เสน่ห์นางหงส์
ตมิสา แม่หงส์สวยแสนเสน่ห์ เซเลบฯ สาวจอมหยิ่ง ขี้วีน ปากร้าย แล้งน้ำใจ ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา แต่ทำไม๊ทำไมคนอย่าง คณาธิป เจ้าของไร่ "พระจันทร์” หนุ่มหล่อพ่อไม่รวยถึงได้ตกหลุมเสน่ห์แม่หงส์จนถอนตัวไม่ขึ้น
ในอดีตเขาคือ "ไอ้เด็กวัด" แสนเชยที่คอยตามตอแยเธอตลอด แต่สาวเจ้าหรือจะชายตาแล และเมื่อฐานะเปลี่ยน งานนี้เขาจึงต้องปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดเพื่อพิชิตหัวใจเย็นชาของแม่สาวจอมขี้วีนอย่างเธอมาให้ได้ ดั่งคำกล่าวว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล เมื่อไม่ได้ด้วยกลก็เอาด้วยคาถา คำว่า "มารยา" ใครว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ใช้เป็น

Tags: นิยายรัก สาริน

ตอน: ตอนที่ 5 90%

รถของตมิสาเลี้ยวเข้ามาภายในรีสอร์ตสาธิตาที่ถัดมามีป้ายบอกชื่อไร่ มีพนักงานในชุดคาวบอยสวมหมวกปีกกว้างสีน้ำตาลเข้มออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มโดยเฉพาะเมื่อรู้สึกว่าแขกคนนี้ช่างคุ้นหน้าเหลือเกิน สวยขนาดนี้หากไม่ใช่ดาราก็คงเป็นนางแบบ
“สาธิตารีสอร์ตยินดีต้อนรับค่ะ”
“ที่นี่ห้องเป็นแบบไหน” หญิงสาวทำหน้ายุ่งยากใจ เมื่อกวาดสายตามองรีสอร์ตเรือนไม้สักแต่ละหลังที่รกเรื้อไปด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆ หากเป็นคนที่ชื่นชอบธรรมชาติก็คงพออกพอใจแต่สำหรับเธอแล้วเห็นว่ามันรำคาญตาจนไม่อยากเดินเฉียดเข้าไปใกล้
“สาธิตารีสอร์ตมีห้องพักขนาดกลางเป็นเรือนไม้สักค่ะ สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ แต่ละหลังอยู่ห่างกันเพื่อไม่ให้มีเสียงดังรบกวน เรามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่จำเป็นแต่ไม่มีทีวีและแอร์ค่ะ และ…” พนักงานสาวในชุดคาวบอยเอ่ยยังไม่หมดแขกสาวก็ชักสีหน้าเข้าใส่
“ไม่มีทีวี แอร์ก็ไม่มี!”
