จะเก็บไว้ในใจจนนิรันดร์
ถ้าไม่มีงานสัมมนานั้นอังศุมาลินคงไม่นึกถึงเขาคนนั้นอีก ทั้ง ๆ ที่หลายปีที่ผ่านมาเธอลืมเขาไปแล้วแท้ ๆ เขาที่เธอแอบรักมาตั้งแต่เรียนมัธยม เขาที่ไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง และเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
Tags: รักสามเศร้า / สับสน / วุ่นวาย

ตอน: ตอนที่ 20 กามเทพจำเป็น

20 กามเทพจำเป็น

พอท้องเข้าเดือนที่หก อังศุมาลินก็หายแพ้ท้องไปโดยไม่รู้ตัว กองถ่ายละครก็เลี้ยงปิดกล้องไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย อังศุมาลินเสียดายอยู่อย่างเดียวคือจะไม่ได้เจอหน้าคัมภีร์อีก ยิ่งเห็นเขาโลดแล่นอยู่ในจอทีวี เธอก็พาจะคิดว่าช่วงที่ผ่านมาคือความฝัน

“ดูเข้าไป ข้าวปลาไม่หิวบ้างรึไง ไม่หอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กับเขาเลยล่ะ”พัฒนากรบ่นเหมือนตาแก่เข้าไปทุกวัน และดูเหมือนว่าอาการแพ้ท้องมันจะมาตกอยู่ที่พัฒนากรเสียแล้ว ช่วงครึ่งเดือนหลังมานี่เขาดูเหวี่ยงไปเสียทุกสิ่ง สากเบือยันเรือรบเลยก็ว่าได้

ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เข้าหน้าไม่ติด เจ้านายยันลูกน้องถ้าใครทำไม่ถูกใจก็จะโดนไปตาม ๆ กัน จนคนในบริษัทที่เกี่ยงข้องกับแผนกที่ชายหนุ่มรับผิดชอบต้องหวาดผวากันหมด

วันนี้เขาไปตัดผมมาแล้ว หล่อเนี้ยบเหมือนเดิมหัวจรดปลายเท้า จนมีสาว ๆ หลายคนมองเหลียวหลังกันเลยทีเดียว

“ไปถูกก็ไปแล้วไม่มานั่งฟังเธอบ่นหรอก”แม้จะรู้ว่าพูดไปแล้วจะต้องเถียงกัน แต่อังศุมาลินก็ชอบที่จะแหย่หนวดเสือ “อย่างอนเป็นตุ๊ดไปเลยน่า โตจนเป็นพ่อคนแล้ว อุ๊ ลูกดิ้นใหญ่เลย”

“ไหน ๆ จริงด้วยดูสิลูกกำลังแตะมือกับเราด้วย”

“แต่รู้สึกว่านั้นคือเท้านะ”

“เหรอ ช่างเหอะ ๆ”

แล้วพ่อลูกก็หยอกล้อกันเป็นชั่วโมงจนคนเป็นแม่รู้สึกเจ็บท้องแล้วเจ็บท้องอีก แต่มันก็น้อยกว่าความสุขในเวลานี้มาก


อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนทั้งคืนชายหนุ่มนอนบนพื้นเลยทำให้วันนี้เขาเมื่อยไปทั้งตัว โดยเฉพาะแขนซ้ายที่ภรรยานอนทับก็เหมือนเส้นจะยึด ตอนเช้าก็กินยาแก้ปวดมาแล้ว แต่พอยาหมดฤทธิ์ก็กลับมาปวดต่อ เลยต้องเอ่ยปากขอยาผู้ช่วยสาว

“พารามาแล้วค่ะพี่พีม”วาริกาเอายาและน้ำมาเสิร์ฟ แต่ก็ยังไม่ยอมออกจากห้อง เธอยังคงยืนมองจนพัฒนากรรู้สึกตัว

“มีอะไรอีกรึเปล่า”

“วาช่วยนวดให้ไหมคะ”

