จะเก็บไว้ในใจจนนิรันดร์
ถ้าไม่มีงานสัมมนานั้นอังศุมาลินคงไม่นึกถึงเขาคนนั้นอีก ทั้ง ๆ ที่หลายปีที่ผ่านมาเธอลืมเขาไปแล้วแท้ ๆ เขาที่เธอแอบรักมาตั้งแต่เรียนมัธยม เขาที่ไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง และเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
และเธอจะไม่รู้สึกผิดถ้าเธอไม่มีอธิฐานที่อยู่ข้าง ๆ เธอ อธิษฐานที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
และมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นถัาเธอไม่ต้องมาเจอกับเขาคนนั้นอีก
Tags: รักสามเศร้า / สับสน / วุ่นวาย

ตอน: 23 ไม่มีวันที่ฉันจะยอม

23 ไม่มีวันที่ฉันจะยอม

ข่าวของอังศุมาลินก็ถือว่าดังพอสมควร แต่ก็ถูกข่าวฉาวของดาราคนอื่นกลบทับในอีกไม่กี่วันต่อมา เธอเล่าเรื่องข่าวให้พัฒนากรฟังเย็นในวันงานเปิดตัวหนังสือ ชายหนุ่มไม่ได้โกรธอะไรและบอกให้หญิงสาวดูแลตัวเองกับลูกให้ดี

วันนี้เธอมาดูยอดขายที่บริษัท ผลปรากฏว่าขายดีดังคาด สั่งพิมพ์ครั้งที่สองไปแล้วเรียบร้อย แถมยังมีค่ายหนังของซื้อบทประพันธ์ไปทำภาพยนตร์

“นี่จ๊ะ”นันธิตายื่นบัตรอะไรบางอย่างมาให้ อังศุมาลินเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ “คอร์สคุณแม่หลังคลอดไง ผอมเร็วได้ดังใจ ปลอดภัยหายห่วง ของเพื่อนพี่เอง”

“มันแพงมากเลยนะคะ จะดีเหรอ”อังสุมาลินเกรงใจแต่มือเจ้ากรรมก็คว้ามันมาไว้แล้ว

“เขาขอให้เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้”

“ไม่เอาอ่ะ แค่นี้อิ้งก็โดนด่าว่าใช้พี่ภีร์เป็นเครื่องมือแล้ว”อังศุมาลินปฏิเสธเสียงแข็ง ส่งคือบัตรใส่มือเจ้านายสาว แต่นันธิตากลับไม่รับ

“ได้ผอมแบบไม่เสียเงิน แถมยังได้เงินใช้ด้วยนะ อย่าลืมสิว่าลูกเธอยังเล็ก อนาคตก็ไม่แน่นอน อะไรคว้าได้ก็คว้าไปก่อน พี่ว่าภีร์ก็น่าจะเข้าใจนะ”

อังสุมาลินคงจะตอบคำไหนไม่ได้นอกจาก

“ค่ะ”



ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าคอร์สคุณแม่หลังคลอดที่อังศุมาลินรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้นั้นมีประสิทธิภาพมาก แค่เพียงสองสัปดาห์น้ำหนักของหญิงสาวก็ลดไปจนผอมเพรียวดังเดิม

โฆษณาที่ไปถ่ายไว้เมื่อสามวันก่อนก็ถูกตัดต่อเอาออกมาฉายที่หน้าจอทีวีแล้ว อังศุมาลินไม่คิดเลยว่าเกิดมาจะได้มีโอกาสเป็นดารากับเขา แต่เรื่องแจกลายเซ็นก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ของเธอแต่อย่างใด

เธอยังจำได้ดีในวันแรกที่มีคนมาขอลายเซ็น เธอเขียนไปอย่างไม่เป็นภาษา แต่คนที่ได้รับไปนั้นกลับดีใจจนเกินจะอธิบาย
ระยะเวลาหนึ่งเดือนก็เลยไม่ได้ทรมานอย่างที่หญิงสาวคิดไว้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีใจที่สามีจะกลับบ้านมาวันนี้

ทั้ง ๆ ที่เป็นสถานที่เดียวกันกับเมื่อหนึ่งเดือนก่อนแต่หญิงสาวกับคิดว่าบรรยากาศวันนี้มันช่างดีกว่าเป็นก่ายกอง

