จะเก็บไว้ในใจจนนิรันดร์
ถ้าไม่มีงานสัมมนานั้นอังศุมาลินคงไม่นึกถึงเขาคนนั้นอีก ทั้ง ๆ ที่หลายปีที่ผ่านมาเธอลืมเขาไปแล้วแท้ ๆ เขาที่เธอแอบรักมาตั้งแต่เรียนมัธยม เขาที่ไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง และเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
Tags: รักสามเศร้า / สับสน / วุ่นวาย

ตอน: 21 ชัดเจน

21 ชัดเจน

กลางเดือนสิงหาคม หลังจากการฉลองวันสำคัญของแม่ไปแล้ว อังศุมาลินก็ได้รับรู้ความรู้สึกของคำว่าแม่เต็มตัว เด็กชายตัวจ้ำม่ำได้ลืมตามาดูโลกแล้วหลังจากวันแม้ไม่ถึงชั่วโมง โดยวิธีคลอดธรรมชาติ แม้จะแอบทุลักทุเลไปบ้างเพราะเด็กตัวใหญ่ก็ตาม

“สวัสดีค่ะทุกคน”

ผู้มาเยือนคนใหม่เอ่ยทักทาย นานหลายเดือนแล้วที่เธอไม่ได้โผล่หน้ามาเจอพัฒนากร

บรรยากาศแห่งความสุขหมดลงไปในทันที สายตาหลายคู่ที่จ้องมองผู้มาเยือนนั้นไม่ได้ให้ความเป็นมิตรเอาเสียเลย

“คุณดาไปกันเถอะคะ ฉันว่าห้องนี้มันอึดอัดจริง ๆ ไปกันเถอะคะป้า”

พรรณณีชวนรวีดา และยายของอังสุมาลินออกจากห้องไปแล้ว คราวนี้ก็เหลือแต่คนรุ่นเดียวกันสามคนและเจ้าตัวน้อยที่กำลังหลับปุ๋ย

“พี่เบบี้อย่าคิดมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาเยี่ยม”อังศุมาลินยิ้มให้แล้วก้มหน้าลงไปหอมหน้าผากลูก

“ทำเป็นแม่พระ พีมเมียเธอบวชวันไหนบอกด้วยนะฉันจะไปร่วมอนุโมทนา ลูกน่ารักจังพีม แต่เสียดายจมูกไม่ได้เธอเลย”แต่เหมือนว่าบรรณิตาไม่ได้มีท่าทียินดียินร้ายอะไร

“แต่ลูกผมก็ยังน่ารักอยู่ดี”

“ถ้าเป็นลูกเธอกับฉัน เด็กคงจะออกมาหน้าตาดี ไม่ใช่แค่น่ารักหรอก”

“ไม่เอาน่าเบบี้”พัฒนากรเริ่มไม่สบอารมณ์ แต่เสียงประตูห้องดังมาเสียก่อน และคนที่มาเยี่ยมก็เป็นคนเคยคุ้น (เคย) เมื่อตอนที่ชายหนุ่มรับตำแหน่งใหม่ ๆ นั้นเอง

“ยัยเด็กนี้มาทำไม”บรรณิการกระซิบถามพัฒนากร

“สวัสดีค่ะพี่พีม สวัสดีค่ะพี่อิ้ง สวัสดีค่ะคุณบรรณิตา”วาริกายังคงไหว้อย่างสวยงามตามเคย ที่ดูจะเปลี่ยนไปก็มีแต่ผมที่ยาวจนถึงหลัง ที่ยาวเร็วแบบนี้เพราะเธอไปต่อผมมานั้นเอง “น้องอยู่ด้วย เหมือนทั้งพ่อ ทั้งแม่เลยนะคะ”

“เธอคิดว่าหน้าเด็กจะเหมือนเธอรึไง”บรรณิตาแควะอย่างเคยชิน

“แล้วคุณ...”

