Sweet Taste รสหวาน...บันดาลรัก
คนหนึ่งคนออกตามหาผู้หญิงที่มีแต่ความลับเพื่อที่ราคาแพง

คนหนึ่งคนถูกเรียกมาให้ปกป้อง ไม่ให้แผนการขายที่สำเร็จ

คนหนึ่งคนยังสนุกกับการเดินทาง แต่ไม่รู้ทำไมชีวิตถึงเริ่มวุ่นวายเมื่อมาถึงปักกิ่ง สถานที่สุดท้ายที่จะมาก่อนเธอกลับไทย

คนหนึ่งคนเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ถูกเลี้ยงมาเป็นคนงานในบ้าน ทั้งที่เจ้าตัวรู้ว่าใครเป็นพ่อ แต่เพราะครอบครัวจะทำร้ายคนอื่น เธอจึงไม่อยากให้พ่อหย่อนขาไปในนรก

คนหนึ่งคนมีแต่ความแค้น ปลูกฝังในหัวไม่สิ้นสุด รู้แค่ว่าเกลียด และต้องทำลาย

คนห้าคนในวังวนใกล้กัน ผจญอันตราย และเรื่องราวสุดจะคาดเดา กลับมีความหวานก่อเกิดขึ้นทีละนิดในใจของแต่ละคน...มารู้ตัวอีกที ความรัก ก็เกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
Tags: Sweet รสหวาน ภีม พรพิรุณ ปุณณ์ แพรระพี

ตอน: คนน่าปราบ

สมุดปกแข็งหุ้มด้วยผ้าสีน้ำตาล ลักษณะเกือบจะคล้ายกับเล่มที่พรพิรุณได้รับมาจากอิศยา บันทึกการเดินทางของคุณขจร อาแท้ๆ ของเธอ ดินสอไม้เหลาปลายแหลมเขียนเป็นภาษาไทยกำกับบทความภาษาอังกฤษที่เธอได้ลงมือเขียนไปก่อนหน้าถึงรสชาติอาหาร และลักษณะร้านว่าเป็นอย่างไร อะไรที่วรรษอยากโฆษณาให้ ไม่ต้องจ้างก็ทำให้ได้ ตรงข้ามกับร้านหรู ราคาแพงที่พุ่งเกาะติดตามล่าเธอ ไม่ว่าไปอยู่มุมใดในโลก เธอถึงอยู่ได้ไม่นาน

วรรษ คนที่ใครๆ ต่างก็เข้าใจว่าเป็นผู้ชายจากสรรพนามภาษาไทยที่เธอใช้เขียนในคอลัมน์...นึกๆ ไปกว่าเธอจะมีวันที่ต้องหนีนักล่าจากร้านอาหารดังมากมาย คนที่หยิบยื่นโอกาสในการเป็นนักวิจารณ์อาหารก็เห็นจะไม่พ้น ผู้หญิงมีเวทมนตร์ในวงการขนมหวาน...อิศยา

การเดินทางมาตลอดเกินครึ่งปี เธอก็จะคอยบันทึกลงในสมุดส่วนตัวของเธอเล่มนี้ และติดต่อกับอิศยาไม่ได้ขาด รับรู้ความเป็นไปของทางนั้นเป็นอย่างดี กระทั่งวันหนึ่งอิศยาได้มอบหมายงานสำคัญมาให้กับเธอ

‘ฉันกำลังอยากทำนิตยสารเกี่ยวกับอาหาร อุ่นเธอรับผิดชอบคอลัมน์อาหารต่างประเทศทีได้ไหม ส่งงานทางอีเมลล์ ฉันจะรับไว้เอง’

‘ทำอะไร คอลัมน์อาหารต่างประเทศ วิจารณ์อาหารดูจะเข้าท่ากว่า’

‘วิจารณ์อาหารเหรอ’ อิศยาตื่นเต้นยิ่งกว่าคนถูกสั่งให้ทำเสียอีก ‘ไอเดียยอดมาก โอเควิจารณ์อาหาร แนะนำร้านอาหาร ฉันยกให้เธอดูแล เธอจะได้ไม่ว่างงานนอกจากคิดเมนูมาให้ฉันทำอย่างเดียว’

