ใต้ปีกรักสีเพลิง {นวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ.อรุณ}
สร้อยผีเสื้อสีเพลิงจากคนแปลกหน้า
เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนใหม่
เธอไม่รู้ว่ารักเขาจริงๆ
หรือเป็นเพราะอำนาจของผีเสื้อตัวนี้กันแน่
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๑๘ (จบตอน)

สุภัทรชาหยิบสร้อยชูสูงขึ้นจนจี้รูปผีเสื้อห้อยอยู่ในระดับสายตา เธอเพ่งมองหินที่ร้อนฉ่าจนกลายเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความใคร่รู้ รอยขีดสีแดงในเนื้อศิลาดูเหมือนจะยาวขึ้นจากที่เธอเห็นเมื่อคืนตอนลอบถอดมันจากคอเพื่อนสนิท หญิงสาวแทบอดใจไม่ไหวแล้วที่จะสวมมันไปทำงาน ขนาดเพื่อนผู้จืดชืดของเธอ สร้อยเส้นนี้ยังมีอำนาจเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นผู้อำนวยการสุดเฮี้ยบได้เลย แล้วเธอล่ะ...ผู้หญิงสวย เก่ง สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว จี้นี่คงทำให้เธอโดดเด่นยิ่งกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน

“ตื่นเช้าจังคนดี” น้ำเสียงงัวเงียพึมพำอยู่ไม่ห่าง พร้อมกับที่ชายหนุ่มขยับมาจูบไหล่เปลือยเปล่าของเธอแผ่วเบา

“สิบโมงแล้วค่ะ เช้าที่ไหนกัน” สุภัทรชาแย้ง วางสร้อยที่หัวเตียง ก่อนหันมาทางชายหนุ่ม “แม่ชักจะถามบ่อยแล้วว่าทำไมระยะหลังเกรซไม่ค่อยกลับบ้าน เกรซต้องโกหกแม่ทุกทีว่าไปนอนที่คอนโดแพน เมื่อไหร่คุณภูจะจัดการเรื่องของเราให้เรียบร้อยสักทีคะ”

“คุณยังไม่เลิกกับไอ้หมอนั่นเลย ขืนผมประกาศเรื่องของเราไป คนจะมองว่าผมเป็นมือที่สามนะที่รัก คุณก็รู้ว่าเรื่องชู้สาวแบบนั้นมันเสื่อมเสียมาถึงการงานของผม” คนพูดไม่อยู่เฉย มือไม้เริ่มป่ายไปตามเนื้อตัวใต้ผ้าห่ม พลางรุกไล่ริมฝีปากไปตามลาดไหล่ลงมาช้าๆอีกด้วย

“งั้นเกรซจะบอกเลิกกับพี่พัทธ์วันนี้เลย” หญิงสาวเชยคางผู้ชายที่เป็นเจ้าของเนื้อตัวเธอ บังคับให้เขาสบตากัน “แล้วคุณภูจะจัดการเรื่องของเราให้เรียบร้อยเร็วๆนี้ใช่ไหมคะ”

ภูผายิ้มกว้างไม่ตอบอะไร แต่พลิกตัวคร่อมร่างหญิงสาวแทน เขาก้มลงมาซุกไซ้ใบหน้าไปตามเรือนกายของเธออย่างแสนเสน่หา

สุภัทรชายิ้มนิดๆ สีหน้ามีร่องรอยพึงใจ วาดหวังถึงสิ่งที่รออยู่ในอนาคตด้วยความสุข สัมผัสหวามจากชายหนุ่มทำให้เธอปัดทุกสิ่งออกจากห้วงความคิด ปล่อยใจเคลิบเคลิ้มไปกับคำหวานที่อีกฝ่ายป้อนปรนเปรอ

ครั้นพายุสวาทสงบ หญิงสาวก็นอนระทวยอยู่บนที่นอน มองตามร่างเปลือยเปล่าด้านหลังของภูผาที่ลับหายเข้าไปในห้องน้ำอย่างสุขสม เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เธอเอื้อมมือไปหยิบมากดรับสายโดยไม่เสียเวลาเหลือบดูชื่อผู้โทร.เข้าด้วยซ้ำ

“สุภัทรชาค่ะ” หญิงสาวหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน อมยิ้มเมื่อนึกถึงสงครามพิศวาสที่จบลง

“คุณอยู่ที่ไหนน่ะเกรซ” แฟนหนุ่มที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตคาดคั้นมาตามสาย