“ที่นี่เราเน้นความเป็นธรรมชาติค่ะ ในยามเช้าเรามีจักรยานให้ถีบเที่ยวชมผลไม้ในไร่ และแขกสามารถแวะชิมที่สวนออแกนิกส์ของเราได้เลยเพราะปลอดสารพิษ นอกจากนี้ยังมีโรงบ่มไวน์ของเราที่คัดสรรมาเป็นพิเศษจากองุ่นพันธุ์ใหม่ของเราให้ลิ้มชิมรส” เจ้าหน้าที่สาวสาธยายเจื้อยแจ้วทว่าคนฟังกลับทำหน้ารำคาญก่อนหันมาหาสตรีที่สูงวัยกว่าทว่ามีใบหน้าละม้ายคล้ายกัน
“ไม่ไหวละค่ะแม่ ห่วยที่สุด”
พนักงานของสาธิตารีสอร์ตสะอึกไปเล็กน้อยด้วยไม่เคยมีแขกคนใดจะบอกว่ารีสอร์ตแห่งนี้ ‘ห่วย’ ให้ได้ยิน ตรงข้ามกลับเป็นที่พูดถึงกันปากต่อปากว่าที่นี่สงบ สวยและบริการยอดเยี่ยม
“เอาเถอะน่าจันทร์ มันมืดแล้วแม่เหนื่อยเต็มทีกว่าจะเข้าไปในเมืองหาโรงแรมที่ถูกใจแก”
“แต่…” เซเลบฯ สาวพลิกข้อมือดูนาฬิกา “มันไม่มีแอร์ ไม่มีทีวีนะ”
“ฉันถามจริงๆ เถอะ แกดูทีวีครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แล้วอากาศหนาวขนาดนี้แล้วยังจะนึกถึงแอร์อีกเหรอ” นรมนขัดขึ้นส่งผลให้พนักงานสาวแอบลอบยิ้มแต่ตมิสาก็ยังเห็น
หญิงสาวหน้าตึง เสียหน้า
“แต่มันไม่สมบูรณ์แบบ แม่ก็รู้ว่าจันทร์เกลียดอะไรที่ขาดๆ เกินๆ แบบนี้” ตมิสาว่ากระทบ หงุดหงิดไปหมด นรมนตัดปัญหาด้วยการขอกุญแจห้องพัก
“ขอแบบเตียงเดี่ยวสองเตียงนะจ๊ะหนู”
“ได้ค่ะ เชิญทางด้านนี้นะคะ” พนักงานสาวระบายลมหายใจออกมาอีกครั้งแล้วเดินนำไปยังเคาน์เตอร์ด้านใน ขอข้อมูลในการกรอกประวัติแล้วเดินนำไปยังเรือนไม้สักที่เหลืออยู่เพียงห้องเดียว เพราะทางทีมงานรีวิวได้จองล่วงหน้าสำหรับการถ่ายแบบเอาไว้
หลังจัดการให้แขกเรื่องมากรายนี้เข้าพักเสร็จแล้วพนักงานสาวก็ถอดหมวกคาวบอยออกมาโบกพัดคลายร้อนทั้งที่อากาศค่อนข้างเย็นจนคนเป็นเพื่อนร่วมงานย้อนถาม
“หน้าตูมมาเชียว โดนเฉ่งมารึไง แต่ท่าทางแขกคนนั้นหยิ่งเนอะ”
“ยิ่งกว่าหยิ่งอีก แม่เจ้าประคุณบ่นทุกอย่างตั้งแต่ยังไม่เข้าพักจนฉันลากกระเป๋าไปให้ที่ห้อง ไอ้นี่ก็ไม่มี ไอ้นั่นก็ไม่เอา โอย…รีบๆ เช็กเอาท์ออกไปเลยก็ดี ถึงไม่มีแขกรายนี้ ใกล้ๆ เทศกาลปีใหม่แบบนี้เดี๋ยวก็เต็ม” เจ้าตัวบ่นอุบ หน้ายุ่ง นึกแล้วยังเคืองไม่หาย สายตาของแขกสาวรายนี้มองเธออย่างกับตัวเธอเป็นแค่เศษฝุ่น
“จุ๊ๆ เดี๋ยวหัวหน้ามาได้ยินหรอก” เพื่อนร่วมงานของเธอเตือนขึ้น ภารินีจึงได้หยุดแต่ไม่วายบ่น
“ให้ตายเถอะ เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ยังไม่เคยเห็นใครหยิ่งแบบนี้มาก่อนแล้วยังเรื่องมาก…” พูดไม่ทันขาดคำเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น จึงเอื้อมมือไปกดรับ