งานหลักๆ ของนักเดินทางไกลเช่นพรพิรุณ ก็ยังเกี่ยวพันกับของกิน และการคิดเมนูขนมหวานใหม่ๆ ไปเสนอให้อิศยาได้ทำเข้าร้าน ตั้งแต่มาอยู่ต่างประเทศนับจากวันนั้นที่ตกปากรับคำอิศยาไปก็ผ่านมาสามปีแล้ว

ไม่ได้กลับบ้านมาสามปีครึ่ง...ชีวิตวันนี้ของเธอต่างจากก่อนมาโดยสิ้นเชิง คอลัมน์วิจารณ์อาหารในนิตยสารของสวีทเมจิกที่เธอดูแลทั้งภาษาไทยและต่างประเทศดังในเวลาไม่นาน ความดังของมันทำให้การขยับตัวของเธอลำบากขึ้น เรื่องเมื่อสามวันก่อนกับไอ้ผู้ชายโรคจิตนั่น แค่นึกขึ้นมาก็รู้สึกขยะแขยง

พรพิรุณเก็บสมุดบันทึกไว้ที่เก็บนิตยสารด้านหลังเก้าอี้ตัวหน้า เมื่อสัญญาณเตือนว่าเครื่องกำลังจะขึ้น สวมเข็มขัดเข้าเอว ที่นั่งด้านข้างเพิ่งจะมีคนมานั่ง หญิงสาวไม่ได้สนใจ ไม่อยากทำความรู้จักกับคนแปลกหน้าที่ไหนทั้งนั้น ถึงมันจะดูไร้มารยาทไปบ้าง...แต่เธอเป็นคนแบบนี้ ไม่เคยแยแสใคร

เปลือกตาบางปิดตา ไม่ค่อยชอบความรู้สึกเวลาเครื่องเริ่มบินขึ้นท้องฟ้าเท่าไหร่ ท้องจะรู้สึกเบาโหวง หูจะอื้ออึง นั่งมาเป็นร้อยรอบได้ ไม่ยักจะชินเสียที

สัญญาณปลอดภัย พรพิรุณถึงลืมตาขึ้น จัดการปลดเข็มขัดออก ตั้งใจจะเริ่มเขียนงานต่อ แต่สมุดบันทึกส่วนตัวของเธอกลับไม่อยู่

มันหายไป

“หานี่อยู่หรือเปล่า”

เสียงห้าวกวนดังชิดริมหู พรพิรุณนิ่งงัน ไม่กล้าหันหน้าไป รู้แน่ว่าระยะอันตรายจะทำให้เกิดสัมผัสอันน่าขยะแขยง เลือกกระเถิบตัวชิดเบาะที่นั่งอีกด้าน ถึงสะบัดหน้ามามองคนขี้ขโมย ดวงตามีรอยโกรธที่ซุกซ่อนรอระเบิด

“เอาคืนมา”

“เขียนอะไรน้า” ภีมแกล้งลากเสียง ยิ้มมุมปาก สะใจที่จับคนดุได้แบบคาหนังคาเขา “จริงไหม...วรรษ”

“จุ้น เอามา” เอื้อมมือ ช่วงชิงของสำคัญคืน แต่อีกฝ่ายกลับใช้อีกมือจับยืดออกสุดแขนให้พ้นรัศมีของพรพิรุณ หัวเราะให้กับท่าทางเก้กัง เหมือนอยากได้ของคืนมาก แต่ไม่ยอมเอาผิวกายมาเฉียดกายเขา

ราวกับรังเกียจนักหนา...เห็นแล้วภีมเริ่มหมั่นไส้ จัดการเอาบันทึกวางไว้แล้วเอาหลังแนบทับ ทีนี้คนอยากได้จะไม่โดนตัวเขายังไง

