จุ้น กะ ปอม
มิตรภาพสำคัญไฉน มาร่วมพิสูจน์คำๆนี้ไปกับเธอและเขา แล้วคุณจะรักพวกเขาไปโดยไม่รู้ตัว..."จุ้น กะ ปอม"

Tags: จุ้นกะปอม

ตอน: ตอนที่ 49 : Forever

“แนง! พี่ขอรายงานการประชุมของ พี.เค. โปรดักส์ ตอนบ่ายนะ!” เสียงไทด์ตะโกนออกมา
จากห้องทำงาน แนงกำลังพิมพ์แป้นระรัวถึงกับหยุดชะงัก พูดส่งออกไปเสียงดัง

“เจ้าค่ะคุณพี่!...เดี๋ยวจะนั่งแกะให้อย่างไวเลยนะเจ้าคะ!” ค้อนประหลับประเหลือกให้คนใน
ห้อง “เห็นเราเป็นเครื่องจักรหรือไงไม่รู้..ไม่ให้เวลาเลย!” ปากบ่นมือก็พิมพ์อย่างเร็ว

“บ่นอะไรไอ้แนง!” แนงสะดุ้งโหยง! จุ้นมายืนอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“ตกใจหมดไอ้จุ้น!..มาเงียบๆ” จุ้นหัวเราะ

“ฉันก็เดินมาปกตินั่นแหละ...แต่แกไม่เห็นเองมัวแต่บ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้งอยู่น่ะสิ”

“จะไม่ให้ฉันบ่นได้ไง..เพิ่งประชุมเสร็จเมื่อกี้..จะเอารายงานตอนบ่ายมันน่ามั๊ยล่ะ..ฉันไม่ใช่
เครื่องจักรนะโว๊ย!” บ่นยาวว มือก็พิมพ์เป็นข้าวตอกแตกเลย จุ้นยิ้ม..ยืนนานชักเมื่อยเดินมานั่ง
เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานแนง

“ก็แกน่ะแหละทำให้เค้าเคยตัว..อะไรก็ได้ค่ะ! ได้ค่ะ! ไม่มีบอกปัดปฎิเสธซะบ้าง..เค้าก็นึกว่า
แกทำได้น่ะสิ” แนงเงยหน้าขึ้นมาค้อนควับ

“แล้วมีอะไร..แบกท้องมาหาฉันเนี่ย..ทำไมไม่ใช้โทรศัพท์..แกก็อีกคนนะไอ้จุ้น กะจะทำงาน
เอาโล่หรือไง..กะจะทำจนวันสุดท้ายที่คลอดเลยใช่ไหม ฮะ” ได้ทีใส่ใหญ่ จุ้นหัวเราะ

“เออ! เดี๋ยวจะกลับแล้วไอ้ปอมมันจะมารับ..ไม่ต้องมาทำบ่นมาก” แนงละมือจากแป้นพิมพ์
หยุดการทำงาน หันหน้ามาหาจุ้นเต็มตัว

“กำหนดคลอดเมื่อไหร่จุ้น”

“จันทร์หน้า” แนงยิ้มแป้น

“ดีใจมั๊ย!” จุ้นพยักหน้าส่งให้ อมยิ้มพริ้ม

“ดีใจสิแนง...ฉันแบกท้องมาตั้งเก้าเดือน ก็เพื่อวันจันทร์หน้านี่แหละ อยากจะเห็นหน้าตาพวก
เค้าเต็มแก่แล้ว..รู้มั๊ยแนงระยะเวลาเก้าเดือนมันทำให้ฉันรักแม่ขึ้นมาอีกเยอะเลย..รู้ซึ้งถึงความ
รู้สึกของท่านตอนตั้งท้องฉันกับพี่ไทด์ขึ้นมาทันทีเลยล่ะ” แนงเอื้อมมือ มาตบหลังมือจุ้นเบาๆ

“ดีใจด้วยจุ้น!..ฉันก็อยากจะเห็นหน้าหลานฉันไว ไว เหมือนกันเพราะฉะนั้นแกเลิกทำงานได้
แล้ว กลับไปพักผ่อนอยู่กับบ้านดีกว่ารอเวลาลูกเกิดไง”

“ขอบใจแนง” แนงหันไปนั่งพิมพ์ต่อ ปากก็ถามออกมาใหม่

“แล้ววันพฤหัสนี้ แกจะไปงานพี่ตูนกับพี่วัฒน์หรือเปล่าจุ้น”

“สงสัยจะไม่ไหว ช่วงนี้เดินมากไม่ค่อยได้มันปวดขาไปหมด”

“น่ะ! เห็นไหม..แล้วยังถ่อสังขารมาทำงานอีกนะ..ไอ้ปอมมันไม่ห้าม ไม่ปรามบ้างเหรอไงวะ”
มือพิมพ์ระรัว จุ้นอมยิ้ม

“มันก็บอกอยู่เหมือนกัน..แต่ฉันห่วงงานน่ะยังเคลีย์ไม่เสร็จเลย เกรงใจไอ้นามัน...ตอนนี้เสร็จ
หมดแล้วก็เลยว่าจะพักซักที” แนงพยักหน้า

“เออ! ไอ้จุ้น..รู้หรือยังว่าทีมไอ้ปอมต้องขึ้นไปกาญจนบุรีอีกทีวันศุกร์น่ะ” จุ้นขมวดคิ้ว

“ยัง! ปอมมันยังไม่ได้บอก..โฆษณาตัวใหม่เหรอ”

“เพิ่งประชุมเมื่อวาน..โปรเจคด่วน! สินค้าตัวเดิมอันนี้เป็นชุดที่สอง..รู้สึกว่าเค้าจะให้ปล่อยแข่ง
กับอีกยี่ห้อนึงน่ะ..ก็เลยต้องเร่งถ่าย..เจ้าของเค้าจะปล่อยปลายเดือนหน้า..แต่ไปแค่สามวัน
เองนะกลับวันอาทิตย์..กลับมาทันวันจันทร์ ตอนแกคลอดพอดีนั่นแหละ” จุ้นพยักหน้า

“หนังสั้นเหรอ! แนง”

“ใช่! พ่วงจากชุดที่แล้วน่ะเพิ่มอีกหนึ่งนาทีครึ่ง..ถ่ายเจาะอย่างเดียวเลยไม่เดินเรื่อง เอามาตัด
ต่อทีหลัง...เดี๋ยวไอ้ปอมมันคงจะบอกแกอีกทีนึงแหละ..เห็นอ๊อดบอกว่ามันทำงานหน้าดำคร่ำ
เครียดเลยไม่ใช่เหรอ จุ้น!” จุ้นนั่งอมยิ้ม มือก็ลูบคลำท้องไปด้วย

