Sweet Taste รสหวาน...บันดาลรัก
คนหนึ่งคนออกตามหาผู้หญิงที่มีแต่ความลับเพื่อที่ราคาแพง

คนหนึ่งคนถูกเรียกมาให้ปกป้อง ไม่ให้แผนการขายที่สำเร็จ

คนหนึ่งคนยังสนุกกับการเดินทาง แต่ไม่รู้ทำไมชีวิตถึงเริ่มวุ่นวายเมื่อมาถึงปักกิ่ง สถานที่สุดท้ายที่จะมาก่อนเธอกลับไทย

คนหนึ่งคนเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ถูกเลี้ยงมาเป็นคนงานในบ้าน ทั้งที่เจ้าตัวรู้ว่าใครเป็นพ่อ แต่เพราะครอบครัวจะทำร้ายคนอื่น เธอจึงไม่อยากให้พ่อหย่อนขาไปในนรก

คนหนึ่งคนมีแต่ความแค้น ปลูกฝังในหัวไม่สิ้นสุด รู้แค่ว่าเกลียด และต้องทำลาย

คนห้าคนในวังวนใกล้กัน ผจญอันตราย และเรื่องราวสุดจะคาดเดา กลับมีความหวานก่อเกิดขึ้นทีละนิดในใจของแต่ละคน...มารู้ตัวอีกที ความรัก ก็เกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
Tags: Sweet รสหวาน ภีม พรพิรุณ ปุณณ์ แพรระพี

ตอน: จูนติด

พรพิรุณกำลังนั่งประจำที่นั่งข้างคนขับในรถที่ปุณณ์เช่ามารอไว้ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่เธอและภีมมาถึง ข้อพับแขนของเธอก็ถูกดึงรั้งไปก่อน ปุณณ์ไม่ทันรับรู้ว่ามีใครอีกคนเตรียมขึ้นรถคันนี้อีกคนแบบไม่ทันรับเชิญ

“นี่อุ่น ญาติห่างๆ ของเจ้าปูน เป็นทอม”

คนถูกหาว่าเป็นทอมนึกกัดฟันกรอด ยิ่งถูกภีมกระตุ้นด้วยการแอบเอามือไวมาโอบเอวเล็กของเธอ พรพิรุณรีบเดินขึ้นหน้า ขับไล่ความรู้สึกขนลุกกับสัมผัสน่าขยะแขยงจากคนเจ้าชู้ สำรวจใบหน้าสวยจัดที่ขนาดเธอเป็นหญิงยังรู้สึกมองตาค้าง

“ฉันแพรระพี เรียกฉันว่าอี๊ดก็ได้” ดวงตาแข็งๆ ติดจะเย่อหยิ่งไม่ได้ยิ้มหวานตามปากแดงๆ นั้นเลย มือที่ยื่นออกมาเตรียมทักทายตามสไตล์ตะวันตก

พรพิรุณรู้สึกว่าคนตรงหน้ากำลังเสแสร้ง ยกมือไหว้ปลกๆ แบบขอไปที “สวัสดีฮะ” รีบมุดลงรถไปนั่งที่นั่งข้างคนขับอย่างที่ตั้งใจ ไม่สนว่าจะทำให้ภีมเสียหน้าแค่ไหน

ต่อหน้าสาวสวยแบบนี้ เสียหน้าเยอะๆ สิดี

“ใครน่ะคุณอุ่น เฮ้อ เรียกคุณแล้วไม่ชิน ผมขอเรียกว่าอุ่นเฉยๆนะ ค่อยรู้สึกเหมือนเพื่อนกันหน่อย” ปุณณ์แทบไม่สนใจแขกที่มาใหม่นัก ถึงพรพิรุณจะไม่ทันตอบคำถามให้หายสงสัย คนสองคนที่เพิ่งเก็บกระเป๋ามาที่ท้ายรถก็เข้ามานั่งประจำที่นั่งด้านหลังเรียบร้อย

“สวัสดีค่ะคุณปูน”

