หัวใจที่ปลายฟ้า
หญิงสาวคนหนึ่งข้ามฟ้ามาตามหารักนิรันดร์ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยศรัทธาแห่งรัก แต่ยิ่งนานวัน ความเชื่อมั่นและศรัทธาก็ยิ่งสั่นคลอนเพราะเขาคนนั้นช่างไม่ชัดเจนเอาเสียเลย
หรือบางทีอาจไม่ใช่เขาที่ไม่ชัดเจน อาจเป็นเธอเองก็ได้ ที่ไม่ยอมมองให้ชัดๆว่าในแววตาคู่นั้นซ่อนรักเอาไว้หรือเปล่า
หรือบางทีอาจไม่ใช่เขาที่ไม่ชัดเจน อาจเป็นเธอเองก็ได้ ที่ไม่ยอมมองให้ชัดๆว่าในแววตาคู่นั้นซ่อนรักเอาไว้หรือเปล่า
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 3
“ขอบคุณนะคะพี่อชิที่มาส่ง” เจนนิเฟอร์หันไปเอ่ยขอบคุณพร้อมส่งยิ้มอ่อนหวานไปให้อชิระเมื่อเขาขับรถเข้ามาส่งถึงในคอนโดของเธอ แต่บางอย่างที่ค้างคาใจอยู่ก็ทำให้เธอลังเลที่จะลงจากรถ เธออยากถามออกไป ในขณะเดียวกันก็ไม่แน่ใจเอาเสียเลยว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนกลับมา
“มีอะไรอยากถามพี่หรือเปล่าครับ” อชิระก็ยังคงเป็นอชิระ หญิงสาวเชื่อว่าเขาดูออกว่าเธอคาใจเรื่องอะไร แต่แทนที่เขาจะอธิบายเขากลับเฉยและส่งรอยยิ้มอ่อนโยนแบบเดิมๆมาให้ เอาล่ะ ก็ได้ ในเมื่อเขาชอบให้เรื่องทุกอย่างมันซับซ้อนนักละก็ เธอก็จะเป็นคนคลายปมเองก็ได้
“ที่พี่อชิพูดตอนทานข้าวน่ะค่ะ พี่อชิหมายความว่ายังไงคะ” อชิระเลิกคิ้วน้อยๆเมื่อได้ฟังคำถามนั้น เธอรู้ว่าอชิระรู้ว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร แต่ก็ได้ ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้ว เธอจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ได้
“ก็ที่พี่อชิบอกว่าดีแล้วที่พี่ไม่ได้เป็นดวงอาทิตย์และแจนก็ไม่ใช่ดอกทานตะวันไงค่ะ” เธอนิ่งรอคอยคำตอบ อชิระเองก็นิ่ง แต่เป็นความนิ่งที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหว เขานิ่ง เงียบ แต่แววตากลับฉายแววบางอย่างที่ยากจะอ่าน มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มแสนลึกลับ
“แจนไม่รู้จริงๆหรือครับว่าพี่หมายความว่ายังไง”
“ถ้าพี่อชิไม่พูด แจนจะไปกล้าคิดเอาเองได้ยังไงล่ะคะ” เพราะถ้าคิดผิด คนเจ็บก็คือแจนนะคะ ไม่ใช่พี่อชิ ประโยคหลังเจนนิเฟอร์ได้แต่พูดอยู่ในใจ
“โอเคค่ะ ถ้าพี่อชิเชื่อว่าแจนรู้และไม่อยากอธิบายก็ไม่เป็นไร งั้นแจนขอตัวก่อนนะคะ พรุ่งนี้แจนคงไม่ไปหานะคะ แจนติดธุระน่ะค่ะ แต่พี่อชิคงไม่ลืมใช่ไหมคะว่ามะรืนนี้เป็นวันเกิดแจน” เจนนิเฟอร์เหนื่อยเกินกว่าจะดื้อดึงถามต่อไปจึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องพร้อมส่งรอยยิ้มหวานโดยที่ตาไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลยไปให้เจ้าของรถอีกครั้งก่อนจะรีบก้าวลงจากรถแล้วรีบหันหลังเดินออกจากลานจอดรถไปทันที โดยไม่หยุดยืนส่งอชิระเหมือนที่แล้วๆมา
เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ว่าจะเข้มแข็งแค่ไหนก็สามารถจะอ่อนแอได้อย่างง่ายดายหากเป็นเรื่องของความรัก มือเรียวบอบบางยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม อชิระจะรู้ตัวบ้างไหมว่าความไม่ชัดเจนของเขาทำให้เธอเข้าใจคำว่าความเจ็บปวดได้ชัดเจนแค่ไหน
บนโลกนี้ไม่มีความรักอยู่จริงหรอก...
