ใต้ปีกรักสีเพลิง {นวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ.อรุณ}
สร้อยผีเสื้อสีเพลิงจากคนแปลกหน้า
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ ๑๖ (ต่อ) // ประกาศรายชื่อผู้รับรางวัลจ้า
พรนางฟ้าวางจี้ผีเสื้อไว้บนฝ่ามือ ขมวดคิ้วด้วยความกังวลเมื่อสังเกตเห็นรอยเส้นเลือดสีแดงในเนื้อหินยาวขึ้นจนเกือบถึงครึ่งปีกของผีเสื้อแล้ว นอกจากนี้เธอยังรู้สึกคล้ายหินสีเพลิงทวีความเจิดจ้าปนสีก่ำมากขึ้นอย่างบอกไม่ถูกอีกด้วย
เสียง เคาะประตูเบาๆดังขึ้นพร้อมกับที่สุภัทรชาก้าวเข้ามาภายใน เจ้าของห้องรีบปล่อยสร้อยให้ห้อยดังเดิม แล้วขยับจากที่นั่งเอนพิงพนักอย่างสิ้นแรงมาวางมือประสานกันบนโต๊ะเป็นทาง การแทน ปรับสีหน้าเหนื่อยอ่อนให้ดูดุขรึมทรงอำนาจมากที่สุด
“แพน...ว่างไหม เกรซมีเรื่องจะมาปรึกษา” สุภัทรชาเอ่ยเศร้าๆ หน้าตาอิดโรยอมทุกข์ชัดเจน
“วันนี้จะมาไม้ไหนอีกเหรอ” พรนางฟ้าไม่ห้ามความคิดตัวเอง
“ไม่ ได้มาไม้ไหนทั้งนั้นแหละ เราอยากขอโทษแพนที่ทำตัวไม่ดีเมื่ออาทิตย์ก่อน” สุภัทรชานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “เกรซยอมรับนะว่าโกรธที่แพนได้เป็นผู้อำนวยการ มันข้ามหน้าข้ามตาเกรซ ทำให้เกรซเสียหน้า ยิ่งแพนสั่งงาน เกรซก็ยิ่งไม่พอใจ พอพี่พัทธ์เข้าข้าง ก็เลยออกอาการมากไปนิดนึง ยกโทษให้เราด้วยเถอะนะ”
“บอกตรงๆว่าเดี๋ยวนี้เกรซลูกเล่นเยอะจนเราไม่รู้เลยจริงๆว่าเชื่ออันไหนได้บ้าง”
สุ ภัทรชาชะงักงันไปเล็กน้อย แต่แล้วก็ปล่อยน้ำตาหยาดลงมา เอ่ยปนเสียงสะอื้น “เราก็ยังเป็นเพื่อนแพนคนเดิมนั่นแหละ เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมาเราเสียศูนย์ไปบ้าง เป็นใครก็ต้องรับมือไม่ถูกกันทั้งนั้นละ อยู่ดีๆลูกน้องก็กลับตาลปัตรมาเป็นเจ้านาย แต่ตอนนี้เราเข้าใจทุกอย่างแล้วนะ เรารู้แล้วว่าต่อให้เราอคติหรือต่อต้านแพนยังไง ก็ไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ ก็แล้วทำไมเราจะต้องทำตัวเป็นศัตรูกับแพนล่ะ ยังไงซะเราก็เป็นเพื่อนกัน สู้เราช่วยกันทำงานให้บริษัทก้าวหน้าดีกว่า เผื่อวันไหนที่แพนก้าวหน้าขึ้นไปคุมฝ่ายออกแบบของภูมิภาค เกรซอาจได้เลื่อนขั้นขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งของแพนบ้างยังไงล่ะ”
พรนางฟ้ามีสีหน้าหลากใจ “นี่เกรซพูดจริงเหรอ”
“จริง สิ แพนยังไม่ต้องเชื่อเกรซตอนนี้ก็ได้ เกรซจะค่อยๆพิสูจน์ให้แพนดูเอง ว่าต้องการความเป็นเพื่อนของเรากลับคืนมาจริงๆ หวังว่าจะมีสักวันที่แพนหายโกรธ แล้วก็ยอมรับความเป็นเพื่อนของเราอีกครั้ง”
“คงมีสักวัน แต่ไม่ใช่ในเร็วๆนี้แน่” พรนางฟ้าตอบทันควัน “ถ้าเกรซไม่มีธุระอะไรแล้วก็เชิญนะ เรามีงานต้องทำอีกเยอะ”
สุ ภัทรชาถอนหายใจ ตัดใจเลื่อนแฟ้มหนึ่งไปตรงหน้าพร้อมกับอธิบาย “โรงแรมบุลินธารที่เชียงรายกำลังจะจัดงานไทยเฮิร์บ และต้องการระบบถ่ายทอดสดในงาน เกรซวาดแผนผังระบบมาแล้ว อยากรบกวนให้แพนช่วยดูให้อีกทีว่ามีอะไรที่ต้องปรับปรุงไหม”
“อ้อ...สุดท้ายก็แสดงธาตุแท้ออกมาจนได้ ที่มาขอโทษเราเนี่ย ก็เพราะจะให้เราช่วยเรื่องงานนี่เอง”
“ไม่ ใช่นะ” สุภัทรชารีบแย้ง “ถ้าจะให้ช่วยเรื่องงาน พนักงานในแผนกมีเยอะแยะ หรือให้พี่พัทธ์ช่วยดูก็ได้ แต่ที่เกรซเอามาให้แพนดู ก็เพราะอยากให้แพนรู้ว่าเกรซเชื่อมั่นในความสามารถของแพน และพร้อมรับฟังคำแนะนำของแพนต่างหาก”
พร นางฟ้าไม่เอ่ยอะไร แต่หยิบแผ่นภาพที่วาดผังการเชื่อมต่อระบบไอทีที่เพื่อนออกแบบมาดู เธอชี้จุดเครื่องขยายสัญญาณ ถามรายละเอียดเรื่องพื้นที่อย่างละเอียด และลงท้ายด้วยการแสดงความเห็น
สุ ภัทรชาจดยิกๆใส่สมุด “ขอบใจมากนะแพน แพนเป็นคนรอบคอบจริงๆ เกรซเคยพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมแฟรงค์ถึงเลือกแพนเป็นผอ. ตอนนี้เกรซได้คำตอบแล้วละ”
“รู้ช้าไปมากเลยนะ” พรนางฟ้าคิดดังๆ “นอกจากเรื่องที่โรงแรมบุลินธารแล้ว มีอะไรอีกหรือเปล่า”
“แพน ทำโครงการเอ็ดดูเทนเม้นต์คอมเพลกซ์เสร็จหรือยัง พรุ่งนี้จะยื่นซองแล้วนะ ถ้ามีอะไรที่เกรซพอจะช่วยได้ก็สั่งมาเลย เกรซยินดี” อีกฝ่ายกระตือรือร้นจน...ผิดตา!