“พ่อจะกลับมาแล้วนะลูก”

อังศุมาลินพูดยังไม่ทันขาดคำพัฒนากรก็เดินเข้ามาหาพอดี หญิงสาวกอดเขาไว้แน่นด้วยความคิดถึง พัฒนากรหอมภรรยาและลูกน้อยคนละที

“สวยจังเมียใครเนี่ย”

“ก็เมียของสุดหล่อคนนี้ไงคะ รู้ไหมว่าที่เธอไม่อยู่เรื่องเกิดขึ้นกับเราตั้งเยอะ”อังศุมาลินตั้งท่าจะเล่าแต่แล้วก็ต้องสะดุดเมื่อเห็นฝรั่งสาวผมทองเดินตรงมาหาพร้อมเรียกชื่อสามีเธอ

“นี่ภรรยาผม อิ้งนี่ฟารีเพื่อนที่รู้จักกันที่อังกฤษ”พัฒนากรแนะนำเป็นภาอังกฤษกับผู้หญิงคนนั้น และพูดภาษาไทยกับอังศุมาลิน

พอมองเธอใกล้ ๆ อังศุมาลินก็นึกว่าแม่ฝรั่งคนนี้คือคนที่หลุดมาจากหนังการ์ตูนบาร์บี้ ไม่ว่าจะสีผม รูปร่างหน้าตา สีปาก ชุดของเธออีก มันไม่ได้ต่างจากตุ๊กตาบาร์บี้เลย ช่างดูงามระหงส์ไปหมด ส่วนเธอเองก็เปรียบเหมือนตุ๊กตาบลายท์ที่ถึงแม้จะน่ารักไม่ต่างกัน แต่ก็คงจะสู้แม่บาร์บี้ไม่ได้

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”ฟารียื่นมือมาให้พูดเป็นภาษาอังกฤษ อังศุมาลินไม่ได้ยื่นมือออกไปเพราะยังคงหลงอยู่ในพะวัง “พีมภรรยาคุณฟังไม่เข้าใจเหรอ”

“อิ้งฟารีเขาบอกว่ายินดีที่ได้รู้จัก”

“เหรอ”อังศุมาลินหัวเราะแหะ ๆ ยื่นมือไปจับ “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”อังสุมาลินพูดภาษาอังกฤษเช่นกัน

“คุณก็พูดภาฉันได้ ไหนพีมบอกว่าคุณพูดไม่ได้”ฟารีถามกลับ

“ฉันพูดได้บ้าง ฟังเข้าใจบ้าง”อังศุมาลินตอบกลับ แล้วหันมาถามพัฒนากร “พีมเขามาเที่ยวคนเดียวเหรอ”

“ใช่เขาคงต้องมาพักกับเรา”

สิ่งที่อังสุมาลินคิดได้มีคำเดียวคือคำว่าเอาอีกแล้ว...มันเอาอีกแล้ว

“ก็ตามใจเธอ ไปรอที่ข้างหน้าแล้วกันเดี๋ยวเอารถมารับ”พูดจบก็เดินลิ่วไปเลยไม่รอฟังคำคัดค้านจากใคร

“เมียคุณโกรธอะไรรึเปล่า”ปารีถามตามที่เห็น พัฒนากรส่ายหน้าก่อนตอบ

“ไม่หรอกเธอแค่ไปเอารถ เราไปรอเธอที่ด้านหน้ากันดีกว่า”




อังศุมาลินขับรถมาจอดในอีกไม่กี่นาทีต่อมา พัฒนากรตั้งใจว่าจะไปนั่งเคียงคู่ภรรยาแต่ที่นั่งนั้นมีลูกจองไว้แล้ว

“ไปนั่งกับคุณปารีเถอะ รถข้างหลังบีบแตรไล่แล้ว”

อังศุมลินยังคงงอนไม่หาย เมื่อทุกคนขึ้นรถเสร็จหญิงสาวก็ออกรถไป ถ้าไม่ติดว่าลูกนั่งมาด้วยเธอจะออกรถแรง ๆ ให้หน้าทิ่มเสียทั้งสองคน