“แฮะแฮม...วาผมบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ควรพูดแบบนี้กับผู้ใหญ่”

“เอมาด้วยเหรอ”อังศุมาลินยิ้มทักทาย คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ วันนี้เขามาพร้อมเธอได้ก็แสดงว่าทั้งคู่คงมีความคืบหน้าไปไกล“มาดูลูกพี่สิ เป็นไง”

“น่าเกลียดน่าชังดีครับพี่ ผมล่ะอยากมีสักคน”หนุ่มรุ่นน้อยยิ้มให้กับเด็กน้อยที่หลับตาพริบ

“คุณเอทำไมไปบอกว่าน่าเกลียดล่ะคะ น้องออกจะน่ารัก”วาริกาทำหน้าตกใจ

“ก็ความหมายเดียวกันนั้นแหละ”

“ไม่เหมือนกันสักหน่อย น่ารักก็คือน่ารัก น่าเกลียดก็คือหน้าเกลียด”

“บอกว่าเหมือนก็เหมือนสิ”เกิดสงครามย่อย ๆ ขึ้นเสียแล้ว

“อย่าเถียงกันเลย”อังศุมาลินรีบห้ามเพราะกลัวลูกจะตื่น “วาคงไม่รู้สินะ คนเก่าแก่เขาก็ใช่เรียกกันแบบนี้แหละ เขาว่าผีจะได้เกลียดไม่สนใจลูกเรา เอแต่ที่ว่าอยากมีสักคนเนี่ยไปขอแม่น้องวาเขารึยัง”อังสุมาลินอธิบายและเอ่ยแซวเล่นเอารุ่นน้องสองคนเขินกันใหญ่ ก็คงมีแต่บรรณิตาเท่านั้นแหละที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา

“ไปขอมาแล้วครับพี่ แต่ไม่รู้ว่าคนแถวนี้จะไปทนอยู่บ้านป่ากับผมได้ไหม”

“ทำไมจะไม่ได้ อุ๊ย”วาริการีบตอบก่อนจะรู้ตัวว่าโดนแกล้ง

ในระหว่างที่ทุกคนคุยกันอย่างออกรส บรรณิตาก็รีบร้อนออกจากห้องโดยไม่ได้กล่าวคำลา

“คุณบรรณิตาจะรีบไปไหนไม่ลาสักคำ”วาริกาพูดไล่หลัง มองคนที่เดินออกไปอย่างไม่ชอบใจนัก

“ไม่เอาน่าวา ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น”เอกลักษณ์รีบเตือน วาริกาทำหน้างอนแต่ก็ไม่ได้เถียงกลับ ก็เพราะเห็นว่าเป็นเขาหรอกนะ

“สงสัยคุณจอห์นคงจะโทรตามล่ะมั่ง เห็นว่าเขามาด้วย”พัฒนากรว่า แต่เขาก็แอบแปลกใจที่คุณจอห์นไม่ขึ้นมาเยี่ยมที่ห้อง หรือว่าเขาอาจจะมีธุระด่วนก็เป็นไปได้

อังศุมาลินเหล่ตามองอย่างไม่ถูกใจนั้น เขารู้ดีเรื่องเธอเสมอ สงสัยว่าคงจะโทรนัดกันล่วงหน้าแน่นอน แต่ก็เอาเถอะตอนนี้ยังไม่เกิดปัญหา เธอก็อย่าคิดมากเลย หญิงสาวเตือนตัวเองในใจ



ตกตอนเย็นคุณหมออนุญาตให้อังศุมาลินและลูกน้อยกลับบ้านได้แล้ว ส่วนพ่อและแม่ ¬ของพัฒนากร กับพ่อ แม่ และยาย ของอังศุมาลิน ก็ขอกลับบ้านไปก่อน แม้จะมีแอบห่วงว่าทั้งสองคนจะดูแลลูกได้รึเปล่า แต่งานที่ต้องไปรับผิดชอบก็มีมาก

“ดีจังนะที่ลูกเราไม่งอแง”

“ลูกคงกลัวว่าเราจะเหนื่อยล่ะมั่ง”

พัฒนากรเอาของเล่นมาเล่นกับลูก อังศุมาลินย่อตัวลงไปนั่งข้างข้าง แต่สายตามองไปที่ชายหนุ่ม เขาดูโอนโยนขึ้นมากกว่าแต่ก่อน นี่จะเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิตคนเราแล้วรึเปล่านะ สามีที่ดี ลูกที่น่ารัก

