแกจัง..โทษฐานที่มาว่าภรรยาฉันเป็นทอม..ออกจะหวานขนาดนี้..ไหนมาหอมทอมหน่อย
เร๊ว!”ว่าแล้วก็โอบตัวจุ้นมาหอมฟอด ฟอด จุ้นค้อนให้

“ไอ้ทะลึ่งปอม!” ปอมอมยิ้ม นั่งมองจุ้นนิ่ง

“ว่าไงเจ็บมั๊ยจุ้น...เห็นบรรยายแต่ว่าทำเค้ายังไงบ้าง..ไม่เห็นบอกเลยว่าตัวเองเป็นอะไรบ้าง
หรือเปล่า”จุ้นอมยิ้ม นึกถึงวันเก่าๆแล้วก็หัวเราะออกมา

“ก็เจ็บพอดูล่ะมีเลือดออกข้างปากด้วย..พี่ไทด์เห็นแทบร้องจ๊ากกเลย..ไม่รู้ว่าห่วงน้องหรือว่า
กลัวพ่อดุว่าไม่ดูแลน้องก็ไม่รู้”หัวเราะหึ หึ ปอมยิ้มพริ้ม

“ตอนเด็กๆ แกคงจะแก่นไม่ใช่เล่น”จุ้นหันมายิ้มให้

“ไม่หรอก...ออกจะหวานขนาดนี้”ปอมเลิกคิ้ว แล้วก็ขยิบตาให้ปิ๊ง! ปิ๊ง! ส่งเสียงมาเบาๆ

“อันนี้ฉันคอนเฟิรม์”จุ้นหัวเราะ ผลักหัวปอมเซไปนิดนึง แล้วปอมก็ขมวดคิ้ว

“ฉันว่านะ...ไอ้คนเนี้ยชื่ออะไรนะ”ก้มลงอ่านชื่อในไดอารี่

“อ้อ! เชษฐ์..ไอ้เจ้าเชษฐ์เนี่ย! มันต้องแอบชอบแกจุ้น..เพราะตั้งแต่ฉันอ่านมารู้สึกว่ามันจะ
คอยแกล้งแกตลอดเลย ฉันเป็นผู้ชายฉันดูออกเดาทางกันถูก...ส่วนแกตอนนั้นฉันก็ว่าคงจะมี
ชอบเค้าบ้างแหละ ไม่งั้นคงไม่เก็บเอามาเขียนหรอก..ใช่มั๊ย..ฮึ!จุ้น”เลิกคิ้วถาม จุ้นยิ้ม

“ไม่รู้สิ!..คงใช่มั๊ง!”ทีนี้ปอมตาโต จ้องจุ้นเขม็ง

“จริงง่ะ!..และตอนนี้ล่ะ..ยังชอบมันอยู่หรือเปล่า”ถามเสียงแข็ง จุ้นหัวเราะคิก คิกเม้มปากเฉย
ปอมเริ่มหน้าหงิก

“จุ้นอ่ะ! ตอบมาเร็ว!”เร่งยิก ยิก หนังสือไม่อ่านแล้วหันหน้ามาหาจุ้นเต็มตัว

“เร็ว! ตอบมาซะดี ดีจุ้น..ยังชอบมันอยู่มั๊ย” จ้องหน้าเขม็งรอฟังคำตอบ แล้วจุ้นก็พยักหน้าหงึก
หงึก เท่านั้นแหละ โวยวายเสียงดัง

“จุ้นอ่ะ!ไปชอบมันทำไมล่ะ..มันนิสัยไม่ดีแกล้งแกตลอดเลยนะ ไม่เป็นสุภาพบุรุษ..ไม่ให้
เกรียติ์ผู้หญิงด้วย ไม่เห็นจะดีตรงไหนเลย..ไปชอบมันได้ยังไง”จุ้นหัวเราะขำ ปอมหน้าคว่ำ

“หัวเราะอะไร..ไม่ขำเลยนะจุ้น!..ห้ามชอบมัน” พาล! จุ้นอมยิ้มเลิกคิ้วส่งให้

“แกจะมาบังคับฉันได้ยังไงล่ะปอม..ความรู้สึกของฉัน”ปอมหน้ามุ้ย

“แต่แกเป็นเมียฉันแล้วนะ..เป็นแม่ของลูกฉันแล้วด้วย” เสียงเริ่มอ่อย จุ้นยิ้มน้อยๆ ส่งเสียงมา
เบาๆ