ใช้เวลาไม่นานเกินทนอังศุมาลินก็มาถึงคอนโด ที่ว่าไม่นานเกินทนเพราะแม่ปารีบาร์บี้เอาแต่ถามนั้นถามนี้สามีเธอให้วุ่นไปหมด เห็นรถตุ๊ก ๆ ก็ถามว่าอะไร เห็นท่าเรือ ก็ถามว่าอะไร เห็นวัดก็ถามว่าอะไร จนรถไม่มีวินาทีไหนที่เงียบเลย ลูกที่เคยหลับตอนอยู่ในรถก็พาไม่หลับไปด้วย

“พีมบอกเธอว่านี่คือห้องของเธอ”อังศุมาลิหยุดที่ห้องหนึ่งก่อนถึงห้องของเธอ

“นี่มันห้องพี่รบนี่”พัฒนากรไม่เข้าใจว่าทำไมภรรยาถึงให้แขกมานอนห้องคนอื่น

“มันเคยใช่ แต่ตอนนี้พี่รบขายให้เราแล้ว เมื่ออาทิตย์ก่อนเขามีปัญหาเรื่องเงิน เขาเลยบอกขาย เราก็เลยซื้อไว้ เวลาพ่อแม่เราหรือพ่อแม่เธอมาเยี่ยมจะได้มาอยู่”ว่าแล้วก็ไขกุญแจห้อง “เอาขอเธอเข้าไปเก็บแล้วรีบเข้าห้องด้วย ช้าเจอดี”อังศุลินทำเสียงขู่แล้วเดินเข้าห้องตัวเองไป

“นี่ห้องคุณเหรอ”ปารีถาม

“ครับ ห้องนอนแขก เชิญครับผมจะยกกระเป๋า”พัฒนากรทำหน้าที่สุภาพบุรุตตามสัญชาตญาณ แล้วรีบขอตัวออกจากห้องแล้วมาหาภรรยา

“เธอคงไม่มีปัญหาใช่ไหมพีม”หญิงสาวเอ่ยถามขณะยกแก้วนมเย็นมาให้ “คุณปารีชอบทานอะไร”

“ให้เธออยู่ที่ห้องนั้นก็ดีแล้วล่ะ ขอบคุณนะครับที่รัก เราล่ะคิดถึงนม...เย็นของอิ้งที่สุด”พูดพลางซุกหน้าไปที่อกของภรรยา

“หยุดเลย เราถามว่าคุณปารีชอบทานอะไร กาแฟได้ไหมเราจะทำให้”อังศุมาลินตีสามีไปหนึ่งทีแล้วหันหลังไปที่มุมห้องครัว

“ก็ได้มั่ง มีคุ้กกี้ไหมเอาไปด้วยก็ดี”ชายหนุ่มเดินมายืนที่ข้างหลังภรรยาโอบกอดเธอไว้ซุกหน้าหล่อไปที่คอด้วยความคิดถึง “ทำไว ๆ นะเราหิวแล้ว”

“ก็ปล่อยสิ จะได้รีบทำ เดียวเธอจะเป็นโรคกระเพาะเอา”



แต่หลังจากที่พัฒนากรเข้าไปอีกห้อง เขาก็หายไปหลายนาทีจนหญิงสาวต้องเดินไปตาม เห็นชายหนุ่มกำลังหันหลังอยู่ที่ประตู ข้างหน้าเขาคือปารี ทั้งสองคนมีท่าทางหยุกหยิกอย่างน่าประหลาด

“พีมทำอะไร”หญิงสาวถามเสียงแข็ง

ชายหนุ่มหันมามือกำลังจับอยู่ที่ซิบของเสื้อปารี เสื้อของปารีเป็นเสื้อที่ติดซิบจากด้านหลัง

“ซิบเธอติดน่ะ ดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออก”

หญิงสาวโล่งใจที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคิด ก่อนเธอจะคิดหาเรื่องพูดต่อ

“เห็นบอกว่าหิว แล้วมาตั้งนาน เอ่อ...เราช่วยดึงเอง”อังศุมาลินขันอาสาแล้วเดินมาแทรกตัวระว่าสองคน ออกแรงดึงทีเดียวซิบก็หลุด

“อ้าว...หยุดแล้ว”

“แล้วเธอดึงอีท่าไหนล่ะถึงได้ไม่หลุด”พูดจบก็รีบเดินออกจากห้องไป พัฒนากรแน่ใจว่าอังศุมาลินต้องโกรธแน่จึงรีบวิ่งตามออกมา จนปารีที่ร้องเรียกไม่ทัน