บรรยากาศรอบตัวนั้นก็ช่างดูอบอุ่น ห้องนอนเก่าของอังศุมาลินถูกเปลี่ยนเป็นห้องเด็กไปแล้ว รอบด้านมีแต่รูปเด็กเล็ก ๆ และอีกไม่นานมันคงจะถูกแทนที่ด้วยรูปของเด็กน้อยในเปล

มีเสียงโทรศัพท์เข้ามาขัดจังหวะ อังศุมาลิที่อยู่ใกล้กว่าก็เลยเป็นคนรับ เธอฟังอยู่สักพักก็ยื่นโทรศัพท์คืนเจ้าของแล้วแล้วเดินลงส้นเท้าแรง ๆ ไปนอกห้อง

แต่ก็อดแอบมองสามีไม่ได้ว่ามีปฏิกิริยาอย่างไรต่อปลายสาย แล้วภาพนั้นก็บาดตาเธอเหลือเกิน ชายหนุ่มมีท่าทีร้อนรนเป็นอย่างมากรีบคว้ากุญแจรถแล้ววิ่งออกไป

ผู้หญิงบนโลกนี้คนที่เธอกลัวมากที่สุดก็คือผู้หญิงคนนี้นี่แหละ บรรณิตา ผู้หญิงคนนี้จะมีอิทธิพลต่อครอบครัวเธอไปถึงไหน

คำพูดปลายสายนั้นมันก็ช่างบาดใจเธอเหลือเกิน

‘พีมช่วยฉันด้วย ฉันรู้ว่าเธอจะช่วยฉัน ถ้าเธอยังรักฉันก็มาหาฉันที’

คำพูดต่อจากนั้นเธอไม่อยากที่จะฟังเลยต้องส่งคืนเจ้าของโทรศัพท์ไป และเขาก็ไปหาผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ หรือว่าเขาสองคนยังรักกันอยู่

หญิงสาวเศร้าใจได้อยู่ไม่นาน คนที่จะมาช่วยคลายทุกข์ให้เธอก็มา อธิษฐานลูบหัวเด็กน้อยอย่างเอ็นดู

“น้องขาล เกิดปีเสือ เดือนสิงหา แล้วยังชื่อขาลอีกเหรอครับ”

“ชื่อจริงขันติ เชยไปหน่อยแต่ความหมายดี”อังศุมาลินยกกาแฟหอมกรุ่มออกมาจากมุมห้องครัว เธอทำตัวให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้

“แล้วอิ้งล่ะเป็นไง ตาแดงเชียว”

ความจริงชายหนุ่มอยากถามตั้งแต่เจอหน้าแล้วแต่ก็ยังไม่กล้า รอจนเธอสบายใจขึ้นแล้วจึงกล้าถาม แต่ดูเหมือนว่าจังหวะยังไม่ดีอยู่ดี เมื่อหญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก

“เขาไปหาผู้หญิงคนนั้น แฟนเก่าที่เขารัก”นึกแล้วก็อดเจ็บใจตัวเองไม่ได้ ทำไมนะเธอถึงไม่ห้ามเขาไว้ ปล่อยให้เขาเดินไปหาเธอต่อหน้าต่อตา

“คิดมาก ไม่เอาน่า”ชายหนุ่มตั้งใจจะใช้มือเขาเช็ดน้ำตาเธอ แต่ด้วยเหตุผลของคนนอกเขาจึงเดินไปหยิบกระดาษทิชชู่มาส่งให้ “ร้องไห้ทำไม เขาคงแค่มีธุระนั้นแหละ ไหนลองเล่าสิว่ามันเป็นยังไง”

“คือ...”อังสุมาลินเล่าเรื่องโทรศัพท์ให้ฟัง อธิษฐานฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้ม “เรื่องมันน่ายิ้มเหรออิฐ”