“ก็ต้องอยู่ที่คอนโดสิคะ” เธอไม่ได้โกหกนะ ก็แค่บอกไม่หมด...ว่าคอนโดของใครเท่านั้นเอง

“โกหก!” พัทธ์ธนัยตวาด

“เอ๊ะ! พี่พัทธ์มีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้กับเกรซ”

“ถ้าอยู่ที่คอนโด งั้นบอกให้ฟังทีซิ ว่าแพนยังอยู่กับเกรซด้วยหรือเปล่า”

“ยายแพนก็นอนอยู่ในห้องนั่นแหละค่ะ อยากคุยกับเขาก็โทร.เข้าเบอร์แพนสิ มาโทร.หาเกรซทำไม เกรซไม่ใช่ต้นห้องของใครนะ” หญิงสาวไม่พอใจ

“เหรอ” น้ำเสียงอีกฝ่ายเยียบเย็น “แปลกนะที่แพนอยู่สองที่ในเวลาเดียวกัน พี่อยู่โรงพยาบาล เพิ่งเยี่ยมแพนเสร็จ มีคนไปพบแพนหมดสติอยู่ในคอนโดน่ะ หมอตรวจพบว่าแพนถูกวางยาและทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อไหร่ที่ได้สติ แพนจะไปแจ้งความดำเนินคดี หาพยานยืนยันที่อยู่ไว้ให้พร้อมนะเกรซ”

“พี่พัทธ์พูดบ้าๆ แต่งเรื่องบ้าบออะไรก็ไม่รู้มาขู่เกรซ” เมื่อสบโอกาสทำตามคำขอของภูผา สุภัทรชาก็คว้าไว้ทันที “ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องอย่างนี้ ก็อย่าคุยกันอีกเลย เกรซเบื่อเต็มทีแล้ว ทั้งๆที่พี่เป็นแฟนเกรซ แต่พี่ก็คอยแต่ปกป้องแพนอยู่ได้ ถ้ารักกันนักห่วงกันหนา พี่พัทธ์ก็เลิกกับเกรซแล้วไปดูแลกันซะให้พอใจเลยเหอะ”

“โยงมาเป็นเรื่องเดียวกันได้ยังไงน่ะเกรซ” พัทธ์ธนัยหยัน “เรื่องเลิกไม่เลิกน่ะเอาไว้ก่อนเถอะ ก็อย่างที่บอกแหละว่าเกรซทำเกินไปนะ ขอไปพักที่คอนโดแพน แล้วทำร้ายร่างกายเจ้าของบ้านขนาดนั้น ไม่คิดว่ามันจะใจร้ายเกินมนุษย์มนาไปหน่อยหรือ”

“เกรซไม่ได้ทำอะไรแพนสักหน่อย! อย่ามาใส่ความกันนะ”

“มีคนสองคนอยู่ในห้อง ถ้าเกรซยืนยันว่าไม่ได้ทำ งั้นก็แปลว่าแพนทำร้ายตัวเองน่ะสิ” เขาเยาะหยัน ไม่เชื่อถือคำตอบของเธอสักนิด

สุภัทรชาชะงัก ไม่อาจบอกความจริงว่าเธอไม่ได้อยู่ที่คอนโด เพราะขืนข่าวหลุดออกไปว่าภูผาคบหากับเธอระหว่างที่เธอยังไม่เลิกรากับคนรักเก่า นอกจากจะทำให้ภูผาเสียชื่อเสียงแล้ว ภูผาต้องโกรธเธอมากแน่ๆ

“ใครจะไปรู้ล่ะ แพนมันอาจบ้าเลือดทำร้ายตัวเองเพื่อใส่ความเกรซก็ได้” สุภัทรชาเถียง

“ได้ยินคำพูดตัวเองบ้างหรือเปล่าน่ะเกรซ ว่ามันน่าสมเพชแค่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเกรซอยู่ที่ไหน”

“อยู่ที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องของพี่พัทธ์” สุภัทรชายืนกราน “แล้วต่อไปนี้พี่พัทธ์ก็เลิกมายุ่งวุ่นวายกับเรื่องของเกรซได้แล้ว เราจบกัน!”

“อย่าเอาหลายเรื่องมาปนกันเลยเกรซ เรื่องของแพนไม่เกี่ยวกับเรื่องของเรา”

“จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว เกรซก็ไม่สน เกรซเบื่อพี่พัทธ์เต็มทีแล้ว เราเลิกๆกันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปซะทีเถอะ”

“พี่ไม่เลิก เรารักกัน ทำไมต้องเลิกกัน”

“แต่เกรซไม่ได้รักพี่พัทธ์แล้ว” สุภัทรชาแทบตะโกนใส่โทรศัพท์

“เกรซก็แค่โกรธที่พี่...”