“อึมม์..เมื่อวานก็ไม่ได้กลับบ้านค้างที่สตู..วันนี้มันโทรมาบอกว่าจะมารับ อีกประเดี๋ยวคงจะมา
ถึง” แล้วเสียงไทด์ก็ดังออกมาจากในห้อง

“แนง! พี่จันทร์ส่งงบการเงินเดือนที่แล้วมาให้ยัง!” หันไปฟังกันทั้งคู่

“มาแล้ว!..เดี๋ยวแนงเอาเข้าไปให้”

“ไม่ต้อง!” แล้วตัวก็เดินออกมา

“ไหน!” เร่ง ยิก ยิก พอเห็นจุ้นก็เลิกคิ้วส่งให้

“อ้าว! จุ้น..ไหนบอกว่าจะกลับบ้านไปพักผ่อน..มานั่งทำอะไรอยู่ที่นี่”

“รอปอม!” ไทด์ขมวดคิ้ว นั่งไปบนโต๊ะทำงานแนง

“มันจะเสร็จแล้วเหรอไอ้ปอมน่ะ...ให้พี่ไปส่งมั๊ย..ไม่ต้องไปรอมันหรอกรีบกลับไปพักผ่อนดี
กว่า..เจ็บท้องหรือเปล่า!” จุ้นหัวเราะ แนงทำหน้าเหวอ รีบส่งเสียงมาอย่างไว

“มันยังไม่ได้จะคลอด..พูดเหมือนมันจะคลอดลูกอย่างงั้นแหละ” ส่ายหัวด้วยความ เอือมระอา

“ทำไม! ฉันถามมันไม่ได้เหรอไง..เจ้าแนง! ฉันจะเป็นห่วงน้องฉัน หลานฉันมันผิดตรงไหน”
แนงหัวเราะ

“จ้า! คุณลุง..ไม่ผิดจ้า คุณลุงไทด์ถูกเสมอ” พูดไปด้วย พร้อมกับหันไปหยิบแฟ้มข้างหลังส่ง
ให้ไทด์ “อ่ะ! สิ่งที่คุณพี่ต้องการ” ไทด์เอื้อมมือไปรับ

“ขอบใจ”

“อุ้ยส์!” เสียงจุ้นอุทาน แนง กับไทด์หันหน้ามามองพร้อมกัน

“เป็นอะไรจุ้น!” จุ้นยิ้มแหยๆ ส่งให้

“หลานดิ้นอ่ะพี่ไทด์...คราวนี้ดิ้นแรง” ไทด์อมยิ้มก้มลงมอง..แนงรีบชะโงกหน้ามาจากโต๊ะมอง
ด้วย

“ไหน!” ไทด์ยื่นมือจะไปจับท้องจุ้น

“ทำอะไรกัน!” สะดุ้งโหยงกันทั้งสามคน ต่างก็หันไปมองต้นเสียง เห็นปอมกำลังเดินเข้ามาหน้า
ตาเอาเรื่อง ไทด์หัวเราะ

“ไอ้ขี้หวงมาแล้ว” จุ้นกับแนงหัวเราะคิก คิก แล้วปอมก็เดินมาถึงรีบนั่งลงข้างๆจุ้น ดึงมือจุ้นมา
กุมไว้ เงยหน้าขึ้นมองไทด์ ส่งสายตาหลี่ๆ ไม่ไว้ใจ

“เมื่อกี้เห็นนะ..จะทำอะไร!” ไทด์ยิ้มพริ้ม

“จะจับหลาน” มียักคิ้วส่งให้ด้วย ไม่สะทกสะท้าน ปอมตาโต

“จับได้ไงตอนนี้ ยังไม่คลอดเลย..ไว้รอตอนคลอดโน่น..นี่เมียผมจับไม่ได้” หวง! โวยวายเสียง
ดังลั่นเด็ก ๆ ที่นั่งทำงานอยู่ข้างนอกอมยิ้มหัวเราะกันเกรียว จุ้นพลอยหัวเราะไปด้วย

“ไอ้บ้าปอม! มันจะเป็นอะไรไปเล่า พี่น้องกัน” ปอมหันมาเลิกคิ้วใส่จุ้น

“จุ้นอ่ะ! พูดอย่างงั้นได้ไงล่ะ! พี่น้องกันนี่แหละตัวดี ขึ้นหน้าหนึ่งมานักต่อนักแล้ว...โอ๊ยยย!”
เจอมะเหงกไทด์เข้าไป แหกปากร้องเสียงดัง รีบเอามือกุมหัวไว้อย่างเร็วกลัวโดนอีก

“นี่แหนะ! ขึ้นหน้าหนึ่งมานักต่อนักแล้ว...หวงนัก” แนงหัวเราะเสียงดังสะใจ ปอมค้อนประหลับ
ประเหลือก ปากก็พร่ามออกมา

“ก็เมียผมนะ..ไม่หวงได้ไงเล่า..ถ้าผมไปจับท้องเมียพี่บ้างล่ะจะหวงมั๊ย!” มีเถียง มีเถียง
ไทด์ตาเหลือก รีบพูดอย่างดัง

“มันไม่เหมือนกันโว๊ย! ฉันเป็นพี่ไอ้จุ้น! ส่วนแกมันไม่ใช่..ไม่ได้มาเป็นญาติข้างไหน กับเมียฉัน
ซักหน่อย อยู่ดีดีจะมาจับท้องเค้าได้ยังไงล่ะ” ปอมเบะปาก

“น่ะ! เห็นมั๊ยไม่ยุติธรรม..จับของคนอื่นได้..แต่พอคนอื่นจะไปจับของตัวเองบ้างไม่ยอมให้
จับ..ไม่แฟร์” ส่ายหัวหงึกหงัก สามคนทั้งขำ ทั้งหมั่นไส้กับท่าทางของปอม แนงรีบส่งเสียงมา
อย่างไว

“ตกลงไอ้ที่แกบ่นนี่..เพราะว่าแกหวงเมียตัวเอง..หรือว่าอยากจะจับท้องเมียคนอื่นแล้วไม่ได้
จับเหอะ..ไอ้ปอม!” หัวเราะกันอีกระรอก ปอมอมยิ้มไม่ได้ตอบโต้ หันหน้ามาหาจุ้นถามออกมา
เบาๆ

“ลูกดิ้นเหรอจุ้น! ”

“อึมม์...วันนี้ดิ้นแรง! ”

