จุ้น กะ ปอม
มิตรภาพสำคัญไฉน มาร่วมพิสูจน์คำๆนี้ไปกับเธอและเขา แล้วคุณจะรักพวกเขาไปโดยไม่รู้ตัว..."จุ้น กะ ปอม"

Tags: จุ้นกะปอม

ตอน: ตอนที่ 48 : สุขสันต์วันปีใหม่

“จุ้น!...เย็นนี้แกว่างหรือเปล่า!”จุ้นเงยหน้าขึ้นมอง เห็นหน้าแนงชะโงกอยู่ตรงขอบประตูก็
หัวเราะออกมา

“ทำไมแกไม่เข้ามาไอ้แนง..เกาะเป็นจิ้งจกอยู่ได้”

“เหอะน่า!..ตอบมาเร็วจุ้น...ฉันรีบ!”

“ไม่ว่าง!..นัดกับไอ้ปอมไว้เดี๋ยวมันจะมารับ”แนงค้อนควับ

“เห็นสามีดีกว่าเพื่อนเหรอไอ้จุ้น!”จุ้นหัวเราะ

“ก็แกถามฉันว่าว่างหรือเปล่าฉันก็บอกตรงๆ..แกมีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่าล่ะ...เดี๋ยวฉัน
โทรบอกไอ้ปอมก็ได้”

“ไม่เป็นไร..เดี๋ยวฉันให้ไอ้นาไปเป็นเพื่อน”จุ้นขมวดคิ้ว

“ไปไหน”

“ไปลองชุด วันนี้เค้าโทรเข้ามาให้ไปลอง..เค้าตัดเสร็จแล้ว..อ๊อดมันติดลูกค้าก็เลยไปไม่
ได้”จุ้นยิ้ม

“งั้นไม่ต้องไปบอกไอ้นามันหรอก..ท่าทางมันจะยุ่งเห็นมันนั่งปั่นคอลัมภ์ใหม่หัวฟูอยู่ในห้อง..
เดี๋ยวฉันไปกับแกเองให้ปอมมันขับรถให้”

“แล้วพวกแกไม่ไปไหนกันเหรอ”จุ้นส่ายหน้า

“หึ!ไม่ได้ไปไหน..ก็แค่จะแวะกินข้าวข้างนอกเท่านั้นแหละ”แนงยิ้มแป้น

“งั้นดี!...ฉันไปเก็บของเลยนะ”จุ้นพยักหน้า แล้วแนงก็ผลุบ!หายไป..จุ้นนั่งทำงานอีกสักครู่จาก
นั้นก็ค่อยๆเก็บข้าวของบนโต๊ะเข้าลิ้นชัก

“คุณแม่! เสร็จยางงง...คุณพ่อมาแล้ววว”เสียงมาก่อนตัว เล่นเอาเด็กๆข้างนอกหัวเราะกัน
เกรียว แซวกันระงมไปหมด

“วุ้ย! อิจฉาพี่จุ้นจังเล้ย!..เช้าถึงเย็นถึงเลยนะพี่ปอม!”เสียงโอเปอร์เรเตอร์สาว น้องไก่แซวอยู่
ข้างนอก

“อ่ะ! ไม่ได้หรอกโว้ย!เจ้าไก่..สามีที่ดีมันต้องหยั่งงี้..ดีนะที่กลางวันฉันติดงาน..ไม่งั้นแกจะได้
เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาปานกามนิตหนุ่มของฉัน โผล่มาให้เห็นทั้งเช้า กลางวัน เย็นเลย” ทั้ง
เสียงหัวเราะ ทั้งเสียงอ๊วก! ออกมาจากปากสาวๆ หนุ่มๆ ข้างนอกขรมไปหมด จุ้นนั่งยิ้มอยู่ใน
ห้อง แล้วใบหน้าอันหล่อเหลาปานกามนิตหนุ่มก็โผล่แพล๊บ!เข้ามา ยิ้มตาหยีส่งให้

“จุ้นน! ปอมมาแล้ว...เสร็จหรือยังจ๊ะคนจ๋วย”จุ้นอมยิ้มพยักหน้าหงึก หงึก ปอมทำหน้าเจ้าเล่ห์
เดินเข้ามาหา นั่งไปบนโต๊ะทำงานจุ้น

“ยิ้มอะไร..บอกมาซะดีๆ”จุ้นยังนั่งยิ้มอยู่

“แกไม่อายปากมั่งเหรอปอม..ชมตัวเองก็เป็นด้วย”ปอมเลิกคิ้ว

“นั่นแน่คุณแม่! แอบฟังเค้าคุยกันด้วย”จุ้นหัวเราะ แล้วปอมก็ต่อ

“จะไปเขิลล์ไปอายทำไมล่ะจุ้น..พูดเรื่องจริงหลักฐานมันก็เห็นๆอยู่”เอานิ้วชี้ไปที่หน้าตัวเอง จุ้น
ยิ้มหมั่นไส้ ค่อยๆลุกจากเก้าอี้

“หล่อตายล่ะ!” ปอมหัวเราะมองหน้าจุ้น

“ผมทรงนี้เข้ากับหน้าแกจัง...น่ารักดี”จุ้นค้อนควับ

“แกพูดประโยคนี้มาเป็นสิบๆ แล้วมั้งปอมตั้งแต่วันที่ฉันตัดน่ะ..จนฉันเก็บเอาไปฝันแล้ว
เนี่ย”ปอมเลิกคิ้ว

“จริงง่ะ!..งั้นฉันก็ต้องพูดอีกเยอะๆฉันจะได้อยู่ใกล้ๆแกไง..อันตัวพี่นี้จะอยู่มิห่างเจ้า..ทั้งยาม
หลับและยามตื่น”ทำหน้าทำตาซึ้ง จุ้นยู่จมูกส่งให้

“แหวะ! เน่าสนิท”ปอมหัวเราะ เอื้อมมือมาลูบหน้าท้องจุ้น

“วันนี้ลูกดิ้นหรือเปล่าจุ้น!”จุ้นพยักหน้า

“เจ็บมากมั๊ย!”

“นิดหน่อยปอม..ไม่มากเท่าไหร่”ปอมยกมือขึ้นจับใบหน้าจุ้น

“ฉันสงสารแกจัง..ทนอีกนิดนะคนดี..อีกสามเดือนเท่านั้น”จุ้นยิ้มส่งให้

“ฉันไม่ต้องทนเลยปอม..มันเจ็บก็จริงแต่มันมีความสุข..วันไหนลูกไม่ดิ้นสิฉันจะคิดไปต่างๆ
นาๆ..เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงฉันปอม..ฉันมีความสุขดี”ปอมยิ้ม ชะโงกหน้ามาจุ๊บ!ที่หน้า
ผากจุ้นเบาๆ

“เก่งจัง! คนจ๋วย”

“อะแฮ่ม! อะแฮ่ม!” เสียงแนงกระแอม กระไอเข้ามา ปอมหันไปมองอมยิ้ม

“เป็นอะไรไอ้แนง อะไรติดคอ..ให้ฉันช่วยล้วงมั๊ย!”แนงค้อนควับ เดินเข้ามาในห้อง

“ไปกันยังจุ้น...เดี๋ยวรถติด”ปอมทำหน้าฉงน

“ไปไหนกัน”

“ไปเป็นเพื่อนไอ้แนงลองชุด”ปอมเลิกคิ้ว

“อ้าว! ไอ้อ๊อดล่ะ..ทำไมไม่ให้ว่าที่เจ้าบ่าวไปเป็นเพื่อน..และมันไม่ลองเหรอ”จุ้นทำปากจึกจัก

“ไอ้อ๊อดมันติดงาน..อย่าถามมากน่าปอม!”ปอมตาเหลือก

“อ้าว! ก็ไม่รู้ถึงถามไง...ถ้ารู้แล้วจะไม่ถาม”มีเถียง มีเถียง แนงหน้ามุ้ย

“ถ้าพวกแกไม่สะดวกเดี๋ยวฉันไปเองก็ได้”งอน! จุ้นขึงตาใส่ปอม..ปอมทำหน้าเหวอ..แล้วจุ้นก็
รีบเดินเข้ามาหาแนงจับมือแนงไว้

“สะดวก..พวกฉันสะดวก..ไปกันเลยมั๊ย!”ชวนยิก ยิก ปอมรีบส่งเสียงมาบ้าง

“ใช่!..ใช่! ไปกันเลยมั๊ย..เดี๋ยวฉันจะขับให้นั่งเอง..รับรองปลอดภัยหายห่วง”ประจบ ประจบ ทำ
หน้าแป้นแล้น รีบเดินเข้ามาจับมือแนงอีกข้างนึง หน้าแนงยังคงความมุ้ยอยู่

“พวกแกสะดวกแน่นะ!”ยังไม่แน่ใจ ปอมยิ้ม

“สะดวกสิจ๊ะ! แนงจ๋า...และก็เป็นบุญของปอมด้วยน้า..วันนี้ได้ควงจ๋าวจ๋วยถึงจ๋องคนแหนะ...
น้ำหนักรวมกัน 130 อัพ..รับไหว! รถปอมรับไหว..บ่!หยั้น..เรื่องแค่นี้ จิ๊บ! จิ๊บ! หนักกว่านี้เคย
มาแล้ว”ทีนี้ค้อนส่งให้ปอมทั้งคู่เลย ปอมหัวเราะรีบดึงแขนแนงใหญ่

“ล้อเล่น!..ไป ไป..เดี๋ยวช้ารถติดไม่รู้ด้วย”นั่นแหละถึงจะเคลื่อนย้ายออกจากห้องจุ้นได้.......