“มันก็ไม่หรอก แต่ประโยคที่อิ้งได้ยิน แน่ใจเหรอว่าพีมได้ยินด้วย คนที่เป็นแฟนเก่ากันไม่จำเป็นต้องมีอะไรเกินเลย อิฐกับอิ้งก็เป็นเพื่อนกันได้ พีมก็ยังไม่เห็นว่า อิ้งก็ต้องใจกว้างหน่อยสิ ไหนครั้งที่แล้วเคยบอกว่าจะใจเย็น”

อธิษฐานหมายถึงครั้งที่วาริกาโทรมาฟ้องเรื่องบรรณิตาว่ามายุ่งวุ่นวายกันพัฒนากร อังศุมาลินเดือดมากแต่เขาก็มาคุยให้เธอใจเย็น และเธอก็สัญญาว่าจะใจเย็นให้มาก ให้มากที่สุด

“แต่อิฐดูไม่ออกเหรอว่าเจตนามันไม่เหมือนกัน พี่เบบี้แสดงออกชัดเจนขนาดคนที่ไม่รู้จักยังดูออก พีมเขาก็เคยรักพี่เบบี้มาก”

“นั้นไง อิ้งยังพูดว่าพีมเคยรักเลย อย่างนั้นก็แสดงว่าไม่ได้รักแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าคิดมาก”อธิษฐานลูบหัวอังศุมาลินแล้วจับโยกไปโยกมา

อังศุมาลินพยักหน้าเข้าใจ เธอมองไปในแววตาที่มองเธออยู่ ตอนนี้มันแอบซ้อนความเจ็บปวดอยู่ในนั้น หญิงสาวรู้ดีว่าหลายต่อหลายครั้งแล้วที่อธิษฐานพยายามตีตัวออกห่างจากเธอ แต่ก็เป็นเธอเองนี่แหละที่ไปคอยตามรังควานเขา ทำให้เขาไปจากเธอไม่ได้สักที

“อิฐนายมาตั้งแต่เมื่อไหร่”พัฒนากรเปิดประตูมาเจออธิษฐานขณะลูบหัวอังศุมาลินอยู่ อธิษฐานรีบเอามือออกอย่างรู้ตัว

อังศุมาลินมองเลยไปที่คนด้านพัฒนากร เธอเกาะแขนเขาแน่นยิ่งกว่าลูกลิงกอดคอแม่ลิงเสียอีก

“พี่เบบี้มาทำไมคะ”

อธิษฐานมองไปยังบรรณิตาด้วยอีกคน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเธอ ชายหนุ่มยิ้มทักทาย เขาแอบสังเกตเห็นรอยช้ำที่หน้า ที่คอ และแขนของเธอหลายจุด เขามั่นใจว่านี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้พัฒนากรรีบร้อนออกไป

“เบบี้จะมาอยู่กับเราสักพัก”

“ทะ...”อังศุมาลินเตรียมจะขึ้นเสียงแต่ถูกมือของอธิษฐานจับไว้ สติจึงกลับคืนมา “ทำไมเธอไม่บอกเราก่อน บ้านนี้ก็เป็นบ้านของเราเหมือนกันนะ”

“ก็บอกอยู่นี่ไง”

“แล้วคุณจอห์นอะไรนั้นจะไม่ว่าเอาเหรอ ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมามันจะเป็นยังไง ไม่เอาเราไม่ให้อยู่หรอก”

“อิ้ง แต่เรากับรู้สึกว่าเธอเองกำลังจะมีปัญหานะ อิ้งต้องรู้จักมีน้ำใจบ้างสิ”

“น้ำใจน่ะเรามีอยู่แล้ว แต่ที่บ้านเราไม่มีห้องเหรอแล้วนะ”

“ก็ให้เบบี้นอนห้องลูกไง ยังไงตอนนี้ลูกก็ต้องนอนห้องเราอยู่แล้ว”

“พีมอย่าทะเลาะกันเพราะฉันเลย”บรรณิตาใช่น้ำเสียงขอความเห็นใจ ทำให้อังสุมาลินยิ่งเพิ่มความโมโห ‘ถ้ารักฉันอยู่เธอต้องมาหาฉันนะ’ ทำไมคำพูดนี้มันถึงดังก้องอยู่ตลอดเลยก็ไม่รู้