“ไม่ต้องรบกวนเกรซหรอก เราจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วละ ตอนนี้ญาดาทำสำเนาเอกสารทั้งหมดพร้อมแล้ว รอแสดงความยินดีก็พอ”
สุภัทรชาหน้าเสีย “แพนก็ยังไม่ไว้ใจเกรซอยู่ดี”
พร นางฟ้าสบตาเพื่อนเพื่อเสาะหาความจริงใจ ต้องเป็นอุปาทานแน่ๆที่เธอสังเกตเห็นรัศมีสีส้มเจิดจ้าแผ่จากตัวสุภัทรชา อากาศในห้องร้อนฉ่าเพิ่มองศาสูงขึ้นรวดเร็วจนเธอขนลุกเกรียว ทว่าเพียงพรนางฟ้ากะพริบตาครั้งเดียว ทุกสิ่งก็ปลาสนาการหายวับไปในอากาศ!
“เอ๊ะ!” พรนางฟ้าอุทาน รีบกำสร้อยผีเสื้อสีเพลิงเจิดจ้า ลูบปลายนิ้วโป้งไปบนนั้นเพื่อประโลมตนและดูดซับความอุ่นใจกลับคืนมา และนั่นเป็นครั้งแรกที่พรนางฟ้าเพิ่งรู้ตัวว่ามีบางอย่าง...แปลกไป
หญิง สาวกดสร้อยแนบลงที่หน้าอกเบื้องซ้าย แต่กลับไม่รู้สึกถึงแรงสะเทือนแม้เพียงน้อยนิดทั้งที่มันควรโหมกระหน่ำเพราะ ความตกใจเมื่อครู่ ทว่าเธอกลับสัมผัสถึงความเงียบงันจนน่าขนลุก มัน...ราวกับว่าหัวใจเธอหยุดเต้นไปแล้วกระนั้น!
“ถ้า ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว เกรซก็กลับไปทำงานเถอะ” พรนางฟ้าตะกุกตะกักบอกทั้งที่ยังตระหนก เธอกำสร้อยแน่น สีหน้ากังวล “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ จี้ผีเสื้อทำให้เป็นแบบนี้เหรอ”
พร นางฟ้ามัวแต่ตระหนกไม่ทันสังเกตว่าอีกฝ่ายยังไม่ออกจากห้อง ทั้งยังหูผึ่ง มองมาที่เธอด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น จวบจนกระทั่งอินเตอร์คอมที่โต๊ะพรนางฟ้ามีไฟสีแดงกะพริบวาบ หญิงสาวจึงได้สติ เงยขึ้นมองเพื่อนอย่างฉงนฉาย “อ้าว...ทำไมยังไม่ไปอีก”
“โอ๊ะ! โทษที เกรซเห็นแพนหน้าตาไม่ค่อยดี เลยเป็นห่วงน่ะ”
หญิง สาวปล่อยจี้ผีเสื้อห้อยดังเดิม จากนั้นโบกมือไว้อำนาจ “ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก” เธอคอยจนสุภัทรชาออกจากห้องไปแล้ว จึงช้อนจี้หินสีเพลิงไว้ในมือเลื่อนขึ้นมาระดับสายตา เธอมองผีเสื้อค่อยๆกระพือปีกช้าๆด้วยความสนเท่ห์ ดวงตาสีน้ำตาลจ้องแน่วนิ่งอยู่ที่ผีเสื้อซึ่งพยายามบินหนีให้พ้นจากกรอบทอง สีชมพูราวกำลังไขว่คว้าหาอิสรภาพ แวบหนึ่งที่พรนางฟ้าเอาใจช่วย ให้กรอบนั้นฉีกขาดเพื่อให้ผีเสื้อบินหนีออกไปได้พ้น
เสียงกรีด ก้องกังวานในแก้วหูปลุกให้หญิงสาวสะดุ้งโหยง ทุกสิ่งที่อยู่ในใจก่อนหน้าปลิววับหายไปรวดเร็ว ดวงไฟสีแดงเล็กๆที่อินเตอร์คอมกะพริบซ้ำๆ เธอจึงกดปุ่มฟังคำรายงานที่แจ้งว่า
“มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารอพบคุณแพนอยู่ที่ล็อบบี้ค่ะ ดาจัดให้คอยที่ห้องประชุมเฟื่องฟ้านะคะ”
“ตำรวจ มาทำไม” หญิงสาวลุกขึ้นอย่างห่อเหี่ยว แวบหนึ่งที่เผลอภาวนา “หวังว่าคงไม่ใช่มาแจ้งว่าจับคิรินทร์ได้แล้ว และจะให้เราไปชี้ตัวคนร้ายกับตรวจสอบรายการของที่หายไปจากของกลางที่ตำรวจ ยึดได้หรอกนะ!”
สุ ภัทรชาซึ่งยืนแอบอยู่หน้าประตูห้องรีบเดินแกมวิ่งกลับไปที่ห้องส่วนตัวข้างๆ กัน เธอมองตามหลังเพื่อนสนิทไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “สร้อยนั่น! ต้องมีอะไรแปลกๆเกี่ยวกับสร้อยที่แพนสวมอยู่แน่ๆ”
หญิง สาวนึกย้อนถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นับจากวันที่พรนางฟ้าก้าวขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่าย เธอเห็นเพื่อนสวมสร้อยเส้นนั้นติดคอตลอด
บางทีการที่พรนางฟ้ามีบุคลิกแปลกตาไปอาจไม่ใช่เรื่องปกติ และคำตอบอาจอยู่ที่สร้อยเส้นนั้นก็ได้!