ปอมปล่อยให้สาวๆเข้าไปลองชุด.. ตัวเองนั่งอ่านหนังสือรออยู่ข้างนอก ซักแป๊บเสียงประตูร้าน
ก็เปิดออก เงยหน้าขึ้นมองพอเห็นหนุ่มสาวที่กำลังก้าวเดินเข้ามาเท่านั้นแหละ..รีบหันหน้าหนี
ทันทีบ่นพึมพำ

“ทำไมโลกมันกลมอย่างงี้วะ...เบี้ยวบ้างก็ได้” รีบก้มหน้างุด ทำท่าอ่านหนังสือจริงจังมาก

“คุณปอม”เสียงหญิงสาวเอ่ยทักขึ้น ปอมถอนหายใจเบาๆ..ตาดีจริงวุ้ย!..ค่อยๆหันมาส่งยิ้มให้

“อ้าว! หวัดดีครับคุณแพร..คุณพล..โลกกลมจัง..เจอกันอีกแล้ว!”แพรหัวเราะ พลส่งยิ้มให้และ
ก็นั่งลงตรงโซฟารับแขกทั้งคู่

“แพรมาตัดชุดค่ะ...และคุณปอมล่ะคะมาทำอะไร?...อย่าบอกนะคะว่ามาลองชุดเจ้าบ่าว?..คุณ
จุ้นมาด้วยหรือเปล่าคะ?...น่าจะมานะ!...และคุณจุ้นอยู่ไหนคะเนี่ย!?”ถามยาวสายตาก็สอดส่าย
หา..พลขมวดคิ้ว..ปอมกำลังจะเอื้อนเอ่ยแต่เสียงพนักงานในร้านขัดขึ้นซะก่อน

“คุณแพร..มาถึงแล้วเหรอคะเชิญข้างในเลยค่ะตอนนี้ช่างรออยู่ข้างในแล้ว”แพรพยักหน้าส่ง
ให้ และก็หันมาหาปอม

“แพรขอตัวนะคะ”ว่าแล้วก็ลุกฉับ เดินตามพนักงานเข้าไป ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งอยู่ในความ
เงียบกันสองคน แล้วเสียงพลก็ทำลายความเงียบขึ้นมาเบาๆ

“แปลกนะครับ...เวลาแพรอยู่กับผมคำพูดที่ออกจากปากเค้ามันนับคำได้เลย..ถามคำตอบคำ
ไม่เหมือนเวลาที่อยู่กับคุณดูจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน” ปอมเงยหน้าจากหนังสือ

“ชอบเค้าที่เป็นแบบไหนล่ะครับ!” หันมายิ้มส่งให้...พลหัวเราะตอบ

“ก็คงจะทั้งสองล่ะมั้งครับ..แต่อย่างหลังก็ดูแปลกดีไม่เหมือนเดิมดูมีชีวิตชีวาหน่อย”ปอมยิ้ม
มือก็ค่อยๆวางหนังสือไว้บนโต๊ะ ปากก็เอื้อนเอ่ยออกมาเบาๆ

“จุ้นเคยบอกผมว่า..คุณแพรมีสองบุคลิกอยู่ในตัว..เย็นกับร้อน”พลเลิกคิ้ว ปอมเห็นก็หัวเราะ
ออกมา

“เชื่อคำพูดจุ้นมั๊ยครับ!...ผมไม่เชื่อหรอกเพราะผมไม่ได้ใกล้ชิดกับคุณแพรโดยตรงถึงกับจะรู้
นิสัยเค้า...แต่คุณพลน่าจะรู้ดีกว่าเพราะใกล้กันมานาน”พลยิ้มส่ายหน้าให้

“ผมสารภาพตามตรง..ผมก็ยังดูไม่ออก”

“ดูไม่ออก..หรือว่าไม่ได้ดู”พลนิ่ง ปอมยิ้มตาหยีส่งให้แล้วก็ต่อ

“อย่าถือสานะครับถ้าผมจะพูดตรงๆ...มันไม่เหมือนกันนะครับไอ้สองคำเนี้ย..มันแตกต่างกัน
อย่างสิ้นเชิง..ดูไม่ออกคือเราสนใจเค้า..แต่ไม่ได้ดูคือไม่ได้สนใจ..ไม่รู่ว่าคุณพลเป็นแบบ
ไหน..แต่มันก็น่าจะอย่างแรกอยู่แล้วอ่ะเนอะคนรักกันก็ต้องสนใจกัน...แต่ผมก็ยังแปลกใจ
ทำไมจุ้นถึงรู้นิสัยคุณแพรได้เพียงแค่เวลาไม่กี่ชั่วโมง..หรือว่าเค้าเป็นผู้หญิงด้วยกันเค้าดูกัน
ออก” แกล้งทำหน้าฉงน พลอมยิ้มเอนตัวพิงพนักโซฟา ถอนหายใจเฮือก

“หรอกด่าผมหรือเปล่าครับเนี่ย!”ปอมทำตาโต

“เปล่าครับ!...ผมแค่พูดให้ฟังเฉยๆ ไม่มีเจตนาใด ใดทั้งสิ้น”พลหัวเราะหึ หึ แล้วเสียงโทรศัพท์
ของพลก็ดังออกมา พลคุยได้ซักแป๊บก็วางสาย..หันหน้ามาหาปอมใหม่

“ก็อาจจะจริงอย่างที่คุณว่า..ผมอาจจะไม่ค่อยสนใจเค้าก็ได้..ก็เลยไม่ค่อยเข้าใจเค้าเท่าไหร่
ขนาดคบกันมาตั้งสามปีกว่าแล้ว”ปอมยิ้มส่งให้

“ผมเคยอ่านหนังสืออยู่เล่มนึง..เค้าบอกไว้ว่าอยากให้เค้าเป็นอย่างที่ใจเราปราถนา..เราก็ต้อง
เป็นอย่างที่ใจเค้าปรารถนาด้วยเช่นกัน...การที่เธอเงียบระหว่างที่อยู่กับคุณมันเป็นไปได้หรือ
เปล่า ที่คุณก็เงียบด้วยเช่นกันระหว่างที่อยู่กับเธอ..คุณอยากให้เธอพูดเยอะๆ คุณก็ต้องเป็นนัก
ฟังที่รับฟังเยอะๆได้ด้วย...คุยกันสิครับ!มันไม่ยากที่จะเริ่ม..พอเริ่มแล้วมันก็ยากที่จะหยุดและ
ก็จะกลายเป็นความเคยชิน..จนกลายเป็นเรื่องปกติที่เราทำเป็นประจำและก็จะติดเป็นนิสัย..
บางทีคุยกันมากๆซักสามวันอาจจะเรียนรู้นิสัยกันได้มากกว่าคบกันมาสามปีก็ได้ใครจะไป
รู้”พลยิ้มมือก็ลูบโทรศัพท์ไปด้วย

“ทำงานผิดสาย..ผิดอาชีพหรือเปล่าครับคุณปอม ไม่น่าจะเป็นช่างภาพน่าจะไปเป็นพวกแพทย์
ทางด้านจิตวิทยามากกว่า..พูดจาน่าเชื่อถือ” ปอมหัวเราะ

“ผมมันก็ประเภทครูพักลักจำน่ะครับ อันไหนดีก็เก็บเข้าหัว..และก็อย่าให้ผมเปลี่ยนอาชีพเลย
เดี๋ยววงการแพทย์เค้าจะดิ่งลงเหวกันหมด”หัวเราะ หึ หึ สายตาก็เหลือบไปมองโทรศัพท์ที่มือ
พล และก็เอาใหม่

“โทรศัพท์รุ่นไหนครับ..ท่าทางจะ Optionเพียบ!..มี Menu ป้องกันแฟนหายมั๊ย!”ยิ้มตาหยีส่ง
ให้ พลนิ่งอยู่แป๊บนึง และก็หัวเราะส่งมา

“เชือดผมนิ่มๆ อีกแล้วคุณปอม...แพรคงคุยให้พวกคุณฟังล่ะสิว่าผมติดโทรศัพท์มาก”ปอมยิ้ม
ส่ายหน้าส่งให้

“ไม่หรอกครับเธอไม่เคยพูด..แต่ผมสังเกตเห็นน่ะครับ..จะว่าอะไรมั๊ย!ถ้าผมจะพูดตรงๆ”พล
พยักหน้า

“เชิญครับ”ปอมยิ้ม

“ตอนผมเห็นพวกคุณสองคนครั้งแรกที่พัทยา..บนเรือน่ะ!...อ้อ!บอกก่อนนะครับคือมันเป็น
อาชีพ มันฝังอยู่ในสายเลือดแล้ว ที่พอมองอะไรแล้วก็ต้องคิดวิเคราะห์ตาม...ความรู้สึกแวบ
แรก!ที่ขึ้นมาในสมองผมหลังจากที่ผมมองคุณแพรก็คือ..ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยจัง”ยิ้มแป้น
แล้นส่งให้..และก็รีบทำปากจุ๊! จุ๊! ”ผมไม่ได้คิดอกุศลนะครับ..อันนี้พูดในฐานะช่างภาพ..และก็
อย่าไปบอกจุ้นด้วยนะครับเดี๋ยวงอน! ช่วงนี้อารมณ์ยิ่งปรวนแปรอยู่” พลหัวเราะเสียงดัง

“ไม่บอกครับ ปิดปากเงียบ”ทำมือรูดซิบที่ปาก ปอมยิ้มและก็พูดต่อ

“คุณแพรหน้าตาสวยมาก..โครงหน้าแบบนี้แหละช่างภาพอย่างพวกผมจะชอบ ถ่ายมุมไหนก็ดู
ดีไปหมด...ทำให้ต้องหันไปมองซ้ำอีกรอบนึง..แต่แปลกพอมองแวบที่สองความเศร้าหมองมัน
เริ่มมาบดบังความสวยของเธอซะแล้ว..แววตาเธอดูเศร้าพิกล มันดูเหมือนเธอแบกความทุกข์
ไว้จนหนักอึ้งก็ไม่ปาน” พลนั่งฟังนิ่ง

“แล้วผมก็เหลือบมองคุณ..มองหลายหนอยู่เหมือนกัน..ประมาณว่าตั้งแต่ลงเรือยันขึ้นจากเรือ
เลยก็ว่าได้..รู้มั๊ยว่าผมรู้สึกยังไงตอนนั้น”พลส่ายหน้า ปอมหัวเราะ

“ห้ามเคืองผมนะ!”