พัฒนากรช่างใจอยู่สักครู่ก็พยักหน้า มันช่วยไม่ได้ก็เขาเมื่อยจริง ๆ หญิงสาวยิ้มกว้างเดินตรงมาบีบแขนข้างที่ปวด สายตาก็เฝ้ามองหน้าหล่อ ๆ นั้น

“พี่พีมหล่อมากเลยนะคะวันนี้ ที่บ้านวาบ่นหาพี่พีมกันใหญ่เลยคะ พวกเขาฝากมาถามว่าเมื่อไหร่พี่พีมจะไปที่บ้านอีก โดยเฉพาะเจ้าหมูแฮมบอกว่าการบ้านที่พี่พีมสอนถูกหมดเลย ก็เลยอย่าให้พี่พีมไปสอนอีก”วาริกาอ้างถึงหมูแฮมลูกของพี่ชาย

“ไว้ว่าง ๆ พี่จะไปนะ พอแล้วล่ะขอบใจมาก”ชายหนุ่มตอบอย่างขอไปที วาริกาเลิกนวดแล้วเดินมาเลื่อนเก้าอี้นั่ง ชายหนุ่มมองเธอเพียงนิดเดียวแล้วก้มหน้าทำงานต่อ

วันนี้หญิงสาวเองก็แต่งตัวสวยเหมือนกัน กระโปรงสั้นเลยเข่ามาเป็นคืบ เสื้อสวยก็คอลึกไปถึงร่องอกอิ่ม

“กลิ่นตัวพี่พีมวันนี้ก็หอมมากเลยค่ะ กลิ่นเดียวกันที่ใส่ไปงานเลี้ยงรึเปล่าคะ”

“อืม”

“นั้นไง วาคิดแล้วว่าจำไม่ผิด พี่พีมรู้ไหมคะสาว ๆ ในบริษัทบ่นอิจฉาวากันใหญ่ที่ได้มาเป็นผู้ช่วยพี่พีม คนที่เก่ง และหล่อที่สุดในบริษัทนี้ แต่ช่วงหลัง ๆ มานี้มีคนบอกว่าพี่พีมกำลังตกกระป๋องเพราะมีคุณเอมารับตำแหน่งที่ฝ่ายการตลาด”พอพูดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็ยอมเงยหน้าขึ้นมา วาริกาคิดไว้แล้วว่าเขาต้องสนใจเธอแน่

“พูดถึงฝ่ายการตลาดนัดให้พี่หน่อยนะ พรุ่งนี้เก้าโมงเช้า แล้วส่งเอกสารนี้ไปด้วย อ๋อ...บอกเลขาท่านประทานให้ด้วยว่าพี่ขอพบท่านประทาน ท่านว่างเมื่อไหร่ก็ให้โทรมาบอกได้เลย มองอะไรก็ไปทำตามที่สั่งสิ”

วาริกาสะดุ้งเมื่อรู้ตัวว่าเผลอแสดงอาการมากไป สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้ก็คือการเดินออกมาจากห้องเจ้านาย

“ค่ะ ๆ”



วาริกานึกดีใจที่พัฒนากรกลับมาเป็นหนุ่มหล่อเนี้ยบเหมือนเดิม แถมบรรณิตาก็หายหน้าไปเลยช่วงนี้ จะติดก็แต่ตรงที่ชายหนุ่มขี้โมโหมาก เวลาเข้าไปเสิร์ฟอาหารหรือเครื่องดื่มชายหนุ่มก็เอาแต่ก้มหน้าทำงานไม่ค่อยเงยหน้ามาสบตากับเธอ

หรือบางทีเขาก็จะคุยโทรศัพท์กับอังศุมาลิน ยิ้มจนปากเกือบจะถึงหู ตอนกลางวันอังศุมาลินก็มาส่งปิ่นโตให้ จนชายหนุ่มไม่ได้มานั่งทานข้าวกับเธอนานแล้ว