เรือนริมสระแยกออกจากตึกใหญ่มาอยู่ค่อนข้างโดดเดี่ยวในสวนหลังบ้าน ตัวเรือนอยู่ตรงปลายด้านหนึ่งของสระว่ายน้ำ ก่อเป็นอาคารชั้นเดียวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาที่ล้ำออกมาจากตัวเรือนช่วยกำบังแดดได้เป็นอย่างดี เมื่อก้าวเข้ามาภายในจะพบสตูดิโอวาดภาพขนาดย่อม ตกแต่งด้วยโทนขาวประดับต้นไม้เขียว มีชิงช้าผูกโซ่ไว้บนคานแข็งแรงลาดด้วยหมอนหลากสี พื้นบางส่วนปูหินโรยกรวด บางตอนยกพื้นสูงขึ้นเป็นพื้นไม้ กำแพงเจาะบานเกล็ดเปิดให้ลมโกรก บัดนี้ผนังด้านหนึ่งมีขาตั้งกางออกวางผืนผ้าใบ โต๊ะไม้ขนาดเล็กถูกลากมาข้างๆ เพื่อวางอุปกรณ์วาดภาพของผู้ยึดครองเรือนริมสระเป็นนิวาสสถานชั่วคราว
คิรินทร์นั่งบนเก้าอี้ไร้พนัก มือซ้ายถือจานสี มือขวาจับพู่กันตวัดบนภาพด้วยความคล่องแคล่ว กลิ่นน้ำมันผสมสีกรุ่นฟุ้งอยู่ในอากาศ
รัง สฤษฏ์ต้องฝ่าสาวใช้หลายคนกว่าจะบุกมาถึงที่พักใหม่ของหนุ่มรุ่นพี่ เขาเคาะกระจกให้สัญญาณครั้งเดียว แล้วจึงก้าวเข้ามาภายใน ยื่นของที่ถือติดมือไปตรงหน้าคิรินทร์ “มีคนฝากผมเอานี่มาให้พี่ครับ”
‘นี่’ ที่ ว่าก็คือตระกร้าบุนวมสีเลือดหมูบรรจุกระดาษโพสต์อิทหลากสีโปรยพูนจนเต็ม คิรินทร์วางจานสีพู่กันไว้บนโต๊ะ หันไปรับของจากมือหนุ่มรุ่นน้อง หยิบกระดาษขึ้นมาพิจารณาจึงพบว่าทุกใบเขียนข้อความด้วยลายมือเดียวกันหมด ใจความสั้นๆแต่ทำให้คนมองเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
ฉันขอโทษ - I’m Sorry - Je suis désolé - Es tut mir leid - Lo siento ทั้งภาษาไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สแปนิช และอีกสารพัดภาษาบนโลกอันมีความหมายเดียวกับคำขอโทษเท่าที่คนทำจะสรรหาได้
คิริ นทร์หันไปมองหนุ่มรุ่นน้อง ก็เห็นอีกฝ่ายจับสังเกตเขาอยู่อย่างละเอียด ความที่ร้อนตัวว่าสีหน้าเขาอาจแสดงความพอใจออกไปมากเกินจำเป็น คิรินทร์จึงกลบเกลื่อนด้วยการทำเสียงดัง “มองอะไร”
รัง สฤษฏ์อมยิ้ม ส่ายหน้าพลางส่งซองจดหมายแบบที่ใช้ในสำนักงานมาให้ ภายในบรรจุโพสต์อิทขนาดใหญ่พิเศษสีชมพูบาดตาสอดอยู่ เขาดึงออกอ่านข้อความที่แนบมาด้วย...
กู เกิ้ลมีคำขอโทษหนึ่งร้อยสามสิบภาษา และฉันก็ยืมเขามาหมดแล้ว คำเดียวที่ไม่ได้ลอกใครมา แต่เป็นคำที่ฉันตั้งใจจะบอกคุณก็คือ...ฉันขอโทษ ขอโทษที่เข้าใจผิด ขอโทษที่กล่าวหาคุณแบบนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมฟังคำอธิบาย และเหนืออื่นใดทั้งหมด ฉันขอโทษที่ไม่กล้ามาขอโทษคุณด้วยตัวเอง - พรนางฟ้า
แม้ไม่ระบุชื่อผู้รับ แต่ถ้อยคำและเนื้อหาทั้งหมดบอกให้รู้ว่าเธอเจตนาส่งมันมาให้เขา
คิริ นทร์พบว่าวินาทีนั้นเขารู้สึกปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก ประการแรกความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ประการถัดมาเขาพบว่าตัวเองนึกชื่นชมพรนางฟ้า โดยเฉพาะที่เธอรู้จักยอมรับความผิดของตัวเอง แถมยังกล้าลดทิฐิและเป็นฝ่ายออกปากขอโทษ! อยากรู้นักว่าพรนางฟ้าต้องใช้ความกล้าหาญมากแค่ไหน ในการยอมรับความจริงว่าเธอไม่ได้ทำทุกสิ่งในชีวิตถูกต้องไปหมด
คิรินทร์หันไปทางผู้มาเยือน “ขอบใจมากฤทธิ์ เลยต้องลำบากนายไปด้วย”
“ไม่ลำบากหรอกฮะ แม่สั่งผมเอาของไปให้เกรซที่ออฟฟิศ เจอคุณแพนพอดี เธอเลยฝากผมมาด้วย”
“นายยังไม่เลิกคิดเรื่องยายผู้หญิงหัวสูงคนนั้นอีกเหรอวะ” คิรินทร์วางตะกร้าลงข้างขาตั้งอย่างเบามือ แล้วหันกลับมาทางหนุ่มรุ่นน้อง
“ถ้าคนเรามันทำใจไม่ให้ชอบใครสักคนได้ง่ายๆก็ดีน่ะสิ” เขาเฉไฉ แต่ถ้าฟังดีๆจะรู้ว่าเขาตอบคำถามของอีกฝ่ายแล้ว “ล่าสุดนี่...ผมเห็นเขาควงอยู่กับพี่ภู พี่รู้หรือยัง”
“เฮ้ย! จริงเหรอ ไม่เห็นภูพูดอะไรให้ฟังเลย” คิรินทร์มีสีหน้าหลากใจ
“ดูท่าคราวนี้คงจะเอาจริง เห็นอยู่ด้วยกันตั้งหลายหนแล้ว” รังสฤษฏ์เปรยเรื่อยๆ
“นายโอเคหรือเปล่า” คนอายุมากกว่าเป็นห่วง