“เป็นโรคจิตจริงๆ ใช่ไหม มานั่งชั้นบิวซิเนสได้นี่ขอเขามาหรือเปล่าฮะ” คนหมดหนทางเริ่มใช้วาจาถากถาง เลิกพยายามเอาสมุดคืน ยังไงเขาก็รู้ความจริงของเธออยู่แล้ว

“จุ๊ๆ ปากร้ายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เวลาไม่ทำให้นิสัยเปลี่ยนเลยสินะ...วรรษ” ภีมสนุกกับการได้ยั่วประสาทของพรพิรุณ เห็นกำหมัดแน่น กัดฟันกรอด ไม่ยอมตีโพยตีพาย เป็นวิธีโกรธที่น่าสนใจดี

“ฉันไม่รู้จักคุณ”

“แต่ผมรู้จักคุณ รู้จักดีมาก...คุณอุ่น”

ชื่อเล่นจริงถูกเรียกออกมา พรพิรุณเกร็งมือ ระงับหัวใจที่คล้ายกับตกวูบไปที่ตาตุ่ม ในชีวิตนี้คนที่รู้ว่าเธอคือวรรษ มีแค่อิศยาเพียงคนเดียว ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเพียงนิด แต่สติส่วนลึกบอกให้เธอห้ามแตกตื่นต่อหน้าชายคนนี้เด็ดขาด หากเธอกลัว หมอนี่จะยิ่งต้อนให้จนมุม

“แต่ฉันไม่รู้จักคุณ...นี่” หญิงสาวเริ่มโวยบ้าง สองแก้มถูกมือของภีมจับไว้มั่น พาหน้าตัวเองมาอยู่ใกล้ จนลมหายใจอุ่น เป่ารด

“มองให้ดีๆ แน่ใจว่าไม่เคยพบหน้าหล่อๆ ของผม...อ๊ะๆ ถ้าทำอะไรรุนแรงจับปล้ำมันกลางอากาศนี่แหละ อย่าคิดว่าไม่กล้า”

พรพิรุณเบะปาก ผะอืดผะอมกับคำพูดน่าอาเจียนของภีม ผู้ชายอะไร ความคิดน่ารังเกียจ ขี้เกียจจ้องหน้าเลยหลับตาซะ ความคิดหนึ่งบอกให้เธอแหกปากร้องขอความช่วยเหลือ...เธอควรจะทำ

“คิดว่าผมจะจับคุณจูบหรือไง หลับตาพริ้มเชียว” คราวนี้คนพูดชิดปลายจมูก กะยั่วคนนิ่งเป็นหินให้รู้สึกตัว “หน้าตาบ้านๆ จมูกก็ไม่โด่ง ปากก็ไม่สวย ขนตาสั้นเชียว น่าดึงดูดใจคนตรงไหนบอกผมหน่อย”

คนโดนวิจารณ์ลืมดวงตากลมดำขลับปะทะกับคนที่กำลังแหย่ขนตาสั้นเล่น ความแข็งกร้าวไม่ยอมคนฉายชัดว่านาทีนี้ พรพิรุณหมดความอดทนกับคนวิจารณ์เธอแล้ว ใช้มือจับนิ้วยาวข้างหนึ่งที่บังอาจสัมผัสผิวกายเธอยิ้มเหี้ยมเมื่อในนาทีต่อมาเสียงเป๊าะดังลั่น และเสียงร้องหมดสภาพคนหล่ออีกครั้ง

“หล่อนักเหรอ ต่อให้หล่อฉันก็ไม่แล มองตาตุ่มด้านๆ ยังเจริญสายตากว่า แล้วคุณก็เป็นสุภาพบุรุษนักนี่ บอกจะจับผู้หญิงปล้ำ ไอ้ตุ๊ด” ตั้งท่าจะลุกหนี คนสีหน้ายังเจ็บปวดไม่หาย ไหนจะยังมีนิ้วหักกลางอากาศ มือข้างนั้นยังสั่น และรู้สึกร้าวกระดูกแค่ขยับนิ้ว

“คุณยังไปไหนไม่ได้”