และที่เธอรำคาญใจที่สุดก็คงจะเป็นนายเอกลักษณ์ เธอมักจะเจอนายคนนี้เวลาอยู่คนเดียวเสมอ แม้ว่าเขาเป็นคนพูดจาดี แต่เสียตรงที่ว่าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าของนายเอกลักษณ์เชยเสียไม่มี แว่นตากรอบหนา แบบฟอร์มของบริษัทที่คนอื่นใส่แล้วดูดีแต่นายนี่ใส่แล้วดูไม่ได้

“ทานข้าวคนเดียวเหรอครับ”

“นายเอกลักษณ์”วาริกาทำหน้าเบ้เหล่ตามองนิดหน่อย แค่คิดนายคนนี้ก็มาปรากฏตัวให้เห็นเสียแล้ว

“ขอนั่งด้วยนะครับ”

“ก็นั่งสิ”วาริกาพูดแบบไม่มองหน้า ตักข้าวกินเร็ว ๆ เธอรู้สึกเหม็นหน้าเอกลักษณ์ทุกครั้งที่เจอ พอกินเสร็จเธอก็ลุกไปไม่ลาสักคำ

“เอ”เสียงใสของผู้หญิงอีกคนตะโกนเรียกมาแต่ไกล วาริกาต้องหันมามองหา

“พี่อิ้ง”อังศุมาลิน นั้นเองที่เป็นเจ้าของเสียง ตอนแรกอังศุมาลินจะเดินมาแต่แล้วก็เดินเลยไป“สงสัยจะมาแสดงเป็นเจ้าของพี่พีม”วาริกานึกแล้วเบ้ปากอย่างหมันไส้



อังศุมาลินบ่นกับตัวเองมาตลอดทางเมื่อเธอจำได้ดีว่าคนที่เธอทักคือน้องที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับ สารินีเพื่อนสนิทของเธอ แต่ทำไมพอเธอทักกับหันหน้าหนี

“ข้าวแสนอร่อยมาส่งแล้วค่ะ”พอถึงห้องสามีก็ทำเสียงสดใสทักทาย “หิวไหมคะที่รัก”

“หิวมาก ไม่รู้ทำไมอยากกินข้าวคุกกะปิอย่างนี้”

พอพัฒนากรรับข้าวมาก็รีบเปิดทานอย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะมะม่วงที่เขาสั่งให้อังศุมาลินใส่มาเยอะ ๆ เนี่ยก็ทานจนเกลี้ยง

“พีมที่นี่มีคนชื่อเอทำงานอยู่ไหม”

“มีหลายคนเลย ถามทำไม”พัฒนากรถามกับอย่างระแวง

“พอดีเจอน่ะ แต่พอทักเขา เขาก็ทำเหมือนไม่รู้จักเรา เด็กคนเนี่ยอยู่หมูบ้านเดียวกับสาไง สาที่มางานหมั่นเราคนสุดท้ายน่ะจำได้ไหม”

“อืม แล้วไงต่อ”

“เราได้ยินมาว่าเขามาเป็นลูกบุญธรรมของเจ้านายเธอ ตอนที่เจอกันครั้งก่อนก็คุยกันดีนะ แต่ทำไมตอนนี้ทำเหมือนไม่รู้จักเรา”อังศุมาลินทำหน้าสงสัย

พัฒนากรนึกได้แล้วล่ะว่าคนที่อังศุมาลินพูดถึงเป็นใครแต่ก็ไม่ค่อยอยากบอกเท่าไหร่เพราะความหมั่นไส้

“แอบไปเจอกันก็ไม่เห็นบอก”

“ที่ไหนกันเหล่า ก็สามากรุงเทพเขาก็ต้องมาหาคนรู้จัก ก็รวมไปถึงเอด้วย เราว่าก็คงจะมีตำแหน่งนะ แต่ทำไมเขาใส่ชุดพนักงานก็ไม่รู้ เห็นนั่งกินข้าวอยู่กับวา เดี๋ยวไปถามวาดีกว่า”

“แน่ใจนะว่าจำคนไม่ผิด”ที่ถามเพราะได้ยินว่านั่งกินข้าวกับวาริกา และใส่ชุดพนักงาน เพราะคนที่อังศุมาลินพูดถึงเป็นผู้บริหารใหม่ของบริษัทเชียวนะ และผู้บริหารในบริษัทส่วนใหญ่ก็จะแยกไปทานอาหารในโรงอาหารพิเศษ ที่พนักงานเงินเดือนธรรมดาไม่มีใครกล้าย่างกายเข้าไป