“เจ็บหรือเปล่า!” สายตาเป็นห่วงเป็นใย ลูบมือจุ้นเบาๆ จุ้นยิ้มส่ายหน้าไปมา

“เก่งจัง! คนดี” ยิ้มตาหยีส่งให้ ไทดักับแนงที่นั่งฟังอยู่ถึงกับอมยิ้มออกมา ซาบซึ้งในความรัก
ของคนทั้งคู่ ดูเหมือนมันจะไม่มีวันลดน้อยถอยลงไปเลย ดูมันจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งในแต่ละวัน
แต่ละเวลาที่หมุนไป...ปอมค่อยๆ ประคองจุ้นลงไปลานจอดรถทำเหมือนจุ้นกำลังจะคลอดก็
ไม่ปาน ประคบประหงมจุ้นอย่างกับไข่ในหิน ผ่านคนรู้จักก็อมยิ้มไปตามๆ กัน จนจุ้นเขิลล์
ตีแขนปอมดังเพี๊ย! ปอมเลิกคิ้ว

“ตีปอม ทำไมล่า” ทำหน้าไร้เดียงสา

“ฉันยังเดินได้อยู่..แกไม่ต้องทำท่าทำทาง เหมือนฉันกำลังจะเดินไม่ไหวอย่างงั้นก็ได้ ต้อน
หน้าต้อนหลังอยู่นั่นแหละ”

“ก็ปอม เป็นห่วงอ่ะ...เดี๋ยวหกล้มไปว่าไงล่ะ..ท้องใหญ่มากๆ ด้วย..และทำไมมันถึงใหญ่อย่างงี้
ก็ไม่รู้” เท่านั้นแหละ แว๊ด! มาเลย

“แบกอยู่สองคน..มันจะไม่ใหญ่ได้ไงล่ะ...ไอ้บ้าปอม!” ส่งค้อนให้ควับ หมั่นไส้! ปอมหัวเราะ
ทำหน้าประจบ

“ล้อเล่นอ่ะ...ไป ไปขึ้นรถน้า..เดี๋ยวปอมเปิดประตูให้จุ้นเอ๊ง!” กุลีกุจอ เปิดให้ใหญ่ จุ้นยิ้ม
ค่อยๆ เลื่อนตัวเข้าไปนั่งในรถ ปอมปิดประตูเสร็จก็รีบวิ่งอ้อมมานั่งประจำที่คนขับแต่ยังไม่ออก
รถ หันมายิ้มตาหยีส่งให้..จุ้นหัวเราะ

“เป็นบ้าอะไรไอ้ปอม!..ทำไมไม่ออกรถ..ยิ้มอยู่นั่นแหละปากจะถึงรูหูแล้วมั้ง!”

“เดี๋ยวก่อนอ่ะจุ้น!..ปอมมีอะไรมาฝาก” ว่าแล้วก็หันไปหยิบของบนเบาะหลัง จุ้นขมวดคิ้วนั่ง
มองนิ่ง แล้วปอมก็ถอยกลับมา

“แต่น! แต๋น! แต้น!..มีความสุขในวันแห่งความรักนะจ๊ะคนจ๋วย!” จุ้นเห็นก็อมยิ้ม กุหลาบสีแดง
แป๊ดดอกโตหนึ่งดอก ก้านแข็งแรงและยาวมาก มีริบบิ้นสีแดงผูกไว้ที่ก้านดอก ที่สำมะคัญ มี
การด์แผ่นเล็กๆ ติดมากับริบบิ้นด้วย จุ้นยื่นมือไปรับ

“ขอบใจปอม สวยจัง!” แล้วก็หัวเราะออกมา ปอมหน้ามุ้ย

“หัวเราะอะไรอ่ะ...ไหนบอกว่าสวยไง” ตาจุ้นเป็นประกาย

“สวย! แต่แกทำงานจนเบรอ หรือเปล่าปอม..ไอ้วันแห่งความรักของแกน่ะ..มันผ่านมาตั้งเกือบ
อาทิตย์แล้วนะ และแกก็ให้กุหลาบฉันแล้วด้วย” จุ้นยังขำไม่หาย ปอมอมยิ้มจ้องมองหน้าจุ้น
อยู่อย่างงั้นพูดน้ำเสียงเบาๆ ส่งมา

“จุ้นนน! วันแห่งความรักของฉันที่มีต่อแก มันไม่ได้มีแค่วันนั้นวันเดียวหรอก..สำหรับฉันแล้ว
มันมีทุกวัน และมันก็จะไม่มีวันหมด จะคงอยู่อย่างงี้แหละ และก็จะเพิ่มขึ้นทุกวันด้วย” จุ้นนิ่ง
ใบหน้าแดงระเรื่อ

“เพราะจังปอม!...ฉันชอบจังเวลาที่แกพูดอะไรแบบเนี้ย! ขอบใจแกมาก” ยกกุหลาบ ขึ้นสูด
ดม ค่อยๆ เปิดการ์ดออกมาอ่าน แล้วเสียงหัวเราะก็ออกมาอีกระรอก

“ปอม! แกแน่ใจนะว่าแกจะให้การด์ฉันน่ะ” หัวเราะคิก คิก ปอมพยักหน้ายิก ยิก

“จริง!..ปอมให้จริงๆ น้า เลือกกับมือเองด้วย..มีรูปกระต่ายอยู่ข้างหน้าด้วยอ่ะ” มีอวด มีอวด
จุ้นยังหัวเราะไม่เลิก

“และไม่คิด จะเขียนอะไรให้ฉันมั่งเลยเหรอ..โล่งขาวจั๊ว..สะอาดหมดจดอย่างงี้อ่ะนะ” ปอมยิ้ม
พริ้ม ปากก็ค่อยๆพร่ามออกมา

“ก็ให้คนรักอ่ะ..เพราะฉะนั้นก็ต้องตามใจคนรักไง...ปอมก็เลยยังไม่เขียน..จะมาถามจุ้นว่าจะ
ให้ปอมเขียนอะไรให้น่ะ” ทำหน้าน่าร๊ากกก! จุ้นหัวเราะ

“ไอ้ทุเรศปอม..แกให้ฉันแกก็ต้องเขียนให้ฉันสิ..จะมาถามฉันทำไม่ล่ะ! ไอ้ต๊อง!” เคาะหัวปอม
ไปหนึ่งที ปอมยิ้มในตาพราว ยั่วเค้าได้

“อ่ะ! งั้นเอามา เดี๋ยวปอมเขียนให้นะ” ปอมค่อยๆ แกะการ์ดออกจากริบบิ้น ยื่นกุหลาบให้จุ้นถือ
ไว้ก่อน ดึงปากกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

“เขียนว่าอะไรดีน้า” ทำหน้าครุ่นคิดเอานิ้วเคาะไปที่ขมับตัวเอง ก๊อก ก๊อก จุ้นหัวเราะกับสีหน้า
ท่าทางปอม