“ตามมาทำไม ไม่ไปช่วยถอดเสื้อผ้าเขาให้หมดล่ะ”น้ำเสียงสั่นกึ่งตะหวาด

“ก็ถ้าเราถอดของเขาออก ป่านนี้เราคงไม่ได้ออกจากห้องนั้นแล้วนะสิ รู้ไหมเรารออิ้งไปช่วยตั้งนานนึกว่าจะไม่รอดเสียแล้ว”พัฒนากรส่งสายตาออดอ้อน

“พีม อุ๊บ...”ยังไม่ทันที่อังศุมาลินจะได้พูดพัฒนากรก็จัดการประกบปากภรรยาอยู่นานเป็นนาที ส่วนเรื่องต่อจากนั้นคงไม่ต้องบอก ห่างหายกันไปนับเดือนคงต้องกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแคว้นดังเดิมเสียหน่อย


ถึงเวลาอาหารเย็นพัฒนากรเลือกจะพาครอบครัวและแขกมาทานอาหารในภัตตาคารที่อยู่ตรงข้ามกับคอนโด
อังศุมาลินเองไม่ชอบที่จะมาทานอาหารที่นี่เท่าไหร่เพราะความแพงของมันทำให้กระเป๋าเงินเธอเบาหวิว

“เมื่อตอนกลางวันพวกคุณทะเลาะกันรึเปล่าคะ เสียงดังเชียว”

หลังจากพัฒนากรได้ยินคำถามหน้าของเขาก็แดง ชายหนุ่มก้มหน้าหลบตาเพราะตอบไม่ถูก

“เอ่อ...เราปรับความเข้าใจกันนิดหน่อย”

“ทานข้าวเสร็จแล้วพาฉันไปเที่ยวผับหน่อยสิ นะฉันอยากไป”

“ไปสองคนคงจะไม่ดีหรอก เอ่อ...ไว้ครั้งหน้านะ”พัฒนากรรีบปฏิเสธ รู้ดีถ้าเขาตบปากรับคำไป ภรรยาที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ คงจะกลายเป็นนางยักษ์ในทันที

“ไม่ ไม่รู้ว่าฉันจะมาอีกเมื่อไหร่ คุณรับปากพ่อฉันแล้วว่าจะดูแลฉันตอนที่อยู่ที่นี่”ปารีย้ำคำที่พัฒนากรเคยรับปากกับพ่อเธอไว้ เหตุด้วยหน้าที่ชายหนุ่มจึงปฏิเสธต่อไปไม่ได้

อังศุมาลินที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ จับใจความบางอย่างได้ว่าแม่ปารีบาร์บี้ต้องการเที่ยว แต่เที่ยวที่ไหนอะไรเธอก็ไม่เข้าใจ

“อิ้งปารีเขาอยากไปเที่ยวผับ”

อ๋อ! ผับนั้นเอง อังศุมาลินพยักหน้าเข้าใจ รู้ดีว่าตัวเองตามไปไม่ได้

“ไปสิ ระวังตัวให้ดีก็พอ ถ้าเรารู้ว่าเกินเลยล่ะก็ ฮึ!”

อังศุมาลินใจดีปล่อยให้ทั้งสองคนไปเที่ยวกัน แต่พอถึงห้องเธอก็รีบกดโทรศัพท์หาใครบางคน

“อิฐช่วยเราหน่อยนะ...”



ที่ผับหรูตั้งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของพัฒนากรนัก ปารีดูท่าทางจะมีความสุขกับแสงสียามค่ำคืนยิ่งนัก เธอเต้นอวดลวดลายจนคนรอบข้างต้องล่าถอย มีเพียงหนุ่มใจกล้าไม่กี่คนเท่านั้นที่อยากลองของแปลกยังคงยืนรอให้เธอเข้าไปหา

อธิษฐานหันมองไปรอบ ๆ จนเจอกับสตรีที่อังศุมาลินพูดถึง กำลังยืนโอบคอพัฒนากรอยู่ ชายหนุ่มเพียงแค่โยกเบา ๆ ตามมารยาท แต่แม่สาวบาร์บี้นั้นแทบจะเลื้อยพันพัฒนากรได้รอบตัวเสียแล้ว