“ถ้า ถามจริงๆก็ไม่โอเคหรอก กึ่งนึงก็อดห่วงเขาไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าพี่ภูจริงใจกับเกรซหรือเปล่า ถ้าพี่ภูไม่คิดหลอกลวง แต่ตั้งใจลงเอยกัน มันก็อาจช่วยให้ผมตื่นจากฝันแล้วกลับมาอยู่กับความเป็นจริงได้สักที”
คิรินทร์ถอนใจ “ถาม จริงนะฤทธิ์ แกรักอะไรผู้หญิงคนนั้นนักหนาวะ โอเค...ยายนั่นสวยเพอร์เฟ็กต์ แต่นิสัยไม่ได้เรื่องเลย เหยียดคนเป็นที่หนึ่ง ตัดสินคนจากภายนอก แถมยังเอาแต่ใจอย่างไม่มีเหตุผลอีกด้วย”
“พี่ อาจจะคิดว่าผมน่าสมเพช แต่ความรักมันไม่มีเหตุผลไม่ใช่เหรอ บางที...ผมก็อยากให้ตัวเองมีเหตุผลดีๆที่ชอบเกรซเหมือนกัน มันอาจจะช่วยให้อะไรๆง่ายขึ้น แต่อาจเพราะผู้หญิงคนนี้เป็นแบบนี้ก็ได้ที่ทำให้ผมชอบเขา ผมรู้ว่าพี่ห่วง แต่ผมโอเคจริงๆ รับรองว่าวันไหนที่เกรซประกาศลงเอยกับพี่ภู ผมจะไม่ฆ่าตัวตาย ตกลงไหมฮะ” รังสฤษฏ์ขยับขาแว่นด้วยความเคยชินพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ
คิรินทร์พยักหน้าเนือยๆ “เออ! ตามใจนาย เตือนก็ไม่ฟัง อยากได้เพื่อนกินเหล้าก็เรียกละกัน”
รังสฤษฏ์บุ้ยปากไปทางตะกร้าที่รุ่นพี่วางไว้ข้างตัว “รู้ ไหมฮะ ผมกับมุกกำลังคิดว่า...พี่คีน่าจะหาเวลาถามตัวเองอย่างจริงจังได้แล้วนะ ว่าพี่คิดยังไงกับคุณแพนกันแน่ ก่อนหน้านี้ผมพอจะเดาได้ว่าพี่แค่สงสารที่เธอถูกเกรซข่มตลอด แต่...ระยะหลังมานี้ที่พี่ไม่แวะไปหาคุณแพนเลย แล้วก็เปลี่ยนมาทำท่าอมทุกข์เก็บตัวอยู่อย่างนี้ ผมยังสงสัยอยู่ว่ามีเรื่องอะไรกันแน่ เพิ่งมารู้วันนี้เองว่าพี่ทะเลาะกับคุณแพน มุกบอกว่าพี่คี...เหมือนคนอกหักเลย”
คิริ นทร์อ้ำอึ้งไปเสี้ยววินาที ก่อนจะเฉไฉหัวเราะแห้งๆ แต่กลับส่อพิรุธ “นายกับมุกคิดมากไปแล้ว ฉันกับคุณแพนแค่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก”
หนุ่ม รุ่นน้องยักไหล่พลางหัวเราะเบาๆ “ตอนเกิดเรื่องของพี่กับมุก หรือแม้กระทั่งตอนที่เสียหนูลีไป พี่ยังไม่เคยเก็บตัวทำหน้าตาเป็นทุกข์ขนาดนี้เลย ถ้าพี่จะหลอกตัวเอง อย่างน้อยพี่ก็น่าจะซ่อนท่าทางซึมๆกินอะไรไม่อร่อยแบบนี้ให้หมดด้วย เพราะตอนนี้ผม มุก คุณแม่ หรือแม้แต่เล็ก ทุกคนต่างก็ปักใจเชื่อกันหมดแล้วว่าพี่ไม่ได้คิดกับคุณแพนแค่เพื่อน”
คิรินทร์ชี้ไปทางประตูกระจกที่เปิดกว้างเพื่อระบายอากาศแล้วออกปากกลบเกลื่อน “ฉันว่านายกลับไปดีกว่าฤทธิ์ อย่ามาเดาอะไรมั่วๆที่นี่เลย ฉันจะทำงานต่อ”
ผู้เป็นแขกยอมออกจากเรือนริมสระแต่โดยดี ทว่าก่อนไป ชายหนุ่มก็ตะโกนล้อเลียนลอยมาตามลม “แน่ใจเหรอว่าจะทำงานน่ะ ผมนึกว่าพี่จะหยิบโทรศัพท์มาโทร.หาใครซะอีก”
/ / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / /
เนื่องจากตอนที่ 16 ค่อนข้างยาว (มี 6 ฉาก)
สิริณจึงต้องทยอยตัดมาลงเป็น 3 ช่วงนะคะ
เพราะลงนิยายไว้หลายเว็บ
บางเว็บมีข้อจำกัดว่าแต่ละตอนยาวได้ไม่เกิน ห้าหมื่นตัวอักษร
เลยขอตัดลงเท่ากันทุกแห่ง
เพื่อให้สะดวกและไม่สับสนน่ะค่ะ ^^
สำหรับผู้ที่ไปร่วมสนุกกับกิจกรรมที่เพจของสิริณไว้
www.facebook.com/SirinFC
ตอนนี้ประกาศผลแล้วนะคะ
อย่าลืมแวะไปเช็คชื่อ ว่าคุณเป็นผู้โชคดีหรือเปล่า
ไม่รายงานตัว ถือว่าสละสิทธิ์นะเออ :D
เสียง เคาะประตูเบาๆดังขึ้นพร้อมกับที่สุภัทรชาก้าวเข้ามาภายใน เจ้าของห้องรีบปล่อยสร้อยให้ห้อยดังเดิม แล้วขยับจากที่นั่งเอนพิงพนักอย่างสิ้นแรงมาวางมือประสานกันบนโต๊ะเป็นทาง การแทน ปรับสีหน้าเหนื่อยอ่อนให้ดูดุขรึมทรงอำนาจมากที่สุด
“แพน...ว่างไหม เกรซมีเรื่องจะมาปรึกษา” สุภัทรชาเอ่ยเศร้าๆ หน้าตาอิดโรยอมทุกข์ชัดเจน
“วันนี้จะมาไม้ไหนอีกเหรอ” พรนางฟ้าไม่ห้ามความคิดตัวเอง
“ไม่ ได้มาไม้ไหนทั้งนั้นแหละ เราอยากขอโทษแพนที่ทำตัวไม่ดีเมื่ออาทิตย์ก่อน” สุภัทรชานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “เกรซยอมรับนะว่าโกรธที่แพนได้เป็นผู้อำนวยการ มันข้ามหน้าข้ามตาเกรซ ทำให้เกรซเสียหน้า ยิ่งแพนสั่งงาน เกรซก็ยิ่งไม่พอใจ พอพี่พัทธ์เข้าข้าง ก็เลยออกอาการมากไปนิดนึง ยกโทษให้เราด้วยเถอะนะ”