“ถ้ามันยากมากนัก ไม่ต้องเขียนก็ได้ไอ้ปอม..หมั่นไส้! ทำเป็นคิดนาน” ปอมเลิกคิ้ว

“อ่ะไม่ได้หรอก..เรื่องแบบนี้มันต้องคิดกันนานหน่อยสิจุ้น..จุ้นจะได้จำไปไม่รู้ลืมไง” จุ้นเบะ
ปาก

“เลี่ยนว่ะไอ้ปอม” ปอมหัวเราะ ค่อยๆ จรดปากกาไปบนการ์ดตั้งหน้าตั้งตาเขียนใหญ่ ใช้เวลา
นานมากมีการเอามือป้องไว้ด้วยกลัวจุ้นเห็น..จุ้นแหงะมอง กี่รอบกี่รอบก็ยังไม่เสร็จ

“เขียนอวยพรในการ์ดนะไอ้ปอม! ไม่ใช่เขียนจดหมาย ทำไมมันนานจัง..เขียนอะไรนักหนา”
บ่นงุ๊ง งิ๊ง งุ๊ง งิ๊ง เลย นั่นแหละปอมถึงหันมายิ้มตาหยีส่งให้ ยื่นการ์ดคืนให้จุ้น

“อ่ะ! เสร็จและ” จุ้นค้อนควับ แล้วก็ก้มลงอ่าน


แด่จุ้น...

รักแกที่สุดดดดดดดดดดดดด!

จากปอม..



จุ้นเงยหน้าขึ้นมาหัวเราะ “ไอ้บ้าปอม..ใช้เวลาตั้งนาน..ได้มาแค่เนี้ย” ปอมนั่งยิ้มพริ้ม

“ชอบหรือเปล่าล่ะ!” จุ้นยิ้มเห็นลักยิ้มบุ่ม พยักหน้าส่งให้ “ด.เด็ก เยอะเลยด้วยเห็นมั๊ย!” มี
อวด มีอวดจุ้นหัวเราะ

“ด.เด็ก เยอะแล้วทำไม” ปอมเลิกคิ้ว

“อ่ะ!..ด.เด็ก เยอะก็รักเยอะไง...ไม่เห็นเหรอมันยาวเลยนะน่ะ”

“มั่ว!” ปอมหัวเราะ หึ หึ เอ่ยออกมาเบาๆ

“ฉันเขียนไม่ค่อยเก่งหรอกจุ้น..ชอบพูดมากกว่า..ฉันรักแก..รักมากด้วย..จำไว้อย่างนะจุ้นไม่
ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะอยู่ใกล้ๆ แกเสมอ..ไม่ห่างหายไปไหนแน่นอน”

“ขอบใจปอม! ฉันจะจำไว้” ปอมอมยิ้ม ยื่นหน้ามาจุ๊บที่ริมฝีปากจุ้นเบาๆ

“ไป! กลับบ้าน” และสองสามีภรรยาก็ขับรถออกมาจากที่ทำงาน...รถยังไม่ทันจะจอดสนิทดี
ก็ได้ยินเสียงเด็กตะโกนเย้วๆ อยู่หน้าบ้าน จุ้นหัวเราะ

“ดูเจ้าติวสิ..กระโดดเป็นลิงเลย” ปอมแหงะหน้ามามองอมยิ้ม..ติวลงมากรุงเทพฯ พร้อมพ่อกับ
แม่จุ้น มาอยู่ได้เกือบอาทิตย์แล้ว..ส่วนพัฒน์กับก้อยจะตามมาภายหลัง...เพราะต้องอยู่เคลีย์
งานทางโน้น

“พี่ปอมกับพี่จุ้นกลับมาแล้ว..ติวรอตั้งนานแหนะ” ตอนนี้ติวเจ็ดขวบแล้วเรียกชื่อจุ้นชัดขึ้น ลิ้น
ไม่พันกันเหมือนแต่ก่อน รีบวิ่งเข้ามาหา ถลาเข้ามาเกือบจะชนตัวจุ้น ดีปอมเอามือกันไว้ก่อน
ไม่งั้น ทั้งติวทั้งจุ้นคงได้ล้มทั้งยืนแน่ๆ ปอมหัวเราะ จับแขนติวไว้

“จะรีบไปไหนเจ้าติว..วิ่งเป็นกระสุนเลย” ติวเงยหน้าขึ้นมอง ขมวดคิ้วส่งให้

“ติวจะมาหาน้องแฝด” ปอมยิ้ม

“ค่อยๆ เดินก็ได้..วิ่งมาเร็วอย่างงั้นเดี๋ยวชนพี่จุ้นล้มไปว่าไงล่ะ..เดี๋ยวน้องแฝดเจ็บนะ” ติวหน้า
ม่อย..ยกมือขึ้นไหว้จุ้น งก งก

“ครับ..ขอโทษครับ!” จุ้นเอามือยีหัวติวเบาๆ ส่งยิ้มให้

“ไม่เป็นไรจ๊ะคนเก่ง...ไม่ต้องไหว้ก็ได้” ติวสั่นหัวยิก ยิก

“ต้องไหว้ครับ!..พ่อพัฒน์บอกติวว่า..ถ้าติวทำผิดกับผู้ใหญ่ให้ขอโทษแล้วยกมือไหว้ด้วย” ปอม
ยิ้มพริ้ม ชอบใจในความช่างจดช่างจำของติว ส่งเสียงถามมา

“แล้วพ่อพัฒน์บอกว่าไงอีก”

“พ่อพัฒน์บอกว่า..พอเราขอโทษแล้วผู้ใหญ่ก็จะให้อภัยเรา..ไม่โกรธเราแล้ว” ยิ้มตาหยีส่งให้
ปอมหัวเราะ หันมาหาจุ้น

“เออ! ไอ้เจ้าติวนี่มันเหมือนฉันจริงๆด้วยแฮะ.! เหมือนที่แกเคยบอกฉันเลยจุ้น..ยิ้มทีตาแทบ
จะปิด” จุ้นหัวเราะ ปอมเอื้อมมือไปดึงตัวติวมาใกล้ๆ ก้มลงถาม