“สาธิตารีสอร์ตค่ะ” แม้จะหงุดหงิดแค่ไหนในยามปฏิบัติหน้าที่น้ำเสียงก็หวานหู
“นี่ฉันตมิสา เครื่องทำน้ำอุ่นมันไม่ร้อนฉันจะเปลี่ยนห้อง”
“เดี๋ยวดิฉันให้ช่างไปดูให้นะคะ” ภารินีบอกแก่ปลายสายแต่ทำปากขมุบขมิบเป็นเชิงบอกใบ้ให้เพื่อนร่วมงานรู้ว่าแม่ตัวยุ่งเรื่องมากโทรมา
“แต่ห้องเต็มหมดแล้วค่ะ ต้องขอประทานโทษคุณตมิสาด้วยนะคะ”
“อะไรกันฉันขับรถเข้ามาไม่เห็นห้องเปิดไฟไว้ตั้งหลายห้อง ขี้เกียจเปลี่ยนห้องให้ฉันละสิ แย่จริงๆ เลยนะฉันขอคุยกับคนที่มีอำนาจการตัดสินใจ” หญิงสาวออกคำสั่งสีหน้าหงุดหงิดเต็มที่ ฝ่ายนั้นบอกให้เธอรอครู่หนึ่งจึงมีเสียงตอบรับแล้วอธิบายให้ฟังถึงสาเหตุที่ทำให้ห้องเต็ม
“พรุ่งนี้บ่ายๆ จะมีทีมงานจากนิตยสารรีวิวเข้ามาถ่ายงานที่นี่ ทางนั้นจองห้องพักเอาไว้หลายห้องทำให้ไม่เหลือห้องว่าง เรื่องเครื่องทำน้ำอุ่น สักครู่ดิฉันจะให้ช่างเข้าไปดูให้นะคะ” ลลิตา ผู้จัดการรีสอร์ตอธิบายอย่างใจเย็น ทุกห้องก่อนให้แขกเข้าไปพักเธอคิดว่าได้ตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้อย่างดีแล้วจึงไม่น่าจะเกิดปัญหาใด หรือถึงจะมีก็น่าจะพอแก้ไขได้ไม่ยาก
“อ๋อ…ทีมงานรีวิว อย่างนั้นก็คงไม่มีปัญหาถ้าจะเปลี่ยนห้องให้ฉัน” ตมิสาส่ายหน้า ปฏิพัทธ์ทำงานประสาอะไร พนักงานที่นี่ถึงไม่รู้ว่าเธอเป็นนางแบบที่จะเข้ามาพัก
“เอ่อ…”
“ฉันตมิสาเป็นนางแบบของรีวิว รู้อย่างนี้แล้วจะให้ฉันเข้าพักได้หรือยัง” หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะเผลอทำสุ้มเสียงดุจวางอำนาจ คนพวกนี้ได้ประโยชน์จากการที่เธอมาถ่ายแบบที่นี่ เพราะนอกจากจะได้เงินค่าที่พักอาหาร ค่าสถานที่ยังได้โปรโมตรีสอร์ตกับไร่กระจอกๆ นี่ไปในตัว ที่จริงควรจะต้อนรับเธอให้ดีกว่านี้เสียด้วยซ้ำ
“อย่างนั้นดิฉันจะให้เด็กไปจัดการให้นะคะ” ลลิตารับคำ ขอโทษขอโพยกันเสร็จสรรพแล้วจึงวางสายไป ตวัดสายตามองมาที่ลูกน้องทั้งสองก่อนมาจบลงที่ภารินี
“จัดการย้ายห้องให้แขกด้วย เขาเป็นนางแบบของรีวิว”
“ค่ะ” ภารินีพยักหน้ารับแล้วหมุนตัวจะออกไปจัดการแต่อีกฝ่ายยังเรียกไว้
“เธอทำอะไรให้แขกไม่พอใจหรือ ตะกี้นี้บ่นกับฉันจนหูชา”
“เปล่าเลยนะคะ ไม่เชื่อถามนิดหน่อยดูก็ได้” พนักงานสาวหันมาหาเพื่อนร่วมงานอย่างหาตัวช่วย นิดาจึงรีบแทรกขึ้น
“จริงค่ะ นิดเป็นพยานได้”