แจนจะกลับมาพร้อมความเจ็บปวด...
เจนนิเฟอร์สะดุ้งวาบ เจ็บปวดอย่างนั้นหรือ เมื่อกี้เธอคิดว่าเธอกำลังเจ็บปวดอย่างนั้นหรือ อยู่ๆถ้อยคำของแด๊ดก็ผุดขึ้นมาราวกับต้องการตอกย้ำเธอ
ไม่ เธอจะไม่มีวันกลับไปพร้อมความเจ็บปวด เธอไม่เชื่อหรอกว่าโลกนี้ไม่มีความรักอยู่จริง ก็เธอกำลังรักอยู่นี่ไง อชิระไม่จำเป็นต้องรักเธอตอบหรอก แค่ความรักของเธอที่มีต่ออชิระมันก็ยืนยันได้แล้วว่าความรักมีอยู่จริง แล้วต่อให้อชิระจะไม่รักเธอ เธอก็เชื่อว่าเธอจะไม่กลับไปพร้อมความเจ็บปวด เธอยังคงเชื่อ ความรักไม่เคยทำให้ใครเจ็บปวดหรอก ตอนนี้เธอกำลังเจ็บปวดเพราะความไม่ชัดเจน และต่อไป ถ้าเธอจะต้องเจ็บปวด เธอก็ไม่ได้เจ็บปวดเพราะความรัก แต่เธอเจ็บปวดเพราะความไม่รักต่างหาก
ใช่ ความรักไม่เคยทำให้ใครเจ็บปวด เธอเชื่อแบบนั้น เธอเชื่อ... หญิงสาวเฝ้าย้ำกับตัวเองจนถึงห้องของเธอ
เช้านี้เจนนิเฟอร์ตื่นขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มสดใส จริงอยู่ว่าเธอมักจะตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเสมอ เธอชอบเวลาเช้าเพราะมันเป็นเวลาที่เธอจะได้อยู่ใกล้ชิดกับอชิระ แต่วันนี้รอยยิ้มเธอสดใสกว่าทุกวันเพราะ หนึ่ง วันนี้เป็นวันเกิดเธอ และสอง อชิระมักจะมีไอเดียน่ารักๆมาเซอร์ไพรส์วันเกิดเธอเสมอ
ปีแรกที่เธอรู้จักเขา เขาเซอร์ไพรส์วันเกิดเธอด้วยการเงียบใส่เมื่อเธอไปเคาะประตูห้องเขาในตอนเช้า แต่เนื่องจากพิชญาไม่ได้บอกว่าอชิระไม่อยู่ นั่นแสดงว่าเขายังอยู่ในห้อง ตอนแรกเธอยืนรอเขาอยู่สักพัก กะว่าอีกสักสิบนาทีจะเคาะใหม่ แต่มือเจ้ากรรมดันซนไปบิดลูกบิดเล่น ผลคือประตูไม่ได้ล็อค เธอเลยถือวิสาสะเปิดเข้าไป แล้วก็ได้แต่ยืนตะลึงอยู่หน้าประตู ในห้องปิดไฟมืด แต่มีแสงเทียนส่องสว่างอยู่ตรงพื้นห่างจากประตูห้องประมาณหนึ่งเมตร ภาพที่เธอมองเห็นผ่านม่านน้ำตาบอกเธอว่า แสงเทียนเกิดจากเทียนหอมรูปขนมหวานชนิดต่างๆเรียงกันเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวใหญ่ๆสามตัว HBD เธอมารู้ภายหลังจากสุธากรว่า เทียนหอมรูปขนมหวานเหล่านั้น อชิระเป็นคนทำด้วยตัวเอง
วันเกิดเธอปีที่แล้ว อชิระเซอร์ไพรส์วันเกิดด้วยการแกล้งทำเป็นลืมวันเกิดเธอ เมื่อเธอไปหาเขาที่คอนโด พิชญาบอกเธอว่าเขารีบออกไปข้างนอกแต่เช้า เธอเลยลองโทรหาเขาดู เขารับสายแล้วบอกว่าติดประชุม แน่นอนเธอไม่ได้งี่เง่าขนาดจะมาโวยวายให้เขาทิ้งงานมาหาเธอ อาจจะเพราะเธอไม่มีสิทธิ์ด้วยก็ได้ แต่เธอคิดว่าถึงเธอมีสิทธิ์เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงงี่เง่าแบบนั้นหรอก