“เชิญครับไม่มีปัญหา”ปอมยิ้ม

“ความรู้สึกของผมตอนนั้นก็คือ..ไอ้ผู้ชายคนนี้นี่โง่จัง! ไม่รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์..มากับ
แฟนแท้ๆ แต่กลับโทรศัพท์คุยกับคนอื่น..ไม่ให้เกียรติ์ความรู้สึกของผู้หญิงที่มาด้วยเลย..เห็น
แก่ตัวชะมัด”พลนิ่งอึ้ง เอามือลูบหน้าและก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“หน้าชาเลย..ผมนี่มันไม่ได้เรื่องขนาดนั้นเลยเหรอ!”ปอมยิ้ม

“นั่นคือความรู้สึกของผมกับสิ่งที่ผมเห็น...ผมก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าไอ้เจ้าปัจจัยที่ห้าที่หก..ที่
คุณกำลังใช้อยู่นี่มันเป็นอีกตัวนึงที่บั่นทอนความรู้สึกของคุณแพรที่มีต่อคุณให้มันลดน้อยถอย
ลงบ้างหรือเปล่า..แต่ถ้าผมเป็นเธอ ผมก็คงจะน้อยใจล่ะ..ดูเหมือนตัวเรามันไร้ค่ายังไงไม่รู้
เหมือนไม่มีความสำคัญ”พลหันมามอง

“ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย..ตลอดเวลาที่คบกัน แพรไม่เคยเอ่ยปากบ่นออกมาซักคำ..เกี่ยวกับ
ไอ้เรื่องโทรศัพท์เนี่ย”ปอมหัวเราะ

“รีบคิดเถอะครับ!..ถ้าคุณยังแคร์เธออยู่และก็ยังอยากที่จะมีเธออยู่ใกล้ๆ..คุยกับเธอให้มากขึ้น
เหมือนที่คุณคุยกับคนอื่น..ผมว่าคุณจะเรียนรู้นิสัยเธอได้เร็วขึ้นอีกเยอะ”พลยิ้ม เอนกายพิง
เบาะ

“ขอบคุณมากครับที่แนะนำ..เอาเป็นว่าผมจะทำตามที่คุณบอกแล้วกันมันน่าจะดีขึ้น...คุยกับ
คุณแล้วเพลินดี..ว่างๆนัดเจอกันหน่อยมั๊ยครับ..ไม่ทราบคุณปอมตีกลอฟ์หรือเปล่า..มานัดดวล
วงสวิงกันหน่อย”ปอมหัวเราะหึ หึ ยิ้มตาหยี

“สงสัยจะไม่ไหวมั้งครับไอ้เรื่องตีกง..ตีกลอฟ์เนี่ย..ไม่ถนัดเพราะมันไม่เคย..ถ้าเปลี่ยนเป็น
ตีกบแถวๆตามคันนานี่โอเคเลย มีลุ้นหน่อย”พลหัวเราะเสียงดัง

“คุณนี่ตลกดี!..คุยด้วยแล้วอดหัวเราะไม่ได้”ปอมยิ้ม

“ดีแล้วครับ..หัวเราะวันละนิดจิตแจ่มใสอย่าไปเครียดเลย เรามีความสุขคนข้างๆเราก็จะพลอย
มีความสุขไปด้วย”พลยิ้มเพลียๆ ส่งให้

“เลือดผมออกซิบๆหมดแล้วคุณปอม...ค่อยๆเฉือนผมทีละนิด! ทีละนิด”แล้วก็ถอนหายใจออก
มา..เอื้อนเอ่ยออกมาเบาๆ

“วันนี้ล่ะมั้งที่ผมได้หัวเราะเต็มๆเสียง รู้สึกมันได้ปลดปล่อยออกมาบ้าง..และก็เป็นวันที่ไม่ต้อง
พูดรับฟังอย่างเดียว นานๆถึงจะมีซักครั้ง..ผมยังเคืองพ่อกับแม่ผมไม่หายที่ส่งผมไปอยู่ต่าง
ประเทศตั้งแต่เด็กๆ..เพื่อนสนิทก็เลยไม่ค่อยจะมี..ชีวิตทำแต่งานและก็ออกงานสังคมตลอด..
วนเวียนอยู่อย่างนี้แหละ..ยิ่งตำแหน่งสูง ภาระความรับผิดชอบก็สูงตามไปด้วย..เพื่อนที่คุย
ด้วยแล้วเข้าใจก็หาได้ยากขึ้นไปอีก...บางทีก็ยัง งงๆ ตัวเองเหมือนกันว่าจะทำไปทำไม..แต่ยัง
ตอบตัวเองไม่ได้เท่านั้นแหละ..กับแพรนี่ก็ผู้ใหญ่สองฝ่ายจัดการให้” ปอมเลิกคิ้ว พลส่งยิ้มให้

“จริงๆครับ..คุณคงไม่เชื่อล่ะสิว่าสมัยนี้ยังมีหยั่งงี้อยู่...แต่มันเป็นอย่างงั้นจริงๆ..ผู้ใหญ่รู้จักกัน
และก็จัดการให้..จับหมั้นกันให้เสร็จสรรพ..ดีที่ผมกับแพรไม่เรื่องมาก..ไม่ดื้อว่างั้นเหอะ..และ
ต่างคนต่างก็ยังไม่มีใคร มันก็เลยไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไหร่..ผู้ใหญ่เห็นดีก็ว่าดีด้วย...ก็คบกัน
มาตั้งแต่นั้น..ชีวิตผมไม่ค่อยได้หัวเราะดังๆมากนักหรอก..เพราะมันไม่ค่อยมีคนคุยด้วยแล้วถูก
คอ” แล้วเสียงโทรศัพท์พลก็ดังออกมา พลยกขึ้นดูเบอร์และก็กดวางสาย..เสียงโทรศัพท์ดัง
ขึ้นอีกครั้งนึง พลกดวางอีกรอบ ปอมนั่งมองอมยิ้ม ปากก็เอื้อนเอ่ยออกมา

“ตอนอยู่กับคุณแพร เวลามีโทรศัพท์เข้าคุณพลลองกดวางสายซักสองสามรอบ หรือไม่ก็คุย
กับปลายสายซักนิดนึงและก็รีบวางหู ถ้าจะให้ดีปิดโทรศัพท์ต่อหน้าเธอซะ..และคุณก็จะมีคน
คุยถูกคอเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” พลยิ้ม

“จริงเหรอครับ!”ปอมยิ้มตอบ พยักหน้าส่งให้

“จริงๆครับ..ทฤษฎีนี้ใช้ได้ผลจริงๆ..จะมีอะไรที่ดีไปกว่า คนที่เรารักสนใจเรามากกว่าคนอื่นล่ะ
ครับ..แล้วคุณจะได้ตามประสงค์”พลหัวเราะเสียงดัง

“วันนี้ได้หลายบนเรียน..ถ้าได้ผลจะรีบมาสมนาคุณให้”ปอมหัวเราะ และมีอันต้องหันหน้าไป
มองทางเดินกันทั้งคู่ เห็นแพรเดินคู่มากับจุ้น ส่วนแนงยังคุยกับช่างอยู่ข้างใน

“แพ้มั๊ยคะคุณจุ้น”

“ไม่ค่ะไม่แพ้..เป็นปกติดี”แพรยิ้ม มีส่งค้อนให้นิดๆ ด้วย

“นี่ถ้าแพรไม่เห็นท้องคุณจุ้น..แพรก็คงไม่รู้ว่าคุณจุ้นท้อง คราวที่แล้วที่เจอกันแพรก็ไม่ได้
สังเกต”จุ้นยิ้มส่งให้ แล้วก็เดินมาถึงตรงที่หนุ่มๆนั่งกันอยู่ ปอมจับมือจุ้นดึงมานั่งข้างๆ แพรรีบ
หันหน้ามาหาพล

“พี่พลคะ..คุณจุ้นท้องแล้ว”พลยิ้ม ส่งเสียงถามจุ้น

“กี่เดือนแล้วครับ”

“หกเดือนกว่าแล้วค่ะ”

“ดีใจด้วยนะครับ คุณจุ้นคุณปอม”ปอมอมยิ้ม

“ขอบคุณครับ”แล้วพลก็หันไปหาแพร ส่งเสียงถามเบาๆ

“เสร็จแล้วใช่มั๊ยแพร..จะกลับเลยหรือเปล่าหรือจะไปไหนต่อ” แพรเลิกคิ้วแปลกใจ..วันนี้ถาม
ความเห็นด้วย!..แล้วก็ยิ้มออกมา

“เสร็จแล้วค่ะ..กลับเลยก็ได้”พลพยักหน้า หันมาหาปอม หยิบนามบัตรในกระเป๋าสตางค์ยื่นส่ง
ให้

“มีอะไรให้รับใช้บอกนะครับ..ยินดีเสมอ!..อ้อ! เห็นคุณพ่อผมบอกว่า ติดต่อบริษัทฯคุณให้ทำ
โฆษณาให้..อีกหน่อยเราคงได้ร่วมงานกัน”ปอมยิ้ม หยิบนามบัตรในกระเป๋าส่งให้พลเช่นกัน

“ยินดีครับ!”ล่ำลากันซักครู่..กำลังจะถึงประตู เสียงโทรศัทพ์พลก็ดังออกมา แพรทำหน้าเอือม
พลยกขึ้นดูเบอร์สายตาก็เหลือบมองปอมไปด้วย..เห็นปอมนั่งอมยิ้มมองอยู่ก็กดรับกรอกเสียง
ลงไป

“ครับ!ว่าไง.....อยู่กับแพรครับ”