“นี่มาเที่ยวหรือมาสังเกตการณ์ดีเอสล่ะครับคุณแพรระพี” ปุณณ์เก๊กหน้าขรึม ก่อนจะปล่อยหัวเราะ ทั้งที่ตั้งใจให้มุขของตัวเองเป็นมุขตลกฝืด ที่หวังผล “ผมล้อเล่นนะครับ อย่าคิดมาก”

ไม่วายมองกระจกส่องหลัง เห็นใบหน้าสวยจัดกำลังส่งสายตาวาววับไม่พอใจ

ท่าทางจะมาด้วยจุดประสงค์บางอย่าง...ต้องรายงานคนทางดีเอสสักหน่อย

“อุ่น ทำไมตอนแนะนำคุณอี๊ดให้รู้จักถึงทำอะไรเสียมารยาทแบบนั้น ไม่มีใครสั่งใครสอนหรือไง” ภีมตั้งท่าว่าย้อนหลังแบบจริงจัง พรพิรุณเม้มปากแน่น ไม่ตอบโต้ใดๆ

คิดเสียว่าเป็นเสียหมาเห่าสักตัว...

“ขอโทษคุณอี๊ดเดี๋ยวนี้ เสียชาติทอม ผู้หญิงสวยๆ อย่างกับนางฟ้ามาอยู่ตรงหน้า ทำตัวไร้มารยาท”

กึก...รถที่ขับเคลื่อนมายังไม่พ้นทางออกสนามบินหยุดข้างทาง ปุณณ์วางมือไว้บนพวงมาลัย เอี้ยวตัวมาสั่งการคนทั้งสอง “เห็นทีผมต้องเชิญพี่ภีมกับคุณอี๊ดไปสง่างามกันข้างล่างสองคนแล้วครับ”

“ปูน ฉันไม่ได้ว่านาย”

“แต่พี่กำลังดูถูกอุ่น ลงไปปกป้องกันสองคนข้างล่างเถอะครับ รถนี้ผมเช่ามา และผมอยากให้มีแค่ผมกับอุ่น”

ภีมมองสายตาท้าทายของน้องชายเพื่อนรักที่บอกว่าเอาจริง ตัดสินใจขนของท้ายรถลงมา รวมทั้งของแพรระพีที่มีอยู่หลายใบด้วยกันด้วย

“ไปก่อนนะครับ บ๊ายบาย” ลดกระจกข้างพรพิรุณมาส่งสีหน้าเย้ยหยันปนสะใจ พารถจากไปแบบไม่มีทางวนกลับมา

ท้ายรถทะเบียนจีนแล่นห่างออกไป ภีมเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเต็มประดา

“ทีนี้จะเอายังไงคะหมูภีม” เสียงหวานฉุดความคิดทั้งหลายทั้งมวลให้กลับมา หมูภีมที่เคยอ้วนและมีความทรงจำไม่ดีในอดีตยิ้มหวานส่งไป

“อยู่กับผมทั้งคนไม่มีอะไรที่คุณอี๊ดต้องเป็นห่วงหรอกครับ”

อยากมาเป็นหนูติดกับงานนี้ ได้มีสอยนางฟ้านางสวรรค์ให้ลงดินดูบ้าง...ติดกับหมูภีมอย่างเขาเนี่ยแหละ ส่วนเรื่องของพรพิรุณ หน้าคมเครียดขึ้น แต่เชื่อว่าต่อให้เป็นปุณณ์ก็ไม่มีทางมาชนะใจเจ้าหล่อนได้ ทั้งที่งานของเขายังไม่เสร็จ


หมวกไอวี่ถูกถอดออก ปล่อยผมลงเคลียร์หลัง สีหน้าไม่ได้รู้สึกรู้สามากนักกับคำเหม็นเน่าจากปากของภีม เจอกันไม่กี่ครั้ง เธอก็เจอมามากกว่านี้ เพียงแต่ครั้งนี้เธอถูกเอาไปเปรียบกับนางฟ้านางสวรรค์ของเขา

“สงสัยพี่ภีมจะผีเข้า”

ขับมาได้นานหลายนาที ปุณณ์ก็เริ่มบทสนทนาไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบเกินไป “อย่าโกรธพี่ภีมเลยนะครับ ที่จริงที่ผมทำแบบนั้นก็เพราะไม่ไว้ใจอีกคนต่างหาก” บอกชัดตามความรู้สึกจริง “อุ่นรู้จักผู้หญิงคนนั้นไหม”