แต่ก็ใช่ เธอน้อยใจ อย่างน้อยเขาก็น่าจะสุขสันต์วันเกิดเธอผ่านทางโทรศัพท์สักหน่อยสิ สุดท้ายเธอเลยหลบไปพักใจที่ชะอำ การตัดสินใจครั้งนั้นทำให้เธอมีวันเกิดที่แสนประทับใจ อชิระตามรอยการเช็กอินผ่านแอพพลิเคชั่นสุดโปรดของเธอมาถึงชะอำพร้อมเค้กก้อนโตที่สุธากรมาบอกเธอภายหลังเช่นกันว่า นี่แหละคือเหตุผลที่อชิระออกจากบ้านแต่เช้า เขาไปทำเค้กให้เธอที่บ้านสุธากร ไม่ได้ติดประชุมอะไรหรอก
แล้วปีนี้เธอจะได้เซอร์ไพรส์แบบไหนกันนะ
“พี่อชิไม่อยู่งั้นหรือคะ” เจนนิเฟอร์ทวนคำพิชญา พนักงานต้อนรับคนสวยประจำคอนโดอชิระอีกครั้ง หลังพิชญาบอกว่าอชิระออกไปตั้งแต่สายๆของเมื่อวานและยังไม่กลับเข้ามาเลย
“ขอบคุณมากค่ะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณและส่งยิ้มหวานให้พิชญา เธอไม่ได้เดือดร้อนใจเท่าไหร่นักกับการหายตัวไปของอชิระในครั้งนี้ ขณะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาอชิระระหว่างเดินออกจากตัวอาคาร เธอก็คาดเดาไปต่างๆนานาว่าปีนี้อชิระจะเซอร์ไพรส์เธอแบบไหนกัน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่อชิ” เจนนิเฟอร์กรอกเสียงหวานสดใสไปตามสายทันทีที่มั่นใจว่าอีกฝ่ายรับสายแล้ว ก่อนจะต้องชะงักทุกการเคลื่อนไหว ดวงหน้าสวยซีดเผือดไปทันที เมื่อเสียงที่ตอบรับมาไม่เพียงแต่จะไม่ใช่เสียงอชิระ แต่ยังเป็นเสียงผู้หญิง
“สวัสดีค่ะ ตอนนี้พี่อชิยังไม่ตื่นเลยค่ะ มีอะไรฝากเนตรไว้ก่อนได้นะคะ” เนตร... จริงอยู่ว่าโลกนี้มีผู้หญิงชื่อเนตรหลายคนแต่เจนนิเฟอร์ค่อนข้างจะมั่นใจเลยล่ะว่าผู้หญิงที่กำลังคุยกับเธอคือเนตรไหน
“คุณเนตรดาว” เสียงหวานรำพึงออกมาแผ่วๆ ไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกมาให้ปลายสายได้จริง แค่ต้องการทวนกับตัวเองให้มั่นใจว่าไม่ได้ฝันไป
“ค่ะ เนตรดาว คุณรู้จักเนตรด้วยเหรอคะ” รู้จักสิ รู้จักดีเลย เนตรดาว ผู้หญิงที่เป็นรักแรกและอาจจะเป็นรักเดียวของอชิระ เธอไม่รู้ว่าอชิระยังรักเนตรดาวอยู่หรือไม่ เธอรู้แต่ว่าสุธากรเคยบอกว่าตั้งแต่อชิระเลิกกับเนตรตอนเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็ไม่เคยรักใครอีกเลย ใช่แล้ว เลิกกันตอนเข้ามหาวิทยาลัย เพราะสองคนนั้นรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ
เจนนิเฟอร์ไม่รู้ตัวเลยว่าวางสายโทรศัพท์ไปตอนไหนหรือกลับมาถึงคอนโดตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรู้ตัวอีกทีเมื่อเสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ไม่ใช่อชิระ...