“บอกตรงๆว่าเดี๋ยวนี้เกรซลูกเล่นเยอะจนเราไม่รู้เลยจริงๆว่าเชื่ออันไหนได้บ้าง”
สุ ภัทรชาชะงักงันไปเล็กน้อย แต่แล้วก็ปล่อยน้ำตาหยาดลงมา เอ่ยปนเสียงสะอื้น “เราก็ยังเป็นเพื่อนแพนคนเดิมนั่นแหละ เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมาเราเสียศูนย์ไปบ้าง เป็นใครก็ต้องรับมือไม่ถูกกันทั้งนั้นละ อยู่ดีๆลูกน้องก็กลับตาลปัตรมาเป็นเจ้านาย แต่ตอนนี้เราเข้าใจทุกอย่างแล้วนะ เรารู้แล้วว่าต่อให้เราอคติหรือต่อต้านแพนยังไง ก็ไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ ก็แล้วทำไมเราจะต้องทำตัวเป็นศัตรูกับแพนล่ะ ยังไงซะเราก็เป็นเพื่อนกัน สู้เราช่วยกันทำงานให้บริษัทก้าวหน้าดีกว่า เผื่อวันไหนที่แพนก้าวหน้าขึ้นไปคุมฝ่ายออกแบบของภูมิภาค เกรซอาจได้เลื่อนขั้นขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งของแพนบ้างยังไงล่ะ”
พรนางฟ้ามีสีหน้าหลากใจ “นี่เกรซพูดจริงเหรอ”
“จริง สิ แพนยังไม่ต้องเชื่อเกรซตอนนี้ก็ได้ เกรซจะค่อยๆพิสูจน์ให้แพนดูเอง ว่าต้องการความเป็นเพื่อนของเรากลับคืนมาจริงๆ หวังว่าจะมีสักวันที่แพนหายโกรธ แล้วก็ยอมรับความเป็นเพื่อนของเราอีกครั้ง”
“คงมีสักวัน แต่ไม่ใช่ในเร็วๆนี้แน่” พรนางฟ้าตอบทันควัน “ถ้าเกรซไม่มีธุระอะไรแล้วก็เชิญนะ เรามีงานต้องทำอีกเยอะ”
สุ ภัทรชาถอนหายใจ ตัดใจเลื่อนแฟ้มหนึ่งไปตรงหน้าพร้อมกับอธิบาย “โรงแรมบุลินธารที่เชียงรายกำลังจะจัดงานไทยเฮิร์บ และต้องการระบบถ่ายทอดสดในงาน เกรซวาดแผนผังระบบมาแล้ว อยากรบกวนให้แพนช่วยดูให้อีกทีว่ามีอะไรที่ต้องปรับปรุงไหม”
“อ้อ...สุดท้ายก็แสดงธาตุแท้ออกมาจนได้ ที่มาขอโทษเราเนี่ย ก็เพราะจะให้เราช่วยเรื่องงานนี่เอง”
“ไม่ ใช่นะ” สุภัทรชารีบแย้ง “ถ้าจะให้ช่วยเรื่องงาน พนักงานในแผนกมีเยอะแยะ หรือให้พี่พัทธ์ช่วยดูก็ได้ แต่ที่เกรซเอามาให้แพนดู ก็เพราะอยากให้แพนรู้ว่าเกรซเชื่อมั่นในความสามารถของแพน และพร้อมรับฟังคำแนะนำของแพนต่างหาก”
พร นางฟ้าไม่เอ่ยอะไร แต่หยิบแผ่นภาพที่วาดผังการเชื่อมต่อระบบไอทีที่เพื่อนออกแบบมาดู เธอชี้จุดเครื่องขยายสัญญาณ ถามรายละเอียดเรื่องพื้นที่อย่างละเอียด และลงท้ายด้วยการแสดงความเห็น
สุ ภัทรชาจดยิกๆใส่สมุด “ขอบใจมากนะแพน แพนเป็นคนรอบคอบจริงๆ เกรซเคยพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมแฟรงค์ถึงเลือกแพนเป็นผอ. ตอนนี้เกรซได้คำตอบแล้วละ”
“รู้ช้าไปมากเลยนะ” พรนางฟ้าคิดดังๆ “นอกจากเรื่องที่โรงแรมบุลินธารแล้ว มีอะไรอีกหรือเปล่า”
“แพน ทำโครงการเอ็ดดูเทนเม้นต์คอมเพลกซ์เสร็จหรือยัง พรุ่งนี้จะยื่นซองแล้วนะ ถ้ามีอะไรที่เกรซพอจะช่วยได้ก็สั่งมาเลย เกรซยินดี” อีกฝ่ายกระตือรือร้นจน...ผิดตา!
“ไม่ต้องรบกวนเกรซหรอก เราจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วละ ตอนนี้ญาดาทำสำเนาเอกสารทั้งหมดพร้อมแล้ว รอแสดงความยินดีก็พอ”
สุภัทรชาหน้าเสีย “แพนก็ยังไม่ไว้ใจเกรซอยู่ดี”
พร นางฟ้าสบตาเพื่อนเพื่อเสาะหาความจริงใจ ต้องเป็นอุปาทานแน่ๆที่เธอสังเกตเห็นรัศมีสีส้มเจิดจ้าแผ่จากตัวสุภัทรชา อากาศในห้องร้อนฉ่าเพิ่มองศาสูงขึ้นรวดเร็วจนเธอขนลุกเกรียว ทว่าเพียงพรนางฟ้ากะพริบตาครั้งเดียว ทุกสิ่งก็ปลาสนาการหายวับไปในอากาศ!
“เอ๊ะ!” พรนางฟ้าอุทาน รีบกำสร้อยผีเสื้อสีเพลิงเจิดจ้า ลูบปลายนิ้วโป้งไปบนนั้นเพื่อประโลมตนและดูดซับความอุ่นใจกลับคืนมา และนั่นเป็นครั้งแรกที่พรนางฟ้าเพิ่งรู้ตัวว่ามีบางอย่าง...แปลกไป
หญิง สาวกดสร้อยแนบลงที่หน้าอกเบื้องซ้าย แต่กลับไม่รู้สึกถึงแรงสะเทือนแม้เพียงน้อยนิดทั้งที่มันควรโหมกระหน่ำเพราะ ความตกใจเมื่อครู่ ทว่าเธอกลับสัมผัสถึงความเงียบงันจนน่าขนลุก มัน...ราวกับว่าหัวใจเธอหยุดเต้นไปแล้วกระนั้น!