“ตอนนี้คงไม่ได้ครับ..ไม่ว่าง!..แล้วผมจะนัดอีกทีแล้วกัน”ใบหน้าแพรเริ่มปรากฏรอยยิ้ม พล
หันมาเห็นพอดีก็ส่งยิ้มให้

“ครับ! งั้นแค่นี้นะครับ”กดปุ่มวางสาย และก็ปิดเครื่องให้แพรเห็น แพรตาโต

“ปิดเครื่องทำไมคะ”พลหัวเราะเบาๆ

“ไม่อยากรับ..อยากคุยกับแพรมากกว่า”แพรอมยิ้ม จับมือกันเดินออกไป ก่อนตัวพลจะพ้น
จากประตูมีหันมาหาปอม ทำมือตะเบะส่งให้ปอมด้วย..ปอมหัวเราะแล้วพลก็ลับหายไป..จุ้นตี
ขาปอมเบาๆ

“เป็นอะไรปอม! หัวเราะอยู่ได้” ปอมหันมาหาจุ้น หน้ายังยิ้มอยู่ยกมือจุ้นขึ้นหอมฟอด ๆ

“ก็ปอมขำอ่ะ..ขำก็ต้องหัวเราะสิ..ไม่หัวเราะเดี๋ยวอึดอัดตาย” จุ้นส่งค้อนให้หมั่นไส้ ปอมยิ้ม
แป้นแล้น

“ว่าแต่! ทำไมจุ้นเข้าไปนานจังเลยอ่ะ..ปอมคิดถึงจุ้นที่ซู๊ดดดด! คิดถึง! คิดถึง! คิดถึง!”กอด
กอด กอด จุ้นหัวเราะ

“ไอ้บ้าปอม! ปล่อยยยย! มันอึดอัด”นั่นแหละถึงคลายอ้อมกอดลงได้ นั่งยิ้มพริ้มจ้องหน้าจุ้น
อยู่งั้น...จุ้นยิ้มบ้าง

“เป็นอะไรไอ้ปอม! จ้องอยู่ได้”

“รักจุ้น! รักจุ้น! รักจุ้น!”จุ้นหัวเราะออกมา

“แกเป็นบ้าอะไร..ไอ้ปอม..พูดเป็นนกแก้วนกขุนทองเลย”

“ก็ปอมอยากบอกอ่ะ!” จุ้นยังยิ้มอยู่

“ไอ้ต๊อง!” ปอมยิ้มแป้นแล้น..แล้วจุ้นก็นึกขึ้นได้ทำตาโต

“เออ!ปอม..เมื่อกี้แกเห็นมั๊ย!..ท่าทางคุณพลกับคุณแพรจะไปกันได้ด้วยดีแล้วนะ..ดูฝ่ายชาย
ท่าทางจะเอาใจฝ่ายหญิงแล้วด้วย..ไม่เหมือนคราวก่อนๆที่เราเคยเห็น”ปอมแกล้งเลิกคิ้ว

“เหรอ!” จุ้นพยักหน้า หงึก หงึก

“อึมม!ดูเค้าเปลี่ยนไปน่ะ ดูสนใจใส่ใจคุณแพรมากขึ้น..และก็ไม่ได้เป็นยอดมนุษย์อย่างที่แก
เคยบอกไว้แล้วด้วย หูไม่ติดโทรศัพท์”ปอมแกล้งทำตาโต

“จริงง่ะ!”

“จริง! จริง!”พยักหน้าอีกรอบ แล้วก็ยิ้มพริ้มเห็นลักยิ้มบุ่ม

“ฉันล่ะดีใจแทนคุณแพรจัง..เมื่อกี้ฉันเห็นเธอยิ้มออกมาจากในตาด้วยล่ะ..ที่ผ่านมารอยยิ้ม
ของเธอมันดูฝืนๆ..เฝื่อนๆชอบกลมันไม่เป็นธรรมชาติ”ปอมนั่งอมยิ้ม พูดออกมาเบาๆ

“ดีใจกับเค้ามากเลยเหรอจุ้น”จุ้นยิ้มส่งให้

“อึมม!..เห็นเค้ามีความสุขแล้วมันสบายใจ...ผู้หญิงอย่างฉันอย่างคุณแพรไม่ต้องการอะไรมาก
หรอกปอม..แค่คนที่เรารักสนใจใส่ใจแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว..ไม่ต้องการอะไรมากเลย”ปอม
หัวเราะ

“แกนี่น่าจะไปประกวดนางงามเนอะ..สงสัยคงจะคว้านางงามมิตรภาพ”แล้วก็แกล้งบีบเสียงเล็ก
เสียงน้อยออกมา เลียนแบบจุ้น..มือก็ยกขึ้นโบกไปข้างหน้า

“จุ้น!รักเด็กค่ะ..จุ้นน!จะทำทุกอย่างให้โลกนี้สงบสุข..โลกนี้จะมีแต่สันติภาพ..เลือกจุ้นเถอะค่ะ
แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง!...อุ้ยส์..จุ้น! จุ้น! จุ้นจ๋า..อย่าแหนบ! ปอมเจ็บ”โอดครวญใหญ่ หลังจาก
เจอแหนบไปที่ชายโครง แล้วจุ้นก็ปล่อย มีค้อนส่งให้ทีนึงด้วย นัยย์ตามีอมยิ้มเล็กน้อย

“ปากดีนักไอ้ปอม”ปอมยิ้มตาหยี มือก็ลูบชายโครงปร้อยๆ

“ล้อเล่น! ปอมล้อเล่นเฉยๆอ่ะ”ประจบ ประจบ จุ้นอมยิ้มหมั่นไส้ แล้วปอมก็เปลี่ยนเรื่อง

“ว่าแต่ไอ้แนง!มันไปทำอะไรอยู่จุ้น!..ทำไมมันนานจังป่านนี้มันยังไม่ออกมาเลย”

“แก้แบบอยู่..ช่างตัดผิด”ปอมเลิกคิ้ว

“อ้าว! แล้วมันจะทันเหรอ..จะแต่งอยู่อาทิตย์หน้านี่แล้ว”

“ทัน! เค้าบอกว่าจะเร่งให้”ปอมพยักหน้า หงึก หงึก..แล้วก็ยิ้มแป้นแล้นออกมา กระซิบออกมา
เบาๆทำเป็นมีความลับจัด

“จุ้น!..ท่าทางมันจะนาน สงสัยต้องวัดกันอีกเยอะ..ไม่ต้องไปรอมันหรอก..เราย่องกลับบ้านกัน
มั๊ย! โอ๊ยยย!”ร้องเสียงดังลั่นเอามือกุมหัว..เจอมะเหงกส่งมาจากข้างหลัง รีบหันไปมองเห็น
แนงยืนทำหน้าขมึงทึงอยู่

“นี่แหนะ ไอ้ปากมอม..จะย่องกลับบ้านเหรอ”จุ้นหัวเราะ ปอมค้อนใส่แนงควับ! ควับ!

“อื้อหือ!ไอ้แนง..แกใช้อะไรเขกวะน่ะ..หนักฉิบเป๋ง!..ทีหลังก็หาไม้หน้าสามซะเลยสิจะได้
สะใจ”

“เออ! ทีหลังฉันจะพกไว้เลย..เอาไว้ล่อหัวกบาลไอ้หมาปากมอมซะหน่อย”แล้วก็นั่งกระแทก
ไปบนโซฟาหน้าบึ้ง หงุดหงิดไปหมด ปอมมองหน้าแนงเห็นท่าไม่ได้การ รีบแถมานั่งซะชิด ยิ้ม
แป้นแล้น

“เป็นอะไรอ่ะตัวเอง..โกรธเค้าเหรอ!”ประจบ ประจบ จุ้นนั่งมองอยู่อมยิ้มส่ายหัวให้ปอม เอือม!
แนงยังเงียบอยู่ ปอมยิ้มแหยๆ

“เค้าขอโทษ..ไม่ได้จะไปจริงๆ ซักหน่อย..จะหยอกจุ้นมันเฉยๆอ่ะ!”เท่านั้นแหละ แนงน้ำตาซึม
ออกมาเลย ปอมตาเหลือก

“อ้าวเฮ้ย!...เป็นอะไรไอ้แนง..โอ๋! โอ๋!”รีบดึงหัวแนงมาซบอก..จุ้นรีบลุกเดินอ้อมมานั่งข้างๆ
แนง ลูบหลังลูบไหล่ให้ใหญ่ ส่งเสียงถามออกไป

“เป็นอะไรแนง”แนงสะอื้น เฮือกๆ ถอยออกมาจากตัวปอม สูดน้ำมูกฟึด! ฟึด!