“คุณอี๊ดน่ะเหรอคะ ไม่ค่ะ ฉันไม่ใช่พวกบ้าดารา”

“เขาไม่ใช่ดาราหรอก แต่เป็นคนจากธวัชเดชา ตระกูลนี้เขาชอบมาสร้างความรำคาญให้ทางดีเอสได้ตามล้างตามเช็ดอยู่บ้าง” ไหวไหล่ไม่ได้ใส่ใจ “แต่ที่ผมไล่ก็เพราะไม่ไว้ใจด้วยเรื่องอื่น เป็นเรื่องภายในของดีเอสน่ะครับ”

ภารกิจลับของอิศยา...ถ้ามีตัวแปรอื่นมาเพิ่ม เขาจำเป็นต้องกีดกันเป้าหมายออกไปชั่วคราว

ตามที่อิศยาสั่งไว้ ‘ถ้าอุ่นจะกลับมา ต้องให้เขากลับมาด้วยตัวเอง เกิดกลับมาด้วยแผนการบ้าบอของพี่ชายนาย อุ่นจะโกรธแค่ไหน จะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าตัวเองมีค่าเพื่อแลกกับที่ดินราคาแพงผืนหนึ่ง เพื่อนของเราไม่ใช่สิ่งของ และเราก็ไม่ไว้ใจพี่ภีม เราคิดว่าพี่ภีมต้องเข้าหาอุ่นแบบเสือมือไว นายต้องคอยระวังให้ที ได้ไหม ต้องรักษาความลับการมาของนายด้วย เราไม่อยากให้อุ่นไม่สบายใจจนหนีเตลิดไปไกล อีกไม่นานนี้อุ่นจะกลับมาแน่ อุ่นขอเวลาเราอีกไม่เกินครึ่งปี ช่วยเราทีนะปูน’

แล้วถ้าเขาอยากสนับสนุนเสือมือไวขึ้นมา คนห่วงเพื่อนจะบินมาลากคอเขากลับไปลงบ่อจระเข้หรือเปล่าล่ะ
“ยังโทรหาย่าอยู่ไหม”

เป็นคำถามที่พรพิรุณได้ยินถึงกับหัวเราะ “ต้องถามว่ามีวันไหนที่ฉันไม่คุยกับย่าดีกว่า ทางนั้นก็ห่วงฉันไปเรื่อย กลัวเหงา คอยก่อกวนฉันทุกวัน” สีหน้าเรียบเฉยในยามปกติดูผ่อนคลายมากขึ้น “อีกอย่างย่าก็ชอบเล่าเรื่องทางบ้านให้ฉันต้องคิดถึงบ่อยๆ ถึงตัวอยู่ไกล แต่ยังรู้ว่าทุกคนสบายดีก็ยังดีค่ะ”

“อุ่นเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนที่เจอเยอะเลยนะครับ” ปุณณ์ตั้งข้อสังเกต

“สมัยนั้นฉันเป็นยังไงคะ”

“ดูไม่มีชีวิตชีวาขนาดนี้...เอ่อ ขอโทษที่พูดอะไรตรงๆ นะครับ นี่ผมก็สุภาพกับอุ่นเยอะแล้วนะ กับคนอื่น ยกสมญานามผู้ชายปากหมาให้มาเลย”

“คุณปุณณ์...”

“เรียกผมแบบที่ย่าเรียกก็ได้นะ นายปูน เจ้าปูน โกรธๆ หน่อยก็อาจถึงขั้นไอ้ปูน เต็มที่เลยอุ่น ผมรับได้”

คนฟังหัวเราะเสียงใส ใบหน้ายามยิ้ม ดวงตาเป็นประกายดูหวานขึ้นทันตา “นายปูน เป็นตัวของตัวเองให้เต็มที่เลยนะ”

“จะรับได้เหรอ” เอียงศีรษะถาม สายตายังคงมองทาง รู้สึกเป๋ๆ ไปชั่วขณะกับสายตาคนหัวเราะ

“ถ้าไม่ได้ก็ด่ากลับเอง ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะติดใจอะไร”