“วันนี้เล่นอะไรบ้างติว” ติวสั่นหัว

“หึ!..วันนี้ติวไม่ได้เล่นอะไร...ติวช่วยพ่อใหญ่ [พ่อจุ้น] รดน้ำต้นไม้...ติวไม่มีเพื่อนเล่น
ฟุตบอล..พ่อใหญ่เล่นกับติวไม่ได้ พ่อใหญ่วิ่งไม่ไหว..ติวรอพี่ปอมตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว...พี่
ปอมไม่กลับ” พูดเหมือนตัดพ้อ ปอมหันมามองจุ้นเลิกคิ้วถาม จุ้นพยักหน้าส่งให้ประมาณว่าติว
รอจริงๆ..ปอมอุ้มติวขึ้นอย่างเร็วให้ติวขี่คอตัวเอง..คนถูกอุ้มหัวเราะเอิ๊ก อ๊าก ชอบใจใหญ่

“มา! เดี๋ยววันนี้พี่ปอมจะเล่นฟุตบอลแข่งกับติวเอง” ติวตะโกนเสียงดังลั่น

“พี่ปอมพูดจริงๆ นะ”

“จริ๊งง! ไหนลูกฟุตบอลอยู่ไหน”

“อยู่ตรงสนามหญ้าครับ” ชี้มือชี้ไม้ไปข้างหน้า นั่นแหละถึงพากันเดินออกไป ระหว่างเดินก็
แกล้งโยกซ้ายทีขวาที ทำเอาคนที่อยู่บนคอหัวเราะเสียงดัง...จุ้นยืนมองอมยิ้มพริ้ม ซักแป็บก็
เดินเข้าบ้าน..เข้ามาก็เจอแม่ของจุ้นกำลังเดินออกมาจากครัวพอดี

“อ้าว! กลับมาแล้วเหรอลูก..จุ้น!...แม่กำลังจะออกมาดูพอดีได้ยินเสียงเจ้าติวหัวเราะเสียงดัง
อยู่ข้างนอก” จุ้นส่งยิ้มให้

“มาได้ซักครู่แล้วค่ะ...ยืนคุยกับติวอยู่หน้าบ้าน” เดินไปนั่งบนโซฟา แม่ตามมานั่งด้วย แล้วพ่อ
ก็เดินตามออกมาจากครัวอีกคน ปากก็เอื้อนเอ่ยถามออกมา

“เจ้าปอมกลับมาด้วยล่ะสิ! ไม่งั้นติวมันไม่หัวเราะเสียงดังขนาดนั้นหรอก”

“ค่ะ!” พ่อเดินเลี่ยงไปยืนดูอยู่ตรงประตู เห็นสองหนุ่มกำลังเล่นฟุตบอลอย่างสนุกสนานก็
อมยิ้ม หันหน้ามาหาลูกสาว

“ไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของเจ้าติวตั้งแต่เช้าแล้ว...เพิ่งจะมาได้ยินก็ตอนนี้แหละนั่งเป็นไก่หงอย
เลย...ท่าทางมันจะติดเจ้าปอมมากเหมือนกันนะ...บ่นตลอดเลยว่าเมื่อไหร่ พี่ปอม พี่จุ้นจะกลับ
บ้าน” จุ้นหัวเราะ พยักหน้ายิก ยิก

“ติดค่ะ..ก็เค้าเพื่อนเล่นกันนี่คะ..ปอมมันก็ไม่ใช่จะผู้ใหญ่ซะทีเดียว..อยู่กับเด็กก็ทำตัวกลม
กลืนนึกว่าเป็นเด็กด้วยอีกคน..เจ้าติวมันถึงติดนัก” แม่นั่งยิ้มพริ้ม ดึงมือลูกสาวมากุมไว้

“และเราล่ะจุ้นนน!..วันนี้เป็นยังไงบ้าง..เจ็บท้องบ้างมั๊ย มีอาการอะไรบ้างหรือเปล่า..หึ” จุ้นหัน
มาหาแม่ เอนตัวซบไปบนไหล่ ประจบ ประจบ พ่อเห็นก็ยิ้มหยิบหนังสือพิมพ์มานั่งอ่าน

“ลูกดิ้นค่ะ..วันนี้ดิ้นแรง และก็รู้สึกเพลียๆ ด้วย...อยากจะนั่ง อยากจะนอนอย่างเดียว เดินไม่
ค่อยจะไหวมันปวดขาไปหมด” อ้อนน แม่ลูบผมจุ้นเบาๆ

“อย่างงี้แหละลูก...ท้องใกล้คลอดมันจะมีอาการอย่างงี้แหละ..และเราก็ไม่ได้แบกคนเดียว
ด้วยแบกอยู่ตั้งสองคน มันก็เลยหนักกว่าปกติ...ตอนแม่ตั้งท้องจุ้นกับไทด์ แม่เป็นหนัก
มากกว่าจุ้นอีกนะ..อาการมีมากกว่านี้และก็แพ้ทั้งสองท้องเลยด้วย...พอออกมาก็ไม่ใช่จะ
เลี้ยงง่ายๆ เลี้ยงยากมากยิ่งไทด์ ยิ่งแล้วใหญ่ร้องตลอดเวลา..แต่แม่ภูมิใจนะที่ได้ตั้งท้องลูก
ทั้งสองคนน่ะ..มันมีความสุข” จุ้นอมยิ้มกอดแม่แน่นขึ้นไปอีก

“จุ้นก็ภูมิใจค่ะ..ที่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่กับพ่อ...แม่คะ!” เงยหน้าขึ้นมองแม่

“หึมม์..อะไรลูก”

“ตอนคลอดมันจะเจ็บมั๊ย” พ่ออมยิ้มเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ ค่อยๆลุกขึ้น เดินเลี่ยงออก
ไปนอกบ้านไปหาหนุ่มๆ ปล่อยให้แม่กับลูกสาวคุยกันสองคน แม่อมยิ้มก้มลงมองจ้องตาลูก
สาวนิ่ง

“เจ็บจ๊ะ!...แต่ ณ ตอนนั้นแม่ไม่คิดอะไรแล้วอยากจะเห็นหน้าลูกไว ไว...พอได้เห็น ความเจ็บ
มันก็ละลายหายไปหมด...มันมีความสุขน่ะ..ใบหน้าน้อยๆ ปากนิดจมูกหน่อย นิ้วมือกับนิ้วเท้าก็
เล็กกระจิดนึง..นอนลูบคลำอยู่อย่างงั้นแหละ..มันเหมือนเรากับคนที่เรารัก ได้สร้างคนที่เรารัก
ยิ่งออกมาลืมตาดูโลก..มันภูมิใจน่ะ” มือลูบผมจุ้นเบาๆ

“กลัวเหรอ! จุ้นน!” จุ้นพยักหน้าอยู่บนไหล่แม่ “ถ้ากลัวก็ผ่าตัดสิลูก ไม่ต้องคลอดเอง..แต่มัน
จะเจ็บแผลตอนหลังหน่อยเท่านั้นแหละ..แม่ก็ยังแปลกใจทำไมจุ้นไม่ผ่า..สาวๆสมัยนี้เค้านิยม
กันทั้งนั้นแหละ..ไม่ต้องออกแรงอะไรมาก” จุ้นอมยิ้มค่อยๆ พึมพำออกมา