“เอาเถอะๆ ยังไงก็ระวังหน่อยแล้วกัน พวกนี้เขามีสื่อในมือ เดี๋ยวเกิดเขียนถึงเราในทางไม่ดีละก็แย่แน่” ลลิตาถอนหายใจ เธอเองทำงานกับลูกน้องคนนี้มานานจึงรู้ว่าอีกฝ่ายใจเย็นพอสมควรและเท่าที่ฟังน้ำเสียงลูกค้ารายนี้คงจะเรื่องเยอะอยู่มากเหมือนกัน
“ค่ะคุณลิต” พนักงานสาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ รีบออกไปจัดการตามคำสั่งก่อนที่แม่นางแบบของรีวิวจะโทรมาด่าอีกรอบ เธอคิดว่าตัวเองไม่ได้บริการไม่ดีหรือทำอะไรให้แม่นางแบบสาวคนนั้นขัดใจเลยซักนิด ทำไมจะต้องหาเรื่องกันด้วยก็ไม่รู้
ซวย…แต่หัวค่ำเลย

หลังได้อาบน้ำอุ่นจัดผสมเกลือหอมกลิ่นโปรดสมใจ ตมิสาก็แต่งกายด้วยชุดกางเกงแพรเนื้อดีกับเสื้อแขนกุดสีเหลืองอ่อนที่คอพับจีบเป็นชั้นๆ พองพองามยาวมาจรดสะดือ ประดับด้วยสร้อยไข่มุกเม็ดเล็ก แต่งหน้าเพียงบางๆ ทว่าประณีตเสร็จแล้วจึงคว้ากระเป๋าถือมาถือไว้ในมือ
“ไปไหน”
“ก็ไปหาอะไรทานสิคะ แล้วนี่แม่จะออกไปด้วยกันหรือจะให้จันทร์ซื้อเข้ามาให้”
“ซื้อมาเลยแล้วกัน แม่เวียนหัว สงสัยจะเมารถ”
“ค่ะ แต่อาจนานหน่อยนะคะ จันทร์ว่าจะหาโรงแรมแถวนี้ดูซักหน่อย ไม่ไหวละค่ะห้องเล็กเท่าแมวดิ้นตาย ห้องน้ำบ้านเรายังใหญ่กว่านี้เลย”
“แกละก็จะอะไรนักหนา แม่ว่าน่าอยู่ออก ทำให้นึกถึงบ้านตากับยายขึ้นมา นานแล้วนะที่เราไม่ได้ไปเยี่ยมกัน” นรมนลูบมือไปยังช่อดอกแก้วสีขาวละมุนที่เสียบภายในแจกันสีขาวทรงสูงแซมด้วยใบเขียวสดมีหยดน้ำเกาะพราว ส่งผลให้ห้องทั้งห้องหอมกรุ่นด้วยกลิ่นไอธรรมชาติไม่ต้องพึ่งพาน้ำหอมปรับอากาศ
“นี่หรือคะน่าอยู่ ได้ยินแต่เสียงหรีดหริ่งเรไร เสียงดนตรีให้มันจรรโลงใจยังไม่มี ถ้าแม่หิวมากรอจันทร์ไม่ไหวที่นี่มีร้านอาหารนะคะ จันทร์ถามแม่หัวหน้านั่นมาแล้ว เขาปิดสองทุ่ม”
“เออ ไปเถอะ” นรมนตัดบท ลูกสาวเธอชอบความหรูหราฟุ้งเฟ้อมาแต่ไหนแต่ไร จะให้เปลี่ยนมารักธรรมชาติ กินอาหารพื้นๆ พวกนี้ก็คงเปลี่ยนไม่ได้
หญิงสาวยักไหล่ แล้วเดินนวยนาดออกไป บรรยากาศเงียบเหงาวังเวง แม้จะเพิ่งหัวค่ำ ต้นไม้สองข้างทางเดินร่มรื่นในเวลากลางวันทว่าว่าในยามค่ำออกจะมืดครึ้ม แม้จะมีหลอดไฟสีเหลืองนวลประปรายไปตลอดทางก็ตาม ใบหน้าสวยจึงบึ้งบูด
“นี่นะหรือไร่ที่แสนโรแมนติก แหวะ วังเวงอย่างกับไร่ผีสิง มีโจรหรือเปล่าก็ไม่รู้ น่ากลัวจะตาย” หญิงสาวบ่นพึม ก่อนมานี่ก็ดวงซวยถูกโจรกระชากกระเป๋าไปทีแล้ว ถ้าเกิดขึ้นในรีสอร์ตนี้ละก็จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้มันเจ๊งกันไปข้างหนึ่งเลย