“แกลองอ่านไปเรื่อยๆสิปอม”ปอมมองหน้าจุ้นนิดนึง จุ้นพยักหน้าส่งให้..ปอมค่อยๆหยิบไดอารี่
ขึ้นมาอ่านใหม่ นั่งอ่านอยู่นานพอดู แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องตาจุ้นค่อยๆโอบจุ้นเข้ามากอดไว้
ในอ้อมแขน จุ้นซบลงที่ไหล่ปอม

“ฉันขอโทษจุ้น!..ฉันไม่ห้ามแกแล้วล่ะเก็บเค้าอยู่ในความทรงจำเถอะ” ลูบผมจุ้นเบาๆ

“ขอบใจปอม”เงียบกันอยู่พักนึง แล้วปอมก็ทำลายความเงียบขึ้นมา

“แกคงจะเสียใจมากเลยใช่มั๊ยจุ้นวันนั้นน่ะ!” จุ้นพยักหน้าอยู่บนไหล่ปอม นึกถึงความหลัง

“ฉัน..ไอ้นา..ไอ้แนงและก็เพื่อนๆในห้อง พอรู้ข่าวก็ร้องไห้กันหมด..รู้มั๊ยปอมวันที่ฉันกล้าที่จะ
สู้มันเป็นวันที่ฉันได้เห็นมันวันสุดท้าย และก็เป็นวันที่มันขอโทษฉันครั้งแรกด้วยมันทำฉันเลือด
กลบปาก ฉันเพิ่งเห็นหน้ามันสำนึกผิดมากๆก็วันนั้นแหละไม่เคยเห็นมาก่อน เหมือนกับมันทำ
ความผิดใหญ่หลวงซะอย่างงั้น..เชษฐ์เป็นตัวป่วน ตัวกวนและก็ตัวโจ๊กในห้อง ถ้าอยู่ก็จะเสียง
ดัง..แต่ถ้าวันไหนไม่อยู่ก็จะเงียบสงัด..มีทั้งดีและไม่ดีอยู่ในตัวมันคละคละกันไป..ฉันประทับ
ใจมันก็ตรงนี้แหละถึงมันจะคอยแกล้งฉันตลอดเวลาก็เถอะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันคิดยังไงกับ
ฉันเพราะมันไม่เคยบอก..แต่สำหรับฉันและก็เพื่อนๆทุกคนจะชอบเชษฐ์มาก”เงียบไปนิดนึง..
ปอมจุ๊บเบาๆไปที่ขมับจุ้น ค่อยๆส่งเสียงถามออกมา

“ต้นเหตุมาจากอะไรเหรอจุ้น..ทำไมถึงเกิดเรื่องได้ล่ะ”

“สองโรงเรียนยิงกันบนรถเมล์..เผอิญเชษฐ์นั่งมากับคันนั้นด้วยเลยโดนลูกหลง ถูกลูกกระสุน
ทะลุเข้าที่ปอด..คนที่เห็นเหตุการณ์เค้าบอกว่าเชษฐ์สิ้นลมทันที..วันที่รู้ข่าวแทบจะไม่ได้เรียน
กันเลยข่าวดังไปทั่วโรงเรียน มีลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งด้วย..สงสารครอบครัวของเชษฐ์ เศร้า
ร้องไห้กันเป็นแถวโดยเฉพาะแม่ของเชษฐ์..พวกฉันต้องผลัดไปเยี่ยมท่านอยู่บ่อยๆกลัวท่านจะ
เครียด..สงสารจับใจ..ฉันถึงไม่ค่อยชอบการพลัดพรากไงปอมมันรู้สึกกลัว..รู้สึกเศร้าไปหมด
ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก” จุ้นกระชับอ้อมกอดปอมแนบแน่นขึ้นไปอีก ปอมลูบหลังจุ้นเบาๆปลอบ

“มันจะไม่เกิดขึ้นจ๊ะคนดี..มันจะไม่เกิดขึ้นอีก”จุ้นยิ้มแหงะหน้ามามองปอม

“แกเข้าใจฉันแล้วใช่มั๊ย!”ปอมยิ้มตาหยีตอบ

“เข้าใจแจ่มแจ้งเลยจ๊ะ..จุ้นจ๋า..ไม่มีเคลือบแคลงไม่มีสงสัยใดๆทั้งสิ้น..และก็จะใจปล้ำยอมให้
จุ้นแบ่งมุมความรู้สึกเล็กๆของจุ้นให้ไปชอบเจ้าเชษฐ์นั่นด้วย...ไม่ว่ากัน!..ไม่ว่ากัน!”จุ้นอมยิ้ม
ค้อนให้ควับถอยตัวกลับมานั่งอย่างเดิม