“ถ้า ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว เกรซก็กลับไปทำงานเถอะ” พรนางฟ้าตะกุกตะกักบอกทั้งที่ยังตระหนก เธอกำสร้อยแน่น สีหน้ากังวล “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ จี้ผีเสื้อทำให้เป็นแบบนี้เหรอ”
พร นางฟ้ามัวแต่ตระหนกไม่ทันสังเกตว่าอีกฝ่ายยังไม่ออกจากห้อง ทั้งยังหูผึ่ง มองมาที่เธอด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น จวบจนกระทั่งอินเตอร์คอมที่โต๊ะพรนางฟ้ามีไฟสีแดงกะพริบวาบ หญิงสาวจึงได้สติ เงยขึ้นมองเพื่อนอย่างฉงนฉาย “อ้าว...ทำไมยังไม่ไปอีก”
“โอ๊ะ! โทษที เกรซเห็นแพนหน้าตาไม่ค่อยดี เลยเป็นห่วงน่ะ”
หญิง สาวปล่อยจี้ผีเสื้อห้อยดังเดิม จากนั้นโบกมือไว้อำนาจ “ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก” เธอคอยจนสุภัทรชาออกจากห้องไปแล้ว จึงช้อนจี้หินสีเพลิงไว้ในมือเลื่อนขึ้นมาระดับสายตา เธอมองผีเสื้อค่อยๆกระพือปีกช้าๆด้วยความสนเท่ห์ ดวงตาสีน้ำตาลจ้องแน่วนิ่งอยู่ที่ผีเสื้อซึ่งพยายามบินหนีให้พ้นจากกรอบทอง สีชมพูราวกำลังไขว่คว้าหาอิสรภาพ แวบหนึ่งที่พรนางฟ้าเอาใจช่วย ให้กรอบนั้นฉีกขาดเพื่อให้ผีเสื้อบินหนีออกไปได้พ้น
เสียงกรีด ก้องกังวานในแก้วหูปลุกให้หญิงสาวสะดุ้งโหยง ทุกสิ่งที่อยู่ในใจก่อนหน้าปลิววับหายไปรวดเร็ว ดวงไฟสีแดงเล็กๆที่อินเตอร์คอมกะพริบซ้ำๆ เธอจึงกดปุ่มฟังคำรายงานที่แจ้งว่า
“มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารอพบคุณแพนอยู่ที่ล็อบบี้ค่ะ ดาจัดให้คอยที่ห้องประชุมเฟื่องฟ้านะคะ”
“ตำรวจ มาทำไม” หญิงสาวลุกขึ้นอย่างห่อเหี่ยว แวบหนึ่งที่เผลอภาวนา “หวังว่าคงไม่ใช่มาแจ้งว่าจับคิรินทร์ได้แล้ว และจะให้เราไปชี้ตัวคนร้ายกับตรวจสอบรายการของที่หายไปจากของกลางที่ตำรวจ ยึดได้หรอกนะ!”
สุ ภัทรชาซึ่งยืนแอบอยู่หน้าประตูห้องรีบเดินแกมวิ่งกลับไปที่ห้องส่วนตัวข้างๆ กัน เธอมองตามหลังเพื่อนสนิทไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “สร้อยนั่น! ต้องมีอะไรแปลกๆเกี่ยวกับสร้อยที่แพนสวมอยู่แน่ๆ”
หญิง สาวนึกย้อนถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นับจากวันที่พรนางฟ้าก้าวขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่าย เธอเห็นเพื่อนสวมสร้อยเส้นนั้นติดคอตลอด
บางทีการที่พรนางฟ้ามีบุคลิกแปลกตาไปอาจไม่ใช่เรื่องปกติ และคำตอบอาจอยู่ที่สร้อยเส้นนั้นก็ได้!
เรือนริมสระแยกออกจากตึกใหญ่มาอยู่ค่อนข้างโดดเดี่ยวในสวนหลังบ้าน ตัวเรือนอยู่ตรงปลายด้านหนึ่งของสระว่ายน้ำ ก่อเป็นอาคารชั้นเดียวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาที่ล้ำออกมาจากตัวเรือนช่วยกำบังแดดได้เป็นอย่างดี เมื่อก้าวเข้ามาภายในจะพบสตูดิโอวาดภาพขนาดย่อม ตกแต่งด้วยโทนขาวประดับต้นไม้เขียว มีชิงช้าผูกโซ่ไว้บนคานแข็งแรงลาดด้วยหมอนหลากสี พื้นบางส่วนปูหินโรยกรวด บางตอนยกพื้นสูงขึ้นเป็นพื้นไม้ กำแพงเจาะบานเกล็ดเปิดให้ลมโกรก บัดนี้ผนังด้านหนึ่งมีขาตั้งกางออกวางผืนผ้าใบ โต๊ะไม้ขนาดเล็กถูกลากมาข้างๆ เพื่อวางอุปกรณ์วาดภาพของผู้ยึดครองเรือนริมสระเป็นนิวาสสถานชั่วคราว
คิรินทร์นั่งบนเก้าอี้ไร้พนัก มือซ้ายถือจานสี มือขวาจับพู่กันตวัดบนภาพด้วยความคล่องแคล่ว กลิ่นน้ำมันผสมสีกรุ่นฟุ้งอยู่ในอากาศ
รัง สฤษฏ์ต้องฝ่าสาวใช้หลายคนกว่าจะบุกมาถึงที่พักใหม่ของหนุ่มรุ่นพี่ เขาเคาะกระจกให้สัญญาณครั้งเดียว แล้วจึงก้าวเข้ามาภายใน ยื่นของที่ถือติดมือไปตรงหน้าคิรินทร์ “มีคนฝากผมเอานี่มาให้พี่ครับ”
‘นี่’ ที่ ว่าก็คือตระกร้าบุนวมสีเลือดหมูบรรจุกระดาษโพสต์อิทหลากสีโปรยพูนจนเต็ม คิรินทร์วางจานสีพู่กันไว้บนโต๊ะ หันไปรับของจากมือหนุ่มรุ่นน้อง หยิบกระดาษขึ้นมาพิจารณาจึงพบว่าทุกใบเขียนข้อความด้วยลายมือเดียวกันหมด ใจความสั้นๆแต่ทำให้คนมองเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
ฉันขอโทษ - I’m Sorry - Je suis désolé - Es tut mir leid - Lo siento ทั้งภาษาไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สแปนิช และอีกสารพัดภาษาบนโลกอันมีความหมายเดียวกับคำขอโทษเท่าที่คนทำจะสรรหาได้
คิริ นทร์หันไปมองหนุ่มรุ่นน้อง ก็เห็นอีกฝ่ายจับสังเกตเขาอยู่อย่างละเอียด ความที่ร้อนตัวว่าสีหน้าเขาอาจแสดงความพอใจออกไปมากเกินจำเป็น คิรินทร์จึงกลบเกลื่อนด้วยการทำเสียงดัง “มองอะไร”
รัง สฤษฏ์อมยิ้ม ส่ายหน้าพลางส่งซองจดหมายแบบที่ใช้ในสำนักงานมาให้ ภายในบรรจุโพสต์อิทขนาดใหญ่พิเศษสีชมพูบาดตาสอดอยู่ เขาดึงออกอ่านข้อความที่แนบมาด้วย...
