เพลิงสวาทในรอยทราย
ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่สมควร ทั้งรู้ดีว่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากตามมาภายหลัง แต่ความงามตรงหน้าก็ยากที่จะละสายตาให้ออกห่างจากเอวบางที่ยักย้ายส่ายพลิ้วไปพร้อมกับจังหวะกลอง

เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่เขาเคยค่อนแคะ กำลังกลายร่างเป็นนางระบำทรงเสน่ห์ที่ทำให้ใจของชายหนุ่มปั่นป่วน จนกลืนน้ำลายลงคอได้อย่างยากลำบาก

คุณธรรมและความถูกต้องกำลังดึงมูซาให้ออกห่างจากความเย้ายวนตรงหน้า ทว่า...

"ฮาน่า ไม่ว่าเจ้าจะรู้หรือไม่ก็ตามว่าเจ้ากำลังทำให้หัวใจของข้าแทบจะหยุดเต้น เจ้าจะไม่มีทางรอดพ้นอ้อมกอดของข้าในคืนนี้ไปได้"


เล่มนี้เป็นเรื่องราวของชายผู้หายสาบสูญในเรื่องเหลี่ยมรักบัลลังก์ทรายค่ะ ใครยังจำอดีตองค์รัชทายาทมูซาได้มั่งคะ ^^ พบกันหลังปิดต้นฉบับ หวานรักในลมหนาวนะคะ Coming Soon
Tags: ทะเลทราย,มูซา

ตอน: บทนำฉบับสมบูรณ์

บทนำ

‘หม่อมฉันได้ทบทวนแล้วพบว่า ตนเองนั้นได้ขาดคุณสมบัติการเป็นรัชทายาทแห่งอาซาลายิ่งนัก หม่อมฉันไม่เหมาะกับกฎระเบียบภายในวัง หม่อมฉันรักอิสระมากเกินกว่าจะถูกบังคับให้อยู่ในกฎเกณฑ์เหล่านั้น ทว่ามีคนที่เหมาะกับหม่อมฉันมากกว่า ซึ่งทั้งสองพระองค์คงจะทราบดีว่าใคร หม่อมฉันขอบพระทัยที่ทรงเข้าใจ ขอบพระทัยที่ทรงเลี้ยงดูและเมตตาหม่อมฉันอย่างดีให้สมกับความเป็นลูก มันถึงเวลาแล้วพ่ะย่ะคะที่หม่อมฉันควรจะคืนสิ่งที่ควรเป็นของใครบางคน สิ่งสุดท้ายที่หม่อมฉันอยากจะขอความเมตตาคือเรื่องแม่นมชีอาร่า หม่อมฉันอยากจะให้ทั้งสองพระองค์ละเว้นโทษตาย เพื่อเห็นแก่ความดีที่นางเคยทำได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ
รักและเคารพทั้งสองพระองค์อย่างสุดใจของกระหม่อม
มูซา’

มือหนาพับจดหมายวางลงบนกล่องทองเหลืองก่อนจะผ่อนลมหายใจหลังจากอ่านเนื้อความในจดหมาย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระองค์เปิดอ่าน แต่เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วต่างหากที่รัชทายาทแห่งอาซาลาหยิบขึ้นมาอ่านทุกครั้งหลังจากได้ข่าวคราวของเจ้าของลายมือบนกระดาษแผ่นนี้

“ไม่ได้อะไรเลยหรือเพคะฝ่าบาท” หญิงสาวในวัยยี่สิบต้นๆ หากมีดวงตาสีเขียวงดงามราวกับเทพธิดามองร่างสูงที่ทิ้งสายตาให้จมจ่อมอยู่กับกล่องทองเหลือง

“เกือบแล้ว แต่ก็เหมือนเดิมทุกครั้ง” เจ้าชายซาราฟผู้ที่เพิ่งรั้งตำแหน่งรัชทายาทแห่งอาซาลาได้ 2 ปี เงยพักตร์ขึ้นตอบคนรักอย่างคนที่กำลังหมดกำลังใจ

มือเรียววางลงบนฝ่ามือหาแล้วบีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจก่อนจะซุกศีรษะที่เต็มไปด้วยกลุ่มผมหอมกรุ่นลงบนแผงอกกว้าง

“บางทีเราเจ้าชายมูซาอาจจะต้องการเวลา การที่ทรงทิ้งเบาะแสให้รู้ว่าทรงพำนักอยู่ที่ไหน แล้วพอคนของเราไปถึงแล้วพระองค์หายตัวไป พระองค์อาจจะแค่อยากให้เรารับรู้ว่าพระองค์สุขสบายดี แต่ยังไม่พร้อมเผชิญหน้ากับเราก็ได้นะเพคะ”

คำบอกกล่าวของหญิงคนรักทำให้ร่างสูงผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ใบหน้าคมเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง นัยน์ตาเข้มทอดออกไปไกลราวจะมองหาดวงดาวในยามค่ำคืน แต่เบื้องหน้ากลับมีแต่ความมืดมิดไม่ต่างจากสิ่งที่ทรงกลัดกลุ้มอยู่ตอนนี้เลย