สุภัทรชาสุดทนกับการตื๊อ โทสะทำให้ไม่ได้ยินประโยคที่เหลือ ขณะโมหะและความหงุดหงิดสั่งให้เธอผรุสวาทใส่โทรศัพท์เป็นคำสุดท้าย “ไอ้บ้า! ไปตายซะ!” แล้วโทรศัพท์มือถือเครื่องละหลายหมื่นก็ถูกขว้างใส่พื้นอย่างรุนแรงเพื่อระบายความไม่พอใจ

ผู้ที่ก้าวออกจากห้องน้ำปรายตามองของที่ถูกปาอัดพื้นนิดเดียว แล้วเบ้ปากถาม “ใครทำอะไรไม่ถูกใจอีกล่ะ”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่พวกตื๊อน่ารำคาญ” สุภัทรชาสวมเสื้อคลุมเนื้อบางแล้วรีบลุกขึ้นมากอดภูผาอย่างเอาใจ “เกรซบอกเลิกกับพี่พัทธ์แล้วนะ ทีนี้...เราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ดีคะ”

ชายหนุ่มดันไหล่เธอออกห่าง เอ่ยอย่างไม่สนใจ “ผมอาบน้ำแล้ว อย่ามากอดเลย รำคาญ คุณก็ควรอาบน้ำเร็วๆนะ จะได้ไปหาอะไรกินกัน ผมหิวแล้ว”

ชายหนุ่มเปิดตู้เสื้อผ้า เลือกเครื่องแต่งกายมาสวมราวหมดความสนใจใดๆต่อเธอโดยสิ้นเชิง เมื่อเห็นเธอยังยืนนิ่ง เขาก็กระตุ้นซ้ำ “เร็วเข้าสิ มัวแต่รออะไร บอกแล้วไงว่าผมหิว”

สุภัทรชารีบพยักหน้ารับคำ เดินเร็วๆเข้าไปในห้องน้ำ ภูผากำลังอารมณ์ดี ไม่ควรชักช้าจนเขาอารมณ์เสียเด็ดขาด ครั้งหนึ่งเธอเคยพิรี้พิไรแต่งตัว เมื่อออกไปสมทบก็พบว่าเขาทิ้งเธอไว้และออกไปรับประทานอาหารเช้าคนเดียว!



เตียงคนเจ็บถูกไขตั้งขึ้นจนพรนางฟ้านั่งเอนพิงอย่างสบาย หลังจากหลับไปถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ หญิงสาวก็ได้สติในที่สุด สีหน้าเธอสดชื่นขึ้นมาก ทั้งที่ริ้วรอยบนใบหน้าเริ่มกลายเป็นสีม่วงเข้มจนหน้ากลัว

“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” คิรินทร์ไม่กล้าแตะรอยบวมนั้น คงเพราะเกรงจะกระเทือนแผลของเธอ

“ไม่แตะโดนก็ไม่เจ็บค่ะ ขอบคุณนะคะที่ไปช่วยฉันออกมาจากคอนโด ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันอาจตายอยู่ที่นั่นก็ได้”

ชายหนุ่มถอนใจ “ผมคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาจะกล้าทำกับคุณขนาดนี้”

พรนางฟ้าหลุบตาลงมองแขนที่เต็มไปด้วยริ้วรอยอย่างหดหู่ อย่าว่าแต่คิรินทร์จะคิดไม่ถึงเลย เธอเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน ใครจะเชื่อว่าลึกๆในใจสุภัทรชาจะโหดร้ายถึงเพียงนี้ ฝ่ายนั้นวางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้ว ตั้งแต่แกล้งทะเลาะกับพัทธ์ธนัย ร้องห่มร้องไห้ขอไปค้างกับเธอ จนถึงวางยาและลงมือทำร้าย...

หญิงสาวถอนหายใจ สุภัทรชาเกลียดเธอขนาดนั้น!