“ฉันแค่รู้สึก หงุดหงิด..น้อยใจนิดหน่อยเท่านั้นแหละ”จุ้นเงยหน้าขึ้นมาส่งค้อนให้ปอม
โทษฐานก่อเรื่อง ปอมหน้าเบ้

“แกยังไม่ชินปากไอ้ปอมอีกเหรอแนง..มันพูดเล่นเท่านั้นเอง”แนงยิ้มยกมือเช็ดน้ำตาปร้อยๆ

“ฉันรู้! ทำไมฉันจะไม่รู้..ปากมันจะเป็นรองก็แต่ไอ้อ๊อดเท่านั้นแหละ..ไม่งั้นพวกมันจะเป็น
เพื่อนสนิทกันได้เหรอ”ปอมตาเหลือก

“อ้าว! ไอ้คู่นี้..นินทากันระยะเผาขน นั่งหัวโด่อยู่นี่”สองสาวหัวเราะพร้อมกัน..แนงหัวเราะไป
ด้วยสูดน้ำมูกไปด้วยเหมือนเด็ก ปอมมองก็อมยิ้มพูดออกมาเบาๆ

“น้อยใจฉันเหรอแนง..ฉันขอโทษ”แนงหันมายิ้มส่งให้สะอื้น เฮือกๆ

“ไม่หรอก!..แกมันแค่ตัวกระตุ้นต่อมน้อยใจเท่านั้นแหละ..จริงๆฉันหงุดหงิดอยู่แล้ว..ดูอะไรๆ
มันไม่ได้อย่างใจไปซะหมด..ไอ้นั่นก็ไม่เสร็จไอ้นี่ก็ไม่ทันมันฉุกละหุกไปหมด..แถมวันนี้ฉันก็
ต้องรบกวนพวกแกให้มาเป็นเพื่อนอีก..ช่วงนี้ไอ้อ๊อดมันก็ไม่ค่อยว่าง ทั้งๆที่รู้นะว่ามันติดงาน...
แต่มันก็ยังอดน้อยใจไม่ได้มันเหมือนฉันวิ่งอยู่คนเดียว..บางทีฉันก็อยากจะยกเลิกงานซะให้รู้
แล้วรู้รอด ไม่ต่งไม่แต่งมันแล้ว..เอาไว้ค่อยพร้อมกันจริงๆ ว่างกันจริงๆค่อยมาคิดกันใหม่ มัน
เบื่อ! มันหงุดหงิดไปหมดอ่ะ”จุ้นเอื้อมมือมาจับมือแนงไปกุมไว้

“แกไม่เห็นเคยบอกพวกฉันเลยแนง”แนงหัวเราะเบาๆ

“ฉันเกรงใจพวกแกน่ะ...เฉพาะงานของบริษัทฯ ก็มากมายก่ายกองอยู่แล้ว ไม่อยากให้ต้องมา
กังวลเรื่องฉันอีก”ปอมหัวเราะยกมือโยกหัวแนงไปมา

“ไอ้แนงเอ้ย! คิดเป็นเด็กๆ..มันน่าจับตีก้นซะให้เข็ดมั๊ยนี่!..เพื่อนเค้ามีไว้ทำอะไรล่ะแนง..คบ
กันมาเจ็ดแปดปีแกยังไม่รู้ใจไม่รู้นิสัยพวกฉันอีกเหรอ..แกยิ่งเป็นแบบนี้มันจะพลอยทำให้พวก
ฉันกังวลหนักขึ้นไปอีก..ทีหลังมีอะไรก็บอกๆมาเลยอย่าคิดเองคนเดียว หลายๆหัวมันดีกว่าหัว
เดียว..รู้มั๊ยไอ้อ้วน” ยีหัวแนงซ้ำ แนงหัวเราะออกมา..น้ำตาแห้งเหือดหายไปแล้ว จุ้นนั่ง
มองอมยิ้ม แล้วปอมก็ต่อ

“ไหน! ไอ้อ๊อดมันไปไหน มันติดงานอะไรเดี๋ยวฉันจะลากมันมาเตะซักหน่อย..ปล่อยให้น้องหมู
เคว้งอยู่ได้ไงคนเดียว”แล้วก็ต้องสะดุ้ง เจอฝีมือน้องหมูหยิกไปที่ท้องแขน แนงมองตาขวาง

“คำก็หมู..สองคำก็ไอ้อ้วน..ฉันลดแล้วย่ะ..หายไปตั้ง7 กิโล”ปอมทำตาโต แกล้งมองสำรวจไป
ทั่วตัวแนง

“ตรงไหนล่ะแนง..ตรงไหน!ไอ้ที่มันลดน่ะ..ส่วนหัวเหรอ..ฉันก็เห็นมันยังกลมๆ ป้อมๆเหมือน
เดิมนะ”แล้วก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เจอแหนบไปอีกที จุ้นนั่งหัวเราะเสียงดัง ปอมยิ้ม

“มา! เอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวฉันจะโทรหาไอ้อ๊อดเอง”ยื่นมือมาตรงหน้าแนง..แนงขมวดคิ้ว

“มันติดลูกค้าอยู่คงมาไม่ได้หรอก”ปอมทำปากจึก จัก

“เหอะน่า!” จุ้นหมั่นไส้

“แล้วโทรศัทพ์แกไปไหน ไอ้ปอม!” ปอมชะโงกหน้ามายิ้มตาหยีส่งให้

“แฮะ! แฮะ! ลืมไว้ที่บ้าน”จุ้นหัวเราะหึ หึ

“ประจำ!” แล้วแนงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋า พอเห็นโทรศัพท์เท่านั้นแหละทำหน้าแหย
เลย

“แบต!หมด อ่ะปอม” ปอมทำปากจึก จัก

“วัยรุ่นเซ็งเลย” แล้วก็ชะโงกหน้ามาหาจุ้น

“มา! ไอ้จุ้นเอาของแกมา เดี๋ยวจะเฉ่งไอ้อ๊อดซะหน่อย”ทำหน้าตาขึงขัง จุ้นหัวเราะ คว้า
โทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมา แล้วก็ต้องแปลกใจโทรศัพท์ปิด บ่นออกมาเบาๆ

“อ้าว! ฉันปิดโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะนี่”ปอมหัวเราะ

“โบราณเค้าบอกไว้ว่าผู้หญิงมักจะแก่เร็วกว่าผู้ชาย..สงสัยจะจริง..แค่นี้ก็ลืมแล้วว่าปิดตอน
ไหน เฮอะ เฮอะ”หัวเราะชอบใจใหญ่กัดเค้าได้ สองสาวส่งค้อนให้ปอมคนล่ะควับ! แล้วจุ้นก็
เปิดเครื่องพอเห็นจำนวนสายที่โทรเข้าก็แปลกใจ

“ไอ้อ๊อด! มันโทรมาตั้งสามสี่หน”ยื่นโทรศัพท์ส่งให้ปอม ปอมกำลังจะกดหา..โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ทันทีเป็นอ๊อดโทรมา ปอมกดรับกำลังจะอ้าปากพูด

“ไอ้จุ้น! อยู่ที่ไหน...ฉันโทรเข้าไปตั้งหลายหนปิดเครื่องทำไม..อยู่กับไอ้แนงหรือเปล่า..ฉัน
ติดต่อมันไม่ได้..โทรไปที่บ้านแม่บอกว่ามันยังไม่กลับมา..โทรไปหาไอ้นามันก็ไม่รู้ว่าไอ้แนง
อยู่ไหน..วันนี้มันจะไปลองชุด..ฉันจำไม่ได้ว่าร้านมันอยู่แถวไหน..เบอร์โทรศัพท์ที่ร้านก็ไม่มี..
ว่าไงจุ้น..ไอ้แนงมันอยู่กับแกหรือเปล่า”ถามเป็นชุด..ปอมถึงกับไอค๊อก ไอแค๊กออกมาติดคอ
แทน ค่อยๆส่งเสียงออกไป

“อยู่”คำเดียวสั้นๆ ปลายสายเงียบไปนิดนึง

“อ้าว! ไอ้ปอมเหรอ”

“เออ! ข้าเอง”ทำเสียงเข้ม ประมาณเสือ หุ หุ

“แล้วทำไม..โทรศัพท์แกมีทำไมไม่รับ..ฉันโทรเข้าไปตั้งสามสี่รอบ”ปอมยิ้มแหยๆ ให้
โทรศัพท์ เปลี่ยนเสียงเป็นลูกแมวเลย

“ลืมไว้ที่บ้านอ่ะ”ปลายสายส่งเสียง จึกจัก ส่งมาขัดใจ

“ทั้งปี!...ตกลงว่าแนงมันอยู่กับพวกแกใช่มั๊ย แล้วอยู่ที่ไหนกัน..ฉันจะได้ไปหาถูก”

“ถามเป็นจรวดเลยไอ้อ๊อด! อยู่ที่ร้านตัดเสื้อเนี่ยแหละ..แกไม่ต้องมาแล้ว..เดี๋ยวต้องคลำหา
ทางอีกนาน..ไปเจอกันที่ร้านน้องส้มแถวสีลมเลยจะได้ไม่เสียเวลา..ฉันหิวข้าว!....เออ!แค่นี้
นะ”แล้วปอมก็วางสาย หันมาหาสองสาว

“ไปจ๋าวๆ ไปหาอะไรกินก่อนกลับ...เดี๋ยวไอ้อ๊อดมันไปเจอที่ร้านเลย”แนงขมวดคิ้ว

“อ้าว! ไอ้อ๊อดมันไม่ต้องไปเลี้ยงลูกค้าแล้วเหรอ”ปอมส่ายหน้า

“คงไม่แล้วมั้ง..ก็ไม่เห็นมันบอกอะไรนี่”ปอมจ้องหน้าแนง เห็นแนงยังนั่งนิ่งอยู่ก็ถามออกมา

“เป็นอะไรแนง ยังน้อยใจมันอยู่อีกเหรอ..เลิกคิดได้แล้วน้ำเสียงมันกังวลมากเลยนะตอนฉันรับ
โทรศัพท์มันน่ะ..มันเป็นห่วงแกออกจะตายไป..พอมันเสร็จงานปุ๊บ!ก็คงจะโทรหาแกก่อนนั่น
แหละ..แต่โทรศัพท์แกแบตมันหมดไงมันก็เลยไม่ติด..เห็นมันบอกว่าโทรไปที่บ้านแกด้วยนะ
แต่ไม่เจอ..และก็โทรถามไอ้นา..โทรหาฉันและก็มาถึงไอ้จุ้น!..มันไล่โทรหมด..แค่นี้มันก็บอก
ได้แล้วว่ามันไม่ได้คิดจะปล่อยให้แกวุ่นอยู่คนเดียว..ไม่ได้เพิกเฉย และก็ไม่ได้ปล่อยความรับ
ผิดชอบมาให้แกทั้งหมดด้วย..เพราะฉะนั้นเลิกคิดน้อยใจได้แล้ว..เดี๋ยวมันจะเครียดไปกัน
ใหญ่..น้อยใจมากผมร่วงไม่รู้ด้วย แต่งชุดเจ้าสาวออกมาแล้วไม่สวยขายขี้หน้าเค้าตาย”ยักคิ้ว
แพล๊บ! แพล๊บ!ส่งให้ แนงค้อนควับแล้วก็อมยิ้มออกมา

“เออ! เออ! เลิกคิดแล้ว..ไม่ต้องมาชักแม่น้ำทั้งห้าหรอก..ฉันเชื่อแล้ว!”ปอมยิ้มตาหยีส่งให้ ยก
มือสองข้างขึ้นมาหยิกแก้มแนงเบาๆ

“อึมม์...น่ารักจังเล๊ย! เจ้าเด็กอ้วน”แนงตีมือปอมดังเพี้ย! มองตาขวาง..