“อะไรอีก อยากให้ฉันจับหักคอหรือไง” สีหน้าสาแก่ใจกับผลงานตัวเองมากกว่ามานั่งนึกสงสาร

ภีมสะกดกลั้นความเจ็บจนฟันกระทบกัน ใช้มาตรการข้อสุดท้ายบีบบังคับพรพิรุณ “ถ้าอยากให้คนทั้งโลกรู้ว่าวรรษเป็นใคร ก็ลองเดินออกไป หรือจะนั่งลงแล้วดามนิ้วให้ผม เลือกเอา”

“ฉันขอสมุดฉันคืน”

ทีนี้คนเจ็บยอมส่งคืนให้ง่ายๆ พรพิรุณหายใจออกแรง ระบายความอึดอัด เดินออกไปจากความน่ารำคาญของคนๆ หนึ่ง เพื่อเจอความน่ารำคาญยิ่งกว่าจากคนอีกมากมายประเภท

สุดท้ายพรพิรุณจึงยอมเดินออกไปจากที่นั่ง

“คุณเลือกแล้วสินะ”

“ฉันจะไปถามแอร์ถึงอุปกรณ์ปฐมพยาบาลไง จะให้แอร์สาวๆ มาดามนิ้วให้เลย ดีไหม”

“ไม่ดี”

“ไม่ดียังไง” คนที่ยอมลงให้เพื่อความสงบในชีวิตสวนกลับ เริ่มรำคาญเต็มที

“พวกแอร์สวยไป ผมกลัวว่าความใกล้ชิดจะทำให้ผมอดใจไม่อยู่ คนขี้เหร่ๆ แบบคุณนี่แหละ ต้องทำให้ อยู่ใกล้แล้วความรู้สึกผมตายด้านดี”

พรพิรุณจงใจเดินเตะขาคนปากดีไปทีหนึ่ง พูดลอดไรฟันตอนเดินผ่าน

“หน้าตลาดๆ แบบนี้ แค่หางตายังไม่อยากจะแล อย่าคิดว่ารู้สึกได้คนเดียวสิ”


ชายหนุ่มที่ดำรงตำแหน่งใหญ่ในดีเอสคอนสตรัคชั่น บริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ยิ้มแก้มปริ กับเรื่องน่ายินดี “องศาแน่ใจนะ ว่าภีมเจอตัวคุณอุ่นแล้ว”

“แน่สิคะ พี่ภีมอยากได้ที่ตรงสีลมของเราจนตัวสั่นไปสร้างคอนโด มีหรือจะพลาดทำเลทองในราคาถูก แค่ตามตัวพรพิรุณกลับมาวิจารณ์อาหารให้ดีเอสเรสเตอรอง พี่ภีมก็ยอมหมดทุกอย่าง”

เสียงพูดคุยของญาติผู้พี่ผู้น้องในห้องทำงานหยุดเท้าคนจากหน้าห้องให้ต้องเงี่ยหูฟัง อิศยายกมือขวางพล อดีตผู้ชายที่เคยตามจีบ ตามดูแลเธอแต่เด็ก กลายมาเป็นสามีสุดที่รักขององศา และดำรงตำแหน่งเป็นผู้ดูแลดีเอสเรสเตอรองแบบเต็มตัว เหมือนที่เธอควบคุมดีเอสแกรนด์เบเกอร์รี่

“เป็นไง แผนพี่ใช้ได้เลยเห็นไหม บอกแล้วให้ยืมมือเจ้าภีม” ปัณณ์กล่าวกลั้นหัวเราะ ไอความสุขลอยกรุ่น “จะได้แต่งงานสักที”

“เหตุผลที่ย่าไม่ยอมแต่งงาน หมั้นมาสามปีกว่า เพราะพรพิรุณเหรอคะ” คนแต่งงานมาได้ปีกว่า กลายเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งถามย้อน สีหน้าประหลาดใจ

“เอาน่า ตอนนี้พวกเราก็ได้แต่ฝากความหวังไว้ที่เจ้าภีม” สองศรีพี่น้องร่วมมือกัน รอยยิ้มร้าย นิสัยเจ้าเล่ห์มาแบบนันสต็อป