“คุณกำลังคิดอะไรอยู่” นี่เธอคิดไปเองหรือเปล่านะ ว่าน้ำเสียงของคิรินทร์ขณะถามประโยคนี้อ่อนโยนกว่าเคย

“คิดอะไร? เปล่านี่คะ”

“ไม่จริง คุณกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง แต่แปลกตรงที่คุณไม่ยักโพล่งมันออกมาเหมือนเคยนะแพน”

พรนางฟ้าเบิกตาโตด้วยความตกใจ มือควานหาจี้รูปผีเสื้อที่กลางอกโดยอัตโนมัติ เมื่อพบแต่ความว่างเปล่าก็ลนลาน “สร้อย! สร้อยฉันไปไหน คุณเห็นสร้อยฉันไหมคะ”

“คุณไม่ได้สวมสร้อยไว้ตั้งแต่ตอนมาถึงโรงพยาบาลแล้ว”

“เป็นไปไม่ได้ ฉันสวมมันติดตัวแม้กระทั่งเวลานอน” พรนางฟ้ากระวนกระวาย “มันหายไปได้ยังไง”

ดวงตาคิรินทร์หรี่นิดๆอย่างใคร่ครวญ ก่อนตั้งคำถาม “แพน คุณจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนสุภัทรชาทำร้ายร่างกายคุณน่ะ”

เมื่อเธอไม่ตอบ อุ้งมือแกร่งก็ยึดมือเธอไปกุมไว้แทน ถามย้ำอีกครั้ง “แพน หยุดคิดเรื่องสร้อยนั่นสักครู่

เถอะ แล้วตอบผมมาก่อน”

พรนางฟ้ากลอกตาไปมา เธอนิ่งไปนาน ก่อนตะกุกตะกัก “ไม่รู้สิคะ ฉันสะดุ้งตื่นตอนที่โดนหวดครั้งแรก แต่พยายามลืมตาเท่าไหร่ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆมาปิดทับหนังตาไว้ ฉันมองไม่เห็นคนที่ทำร้ายฉันหรอก”

คิรินทร์เอนกายพิงพนักด้วยความโล่งใจ “แพน...เมื่อกี้คุณหยุดคิด ทุกคำที่คุณพูดผ่านการไตร่ตรองมาแล้ว คุณไม่ได้โพล่งสิ่งที่อยู่ในใจออกมาอีกต่อไป”

หญิงสาวตะลึงกับถ้อยคำนั้น “คุณพูดจริงเหรอ”

เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ายืนยัน เธอจึงคะยั้นคะยอ “งั้นคุณถามอะไรฉันหน่อย ถามอะไรก็ได้ เอายากๆนะ”

คิรินทร์บีบมือเธอเบาๆ ก่อนจะเงยขึ้นสบตาเธอ เอ่ยคำถัดไปช้าๆทว่ามั่นคงและชัดเจน “ผมชอบคุณนะแพน ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกทีก็ละสายตาจากคุณไม่ได้แล้ว แพนพอจะมีโอกาสให้ผู้ชายสักคนได้พิสูจน์ตัวเองบ้างไหม”

พรนางฟ้าอ้าปากค้าง ดวงตาเบื้องหลังแว่นสายตากะพริบปริบๆ พึมพำราวละเมอ “คำถามนี้ยากเกินไปแล้ว” ไม่ใช่แค่ยากอย่างเดียวนะ แต่ยาก ‘มากๆ’ เลยด้วย

“ตอบไม่ได้หรือไม่อยากตอบกันแน่เนี่ย” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ สีหน้าผิดหวัง เขาคลายมือออกนิดเดียว แล้วพรนางฟ้าก็ได้สติ

“เดี๋ยวๆๆ!” เธอรีบหงายฝ่ามือ เป็นฝ่ายยึดมือเขาไว้แทน “คือฉันกำลังช็อกน่ะ ขอทำใจแป๊บนึงนะ”

“ทำใจ?” คิรินทร์ขมวดคิ้ว “มีคนบอกรักนี่ต้องทำใจด้วยเหรอ หรือที่ต้องทำใจเพราะคนคนนั้นคือผม”

“ไม่ใช่ๆ ฉันใช้คำผิดน่ะ ฉันหมายความว่า...ฉันคาดไม่ถึง คือตอนนี้อะไรๆมันประดังเข้ามาเยอะแยะไปหมด ฉันไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไงน่ะ” พรนางฟ้ากระตุกมืออีกฝ่าย เสียงอ่อย “อย่าโกรธฉันเลยนะคะ”

รอยยิ้มคลี่บนใบหน้าชายหนุ่มช้าๆ และพรนางฟ้าก็ดีใจจนแทบร้องไชโยเลยทีเดียว เธอยิ้มกว้าง “ขอบคุณค่ะ”