“จุ้นอยากลอง!..เคยอ่านในหนังสือเค้าบอกไว้ว่าความรูสึก ระหว่างการผ่าตัด กับการคลอดเอง
มันจะไม่เหมือนกัน อย่างที่สองมันจะรู้สึกผูกพันกับเค้ามากกว่า เพราะว่าเราเป็นคนเบ่งเค้าออก
มามันสื่อถึงกันได้ง่าย” แม่หัวเราะ หึ หึ

“มันก็เหมือนกันแหละลูก จะผ่าตัดหรือจะคลอดเอง พอออกมาแล้วก็รักเหมือนกันผูกพัน
เหมือนกัน เพียงแต่การฟื้นตัวหลังการคลอดมันจะแตกต่างกันเท่านั้นแหละ..คลอดเองมันจะ
หายเร็วกว่า..อันนี้มันเป็นความคิดของแม่น่ะนะ...วิทยาการสมัยนี้ไปถึงไหนบ้างแล้วแม่ก็ไม่
ค่อยจะรู้ เค้าอาจจะวิเคราะห์มาอย่างดีแล้วก็ได้เค้าถึงเขียนลงหนังสือ..แต่สำหรับแม่แล้ว ถึง
จุ้นกับไทด์จะคลอดโดยการผ่าตัด แม่ก็ยักรักและผูกพันไม่น้อยไปกว่านี้หรอกจ๊ะ” จุ้นยิ้ม หอม
แม่ดังฟอด

“รักแม่จัง!” แม่หัวเราะ หอมลูกกลับ

“แม่ก็รักลูกจ๊ะ”ก้มลงมองท้องลูกสาว “ท้องใหญ่เหมือนกันนะลูก..ตกลงหมอก็ยังระบุไม่ได้ใช่
มั๊ยว่าอีกคนเป็นผู้หญิงผู้ชาย” จุ้นยิ้มส่ายหน้าส่งให้

“ไม่ได้ค่ะ..ปิดหมดมองไม่เห็น สงสัยจะอาย” แม่หัวเราะ

“เค้าคงอยากจะให้เราลุ้นน่ะ...ไปลุก! ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวจะได้มากินของว่างด้วยกัน ป้า
สายแกทำไว้ซะเยอะเชียว..เดี๋ยวแม่จะไปเรียกพวกหนุ่มๆ ข้างนอก นี่หนุ่มใหญ่ก็หายไปอีก
คน คงอยากจะเล่นกับเค้าน่ะแต่สังขารไม่ไหว..นั่นก็ติดลูกเขยไม่หยอกนะน่ะ..เป็นเพื่อนร่วม
ก๊งกัน! สงสัยวันนี้ท่าจะดึกอีกแหละ” จุ้นหัวเราะ ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมีแม่คอยช่วยอีกแรง และ
ก็แยกย้ายกันไป........

มื้อเย็นก็นั่งกินข้าวกันพร้อมหน้า..ไทด์กับแน๊ทมาร่วมวงด้วย เสียงหัวเราะดังไปทั่ว พ่อนั่งเล่า
ประสบการณ์การทำงานตั้งแต่หนุ่มจนถึงปัจจุบันให้ลูกหลานฟัง มีแม่คอยขัดเป็นระยะ ๆ ปอม
กับไทด์ก็ใช่ย่อย คอยเสริมคอยขัดด้วยเหมือนกัน..เด็กแดงกับป้าสายก็มานั่งฟังด้วย
บรรยากาศมีแต่ความสุข แต่ที่เห็นจะสุขกว่าใครเพื่อนก็เป็นเด็กชายติว..นั่งกินไปด้วยหัวเราะ
ไปด้วยฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็ยังนั่งอยู่ด้วยไม่ไปไหน ตัวจะติดกับปอมตลอด ตกดึก
หน่อยนั่งตาปรอยเริ่มง่วงแต่ก็ไม่บ่นออกมาซักคำ จุ้นหันมาเห็นก็อมยิ้มส่งเสียงถาม

“ติวง่วงหรือยัง..ไปนอนมั๊ย เดี๋ยวให้พี่แดงพาไปนอน” ติวยิ้มแหยๆ ส่งให้ ยกมือขยิ้ตายิก ยิก
กระบิดกระบวยยังไม่อยากลุก เงยหน้าขึ้นมองปอมขอความเห็นใจ ปอมก้มลงมอง

“ง่วงยังเรา..เฮอะ! เจ้าติว..พี่จุ้นถามแหนะ” นั่นแหละถึงมีเสียงออกมาได้

“ง่วงครับ!” พยักหน้าหงึก หงึก

“ไป! ง่วงก็ลุก เดี๋ยวให้พี่แดงพาไป” เท่านั้นแหละหน้าม่อยเลย ปอมเห็นก็หัวเราะออกมา

“อ่ะ! งั้นเดี๋ยวพี่พาไปเอง” หน้าที่ม่อยเมื่อกี้นี้บานเชียว รีบลงจากเก้าอี้อย่างไวมายืนรอปอม
ปอมค่อยๆ ลุกขึ้น ติวกระโดดเหยง ๆ เดินนำหน้า ทุกคนต่างหัวเราะอมยิ้มกับท่าทางของติว..
แล้วก็เดินมาถึงห้อง ปอมเปิดไฟพาติวไปที่เตียงนอน

“อ่ะ! ไปนอนเจ้าติว” ติวหยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองปอม

“แล้วพี่ปอมจะอยู่เป็นเพื่อนติวก่อนหรือเปล่าล่ะ” ปอมหัวเราะ ยกมือขึ้นยีหัวติวเบาๆ

“ทำไมต้องให้พี่อยู่เป็นเพื่อนด้วยล่ะ..กลัวอะไร” ติวขมวดคิ้วมุ่น

“ติวไม่ได้กลัว...แต่ติวนอนไม่หลับมันมืด..ตอนอยู่ที่บ้านพ่อพัฒน์จะมาอยู่กับติวก่อนนอนทุก
คืน” อธิบายอย่างเร็ว ปอมเลิกคิ้วเพิ่งถึงบางอ้อ...จูงมือติวให้ก้าวขึ้นบนเตียง