“ค่ะแด๊ด” เธอไม่แน่ใจหรอกว่าด๊ดจะฟังออกไหมว่าเสียงเธอล่องลอยเพียงใด
“สุขสันต์วันเกิดนะแจน ลูกรัก” เธอยิ้มออกมาบางๆ ไม่ว่าใครจะลืมวันเกิดเธอก็ตาม อย่างน้อยก็มีคนคนหนึ่งล่ะที่ไม่มีวันลืม
“ขอบคุณค่ะแด๊ด” น้ำเสียงที่เธอตอบแด๊ดไปดีขึ้นมานิดหนึ่ง เธอเงียบ และคนปลายสายก็เงียบ
“แด๊ดคะ” พักใหญ่ๆเลยทีเดียวกว่าเธอจะเอื้อนเอ่ยอะไรบางอย่างอีกครั้ง บางอย่างที่เธอตัดสินใจดีแล้ว เธอมั่นใจว่าไม่ได้ทำไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
“สัญญาของเรายังเหลืออีกสามวันใช่ไหมคะ แจน...” แล้วเธอก็นิ่ง เธอพูดมันไม่ออก มันเจ็บ เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนความเจ็บปวดมาจุกอยู่ที่ลำคอทำให้เธอไม่อาจเปล่งเสียงใดๆได้
“อยากกลับบ้านแล้วใช่ไหม จะให้แด๊ดไปรับที่เมืองไทยไหมลูก” ดูเหมือนแด๊ดจะเข้าใจเธอ แด๊ดไม่เอ่ยอะไรเกี่ยวกับสัญญานั่นเลย เพียงแต่ถามเธอด้วยน้ำเสียงอาทรที่ทำให้เขื่อนกั้นน้ำตาของเธอพังทลาย เธอจำไม่ได้ว่าต่อจากนั้นแด๊ดและเธอคุยอะไรกันต่อ ที่จำได้คือประโยคสุดท้ายของเธอก่อนวางสาย
“แต่แจนก็ไม่ได้แพ้หรอกนะคะแด๊ด โลกนี้มีความรักอยู่จริงๆค่ะ แจนสัมผัสได้มาตลอดค่ะ
ความรักของแด๊ดและของพี่เจที่มีให้แจนไงคะ แจนเองก็รักแด๊ดนะคะ”
เจนนิเฟอร์ตัดสินใจเก็บข้าวของทุกอย่าง จัดการทุกเรื่องให้เรียบร้อย โชคดีที่เธอเพิ่งปิดงานแปลเรื่องล่าสุดไปและยังไม่ได้รับงานใหม่เข้ามา หญิงสาวฝากจดหมายขอบคุณและจดหมายลาให้สุธากรไว้ที่ป้อมยามของหมู่บ้านเขา และไปพักที่โรงแรมแถวสนามบิน แน่นอนเธอทำทุกอย่างทุกทางเพื่อให้ได้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด
สามวันหลังจากนั้นเจนนิเฟอร์ก็ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง บินลัดฟ้ากลับไปหาความรักที่เป็นของเธอโดยที่เธอไม่ต้องไขว่คว้าหรือพยายาม อีกไม่นานหรอก คนที่นี่ก็จะลืมว่าเคยมีผู้หญิงโง่เง่าคนหนึ่งเดินทางมาตามหาความรักก่อนจะแบกความเจ็บปวดกลับไป อีกไม่นานพิชญาก็คงจะลืมว่าทุกเช้าจะมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายพร้อมส่งรอยยิ้มหวานให้ อีกไม่นานเขาคนนั้นก็คงจะลืมว่าครั้งหนึ่ง เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งมาเคาะประตูห้องเขาทุกเช้า อีกไม่นานเขาคงจะลืมรสชาติขนมของผู้หญิงโง่เง่าจากต่างแดน หรือบางทีเขาอาจจะไม่ลืม เพราะเขาคงไม่เคยจดจำ...