ปุณณ์ยังไม่อยากโดนด่าในยามนี้ หัวเราะรับคำเปิดรับของพรพิรุณ เริ่มหาเรื่องมาพูดคุยกัน โดยที่ส่วนใหญ่พรพิรุณจะเป็นผู้รับฟัง มีบ้างที่จะหัวเราะให้กับมุขตลก และประสบการณ์ชวนขำ หรือไม่น่าเป็นไปได้ตลอดเวลาที่เขาใช้ชีวิตในทะเล

ปุณณ์เริ่มสัมผัสได้ว่าที่จริงพรพิรุณไม่ได้มีกำแพงหนาอย่างที่คิด และเข้าใจด้วยว่าทำไมอิศยาถึงได้เป็นห่วงลูกพี่ลูกน้องคนนี้นัก บางอารมณ์ที่เขาเว้นพักหายใจจากการเล่า สายตาของพรพิรุณก็คล้ายจะดูว่างเปล่า...จู่ๆ เขาก็รู้สึกอยากจะเพิ่มเสียงหัวเราะในชีวิตของพรพิรุณขึ้นมา

จะเข้าข่ายวัวพักหลัก เปลี่ยนจากแม่สื่อแม่ชัก เป็นพ่อสื่อพ่อชัก ติดกับวัวพันหลักเองหรือเปล่าล่ะงานนี้

นี่เขาเกิดมาเพื่อเป็นผู้ช่วยความรักของคนอื่น ไอ้ดวงความรักจริงๆ น่ะมีที่ไหน หันมองพรพิรุณที่เริ่มมองข้างทางด้วยสายตาของนักเดินทาง ใจคนมองก็เริ่มไม่แน่ใจ

ได้แต่ท่องเตือนให้ใจเข้มแข็ง ยึดมั่นในหน้าที่พ่อสื่อพ่อชักต่อไป...กับตอนอิศยาไม่เห็นรู้สึกเข้าข่ายวัวพันหลักแบบนี้ด้วยซ้ำ

“ปูนรู้ไหมทำไมคุณภีมถึงเกลียดขนมหวาน”

“อุ่นต้องไปถามเจ้าตัวเอง...มันเป็นความลับของพี่ภีม” ทั้งที่ตนไม่ใช่มนุษย์เก็บความลับใคร ออกจะปากสว่าง แต่สำนึกในหน้าที่ที่อยากเห็นเพื่อนพี่ได้หยุดที่ใครสักคนจริงๆ ทำให้เขาเลือกตอบออกไปแบบนั้น ถึงจะเห็นแก่ตัวเพื่อตัวเองก็ได้

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เห็นจะอยากรู้ ตอนนี้อยากรู้ว่าเขาจะใส่เฝือกที่นิ้วเรียบร้อยหรือยังมากกว่า”

“จริงด้วย พี่ภีมต้องไปโรงพยาบาลนี่ ผมก็ลืมไปเลย”

พรพิรุณยิ้มพราย ดวงตาไม่มีแววห่วงใยสักนิด “มีสาวสวยคอยช่วยแบบนั้น คงสำออยได้เต็มที่แหละค่ะ”

ปุณณ์อ้าปากกว้าง รู้สึกมีไอโกรธจางๆ อยู่ในห้องแคบของรถนี้

ใครทำให้พรพิรุณโกรธ คงได้มีการแช่งชักหักกระดูกกันต่อ หักกระดูกจริงๆ ซะด้วย ปุณณ์ได้แต่ภาวนาให้ภีมไม่ต้องออเซาะ สำออยใส่แม่สาวงามนามว่าแพรระพีจนออกนอกหน้า ไม่อย่างนั้น ถ้าเขาพิสูจน์ว่าเชียร์คนคู่นี้ไม่ขึ้นล่ะก็ ให้เป็นวัวพันหลัก ก็ยอม

อย่าหาว่าไอ้ปูนไม่เตือน...