ตรงข้ามกับอีกสองคนด้านนอก ซึ่งไม่มีทางหักหลังพรพิรุณเป็นแน่ โดยเฉพาะอิศยา พรพิรุณกลายมาเป็นเพื่อนรักของเธอด้วยแล้ว เหตุผลที่ยังไม่แต่งงานจริงๆ เพราะสวีทเมจิกเพิ่งสร้างเสร็จ ยังมีอะไรหลายๆ อย่างต้องทำ งานล้นมือ แต่ใครอีกคนกลับคิดแต่เรื่องแต่งงาน ที่สำคัญยังยืมมือคนอื่นมาใช้เป็นเครื่องมือ โดยที่ตัวเองแค่ออกความคิด

อิศยากระตุกมือพลผู้ซึ่งเป็นพี่ชายที่รับฟังความคิดในครั้งนี้ได้ดี “ย่าจำได้แล้วว่าพี่ภีมมาถามหาวรรษจากย่า ย่าเองไม่ได้คิดอะไรก็บอกไป ที่ไหนได้ คนอะไรเจ้าเล่ห์กันเป็นทอดๆ พี่พลล่ะอยู่ข้างใคร ภรรยา หรือน้องสาว”

หนุ่มตี๋หัวเราะจืดชืด ตัวเลือกนี้ค่อนข้างยาก แต่สายตาคาดคั้นกดดัน ที่สำคัญพรพิรุณเองก็เหมือนน้องสาวเขาอีกคนด้วยแล้ว “พี่ต้องช่วยอุ่นสิ”

“ดีค่ะ...เล่นแผนกันเป็นทอดๆ คิดว่าตัวเองมีคนของตัวเองหรือไง ย่าเองก็มี” ไม่รู้ว่าการอยู่กับดีเอสมาเนิ่นนานจะทำให้อิศยาซึมซับความร้ายกาจของคนที่นี่เข้ามาโดยไม่รู้ตัวด้วยหรือเปล่า แต่เครื่องมือสื่อสารถูกกดหาใครอีกคนทันที

“ปูน นายว่างไหม อย่าเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น ถ้างานนี้นายช่วยเราสำเร็จ เราจะให้พี่ปั้นโหมงานแทนนายสามปี สนใจไหม”

คำตอบจากปุณณ์เป็นที่น่าพอใจ มุมปากของอิศยายิ้มเหี้ยม สายตาวาวใส่เบื้องหลังของที่รักให้รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ บ้าง

อุ่นอยู่สงบๆ มาตั้งหลายปี จะโดนใครหน้าไหนมาป่วนชีวิต เห็นทีเธอต้องออกโรงขวางเสียแล้ว

แต่เธอจะเล่นไปตามเกม งานนี้จะมีแค่พรพิรุณที่จะไม่ต้องมารับรู้เรื่องราวน่าปวดหัวเบื้องหลังเหล่านี้

พลมองอิศยาแล้วชักหวาดๆ รังสีอำมหิตฉายชัด น่ากลัวว่าคนรับเคราะห์เพิ่มเห็นทีจะมีอีกคน ญาติผู้พี่ของภรรยาเขาสินะ...งานนี้เรื่องของคนในครอบครัว จัดการกันเอาเองเถอะ อยู่เป็นคนกลางสงบปากสงบคำ น่าจะปลอดภัยต่อชีวิตที่สุด


หลับไปได้หน่อย พรพิรุณก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอมันหนักๆ จนต้องตื่น เกือบซัดหมัดปล่อยออกไป ดีที่ว่าสำนึก ปลอบใจว่าคนมันหลับ ศีรษะเลยหนักพิงเบาะตัวเองไม่ได้ เขยิบตัวออก จนคนหลับศีรษะกระแทกกับที่วางแขนเสียงดัง คนเจ็บตัวตื่นเต็มตา น้ำตาเล็ด หันหน้ามองคาดโทษคนเอนตัวไปชิดเบาะอีกด้านหลับตาพริ้ม