“อิ้งเห็นไหมว่าเบบี้เขา...”พัฒนากรยังพูไม่ทันจบบรรณิตาก็รีบเอามือเธอมาแตะปากเขาไม่ให้พูดในเรื่องราวที่เธอโดนมา

“อย่าฉันไม่อยากให้ใครมาสงสาร อิ้งถ้าเธอไม่สบายใจฉันก็จะไปเอง”

“เบบี้จะไปที่ไหน อยู่กับผมที่นี่แหละ อิ้ง อิ้งต้องมีเหตุผลนะ ไปเบบี้ไปนอนห้องลูกผมก่อน”พัฒนากรจูงมือบรรณิตาไปที่ห้องลูกตามคำพูด อังศุมาลินเดินเข้ามาขวาง

“ไม่ ถ้าอยากให้พี่เบบี้อยู่ก็ไปนอนห้องเธอ ฉันจะมานอนกับลูกเอง”

อังศุมาลินกลับไปที่ห้องนอนเพื่อเก็บของกลับมาห้องนอนเก่า พัฒนากรมองอย่างวางเฉยไม่พูดอะไร บรรณิตาแอบสะใจ และมีความมั่นใจว่าพัฒนากรคงจะไม่มีวันตัดตายขายขาดกับเธอแน่

อธิษฐานทนไม่ไหวเดินมาดึงพัฒนากรมาคุยที่ระเบียง บรรณิตาตั้งท่าจะเดินตาม แต่พอเห็นสายตาดุของอธิษฐานเธอจึงไม่กล้า

“นายจะไม่ห้ามหน่อยเหรอ พีมฉันไม่เข้าใจเลยว่านายกำลังคิดอะไรอยู่”

“แล้วนายจะมายุ่งอะไร อิ้งเป็นแบบนี้นายก็น่าจะดีใจไม่ใช่เหรอ นายจะได้มีโอกาสอยู่ใกล้ ๆ เธอเวลามีปัญหาไง”

สายตาที่เคยเป็นมิตรของพัฒนากรนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ อธิษฐานเองก็คิดไว้แล้วว่าสักวันคงจะต้องมีวันนี้ วันที่เขาทำร้ายทั้งสองคน

“ถ้าเป็นก่อนที่นายกับเธอจะแต่งงานกันฉันจะดีใจมาก แต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว ฉันเห็นนายสองคนทะเลาะกันฉันก็เจ็บไปด้วย อิ้งคือน้องสาวที่ฉันรัก นายก็เหมือนน้องชายของฉัน ฉันรู้ว่านายยังหึงฉันกับอิ้ง แต่นายก็อย่าลืมว่าอิ้งก็รู้สึกอย่างนั้นได้เหมือนกัน นายรู้ไหมแฟนเก่านายพูดอะไรในโทรศัพท์ก่อนที่อิ้งจะส่งให้นาย”

“อะไร”พัฒนากรที่หันหน้าหนีไปเมื่อครู่หันกลับมามองคู่สนทนาอีกครั้ง อารมณ์เขาตอนนี้มันโมโหจนแทบจะเก็บไม่อยู่ ทำไมอังศุมาลินต้องเล่าเรื่องทุกอย่างให้อธิษฐานฟังด้วย

“ถ้าเธอยังรักฉันเธอต้องมาหาฉัน อิ้งได้ยินคำพูดนี้ล่ะ พอนายรีบร้อนออกไปอิ้งเขาก็คิดว่านายยังรักแฟนเก่านายอยู่ หรือว่านายคิดแบบนั้น”

พัฒนากรอึ้งไปเมื่อได้ยิน นี่เขาเป็นบ้าอะไรอีกแล้ว เขามัวมาหึงบ้าบออะไรอีก เขาจะลืมไปถึงไหนว่าตอนนี้ชีวิตเขามีเธอที่จะต้องมีส่วนในการตัดสินใจ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกแบบที่อังศุมาลินคิด แต่เขาก็เป็นห่วงบรรณิตาจริง ๆ

“แต่ฉันก็ทิ้งเบบี้ไม่ได้ เธอกำลังเดือดร้อน”

“เรื่องที่เธอถูกทำร้ายสินะ”