ตมิสาเดินกระแทกเท้ามากับพื้นคอนกรีตทำให้คณาธิปที่เพิ่งซ่อมเครื่องสูบน้ำเสร็จและแวะมาดูความเรียบร้อยของรีสอร์ตอย่างที่ทำเป็นประจำทุกเย็นต้องหยุดชะงักเท้า เสียงบ่นลอยตามลมมาเข้าหูจนชักอยากรู้ว่าแขกที่ไหนถึงได้บ่นรีสอร์ตเขามันทุกเรื่องอย่างนั้น
“อะไรก็ไม่รู้ หาความสุนทรีย์ก็ไม่เจอ ทีวีไม่มี แอร์ไม่มี ห้องก็แคบอึดอัดจะตาย ว๊าย!” ตมิสาอุทานขึ้นเมื่อจู่ๆ ผู้ชายหน้ามอมแมมด้วยคราบน้ำมัน ผมเผ้ายุ่งเหยิงเสื้อผ้าขาดวิ่นก็โผล่หน้าออกมาจากพุ่มดอกผกากรอง อารามตกใจทำให้รองเท้าส้นเข็มสูงหลายนิ้วพลิก
คณาธิปตกใจจึงถลาเข้ามารับร่างนั้นไว้ก่อนจะเสียหลักล้มไปกับพื้นคอนกรีต
“นี่ปล่อยนะ” ตมิสาผละตัวออกห่างจากอ้อมกอดแสนสกปรกนั้นอย่างรังเกียจ ปัดไปตามเนื้อตัวแล้วแทบอาเจียนกับกลิ่นน้ำมันของเครื่องยนต์รวมทั้งคราบดำๆ ที่ติดมากับเสื้อ
“ขอโทษครับคุณ ผมไม่ได้ตั้งใจ” คณาธิปมองเห็นเสื้อที่เลอะของเธอจึงเอ่ยขอโทษ ตัวชาวาบ รู้สึกเหมือนทั้งศีรษะถูกราดด้วยน้ำแข็งเย็นๆ เมื่อมองเห็นใบหน้าสวยคุ้นตาชัดเจน “ต…”
เขาเกือบจะอุทานชื่อเธอออกมาอยู่แล้วหากฝ่ายนั้นจะไม่เต้นเร่าโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ตามมาด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว
“แก… ไอ้บ้า ชุดฉันเปื้อนหมด แกรู้ไหมว่าเสื้อตัวนี้ราคาเท่าไหร่”
เมื่อหายตกใจที่ได้พบหน้าตมิสาเร็วกว่ากำหนดแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ชายหนุ่มจึงได้ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหน อยู่ในสถานการณ์ใดคนอย่างตมิสาก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ยอมฟังเหตุผลจากใครไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม
“คุณจะล้ม ผมก็เลยคว้าตัวเอาไว้”
“อย่ามาทวงบุญคุณกับฉันนะ แกต่างหากที่ทำให้ฉันตกใจจนเกือบล้มแล้วยังมาทำเสื้อฉันเปื้อนคราบสกปรกพวกนี้อีก”



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ต.ค. 2556, 22:56:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ต.ค. 2556, 22:56:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 1116





<< ตอนที่ 5 80%   ตอนที่ 5 100% >>
ปิศาจสัญจร 28 ต.ค. 2556, 04:37:36 น.
โฮ๊ย นางเอกเรา


สาริน 29 ต.ค. 2556, 23:15:28 น.
ขอบคุณที่ติดตามจ้าาาาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account