“ฉันบอกว่าฉันลดลงแล้ว...7กิโล..ไม่อ้วนแล้ว..จำไม่ได้หรือไง”ปอมพยักหน้า ยิก ยิก

“จ๊ะ! จ๊ะ! ไม่อ้วนแล้ว..ไม่อ้วนแล้ว..เจ้าเด็กอวบระยะสุดท้าย..อึมม์”หยิกเข้าไป..เล่นเอาจุ้น
หัวเราะออกมาเสียงดัง ขำ!..แนงพลอยหัวเราะออกมาด้วยเขกหัวปอมไปหนึ่งที

“ไอ้ปากมอม”ปอมยิ้มแป้นแล้น

“ไป! เราไปกันได้ยัง..เสร็จแล้วใช่มั๊ย..ฉันหิวแล้วอ่ะ..หลานแก กับแม่ของหลานก็ท่าทางจะหิว
แล้วด้วย..เดี๋ยวคลอดมาฉันงอนไม่ให้แกอุ้มหลานแก ลูกฉันนะ!”จุ้นยิ้มหมั่นไส้ แนงหัวเราะ
ปากก็พูดออกมา

“ไอ้บ้าปอม..พูดจา วกวน! ชอบนักนะไอ้ภาษาแบบเนี้ย..ลูกฉัน..หลานแก..แม่ของหลาน..ไม่รู้
จะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา ฟังแล้ว งง! จะพูดชื่อออกมาเลยก็ไม่ได้”แนงยังหัวเราะอยู่ และก็
หันมาหาจุ้น

“ไปจุ้น ลุก!..เดี๋ยวลูกแก หลานฉันมันจะหิว!..เดี๋ยวไอ้พ่อของหลานมันจะไม่ให้ฉันอุ้มลูก
แก”จุ้นหัวเราะ ส่ายหัวให้

“แกสองคน มันก็พอกันนั่นแหละ..ไม่ต้องมาต่อว่ากันเลย”แล้วก็จะลุกจากโซฟา แต่ก็ต้องนั่ง
กลับลงไปใหม่ หน้าตาเหยเก

“อุ้ยส์” แนงตกใจรีบส่งเสียงถาม

“เป็นอะไรจุ้น” ปอมได้ยินรีบชะโงกหน้ามามอง และก็ลุกมาอย่างไวนั่งยองๆตรงหน้าจุ้น

“ตะคริวเหรอจุ้น!” จุ้นพยักหน้า หน้าตาบ่งบอกว่าเจ็บมาก

“มา! เดี๋ยวหมอนกแก้วรักษาให้น้า..แป๊บเดียวเห็นผล”ว่าแล้วทำมือทำไม้บอกใบ้ให้แนงลุกขึ้น
ก้มลงไปถอดรองเท้าให้จุ้น ค่อยๆยกขาของจุ้นขึ้นมาพาดไว้บนโซฟา

“ข้างเดิมหรือเปล่า”จุ้นพยักหน้า มีน้ำตาซึมออกมาที่ปลายหางตานิด ๆ แนงรีบเดินไปหยิบ
หมอนบนโซฟาอีกตัวมารองไว้ข้างหลังจุ้น..และก็ให้จุ้นพิงหลังไปตรงพนักเท้าแขน..ปอม
ค่อยๆจับขาข้างขวาที่เป็นตะคริวเหยียดตรง..ดึงปลายเท้าเข้ามาหาตัวจุ้นและก็ปล่อยค้างไว้ จุ้น
ถอนหายใจเฮือก ปอมเงยหน้าขึ้นมองส่งเสียงถามมาเบาๆ

“ดีขึ้นมั๊ยจุ้นน!” จุ้นส่ายหน้า

“ยังเจ็บๆ อยู่อ่ะปอม”ปอมค่อยๆปล่อย และก็ดึงปลายเท้าเข้ามาหาตัวจุ้นใหม่ ทำอย่างงั้นอยู่
หลายรอบ

“ปอม! ทำไมแกไม่นวดมันล่ะ..จะได้คลายเส้นที่ยึดอยู่ไง”แนงส่งเสียงบอกมา ปอมหัวเราะ
ออกมาเบาๆ

“ตะคริว..มันเป็นอาการที่กล้ามเนื้อเกร็งและก็หดตัวไอ้แนง..ไม่ใช่เส้นยง เส้นยึดอะไรหรอก..
ตอนนี้กล้ามเนื้อมันยังไม่คลายจับกันเป็นก้อนอยู่..เราก็ต้องค่อยๆทำให้คลายทีละน้อย..พอ
มันเริ่มนิ่มไม่แข็งแล้วเราถึงค่อยมาบีบมานวด”แนงพยักหน้า หงึก หงึก เพิ่งเข้าใจ ปอมเงยหน้า
ขึ้นมองจุ้น

“ยังเจ็บอยู่มั๊ย”จุ้นส่ายหน้า เสียงค่อยๆออกมา

“ไม่ค่อยเจ็บแล้ว..แต่มันยังตึงๆอยู่” นั่นแหละปอมถึงปล่อยปลายเท้าจุ้น ค่อยๆเลื่อนมือไปบีบ
นวดไล่จากเอนร้อยหวายขึ้นไปถึงข้อเข่าทำขึ้นลงอยู่อย่างงั้น ซักแป๊บก็หยุดและก็ลองให้จุ้น
ขยับขา จุ้นพยักหน้า ส่งยิ้มเพลียๆให้ปอม

“ดีขึ้นแล้วปอม”ปอมยิ้มตาหยีส่งให้

“เก่งจัง! คนจ๋วย..มา! ปอมใส่รองเท้าให้น้า” จุ้นเอาขาลงจากโซฟา ปอมก้มลงไปใส่ให้ และก็
เงยหน้าขึ้นมา

“รออยู่ที่นี่กันก่อนนะ เดี๋ยวปอมไปเอารถมาจอดข้างหน้า..จุ้นจะได้ไม่ต้องเดินไกล”ว่าแล้วก็
ลุก และก็เดินออกไปจากร้าน แนงยิ้มแหยๆ..เดินมานั่งข้างๆจุ้น

“เจ็บมากมั๊ยจุ้น..ฉันเห็นมันเป็นก้อนๆขึ้นมาเลย..น่าจะเจ็บหลายอยู่” จุ้นพยักหน้าส่งให้

“เจ็บ! เจ็บมาก..มันปวดไปทั้งขาเลย”

“เป็นบ่อยมั๊ยจุ้น”จุ้นพยักหน้า มือก็บีบนวดน่องตัวเองไปด้วย

“ช่วงสองเดือนหลังมานี่..เป็นบ่อยมากส่วนมากจะเป็นตอนกลางคืนน่ะ..ปอมมันต้องลุกมาบีบ
มานวดให้ทุกครั้ง..มันเจ็บ”แนงยิ้ม

“ถึงว่า..ฉันเห็นไอ้ปอมมันปฐมพยาบาลแกซะคล่องปรื๋อเชียว..สงสัยจะถามหมออย่างละเอียด
เลยนะน่ะ..ไอ้นี่รอบคอบ”จุ้นหัวเราะออกมาเบาๆ

“หึ! มันไม่ได้ถามหมอหรอก..มันอ่านหนังสือเอา”แนงเลิกคิ้ว ไม่เชื่อ

“จริงอ่ะ!”

“จริง! มันซื้อมาตั้งห้าหกเล่ม..พอว่างปุ๊บ!ก็เห็นมันหยิบมานั่งอ่าน..ฉันซะอีกไม่ค่อยจะรู้เรื่อง
อะไรหรอก..ไอ้เรื่องตะคริวนี่ก็เหมือนกัน มันบอกฉันมาตั้งนานแล้ว..บอกว่าอาจจะเกิดขึ้นได้..
เพราะร่างกายฉันต้องแบ่งแคลเซียมไปให้หลานแกในท้อง..มันถึงคะยั้นคะยอให้ฉันกินนมอยู่
ทุกวันไง”แนงหัวเราะ

“แกนี่โชคดีจังจุ้น..ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเลยนะน่ะ..ฉันล่ะอิจฉาแกจัง”แล้วก็ถอนหายใจออกมา

“เฮ้อ!.ไม่รู้ว่าถ้าฉันเป็นตะคริวเหมือนอย่างแก..ไอ้อ๊อดมันจะมาบีบมานวดฉัน เหมือนที่ไอ้ปอม
มันทำให้แกหรือเปล่าก็ไม่รู้...มันคงจะบอกว่า เดี๋ยวก็หายเองไอ้แนง..มันขึ้นมาได้เดี๋ยวมันก็
ยุบลงเองได้..แกคิดอย่างฉันมั๊ยจุ้น..มันต้องพูดกับฉันอย่างนี้แน่นอน..ชัวร์”ทำหน้ามั่นใจสุด
สุด จุ้นหัวเราะออกมาเสียงดัง

“แกก็พูดไปไอ้แนง..มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่แกคิดก็ได้”แนงยิ้ม

“ก็ขอให้มันเป็นอย่างที่แกพูดเถอะจุ้น..ฉันจะดีใจมาก”และก็ต้องหันไปทางประตูทั้งคู่ ปอม
ชะโงกหน้าเข้ามา

“มาแล้วจ้า! ราชรถมาเกยแล้ว..เชิญจ๊ะเชิญ!”รีบเปิดประตูค้างไว้..แนงเดินไปลาเจ้าของร้าน
และก็พากันเดินออกไปขึ้นรถ.....