กู เกิ้ลมีคำขอโทษหนึ่งร้อยสามสิบภาษา และฉันก็ยืมเขามาหมดแล้ว คำเดียวที่ไม่ได้ลอกใครมา แต่เป็นคำที่ฉันตั้งใจจะบอกคุณก็คือ...ฉันขอโทษ ขอโทษที่เข้าใจผิด ขอโทษที่กล่าวหาคุณแบบนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมฟังคำอธิบาย และเหนืออื่นใดทั้งหมด ฉันขอโทษที่ไม่กล้ามาขอโทษคุณด้วยตัวเอง - พรนางฟ้า
แม้ไม่ระบุชื่อผู้รับ แต่ถ้อยคำและเนื้อหาทั้งหมดบอกให้รู้ว่าเธอเจตนาส่งมันมาให้เขา
คิริ นทร์พบว่าวินาทีนั้นเขารู้สึกปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก ประการแรกความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ประการถัดมาเขาพบว่าตัวเองนึกชื่นชมพรนางฟ้า โดยเฉพาะที่เธอรู้จักยอมรับความผิดของตัวเอง แถมยังกล้าลดทิฐิและเป็นฝ่ายออกปากขอโทษ! อยากรู้นักว่าพรนางฟ้าต้องใช้ความกล้าหาญมากแค่ไหน ในการยอมรับความจริงว่าเธอไม่ได้ทำทุกสิ่งในชีวิตถูกต้องไปหมด
คิรินทร์หันไปทางผู้มาเยือน “ขอบใจมากฤทธิ์ เลยต้องลำบากนายไปด้วย”
“ไม่ลำบากหรอกฮะ แม่สั่งผมเอาของไปให้เกรซที่ออฟฟิศ เจอคุณแพนพอดี เธอเลยฝากผมมาด้วย”
“นายยังไม่เลิกคิดเรื่องยายผู้หญิงหัวสูงคนนั้นอีกเหรอวะ” คิรินทร์วางตะกร้าลงข้างขาตั้งอย่างเบามือ แล้วหันกลับมาทางหนุ่มรุ่นน้อง
“ถ้าคนเรามันทำใจไม่ให้ชอบใครสักคนได้ง่ายๆก็ดีน่ะสิ” เขาเฉไฉ แต่ถ้าฟังดีๆจะรู้ว่าเขาตอบคำถามของอีกฝ่ายแล้ว “ล่าสุดนี่...ผมเห็นเขาควงอยู่กับพี่ภู พี่รู้หรือยัง”
“เฮ้ย! จริงเหรอ ไม่เห็นภูพูดอะไรให้ฟังเลย” คิรินทร์มีสีหน้าหลากใจ
“ดูท่าคราวนี้คงจะเอาจริง เห็นอยู่ด้วยกันตั้งหลายหนแล้ว” รังสฤษฏ์เปรยเรื่อยๆ
“นายโอเคหรือเปล่า” คนอายุมากกว่าเป็นห่วง
“ถ้า ถามจริงๆก็ไม่โอเคหรอก กึ่งนึงก็อดห่วงเขาไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าพี่ภูจริงใจกับเกรซหรือเปล่า ถ้าพี่ภูไม่คิดหลอกลวง แต่ตั้งใจลงเอยกัน มันก็อาจช่วยให้ผมตื่นจากฝันแล้วกลับมาอยู่กับความเป็นจริงได้สักที”
คิรินทร์ถอนใจ “ถาม จริงนะฤทธิ์ แกรักอะไรผู้หญิงคนนั้นนักหนาวะ โอเค...ยายนั่นสวยเพอร์เฟ็กต์ แต่นิสัยไม่ได้เรื่องเลย เหยียดคนเป็นที่หนึ่ง ตัดสินคนจากภายนอก แถมยังเอาแต่ใจอย่างไม่มีเหตุผลอีกด้วย”
“พี่ อาจจะคิดว่าผมน่าสมเพช แต่ความรักมันไม่มีเหตุผลไม่ใช่เหรอ บางที...ผมก็อยากให้ตัวเองมีเหตุผลดีๆที่ชอบเกรซเหมือนกัน มันอาจจะช่วยให้อะไรๆง่ายขึ้น แต่อาจเพราะผู้หญิงคนนี้เป็นแบบนี้ก็ได้ที่ทำให้ผมชอบเขา ผมรู้ว่าพี่ห่วง แต่ผมโอเคจริงๆ รับรองว่าวันไหนที่เกรซประกาศลงเอยกับพี่ภู ผมจะไม่ฆ่าตัวตาย ตกลงไหมฮะ” รังสฤษฏ์ขยับขาแว่นด้วยความเคยชินพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ
คิรินทร์พยักหน้าเนือยๆ “เออ! ตามใจนาย เตือนก็ไม่ฟัง อยากได้เพื่อนกินเหล้าก็เรียกละกัน”
รังสฤษฏ์บุ้ยปากไปทางตะกร้าที่รุ่นพี่วางไว้ข้างตัว “รู้ ไหมฮะ ผมกับมุกกำลังคิดว่า...พี่คีน่าจะหาเวลาถามตัวเองอย่างจริงจังได้แล้วนะ ว่าพี่คิดยังไงกับคุณแพนกันแน่ ก่อนหน้านี้ผมพอจะเดาได้ว่าพี่แค่สงสารที่เธอถูกเกรซข่มตลอด แต่...ระยะหลังมานี้ที่พี่ไม่แวะไปหาคุณแพนเลย แล้วก็เปลี่ยนมาทำท่าอมทุกข์เก็บตัวอยู่อย่างนี้ ผมยังสงสัยอยู่ว่ามีเรื่องอะไรกันแน่ เพิ่งมารู้วันนี้เองว่าพี่ทะเลาะกับคุณแพน มุกบอกว่าพี่คี...เหมือนคนอกหักเลย”
คิริ นทร์อ้ำอึ้งไปเสี้ยววินาที ก่อนจะเฉไฉหัวเราะแห้งๆ แต่กลับส่อพิรุธ “นายกับมุกคิดมากไปแล้ว ฉันกับคุณแพนแค่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก”
หนุ่ม รุ่นน้องยักไหล่พลางหัวเราะเบาๆ “ตอนเกิดเรื่องของพี่กับมุก หรือแม้กระทั่งตอนที่เสียหนูลีไป พี่ยังไม่เคยเก็บตัวทำหน้าตาเป็นทุกข์ขนาดนี้เลย ถ้าพี่จะหลอกตัวเอง อย่างน้อยพี่ก็น่าจะซ่อนท่าทางซึมๆกินอะไรไม่อร่อยแบบนี้ให้หมดด้วย เพราะตอนนี้ผม มุก คุณแม่ หรือแม้แต่เล็ก ทุกคนต่างก็ปักใจเชื่อกันหมดแล้วว่าพี่ไม่ได้คิดกับคุณแพนแค่เพื่อน”
คิรินทร์ชี้ไปทางประตูกระจกที่เปิดกว้างเพื่อระบายอากาศแล้วออกปากกลบเกลื่อน “ฉันว่านายกลับไปดีกว่าฤทธิ์ อย่ามาเดาอะไรมั่วๆที่นี่เลย ฉันจะทำงานต่อ”
ผู้เป็นแขกยอมออกจากเรือนริมสระแต่โดยดี ทว่าก่อนไป ชายหนุ่มก็ตะโกนล้อเลียนลอยมาตามลม “แน่ใจเหรอว่าจะทำงานน่ะ ผมนึกว่าพี่จะหยิบโทรศัพท์มาโทร.หาใครซะอีก”
/ / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / /
เนื่องจากตอนที่ 16 ค่อนข้างยาว (มี 6 ฉาก)
สิริณจึงต้องทยอยตัดมาลงเป็น 3 ช่วงนะคะ
เพราะลงนิยายไว้หลายเว็บ
บางเว็บมีข้อจำกัดว่าแต่ละตอนยาวได้ไม่เกิน ห้าหมื่นตัวอักษร
เลยขอตัดลงเท่ากันทุกแห่ง
เพื่อให้สะดวกและไม่สับสนน่ะค่ะ ^^
สำหรับผู้ที่ไปร่วมสนุกกับกิจกรรมที่เพจของสิริณไว้
www.facebook.com/SirinFC
ตอนนี้ประกาศผลแล้วนะคะ
อย่าลืมแวะไปเช็คชื่อ ว่าคุณเป็นผู้โชคดีหรือเปล่า
ไม่รายงานตัว ถือว่าสละสิทธิ์นะเออ :D
![](/images/icons/guest.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ต.ค. 2556, 08:40:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2556, 08:40:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 1429
<< ตอนที่ ๑๖ (ครึ่งแรก) // แจกหนังสือ 3 เล่ม วันสุดท้าย | ตอนที่ ๑๖ (จบตอน) >> |
![](/images/icons/guest.jpg)
malida 5 ต.ค. 2556, 08:57:48 น.