“เนี่ยนะใจปล้ำของแก..แค่มุมความรู้สึกเล็กๆเนี่ยนะ!”ปอมเลิกคิ้ว

“อ่ะ! อันเนี้ยถือว่าใจปล้ำสุด..สุดแล้วนะ จะเอาอะไรกันมากมาย..ของดีมีน้อย..หวง! หวง!”ยัก
คิ้วแพล๊บๆส่งให้ จุ้นหัวเราะ

“ไอ้บ้าปอม! ไอ้ขี้หวง”ปอมยิ้ม

“เพราะรักถึงหวงไงจุ้น..ไม่รักไม่หวงน้า...จงภูมิใจเถอะ..ที่รัก”จุ้นเบะปาก หมั่นไส้ ปอมหัวเราะ
ก้มลงอ่านไดอะรี่ต่อ แล้วก็เข้าสู่ความเงียบ ปอมนั่งอ่านไปอมยิ้มไป มีสะกิดถามจุ้นเป็นระยะ
ระยะ..จนจะเที่ยงนั่นแหละจุ้นถึงเข้าไปจัดเตรียมอาหารแล้วปอมก็ตามเข้าไป พอกินเสร็จก็
กลับมานั่งอ่านใหม่..จุ้นเข้าไปทำงานบ้าน..จนบ่ายสี่โมงกว่าถึงเดินออกมาจากบ้าน เห็นปอม
นอนเลื้อยไปบนพื้นศาลาที่มีเสื่อปูอยู่...จุ้นเดินเข้าไปนั่งข้างๆ

“ไม่เบื่อเหรอปอม..อ่านตั้งแต่เช้าแล้ว” ปอมแหงะหน้ามามอง ส่ายหัวให้

“แกเขียนเก่งดี อ่านแล้วเพลิน” แล้วก็เงียบเสียงกันไป จุ้นนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ มีอันต้อง
สะดุ้งตกใจเพราะปอมหัวเราะดังลั่น จุ้นเขกหัวปอมดังโป๊ก! ปอมถึงกับนอนเอามือกุมหัว บ่นมา
เบาๆ

“อือหือ! ไอ้จุ้นล่อซะกะบาลแยกเลย” จุ้นค้อนควับ

“แหกปาก เสียงดัง...ตกใจหมด” แล้วก็เลิกสนใจก้มลงอ่านหนังสือต่อ ปอมนอนลูบหัวปร้อยๆ
นึกขึ้นได้ก็อมยิ้ม หัวเราะคิก คิก นอนมองหน้าจุ้นอยู่อย่างงั้น..จุ้นเหลือบสายตามอง พอเห็น
ปอมมองอยู่ก็ขมวดคิ้ว

“เป็นบ้าอะไรไอ้ปอม..นอนยิ้มอยู่ได้”ค้อนให้อีกควับนึง ปอมยังยิ้มอยู่ปากก็เอื้อนเอ่ยมาเบาๆ

“แกแปลกๆเหรอจุ้น..ตอนเราจุ๊บ!กันครั้งแรกน่ะ” เท่านั้นแหละ จุ้นตาโตเลยหน้าร้อนวาบ!
วาบ! จะดึงไดอะรี่จากมือปอม..ปอมยิ้มรีบซ่อนไว้ข้างหลังนอนทับไว้

“ไอ้บ้าปอม! แกอ่านเล่มไหนอยู่..แกอ่านเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ!”ปอมหัวเราะร่วน

“เผอิญเปิดเจอน่ะ..เลยอ่านก่อนแกน่ารักจังจุ้น!” จุ้นน่าแด๊ง!..จุ้นกะจะเอาเล่มนี้ซ่อนจะไม่ให้
ปอมอ่าน..แต่ไม่มีช่วงเวลาเหมาะซักทีเพราะปอมนอนอยู่กับกองไดอะรี่ตลอด..ก็เลยคิดว่าจะ
เอาไปซ่อนตอนกลางคืน..เพราะยังไงวันนี้ปอมก็ยังคงอ่านไม่ถึงหรอก เนื่องด้วยว่าปอมเป็น
คนอ่านหนังสือช้ามั๊ก ม๊ากกก..แต่ที่ไหนได้พ่อตัวดีเล่นอ่านข้ามซะนี่ ความลับเลยเปิดเผย..จุ้น
หน้าแดงไปหลายตลบ ปอมนอนหัวเราะ

“เขิลล์เหรอจุ้น!..ไม่ต้องเขิลล์หรอก..น่ารักดีฉันชอบ”จุ้นส่งค้อนให้อีกควับ พูดออกมาเบาๆ

“ปอม..จะห้าโมงแล้ว..หิวอ่ะไปหาอะไรกินกันเถอะ”รีบเปลี่ยนเรื่อง ปอมอมยิ้ม

“เปลี่ยนเรื่องเชียวนะ..จุ้นนน!...หิวเหรอ!”จุ้นพยักหน้าหงึก! หงึก!