“แน่ใจสิ เราเพิ่งเจอเขามาได้ไม่นานเองนะ”อังศุมาลินยืนยัน

“คุณเอเขามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดเมื่อเดือนก่อน เขาก็มาทักเราเหมือนกัน เขาจำเราได้น่ะ ไม่น่าเชื่อว่าพ่อเราจะมีลูกศิษย์เป็นผู้บริหาร”

“แหมทีเธอยังเป็นถึงหัวหน้าฝ่ายโครงการได้ แต่ก็ดีเราจะไปหาเอสักหน่อย เราว่านะเด็กนี่คงจะเล่นอะไรอยู่”

พอถามจนรู้ว่าห้องทำงานอยู่ที่ไหนก็เลยจะรีบไปหา แต่ก็เห็นวาริกาเดินกลับมาทำงานก่อน

“สวัสดีค่ะ”และเธอก็ไหว้อังศุมาลิน เหมือนนางงามได้ตำแหน่งใหม่ ๆ “จะกลับแล้วเหรอคะ”

“ยังจ๊ะ ว่าจะไปหาคนรู้จักหน่อย เออ...วันนี้วาไปทานข้าวกับใครมาเหรอ”

“คนในบริษัทนี้แหละค่ะ ชื่อเอกลักษณ์ พี่อิ้งรู้จักเหรอคะ”วาริกาถามกลับ อังศุมาลินรีบส่ายหน้า เธอเคยได้ยินจากนรีว่าพวกพี่บุญธรรมของรุ่นน้องเธอที่เป็นเจ้าของบริษัทนี้คิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน และรุ่นน้องที่เธอรู้จักก็คงเช่นกัน

“พี่ขอตัวนะ”

หญิงสาวรีบเดินหนีตรงมาที่ห้องทำงานของเอ เลขาหน้าห้องรีบเดินเข้ามาขวาง

“เข้าไม่ได้นะคะคุณ ได้นัดกับคุณเอกลักษณ์ไว้รึเปล่าคะ”

“ไปบอกเอให้หน่อยนะคะว่าพี่อิ้งเพื่อนพี่สามาหา บอกเขาว่าถ้าไม่ให้เข้าไปพี่อิ้งคนนี้จะโกรธมาก แล้วไม่รับรองว่าเขาจะไม่เดือดร้อน”อังศุมาลินจัดการฝากคำขู่ไปด้วย เลขาเข้าไปพักเดียวเท่านั้นก็ออกมา

“คุณเอกลักษณ์เชิญด้านในคะ”

“ขอบคุณนะคะ”อังศุมาลินยิ้มหวานก่อนเดินเข้าไปในห้อง สำรวจห้องทำงานที่ตกแต่งด้วยรสนิยมผู้ดี ของทุกอย่างในห้องดูมีราคาไม่น้อย

“เอกลักษณ์ พี่ทักแล้วหันหน้าหนีนี่หมายความว่ายังไง”ทำเสียงดุทันที

“พี่อิ้งมาที่นี่ทำไมครับ แผนผมเกือบแตก”คนผิดรีบต่อว่า

“แผนจีบสาวเหรอ นี่วาน่ะพี่รู้จักนะ”

“จริงเหรอพี่”เอกลักษณ์ดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด อังศุมาลินเห็นแล้วก็นึกอยากแกล้ง

“เมื่อยจัง”เธอแกล้งบ่นเอกลักษณ์ก็รีบเลื่อนเก้าอี้มาให้ “หิวน้ำด้วย”

“คุณอรขอน้ำส้มให้ผมหน่อย”เขาวิ่งไปสั่งเลขาก่อนจะวิ่งกลับมาหาอังศุมาลิน “พี่สนิทกับเธอไหมครับ”