“ข้าแค่อยากให้เขารู้ว่าเราทุกคนรอคอยให้เขากลับมาก่อนที่เขาจะต้องเสียใจ”

ศีรษะเล็กที่ซุกอยู่บนอกกว้างเงยขึ้นมองสีหน้าคนที่เป็นเจ้าของหัวใจอย่างเข้าใจความรู้สึก เธอรู้ดีกว่าคนอย่างเจ้าชายซาราฟไม่ใช่คนที่จะล้มเลิกอะไรกลางคัน อะไรที่พระองค์รับปากเอาไว้พระองค์ไม่เคยผิดคำพูดแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้ก็เช่นกัน พระองค์รับปากองค์ราณีแล้วว่าจะพาเจ้าชายมูซากลับมาก่อนที่พระองค์จะไม่มีโอกาสได้เห็นพระพักตร์ของคนที่พระองค์ชุบเลี้ยงมาเหมือนลูกในไส้อีกตลอดกาล

“เวลาของพระนางเหลืออยู่เท่าไหร่เพคะ”

“หมอหลวงบอกว่าไม่เกินปลายปีนี้” น้ำเสียงเข้มตอบด้วยความกลัดกลุ้ม

ไอรีนกระชับอ้อมกอดรอบเอวหนาอย่างตั้งใจถ่ายทอดความรู้สึกทั้งรักทั้งห่วงทั้งเห็นใจไปให้คนรัก นับว่าโชคยังดีที่องค์ราชากลับมาแข็งแรงอีกครั้งหลังจากได้รับการรักษาจากหมอชาวต่างชาติ ผิดกับองค์ราณีที่นับวันจะอ่อนแอลงหลังจากที่เจ้าชายมูซาออกจากวังไปหลังเกิดเรื่องเมื่อ 5 ปีก่อน

“บรรทมเถิดเพคะ วันนี้ทรงเหนื่อยมามากแล้ว” มือเรียวเอื้อมขึ้นไปลูบไล้แก้มสากระคายอย่างห่วงใย มือหนาทาบลงบนหลังมือเรียวก่อนจะยกขึ้นมาจรดที่ริมฝีปาก

“ในความโชคร้ายของข้า เจ้าคือความโชคดีเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้ข้าทนต่อสู้กับสิ่งต่างๆ มาได้จนถึงทุกวันนี้” ความหวานที่ถูกเติมเต็มได้รับการตอบแทนเป็นรอยยิ้มเล็กๆ กับใบหน้าหวานที่ขึ้นสีเรื่อด้วยความเขินอาย

“หม่อมฉันพร้อมจะเป็นความโชคดีของฝ่าบาทไปตลอดชีวิตจนกว่าพระองค์จะเบื่อหม่อมฉันนะเพคะ”

นัยน์ตาคมมองหญิงสาวด้วยความรักก่อนจะประทับจูบลงบนหน้าผากเนียน แล้วผละออกช้าๆ ก้มลงไปกระซิบที่ใบหูเล็กด้วยเสียงแหบพร่าที่ไอรีนฟังแล้วแทบเข่าอ่อน ใบหน้างามเหลือบสายตาขึ้นมองพระพักตร์คมก่อนจะหลับตาพริ้มรับจุมพิตเสน่หาแห่งรักจากองค์รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งอาซาลา!

ในขณะเดียวกันอดีตองค์รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งอาซาลาเมื่อ 5 ปีก่อนกลับกำลังสนุกสนานอยู่กับศึกรักบนเตียงกว้าง ร่างกำยำอย่างคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอชื้นไปด้วยเหงื่อที่มาจากการกรำศึกรักในตลอด 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา เหงื่อใสๆ ผุดขึ้นตามกรอบหน้าคมที่มีเครื่องหน้าเด่นชัดชนิดสะกดทุกสายตาให้หันมามองโดยเฉพาะสาวๆ ใบหน้าที่ไม่ว่าใครได้ยินเคียงข้างก็ต้องยืดอกได้อย่างภาคภูมิ

นอกจากใบหน้าที่งดงามหาตัวจับยากแล้วความร้อนแรงของชายหนุ่มนี่แหละที่ทำให้หญิงสาวที่กำลังครางไม่เป็นศัพท์อยู่ใต้ร่างชื้นเหงื่อหลงหัวปักหัวปำ ไม่สนว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกหรือผิด

“ดีกว่าสามีของคุณหรือเปล่า หืม” น้ำเสียงแหบห้าวกระซิบถามโดยที่คนถูกถามไม่มีวันมองเห็นการเหยียดยิ้มที่มุมปากของชายหนุ่ม
ร่างเปลือยเปล่าที่ชุ่มเหงื่อทั้งจากของตนเองและจากคนเหนือร่างได้แต่บิดไปมาไม่สามารถตอบอะไรได้อีกเมื่ออีกฝ่ายจงใจเล่นงานจุดอ่อนของเธอ ในขณะที่อารมณ์กำลังถึงขีดสุดคนที่จุดไฟกับเป่าลมใส่เปลวไฟวูบหนึ่ง