“มีอะไรอยากถามพี่หรือเปล่าครับ” อชิระก็ยังคงเป็นอชิระ หญิงสาวเชื่อว่าเขาดูออกว่าเธอคาใจเรื่องอะไร แต่แทนที่เขาจะอธิบายเขากลับเฉยและส่งรอยยิ้มอ่อนโยนแบบเดิมๆมาให้ เอาล่ะ ก็ได้ ในเมื่อเขาชอบให้เรื่องทุกอย่างมันซับซ้อนนักละก็ เธอก็จะเป็นคนคลายปมเองก็ได้
“ที่พี่อชิพูดตอนทานข้าวน่ะค่ะ พี่อชิหมายความว่ายังไงคะ” อชิระเลิกคิ้วน้อยๆเมื่อได้ฟังคำถามนั้น เธอรู้ว่าอชิระรู้ว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร แต่ก็ได้ ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้ว เธอจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ได้
“ก็ที่พี่อชิบอกว่าดีแล้วที่พี่ไม่ได้เป็นดวงอาทิตย์และแจนก็ไม่ใช่ดอกทานตะวันไงค่ะ” เธอนิ่งรอคอยคำตอบ อชิระเองก็นิ่ง แต่เป็นความนิ่งที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหว เขานิ่ง เงียบ แต่แววตากลับฉายแววบางอย่างที่ยากจะอ่าน มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มแสนลึกลับ
“แจนไม่รู้จริงๆหรือครับว่าพี่หมายความว่ายังไง”
“ถ้าพี่อชิไม่พูด แจนจะไปกล้าคิดเอาเองได้ยังไงล่ะคะ” เพราะถ้าคิดผิด คนเจ็บก็คือแจนนะคะ ไม่ใช่พี่อชิ ประโยคหลังเจนนิเฟอร์ได้แต่พูดอยู่ในใจ
“โอเคค่ะ ถ้าพี่อชิเชื่อว่าแจนรู้และไม่อยากอธิบายก็ไม่เป็นไร งั้นแจนขอตัวก่อนนะคะ พรุ่งนี้แจนคงไม่ไปหานะคะ แจนติดธุระน่ะค่ะ แต่พี่อชิคงไม่ลืมใช่ไหมคะว่ามะรืนนี้เป็นวันเกิดแจน” เจนนิเฟอร์เหนื่อยเกินกว่าจะดื้อดึงถามต่อไปจึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องพร้อมส่งรอยยิ้มหวานโดยที่ตาไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลยไปให้เจ้าของรถอีกครั้งก่อนจะรีบก้าวลงจากรถแล้วรีบหันหลังเดินออกจากลานจอดรถไปทันที โดยไม่หยุดยืนส่งอชิระเหมือนที่แล้วๆมา
เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ว่าจะเข้มแข็งแค่ไหนก็สามารถจะอ่อนแอได้อย่างง่ายดายหากเป็นเรื่องของความรัก มือเรียวบอบบางยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม อชิระจะรู้ตัวบ้างไหมว่าความไม่ชัดเจนของเขาทำให้เธอเข้าใจคำว่าความเจ็บปวดได้ชัดเจนแค่ไหน
บนโลกนี้ไม่มีความรักอยู่จริงหรอก...
แจนจะกลับมาพร้อมความเจ็บปวด...