“อ่ะ! งั้นไปนอน เดี๋ยวพี่ปอมอยู่เป็นเพื่อนด้วย” ปากพูดตัวก็ก้าวขึ้นไปนอนเคียงคู่เอาหลังพิงหัว
เตียงไว้..ติวหัวเราะคิกคัก ดีใจ นอนอมยิ้มตาหยีส่งให้ปอม..ปอมเห็นก็หัวเราะออกมา ขำ
แหงะหน้าไปมองโต๊ะข้างเตียงเห็นของเล่นหลายชิ้นอยู่เหมือนกัน..หยิบขึ้นมาชิ้นนึง

“นี่ใครอ่ะ” ชูยอดมนุษย์ตัวนึงตรงหน้าติว...ติวตาโตจะลุกขึ้นมา ปอมหัวเราะรีบกดตัวติวไว้ให้
นอนต่อ

“นอนคุยกันก็ได้ ไม่ต้องลุก” ติวพยักหน้ายิก ยิก รีบตอบมาอย่างไว

“สไปเดอร์แมน..เป็นมนุษย์แมงมุม ปีนและก็เกาะตามตึกได้ด้วย..ยิงใยแมงมุมออกมาจาก
มือ พุ่งปู๊ดเลย” ทำไม้ ทำมือประกอบด้วย ปอมแกล้งเลิกคิ้ว

“เหรอ! เค้าเก่งมั๊ย เจ้าสไปเดอร์แมนเนี่ย!”

“เก่ง! ปราบพวกเหล่าร้ายทั้งหมดเลย...ชอบช่วยเหลือผู้หญิง เด็ก และก็คนแก่ ลุกให้นั่งตลอด
เลยด้วย” ทำหน้ามั่นใจสุดๆ ตอบอย่างฉะฉาน ปอมกลั้นยิ้ม ทำหน้าทำตาสนใจฟังจัด พยัก
หน้าหงึก หงึก ปากก็ส่งเสียงถามต่อ

“และเค้ากลัวความมืดมั๊ย” ติวตาโต ประมาณว่าพี่ปอมพูดอะไรออกมา ไม่ได้รู้เรื่องเล้ย

“ไม่กลัว...สไปเดอร์แมนไม่กลัวมืด ตอนกลางคืนก็มองเห็นด้วย ตาเค้าดี” ปอมทำตาโตบ้าง

“สไปเดอร์แมน นี่เค้าเก่งเนอะ..ไม่กลัวความมืดแถมยังชอบช่วยเหลือผู้อื่นด้วย” ติวพยักหน้า
หงึก หงัก

“ใช่! ใช่! สไปเดอร์แมนเก่ง..โตขึ้นติวจะเป็นเหมือนสไปเดอร์แมน” ปอมแกล้งทำหน้าฉงน ส่ง
เสียงมาอีก

“จะเป็นได้เหรอ! เรากลัวความมืดนี่ “ ติวขมวดคิ้ว และก็เงียบไปแป๊บนึงเหมือนกับคิดอะไรอยู่
ซักแป็บก็ส่งเสียงออกมา

“ต่อไปนี้ติวไม่กลัวความมืดแล้ว ติวจะเป็นเหมือนสไปเดอร์แมน จะปราบพวกเหล่าร้าย” ปอม
หัวเราะออกมาเบาๆ แกล้งทำหน้าครุ่นคิด

“อึมม์..พี่ปอมคิดว่าติวน่าจะเป็นได้นะ..แต่สัญญากับพี่ปอมก่อนว่าต่อไปติวจะไม่กลัวความ
มืด..จะคอยช่วยเหลือผู้อื่น”

“สัญญาครับ!” ปอมยิ้มก้มลงหอมติวดังฟอด ค่อยๆเลื้อยตัวลงนอนเคียงข้างติว และก็อยู่ใน
ความเงียบด้วยกันทั้งคู่ ซักพักเสียงติวก็ทำลายความเงียบขึ้นมา

“พี่ปอม..พอพี่ปอมมีน้องแฝด พี่ปอมกับพี่จุ้นจะลืมติวมั๊ย” ปอมหันหน้ามามองส่งยิ้มให้ ค่อยๆ
พลิกตัวตะแคงข้าง ดึงตัวติวมากอดไว้

“ไม่ลืม! ลืมได้ไงล่ะ..พี่ปอมกับพี่จุ้นไม่มีทางลืมติวหรอก” ติวยิ้มแฉ่งอยู่กับอกปอม

“และติวเล่นกับน้องแฝด คอยปราบพวกเหล่าร้ายให้น้องแฝดได้หรือเปล่า”

“ได้สิ!..ทำไมจะไม่ได้ล่ะ..พี่ปอมยกหน้าที่ให้ติวคอยปราบปรามพวกเหล่าร้ายให้น้องแฝด
เลย..และเพิ่มพี่จุ้นให้ด้วยอีกคนเลยเอามั๊ย..ดูแลพี่จุ้นเวลาพี่ปอมไม่อยู่ไง” ติวหัวเราะคิก คิก
ชอบใจ

“ติวจะคอยปราบพวกเหล่าร้าย ไม่ให้มาทำร้ายน้องแฝดและก็พี่จุ้นด้วย” ปอมอมยิ้ม กระชับตัว
ติวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด พูดออกมาเบาๆ

“นอนซะคนเก่ง..เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่” แล้วภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งนึง
ติวหลับอยู่ในอ้อมแขนของปอม ซักแป๊บปอมก็หลับตามไปอีกคน....

เสียงประตูเปิดเข้ามาเบาๆ จุ้นเดินเข้ามาในห้อง..เห็นภาพบนเตียงก็อมยิ้มออกมา ค่อยๆ ก้าว
เท้าเข้ามาใกล้ๆ นั่งลงไปบนเตียงข้างปอม มองคนตัวเล็กที คนตัวใหญ่ที และก็หัวเราะออกมา
เบาๆ เอื้อมมือไปขยี้ศรีษะของบุคคลทั้งสองด้วยความเอ็นดู หันมาคลี่ผ้าห่ม..ห่มให้ทั้งสองคน
เสร็จแล้วก็ค่อยๆยันตัวลุกขึ้น ยืนดูอีกซักแป๊บถึงเดินออกจากห้องไป......