รถแท็กซี่จอดลงหน้าโรงแรมของดีเอสในกลางเมืองปักกิ่ง ตึกสูงหลายชั้นออกด้วยรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร เงินหยวนถูกจ่ายให้คนขับแบบไม่ต้องทอน กระเป๋าสัมภาระถูกวางรอก่อนที่พนักงานของโรงแรมจะรีบปรี่มาดูแล

“ดีเอสนี่ยิ่งใหญ่จริงๆ เลยนะคะ” แพรระพียิ้มพอเป็นพิธี แต่ไม่ได้ชื่นชมผ่านดวงตา

“ธวัชเดชาเองก็ยิ่งใหญ่นี่ครับ ว่าแต่อยู่ได้ใช่ไหมครับ” ถามอย่างเป็นห่วง

“เป็นเกียรติที่ได้มาพักนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันเลย”

ภีมเดินนำไปเพื่อเช็คอินห้องพักสองห้อง เสียงหัวเราะของคนสองคนเดินมาเข้าหู ชายหนุ่มหันมองตาม และรีบหันกลับมาไม่ให้แพรระพีเป็นที่สังเกต

ทีกับเขาพรพิรุณไม่เคยจะหัวเราะอารมณ์ดีแบบนี้ด้วยซ้ำ

“หมูภีม”

“ครับ”

ภีมเดินตามร่างสวยสง่าขึ้นไป แต่ความคิดต่างหากที่มัวแต่ครุ่นคิดถึงเจ้าของเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มบนหน้านั่น ถึงจะจงใจแต่งตัวแบบวรรษ ก็ใช่ว่าเขาจะจำไม่ได้ นี่ก็คงเตรียมตะลอนๆ กับเจ้าปูน

“ฝากด้วยนะครับ คุณอี๊ดเดี๋ยวเจอกันเย็นๆ นะครับ ผมมีธุระด่วน”

คนที่ยืนในลิฟต์กดปุ่มเปิดไว้ได้ทันในช่วงเวลาที่กำลังจะปิด เดินเร็วออกไปโดยไม่สนใจว่าจะทำให้ใครอีกคนฉงนมากแค่ไหน แพรระพียิ้มเย็น ไม่ได้หวั่นเกรงกับท่าทางแปลกๆ ของภีมนัก เธอเองก็มีหน้าที่ของเธอ ผู้ชายที่เคยชอบเธอในอดีต มีหรือที่จะไม่ชอบ

วันนี้เธอก็แค่พักผ่อนให้เต็มที่ เตรียมตัวมาสู้กับเขาใหม่


พรพิรุณหยอดแบงค์หนึ่งหยวนใส่ไปในที่เก็บเงิน ตรงข้ามกับคนจีนส่วนใหญ่ที่มีบัตรติ๊กเดินกันขึ้นง่ายๆ คล้ายบัตรรถไฟฟ้าบ้านเรา

“ค่ารถประจำทางที่นี่ถูกนะครับ ตลอดสายแค่ห้าบาท” ปุณณ์กล่าวอย่างนึกชื่นชม หนึ่งหยวน ก็ประมาณห้าบาทไทย ถือว่าการโดยสารของคนที่นี่เขาเน้นให้คนทุกคนสามารถใช้ได้จริง แม้ว่าปักกิ่งจะเป็นเมืองเจริญ รถบนท้องถนนจะหรูและแพง ทั้งออดี้ สปอร์ตเบนซ์ แต่คนที่นี่ก็ยังเน้นความเป็นอยู่แบบแย่งกินอยู่ แย่งกันใช้ด้วยจำนวนประชากรที่มาก

บนถนนอันวุ่นวาย ริมถนนจะถูกแบ่งเป็นเลนส์เล็กสำหรับรถเล็กและคนเดิน รถจักรยานไฟฟ้าเป็นยานพาหนะที่คนจีนนิยมใช้กัน มากกว่ามอเตอร์ไซค์ใช้น้ำมันแบบประเทศไทย

“ขึ้นรถไฟใต้ดินตลอดสายแค่สองหยวนเองนะคะ”

“จริงเหรอ ขากลับพาผมนั่งหน่อยสิ” ปุณณ์ไม่ทันร้องประหลาดใจ คนหน้าหล่อกับกลิ่นโคโลญอ่อนก็ยืนชิดพรพิรุณเสียแล้ว ทั้งสองไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าภีมขึ้นมาตอนไหน “นี่จะไปไหนกัน เสียมารยาทนะไม่มีชวนกันเลย”