เจนนิเฟอร์สะดุ้งวาบ เจ็บปวดอย่างนั้นหรือ เมื่อกี้เธอคิดว่าเธอกำลังเจ็บปวดอย่างนั้นหรือ อยู่ๆถ้อยคำของแด๊ดก็ผุดขึ้นมาราวกับต้องการตอกย้ำเธอ
ไม่ เธอจะไม่มีวันกลับไปพร้อมความเจ็บปวด เธอไม่เชื่อหรอกว่าโลกนี้ไม่มีความรักอยู่จริง ก็เธอกำลังรักอยู่นี่ไง อชิระไม่จำเป็นต้องรักเธอตอบหรอก แค่ความรักของเธอที่มีต่ออชิระมันก็ยืนยันได้แล้วว่าความรักมีอยู่จริง แล้วต่อให้อชิระจะไม่รักเธอ เธอก็เชื่อว่าเธอจะไม่กลับไปพร้อมความเจ็บปวด เธอยังคงเชื่อ ความรักไม่เคยทำให้ใครเจ็บปวดหรอก ตอนนี้เธอกำลังเจ็บปวดเพราะความไม่ชัดเจน และต่อไป ถ้าเธอจะต้องเจ็บปวด เธอก็ไม่ได้เจ็บปวดเพราะความรัก แต่เธอเจ็บปวดเพราะความไม่รักต่างหาก
ใช่ ความรักไม่เคยทำให้ใครเจ็บปวด เธอเชื่อแบบนั้น เธอเชื่อ... หญิงสาวเฝ้าย้ำกับตัวเองจนถึงห้องของเธอ
เช้านี้เจนนิเฟอร์ตื่นขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มสดใส จริงอยู่ว่าเธอมักจะตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเสมอ เธอชอบเวลาเช้าเพราะมันเป็นเวลาที่เธอจะได้อยู่ใกล้ชิดกับอชิระ แต่วันนี้รอยยิ้มเธอสดใสกว่าทุกวันเพราะ หนึ่ง วันนี้เป็นวันเกิดเธอ และสอง อชิระมักจะมีไอเดียน่ารักๆมาเซอร์ไพรส์วันเกิดเธอเสมอ
ปีแรกที่เธอรู้จักเขา เขาเซอร์ไพรส์วันเกิดเธอด้วยการเงียบใส่เมื่อเธอไปเคาะประตูห้องเขาในตอนเช้า แต่เนื่องจากพิชญาไม่ได้บอกว่าอชิระไม่อยู่ นั่นแสดงว่าเขายังอยู่ในห้อง ตอนแรกเธอยืนรอเขาอยู่สักพัก กะว่าอีกสักสิบนาทีจะเคาะใหม่ แต่มือเจ้ากรรมดันซนไปบิดลูกบิดเล่น ผลคือประตูไม่ได้ล็อค เธอเลยถือวิสาสะเปิดเข้าไป แล้วก็ได้แต่ยืนตะลึงอยู่หน้าประตู ในห้องปิดไฟมืด แต่มีแสงเทียนส่องสว่างอยู่ตรงพื้นห่างจากประตูห้องประมาณหนึ่งเมตร ภาพที่เธอมองเห็นผ่านม่านน้ำตาบอกเธอว่า แสงเทียนเกิดจากเทียนหอมรูปขนมหวานชนิดต่างๆเรียงกันเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวใหญ่ๆสามตัว HBD เธอมารู้ภายหลังจากสุธากรว่า เทียนหอมรูปขนมหวานเหล่านั้น อชิระเป็นคนทำด้วยตัวเอง
วันเกิดเธอปีที่แล้ว อชิระเซอร์ไพรส์วันเกิดด้วยการแกล้งทำเป็นลืมวันเกิดเธอ เมื่อเธอไปหาเขาที่คอนโด พิชญาบอกเธอว่าเขารีบออกไปข้างนอกแต่เช้า เธอเลยลองโทรหาเขาดู เขารับสายแล้วบอกว่าติดประชุม แน่นอนเธอไม่ได้งี่เง่าขนาดจะมาโวยวายให้เขาทิ้งงานมาหาเธอ อาจจะเพราะเธอไม่มีสิทธิ์ด้วยก็ได้ แต่เธอคิดว่าถึงเธอมีสิทธิ์เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงงี่เง่าแบบนั้นหรอก