อังศุมาลินกเล่าเรื่องของวาริกาให้รุ่นน้องฟัง ชายหนุ่มแอบผิดหวังที่สาวน่ารักคนนั้นไปชอบคนมีเจ้าของอย่างพัฒนากร

“แล้วเอทำแบบนั้นทำไม บอกพี่เถอะไม่แน่พี่อาจจะช่วยเธอได้นะ”

“ผมชอบเธอครับ แต่ไม่อยากให้เธอรู้ว่าผมเป็นใคร ผมไม่อยากให้เธอชอบผมกลับเพราะเปลือกของผม ที่ผ่านมาผมก็เจอแต่แบบนั้น”

“เลยทำตัวเองให้เป็นคนธรรมดา เป็นพนักงานกินเงินเดือน เดือนละหมื่นว่างั้น เท่าที่พี่รู้นะ วาน่าจะชอบผู้ชายเพอร์เฟค แบบบ้าน ๆ อย่างเราเขาไม่สนหรอก”

“แบบพี่พีมนะเหรอครับ”เจอย้อนกลับอังศุลินทำท่าจะเดินหนี “ล้อเล่นนิดเดียวเอง คนท้องนี่ขี้ใจน้อยเนอะ ว่าแต่พี่อิ้งจะช่วยผมไหมล่ะ บางทีวาริกาจะได้เลิกยุ่งกับพี่พีมก็ได้นะ”

ทั้งคู่ตกลงทำสัญญากันอยู่พักใหญ่ก่อนที่อังศุมาลินขอตัวมาหาสามี ป่านนี้พ่อคุณคงจะดิ้นตายไปแล้ว เธอเล่นหายมาเป็นครึ่งค่อนชั่วโมงแบบนี้

“พี่พีมไปพบท่านประทานแล้วค่ะ”วาริการีบรายงาน อังศุมาลินก็เลยได้ทีหาเรื่องคุย

“วาพักนี้พี่เบบี้ยังมาอยู่ไหม”เธอถามทั้ง ๆ ที่รู้ว่าบรรณิตาไปทำงานกับคุณจอห์นได้สองเดือนแล้ว และงานที่เพิ่งมาเริ่มใหม่นอกประเทศนั้นยุ่งจนไม่มีเวลากระดิกไปไหน

“มาค่ะ นาน ๆ มาที”วาริกาโกหกคำโต

“เหรอ ช่างเธอเถอะยังไงพี่ก็มีวาช่วยเป็นหูเป็นตาให้อยู่แล้วนี่เนอะ”หญิงสาวเหน็บไปอีกหนึ่งดอก “วาพี่ถามอะไรหน่อยสิ วามีแฟนรึยัง”

“ยังค่ะ”วาริกาตอบอย่างไม่เต็มใจนัก

“แล้วชอบผู้ชายแบบไหนล่ะ”วาริกาทำเป็นไม่ได้ยิน แต่มีเหรอที่อังศุมาลินจะยอม “สูง หล่อ ขาว หน้าที่การงานดี หรือ แค่คนธรรมดาติดดินกินข้าวแกงถูก ๆ ได้ แม้จะเชยไปบ้างแต่ก็จริงใจ ชอบแบบไหน”

วาริกาแอบรู้สึกได้ว่าอังศุมาลินกำลังเล่นอะไรบางอย่างอยู่ หรือผู้หญิงคนนี้จะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร แต่ทำไมหล่อนยังจะยิ้มให้คนที่คิดจะตีท้ายครัวตัวเองได้

“ว่าไง... พี่จะบอกข้อดีของสองแบบนี้ให้ฟังนะ แบบหล่อ ก็คือควงแล้วก็ภูมิใจ คนธรรมดา อยู่ด้วยแล้วก็สบายใจ”

“แล้วพี่อิ้งรู้ได้ยังไงคะว่าเราอยู่กับคนธรรมดาแล้วสบายใจ มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้”วาริกาหันมาเถียงซึ่งก็เข้าทางอังศุมาลิน