#####################################################



“คัต!” สิ้นเสียงปอมทั้งกองถ่ายก็เฮกันลั่น เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจด่วนที่ได้รับมอบหมายมา ทำ
งานตั้งแต่บ่ายวันศุกร์ จวบจนเย็นของวันอาทิตย์ต่างก็เพลียกันเต็มที่แยกย้ายกันไปเก็บข้าว
ของ

“ปอม! แกจะกลับวันนี้เลยหรือเปล่า หรือว่าจะรอกลับพรุ่งนี้พร้อมกัน” เสียงโยถามออกมา
ปอมแหงะหน้าไปมองส่งยิ้มให้ และก็หันมาเช็คมอนิเตอร์ใหม่

“วันนี้เลยพี่ เดี๋ยวเช็คชุดนี้ผ่านก็จะไปแล้ว..เป็นห่วงไอ้จุ้นมัน...พี่ไทด์โทรมาบอกว่าจุ้นเข้าโรง
พยาบาลตั้งแต่บ่ายแล้วเจ็บท้องกะทันหัน...ไม่รู้ป่านนี้เป็นยังไงบ้าง” เป็นอันเข้าใจ ปอมนั่งเช็ค
ภาพอีกซักพักนึงแล้วก็เสร็จ เดินไปเก็บข้าวของส่วนตัว ฝากงานโยเสร็จสรรพกำลังจะก้าวขึ้น
รถ

“พี่ปอมม..รอด้วย!” เสียงโจ้ตะโกนโวกเวกมาแต่ไกล ปอมหันไปมองเห็นโจ้สะพายเป้วิ่งมา
อย่างเร็ว “พี่ปอม..ผมกลับด้วย” ปอมขมวดคิ้ว

“แกไม่ต้องอยู่ช่วยเค้าเก็บข้าวของเหรอไอ้โจ้” โจ้ยืนหอบตัวโยน ปากก็ส่งเสียงออกมา

“เก็บกันเกือบหมดแล้ว...เหลืออีกไม่กี่อย่างพวกไอ้ตั้มมันทำกันได้..ผมจะมาขับรถให้”

“ไม่ต้องก็ได้ฉันขับไหว..แกไปช่วยเค้าทำงานเถอะ” โจ้ทำปากจึก จัก รีบดึงกุญแจไปจากมือ
ปอม

“เฮอะน่า...พูดมากน่าเฮีย...ไป! ไป!..ไปนั่งฝั่งโน้นโน่น!” ชี้โบ้ ชี้เบ้ไปฝั่งคนขับ ปอมหัวเราะ
เขกหัวโจ้ไปหนึ่งที

“หาเรื่องจะอู้งานล่ะสิแกน่ะ ไอ้โจ้..ทำมาเป็นคนดี” ปากบ่นพึมพำ แต่ขาก็ก้าวเดินไปนั่งข้างคน
ขับ โจ้หัวเราะรีบตามขึ้นมานั่งประจำที่สารถี

“รัดเข็มขัดด้วยพี่ปอม...เพื่อความปลอดภัย..Safety first “ ยักคิ้วส่งให้ แผล็บ! แผล็บ ปอม
หัวเราะมือทำตามปากก็พูดออกมา

“ถ้าดวงคนจะถึงคาดต่อให้รัดซักสามสี่เส้น..มันก็ตายได้วะไอ้โจ้..ขับรถปลอดภัยแค่ไหนระมัด
ระวังแค่ไหนถ้าไอ้ฝ่ายตรงข้ามมันไม่ระวัง..มันก็ไอ้ซี้ม่องเท้งเหมือนกันละวะ” โจ้หันมาค้อน
ควับ

“พูดไม่เป็นมงคลตั้งแต่รถยังไม่สตร๊าดเลย..แล้วมันจะถึงมั๊ยเนี่ย” ปอมหัวเราะ

“ไป! ไป! ไอ้โจ้..อย่าพูดมาก..จะได้ถึงไว ไว ฉันเป็นห่วงไอ้จุ้นมัน” นั่นแหละถึงออกตัวได้..
ระหว่างทางก็คุยไปเรื่อยเปื่อย เงียบบ้าง หัวเราะบ้างเป็นที่สนุกสนาน ปอมหาเรื่องมาคุยได้ไม่
หยุดไม่หย่อน โจ้ก็หัวเราะร่วนเลยมีเสริมบ้างขัดบ้างเป็นบางขณะ...เหมือนเวลามันติดปีก โจ้
ขับเข้ามาถึงชานเมืองกรุงเทพฯ ซักราวๆ สองทุ่มครึ่งรถจอดติดไฟแดง ปอมยกนาฬิกาขึ้นดู

“เออ! ขับเก่งแฮะ! แป็บ ๆ ถึงแล้ว” โจ้หันมายิ้มพริ้ม ภูมิใจสุดๆ

“เห็นมั๊ยล่ะ..ระดับไหนแล้ว..โจ้ซะอย่าง!” ปอมหัวเราะ

“พูดมาก...เขียวแล้ว” นั่นแหละโจ้ถึงออกตัว

‘ปัง!!!!!!!’ เสียงเหล็ก กระทบเหล็กดังสนั่นหวั่นไหว รถหมุนคว้างตะแคงคว่ำคะมำหงายไป
หลายตลบ การจราจรหยุดชะงักทันที เสียงฝูงชนที่เห็นเหตุการณ์ ต่างร้องเสียงระงมทั่วไป
หมด รีบวิ่งไปดูสภาพของรถ..ข้างทางเต็มไปด้วยฝูงชนที่ต่างก็ยืนมุงดู...แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็
มาจัดการเคลีย์พื้นที่ ซักแป๊บการจราจรก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวได้..รถที่ขับผ่านต่างก็หยุดชะรอดู
ทำให้การจราจรติดขัดขึ้นมาอีกครั้ง...ซักครู่เสียงไซเลนก็ดังขึ้นเป็นระยะ ระยะ ใกล้เข้ามา
ทุกที..ทุกที...

“ข้าว่าไม่รอดว่ะ..แม่งชนแรงเรยนะโว้ย! หมุนติ้วเลย”

“นั่นน่ะสิ..ข้าก็ว่างั้นแหละ..ได้ยินแค่เสียงตอนชนก็รู้แล้ว มันจะเหลือเหรอน่ะ...ถ้ารอดมาได้
แม่งบุญโขเลย”

“ฉันว่ารอดนะ...นั่นๆ ตำรวจช่วยออกมาแล้ว” เสียงวิพากษ์ วิจารณ์ของฝูงชนดังระงมไปต่างๆ
นาๆ ไม่มีทีท่าว่าจะสลายตัวไปแม้แต่น้อย ยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่อย่างแน่นขนัด

“วอ1 เรียก วอ2...วอ1 เรียก วอ2..เปลี่ยน!”

“วอ2 รับทราบ เปลี่ยน”

“ขณะนี้มีเหตุการณ์รถชนกันที่สี่แยก....มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 เสียชีวิต1....’’.............



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 มิ.ย. 2554, 19:28:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 มิ.ย. 2554, 19:28:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1794





<< ตอนที่ 48 : สุขสันต์วันปีใหม่   ตอนที่ 50 : เจอกันในใจ....(จบบริบูรณ์) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account