“งั้นไป!”รีบลุกขึ้น รวบสมุดมากองไว้ด้วยกัน จุ้นลุกตามมือก็ช่วยเก็บไปด้วย

“จะไปไหนอ่ะปอม!”

“ไปหาอะไรกินนอกบ้าน..วันนี้จะพาภรรเมียไปดูแสงสีข้างนอกซะหน่อย..เปิดโลกทัศน์”ส่ง
สายตาปิ๊ง! ปิ๊ง! แล้วก็พากันเดินเข้าบ้านเอาของไปเก็บ........

“คนแน่นจังปอม..”จุ้นบ่นงึมงำ หลังจากที่พากันเดินเข้ามาในร้านอาหารชื่อดังใจกลาง
เมืองกรุงเทพฯ

“วันอาทิตย์จุ้น! คนเลยแน่น” ซักแป็บชายหนุ่มแต่งตัวดี ก็เดินยิ้มล่าเข้ามาหาปอม

“สวัสดีครับคุณปอม...ไม่มาซะนานเลย...ยินดีมากครับที่สถานที่นี้มีโอกาศได้รับใช้คุณอีก..กี่
ที่ดีครับวันนี้”ปอมหัวเราะ

“สองที่ครับ..เอาวิวดีดี..หน่อยนะครับ เงียบ!..เงียบ!”

“ได้เลยครับ!”แล้วก็เดินนำปอมกับจุ้นไป ได้ที่ดีตามใจประสงค์จริงๆด้วย จุ้นถึงกับเลิกคิ้วทึ่ง
แล้วชายหนุ่มก็ขอตัว นั่นแหละจุ้นถึงมีเสียงออกมา

“ใครน่ะปอม..แกมาบ่อยจนรู้จักขนาดนั้นเลยเหรอ..ถึงขนาดจัดที่ให้นั่งซะแจ๋วเชียว”ปอม
หัวเราะ

“สามีแกมันเจ๋งไงจุ้น”ยักคิ้วแพล๊บ! แพล๊บ! จุ้นเบะปากหมั่นไส้ ปอมหัวเราะ

“เป็นเจ้าของร้าน..นิสัยดีเชียวแหละ!.มากินบ่อยจนสนิทกัน..ส่วนมากก็จะมากับพี่ภรรยานั่น
แหละ..ขานั้นน่ะมาบ่อยกว่าฉันอีกนะ..ประมาณว่าอาทิตย์นึง สามหนน่ะ แฮะ! แฮะ!”จุ้นทำหน้า
เอือม

“ถึงว่าดูสนิทสนมกันเชียว...เกื้อหนุนจุนเจือกันอยู่นี่เอง”ปอมตาโต

“แต่ว่าหลังๆ มาเนี่ย..ฉันไม่ได้มาอีกเลยนะ..นานโขอยู่เหมือนกัน”รีบออกตัว จุ้นยิ้ม

“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรแกซักหน่อย”ปอมยิ้มตาหยี

“เล่าให้ฟังเจ๋ยๆ”จุ้นหัวเราะ แล้วบริกรก็เข้ามารับออร์เดอร์..นั่งคุย.นั่งกินกินกันได้ซักแป๊บก็
ต้องมีอันตกใจกันทั้งคู่

“คุณจุ้น..คุณปอม..สวัสดีค่ะ”หันมาหาต้นเสียงเห็น แพรดายืนยิ้มเผล่..มีพลยืนอยู่ข้างๆ จุ้นกับ
ปอมรีบยิ้มสวัสดีทักทาย

“คุณจุ้นสบายดีหรือเปล่าคะ...พอดีวันงานแต่งพี่ปาร์ แพรยุ่งๆน่ะค่ะ..เลยไม่ได้เข้าไปทัก..เจอ
แต่คุณปอม”จุ้นส่งยิ้มให้

“สบายดีค่ะ..คุณแพรล่ะคะเป็นยังไงบ้าง”แพรยิ้มน้อยๆ

“ก็เรื่อยๆค่ะ..ปกติ!ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง..เหมือนเดิม” ปอมนั่งฟังอยู่นาน

“เชิญนั่งก่อนมั๊ยครับคุณแพร..และก็เอ่อ!”แพรเพิ่งนึกขึ้นได้รีบขอโทษ ขอโพยใหญ่

“ขอโทษค่ะ! แพรลืมแนะนำ นี่พี่พลค่ะ!แฟนแพร..ส่วนนี่ก็คุณปอมค่ะ..สามีคุณจุ้น..พี่พลคง
รู้จักคุณจุ้นแล้วที่พัทยาน่ะค่ะ”หันมาถามพล..พลพยักหน้ารับส่งยิ้มให้จุ้นกับปอม

“หวัดดีครับ!”