“นี่ใจคอจะไม่หลุดความในใจออกมาให้ผมได้ยินบ้างจริงๆหรือ” เขาหยั่งเชิงอีกครั้ง

หญิงสาวหายใจเข้าลึกๆ “ฉันควรดีใจใช่ไหม ที่ไม่ต้องพูดทุกอย่างที่คิดอีกต่อไปแล้ว”

“แพนคิดว่ามันเป็นเพราะสร้อยเส้นนั้นจริงๆเหรอ”

“ไม่รู้สิคะ แต่จะให้เข้าใจเป็นอื่นได้หรือเปล่าล่ะ”

“นั่นสินะ” คิรินทร์พยักหน้า “ผมยินดีด้วย จากนี้แพนจะได้ไม่ต้องเที่ยวพูดความในใจให้ใครฟังแล้ว”

“ขอบคุณค่ะ” เธอชั่งใจเล็กน้อยก่อนถามด้วยความระมัดระวัง “คุณชอบฉันจริงๆเหรอ”

“ทำไมต้องทำเสียงแปลกใจด้วยล่ะ”

“ก็...ตั้งแต่เรารู้จักกันมา ฉันปากเสียมากเลยนะ ไม่เคยพูดเพราะๆกับคุณเลยสักครั้ง”

“แพนก็แค่ปากตรงกับใจ คิดอะไรพูดอย่างนั้น แพนอาจไม่ได้พูดเพราะๆทุกประโยค แต่อย่างน้อยก็ไม่เคยดูถูกเหยียดหยามคนอื่นเหมือนกัน” คิรินทร์ดึงมือออกจากการเกาะกุม มาวางแปะบนศีรษะหญิงสาวแล้วเขย่าเบาๆด้วยความเอ็นดู “ผมไม่ได้คาดคั้นให้แพนต้องตอบในวันนี้พรุ่งนี้หรอกนะ แค่อยากบอกให้รู้ ให้แพนเปิดใจพิจารณาผมบ้าง”

พรนางฟ้าดึงมือเขาออกจากศีรษะแล้วกุมไว้เฉยๆ พลางตวัดค้อนฉับใส่คนตัวสูง ทว่ากลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า ขณะอุบอิบรับคำ “รู้แล้วน่า”

คิรินทร์หัวเราะร่า พึมพำ “แพนจะว่าอะไรไหม ถ้าตอนนี้ผมอยากให้คุณยังสวมสร้อยเส้นนั้นไว้ชะมัด”

“ว่าแน่ๆ” พรนางฟ้าแสร้งเอ็ดเข้มๆ “คุณขี้โกงนี่นาที่อยากได้ยินความในใจฉัน”

“อ้าว! ก็แพนได้ยิน ‘ความในใจ’ ของผมแล้ว จะแปลกอะไรถ้าผมจะอยากได้ยินความในใจของแพนบ้าง!”

เสียงหัวเราะคิกคักที่ดังประสานกันทำให้คนเพิ่งก้าวเข้ามาในห้องพักฟื้นชะงัก สีหน้ามีร่องรอยแปลกๆที่อ่านไม่ออก เขาก้าวมาปรากฏตัวต่อหน้าคนเจ็บและคนเฝ้าไข้ แล้วภาพที่เห็นก็บาดตาไม่น้อย เมื่อพรนางฟ้าจับมือคิรินทร์ไว้หลวมๆ สีหน้าทั้งคู่มีความสุขอย่างที่เขากับสุภัทรชายังไม่เคยผ่อนคลายและสุขใจเทียบเท่า!

สองหนุ่มสาวหันไปทางผู้มาใหม่แทบจะพร้อมกัน แล้วพรนางฟ้าก็อุทาน

“พี่พัทธ์! โอ๊ย! เกิดจะโผล่มาอะไรเอาตอนนี้ล่ะเนี่ย! ว้าย! เราพูดมันออกไปอีกแล้ว!”


/ / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / /

อ่านความคิดเห็นของตอนที่แล้ว

แล้วก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว

ยังไม่มีใครทายได้เข้าใกล้กับความเป็นจริงเลยแม้แต่คนเดียวค่ะ อิอิ




ใครยังไม่ได้ร่วมสนุกกับเกมชิง 'ชุดความลับของผีเสื้อ' แบบยกชุด ทั้ง 3 เล่ม

ตามไปที่เฟสบุ๊ค SirinFC ด่วนนะคะ

หมดเขตร่วมกิจกรรมเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 11 นี่แล้ว ^_^



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ต.ค. 2556, 00:17:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ต.ค. 2556, 00:17:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 1602





<< ตอนที่ ๑๘ (ครึ่งแรก)   ตอนที่ ๑๙ >>
wind 11 ต.ค. 2556, 00:45:16 น.
เกรซไม่ได้ทำแล้วใครทำ?