“พีม”อธิษฐานไม่รอช้าที่จะเข้ามาทักทาย ก่อนที่รุ่นน้องอาจจะไปตกอยู่ในท้องของแม่งูเหลือม

“อิฐ”พัฒนากรยิ้มโล่งอก “ปารี นี่อิฐเพื่อนของผม อิฐนี่ปารีเพื่อนที่รู้จักที่อังกฤษ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่ออิฐ”อธิษฐานส่งมือไปให้หญิงสาวจับ

“ฉันปารี ยินดีที่ได้รู้จัก”ปารียิ้มยินดี จับมือกับอธิษฐานแล้วหันมาเต้นต่อ โดยไม่สนใจอธิษฐาน สนอยู่แต่เพียงพัฒนากร

ชายหนุ่มส่งสายตาอย่างรู้กัน อธิษฐานที่ไม่เคยเจ้าชู้ก็ต้องฝืนใจทำในบางสิ่งที่ไม่ชอบ

“ผมขอเลี้ยงเครื่องดื่มคุณสักแก้วเถอะครับ”อธิษฐานยิ้มหวานก่อนจะยกมือเลี้ยงบริกรที่ยืนอยู่แถวนั้นก่อนจะกระซิบสิ่งที่อยากได้ไป บริกรหนุ่มพยักหน้ารับรู้ก่อนจะกลับมาพร้อมกับน้ำสีฟ้าสี่ใส่เชอร์รี่อยู่ในแก้ว

“ขอบคุณค่ะ เอ่อ...ช่วยเอาแบบเดียวกันนี่มากอีกสอง”เธอหันไปสั่งบริกรคนเดิม แต่พอเขากลับมาแก้วบนถาดมีถึงสามแก้ม

“ของใครอีกแก้ว”เธอหันมาถาม

“คุณผู้ชายท่านนั้นครับ ผมขอตัวนะครับ”บริกรหนุ่มล่าถอยไป

คนที่เดินสวนมาก็คือคัมภีร์ เขายิ้มให้ทั้งสามอย่างเป็นมิตร ก่อนจะส่งมือไปทักทายปารีพร้อมโปรยเสน่ห์ที่เขามีล้นเหลือ

“คุณกลับมานานแล้วเหรอครับ ผมต้องขอโทษเรื่องข่าวด้วย”คัมภีร์กระซิบที่ข้างหูพัฒนากรพร้อมส่งตาหวาน

“มาคนเดียวเหรอครับ”พัฒนากรเขยิบออก ถามแล้วหันมองไปรอบ ๆ

“มากับเพื่อนครับ แต่พวกเขากลับไปหมดแล้ว พอดีผมเห็นคุณเลยแวะมาทัก ดื่มกันสักแก้วสิครับ”พูดแล้วก็โอบไหล่พัฒนากรต่อ

“ได้ครับ”พัฒนากรตอบพยายามถอยห่างออกมาอีก รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ขนทั่วทั้งร่างกายแข่งกับประชันความยาว

“พวกคุณคุยอะไรกัน ฉันไม่เข้าใจเลย แล้วทำไมต้องเข้าใกล้กันขนาดนั้นด้วย”ปารีพูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น มองทั้งสองคนด้วยสายตาหวาดระแวง

อธิษฐานเมินหน้าหนีเพราะกลัวหลุดขำ พอเข้าใจแล้วว่าอะไรเกิดขึ้น เขาตัดสินใจเดินมาแทรกกลางระหว่างปารีกับพัฒนากร

“พวกเราทำในสิ่งที่เคยทำนะสิ”อธิษฐานพูดภาษาที่หล่อนเข้าใจเอาหัวโตพิงไปที่ไหล่ของพัฒนากร คนที่อยู่ตรงกลางตัวแข็งทื่อ สิ่งเดียวในชีวิตที่ทำไม่เป็นก็คือการเล่นละคร แม้จะรู้ว่าจะทำให้รอดจากผู้หญิงคนนี้ก็เถอะ

“พวกคุณเป็นเกย์ โอไม่ ฉันไม่อยากเชื่อ ฉันไม่ทนอยู่ที่นี่แล้ว”พูดแล้วสาวเท้าไวเดินหนีภาพบาดตา