“นั่งด้วยกันก่อนมั๊ยครับ”เอ่ยปากชวน แพรกำลังจะพยักหน้า..แต่พลส่ายหน้าซะก่อนส่งยิ้มให้

“คงไม่รบกวนหรอกครับ..พอดีผมจะต้องรีบกลับ..มีงานด่วนน่ะครับ”แพรหน้ามุ้ย

“ทำไมต้องรีบกลับล่ะคะพี่พล..ทีเมื่อกี้ยังไม่เห็นรีบอย่างงี้เลย”พลส่งเสียงมาเบาๆ

“แพร!”

“ถ้าพี่พลรีบกลับ...ก็กลับไปก่อนก็ได้ค่ะเดี๋ยวแพรกลับเองได้”มีต่อรอง จุ้นกับปอมมองหน้ากัน
ทำหน้าไม่ถูก พลขมวดคิ้ว ส่งเสียงมาใหม่

“แพรร!”น้ำเสียงเริ่มเข้ม นั่นแหละแพรถึงอ่อนลงได้แต่หน้ายังมุ้ยอยู่

“ก็ได้!” หันหน้ามาหาจุ้นกับปอม

“งั้นวันนี้แพรขอตัวนะคะ...เดี๋ยวแพรโทรหาค่ะ!..ไปก่อนนะคะ”แล้วก็เดินงอนออกไป พลหัน
มาลาและก็เดินตามแพรไปติดๆ จุ้นกับปอมมองส่งจนลับสายตา แล้วเสียงปอมก็ดังออกมา

“ฉันนึกว่างานนี้คุณแพรจะปลดแอก..ทำตัวเป็นเสรีไทยเดินได้ด้วยขาตัวเองซะแล้ว..ที่ไหนได้
ม้าตายตอนจบ”หัวเราะ หึ หึ จุ้นหันมายิ้มให้

“ช่างเปรียบเปรยนักไอ้ปอม”ปอมเลิกคิ้ว

“อ้าว! จริงมั๊ยล่ะ...ถ้าคุณเธอหลงไปอยู่ในยุคก่อนๆ สมัยโบราณนะ..ฉันว่าเธอคงอยู่รอด
ปลอดภัย..เพราะช่างเป็นหญิงสาวที่เดินตามต้อยๆ..ยอมหมดไม่มีปากไม่มีเสียง ผู้หญิงอย่าง
เงี้ยผู้ชายสมัยก่อนชอบ” ตักข้าวเข้าปากเคี้ยวแหงบ ๆ จุ้นหัวเราะ

“รู้ดีนัก...แต่ฉันว่าไม่อ่ะ!ฉันว่าคุณแพรนี่..เหมือนมีสองบุคลิกในคนๆเดียวประมาณว่า เย็น
สุดๆ..กับร้อนสุดๆเลยล่ะ!”ทำหน้าเชื่อมั่นเต็มที่...ปอมหัวเราะบ้าง

“จริงง่ะ!...แกรู้ลึกขนาดนั้นเลยเหรอจุ้น”จุ้นพยักหน้าหงึก หงึกมั่นใจมาก

“จริง!..จริง!..ฉันมีลางสังหรณ์” ปอมอมยิ้ม

“พอ!..พอ!..เรื่องของคนอื่น..กินได้แล้วเดี๋ยวเย็นหมดไม่อร่อย!”

“แต่ฉันมีลางสังหรณ์ จริงๆนะ”ยังตื้ออยู่ ปอมหัวเราะส่งเสียงมาบ้าง

“ฉันก็มีลางสังหรณ์เหมือนกันจุ้น”จุ้นขมวดคิ้ว

“อะไร”

“ก็ลางสังหรณ์ว่าถ้าแกไม่รีบกินตอนนี้แกก็จะอดกิน..เพราะฉันสังหรณ์ว่าฉันจะกินมันหมด
เพราะมันอร่อยมากกกก” จุ้นหัวเราะ ค้อนให้ปอมควับนึง และก็ก้มหน้าก้มตากินกันไปคุยกัน
ไป....



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 มิ.ย. 2554, 19:27:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 มิ.ย. 2554, 19:27:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1760





<< ตอนที่ 45 : เวลา   ตอนที่ 47 : จุดสิ้นสุด..ฤา..จุดเริ่มต้น >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account