“จริง ๆ มันก็ไม่แน่หรอก แต่วาลองฟังของเสียของผู้ชายสองแบบนี้ดูก่อนดีกว่า แบบหล่อนะ เขาก็จะติดหรู รักหน้าตัวเอง รวมถึงหน้าที่การงานด้วย แน่นอนดีขนาดนั้นเรื่องผู้หญิงนี่อย่าให้พูดเชียวหัวบันไดไม่แห้ง ต้องคอยตามหึงตามหวง ส่วนคนธรรมดาก็จะหาได้ตามทั่วไป ไม่ได้เป็นที่สะดุดตา ไม่ค่อยมีใครมาสนใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีผู้หญิงดี ๆ สวย ๆ มาชอบหรอก คนพวกนี้อดทนนะ ไม่หยิ่ง ไม่ถือตัว”

“แต่พี่อิ้งก็เลือกแบบแรก แถมยังอดทนอยู่ได้”วาริกาตั้งใจประชด

“ก็ช่วยไม่ได้นี่จ๊ะ ใครใช้ให้ผู้ชายแบบพีมแพ้ทางพี่ล่ะ แล้ววาก็เข้าใจผิดนะ พี่ไม่ได้ทนอยู่ แต่เราอยู่ด้วยกันอย่างสบาย ๆ เลยล่ะ”อังศุมาลินยิ้มแบบไม่ทุกข์ร้อน

“ดูพี่จะมั่นใจนะคะ ไม่คิดว่าพี่พีมจะไม่สบายเหรอคะ ดูอย่างวันนี้สิ พี่พีมบ่นเมื่อยอยู่เลย”

“ก็เอาเอาแขนให้พี่นอนแทนหมอนไงล่ะจ๊ะ อ้อมกอดที่ผู้หญิงคนไหนก็ไม่มีสิทธิ์”คนอายุมากกว่าดูไม่มีท่าทีโกรธ แต่วาริกานี่สิเริ่มจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่

“แล้วพี่อิ้งแน่ใจเหรอคะว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนใช่มัน”

“แน่ใจสิ พีมเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ เขามักจะทำดีกับทุกคน แต่เขาก็ไม่คิดอะไรหรอก มันอาจจะดูเป็นการสกัดดาวรุ่งนะ แต่พี่แค่พูดความจริง อ๋อ...อย่าลืมเรื่องที่พี่พูดนะ บางทีความธรรมดามันก็ซ้อนอะไรบางอย่างไว้นะ”



และคงเป็นโชคดีของอังศุมาลิน หรือ เอกลักษณ์ก็ไม่รู้ เมื่อพัฒนากรบอกว่าที่บ้านของวาริกาชวนเขาไปทานอาหาร อังศุมาลินก็เลยบอกให้สามีตบปากรับคำไปซะ ซึ่งเธอจะได้พาเอกลักษณ์ไปด้วย แต่ดูเหมือนว่าคนบ้านนั้นจะไม่ต้อนรับเธอกับเอกลักษณ์เท่าไหร่นัก

“ยังยิ้มได้อยู่อีก”พัฒนากรพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็คนบ้านนั้นแสดงกิริยาไม่พึงประสงค์ต่อภรรยาเขาเลย พูดนั้นพูดนี้ ยกลูกสาวตัวเองมาข่มอังศุมาลิน และยังบอกว่าเอกลักษณ์เหมาะกับอังศุมาลินด้วยนะสิ

“ไม่เป็นอะไรหรอก เพราะเราไม่คิดว่าจะมาให้เขาชื่นชมเรา เราแค่จะพาเอเข้าบ้านนี้ต่างหาก”

“เอาจริงเหรอ การโกหกมันไม่ดีนะ”

“ใครโกหก เราแค่ไม่ได้บอกในสิ่งที่เขาไม่ได้ถาม ต่อไปนี้ก็ขึ้นอยู่กับเอแล้วล่ะว่าจะทำอะไร เราก็ไม่ได้ไปยุ่งกับเขาแล้ว”

“ก็ดี”

“เพราะเราไม่อยากให้เธอมาหึงเราพร่ำเพื่อไง”