นิ้วมือขยับไปได้ไม่มาก ความเจ็บก็แล่นผ่านเส้นประสาทให้ตื่นตัว กว่าจะข่มตาหลับได้ยากเย็นแค่ไหนพรพิรุณจะรู้บ้างไหม พิงนิดพิงหน่อยทำรังเกียจ

ผู้หญิงอะไรใจร้ายชะมัด

“นี่...ด่าฉันอยู่หรือไง” คนหลับลืมตาขึ้นมามอง “อย่ารบกวนคนจะนอน ด่าอะไรไปก็ด่าแค่ในใจนะ ขี้เกียจเถียง ไม่ใช่เวลา”

ภีมแยกเขี้ยว แต่แค่ยกมือ นิ้วก็เริ่มหาทางขัดขวางการรบทางปากของเขา สีหน้าเหยเก

ถ้าเขาไมได้หลับ คนข้างๆ ก็ควรรับผิดชอบ หน้าผากยังรู้สึกเจ็บไม่หาย...พบพรพิรุณสองครั้ง เพื่อพิสูจน์ความทนทานของร่างกายเขาใช่ไหม ภีมนึกอย่างหัวเสีย

“นี่คุณ”

“...”

“คุยกับผมหน่อย นอนไม่หลับ”

“หลับตานับแกะไป” บอกปัดมาอย่างรำคาญ

คนรับฟังวิธีทำให้นอนหลับเหมือนเด็กน้อยปั้นหน้ายักษ์ ไม่อยากคุย เขานี่แหละจะคุยเอง คุยตอบกับเก้าอี้ด้านหน้าก็ช่างปะไร

“เลิกทำขนมแล้วเหรอคุณ เดินทางวิจารณ์อาหาร คงไม่มีเวลาเปิดร้าน”

“รู้จักฉันขนาดนั้นเชียว” คนตั้งใจจะหลับยอมลืมตา หันหน้ามองสำรวจผู้ชายด้วยความสงสัย เครื่องบินทั้งลำตกอยู่ในความเงียบเพราะเป็นเวลาให้ผู้โดยสารได้พักผ่อน “สืบจนละเอียดแล้วสินะ มาจากร้านไหนล่ะ”

“ความจำสั้นจริงนะคุณน่ะ คุณเชฟใหญ่ เคยมีใครเรียกคุณแบบนี้ไหม”

พรพิรุณพยายามทบทวนความทรงจำ แต่ไม่เคยรู้สึกจำได้เลย นอกจากช่วงเวลาที่เคยโกหกว่าตนเองเป็นเชฟใหญ่ในดีเอสแกรนด์เบเกอร์รี่

เชฟใหญ่ในดีเอสแกรนด์เบเกอร์รี่...หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน นึกย้อนไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่มาฉุกคิดได้ว่าเธอไม่ควรนึกออก ผู้ชายที่นั่งข้างๆ ไม่สมควรจะรู้จักกันสักนิด

ดวงตาที่มองจ้องมาราวกับรอคอย ถูกเมินเฉยไม่สนใจ “เปลืองสมอง ฉันคงทิ้งเวลาช่วงนั้นไว้ก่อนจะออกเดินทางแล้วล่ะ ไม่มีอะไรพิเศษ สำคัญ หรือน่าจดจำ โดยเฉพาะถ้ามีคนแบบคุณอยู่ในนั้น ลืมๆ ไปน่ะดีแล้ว”

นับตั้งแต่ภีมเปลี่ยนแปลงตัวเอง กลายเป็นภีมคนใหม่ที่ไม่เคยอดทน หรือสนใจคนที่วิ่งไล่ตาม ผู้หญิงที่เคยดูถูกไว้โดนเขาจัดการหักอกมาแล้วนับไม่ถ้วน หลอกให้รัก แล้วก็ทำให้เจ็บ อะไรที่ได้มายากๆ สำหรับเขามันท้าทายเสมอ