“ใช่ คุณจอห์นแฟนของเธอหึงที่เธอเข้าใกล้ฉัน ฉันทำให้เธอเดือดร้อน ฉันต้องรับผิดชอบ”

“คุณจอห์นที่ว่าเป็นฝรั่ง ผมสีน้ำตาอ่อน สูงมากพอสมควร พูดภาษาไทยได้ เอ่อ...ไมสิ ใช้คำว่าพูดได้บางดีกว่า แล้วก็ใส่สร้อยพระองค์ใหญ่ ๆ หน่อย อายุก็ราว ๆ สี่สิบ”

“ใช่คุณจอห์น นายรู้จักเหรอ”พัฒนากรแอบคิดว่าอังศุมาลินคงเล่าให้ฟังอีก แต่พอมาคิดอีกที อังศุมาลินเองก็ไม่เคยเห็นคุณจอห์น

“แล้วนายรู้จักคนชื่อณัฐพงษ์ไหม”

“ไอ้หนอม นายรู้จักมันได้ยังไง”พัฒนากรงงที่อธิษฐานรู้จักทั้งคุณจอห์น และณัฐพงษ์คู่แค้นของเขา “มีอะไรก็บอกมาเลยดีกว่า”

“วันนี้ฉันแวะหาของรองท้องที่คอฟฟี่ช็อปในโรงพยาบาล แล้วบังเอิญไปนั่งโต๊ะใกล้กับฝรั่งคนหนึ่ง ที่ฉันสนใจก็เพราะเขาเป็นชาวต่างชาติที่ห้อยพระนั้นแหละ และเขาก็ดูเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก เขานั่งอยู่พักหนึ่งก็มีคนที่ชื่อณัฐพงษ์เดินมาทัก ฉันก็ฟังไม่ถนัดหรอกนะว่าเขาพูดอะไรกัน แต่เห็นว่ามีชื่อบรรณิตา แฟนเก่า เพื่อนเก่า อะไรประมาณนี้แหละ”อธิษฐานเล่าเหตุการณ์ที่บังเอิญไปพบให้พัฒนากรฟังจนหมด

“บรรณิตาเป็นชื่อจริงของเบบี้ ฉันว่าไอ้หนอมมันต้องไปพูดอะไรให้คุณจอห์นฟังแน่ ๆ”พัฒนากรกำหมัดแน่น นึกแค้นใจที่โดนลอบกัด ไม่รู้ว่าณัฐพงษ์คิดแค้นเรื่องอะไรนัก

“แต่เรื่องทั้งหมดจะไม่เกิดถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่มายุ่งกับนาย”พูดแล้วก็หันมองไปยังบรรณิตาที่แอบมองพวกเขาอยู่เช่นกัน “เรื่องอดีตมันจะทำร้ายนายไม่ได้ถ้านายเป็นคนจบมันเอง”

อธิษฐานพูดถูก เขาจะปล่อยให้อดีตมาบั่นทอนความรักของเขาไปนานอีกเท่าไหร่ คนที่จะจบมันได้ก็คือเขาอีกนั้นแหละไม่ใช่ใคร



เมื่อได้คำแนะนำพัฒนากรตัดสินใจที่จะโทรหาคุณจอห์นเพื่อมาเคลียร์กันที่ห้อง โดยมีอังศุมาลินและอธิษฐานอยู่ด้วย

“มาอยู่กับมันจริง ๆ ด้วย พวกแกเห็นฉันเป็นไอ้โง่รึไง”คุณจอห์นพูดภาษาอังกฤษ น้ำเสียงโกรธเกรี้ยว และดูมีพลังทำลายล้างอยู่เต็มเปี่ยม

“เปล่าเลยครับ ผมกับเบบี้เราเป็นเพื่อนกันจริง ๆ และนี่ก็คือภรรยาของผม ผมคงจะมีอะไรเกินเลยกับเบบี้ไม่ได้ ผมขอบอกความรู้สึกของผมต่อหน้าทุกคนตรงนี้เลยว่า ผมคิดกับเบบี้แค่เพื่อนเท่านั้น คนที่ผมรักมีเพียงคนเดียวคือภรรยาผม”พัฒนากรดูจริงจังมากใช้ภาษาอังกฤษเพื่อให้คุณจอห์นเข้าใจง่ายขึ้น