“ใครหึงไม่มี”น้ำเสียงสูงปรี๊ดเลย

อังศุมาลินก็ได้แต่ขำ ไม่ว่าต่อมาพัฒนากรจะพูดอะไร อังศุมาลินก็เอาแต่ขำ ขำจนไม่รู้จะขำยังไง



วันต่อมาพัฒนากรมาทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือเขาไม่คิดจะแวะทักทายวาริกาอย่างเช่นทุกวัน แต่แค่ห้านาทีต่อมาหญิงสาวก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมน้ำส้มคั้น

“พี่พีมคะดื่มน้ำก่อนนะคะ”

“ว่างไว้นั้นแหละขอบใจมาก และทีหลังเคาะประตูด้วย”ชายหนุ่มใช้น้ำเสียงห่างเหินกับผู้ช่วยสาว

“พี่พีมโกรธวา โกรธเรื่องอะไรคะ”วาริการู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที พัฒนากรยอมเงยหน้าขึ้นมองเธอ

“ไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาว่าเมียตัวเองหรอก โดยเฉพาะถ้าผู้ชายคนนั้นรู้ดีว่าเมียตัวเองมีดีมากแค่ไหน”

“แต่ที่แล้วมาวายังไม่เห็นเลยว่าพี่อิ้งมีดีตรงไหน เธอก็แค่คนธรรมดา ไม่เหมาะสมกับพี่พีมสักนิด”วาริกาขึ้นเสียง

“ผมบอกแล้วว่าไม่ชอบให้คนอื่นมาด่าเมียผม”พัฒนากรตะโกนลั่น เขาไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะมีความร้ายกาจแขวงอยู่

“ทำไมพี่พีมบอกว่าวาเป็นคนอื่นล่ะคะ ที่ผ่านมาพี่พีมมาทำตัวสนิทกับวาเองนะคะ แล้วมาบอกว่าวาเป็นคนอื่นเนี่ยนะ”หญิงสาวตัดพ้อทั้ง
น้ำตา

พัฒนากรพูดไม่ออก ที่เธอพูดมานั้นถูกทั้งหมด แต่ที่ทำทั้งหมดก็เพียงแค่เอ็นดูเพื่อนร่วมงานก็เท่านั้น

“คุณวาริกา ผมต้องขอโทษคุณจริง ๆ ที่ทำให้คุณคิดมาก เอาล่ะไปล้างหน้าล้างตาแล้วกลับไปทำงานต่อ”

‘เขามักจะทำดีกับทุกคน แต่เขาก็ไม่คิดอะไรหรอก’

คำพูดของอังศุมาลินนั้นเป็นความจริง วาริกายิ่งสะอื้นหนักแต่ก็ยอมเดินออกจากห้องแต่โดยดี เธอเดินมาหลบร้องให้อยู่ในห้องกาแฟที่มีคนใช้ไม่มากในช่วงเวลานี้ แต่แล้วก็มีมารมาขวางอารมณ์เสียใจเธอจนได้

“วา คุณร้องไห้อยู่เหรอครับ”

เอกลักษณ์มาในคาบพนักงานเชย ๆ อีกครั้ง วาริการีบเช็ดน้ำตาแล้วทำท่าจะเดินหนีแต่ก็ถูกมือหนาจับไว้เสียก่อน

“ปล่อยฉันจะไปทำงาน นายจะไปไหนก็ไป”

“ผมเป็นห่วงคุณนะ คุณมีอะไรก็บอกผมได้นะ ผมพร้อมรับฟัง”น้ำเสียงและสายตาที่ส่งออกมานั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย และอะไรอีกมากมายที่ส่งมา

“คนอย่างนายจะช่วยอะไรฉันได้ นายย้ายงานให้ฉันได้รึเปล่าล่ะ”เธอประชดแต่น้ำเสียงนั้นอ่อนลงมาก แต่ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะหนีไปให้ไกลจากพัฒนากรจริง ๆ

“ทำไม เจ้านายคุณทำอะไรไม่ดีเหรอ”เอกลักษณ์คิดไปไกล หรือว่าพัฒนากรจะข่มเหงเธอคนนี้ หรือเขา เขา...