“ไม่ได้มีมารยาทแบบคุณภีมนี่คะ ถึงได้มาแทรกบทสนทนาคนอื่น” พรพิรุณเดินหนีภีมไปนั่งลงข้างคุณยายสูงวัย ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งข้างกันที่เบาะหลัง

ปุณณ์ลอบมองอาการคนสองคนเงียบๆ อยากรู้ว่าศึกครั้งนี้ใครกันที่จะชนะ หรือจะเป็นตนเองที่พลาดพลั้งโดนดาบตัวเองแทงตาย เขาเองก็ไม่รู้

“คุณอี๊ดไม่มาด้วยเหรอครับ หรือหนีเขามา”

“ฉันกับเขาไม่ได้ตัวติดกัน” ภีมตอบชัดถ้อยชัดคำ “นายเองเถอะสนิทกับเขาไวดีนี่”

“เราจูนกันติดไวมั้งครับพี่ภีม” ปุณณ์ยักคิ้วเป็นต่อ รู้สึกขมับคนถามกึ่งประชดจะเต้นตุบ ลดเสียงเบาลงให้ภีมได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “โกรธเหรอครับที่แต้มของพี่ยังติดลบอยู่”

“ฉันไม่แพ้แน่ เกมเพิ่งเริ่ม”

............................................................
คุณ sai พอมาอ่านชื่ออี๊ด ก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ฮา เอาเป็นว่า ขอใช้เป็นชื่อชั่วคราวไปก่อนนะคะ
คุณ ใบบัวน่ารัก ถ้ามัวแต่ไปจัดการกับอี๊ด จะไม่ทันการเจ้าปูนนะคะ ฮา
คุณ OhLaLa แค่เรื่องนี้ก็ดูสงสารปูนแล้ว เอ๊ะ เรื่องที่แล้วปากเสีย เรื่องนี้ดูหล่อกว่าเรื่องที่แล้วเยอะค่ะ
คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ คู่ใหม่เหรอ ปูนอุ่นหรือเปล่าเอ่ย ฮา ภีมจะสู้ไหวไหมงานนี้ เจอศึกสองด้าน
คุณ ร้อยวจี นายภีมคงไม่อยู่เฉยค่ะ รอดูว่าเจ้าปูนจะทำไงต่อไปด้วย
คุณ icewinter รอดูตอนต่อๆ ไปเนอะ แพรระพีสำคัญแน่นอน
ขอบคุณที่มาเมนท์ ไลค์ อ่านกันนะคะ ไม่รู้ว่าปุณณ์แบบนี้จะไปขัดใจใครไหม ฮา








ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ต.ค. 2556, 14:30:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ต.ค. 2556, 14:30:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 1670





<< รู้เขารู้เรา   พ่อสื่อ >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 15 ต.ค. 2556, 16:10:27 น.
คู่ปูน-อุ่น ยังดูเกรงๆ กันอยู่ เลย
ไม่เอาอะ ไม่มันส์ เอาอุ่น-ภีมเหมือนเดิมดีแล้วว 555


sai 15 ต.ค. 2556, 16:45:30 น.
ปูนจ้า ไม่ต้องกลัวหรอกถ้ากลายเป็นวัวพันหลัก เด๋วเค้าไปตัดเชือกให้555 แอบชอบหนุ่มปูนแหะดูโตขึ้นตามอายุอ่ะ


ร้อยวจี 15 ต.ค. 2556, 18:56:01 น.
สะใจปูนมากค่ะ ได้ใจมากเลย ภีมต้องโดนแบบนี้บ้างกวนอุ่นดีนัก สนุกอีกแล้วค่ะ


OhLaLa 15 ต.ค. 2556, 19:52:01 น.
กดไลค์ให้ปูน ที่ไล่ภีมลงรถ ชอบจิกกัดอุ่นอยู่เรื่อย


ariesleo 15 ต.ค. 2556, 23:37:39 น.
หมั่นใส้หมูภีม


icewinter 16 ต.ค. 2556, 00:05:39 น.
ภีมเล่นตัวนะ เด่วเชียรปูนซะหรอก อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account