“พีมเธอ”บรรณิตาพูดไม่ออก จริง ๆ แล้วเธอเองก็แอบมีความหวังในตัวพัฒนากรอยู่มาก

“หยุด! ฉันจะฟัง”คุณจอห์นหันไปตวาดบรรณิตา

“เบบี้ผมขอโทษนะที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณเจ็บตัว คุณกับคุณจอห์นคงจะต้องมีเรื่องคุยกัน ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าผมรักอิ้ง รักมาก เรื่องเก่าของเราที่จบไปแล้ว ก็ขอให้จบไปเลย ขอให้พวกคุณโชคดี”พัฒนากรยังใช้ภาษาอังกฤษพูดเพื่อแสดงความจริงใจต่อคุณจอห์น และแน่นอนคุณจอห์นได้รับมันไปเต็ม ๆ

“เขาพูดอะไรกันเหรออิฐ พีมพูดแต่เลิฟ ๆ เขารักใครเหรอ”อังศุมาลินที่อ่อนภาษาอังกฤษสุด ๆ ถึงกลับหน้ามืด เธอแทบจะไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขาพูดอะไรกัน

“พีมเขาบอกว่ารักอิ้งมาก รักอิ้งคนเดียว”อธิษฐานกระซิบกลับ

“สามีคุณเป็นคนดีจริง ๆ ผมจะดูแลคนของให้ดีจะไม่ให้มายุ่งกับสามีคนอีก ไปกลับกันได้แล้ว ถ้าคุณดื้อกับผมอีกผมจะตีคุณให้ก้นลายเลย”คุณจอห์นหันมาพูดกับอังศุมาลิน ซึ่งแน่นอนอังศุมาลินก็ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ เท่านั้น แล้วอังศุมาลินก็ยิ่งไม่เข้าใจใหญ่เมื่อพัฒนากรกับอธิษฐานหัวเราะออกมา แล้วบรรณิตาก็หน้าแดงอีก

แล้วพวกเขาก็พากันเดินออกไป บรรณิตากลายเป็นลูกแมวเชื่องไปในบัดดล

“คุณจอห์นเขาบอกว่าพีมเป็นคนดี และจะไม่ให้แฟนเขามายุ่งกับพีมอีก”อธิษฐานหันมาอธิบายให้อังศุมาลินเข้าใจ

“แล้วพวกเธอหัวเราะอะไรกัน”หญิงสาวยังคงทำหน้างง รู้อย่างนี้เธอน่าจะตั้งใจเรียนให้มันมาก ๆ หน่อยนะ

“ก็เขาแสดงความเป็นเจ้าของต่อแฟนเขานะสิ เหมือนกับที่พีมกำลังทำอยู่ตอนนี้”อธิษฐานใช้สายตามองให้อังศุมาลินเห็นว่าสามีเธอกำลังแสดงอาการอย่างไร

พัฒนากรทำท่าไม่รู้ไม่ชิ เก็บอาการที่เพิ่งแสดงไปเมื่อครู่ อังศุมาลินมองหน้าสองหนุ่มสลับกันอย่างไม่เข้าใจ

“อิฐว่าอิฐกลับก่อนดีกว่า เอาไว้ว่าง ๆ อิฐจะมาเยี่ยมหลานใหม่”

ชายหนุ่มก้าวเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม เขาเองก็คงจะถึงเวลาแล้วสินะ เวลาที่จะต้องเดินจากเธอไปจริง ๆ เสียที เพราะเขาเองก็จะทำลายความรักของเขาและเธอไม่ได้

ภาพความทรงจำเก่า ๆ มันจะอยู่ในนี้ไปอีกนานแสนนาน และคงต้องมีสักวันที่เขาจะได้ไปเริ่มต้นใหม่



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ต.ค. 2556, 16:40:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ต.ค. 2556, 16:41:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1472





<< ตอนที่ 20 กามเทพจำเป็น   22 เมื่อเขาไม่สนใจ... >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account