พัฒนากรรีบวิ่งตามพร้อมบอกจะไปส่ง แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือห้านิ้วเรียว แค่นั้นเขาก็เลยตัดใจปล่อยให้เธอกลับไปเอง แต่ก็ยังโทรหาภรรยาให้ดูว่าปารีกลับถึงที่พักรึยัง ก่อนจะกลับมาหาสองหนุ่มที่นั่งขำอยู่ที่โต๊ะอย่างไม่อายใคร

“ตลกกันมากไหมครับ คุณภีร์คุณไม่กลัวรึไงว่าคุณอาจจะเป็นข่าวอีก”

สองหนุ่มหยุดขำไปชั่ววินาที แล้วก็ต้องขำต่อเมื่อแสงไปส่องมากระทบที่แก้มขาวของหนุ่มหล่อ

“ข่าวนะเหรอ ผมโดนมาตลอดชีวิตที่ผมเข้าวงการบันเทิงแล้ว แค่เรื่องเกย์จิ๊บ ๆ ว่าแต่คุณเถอะปฏิเสธคนไม่เป็นเลยรึยังไง ปล่อยให้เขาแทะโลมอยู่ได้ หรือว่าชอบ”คัมภีร์พูดในฐานะที่เป็นผู้ชายด้วยกัน และอายุมากกว่าพัฒนากรหลายปี

“เขาเป็นลูกสาวของลูกค้านี่ครับ ผมจะทำรุนแรงได้ยังไง”

“แล้วที่นายปล่อยให้อิ้งต้องคอยห่วงและหวงอยู่บ่อย ๆ เนี่ยทำได้ใช่ไหม มันง่ายกว่าใช่ไหม”อธิษฐานพูดเสียงเข้ม พัฒนากรหันไปเห็นน้ำสีฟ้าหมดไปสองแก้ว

“นายดื่มเหรออิฐ”

“ฉันถามทำไมไม่ตอบวะ”อธิษฐานเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“เกิดอะไรขึ้น”คัมภีร์เองก็ตกใจรีบคว้ามือของอธิษฐานที่ไหวไปมาให้นิ่งสงบ

“มันแพ้เหล้า แค่จิบเดียวนรกแตก ผมรบกวนคุณช่วยพาเขาไปส่งที่รถด้วยนะครับ”พัฒนากรทำท่าขนลุก ก่อนที่จะพากันลากคนเมาไปขึ้นรถ คัมภีร์ขอตัวกลับตรงนั้น พัฒนากรเลยคิดว่าจะพาอธิษฐานไปที่คอนโดก่อน

“แกมันเลวรู้ตัวไหม แกแย่งคนรักของฉันไป แล้วยังทิ้งกว้างเธออีก แล้วแกจะให้ฉันจากไปอย่างสงบได้ยังไง”

ตอนนี้อธิษฐานหน้าแดงกล่ำ รวมไปถึงหูและที่ตัวด้วย พัฒนากรนั่งนิ่งฟังสิ่งที่คนข้าง ๆ อึดอัดใจ เขาไม่รู้ว่าอธิษฐานทนเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้ได้ยังไง

“นายคงจะไม่อยากเชื่อคำพูดคนเลวอย่างฉัน แต่ฉันจะบอกว่าฉันรักอิ้งจริง ๆ รักเธอคนเดียว”

“แกไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่เอาอิ้งคืนจากนาย แต่ไอ้หนวดนั้นฉันไม่รู้ ระวังเถอะ อิ้งจะโดนพ่อเทพพระบุตรนั้นคาบไปกิน”พูดจบก็คอพับไป ทิ้งให้คนขับรถใจเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะความโกรธ ไม่ใช่ว่าโกรธใคร แต่โกรธตัวเองที่ชอบลืมคนสำคัญของหัวใจไป

“ไม่มีวันที่ฉันจะยอม”

เหมือนเป็นสัญญากับตัวเอง แต่คนที่แกล้งหลับอยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มมุมปากรับรู้ ฉันก็ช่วยนายได้แค่นี้ ฉันมีสิทธิ์แค่นี้จริง ๆ




เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ต.ค. 2556, 22:28:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ต.ค. 2556, 22:28:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 3109





<< 22 เมื่อเขาไม่สนใจ...   24 เข้าใจรึยัง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account