#####################################################



“จุ๊กกรู๊!..เจ้าบ่าวเจ้าสาว..กลับมาจากฮันนิมูน แล้วววว! หน้าตาแจ๋มใสกันทั้งคู่เลยวุ้ย!สงสัยจะ
มีความสุข”เสียงโจ้แหกปากดังลั่น..หลังจากที่อ๊อดกับแนงเดินเข้ามาในงาน

วันนี้วันที่ 31 ธันวาคม..วันส่งท้ายปีเก่า..ไทด์จัดงานฉลองให้พนักงานที่โรงแรม..อ๊อดกับแนง
เข้าพิธีมงคลสมรสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..ตั้งแต่วันที่ 20 และก็ลาพักร้อนยาว..ขึ้นเหนือไปพักที่
บ้านของอ๊อดที่เชียงใหม่ สายตาทุกคู่หันมามองแนงกับอ๊อดเป็นตาเดียว รอยยิ้มระบายบนใบ
หน้าแทบทุกคน..แนงแยกตัวไปสมทบกับกลุ่มสาวๆ..อ๊อดรีบเดินเข้าไปเขกหัวโจ้อย่างแรง

“นี่แหนะ...แหกปาก เสียงดังไอ้โจ้! กินเข้าไปกี่แก้วแล้วล่ะ..ไม่รู้จักรอพี่เชื้อมั่ง”โจ้ทำตา
ประหลับประเหลือก..ลูบหัวลูบหูอยู่อย่างงั้น เจ็บ!

“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ..ว่าพี่เชื้อจะมาวันนี้..ไอ้ผมก็นึกว่าหลงเมืองเหนืออยู่กับเจ้แนง..จนหาทางกลับ
กรุงเทพไม่ถูกน่ะสิ”มีเถียง มีเถียง อ๊อดหัวเราะขยับเก้าอี้นั่งลงข้างๆโจ้นั่นแหละ แล้วเสียงเคน
ก็ส่งมา

“ไหนแกบอกว่าจะกลับมาวันที่ห้าไงไอ้อ๊อด..ไหงกลับมาซะเร็วเชียว”

“เป็นห่วงงานยังไม่เสร็จตั้งหลายอย่าง...และก็จะรีบกลับมาให้ทันงานวันนี้ด้วยแหละ”ปากพูด
ไปมือก็หยิบถั่วเข้าปากเคี้ยวแหงบ! แหงบ! โจ้รีบกุลีกุจอ..ชงเหล้าให้ใหญ่ เอาใจ!

“อ๊ะ! พี่อ๊อด! สุขสันต์วันก่อนปีใหม่คร๊าบบ!”ยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัวด้วย อ๊อดหัวเราะ

“ขอบใจ”ยกขึ้นมาจิบ สายตาก็สอดส่ายไปทั่ว

“นี่ไอ้ปอมไปไหนอ่ะพี่วัฒน์..ไม่เห็นมันเลย”

“นั่งอยู่กับพวกพี่สันต์โน่น...ไอ้พวกเด็กๆมันลากไป”

“เหรอ!” อ๊อดหันไปมอง เห็นพวกหนุ่มๆลุกขึ้นยืน ส่งเสียงดังลั่นมีเป่าปาก วี๊ดวิ๊ว กันด้วย

“งั้นเดี๋ยวมา!..ไปดูซิมันทำอะไรกัน”ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน โจ้รีบซดฮวบๆ

“ไปด้วยพี่อ๊อด! ผมไปด้วย”รีบลุกอย่างไว วิ่งตามอ๊อดอย่างเร็ว.......

“เป็นไงแนง..หนาวมากมั๊ยเชียงใหม่น่ะ”ตูนส่งเสียงถามหลังจากที่แนงเดินไปตักอาหารและก็
กลับมานั่งที่โต๊ะใหม่

“หนาว!..ยิ่งบ้านไอ้อ๊อดยิ่งแล้วใหญ่หนาวมาก..บ้านมันห่างจากตัวเมืองเยอะเหมือนกัน..ออก
มาแถบชานเมืองเลย”จุ้นยิ้ม จิ้มไส้กรอกเข้าปาก

“และได้แวะขึ้นไปหาพ่อแม่ฉันหรือเปล่า..แนง!” แนงพยักหน้า ปากก็เคี้ยว ตุ้ย! ตุ้ย!

“แวะ! พักบ้านไอ้อ๊อดสามคืน และก็ตีรถขึ้นเชียงรายเลย ไปอยู่ที่บ้านแกซะสองคืน..พ่อแม่น่า
รักมาก ต้อนรับเต็มที่ฝากของกินมาให้แกเพียบเลยไอ้จุ้น!ฉันก็เลยลาภปากได้มาเพียบเหมือน
กัน เหอะ เหอะ” ยิ้มแป้นแล้นส่งให้ จุ้นหัวเราะ

“อ้อ! เห็นท่านบอกว่าตอนแกใกล้คลอดจะลงมาอยู่ด้วยทั้งคู่เลยนะ..เป็นห่วงหลานน่ะ”จุ้น
อมยิ้ม มีส่งค้อนให้แนงด้วย

“ลูกไม่ห่วงเลยใช่มั๊ย..ห่วงแต่หลานน่ะ”จันทร์หัวเราะส่งมาบ้าง

“อย่างงี้แหละจุ้น! พอท่านมีหลานแล้ว..ไอ้พวกลูกอย่างเราๆก็จะตกกะป๋อง..จะห่วงหลาน
มากกว่าลูกน่ะ..แทบจะทุกบ้าน”แนงพยักหน้าหงึก หงึก เห็นด้วย แล้วก็นึกขึ้นได้

“เออ! ไอ้จุ้น..ฉันไปคราวนี้เจ้าติวมันโตขึ้นผิดหูผิดตาเลยล่ะ..ท่าทางจะรูปหล่อซะด้วย”

“เหรอ!..ยังอ้วนตึบเหมือนเดิมมั๊ย”แนงส่ายหน้า ปากก็เคี้ยวหงุบ หงับ

“ผอมลง..สงสัยจะกำลังยืดตัว..มีถามถึงแกด้วยนะ”จุ้นยิ้มพริ้มดีใจ

“แต่ถามถึงไอ้ปอมมากกว่า”เท่านั้นแหละ หุบยิ้มฉับทันที แนงเห็นหน้าจุ้นก็หัวเราะออกมาเสียง
ดัง

“เป็นอะไรจุ้น!..อิจฉาไอ้ปอมมันเหรอ..ไอ้นี่!เหมือนเด็ก”จุ้นทำหน้ายู่..

“ไม่ได้อิจฉาแต่เสียอารมณ์..แกนี่พูดอะไรชอบหักดิบ..กำลังฟังเพลินๆพูดหักมุมซะอย่างงั้น..
หุบยิ้มแทบไม่ทัน”แนงหัวเราะเสียงดัง นา จันทร์ ตูนที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็ขำไปตามๆกัน

“หัวเราะอะไรกันสาวๆ ให้เค้าหัวเราะด้วยคนได้มั๊ยอ่ะ”เสียงมาก่อนตัว..และตัวก็มาถึง ลาก
เก้าอี้เข้ามา จะแทรกตรงกลางระหว่างแนง กับจุ้น

“ไอ้แนง กระเถิบ! กระเถิบ!หน่อย..สามีเค้าจะนั่งใกล้ภรรยา..ไอ้นี่หนิ!ชอบเป็นก้างชิ้นโต
เหรอ”แนงทำตาโต ปากก็ตุ้ย ตุ้ย

“ฉันมาก่อนนะ..ไอ้ปอม! แกมาที่หลัง แกก็ไปนั่งที่อื่นโน่น”ชี้โบ้ ชี้เบ้ไปข้างหน้า ปอมตา
เหลือก

“บ๊ะ! ไอ้นี่...ตั้งแต่แต่งงานมานี่แข็งข้อเหรอ..พูดดีๆไม่ลุกใช่มั๊ย!..เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย..นับ
หนึ่ง ถึงสาม..ไม่ลุกโดนนน..หนึ่ง..จ๋อง..จ๋าม..โอ๊ยยยย!”ร้องเสียงดังลั่น..กระโดดเหยงๆ
แนงกระเถิบเก้าอี้ทับเท้าปอม มีการหันมายิ้มพริ้มให้ปอมด้วย

“กล้วแล้วจ้า!..นั่งลงสิจ๊ะเพ่ปอม..แนงเถิบให้แล้ว”หัวเราะกันลั่นโต๊ะ...โต๊ะอื่นๆหันมามองเห็น
กริยาท่าทางปอม ก็อมยิ้มกันเป็นแถว

“อื้อหือ! ไอ้แนง..เก้าอี้ไม้นะโว้ย! ไม่ใช่พลาสติก..เล็บหลุดหมดแล้วมั้งน่ะ”ก้มลงลูบเท้า
ปร้อยๆ แนงแกล้งทำหน้าเหวอ ยกมือขึ้นปิดปาก

“อุ้ย!ตายจริง! แนงถอยไปทับเท้าอันได้รูปของเพ่ปอมเหรอ...แนงขอโทษ..แนงไม่ได้
ตั้งใจ”ยกมือบีบนวดแขนปอมใหญ่ สาวๆหัวเราะคิก คิก รวมทั้งจุ้นด้วย

“ไม่ต้องเลยไอ้แนง..แกไม่ได้ตั้งใจแต่เจตนาน่ะสิ..เห็นๆอยู่ว่าฉันยืนอยู่ข้างหลัง”บ่นงึม งำ
สายตาก็เหลือบไปเห็นจุ้นพอดี..รีบแถเข้ามาหา กระเถิบเก้าอี้แทรกเข้ามาและก็นั่งลงข้างๆ

“จุ้นนน! ไอ้แนง! มันแกล้งปอมอ่ะ!..จุ้นต้องจัดการให้ปอมนะ” ฟ้องอย่างเร็ว..จุ้นอมยิ้ม
หมั่นไส้ สาวๆบนโต๊ะหัวเราะกันเกรียว

“จัดการอะไร..ก็แกไปหาเรื่องเค้าก่อนน่ะ..ฉันว่ามันทับข้างเดียวยังไม่พอนะ..มันน่าจะล่อซะ
สองข้าง..เอาให้เดี้ยงไปเลย”สาวๆปี๊ด ปิ๊ว กันใหญ่สะใจ ปอมค้อน ควับ! ควับ!