ประเภทที่ทำเหมือนไว้เชิง แต่จริงๆ กำลังสนใจเขาใช่ว่าไม่เคยเจอ แต่ไอ้ประเภทที่เคยรู้จักกันในอดีตแท้ๆ แต่ลืม ไม่สนใจรื้อฟื้น ไม่คิดเห็นเขาอยู่ในสายตาแบบนี้มันช่าง...น่าปราบ

ก็ดี ไว้เจ้าตัวจำได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เขาเองก็เริ่มสนุก กับการเป็นผู้ชายโรคจิตของเธอซะแล้ว

“เลิกจ้องฉันได้หรือยัง ถ้าปวดนิ้วก็ขอยาแก้ปวดจากแอร์ นอนซะ หน้าฉันไม่ใช่พาราเซตามอล จะได้รักษาอาการเจ็บได้” พูดออกมาทั้งที่หลับตาสนิท

“แล้วถ้าผมเผลอไปซบไหล่คุณอีกล่ะ”

“เออ ให้ฉันหลับก่อนละกัน ฉันก็ไม่รู้สึกแล้ว แต่ถ้ามายุ่งมากกว่าไหล่ฉัน ฉันจะหักคอนายจริงๆ” พรพิรุณขู่ฟ่อ ถือว่าเอื้อเฟื้อแก่คนโรคจิตมากแล้ว ดีที่เขาไม่เอาเรื่องเอาราว บอกใครต่อใครว่าซุ่มซ่ามเอามือไปเก็บของแล้วดันพื้นผิดจังหวะจนหัก ถึงเหตุผลจะฟังไม่ขึ้น แต่เจ้าทุกข์บอกมาแบบนั้นใครจะสาวความต่อได้

ภีมรอจนแม่สาวจอมพยศร้ายได้หลับสนิท จึงลองโบกมือไปมาตรงหน้าคนหลับ ไร้อาการแว้งกัด หรือขู่ฟ่อ ศีรษะที่เอียงน้อยของพรพิรุณจึงถูกดันอย่างเบามือมาซบลงบนไหล่หนา ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม อยากรู้นักตอนตื่นขึ้นมาแม่เจ้าประคุณจะของลงหนักแค่ไหน คลุมผ้าห่มที่ร่วงไปกองบนตักมาคลุมถึงไหล่พรพิรุณ ถึงใช้งานมือได้แบบเก้กัง และเจ็บแค่ไหนก็อดกลั้นที่จะไม่ร้องครวญ

จากนั้นภีมจึงมีเวลาพัก จมูกได้กลิ่นแชมพูหอมจากเส้นผมนุ่ม คล้ายเป็นยาดี เพราะในเวลาต่อมา ความง่วงก็ค่อยๆ คืบคลาน และพาคนสองคนเข้าสู่นิทรา ไร้ซึ่งการโต้เถียง แต่แฝงความอบอุ่นอย่างบางเบา