แต่ก็ใช่ เธอน้อยใจ อย่างน้อยเขาก็น่าจะสุขสันต์วันเกิดเธอผ่านทางโทรศัพท์สักหน่อยสิ สุดท้ายเธอเลยหลบไปพักใจที่ชะอำ การตัดสินใจครั้งนั้นทำให้เธอมีวันเกิดที่แสนประทับใจ อชิระตามรอยการเช็กอินผ่านแอพพลิเคชั่นสุดโปรดของเธอมาถึงชะอำพร้อมเค้กก้อนโตที่สุธากรมาบอกเธอภายหลังเช่นกันว่า นี่แหละคือเหตุผลที่อชิระออกจากบ้านแต่เช้า เขาไปทำเค้กให้เธอที่บ้านสุธากร ไม่ได้ติดประชุมอะไรหรอก
แล้วปีนี้เธอจะได้เซอร์ไพรส์แบบไหนกันนะ
“พี่อชิไม่อยู่งั้นหรือคะ” เจนนิเฟอร์ทวนคำพิชญา พนักงานต้อนรับคนสวยประจำคอนโดอชิระอีกครั้ง หลังพิชญาบอกว่าอชิระออกไปตั้งแต่สายๆของเมื่อวานและยังไม่กลับเข้ามาเลย
“ขอบคุณมากค่ะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณและส่งยิ้มหวานให้พิชญา เธอไม่ได้เดือดร้อนใจเท่าไหร่นักกับการหายตัวไปของอชิระในครั้งนี้ ขณะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาอชิระระหว่างเดินออกจากตัวอาคาร เธอก็คาดเดาไปต่างๆนานาว่าปีนี้อชิระจะเซอร์ไพรส์เธอแบบไหนกัน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่อชิ” เจนนิเฟอร์กรอกเสียงหวานสดใสไปตามสายทันทีที่มั่นใจว่าอีกฝ่ายรับสายแล้ว ก่อนจะต้องชะงักทุกการเคลื่อนไหว ดวงหน้าสวยซีดเผือดไปทันที เมื่อเสียงที่ตอบรับมาไม่เพียงแต่จะไม่ใช่เสียงอชิระ แต่ยังเป็นเสียงผู้หญิง
“สวัสดีค่ะ ตอนนี้พี่อชิยังไม่ตื่นเลยค่ะ มีอะไรฝากเนตรไว้ก่อนได้นะคะ” เนตร... จริงอยู่ว่าโลกนี้มีผู้หญิงชื่อเนตรหลายคนแต่เจนนิเฟอร์ค่อนข้างจะมั่นใจเลยล่ะว่าผู้หญิงที่กำลังคุยกับเธอคือเนตรไหน
“คุณเนตรดาว” เสียงหวานรำพึงออกมาแผ่วๆ ไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกมาให้ปลายสายได้จริง แค่ต้องการทวนกับตัวเองให้มั่นใจว่าไม่ได้ฝันไป
“ค่ะ เนตรดาว คุณรู้จักเนตรด้วยเหรอคะ” รู้จักสิ รู้จักดีเลย เนตรดาว ผู้หญิงที่เป็นรักแรกและอาจจะเป็นรักเดียวของอชิระ เธอไม่รู้ว่าอชิระยังรักเนตรดาวอยู่หรือไม่ เธอรู้แต่ว่าสุธากรเคยบอกว่าตั้งแต่อชิระเลิกกับเนตรตอนเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็ไม่เคยรักใครอีกเลย ใช่แล้ว เลิกกันตอนเข้ามหาวิทยาลัย เพราะสองคนนั้นรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ
เจนนิเฟอร์ไม่รู้ตัวเลยว่าวางสายโทรศัพท์ไปตอนไหนหรือกลับมาถึงคอนโดตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรู้ตัวอีกทีเมื่อเสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ไม่ใช่อชิระ...