ไปมาแว้วว แระก็อดไปแว้วววววว หุหุ
ไปมาแว้วว แระก็อดไปแว้วววววว หุหุ
![](/images/icons/guest.jpg)
พันธุ์แตงกวา 5 ต.ค. 2556, 11:03:51 น.
เย้ คุณใหญ่พ้นมลทิน แต่คุณฤทธิ์ยังไม่ตาสว่าง นิสัยแบบนั้นยังมีคนรักจริงอีกแฮะ
เย้ คุณใหญ่พ้นมลทิน แต่คุณฤทธิ์ยังไม่ตาสว่าง นิสัยแบบนั้นยังมีคนรักจริงอีกแฮะ
![](/images/icons/3829.jpg)
Sukhumvit66 5 ต.ค. 2556, 11:06:45 น.
ดีใจกับผู้โชคดีด้วยนะคะ
ดีใจกับผู้โชคดีด้วยนะคะ
![](/images/icons/4578.jpg)
นักอ่านเหนียวหนึบ 5 ต.ค. 2556, 13:08:27 น.
อร๊ายยยยยย แสนล้านคำขอโทษจากทั่วโลก ยังไม่เท่า ขอโทษ คำเดียวที่มาจากใจ
กิ้ดๆๆๆๆ ขอฟินกะโมเม้น นี้ แป้บ!!!!!
ชอบจังๆๆๆๆ ชอบพรนางฟ้ามากกก ต่อให้นางจะทำตัวร้ายแค่ไหน แต่คนข้างกายนางก็ยังรับรู้ได้ว่านางเป็นคนดี
อิอิ ลุ้นๆ ผีเสื้อจะได้โบยบินไหม อะไรจะเกิดขึ้น!!!
อร๊ายยยยยย แสนล้านคำขอโทษจากทั่วโลก ยังไม่เท่า ขอโทษ คำเดียวที่มาจากใจ
กิ้ดๆๆๆๆ ขอฟินกะโมเม้น นี้ แป้บ!!!!!
ชอบจังๆๆๆๆ ชอบพรนางฟ้ามากกก ต่อให้นางจะทำตัวร้ายแค่ไหน แต่คนข้างกายนางก็ยังรับรู้ได้ว่านางเป็นคนดี
อิอิ ลุ้นๆ ผีเสื้อจะได้โบยบินไหม อะไรจะเกิดขึ้น!!!
![](/images/icons/guest.jpg)
ree 5 ต.ค. 2556, 14:47:46 น.
ถ้าผีเสื้อกลับมามีชีวิต บินหนีไป แพนจะได้รู้สักที ว่าทุกการกระทำที่เกิดขึ้น เกิดจากตัวแพนเอง ไม่ควรไปโทษหินนะเออ
ถ้าผีเสื้อกลับมามีชีวิต บินหนีไป แพนจะได้รู้สักที ว่าทุกการกระทำที่เกิดขึ้น เกิดจากตัวแพนเอง ไม่ควรไปโทษหินนะเออ
![](/images/icons/29.jpg)
konhin 5 ต.ค. 2556, 17:11:35 น.
โอ้ เอาหล่ะซิ ผีเสื้อจะไปไหน
โอ้ เอาหล่ะซิ ผีเสื้อจะไปไหน
![](/images/icons/187.jpg)
จิรารัตน์ 7 ต.ค. 2556, 13:10:19 น.
มัวแต่เสียจายยยยยยไม่ได้รางวัล เลยเพิ่งมาอ่าน![](/images/emo/kiki.gif)
ทำไมเกรซเป็นสีนั้นล่ะ อย่างฤทธิ์ไม่เรียกงมงายกับความรักหรอกค่ะ เรียก "ตกหลุมแถมโดนใบไม้บังมิด" ด้วย
มัวแต่เสียจายยยยยยไม่ได้รางวัล เลยเพิ่งมาอ่าน
![](/images/emo/kiki.gif)
ทำไมเกรซเป็นสีนั้นล่ะ อย่างฤทธิ์ไม่เรียกงมงายกับความรักหรอกค่ะ เรียก "ตกหลุมแถมโดนใบไม้บังมิด" ด้วย
![](/images/icons/guest.jpg)
ketza 7 ต.ค. 2556, 15:39:17 น.
ชอบๆๆๆ นางเอกขอโทษได้น่ารักมากๆค่ะ ไรเตอร์เขียนฉากพรนางฟ้าขอโทษคิรินทร์ได้น่ารักมากเลย ชอบมุขนี้สุดๆ เหมาะกับพรนางฟ้าเวอร์ชั่นใหม่มากๆ 555
ชอบๆๆๆ นางเอกขอโทษได้น่ารักมากๆค่ะ ไรเตอร์เขียนฉากพรนางฟ้าขอโทษคิรินทร์ได้น่ารักมากเลย ชอบมุขนี้สุดๆ เหมาะกับพรนางฟ้าเวอร์ชั่นใหม่มากๆ 555