....................................................................
พาหนูย่ากับพี่ปั้นมาชะแวบเล็กน้อย และความเป็นไปขององศาและพล อิอิ รีไรท์บทสองเรื่องโน้นเสร็จตั้งแต่บ่าย อารมณ์อยากเขียนตอนต่ออันนี้มาตอนห้าทุ่มโน่นค่ะ >_< ดีใจที่ยังรักกันเหมือนเดิม
คุณ ปรางขวัญ ว้าววว ดีใจที่มีคนชอบอุ่นเพิ่มมาอีกคนนะคะ รักผู้หญิงดุคนนี้ให้มากๆ นะคะ
คุณ OhLaLa อารมณ์เรื่องนี้อยากให้เป็นรสแบบชอกโกแลตเข้มๆ ค่ะ แต่รับรองว่าหวานล้ำ แต่ไม่ใช่หวานนำแบบหนูย่านะ ดราม่าไหม ต้องรอต่อ
คุณ wind ตอนนี้เหมือนอุ่นจะดุกว่าตอนที่แล้ว เป็นบุคลิกของอุ่นเขามาแต่ไหนแต่ไร เลยปรับให้หวานไม่ได้จริงๆ ค่ะ แอบชอบนางเอกบุคลิกแบบนี้
คุณ sai ยินดีต้อนรับสู่บ้านรสหวานค่า ดีใจที่ชื่นชอบนะคะ อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ ^_^
คุณ arisleo ไม่รู้ว่าตอนนี้จะถูกใจไหมนะคะ ภีมนิสัยก็นะ ฮ่าๆๆ จากเรื่องที่แล้วอาจไม่เห็นนิสัยภีมในมุมนี้
คุณ ร้อยวจี ดีใจจังที่รอคอย ส่งมาให้ต่อแล้วค่ะ จะส่งเจ้าปูนมาทำอะไรน้า อิอิ
คุณ icewinter เป็นคู่ที่เจ็บตัว และไม่มีใครยอมใครมากค่ะ เขียนเองสิงร่างภีมกับอุ่นไปมา ฮา
คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ รู้ว่ามีคนรอ นิ้วก็เลยพิมพ์เรื่องนี้ทันทีค่ะ เป็นตระกูลรสหวานของแท้ รับประกันด้วยปวราค่ะ ^_^
จะมีจิกหมอนเหมือนเรื่องที่แล้วไหม อันนี้ก็ยังไม่รู้ ฮา เรื่องเพิ่งเริ่ม แต่หนูย่าคงวางแผนดัดหลังแผนการทางพี่ปั้นแน่นอน ส่วนอุ่น เดี๋ยวตื่นมารู้เลย ฮา ขอบคุณทุกคนที่ยังรออุ่นภีมนะคะ อบอุ่นจริงๆ ^_^





ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ต.ค. 2556, 02:52:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ต.ค. 2556, 04:30:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1833





<< คนโรคจิต (Rewrite)   รู้เขารู้เรา >>
ร้อยวจี 13 ต.ค. 2556, 06:49:45 น.
คิดๆแล้วอยากอ่านต่อแล้วค่ะ อยากรู้ว่าหนูย่าให้เจ้าปูนทำอะไร ชักสนุกใหญ่แล้ว รอค่ะ


ปรางขวัญ 13 ต.ค. 2556, 07:16:45 น.
อุ่นดูดุ แต่จริงๆใจดี เริ่มชอบตั้งแต่ตอนเรื่องนู้นที่ติดในห้องน้ำกับหนูย่าแล้วค่ะ จะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ


icewinter 13 ต.ค. 2556, 08:46:36 น.
รอต่อนะคะ คกลงอุ่นจำไม่ได้หรือคงไม่อยากจำเรื่องราวสามปีแล้ว รอค่ะ สนุกๆค่ะ


ใบบัวน่ารัก 13 ต.ค. 2556, 10:38:32 น.
แหมมมมมคนใกล้ตัวหายากแท้ๆๆ
เอาโหดมันจูบนะค้า


OhLaLa 13 ต.ค. 2556, 10:59:34 น.
ภีมคงเสียเซลฟ์สาวเจ้าจำไม่ได้ น่าสงสารพี่ปั้นคงอยากจะแต่งงานกับย่า ขนาดคู่พี่พลกับองศามาแรงแซงโค้งมีลูกไปแล้วหนึ่ง รออ่านค่ะ ย่าจะให้ปูนทำอะไร


นักอ่านเหนียวหนึบ 13 ต.ค. 2556, 15:30:42 น.
หูยยยอ่านเรื่องนี้แล้วชอบอุ่น ไม่ชอบย่าแทน
หมูเค้าจะหาม นะหนูย่า ตะเองก้ออออ 555


sai 13 ต.ค. 2556, 21:25:15 น.
โดนอุ่นจัดหนักจัดเต็มมาก นายภีมมมม สะใจๆๆๆๆ


wane 15 ธ.ค. 2556, 01:02:48 น.
เครื่องบินชั้น business ที่นั่งมันจะไม่ติดกันขนาดไหล่ชนกันนะคะ สถานการณ์ที่นอนพิงไหล่กันนี่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้นะคะ ไรเตอร์ ...


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account