“จุ้นอ่ะ!”ค้อนให้จุ้นควับ! ควับ! จุ้นมองหน้าอมยิ้มบางๆส่งให้

“ไม่ไปกินกับพวกไอ้ตั๊มต่อล่ะปอม..มานั่งนี่ทำไม”

“คิดถึง!”เท่านั้นแหละ..เสียงอ๊วกดังออกมาจากข้างๆ ปอมหัวเราะหันไปมองแนง และก็ทำตา
หลี่ๆ

“เป็นอะไรไอ้แนง...อาการไม่น่าไว้ใจนะเนี่ย จุ๊! จุ๊!.จุ๊!.สงสัยเมืองเหนือมันจะมีมนต์ซะแล้ว! ไป
ไม่ถึงสิบวัน..อาการออกอย่างชัดแจ้ง..จะจะ!” และก็ทำเสียงทุ้มนุ่มลึก

“ดีใจด้วยนะแนง!” หัวเราะขำกันทั้งโต๊ะ แนงหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด ยกมือขึ้นเขกหัวปอม
หนึ่งที

“ไอ้ปากมอม..ปาก เสียตั้งแต่ต้นปียันท้ายปีเลย”ปอมอมยิ้มนั่งให้เขกเฉย

“ตกลงไม่ใช่..ใช่มั๊ย!”ยังไม่จบ..แนงหัวเราะ

“ไม่ใช่!..ไอ้ปอม!..ไอ้บ้า!..ฉันอ๊วกเพราะว่าปากแกนั่นแหละ..หมั่นไส้” ปอมหัวเราะหึ หึ เอื้อม
มือไปหยิบถั่วส่งเข้าปาก

“ไม่ได้กินเหล้าเหรอปอม”นาส่งเสียงถามข้ามโต๊ะมา ปอมส่ายหน้า

“หึ!..วันนี้เหล้ามิแตะ..กินแต่เปะซี่”ลอยหน้าลอยตาพูด สาวๆเลิกคิ้ว งง! ไม่อยากจะเชื่อ

“ทำไมอ่ะ”

“เพราะว่า..เปะซี่ดีที่สูดดดดด” เท่านั้นแหละหัวเราะกันขรมไปหมด แล้วเสียงบนเวทีก็ดังขึ้น
เสียงโจ้ออกไมค์

“โหล..เทสส์..โหลล..เทสส์..อะแฮ้ม อะแฮ้ม..เนื่องด้วยว่าวันนี้ก็เป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรีบปี
ใหม่..ผมก็ขอเป็นตัวแทนขึ้นมาอวยให้พวกพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ มีสุขภาพแข็งแรง..อายุมั่นขวัญ
ยืน..หน้าที่การงานเจริญขึ้น เจริญขึ้น..ที่สำมะคัญ..โบนัสแอนด์เงินเดือนขึ้นเยอะๆจะดีไม่ใช่
น้อย”เป่าปาก ปี๊ดปิ๊ว! กันระเนระนาด ชอบใจกันใหญ่ แล้วโจ้ก็ต่อ

“อ่า! หลังจากอวยกันแล้ว..ตอนนี้ก็ถึงการมอบของขวัญ..ที่พวกคุณๆท่านๆ ต้องชอบกันแน่ ๆ..
มันคือของขวัญจากใจผมมมม!” แหกปากใส่ไมค์เสียงดัง ไอ้พวกข้างล่างโห่กันใหญ่ ตั้ม กับ
จิ๋ว ตัวต้นเสียงตะโกนขึ้นมา

“ไม่เอา! ไม่เอา! ไม่เอา!”หัวเราะกันขรมไปหมด โจ้ยืนอมยิ้มเห็นฟัน32 ซี่อยู่บนเวที

“ถึงไม่เอา! ก็จะให้..ขอมอบบทเพลงส่งท้ายอันแสนไพเราะ ที่จะออกจากกะบังลมอันแมนๆ
ของผม..ผ่านลำคออันงามละหงได้รูป..ให้พวก พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ได้ฟังกัน..เชิญเข้าสู่ภวังค์
การรับฟังได้ณ.บัด..นาว”และดนตรีก็ดังขึ้น เท่านั้นแหละไอ้พวกที่บอกไม่เอา! ไม่เอา! ตอน
แรกขึ้นไปร้องไปเต้นบนเวทีกันอย่างครึก ครื้น!

เพลงหนึ่งในร้อย...
ศิลปิน...ปอ V-Friend..

http://www.gmember.com/music/search_song/index.php?searchsongid=01440701&searchfrom=id

เธอเป็นคนน่ารักรู้มั้ย โว เว โว...เห็นแล้วใจสั่น....
มีคนมารุมรักก็เยอะ โว เว โว....ถามสักคำเถอะ....
ฉันพอมีแววแค่ไหน ติดอันดับบ้างไหม.....

ฉันอาจจะเป็นหนึ่งในร้อย..หนึ่งในร้อยของใจเธอที่ไม่ค่อยสำคัญ...
แต่อยากให้รู้..ว่าฉันจะสู้ตายก็แล้วกัน..เธอคือหนึ่งเดียวในใจฉันที่(ฉัน) รักเธอ...

คนดูดีมีเยอะก็เนอะ โว เว โว ฉันยังใจหวั่น.......
ทำคะแนนแซงกันเยอะเนอะ โว เว โว ถามสักคำเถอะ....
มีโดนโดนบ้างไหม คนที่อยู่ในใจ.....

ไม่มีวันยอมแพ้ใครหากจุดหมาย..นั้นคือเธอ..จะไม่ถอนตัวง่ายง่ายหรอก
อย่างน้อยได้ลุ้นรอบรองก็ยังดี ก็ยังดี....



สิ้นเสียงเพลงจบเสียงตบมือ เสียงเป่าปากดังทั่วไปหมด..มีเสียงตะโกนว่า เอาอีก! เอาอีก!
อย่างดังขึ้นมาจากพวกสาวๆข้างล่าง ที่ยืนเต้นกันอย่างเมามันส์..ปอมรีบหันหน้ามาหานาส่ง
เสียงถามมาอย่างไว

“ไอ้นา!...ไอ้โจ้มันร้องเพลงนี้ให้ใครวะ!”ยักคิ้วแพล๊บ! แพล๊บ! ส่งให้ นาส่งค้อนให้ นั่งเม้ม
ปากอมยิ้มมองบนเวทีอยู่อย่างงั้น..จุ้นพลอยหัวเราะไปด้วย..แหนบแขนปอมไปหนึ่งที ปอม
สะดุ้งโหยง

“แหนบปอมทำไมล่ะ!”จุ้นยิ้ม

“เดี๋ยวนี้หัดเป็นพ่อสื่อเหรอ!” ปอมยิ้มตาหยีส่งให้ และก็ร้องเพลงออกมาเบาๆ

“เธอเป็นคนน่ารักรู้มั้ย โว เว โว...เห็นแล้วใจสั่น”จุ้นหัวเราะ เขกหัวปอมไปหนึ่งที

“ไอ้บ้าปอม!”ปอมนั่งยิ้ม อยู่งั้นและก็ถามออกมาเบาๆ

“ง่วงยังจุ้น! จะกลับหรือยัง” จุ้นพยักหน้าส่งให้

“ไป! งั้นไป” ลุกจากเก้าอี้กันทั้งคู่ หันไปล่ำลาเพื่อนฝูง ปอมเดินไปบอกพวกไทด์ที่โต๊ะและก็
พาจุ้นออกจากงาน..ขับรถไปถึงบ้านเที่ยงคืนพอดี..จุ้นกำลังจะก้าวลงจากรถ

“เดี๋ยวจุ้น!..”รั้งมือจุ้นไว้..จุ้นหันมาเลิกคิ้วให้

“อะไร”แล้วเสียงพลุ! ก็ดังขึ้นเปรี้ยงปร้าง!.ปอมยิ้มส่งให้ ชะโงกหน้าเข้ามาหา จุ๊บ!ไปบน
ริมฝีปากจุ้น

“สุขสันต์วันปีใหม่นะคนจ๋วย!” จุ้นยิ้มชะโชกไปจุ๊บ!ที่หน้าผากปอมหนึ่งที

“สุขสันต์วันปีใหม่นะคนหล่อ!”เท่านั้นแหละ ตาปอมเบิกกว้าง..

“พูดจริงหรือเปล่าจุ้น...พูดใหม่อีกทีซิ..อยากฟังอีกอ่ะจุ้นนน..เร๊ว!”จุ้นหัวเราะค่อยๆลงจากรถ

“ไม่เอาแล้ว!”เดินอมยิ้มเข้าบ้านสบายใจเฉิบ..ปอมลงจากรถยืนมองแล้วก็ยิ้ม..หันหลังเดินไป
ปิดประตูรั้วรีบเดินเข้าบ้าน เสียงปอมยังรอดออกมาให้ได้ยินจากในบ้าน

“จุ้นน! พูดอีกนะ..ปอมอยากฟังอีก..นะ! นะจุ้นน!..คนดีของปอม”

“ไม่เอ๊า! ไอ้บ้าปอม”......



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 มิ.ย. 2554, 19:27:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 มิ.ย. 2554, 19:27:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 1673





<< ตอนที่ 47 : จุดสิ้นสุด..ฤา..จุดเริ่มต้น   ตอนที่ 49 : Forever >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account