ชายหนุ่มถอยออกมาจนอีกฝ่ายหวีดร้องด้วยความขัดใจ ร่างกำยำเปล่าเปลือยที่เต็มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อยืนหันหลังมองออกไปที่หน้าต่างก่อนจะหยิบเอาไฟแช็กขึ้นมาจุดบุหรี่ที่วางไว้บนหัวเตียงที่ถือติดมือมาขึ้นสูบ


ควันขาวลอยโขมงออกมาจากริมฝีปากหยัก แววตาเลื่อนลอยมองดูท้องฟ้าที่เวิ้งว้างอย่างคนที่มีเรื่องให้คิด
ร่างขางโพนที่นอนหอบหายใจฮึดฮัดชันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างไม่สบอารมณ์ที่เขาทำเธออารมณ์ค้างเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้หลังจากที่เขารู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว

“แมท ค่ะ คุณอย่าแกล้งฉันอีกเลยนะ ฉันรู้ว่าคุณโกรธเรื่องที่ฉันปิดบังคุณ แต่ฉันก็เคยบอกคุณแล้วไงคะว่าฉันไม่ได้รักเขา เราแต่งงานกันเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น” ร่างเย้ายวนเบี่ยงขาลงมาจากเตียงแล้วเดินเข้าไปสวมกอดชายหนุ่มจากทางด้านหลังทั้งร่างเปลือย

อแมนด้าลูกสาวผู้ทรงอิทธิพลในลาสเวกัส สาวงามเจนสังคมที่มีชีวิตประหนึ่งเจ้าหญิงบนหอคอยงาช้างดูแพงและสูงส่ง ชีวิตที่คนภายนอกต่างอิจฉา ยิ่งเมื่อได้ทราบข่าวการแต่งงานระหว่างเธอและนักธุรกิจหนุ่มเจ้าของคาสิโนในลาสเวกัสยิ่งทำให้ชีวิตเธอดูห่างไกลออกไปจากคนธรรมดา

คนที่ถูกกอดทำเพียงแค่ส่งเสียง หึ ในลำคอ ในขณะที่มือทั้งสองข้างเกาะขอบหน้าต่างไม่สนใจว่าอีกฝ่ายที่สวมกอดตนอยู่พยายามจะจุดประกายไฟที่มอดลงเมื่อครู่ให้ลุกโชนแค่ไหน

เมื่อความพยายามไม่ได้รับการตอบสนอง จากท่าทีอ่อนหวานยั่วเย้าก็กลายเป็นกระฟัดกระเฟียดถอยหลังกลับไปคว้าชุดคลุมที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาสวม

ร่างสูงมองควันสีขาวที่คุ้งเป็นสายตรงหน้าประกายไปที่ค่อยๆ กัดกินมวนบุหรี่จนเกือบหมดมวนโดยไม่สนใจผู้หญิงอีกคนที่อยู่ในห้องที่กำลังแต่งตัวเลยแม้แต่น้อย

อแมนด้าหยิบเพชรเม็ดงามออกมาจากกระเป๋าถือ นิ้วเรียวลูบไล้มันอย่างทะนุถนอมให้สมความเลอค่าและราคาที่ไม่อาจประเมินได้ของมันอย่างแสนรัก ก่อนจะเหลือบสายตาขึ้นมองแผ่นหลังกว้างเก็บความไม่พอใจในท่าทีเย็นชาของอีกฝ่ายเอาไว้เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ชินและไม่ชอบใจ มีหลายครั้งที่เธอคิดจะทำให้เขารู้สึกเมื่อขาดเธอ แต่สุดท้ายก็เป็นเธอเองที่ขาดเขาไม่ได้

แมทธิวผู้ชายที่ไร้ที่มาที่ไป ผู้ชายที่ดวงตาว่างเปล่า ผู้ชายที่เธอพบเขาในวันที่ฝนตกหนักที่สุดในลาสเวกัส ผู้ชายที่มาพร้อมสายฝนและความเย็นชาแต่แฝงไปด้วยความร้อนแรงเมื่อยามอยู่บนสมรภูมิรัก...

++++บทนำสำหรับคนที่คิดถึงคู่นี้ค่ะ พระ-นางจากเหลี่ยมรักบัลลังก์ทราย+++

+++++++ปุกาศๆๆๆๆ เกมฉลองผลงานเล่มที่ 10 มาแล้วจ้าาา ติดตามได้ที่

หน้าเพจนะคะ อ่านรายละเอียดดีๆน้า ^^

ของรางวัลจัดแน่นจัดหนักว้ากกกกกก


คลิกได้ที่เพจ ของลาฌีนุสใน Facebook นะคะ



ลาฌีนุส
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ต.ค. 2556, 23:53:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ต.ค. 2556, 23:53:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1313





<< คำชี้แจงก่อนเข้าเรื่องค่ะ   บทที่ 1 บุรุษปริศนา >>
goldensun 7 ต.ค. 2556, 19:10:33 น.
มารออ่านนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account