“ค่ะแด๊ด” เธอไม่แน่ใจหรอกว่าด๊ดจะฟังออกไหมว่าเสียงเธอล่องลอยเพียงใด
“สุขสันต์วันเกิดนะแจน ลูกรัก” เธอยิ้มออกมาบางๆ ไม่ว่าใครจะลืมวันเกิดเธอก็ตาม อย่างน้อยก็มีคนคนหนึ่งล่ะที่ไม่มีวันลืม
“ขอบคุณค่ะแด๊ด” น้ำเสียงที่เธอตอบแด๊ดไปดีขึ้นมานิดหนึ่ง เธอเงียบ และคนปลายสายก็เงียบ
“แด๊ดคะ” พักใหญ่ๆเลยทีเดียวกว่าเธอจะเอื้อนเอ่ยอะไรบางอย่างอีกครั้ง บางอย่างที่เธอตัดสินใจดีแล้ว เธอมั่นใจว่าไม่ได้ทำไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
“สัญญาของเรายังเหลืออีกสามวันใช่ไหมคะ แจน...” แล้วเธอก็นิ่ง เธอพูดมันไม่ออก มันเจ็บ เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนความเจ็บปวดมาจุกอยู่ที่ลำคอทำให้เธอไม่อาจเปล่งเสียงใดๆได้
“อยากกลับบ้านแล้วใช่ไหม จะให้แด๊ดไปรับที่เมืองไทยไหมลูก” ดูเหมือนแด๊ดจะเข้าใจเธอ แด๊ดไม่เอ่ยอะไรเกี่ยวกับสัญญานั่นเลย เพียงแต่ถามเธอด้วยน้ำเสียงอาทรที่ทำให้เขื่อนกั้นน้ำตาของเธอพังทลาย เธอจำไม่ได้ว่าต่อจากนั้นแด๊ดและเธอคุยอะไรกันต่อ ที่จำได้คือประโยคสุดท้ายของเธอก่อนวางสาย
“แต่แจนก็ไม่ได้แพ้หรอกนะคะแด๊ด โลกนี้มีความรักอยู่จริงๆค่ะ แจนสัมผัสได้มาตลอดค่ะ
ความรักของแด๊ดและของพี่เจที่มีให้แจนไงคะ แจนเองก็รักแด๊ดนะคะ”
เจนนิเฟอร์ตัดสินใจเก็บข้าวของทุกอย่าง จัดการทุกเรื่องให้เรียบร้อย โชคดีที่เธอเพิ่งปิดงานแปลเรื่องล่าสุดไปและยังไม่ได้รับงานใหม่เข้ามา หญิงสาวฝากจดหมายขอบคุณและจดหมายลาให้สุธากรไว้ที่ป้อมยามของหมู่บ้านเขา และไปพักที่โรงแรมแถวสนามบิน แน่นอนเธอทำทุกอย่างทุกทางเพื่อให้ได้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด
สามวันหลังจากนั้นเจนนิเฟอร์ก็ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง บินลัดฟ้ากลับไปหาความรักที่เป็นของเธอโดยที่เธอไม่ต้องไขว่คว้าหรือพยายาม อีกไม่นานหรอก คนที่นี่ก็จะลืมว่าเคยมีผู้หญิงโง่เง่าคนหนึ่งเดินทางมาตามหาความรักก่อนจะแบกความเจ็บปวดกลับไป อีกไม่นานพิชญาก็คงจะลืมว่าทุกเช้าจะมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายพร้อมส่งรอยยิ้มหวานให้ อีกไม่นานเขาคนนั้นก็คงจะลืมว่าครั้งหนึ่ง เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งมาเคาะประตูห้องเขาทุกเช้า อีกไม่นานเขาคงจะลืมรสชาติขนมของผู้หญิงโง่เง่าจากต่างแดน หรือบางทีเขาอาจจะไม่ลืม เพราะเขาคงไม่เคยจดจำ...
รวินทร์วรกาล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ต.ค. 2556, 21:29:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2556, 21:29:35 น.
จำนวนการเข้าชม : 1043
<< ตอนที่ 2 | ตอนที่ 4 >> |
รักเร่ 6 ต.ค. 2556, 04:53:32 น.
โอย...เศร้า เรื่องนี้กี่ตอนจบคะ
โอย...เศร้า เรื่องนี้กี่ตอนจบคะ
รวินทร์วรกาล 6 ต.ค. 2556, 23:00:21 น.
ไม่น่าจะเกินหกตอนค่ะ เขียนเรื่องยาวๆไม่ค่อยจะได้ค่ะ =)
ไม่น่าจะเกินหกตอนค่ะ เขียนเรื่องยาวๆไม่ค่อยจะได้ค่ะ =)