“เขาดีเกินไปต่างหาก ดีจนฉันห้ามใจตัวเองไว้ไม่ได้ นี่ฉันจะมาตอบคำถามนายทำไม นายจะไปไหนก็ไปเดี๋ยวคนอื่นมาเห็นนายจะเดือดร้อนที่อู้งาน”

“ขอบคุณนะ”

“ขอบคุณอะไรยะ”

“ขอบคุณที่เป็นห่วงผมไง”

ตอนนี้ชายหนุ่มยิ้มอบอุ่นแววตาส่องประกายความหวัง ทำเอาวาริการู้สึกเขินขึ้นมา

“บ้า”



ช่วงบ่ายพัฒนากรเรียกวาริกาเข้าไปในห้องอีกครั้ง ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนให้หญิงสาวซึ่งต่างจากหน้าตาเมื่อช่วงเช้ามาก หญิงสาวเลยรู้สึกดีใจ

“พี่พีมหายโกรธวาแล้วเหรอคะ”

“ครับ ผมมีข่าวดีจะบอกคุณนะวา” แต่พอได้ยินสรรพนามที่เปลี่ยนไปนั้นรอยยิ้มสวย ๆ ก็หมดไป “วาคุณได้ย้ายไปเป็นผู้ช่วยเลขากรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด”

“อะไรนะคะ พี่พีมเกลียดวาขนาดนี้เลยเหรอคะ ทำไมพี่พีมต้องย้ายงานวาด้วย”น้ำตาหญิงสาวหล่นมาอีกครั้ง

“ก็...”พัฒนากรจะบอกว่าวาริกาเป็นคนไปขอร้องเอกลักษณ์เอง แต่นึกได้ว่าเอกลักษณ์ห้ามบอก “พอดีทางนั้นเขาชอบผลงานของคุณ มันก็ดีนะเพราะคุณจะได้มีโอกาสพัฒนาด้วย พรุ่งนี้คุณไปเริ่มงานได้เลย”

วิริกาน้ำตาไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พัฒนากรเองก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ที่ทำให้คนอื่นร้องไห้ แต่นี่มันเป็นทางที่ดีที่สุดของทุกคนแล้ว



อังศุมาลินดีใจมากที่วาริกาย้ายไปเป็นเลขาของเอกลักษณ์แล้ว ภารกิจกามเทพก็สำเร็จไปครึ่งทางแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของเจ้าตัวเองว่าจะจัดการอย่างไร

“ที่ดีใจเนี่ยเป็นเพราะจะไม่มีผู้หญิงน่ารัก ๆ มาอยู่ใกล้ ๆ เราใช่ไหม”

“ใช่ที่ไหน เราดีใจที่เอจะได้มีโอกาสอยู่ใกล้ ๆ วาต่างห่าง”

“ไม่คิดจะหึงเราบ้างเหรอ เรามีเสน่ห์กับผู้หญิงมากเลยอิ้งก็รู้นี่”

“เราเลิกหึงเธอไปนานแล้ว เพราะถ้าเธอจะเจ้าชู้ป่านนี้ลูกคงเต็มบ้าน หลานคงเต็มเมืองไปแล้ว”อังศุมาลินพูดยิ้ม ๆ ก้มหน้าแต่งนิยายต่อ

ชายหนุ่มนั่งมองแล้วยิ้มตาม คนรักกันต้องเป็นแบบนี้แหละรักและเชื่อใจกัน ไม่ว่าปัญหาจะใหญ่แค่ไหน คนสองคนก็จะผ่านมันไปได้ คงจะไม่มีรัก ๆ เลิก ๆ ให้ตามง้อ ตามงอนกันอีกแล้ว





เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ต.ค. 2556, 21:15:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2556, 21:15:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1498





<< 19 ผีเห็นผี   21 ชัดเจน >>
เพียงใจกล้า 5 ต.ค. 2556, 21:20:44 น.
คุณปลาวาฬสีน้ำเงิน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ จะพยายามปรับปรุงนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account