นักอ่านเหนียวหนึบ 11 ต.ค. 2556, 00:45:20 น.
เหยยยยยยย ตกลงใครรังแกหนูแพน
แปลว่านี่ไม่ใช่การลืมกันครั้งสุดท้ายชิอ้ะ จะเกิดอะไรขึ้นอีกกก


พันธุ์แตงกวา 11 ต.ค. 2556, 01:12:09 น.
ความในใจของแพนตอนสุดท้าย ฮามาก แบบนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับสร้อยแล้วใช่มั้ยคะ
แล้วใครทำร้ายแพนล่ะเนี่ย


nateetip 11 ต.ค. 2556, 01:38:53 น.
ชอบเรื่องนี้นะคะ..


konhin 11 ต.ค. 2556, 02:00:43 น.
แล้วเดี๋ยวคนบางคนก็คงโดนทิ้ง


ree 11 ต.ค. 2556, 03:14:28 น.
ทายว่า มันเกี่ยวกับสร้อยที่ถอดออกไป ประมาณว่าเคยร้ายกับใครตอนใส่ ก็กลับมาเข้าตัวหมด ออกทะเลไปไหมเนี่ย


ketza 11 ต.ค. 2556, 06:11:26 น.
ลุ้นๆๆ เค้าอยากรู้ๆๆ ใครตีนางเอก แล้วตกลงความจำเสื่อมตอนไหน ไม่ได้หลุดคำพูดความในใจกับพระเอกคนเดียวหรอ เดาไม่ถูกซักอย่าง555


Pat 11 ต.ค. 2556, 06:28:11 น.
ใครทำร้ายแพนกันล่ะนี่


lovemuay 11 ต.ค. 2556, 06:43:29 น.
ถ้าสร้อยเป็นตัวทำให้พูดทุกอย่างที่คิดอยู่จริง เกรซใส่หล่ะก็ซวยแน่เลย อิอิ


OhLaLa 11 ต.ค. 2556, 07:33:34 น.
เกรซน่าจะวางยาแน่ๆ แต่ที่แพนถูกทำร้ายเป็นเพราะสร้อยหรือเปล่า 55 เดาไปเรื่อย


phugan 11 ต.ค. 2556, 07:35:37 น.
อยากรู้แล้วว่าใครคือคนทำร้ายแพน...


goldensun 11 ต.ค. 2556, 13:38:24 น.
เกรซไม่ได้ทำ แถมสร้อยก็ถูกถอดไปตอนที่ยังสลบซึ่งน่าจะก่อนโดนซ้อมแน่
เหลือแต่แม่บ้านที่ขโมยเพชรแพนแล้วมังคะ
เกรซยังไม่เห็นลายภูผา โดนทิ้งแน่ จะจับได้แน่นแค่ไหน


จิรารัตน์ 11 ต.ค. 2556, 14:58:41 น.
แสดงว่าผีเสื้อในสร้อยกับความริษยาของเกรซจูนกันติด ออกแนวโดนผี(เสื้อ)เข้าอ่างทอง ยังไม่ถึงสิงห์ 5555555


Sukhumvit66 11 ต.ค. 2556, 23:52:23 น.
ทำไมแพนไม่รู้ใจตัวเองซะทีน้า......คีเขาดีแสนดี
รับรักเขาซะทีเถอะ


ketza 13 ต.ค. 2556, 16:06:52 น.
ตอนที่พรนางฟ้าได้สร้อยมาใหม่ๆเคยขอพรให้ตัวเองกล้าพูดในสิ่งที่คิดแระก็ได้ดั่งที่ขอ แล้วตอนนี้สร้อยไปอยู่กับเกรซ ไม่รู้เกี่ยวกับจิตใจของเกรซหรือเปล่าที่ริษยาพรนางฟ้าเลยอาจจะทำร้ายนางเอกด้วยความไม่ตั้งใจแต่มันมาจากอำนาจของสร้อย ที่ดีหรือไม่ดีส่งผลมาจากจิตใต้สำนึกของผู้เป็นเจ้าของ ....... มั้ง.... เดาไปเรื่อยเปื่อย
เนอะ55555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account